อยากหยุดสร้างกรรมกับแม่ทำแบบนี้ถูกหรือไม่

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย ผลของกรรม, 17 มกราคม 2013.

  1. NARKA

    NARKA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    1,572
    ค่าพลัง:
    +4,560
    สมมุติบัญญัติ คือ สิ่งที่ชาวโลกเป็น อยู่ คือ ซึ่งเปลี่ยนไปตามกาลสมัย
    คุณเรียกแม่ ฝรั่งเรียก มัม...นี่เป็นสมมุติ
    ปรมัทถ์คือ ผู้ให้กำเนิด
    เป็นพรหมของบุตร....นี่เป็นปรมัทถ์....
    ผู้ให้กำเนิด จะสมมุติเหตุการณ์ต่างๆไปในทางใดๆ ก็เป็นสมมุติทั้งสิ้น เราอย่าไปหลงตามสมมุติที่"แม่สร้างขึ้น"
    แต่เราต้องยึดปรมัทถ์ว่า เขาเป็นผู้ให้กำเนิด เป็นพรหมของเรา...
    ปรมัทถ์นี้ มันมาจากกฏแห่งกรรมนั่นเอง...
    ...คุณกับแม่ ถ้าไม่ผูกเวรผูกกรรมกันมา คือ ไม่มีเหตุเกี่ยวข้องกันมาแล้ว คุณก็ไม่ได้เกิดกับเขาแน่นอน...นี่ก็เป็นปรมัทถ์ขั้นลึกลงไปอีกชั้น...
    ..เมื่อกรรมเวรซึ่งเป็นปรมัทถ์ กำหนดขึ้น ให้คุณเกิด กับ ผู้ให้กำเนิด นั่นคือความจริง ที่ไม่ใช่สมมุติใดๆ เมื่อเกิดแล้วนอนเปล คุณจะไม่มีสมมุติใดๆ ไม่รู้เรื่อง...แต่พอโตมา เริ่มเรียนรู้ เริ่มเข้าโรงเรียน เริ่มมีสังคมต่างๆ คุณก็เริ่ม"รับเอาสมมุติ"มาใช้คิด ใช้ทำแล้ว
    ทุกสิ่งทุกอย่างที่แม่กับคุณพูดจาโต้ตอบ ทะเลาะกันฯลฯล้วนเป็นสมมุติทั้งสิ้น....ให้ทิ้งไป แล้วย้อนไปสู่ปรมัทถ์คือความจริงแท้ ที่ท่านเป็นผู้ให้กำเนิด ผู้มีพระคุณที่ทำให้คุณเกิด เป็นพรหมของคุณ แต่เป็นพรหมที่เป็นมิจฉาทิษฐิพรหม....เพราะอาจไม่สามารถครอง"วิหารพรหมได้" นั่นอาจเป็นเพราะเขาใกล้หมดบุญจากความเป็นมนุษย์แล้วก็ได้
    ก็ให้เข้าใจและเมตตากรุณาต่อแม่ผู้ให้กำเนิดเสีย...
    ..คุณจะเอาอะไรมาตอบแทนผู้มีพระคุณทำให้คุณเกิดได้.....แก้วแหวนเงินทองอาหารชั้นเลิศเหรอ...ไม่มีทางทดแทนบุญคุณได้.....สมมุติว่าคุณอาจจับผลัดจับผลู รวยล้นฟ้า...คุณก็บอกเพราะคุณเก่ง คุณเฮงเอง แต่ไม่ใช่ แต่มันเป็นเพราะคุณได้เกิดเป็นมนุษย์เพราะแม่กับพ่อคุณ คุณถึงเป็นคุณอยู่ในปัจจุบันและอนาคต...
    .....ไม่มีใครอุบัติ(เกิด)เอง ยกเว้นเทวดา...คุณไม่ได้เกิดจากกระบอกไม้ไผ่ คุณเกิดกับ ผู้ให้กำเนิด มันเป็น ปรมัทถ์(ความจริงแท้) เฮ้อ...เหนื่อย...ฮา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มกราคม 2013
  2. พุธทสิณ

    พุธทสิณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2013
    โพสต์:
    102
    ค่าพลัง:
    +404
    หาเวลาว่างๆพาคุณแม่ไปปฏิบัติธรรมบ้างคงดีมากๆ
    ก่อนหน้านี้เราจะเป็นอะไรกับแม่มาก่อนหรือท่านเคยทําอะไรกับเรามาก่อนนั้นเป็นอดิตไปแล้ว...ไม่ควรจะเก็บมาคิดอีก,..ปัจจุบันจงทําดีกับท่านให้มากๆให้ท่านได้รู้จักพระรัตนตรัย,ได้เลื่อมใสในธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ดีแล้วนั่นแหละคือวิธีเดียวที่จะสามารถหยุดกรรมของทั้งสองได้...
     
