อยากหยุดสร้างกรรมกับแม่ทำแบบนี้ถูกหรือไม่

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย ผลของกรรม, 17 มกราคม 2013.

  1. ผลของกรรม

    ผลของกรรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2013
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +98
    ขอเรียนถามทุกท่านค่ะ นี่เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในชีวิตเรา
    ตอนเด็กๆ แม่เราไม่ได้เลี้ยงเรามา คนที่เลี้ยงเรามาคือแม่บุญธรรมและอม่า ป้า และอา ซึ่งไม่ค่อยจะเต็มใจที่จะรับภาระตรงนี้เท่าไหร่ แต่ก็ปัดไม่ได้ ในเมื่อแม่เราที้งไปแล้ว พร้อมกับน้องๆ อีก 3 คน รวมเด็กๆ ในบ้าน 4 คน ที่เป็นภาระให้กลับครอบครัว

    โดยที่บ้านไม่ได้มีฐานะร่ำรวยอะไร สิ่งทีเราได้ยินก็คือ เราและน้องเป็นภาระให้กับพวกเค้า ไม่มีพวกเราเค้าจะสบายกว่านี้ เฉพาะป้าและอา อม่าเลี้ยงดูพวกเรามาจนโต รักอม่ามาก แต่เวลาที่บ้านเราตีเราและน้องจะโหดมาก เพราะบางครั้งเค้าก็เหนื่อยจากการหาเงินแล้ว ยังต้องมาเลี้ยงดูพวกเราอีก วิธีการตี คือ จับหัวโขกกับพื้นบ้าง ตบหน้าบ้าง กระทืบบ้าง สายยางตีบ้าง บางครั้งจับอะไรได้ก็ใช้อันนั้นตี ซึ่งเราก็รู้สึกเจ็บปวดที่โดนตี และรู้สึกเจ็บใจที่ช่วยอะไรน้องๆไม่ได้เวลาที่โดนตี บางครั้งก็ร้องไห้ไปกับน้อง

    ในตอนเด็กเราอยากเจอแม่มาก นานๆ ทีแม่กับพ่อถึงจะมาหา ตอนเด็กๆเรารู้สึกดีใจที่แม่มาหา ( เดี๋ยวต่อความคิดเห็นต่อไปนะคะ )
     
  2. ผลของกรรม

    ผลของกรรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2013
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +98
    แต่ที่บ้านก็ส่งเราเรียนจนถึงระดับ ปวช. แต่มหาวิทลัยไม่มีใครส่งเรียน เราต้องหาวิธีกู้เรียนเอง ในที่สุดเราก็เรียนจบ เป็นอะไรที่เราภูมิใจมากๆ แต่ก็เป็นช่วงที่เราหนีออกจากบ้านมาแล้ว ประเด็นคือ ตอนโตได้มีโอกาสติดต่อพ่อกับแม่มากขึ้น พ่อไม่ค่อยเท่าไหร่ เพราะเราเคยอาละวาดใส่เค้า เรื่องเค้าไม่ดูแลเรา ก็เลยติดต่อพ่อน้อยลง

    ส่วนแม่ เรามาคุยกันบ่อยตอนโต แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เราเข้ากับแม่ของเราไม่ได้ ทุกเรื่อง ทุกอย่าง เราไม่เคยมีความเห็นไปในทางเดียวกันเลย เราเถียงแม่ตลอด เพราะเราคิดว่าสิ่งที่แม่เราคิดนั้นผิด ประกอบกับ เรารู้สึก โกรธ ที่แม่ไม่เลี้ยงดูเราและน้องเรา ทิ้งเราไปให้เราต้องเจอชะตากรรมที่ไม่เหมือนเด็กคนอื่น ทั้งๆ ที่เราอยากเรียน เป็นเด็กดี ไม่เคยทำตัวเหลวไหล แต่บางครั้งไม่อยากกลับบ้านจะช่วยครูอยู่จนเย็นแล้วค่อยกลับบ้าน กลายเป็นเราไม่ถูกกับแม่ ( มีต่อ )
     
  3. ผลของกรรม

    ผลของกรรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2013
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +98
    สิ่งที่เราไม่ถูกกับแม่ สะสมมาเรื่อยๆ ต่างฝ่ายต่างต้องเสียใจ เสียน้ำตากันไป เพราะเราเอง เราไม่ยอมแม่ เราเป็นคนพูดตรงมาก แต่เราพุดเรื่องจริงทุกเรื่อง เช่น หากเราทำอะไรไม่ถูกใจแม่ เราก็จะพูดกับแม่ว่า เราเป็นของเราแบบนี้ จะมาเปลี่ยนนิสัยตอนโตไม่ได้หรอก เพราะแม่ไม่ได้เลี้ยงมาตั้งแต่เล็กๆ ไม่เคยรู้จักนิสัยกันมา และทุกครั้งที่เราคุยกับแม่ หากความคิดของแม่ เราคิดว่าไม่เหมาะเราก็จะไม่เกรงใจ เราจะพุดไปเลยตรงๆ เช่น แม่บอกว่าอยากให้น้องสาวคนเล็กของเรามาทำบาร์อะโกโก้ในพัฒน์พงศ์ เพราะได้เงินดี เราเถึยงแม่ทันที เราไม่ยอมให้น้องเราไปทำแบบนั้นหรอก เราแอบมีอัคติกับแม่ ว่าแม่คิดยังงี้ได้ไง เราจะพูดให้แม่เราร้องไห้ พูดในสิ่งที่มันเป็นจริง

