ถามเรื่องคุณสมบัติพุทธภูมิ

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย thanatos123, 22 มกราคม 2013.

  1. thanatos123

    thanatos123 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +13
    ตามนั้นครับ ได้ยินมาว่าคุณสมบัติที่ีสำคัญที่สุดของผู้ที่จะเป็นพุทธภูมิได้
    คือต้องมีใจเสียสละอย่างใหญ่ แม้ชีวิตก็ยอมเอาลงไปเสี่ยงเพื่อผู้อื่นได้
    เช่นเห็นคนโดนน้ำป่าพัดมา คนที่ไม่มีใจเสียสละ ก็อาจนั่งดูเฉยๆ
    ปล่อยให้เขาตาย เพราะขึ้เกียจบ้าง เพราะกลัวบ้าง แต่บุคคลที่เป็นพุทธ
    ภูมิแท้จะกระโดดลงไปช่วยคนในน้ำอย่างไม่ลังเล ตัวตายไม่ว่า ขอให้ช่วยผู้อื่นให้รอดได้ก็แล้วกัน ความเข้าใจของผมถูกใหมครับ หรือมีข้อผิดพลาดอันใด
    ช่วยชี้แจงด้วยครับ
     
  2. โซ

    โซ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    352
    ค่าพลัง:
    +872
    ก็ประมาณว่าตามนั้นครับได้ยินเขาว่ามาเหมือนกัน ผมว่าทั้งนี้ทั้งนั้นต้องดูองค์ประกอบอื่นอีกน่ะครับ เช่นว่า บุญ และความถึงพร้อมในกำลังของจิตที่จะกระทำแต่ความดีเท่านั้น เช่นเห็นตำรวจจะยิงคนร้าย แต่เราไปขวางไว้เพื่อช่วยนี่ก็อีกแบบ(คงยังประโยชน์ไม่ได้หรอกครับแบบนี้) ช่วยคนไห้รอดพ้นจากความตายระยะเวลานึง ผ่านมาเวลานึงเราได้ไปกระทำชั่ว เช่นปล้น ฆ่า ผิดลูกผิดเมีย หลอกลวง อาฆาต พยาบาท นี่ก็อีกแบบนึง(คงยังประโยชน์ไม่ได้หรอกครับแบบนี้) การที่จะกระทำแบบนั้นได้ต้องถึงความพร้อมที่เราหมั่นที่จะกระทำดี ไม่หวังมีทรัพย์ มีชีวิตที่สุขสบาย ต้องอดทนอยู่อย่างลำบาก ยากแค้น
    ตลอดต้องคอยช่วยเหลือ หรือบำเพ็ญเพียรบารมีไปโดยไม่มีหยุด เหนื่อย ต้องพึงระวัง สำรวมใจ หมั่นฝึก หรือ พัฒนาตนไห้ถึงพร้อมไห้มากที่สุด มีหลายแบบอย่างครับที่ผู้นั้นจะเลือกเอาความเด่นหรือกำลังแรง ที่จะปฏิบัติได้หลายอย่างครับ ก็ลองนึกเอาแบบอย่างของ ทศชาติของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าซิครับว่าจะเลือกชาติที่จะกระทำบำเพ็ญเพียรแบบไหน จะอดทน ขันติ วิริยะ เลี้ยงดู บิดามารดา ใช้ปัญญา ไห้ได้อย่างยิ่งยวด ฝึกฝน ฝึกตน เรียนรู้ไปในทาง 3โลก เพื่อที่จะเป็นบรมครูแก่สัตว์ทั้งหลายได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวาระและความถึงพร้อมที่ระดับใดของใจ ของพระโพธิสัตว์องค์นั้นครับ เลือกเอาแต่สิ่งที่คิดว่าเป็นประโยชน์สุขของสรรพสัตว์อย่างแท้จริงเท่านั้น ไม่แบ่งระดับชนชั้นทำไห้ได้อย่างเสมอเหมือนกันทุกสิ่ง พิจารณาเอาตามกำลังของตนครับเพราะสิ่งที่กระทำแล้วขึ้นชื่อว่าดีแล้ว ก็เป็นบุญบารมีได้ครับค่อยๆทำไป บางทีสิ่งที่ทำไป เราดูออกว่ามันไม่มีประโยชน์ แต่กลับมีคุณอย่างยิ่งก็มีครับ ในชาดก เช่น พญานกแขกเต้า หรือ กระรอกโพธิสัตว์ ที่เราคิดว่ามันมีแบบแผนที่ไร้ซึ่งประโยชน์ กลับมีคุณอย่างอนันต์ ในกาลต่อมาเป็นอสงไขย การสำเร็จอยู่ที่ใจในเจตนาเป็นหลักครับ ผมชอบคำพูดที่ว่า ก่อนที่เราจะปล่อยวางทุกสิ่ง
    เราต้องทำให้ถึงที่สุด แม้ด้วยชีวิต
    นั่นเป็นคำพูดในกระรอกโพธิสัตว์ครับ นั่นหมายถึง ความพร้อมแห่งปัญญา บารมีครับ เอาไว้เป็นแนวทางน่ะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มกราคม 2013
  3. โพธิภูมิ

    โพธิภูมิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2012
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +112
    มันก้อลงมาใน บารมี 10 ทั้งอย่างอ่อน อย่างกลาง และเข้มข้น นั้นแหละ
     
  4. อภิมาร

    อภิมาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    711
    ค่าพลัง:
    +2,154
    มีความเป็นตัวของตัวเองสูง บางคนถึงขนาดสำเร็จนิพพานได้ก็ไม่ไป

    หรืออาจเรียกพวกนี้ได้ว่า "ดื้อได้ดื้อดี" catt2
     
  5. คุณากโร9

    คุณากโร9 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2008
    โพสต์:
    101
    ค่าพลัง:
    +54
    คุณสมบัติคือรักคนอื่นมากกว่าตัวเองรักมากจนยอมให้เขาพึ่งครับ
     
  6. หลานศิษย์

    หลานศิษย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2008
    โพสต์:
    191
    ค่าพลัง:
    +561
    ฝึกใจให้พร้อมที่จะเสียสละ
    ใช้ปัญญาพิจารณาด้วย
    เล็งประโยชน์ของผู้รับด้วย
    กำลังใจขณะนั้นด้วย

    หลายอย่าง

    พระโพธิสัตว์ไม่ได้บริจาคชีวิตช่วยทุกชาติ มิฉะนั้นจะไม่ได้ทำอย่างอื่นเลย
     
  7. Norlnorrakuln

    Norlnorrakuln เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    3,813
    ค่าพลัง:
    +15,095
    1. เป็นผู้มีปกติอยู่ด้วยเมตตาไมตรี กรุณา มุฑิตา อุเบกขา แก่เพื่อนสรรพสัตว์ น้อยใหญ่ ทั่วถึงกันตามกำลังของตน

    2. มีความฉลาดในการตามประกอบความเพียรสร้าง สั่งสมบำเพ็ญในบารมีทั้งสิบประการอยู่เนืองนิจ

    3. อื่นๆ เป็นเรื่องวาสนาบารมี,จริต,หน้าที่,วิบากกรรม

    ^_^
     
  8. White Fox

    White Fox เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    783
    ค่าพลัง:
    +12,384
    :cool: ชอบคำตอบท่านจิงจิ๊งงง
     
  9. thaiboy74

    thaiboy74 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +207
    ถามเรื่องใหญ่ ๆ อย่างนี้ไม่รู้จะตอบอย่างไรเลย
    จะค่อย ๆ ว่ากันไปตามความเข้าใขของผมโดยอิงวิธีคิดแบบมหายานนะครับ
    ด้วยความที่ผมเข้าใจว่า พุทธภูมิ และพุทธยานเป็นเรื่องที่พัฒนามาทีหลัง

    แต่เดิม เหล่าสาวกปฏิบัติเพื่อให้ได้อรหัตผล หรือที่เรียกกันว่าสาวกยาน
    ผู้ที่ตรัสรู้ด้วยตัวเองแต่อยู่ในช่วงที่ว่างจากธรรมะ เรียกกันว่า ปัจเจกพุทธ หรือผู้ที่มาจากปัจเจกพุทธยาน
    ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 6-8 ได้มีการพัฒนาความคิดเรื่องพระโพธิสัตว์อย่างเป็นระบบ
    ในคัมภีร์สัจธรรมปุณฑริกะ ได้เพิ่มพุทธยานเข้าไปในบทแรก ๆ ซึ่งเป็นส่วนที่ประพันธ์มาก่อน
    ซึ่งได้มีการเน้นว่า ไม่ว่าจะมาจากยานใหน ก็เป็นการบรรลุเหมือน ๆ กัน
    แต่สันนิษฐานว่า ในบทหลัง ๆ ได้มีการประพันธ์เพิ่มเติม และได้มีการกล่าวถึงยานทั้งสามอันได้แก่ สาวกยาน ปัจเจกพุทธยาน และโพธิสัตวยาน