  3. ผลของกรรม

    ผลของกรรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2013
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +98
    เราเข้าใจคุณ NARKA แล้วค่ะ เข้าใจแจ่มชัดด้วย ขอบคุณมากนะคะ

    ส่วนคุณ Kitkun เราจะพยายามค่ะ ให้เวลาเราหน่อยนะคะ
     
  4. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941
    ว่ากันตามจริง เราทั้งหลาย ต่างตั้งโปรแกรมเลือกพ่อแม่พี่น้องพงศ์เผ่ากันเอาไว้เองทั้งนั้น..ทั้งในอดีตที่ผ่านมา และอนาคตที่จะมีมา...แม้ในปัจจุบันก็ขมีขมันในการนี้อยู่กันทุกคน...

    ขอชื่นชมท่านจขกท ที่แม้เกิดมาในความขมุกขมัวสลัวรางยิ่ง ยากที่จะต้านกระแสวิบากอันสาหัสได้ ..แต่ท่านกลับพาตนพ้นความมืดออกมาได้อย่างน่าทึ่ง ต่างกับคนบางคนที่ต้องเกิดมาในสภาพเช่นนี้ ที่ปล่อยตนให้พลัดตกไปสู่ความมืดอย่างไม่คิดต่อต้าน...ท่านจขกท เหมือนเพชรที่เกิดในสภาพที่ถูกความกดดันอย่างสูง จึงตกผลึกกลายเป็นมณีมีค่าสูงสุด ท่านสามารถภูมิใจในตนเองได้อย่างแทัจริง แม้อาม่าและคนอื่นๆที่มีส่วนเกื้อกูลท่านย่อมไม่เสียเวลาเปล่าใน การเลี้ยงดูำภาระเช่นท่านมาในอดีต แม้แม่ผู้ให้กำเนิดก็ไม่เสียเวลาดูแลครรภ์ด้วยความยากลำบากราว 9เดือน... แม้จะไม่ได้เลี้ยงมาตลอดก็ตาม..ท่านคือคนที่สมบูรณ์ ที่มีคุณภาพเหมาะแก่สังคมทุกที่ทุกแห่ง...

    ท่านจขกท พึงทราบว่าบุคคลใดก็ตาม เมื่อทำในสิ่งที่ผิดศีลธรรม เขาย่อมเข้าถึงความเดือดร้อนใจในภายหลัง...แม่ของท่านจขกท เองก็กำลังรู้สึกเช่นนั้น การที่ท่านจขกท ไปปรากฏตัว เกี่ยวข้องด้วย จึงเหมือนนิมิตที่เป็นตราบาปในใจแม่ว่า เราเคยทิ้งเขามาแล้ว... เราเคยทิ้งเขามาแล้ว.....ดังนี้..

    เพราะความรู้สึกผิดนั้นมีอยู่ แต่ด้วยอำนาจมานะของแม่ เมื่อท่านจขกท พูดคุยในเรื่องใด แม่ก็ไม่อาจรับเอาสาระที่ถูกควรได้ ปมผิดในใจของแม่จะคอยออกมาโต้แย้ง คล้ายจะรับรองว่า แม่ต่างหากที่คิดและทำถูกต้อง ดีเสมอตลอดมา..

    ทั้งความคับแค้นใจของท่านจขกท เองก็มีส่วนผลักดันคำพูดบางอย่างที่สะเทือนใจแม่เหมือนจะให้แม่อยู่ในฐานะจำเลยผู้ทำผิด ตามคำพิพากษาของเราในใจ..จึงเป็นอันว่า เวลาใดต้องคุยกัน เวลานั้นความปรองดองก็หายวับไปทันทีเช่นกัน..