    มีครั้งหนึ่ง เราพึ่งทำงาน เราทำประกันชีวิตให้แม่ แต่ไม่สามารถส่งได้ตลอดรอดฝั่ง แม่เค้าก็พูดให้เราเสียใจว่า เค้าไม่อยากได้หรอก แต่ที่เค้ายอมทำเพราะเห็นว่าเค้าตายแล้วเราจะได้ คือเราไม่หวังว่าให้เค้าตายแล้วเราจะได้เลยนะ เราทำเพื่อว่าหากแม่เป็นอะไรไป เราคงไม่มีเงิน
     
  4. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา
     
  5. ผลของกรรม

    ผลของกรรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2013
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +98
    ไว้คอยรักษาแม่แน่ เราจึงอยากทำไว้ เรื่องที่สองคือ แม่ลำบากมาก เราเลยหาอาชีพให้แม่ทำ ด้วยการเปิดร้านโจ๊กเล็กๆ ให้แม่ ขนาด 2 โต๊ะ แต่ไม่ไปรอด เราทะเลาะกัน สิ่งหนึ่งที่แม่หลุดพูดมากลับมาเราเสียใจมาก คือ ที่เราเอาเค้ามาอยู่ด้วย เพราะอยาากให้ชาวบ้านเห็นว่าเรากตัญญู คำนี้เหล่าเสียใจมาก เราไม่ได้คิดแบบนั้นเลย เราแค่อยากดูแลแม่เรา แต่เราลืมไปว่าตัวเองก็ยังไม่แข็งแรง เหตุการณ์นี้ทำให้เราตัดแม่ลูกตัดลูกกัน
     
  6. ผลของกรรม

    ผลของกรรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2013
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +98
    วันเวลาผ่านไป เรากับแม่กลับมาพูดคุยกัน แต่ต่างฝ่ายต่างมีเรื่องอยู่ในใจ เวลาทะเลาะกัน เราก็พูดกับแม่เราตรงๆ ว่าเราเป็นคนมีกรรม อยู่กับแม่ พูดกับแม่ไม่ได้จะต้องทะเลาะกันทุกทีั แม่กับเราต่างก็ร้องไห้ด้วยกันทั้งคู่ เพราะไม่รู้จะทำยังไงให้มันดีไปกว่านี้ เราบอกแม่เราว่า ถ้าเวรกรรมใดที่เราได้เคยสร้างให้เค้าเจ็บช้ำน้ำใจมา เราขอให้จบภายในชาตินี้ ชาติหน้าไป เราอยากมีพ่อ มีแม่แบบคนอื่นบ้าง อยากได้รับความรักจากพ่อ จากแม่บ้าง เรากับแม่ทะเลาะกันตลอดเรื่อยมา
     
  7. ผลของกรรม

    ผลของกรรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2013
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +98
    เหตุการณ์ล่าสุด คือ วันเกิดแม่ เราตั้งใจว่าเราจะเปิดบัญชีให้แม่เราเป็นของขวัญโดยให้ท่านทุกเดือนทุกวันเกิดของท่าน คือวันที่ 20 จำนวนเงินไม่มาก แต่เราอยากจะทำไว้ แต่บัญชีต้องเป็นชื่อเรา สมุดเราไว้กับแม่ เพราะเรากลัวแม่เราจะเบิกออกมาใช้ เราจะให้เค้าเบิกวันที่เค้าออกจากกงานจะได้มีเงินก้อนนี้ไว้ใช้ นี่คือเจตนาของเรา

    แม่บอกว่า เค้าอยากได้สมุดเป็นชื่อเค้า แต่เก็บสมุดบัญชีไว้ที่เราก็ได้ เราก็โอเค พอเดือนต่อมา เค้าคืนสมุดบัญชีเรามา บอกว่าไว้ให้เราพาไปเปิดเป็นชื่อเค้า พอดีเรายุ่งมากลืมไป เลยวันที่ 20 เค้าก็โทรมาบอกว่า เมื่อไหร่จะพาไปเปิดบัญชี เราก็บอกว่าช่วงนี้ยุ่งอยู่เป็นวันเสาร์ได้มั้ย เค้าก็บอกว่าเราทำไม่ได้ผิดคำพูด เค้าไม่หวังได้ของเราหรอก เราก็บอกว่า แม่ก้ไม่น่าจะคืนสมุดบัญชีหนูมาเลย ถึงต้องเสียเวลาพาไปเปิด แม่บอกว่า เค้าไม่เข้าใจว่าถ้าให้เค้าแล้ว ทำไมต้องเป็นชื่อเรา เราก็บอกว่าเพราะเราไม่ต้องการให้เค้าเบิก เค้าไม่พอใจ ก็วางสายไป เราก็ร้องได้ แต่เราก็พยายามปล่อยวาง
     