    ได้มีการเน้นเพิ่มเติมว่า โพธิสัตว์ยานนั้นสูงกว่าสาวกและปัจเจกพุทธ เนื่องด้วยสาวกและปัจเจกพุทธนั้น ยังมีความเห็นแก่ตัวอยู่ มุ่งปฏิบัติเพื่อตน และเข้าถึงบุคคลสุญญตาเท่านั้น แต่หนทางของพระโพธิสัตว์สู่พุทธยานนั้น อาศัยการบำเพ็ญที่นานกว่า บารมีมากกว่า และภูมิธรรมที่ลึกซึ้งกว่า เนื่องด้วยเข้าสู่ธรรมสุญญตาด้วย
    โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระโพธิสัตว์ในภูมิสูง ตั้งแต่ 7-10 ที่ไม่เข้านิพพาน แต่ก็ไม่อยู่ในสังสารวัฎ ซึ่งจริง ๆ ด้วยบารมีและผู้เข้าถึงจิตเดิมแท้ ปราศจากกิเลส ท่านสามารถเข้านิพพานได้ และการที่ท่านเข้าถึงบุคคลสุญญตา จึงไม่มีเหตุให้ต้องเวียนว่ายตายเกิดอีก เพราะไม่มีกรรมเป้นตัวกำเนิด แต่ที่ท่านยังอยู่ในสังสารวัฎ ก็เพราะปณิธานในการช่วยสัตว์โลก ที่มาจากพื้นฐานของความกรุณา

    คุณสมบัติของพระโพธิสัตว์มีสามอย่างคือมหาปัญญา มหากรุณาและมหาอุบาย
    ความกรุณาที่จะช่วยเหลือสรรพสัตว์ จะไม่เป็นมหากรุณาได้ หากผู้นั้นยังไม่เข้าถึงบุคคลสุญญตา เพราะอาจยังมีความเห็นแกตัวเจือปนอยู่
    และในส่วนของมหาอุบายนั้น เกิดจากการบำเพ็ญนอดีตชาต ซึ่งเป็นเครื่องมือที่สำคัญ ในการช่วยเหลือสรรพสัตว์ เพราะนี่เป็นความสามารถในการตัดสินใจว่า สรรพสัตว์แต่ละตน ท่านจะช่วยอย่างไรให้เขาพ้นทุกข์ คุณสมบุตินี้มีพระโพธิสัตว์ในภูมิสุดท้ายที่จะมี และเป็นคุณสมบัติที่จะทำให้การช่วยสรรพสัตว์สัมฤทธิ์ผลได้สูงสุด เพราะลำพังมีแปัญญากับกรุณาก็ยังไม่สามารถทำให้การช่วยเหลือนั้นเกิดประสิทธิภาพ ซึ่งนี่ต้องอาศัยกุญแจดอกสุดท้าย นั่นคืออุบายในการเผยแพร่ธรรมและช่วยเหลือที่เหมาะสม

    ทีนี้ ถ้าต้องการบรรลุพุทธภูมิ ถ้าในแง่ทั่ว ๆ ไป สามารถบรรลุได้โดยผ่านสาวกยานหรือปัจเจกพุทธยาน โดยเข้าถึงบุคคลสุญญตา
    แต่ถ้าต้องการบรรลุเพื่อเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คุณก็ต้องบำเพ็ญในสายโพธิสัตว์ ซึ่งนั่นคงใช้เวลามากกว่า

    ในอุตตระตันตระ คัมภีร์ที่สำคัญของมหายานกล่าวว่า พุทธธาตุ มีอยู่ในทุกสรรพสิ่ง จิตเดิมแท้ไม่ถูกแปดเปื้อน ดังนั้น ทุกสรรพสิ่งมีโอกาสบรรลุธรรมเท่า ๆ กัน
    ในมัธยมิกะศาสตร์บอกว่า เมื่อสภาวะต่าง ๆ เป็นมายา การตื่นจากมายาก็ต้องเป็นมายาด้วย
    ดังนั้น สังสารวัฎก็ไม่ได้ต่างอะไรกับนิพพาน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มกราคม 2013

แชร์หน้านี้

Loading...