    ท่านจขกท เมื่อคิดจะตอบแทนคุณแม่ ก็พึงยุติความรันทดที่ผ่านมา เพราะมันจบไปแล้ว..ท่านตั้งเจตนาว่าจะออมเงินให้เเม่ใช้ก็เป็นมหากุศลที่ดีมากแล้ว ท่านไม่จำเป็นต้องไปเปิดบัญชีอะไรๆให้หรือทำอะไรๆที่เป็นที่มาของความคลางแคลงสงสัยไม่พอใจของแม่และตนเอง อันนำไปสู่การทะเลาะแตกร้าวไม่ลงรอยกันอีก บัญชีหรืออะไรๆอื่น ไม่ใช่เครื่องหมายว่าท่านคิดตอบแทนคุณแม่หรอก.... เจตนาที่มั่นคงต่างหากคือตัวกำหนดความเป็นกตัญญูบุคคลของท่าน..

    ท่านพึงตรวจสอบกำลังของตนว่าเหมาะควรในการบำรุงแม่เท่าใด..ท่านต้องอยู่รอดก่อนจึงจะอุ้มคนอื่นได้ ไม่งั้นก็จะพากันล้มลุกคลุกคลานไปทั้งคู่..

    การประกาศขอไม่พบพานกันอีกนั้น ทำได้เพียงคำพูด แต่ในความจริง สัตว์ที่เกิดมาทั้งนั้น ต่างต้องเกิดเวียนวนและมาพบกันอีกได้ตราบเท่าที่ยังไม่อาจพ้นสังสารทุกข์ได้..สิ่งที่ท่านควรตั้งไว้ในใจคือ เจตนาประพฤติศีลอย่างมั่นคง เมื่อท่านมีศีลอยู่ บุญแห่งเจตนานี้ย่อมจัดสรรค์พ่อแม่ที่มีธาตุเดียวกันหรือคล้ายกันคือความเป็นผู้มีศีลมาให้..ได้เกิดร่วมวงศ์พงศ์เผ่ากันในภายหน้า ..การประกาศจะใช้กรรมอะไรๆแก่ ใครๆนั้นเป็นเรื่องเหลวไหลหาเหตุผลไม่ได้..เมื่อรู้ว่าตนมีวิบากกรรมที่เลว ก็ทราบชัดว่านี้มาด้วยเหตุวิบัติของตน สมควรระมัดระวังไม่หลงทำเหตุแย่อีก ..จึงควร..การเพ่งโทษใครๆว่าเป็นที่มาแห่งทุกข์ของตนแต่ถ่ายเดียว โดยไม่เหลียวดูว่าตนเองทำสิ่งใดมาบ้างย่อมเป็นไปเพื่อการแก้แค้นเอาคืนอันนำให้ต้องมารับทุกข์โทษอีกไม่รู้จบ..

    ส่วนที่คุยกันไม่รู้เรื่องด้วยความต่างแห่งกิเลส ก็พิจารณาปิดวาจาดท่าที่จะทำได้ ต่อเมื่อมีเหตุสมควรจึงพูด..น่าจะช่วยได้บ้าง ไม่ต้องเอ่ยอ้างว่าตนประสงค์จะแทนคุณใครๆ ตนเท่านั้นทราบไว้เป็นพอ และรักษาเจตนานั้นให้มั่นคง..ถ้าท่านเอื้อเฟื้อสามารถตอบแทนคุณทั้งคนที่เลี้ยงดูท่านมาและแม่ได้ก็ยิ่งประเสริฐ..แต่ไม่ลืมตรวจฐานของตนเองก่อนว่ามั่นคงแค่ใหน..การทำสิ่งใดๆเพียงเพราะใครๆว่าดี แต่ตนเบียดเบียนตนเป็นเรื่องของคนเขลาที่ไม่มีปัญญาวินิจฉัยว่าสิ่งใดควรหรือไม่ ..

    ท่านจขกท ได้ประกาศเจตนาอันบริสุทธิ์ของตนในการแทนคุณแม่แล้ว บุญนี้ย่อมตามรักษาท่านไม่ให้วิบัติตกต่ำในภายหน้า..สิ่งใดไม่อาจแก้ไขด้วยตนเองก็ปลงวางลงเสีย ตนคิดดีทำดีพูดดีอยู่ ความเป็นมงคลย่อมปรากฏในชีวิต..

    ขอให้พ้นภัยในสังสารวัฏด้วยดีรวดเร็วราบรื่นครับ..
     