  8. ผลของกรรม

    ผลของกรรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2013
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +98
    วันต่อมาเราก็โทรไปหาเค้า คุยเรื่องอื่นกัน แล้วเค้าก็ถามว่าเมื่อไหร่จะพาเค้าไปเปิดบัญชี เราก็บอกว่าวันเสาร์ไงแม่ เค้าบอกว่าวันเสาร์จะไปเปิดได้ที่ไหน เราก็บอกว่าที่ห้างไง จะได้หาไรกินกันด้วย เค้าไม่พอใจ แล้วทะเลาะกันอีก เรามาถึงจุดตัด จุดที่เราคิดว่าควรหยุดสักที เราส่งข้อความไปหาแม่เราใน F/Bว่า ต่อไปนี้เราจะไม่ให้เงินเค้าแล้ว ของขวัญเค้าเราจะซื้อกระเช้าแบรนด์ให้ แล้วขอไม่ให้เค้าหวังอะไรจากเราอีก เราไม่อยากให้ในสิ่งที่เราตั้งใจทำดีๆ เพื่อเค้ากลับมาทำให้เราต้องเสียใจอีก หากแม่ออกจากงานมา แม่มาอยู่บ้านได้ มีข้าวให้กิน แต่ไม่มีเงินให้ ค่าใช้จ่ายแม่ก็ไม่ต้องเสียสักบาท แต่ไม่มีเงินให้ ( เคยตกลงว่าจะให้แม่ทำกับข้าวให้และจ่ายค่ากับข้าวให้แม่เป็นรายเดือน และ ให้แม่ใช้ส่วนตัว 2000 บาท ) และเราก็บอกแม่ว่า ต่อไปนี้ให้เราติดต่อกันน้อยลง เพื่อจะได้ไม่ต้องสร้างเวรกรรมต่อกัน เพราะเรารู้สึกว่ายิ่งติดต่อ ยิ่งสร้างกรรม เราไม่อยากมีกรรมกับแม่เราแล้ว ต้องไปชดใช้กันในชาติหน้าอีก ให้เราเจอกันตามเทศกาล เหมือนพ่อ คือทุกเทศกาล ถ้าเรามีโอกาสและมีเงินจะพาพ่อ แม่ไปกินข้าว เราขออโหสิกรรมจากแม่
     
  9. ผลของกรรม

    ผลของกรรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2013
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +98
    แม่ตอบกลับเรามาว่า เค้าอโหสิกรรมให้ และให้จำคำพูดของเราไว้ด้วย หากเราไม่จำเค้าจะจำเอง เค้าบอกว่าเค้าจำได้คำพูดเราได้ว่า ไม่อยากสร้างเวรสร้างกรรมเพื่อจะต้องมาชดใช้กันอีกชาติหน้าตอนที่เราทะเลาะกับเค้าได้ เค้าถึงไม่อยากไปทำบุญกับเรา มีครั้งหนึ่งวันพ่อ เราพาพ่อไปถวายสังฆทาน เสร็จแล้วจะพาไปกินข้าวด้วย แม่อยากมากินข้าวด้วย แต่ยืนยันว่าจะรออยู่หน้าวัดไม่เข้ามาทำบุญกับเรา ตอนนั้นเราไม่ได้เอะใจ พึ่งมารู้ว่าเค้าคิดแบบนี้ เราก็เสียใจ

    แล้วแม่ก็พูดอีกคำนึงว่า เค้าไม่ได้อยากได้อะไรจากเราหรอก แต่เราเป็นคนพูดขึ้นมาเอง ต่อไปนี้หากเค้ารับของอะไรจากเราอีก ขอให้เค้าตาย

    เราอ่านดูแล้วไม่ได้โต้ตอบอะไร เพราะไม่อยากสร้างกรรมอีก คิดว่าเราควรจะกลับไปเลี้ยงดูอม่า พาอม่าไปกินข้าวมากกว่า คนที่เลี้ยงเรามาอย่างแท้จริง ส่วนแม่เราจะไม่ติดต่อกับเค้าอีกเลย แต่หากเค้ามีปัญหาเมือ่ไหร่ เราก้จะช่วยเท่าที่ช่วยได้ แค่นั้น เราอยากถามว่า การที่เราหยุดติดต่อเค้า มันจะทำให้เราเป็นบาปที่ไม่ได้ดูแลแม่หรือปล่าว แม่ที่ไม่ได้เลี้ยงเรามา เพราะหากติดต่อกันก็จะมีแต่สร้างกันเพิ่มเรื่อยๆ

    ในตอนนี้เราพยายามปล่อยวางบุคคลรอบกาย ที่เราเคยเป็นห่วงทั้งหลาย และคิดว่าสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
     
  10. guaregod

    guaregod เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    962
    ค่าพลัง:
    +1,009
    ถ้าคุยกันแล้วทุกข์ก็อย่าไปคุยครับ ต่างคนต่างอยู่ ถ้าหากเขาเดือนร้อนเขาก็คงมาหาเองล่ะครับ
     
  11. ผลของกรรม

    ผลของกรรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2013
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +98
    ค่ะ เราถึงพยายามไม่ติดต่อกับแม่เพื่อที่จะได้ไม่สร้างกรรมเพิ่มค่ะะ เราจะปล่อยวางเพียงแต่เคาแค่คิดว่า ถ้าเราปล่อยท่าน ไม่ติดต่อ ไม่ถามสารทุกข์สุขดิบ เราจะบาปหรือปล่าว จริงๆแล้ว เราควควรตบแทนบุญคุญแม่ิหรืออม่ากันแตี น้องๆ ไม่ทุกข์อย่างเรา เพราะไม่มีใครสนใจแม่เลย น้องๆถือว่าแม่ไม่ได้เลี้ยงพวกเค้ามา มีแต่เรา ที่ยิ่งพยายามทำอะไรใหัแมสิ่งนั้นกลับย้อนกลับมาทำร้ายเรา เราก็อยากเป็นแบบน้อง คือไม่ต้องห่วง หรือคิดทำอะไรเพื่อเค้า ต่างคน ต่างอยู่
     
  12. yo09()

    yo09() เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    296
    ค่าพลัง:
    +4,897
    กรรมเป็นผู้ลิขิต ชีวิตเป็นไปตามกรรม
    ละเหตุแห่งทุกข์ได้ จะพบสุขตลอดกาล