  5. ผลของกรรม

    ผลของกรรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2013
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +98
    เรียน คุณddman ครั้งแรกที่เราอ่านความคิดเห็นของคุุณ มันทำให้เราอึ้งและทึ่งจนต้องอ่านถึง 3 ครั้ง ขอบคุณสำหรับคำชม อันจะเป็นกำลังใจให้เรายึดมั่นในความดีต่อไป และขอบคุณสำหรับคำแนะนำ และย้ำให้รู้ชัดว่า สิ่งสำคัญอยู่ที่เจตนา

    ขอบคุณมากนะคะ สำหรับทุกอย่าง ความคิดเห็นของคุณ จะยิ่งเป็นกำลังใจและแรงผลักดันให้เรายึดมั่นในความดีต่อไปค่ะ
     
  6. เปาชุนไหล

    เปาชุนไหล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    435
    ค่าพลัง:
    +2,240
    แล้วต้องมีัขันติคือความอดทนด้วยครับ
     
  7. yutpichai

    yutpichai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    79
    ค่าพลัง:
    +306
    กตัญญุ ผลทันตาเห็น

    “พฺรหฺมาติ มาตาปิตโร”
    “พ่อแม่เป็นพรหมของลูก”
    พระคุณของแม่
    พระ อรหันต์ ชั้นอุดม หรือพรหมเมศร์
    คุณ วิเศษ มิได้ใหญ่ ไปกว่าแม่
    ของ แม่ใหญ่ ใกล้ชิด ติดลูกแจ
    แม่ จ๋าแม่ ลูกนี้คิด เป็นนิตย์เอย
     
  8. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    หากใช้ขันติ ก็จะต้องทน

    หากใช้เมตตาล้วนๆ ก็จะไม่ต้องทนอะไร เพราะเมตตาจิตที่บริสุทธิ์ จะไม่อยู่ร่วมกับความคิดด้านลบครับ
     
  9. phat_ph

    phat_ph เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    55
    ค่าพลัง:
    +106
    จขทก มีเจตตนาที่ดีที่จะตอบแทนบุญคุณแม่นั้นดีแล้วค่ะและจงหมั่นทำต่อไปค่ะ แต่ถ้าจะให้ดียิ่งขึ้นต้องยอมรับข้อหนึ่งนะค่ะ เราไม่สามารถไปบังคับหรือเปลี่ยนแปลงอะไรที่มันอยู่นอกเหนือตัวเราได้ เราปรับเปลี่ยนตัวเราง่ายกว่าและไม่เป็นทุกข์ด้วยค่ะ การตอบแทนบุญคุณมีตั้งหลายวิธีถ้าเจอแม่แล้วไม่สบายใจ ก็อยู่ห่างๆแบบห่วงๆค่ะ ทำบุญปิดทองหลังพระบ้างก็ได้นะค่ะ สวดมนต์ นั้งสมาธิ ทำบุญให้ท่านก็ได้แล้วอุทิศให้ท่านไม่จำเป็นจะต้องเป็นคนตายถึงจะได้ส่วนบุญค่ะ คนเป็นก็ได้รับผลบุญเหมือนกัน แล้วอธิฐานจิตขอให้ท่านเป็นผู้มีสัมมาฐิทิ แล้วทุกอย่างก็จะดีขึ้น
     
  10. โมทนาman

    โมทนาman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    5,665
    ค่าพลัง:
    +6,165
    พ่อแม่ที่ให้กำเนิด มีบุญคุณสูงกว่าผู้ที่เลี้ยงดูมา
    ถ้าอยู่ใกล้แล้วกรรมเพิ่ม ก็ขอขมา ให้พ่อแม่พูดว่า "อโหสิ" แล้วย้ายไปอยู่ห่าง ๆ
    พยายามส่งเงินให้พ่อแม่ทุกเดือน พอจะส่งได้เท่าไหร่ก็แล้วแต่
    อย่าไปควบคุมการใช้เงินของพ่อแม่ ถ้าเรายังตามไปยุ่งอยู่ การให้จะไม่สมบูรณ์

    พยายามสวดมนต์ แล้วแผ่เมตตาอุทิศส่วนกุศลให้พ่อแม่และผู้มีพระคุณทุกวัน
     
  11. Pharoa

    Pharoa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2010
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +149
    ถ้าคิดจะให้เงินท่านแล้วก็ให้ขาดไปเลยครับ ส่วนท่านจะไปใช้ทำอะไรก็เรื่องของท่านครับ
     
  12. เ่ต่าโบราณ

    เ่ต่าโบราณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    713
    ค่าพลัง:
    +3,624
    ขอชื่นชมน้องนะคะ ที่อยู่ท่ามกลางความกดดัน แต่ยังประคองตัวให้คิดดีได้...

    พี่ขอยืมคำพระที่อ่านผ่านๆ มาว่า...
    - เหตุ(ผล)ที่เกิด ไม่มีสิ่งไหน ที่เราไม่เคยทำมาก่อนหรอก เพราะเราเกิดมาแล้วไม่รู้กี่ชาติต่อกี่ชาติ ทำดี ทำไม่ดี มาสารพัด เพราะฉะนั้น ให้ยอมรับซะ
    - เรื่องเงิน ถ้าคิดจะให้ ก็ให้ไปเลย ไม่ต้องตามเช็คว่าเอาไปใช้อะไร (พี่เคยเป็นมาก่อน ให้แล้วเสียใจเพราะเค้าเอาไปให้น้องอีกที สุดท้ายเค้าก็ลำบากเหมือนเดิม แต่อยู่มาวันนึง ฟังพระเทศน์ แล้วคิดได้ว่า ของที่ถวายพระไปแล้ว แล้วยังตามไปดูอีกว่า พระฉันรึเปล่า ฉันก็ดีใจ ไม่ฉันก็เสียใจ นั่นหมายถึงว่า ใจเรายังยึดอยู่ว่า ของเรา แม้จะถวายพระไปแล้วก็ตาม...เหมือนตังค์ที่น้องคิดจะให้แม่ ถ้าให้แล้วก็แล้วแต่เค้าจะเอาไปทำอะไร เพราะทุกอย่างล้วนมีกรรมเป็นเครื่องกำหนด)

    เป็นกำลังใจให้นะคะ ไม่ใช่น้องคนเดียวที่มีปัญหาแบบนี้ หลายคนเป็นเหมือนกัน แต่จะหนัก จะเบา ไม่เท่ากัน แค่นั้นเอง...สักวันต้องดีขึ้น
     
  13. ผลของกรรม

    ผลของกรรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2013
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +98
    ขอบคุณมากนะคะ ทุกคนดิฉันจะให้โอนเงินใส่บัญชีให้ท่านไปเลยค่ะ และจะไม่ตามไปดูว่าท่านเอาเงินไปทำอะไร ตามใจท่านค่ะ แต่ก็ยังคงไม่ได้พูดคุย หรือติดต่อกันเหมือนเดิม
     
  14. ผลของกรรม

    ผลของกรรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2013
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +98
    บางครั้งก็รู้สึกคิดถึงท่านเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้โทรไปหา เพราะกับมาคุยกันกลัวทะเลาะกันอีก คิดว่าจะลองปรับและควบคุมอารมณ์ตัวเองให้มากกว่านี้ก่อนค่ะ ไม่ยึดถือเอาสมมุติ และคิดว่ามันเป็นปรมัทธิ์ ตามที่ได้แนะนำค่ะ แต่ขอเวลาอีกหน่อยนะคะ
     
  15. ชูนุ่น

    ชูนุ่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    520
    ค่าพลัง:
    +699
    ทุกท่านกล่าวมาดีแล้วค่ะ..แต่เราขอเสริมอีกนิด...............จริงๆได้มีโอกาสพบแม่ก็เป็นบุญแล้ว เราเลือกไม่ได้ว่าท่านจะเป็นอย่างไรเข้ากับเราได้ไหม..............แต่ดิฉันเชื่อกฎแห่งกรรม กงกรรมกงเกวียน.....เท่าที่อ่านมา ทราบว่าคุณ จขกท. อยากให้หมดเวรหมดกรรมกันในชาตินี้.....ตามวิจารณญาณของดิฉันเองคิดว่า...หากจะหยุดกรรมจริงๆแล้ว คุณควรดูแลท่าน สิ่งที่คุณทำให้ท่านมันจะส่งผลมาถึงชีวิตความเป็นอยู่ของคุณเอง..เช่นหากคุณได้ดูแลท่านไม่ทอดทิ้งท่าน..ต่อไปภายภาคหน้าลูกๆของคุณก็จะดูแลปรนนิบัติคุณเช่นกัน..มีบุญเรื่องคู่ ได้คู่ดี ชีวิตไม่ตกต่ำ ฯลฯ..........บุญคุณที่ท่านให้กำเนิดเรามา เราก็ได้แทนคุณกันในชาตินี้..