    การจะออกจากความทุกข์ได้ จะต้องออกจากสิ่งสมมุติในโลก ออกจากการยึดติด
    เพราะทุกสิ่งในโลกคือสิ่งสมมุติทั้งสิ้น โลกนี้แท้จริงแล้ว....ว่างเปล่า

    มีหน้าที่อะไรก็ทำไป หากแต่ใจปล่อยวางอย่ายึดติด

    เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นทุกข์
    ยืน เดิน นั่ง นอน เป็นทุกข์ยิ่ง
    เกิดอีกก็ทุกข์อีก ไม่จบไม่สิ้น

    สิ่งทั้งหลายทั้งปวง ไม่ควรยึดมั่นถือมั่น

    " นิพพานชาตินี้กันเถอะ "
     
  13. kitkun

    kitkun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    108
    ค่าพลัง:
    +579
    จากที่อ่านเรื่องของคุณ..มันก็ถูกนะที่คุณไม่อยากสร้างเวรสร้างกรรมต่อกันอีก แต่กรรมในอดีตคุณยังใช้กับคุณแม่(และคนอื่นๆ)ไม่หมดเลย ก่อนอื่นขอยกย่องที่คุณเติบโตมาประสบกับปัญหาที่ขาดพ่อและแม่(ดังที่เล่ามา)แล้วคุณยังมีสติประคองตัว,ดำเนินชีวิตมาได้พร้อมกับมีอาชีพเลี้ยงตัวเองได้ทุกวันนี้ นี่ก็เป็นบุญอย่างหนึ่งที่คุณทำมาในอดีตชาติทำให้คุณมีสติ,รู้จักผิดชอบชั่ว-ดีไม่ปล่อยตัวเหลวแหลกหรือถือเป็นข้ออ้างว่าที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะ "บ้านแตกสาแหรกขาด"
    ถ้าเราคิดกันในทางโลก..คุณไม่ได้รับการเลี้ยงดูจากคนเป็นแม่(พ่อ..เราไม่กล่าวถึงนะค๊ะ)ดังนั้นความใกล้ชิดสนิทสนมย่อมไม่มี ไม่รู้ใจลูก-ไม่รู้ใจแม่ว่าชอบอะไรไม่ชอบอะไร ฯลฯ เมื่อมาอยู่ด้วยกันความต่างที่ทั้งตัวคุณและแม่ที่ไม่ปรับเปลี่ยนเข้าหากันก็ย่อมเกิดปัญหาแน่นอน ต่างคนต่างก็ยังเป็นตัวตนของตนอยู่ จริงๆแล้วความผูกพันทางสายเลือดย่อมมีอยู่แน่นอน(ดูจากเจตนาที่คุณนำคุณแม่มาอยู่ด้วยและคุณแม่ก็มา) การแก้ปัญหาก็อยู่ที่ว่าทั้งสองคนจะยอมรับและปรับเปลี่ยนกันได้มากน้อยแค่ไหน ถ้าไม่มีการปรับ..และเป็นความตั้งใจของคุณที่จะหยุดสร้างเวรฯนั้นคุณทำได้ คนเราบางทีชีวิตไม่จำเป็นต้องอยู่ร่วมกันเสมอไปมีหลายคนที่ตัดสินใจอยู่คนเดียวแต่ยังทำหน้าที่ดูแลผู้มีพระคุณอยู่ห่างๆ เช่น..เจอกันเดือนละครั้งอาจจะทานข้าวกันหรือให้ค่าใช้จ่ายประจำเดือน ไม่สบายหากมีโอกาสก็พาไปรักษาฯลฯ คำพูดอันใดที่จะก่อให้เกิดความไม่สบายใจก็ละเว้นเสีย ซึ่งคุณมีวุฒิภาวะแล้วย่อมเข้าใจได้ว่าควรทำอย่างไรคงไม่ต้องอธิบายมาก ผู้ที่มีพระคุณก็รวมถึงครอบครัวที่เลี้ยงดูมานั้นด้วยแต่..ก่อนที่จะเลือกทางเดินนี้คุณควรขออโหสิกรรมกับท่านก่อน(การล้างเท้าท่านพร้อมพวงมาลัยและขอขมาในคำพูดหรือการกระทำที่ได้ทำให้ท่านเสียใจ ขอให้ท่านอโหสิกรรมให้รวมทั้งกับคุณพ่อด้วย)
    ในทางธรรม..คุณและคุณพ่อคุณแม่และน้องๆรวมทั้งครอบครัวที่เลี้ยงดูมาก็มีวิบากกรรมร่วมกันมา ต่างก็มาตอบแทนและชดใช้กัน คนทุกคนล้วนเกิดมาใช้กรรมทั้งสิ้นแต่เราก็ต้องใช้กรรมอย่างมีสติ ใช้กรรมและไม่สร้างกรรมต่อกันเพิ่มอีก คุณเข้ามาในเว็ปนี้ได้นั่นก็แสดงว่าคุณสติและมีบุญเก่าหนุนเนื่องให้คุณเลือกที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้อง
    ฝากไว้หน่อยค่ะ..พ่อ,แม่คือผู้ให้กำเนิดให้ชีวิตเรามาแม้ว่าท่านจะไม่ได้เลี้ยงดูก็ตาม เราเกิดมาเป็นคนครบ 32 ได้ก็เป็นบุญแล้วที่เหลือคือตัวเราเป็นผู้ดำเนินชีวิตเอง ท่านจะทำผิดหรือถูกเราผู้เป็นลูกไม่มีสิทธิ์ที่จะตำหนิท่าน ท่านก็มีเหตุผลของท่านเราก็ทำตามหน้าที่ของคนเป็นลูก สิ่งใดที่ผิดเรารู้เราไม่ทำตาม ผิดถูกกรรมจะเป็นตัวตัดสินเอง ขอให้เมตตาท่านเถอะเราพบ,เห็นคนที่ทุกข์ยากเรายังเมตตาเลย คุณเป็นคนกตัญญูอยู่แล้วนี่จ๊ะ ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ (หากคำแนะนำทำให้ขุ่นข้องหมองใจก็ขออโหสิด้วยค่ะ)
     