    ดิฉันเองก็มีแม่..........ก็ดูแลแม่ทั้งที่แม่ไม่ได้ช่วยเหลืออะไรเราเลย..แต่แม่ให้ความช่วยเหลือพี่น้องของดิฉันซึ่งเค้าไม่เคยดูแลแม่เลย..ดูแล้วไม่ยุติธรรมสำหรับดิฉันเลย..แต่ดิฉันทำด้วยความสมัครใจและพยายามเข้าใจท่านไม่คิดผูกใจเจ็บใดๆ


    ขอยกตัวอย่างพี่สาวดิฉันที่แม่คอยช่วยเหลืออยู่..เมื่อก่อนเธอมักไม่สนใจแม่ ตำหนิติเตียนแม่เรื่องพี่ชาย..ว่าแม่ลำเอียงเอาแต่ห่วงลูกคนนั้น (แต่ดิฉันพยามเข้าใจว่าแม่ไม่มีทางเลือก..เมื่อลูกตกอยู่ในอำนาจของเหล้า..และตกงาน)
    จนตอนนี้ผลกรรมที่เธอผูกใจเจ็บแม่..มันเข้ามาหาตัวเอง เพราะลูกคนโตของเธอก็กำลังมีนิสัยแบบพี่ชายเธอเหมือนกัน..เธอก็ได้แต่กล้ำกลืนฝืนทน..ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกับแม่....."พ่อ"เธอก็เคยผูกใจเจ็บไว้เหมือนกันเพราะพ่อเป็นคนเจ้าชู้ไม่ค่อยสนใจลูกเมีย....ตอนนี้เธอก็ได้สามีแบบเดียวกันกับพ่ออีก(แต่ดิฉันว่าแรงกว่า..).......พูดแล้วก็กลุ้มหรือจะคือกงกรรมกงเกวียน..
     
  16. ผลของกรรม

    ผลของกรรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2013
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +98
    เราจะมาแจ้งทุกคนเรื่องเรากับแม่ค่ะ ณ ตอนนี้ เวลานี้ถือเป็นเรื่องที่เราแปลกใจมากมาย

    หลังจากที่เราทะเลาะกับแม่ และไม่คุยกัน ดิฉันก็ได้สวดมนต์ แผ่เมตตาให้กับมารดา บิดา ด้วยนอกจากคนอื่นๆ และแล้ววันนึงดิฉันกับแม่ก็ได้มีโอกาสคุยกันค่ะ ที่น่าแปลกก็คือ ดิฉันรู้สึกว่า ดิฉันรักแแม่มากขึ้น ทั้งนี้ส่วนหนึ่งได้เห็นภาพคุณบิณ บรรลือฤทธิ์ถ่ายรูปคู่กับพระที่เป็นเนื้องอกที่หน้า ทันใดนั้นก็มีความคิดเข้ามาว่า ถึงแม่จะไม่ได้เลี้ยงเรามา แต่แม่ก็ได้ให้อวัยวะที่ครบ 32 กับเรามาทำให้เราไม่ต้องเป็นเหมือนพระในรูป

    สถานการณ์ตอนนี้คือ แม่ซื้อขนมมาให้เรากินบ่อยมากๆ เป็นของโปรดของเรา เราคุยกันดีมากขึ้น ส่วนตัวดิฉันก็ได้ให้เงินแม่บ้างตามกำลังและความตั้งใจ

    และมารู้ทีหลังว่า ช่วงหลังมานี่ แม่ก็สวดมนต์และแผ่เมตตาขอพรให้ลูกๆ เป็นประจำ

    ตอนนี้รักแม่มาก กล้าพูดว่ารักแม่ โดยไม่รู้สึกระอักกระอ่วนใจเลย แต่เมื่อก่อนไม่ใช่