  14. ผลของกรรม

    ผลของกรรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2013
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +98
    ขอบคุณนะคะทึ่เข้าใจเรา เราจะพยายามทำให้ดีที่สุดค่ะ
     
  15. ติดบ่วง

    ติดบ่วง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2012
    โพสต์:
    194
    ค่าพลัง:
    +771
    อดทนใช้กรรมให้หมดครับ....ทำให้ดีที่สุดของเราก็พอ.. ใครไม่เห็นความดีของเราก็ช่างเขา...ทำดีไม่ได้ดี ทำคุณบูชาโทษ แสดงว่ากรรมอาจจะยังไม่หมด
     
  16. ...คนสู้กรรม...

    ...คนสู้กรรม... เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    360
    ค่าพลัง:
    +967
    ผมก็เหมือนคุณนะครับ คือคุณพ่อทิ้งคุณแม่ไป ตั้งแต่ผมเด็กๆ แล้วไปมีครอบครัวใหม่ ตอนนั้นจำได้ว่าผมเกลียดพ่อมาก ไม่อยากติดต่อด้วยเลย แต่เขาติดต่อผมมาเป็นระยะๆ พาไปเที่ยวบ้างตามโอกาส (นานๆครั้ง) แต่ผมไปอยู่ที่นั่น กับครอบครัวใหม่ของเขา ผมก็ไม่มีความสุขหรอกครับ

    เพราะก็เหมือนเราเป็นส่วนเกินของครอบครัวเขา อยู่ไปวันๆเหมือนกับเราเป็นใครซักคน ที่ไม่ใช่คนในครอบครัวเขา และผมอคติกับภรรยาใหม่ของพ่อมาก คือเขาแกล้งผมสารพัดตอนเด็กๆ ผมจึงผูกเกลียดมาตลอด จนผมโตขึ้นผมเลยเข้าใจ จากคำที่คุณแม่ของผมสอนมาคำหนึ่ง... "ถึงเราจะรักไม่ได้ เราก็ไม่จำเป็นต้องเกลียด เพราะความเกลียด มันทำให้เราเป็นทุกข์"

    แค่นั้นแหละครับ ผมเลิกติดต่อกับพ่อ แต่ถ้าพ่อติดต่อมาผมก็คุย ตามประสาพ่อลูก ตอนนี้ไม่คิดอะไรแล้วครับ พ่อเลิกกับแม่ พ่อไม่เลี้ยงดูเรา มันก็เป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่เขาต้องคุยกัน ส่วนเรานั้น แค่เขาไม่ทำแท้งเรา แล้วให้เราเกิดมาดูโลก ก็ดีเท่าไหร่แล้วครับ... เขาให้โอกาสเราเกิดมาทำความดี เราก็ควรที่จะทำประโยชน์ให้กับสังคม ครอบครัว และตัวเอง ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ จริงอยู่ครับที่ผมรักคุณแม่ มากกว่าคุณพ่อ แต่ผมไม่ได้เกลียดแล้ว ทว่าผมเคารพ และให้เกียรติท่าน ในฐานะที่ท่านเป็นผู้ให้กำเนิด ในฐานะพ่อ ถึงแม้ว่าคนที่เลี้ยงดูผมมา จะเป็นคุณแม่คนเดียวก็ตามที

    ส่วนในเรื่องของคุณ ผมคิดว่า ถ้าคุณไม่ติดต่อกับแม่ แล้วคุณมาเป็นทุกข์ ถ้าทำแล้วทุกข์ เกิดความเกลียดในใจ ฯลฯ ผมว่าอย่าทำเลยครับ ท่านก็เหมือนกับพ่อผม จริงอยู่ที่ท่านอาจไม่ได้เลี้ยงดู แต่ท่านมอบโอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดให้กับเรา นั่นคือ "การได้เกิดมาเป็นมนุษย์" โอกาสในการทำความดีอยู่ตรงหน้าครับ ไม่ไขว่คว้าไว้ตายไปจะเสียดาย... ตอนนี้โอกาสคุณยังมีเหลือเฟือครับ เพราะวันใดที่ไม่มีท่านแล้ว คุณจะเสียใจภายหลังครับ ว่าไม่ได้ดูแลท่านตามสมควรแก่บุตร ควรดูแลบิดามารดา คุณสามารถสร้างสัมพันธ์ใหม่กับท่านได้ เริ่มต้นกันใหม่ได้ แม้จะไม่ลงรอยกันในเรื่องของความคิด แต่เชื่อเถอะครับ ถ้าคุณตัดอคติที่ว่า "เขาไม่ได้เป็นคนเลี้ยงคุณมา" ได้ คุณจะเบากว่านี้เยอะครับ และผมยังยืนยันคำเดิมครับ "รักไม่ได้ ก็ไม่จำเป็นต้องเกลียด" สู้ๆครับ ยิ้มครับยิ้ม ^__^
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 17 มกราคม 2013
  17. NARKA