    วันนี้แม่ก็จะมาทำกับข้าวที่เราชอบให้กินอีก

    พรุ่งนี้ไม่รู้เรากับแม่จะเป็นยังไง แต่ตอนนี้เรามีความสุขแล้ว
     
  17. tassumalee

    tassumalee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    1,579
    ค่าพลัง:
    +8,825
    มีข้อเสนอแนะค่ะ ท่าน จขกท คือไม่ว่าแม่คุณจะทำผิดหรือถูก(เป็นเพราะความคิดเห็นไม่ตรงกัน)
    หรือเป็นเพราะท่านไม่ได้เลี้ยงดูคุณมาก็ตาม ท่านก็ยังเป็นแม่คุณอยู่ดี ต่อให้คุณโกรธท่าน ทะเลาะกับท่าน ถึงขนาดตัดแม่ตัดลูกกัน ไม่พบไม่เจอไม่คุย "ท่านก็ยังเป็นแม่คุณอยู่ดีและคุณก็ยังคงเป็นลูกของท่าน"

    คุณหนีความจริงไปไม่พ้นหรอกค่ะ การที่คุณยังมี พ่อ,แม่ ให้ได้ดูแลทดแทนพระคุณ(ในตามแบบของคุณ) นั้นนับว่าเป็นบุญอันประเสริฐมาก " แม่คุณท่านก็คงมีวิธีรักลูกในแบบของท่าน" เพียงแต่คุณอาจไม่เข้าใจ(หรือไม่ได้ใส่ใจ)

    ขอเพียง คุณลดฐิทิมานะที่มีอยู่ในจิตใจลงบ้าง การเถียงแม่หรือทำให้แม่ร้องไห้นั้น "เป็นบาปอย่างมหันต์ค่ะ มีที่ไปคือ อเวจี" คุณต้องรู้จักการให้อภัยค่ะ ค่อยๆเรียนรู้ค่อยๆเริ่มทำ แล้วคุณจะปล่อยวางได้(ในเมื่อสิ่งที่อยู่ในอกคุณนั้นมันหนัก คุณจะแบกไว้ทำไมกันคะ จงวางมันลงเสีย)

    การเริ่มต้นแรกๆมันก็ยากค่ะ แต่ถ้าผ่านไปได้แล้ว คุณมองย้อนมามันก็ง่ายนิดเดียวเอง
    "ปัญหาของคุณ มันเป็นเหมือนเส้นผมบังภูเขา"
    คือมันเล็กนิดเดียวเอง เพราะปัญหามันอยู่ที่ใจของคุณแต่คุณมองไม่เห็น คุณมัวไปมองที่คนอื่นว่าทำไมเขาเป็นแบบนั้น แบบนี้ โดยลืมมองใจของตัวคุณเอง(คุณต้องเปิดใจคะ ค่อยๆลองทำดู)

    ต่อให้คุณทำบุญมากซักแค่ไหน ก็ไม่เท่ากับ ทำบุญกับ พระในบ้าน( ในขณะที่ท่านยังมี ชีวิตอยู่ ดีก่วา ทำให้เมื่อท่านไม่มีชีวิตอยู่แล้ว) อย่าสร้างกรรมเพิ่มเลยค่ะ กราบขอขมากรรมท่านซะ"ขอให้ทำจากหัวใจของคนที่เป็นลูก พึงกระทำต่อ บุพการี อย่าสักแต่ว่าทำๆไป เพราะมันไม่เห็นผล แต่ถ้าคุณยินดี,เต็มใจ ด้วยหัวใจที่ไม่ขุ่นมัว ทำเพราะระลึกได้ว่า ท่านเป็นผู้ให้กำเนิดเราแม้จะไม่ได้เลี้ยงดูเรามาก็ตาม คุณจะรับรู้ได้ถึงผลที่จะได้รับ"

    ชีวิตนี้เรามีแม่ได้แค่คนเดียวนะคะ อย่าลืมไปดูแล อาม่าบ้าง ท่านก็มีบุญคุณกับคุณมากเช่นกัน




    เราอาจใช้คำไม่สวย ไม่เก่งบาลี แต่เราเขียนออกมาจากใจเราเอง "เพราะเรามีบาปนี้ติดอยู่ในใจ"



    "บัวในตม ผู้มีกรรมหนัก"



    ,
     
  18. โมทนาman

    โมทนาman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    5,665
    ค่าพลัง:
    +6,165
    โมทนาด้วยครับ
    สวดมนต์แผ่เมตตาให้พ่อแม่ต่อไปนะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...