    NARKA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    1,572
    ค่าพลัง:
    +4,560
    แวะมาอ่าน จะให้ข้อคิด
    คุณว่า เด็กหลอดแก้ว เด็กผสมเทียมต่างๆ เขาจะคิดอย่างไร
    คุณว่าสุนัข แมว สัตว์ต่างๆบางพวก..ที่ตัวผู้ทิ้ง ตัวเมียเลี้ยง ถ้าลองคิดแทนมัน มันจะคิดอย่างไร..
    ...เรื่องของผู้ใหญ่(พ่อแม่)ที่สร้างกรรมทอดทิ้ง เรารับผลกรรมนั้นแล้ว...เราก็ต้องอดทน....คือ ถ้าไม่มีพวกเขา พวกเราก็ไม่ได้เกิด.....หรือเกิดแล้ว ดีที่พวกเขาไม่เอาเราไปทิ้งกองขยะ เหมือนแม่บางคนที่เป็นข่าว...
    ดังนั้น เมื่อเรามีสัญญา(ความจำ)ได้ เราก็ต้องเจ็บปวด.....
    แต่อย่าลืมว่า ใครก็ตาม เมื่อใช้สมมุติบัญญัติ กับพ่อแม่จริง...คนๆนั้นถือว่า อกตัญญู...
    คุณต้องไปศึกษาว่า "สมมุติบัญญัติ"คืออะไรให้ถ่องแท้เสียก่อน....เมื่อเจอปรมัทถฺ ขี้คร้านคุณจะน้ำตาซึม"ที่คิดผิด ทำผิด"มาโดยตลอด แต่ก็ยังไม่สายที่จะกลับมา"กตัญญู"ตามปรมัทถ์
     
  18. ผลของกรรม

    ผลของกรรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2013
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +98
    เราไม่ได้เกลียดแม่นะคะ ตอนนี้เราพยายามปล่อยวาง ไม่เข้าไปยุ่งเพราะไม่อยากสร้างกรรมใดๆ กับแม่อีก แค่เราอยากรู้ว่า การที่เราไม่ติดต่อแม่ มันเปรียบเสมือนการทอดทิ้งแม่หรือปล่าว

    สำหรับความคิดเห็นของคุณNARKA เราไม่เข้าใจคำว่าสมมุติบัญญัติจริงๆค่ะ รบกวนสรุปเป็นภาพคร่าวๆให้เราพอเข้าใจได้หรือปล่าวคะ แต่เราต้องบอกก่อนเลยนะคะ เราไม่ได้เกลียดแม่ และเข้าใจในระดับนึงแล้ว ว่าสิ่งที่เราต้องเจอ คือผลของกรรม ที่เราได้เคยทำมาในอดีตชาติ เราไม่ได้โทษแม่เราอย่างเดียวนะคะ เรารับรู้ถึงข้อนี้ค่ะ พอเรารับรู้แล้ว เราถึงไม่อยากสร้างกรรมกับท่านเพิ่มไงคะ อยากปล่อยวาง

    ตั้งแต่เราไม่ติดต่อกับแม่ เรารู้สึกปล่อยวางได้มากขึ้น และรู้สึกดีใจทีเราจะได้สร้างกรรมกับแม่น้อยลง แต่บางครั้งก็กลัวบาป อย่างที่ได้ถามไป และบางครั้งก็มีความเป็นห่วงอยู่บ้าง


    ในเมื่อชาตินี้เราได้เกิดมาในฐานะคนเป็นลูก เลือดเนื้อและชีวิตได้มาจากพ่อแม่ และเราอยู่ในฐานะที่ไม่อาจสร้างกรรมกับพ่อแม่ได้ เพราะมันจะบาปมากเราถึงอยากชดใช้กรรมให้หมดโดยการปล่อยวาง ซึ่งเราค้นพบแล้วว่า การติดต่อกับแม่ให้น้อยที่สุด เป็นการสร้างกรรมที่ทำกับแม่ให้น้อยลงได้ หลายคนคงไม่เข้าใจ ว่าการที่ลูกคนนึงต้องทะเลาะและมีความคิดเห็นไม่ตรงกันซักเรื่อง มันทรมานแค่ไหน การที่ทะเลาะกับแม่ตัวเองโดยที่ไม่ได้เกลียดท่าน มันทรมานแค่ไหน เราถึงคิดว่าเราคงทำบาปมามากจึงต้องอยุ่ในสภาพแบบนี้ จะมีสักกี่คนที่ไม่สามารถคุยกับแม่ได้ อย่างเช่นเรา เราถึงอยากหาวิธีหยุดสร้างกรรมเพื่อภพภูมิข้างหน้าเราจะได้มีพ่อแม่ ที่รักและดุแล และเอาใจใส่เราบ้าง

    หลายคนอาจบอกว่า แล้วทำไมต้องเถียงท่าน ทำไมต้องทำให้ท่านร้องไห้ เพราะคำพูดของเรา เราขอบอกไว้ก่อนเลยว่า เราไม่เถียงท่านไม่ได้เจตนาอยากทำให้ร้องไห้ เราเถียงในเรื่องที่คิดว่ามันถูกต้อง และเราฟังแนวคิดแม่แล้ว มันไม่ทำให้ศรัทธาในตัวท่าน เช่น น้องชายทำแฟนท้อง เราบอกให้น้องเรารับผิดชอบกับญาติของฝ่่ายหญิงอย่างลูกผู้ชาย ต้องมีความรับผิดชอบ ถึงแม้ญาติฝ่ายหญิงจะพอใจหรือไม่ก็ตาม แต่เราฟังความคิดของแม่ แม่กลับบอกว่าจะมาเอาเรื่องได้ยังไง ในเมื่ออยู่กินกันเอง ตกลงปลงใจทั้ง 2 ฝ่าย เราเลยบอกว่า ฝ่ายผู้หญิงเป็นฝ่ายเสียหาย เราควรต้องรับผิดชอบ ด้วยการคุยกับญาติของฝ่ายหญิง แสดงให้เค้ารับรู้ว่าทางเรารับผิดชอบ โดยเราขอให้แม่เราเป็นคนไปคุยกับญาติผู้ใหญ่ของฝ่ายหญิง เพราะเป็นแม่ของฝ่ายชาย

    แต่แม่กลับบอกปัด ว่าให้ญาติฝ่ายหญิงมาเจอกับอม่าของเรา ให้อม่าของเราจัดการไปเลย เรารู้สึกเสียศรัทธาในตัวแม่มาก

    อม่าเลี้ยงพวกเรามา 4 คน เป็นลูกแม่ 3 คน เลี้ยงมา หาข้าว หาน้ำให้กิน จนปัจจุบันอม่าแก่แล้ว ทำไมเรื่องไม่ดี หรือเรื่องที่มีโอกาสทำให้อม่าโดนว่า แม่เราต้องโยนเรื่องนี้มาให้อม่าด้วย อม่าเหนื่อยมามากพอแล้ว จริงๆแล้วมันเป็นหน้าที่ของคนเป็นแม่มากกว่า ในเมื่อเค้าไม่ได้มีโอกาสที่คอยดูพวกเรา แต่ก็มีโอกาสให้เค้าได้ทำหน้าที่บ้าง ให้พวกเรารู้สึกว่า แม่ได้ทำเพื่อเราบ้าง แต่แม่กลับโยนหน้าที่ไปให้อม่า ซึ่งอม่าได้เลี้ยงและดูแลพวกเรามามากพอแล้ว เราก็เลยถามว่าถ้ามีคนมาทำกับหนูและน้องสาว เค้าจะทำยังไง ลองเอาใจเค้ามาใส่ใจเรา แม่เราบอกว่า ไม่ว่าไรเพราะเด็กรักกัน เราอึ้ง ความคิดโลดแล่นเข้ามาแม่พูดอย่างนี้ได้ไง เพราะว่าแม่ไม่ได้เลี้ยงเรามาเหรอ ถึงได้พูดง่ายขนาดนี้ ใครมาทำให้ลูกสาวแม่ท้อง แม่ยอมเลยเหรอ ไม่ต้องขอโทษ ขอขมา ง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ เรารู้สึกโกรธแม่มาก เราเติบโตขึ้นมาด้วยความลำบาก อาจจะไม่เท่ากับคนอื่น แต่ในคนแวดล้อมทั่วไปแล้ว เราลำบากกว่าคนอื่นแน่นอน แต่ในที่สุดเราก็เรียนจบปริญญาตรี และมีบุญดี คือได้แฟนดี แฟนหมั้นเราแล้ว ด้วยความรับผิดชอบของลูกผู้ชายพึงกระทำ ทุกอย่างที่เราทำ เราคิดว่า เราได้ทำหน้าที่ต่อตัวเรา และสร้างความภูมิใจให้พ่อและแม่ในระดับหนึ่ง นั่นคือตั้งใจเรียนดิ้นรนจนจบมหาวิทยาลัย แม่ไป พ่อไป น้องไป ญาติไป ภูมิใจทั้งครอบครัว อีกครั้งตอนที่เราหมั้นกับแฟน เราได้ทำให้ท่านภูมิใจในระดับนึงว่า แฟนรักและให้เกียรติเราและครอบครัวของเรา

    แต่น้องของเรา ตอนนี้ไม่มีใครได้เรียนหนังสือสักคน ทุกคนทำงานเพื่อต้องเลี้ยงชีพตัวเองต่อไป เราเองก็ยังอยู่ในฐานะที่ไม่สามารถเลี้ยงดูใครได้ ตอนนั้นคิดว่าตัวเองจะทำได้ เครียดแบกรับทุกคนในครอบครัวและคิดว่าเราต้องทำเพื่อทุกคน อยากมีบ้านให้ทุกคนกลับมาอยู่ด้วยกัน แต่ชีวิตจริงมันไม่ง่ายเหมือนความฝัน ตอนนี้เราอยู่ในวัยสร้างตัว

    ทุกครั้งที่แนวคิดของเรากับแม่เข้ากันไม่ได้ เราจะเกิดคำถามว่าทำไม เค้าคิดอย่างงี้ได้ไง

    เราผิดหรอ ที่เราพุดในสิ่งที่ถูกต้อง และตรงกับแม่เรา ถึงแม้จะต้องทำให้แม่เราเสียใจก็เถอะ เราไม่อยากให้แม่เรามีมิจฉาทิฐิ คือหลงผิด ว่าความคิดของแม่ถูกต้องเราถึงต้องเถึยง แต่เราอยู่ในฐานะที่ทำให้แม่เสียใจไม่ได้ หากทำแล้วจะเป็นเป็นกรรมหนัก

    เมื่อก่อนเราสับสนมาก ระหว่างความถูกต้องและความกตัญญูที่ต้องเอาใจแม่ในเรื่องผิดๆ อะไรคือสิ่งที่เราต้องทำกันแน่ แต่ในความคิดและหัวใจของเรายืนยันอยู่เสมอว่า ต่อให้คนที่ทำผิดนั้นจะเป็นใคร จะเป็นพ่อ เป็นแม่ เป็นพี่ เป็นน้อง เป็นแฟน เรา เค้าจะต้องได้ยินในสิ่งที่มันถูกต้อง

    อาจจะดูว่าเราเป็นคนมั่นใจในตัวเองเกินไป และไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นของใคร แต่เมื่อเราพิจารณาแล้ว ความคิดของเราถูกต้องกว่าของแม่แน่นอน เราจึงต้องพูดออกไป และกลายเป็นกรรมของเราที่ทำให้แม่เสียใจนั่นเอง

    ในเมื่อแนวคิดเราไม่เหมือนกันเกือบทุกเรื่องและตัวเราก็ไม่อยากสร้างกรรมกับแม่เพิ่ม ทางเดียวก็คือ ติดต่อกับท่านให้น้อยที่สุด เพื่อที่จะสร้างกรรมกับให้น้อยที่สุด
     
  19. ผลของกรรม

    ผลของกรรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2013
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +98
    และเจตนาในการตั้งกระทู้ครั้งนี้ ไม่ใช่เพื่อให้คนว่าแม่ของเรา แต่สิ่งที่เราเขียนความไม่ดีในแม่ของเรา เพื่อขอให้ทุกคนมองหลายด้าน แล้วสะท้อนความคิดเห็นออกมาให้เราได้เห็นและพิจารณาให้ได้มากที่สุด เพื่อนำไปสู่การปฎิบัติที่ถูกต้อง หากแต่ต้องเป็นวิธีที่ต้องทำได้ด้วยในโลกของความเป็นจริง เช่น อย่าบอกให้เรากลับไปทำหน้าที่ลูก อย่าเถียง เพราะนั่นจะทำไม่ได้เลย หากติดต่อก็มีโอกาสสร้างกรรมเพิ่ม คือเรากับแม่ ตัดแม่ ตัดลูกกันหลายครั้งแล้ว แล้วก็กลับมาคุยกัน ก่อนจะกลับมาคุยกัน เราก็พยายามแล้วว่าเราจะไม่ทำให้แม่เราเสียใจ แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะความคิดเห็นไม่ตรงกัน

    อีกอย่างเรากลัวบาปที่เราไม่ติดต่อท่าน จะเป็นการที่เราไม่ดูแลท่านหรือปล่าว เราอยากรู้ว่า หากเรากตัญญูด้วยวิธีที่ไม่ต้องพูดคุยกับท่านจะได้มั้ย เช่น เราทำหน้าที่ของเราที่ได้เกิดมาเป็นคนให้ดีที่สุด เท่าที่จะทำได้ เราเคยได้ยินว่า การที่ลูกเกิดมาเป็นคนดี เท่ากับว่าเราได้ตอบแทนบุญคุญพ่อแม่แล้ว หรือ สวดมนต์และแผ่เมตตาให้ท่าน ขอพรให้ท่านแทน และทุกครั้งที่เราทำบุญ เราขอให้บุญนี้รักษาบิดามารดาของเรา

    วิธีนี้แทนได้หรือไม่ ถ้าทางโลกไม่ได้ เราก็จะตอบแทนในทางธรรม
     
  20. kitkun

    kitkun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    108
    ค่าพลัง:
    +579
    ขอย้ำ..คนเราบางทีชีวิตไม่จำเป็นต้องอยู่ร่วมกันเสมอไปมีหลายคนที่ตัดสินใจอยู่คนเดียวแต่ยังทำหน้าที่ดูแลผู้มีพระคุณอยู่ห่างๆ เช่น..เจอกันเดือนละครั้งอาจจะทานข้าวกันหรือให้ค่าใช้จ่ายประจำเดือน ไม่สบายหากมีโอกาสก็พาไปรักษาฯลฯ คำพูดอันใดที่จะก่อให้เกิดความไม่สบายใจก็ละเว้นเสีย ซึ่งคุณมีวุฒิภาวะแล้วย่อมเข้าใจได้ว่าควรทำอย่างไรคงไม่ต้องอธิบายมาก ผู้ที่มีพระคุณก็รวมถึงครอบครัวที่เลี้ยงดูมานั้นด้วย ก่อนที่คุณจะ..
    "เราทำหน้าที่ของเราที่ได้เกิดมาเป็นคนให้ดีที่สุด เท่าที่จะทำได้ เราเคยได้ยินว่า การที่ลูกเกิดมาเป็นคนดี เท่ากับว่าเราได้ตอบแทนบุญคุญพ่อแม่แล้ว หรือ สวดมนต์และแผ่เมตตาให้ท่าน ขอพรให้ท่านแทน และทุกครั้งที่เราทำบุญ เราขอให้บุญนี้รักษาบิดามารดาของเรา

    วิธีนี้แทนได้หรือไม่ ถ้าทางโลกไม่ได้ เราก็จะตอบแทนในทางธรรม"

    ขอให้ไตร่ตรองให้ดี
    อยากบอกคุณว่า..ถ้าคุณพ่อคุณแม่ท่านจากไปก่อนที่คุณจะได้ทดแทนพระคุณท่านและหากคุณเดินเข้ามาในเส้นทางธรรมถึงจุดๆหนึ่งแล้วคุณจะเสียใจและเสียดายที่ไม่ได้ทำ ทำ(ธรรม)เองแล้วจะรู้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มกราคม 2013

แชร์หน้านี้

Loading...