ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เทวราชมารไม่ได้เลวร้ายอย่างที่หลายคนคิด !!!

    [​IMG]

    กระปุกกา สมาชิก

    เรื่องกรรม...กับภัยพิบัติ !!!

    อ้างถึงกระทู้คุณ Kios ที่ห้องภัยพิบัติครับ

    น้ำปีนี้ไม่ท่วมกรุงเทพแน่ๆ ถ้าท่วมไม่เกิน 30 ซม.และไม่เกิน 2 สัปดาห์ แต่กรรมครั้งนี้ที่ถูกเปลี่ยนแปลงโดยเหล่าเทพ ผู้มีอภิญญาทั้งหลาย...จะกลับส่งผลทำลายอยู่เป็นแม่นมั่น...หลังน้ำท่วม...ประชาชนจะเกิดวิกฤตด้วยกิเลสเริ่มทำงาน...จากการที่ท่านทั้งหลาย เบี่ยงทางน้ำไปท่วมทุกที่ยกเว้นกรุงเทพ...ความเห็นแก่ตัวจะปรากฏ จะมีคำถามที่ว่า ทำไมคนกรุงเทพน้ำไม่ท่วมแล้วทำไมพวกเราท่วม ...วิ่งวุ่นวายเสียช่วงหนึ่ง

    และด้วยมิยินยอมให้มีการปรับธาตุในครั้งนี้...ต้องมีการปรับธาตุที่กรุงเทพ ใหม่อีกครั้ง...และคราวนี้จะรวดเร็วรุนแรงกว่าเรื่องน้ำท่วมแน่นอน...แม้น ไม่ยาวนานแต่ผู้เสียชีวิตมากกว่าแน่นอนและสุดท้ายปีหน้า....กรรมทั้งหลายที่ยังไม่ได้รับผลต้องได้รับผลเป็นแน่แท้...ด้วยกรรมลิขิตไว้


    ออกตัวครับ...ผมลองอ่านกระทู้คุณ Kios ดูและคิดว่า...อย่างน้อยๆเขาต้องเกี่ยวกับภัยพิบัติโดยตรงแน่ๆ...(คิดว่าเป็นร่างมารครับ-จากการลองสัมผัสกับกระแสของเขาน่ะ)....ผมเองฝึกสมาธิมาเวลาพอควรครับ ตรึงนิมิตได้นิดหน่อย...ตอนตรึงหาเขา (ไม่รู้อะไรดนใจให้ตรึงเหมือนกัน) รู้สึกว่าพลังงานมันแปลกอะครับ....หรือถ้าไม่เชื่อว่าเกี่ยวกับภัยพิบัติแต่ประเด็นที่เขาว่าเรื่องกรรมก็น่าคิดอยู่...ก็เลยลองตั้งกระทู้ดูครับ

    ถ้าเป็นตามที่เขาพูด มันจะหมายความว่าไงครับ หมายความว่ากรรมกำหนดไว้แล้ว แล้วเราไม่ควรแทรกแซงเหรอครับ??? ถ้าเป็นแบบนั้นก็เท่ากับปล่อยให้มีภัยพิบัติคนตายไปทั่วเหรอครับ...หรือการแทรกแซงที่ถูกควรเป็นเยี่ยงไรครับ....ผมว่าไม่มีอะไรใหญ่เกินกรรม...แต่จะให้ไม่แทรกแซงเลยแล้วว่าอุเบกขานี้ก็รู้สึกใช่ที่...ที่ถูกควรทำอย่างไรครับ

    เห้อ...อาจารย์ผมเคยบอกครับ ว่าเจอมารอย่ากลัว..และยิ่งไม่ต้องรังเกียจด้วย เพราะมารเขามีหน้าที่อันสำคัญ...นั้นคือหน้าที่ของผู้ทดสอบ...ว่าตัวเราเองฝึกปฏิบัติถึงขั้นไหนแล้ว...ยิ่งถ้าเป็นเทวบุตรมารจริงๆ ยิ่งมิต้องรังเกียจ ด้วยมารพวกนี้...บางตนเข้าถึงธรรมยิ่งกว่าเราทั้งหลายเสียอีก เนื่องด้วยก่อนมาเป็นเทวบุตรมาร ต้องบำเพ็ญผ่านเทวโลกมากทั้งหมดแล้ว...ถ้าไม่ผ่านจะให้มาทำหน้าที่ในการทดสอบมนุษย์ได้ยังไง...

    ตอนนั้นไม่เชื่อหรอกครับ...มารจะดีได้ไง...ยิ่งต่อๆมายิ่งเข้าไปใหญ่...ที่เรียกว่ามารก็มีแต่พวกเมา หัวราน้ำ ไร้ศีล ไร้ธรรมกันทั้งสิ้น เฮ้อ...แต่วันนี้คงต้องคิดใหม่แล้วครับ...เมื่อกี้เข้าไปดูที่คุณ Kios เขียนเพิ่มเติม..ถ้าคุณเป็นมารจริง...ผมคงต้องยอมรับครับ เอาแค่การรู้จักกิเลสของคน คุณก็กินขาดผมหลายขุมแล้ว...

    Kios
    **15/10/2011
    กาลถึงคราวอันเหมาะสม...คราวนี้ท่านเทพ และผู้มีอภิญญาจะทำเยี่ยงไร กิเลสอันชัดเจน.....แสดงในเวลาอันโกลาหล....คราวนี้ผู้อยู่นอกนคร....เริ่ม ประท้วง....ด้วยใจหมาย....คิดพังทลาย....ซึ่งคั้นกั้น....ให้วารีนั้นนำเข้า ....สู่นครอันศิวิไล....ด้วยสำคัญหมายเป็นทางออก...รอดพ้นอุบัติภัย...ความ เห็นแก่ได้นั้นเด่นชัด...ท่านทั้งหลายจะทำเช่นไร

    แลถ้ามิให้น้ำท่วมนครเทพ.....จะเป็นเชื้อให้กิเลส...ลุกไหม้มอดม้วย...หมดสิ้นทางแก้ไข แลยินยอมให้นคร...เกิดภัยจากวารี...กิเลสแห่งชาวศิวิไล....จะปรากฏเป็นแน่แท้...ความช่วยเหลืออันใด...มิมีทางถึงผู้อยู่ภายนอก...ความเห็นแก่ตัวแห่ง ชาวกรุงจะปรากฏ...เป็นเชื้อความวิบัติอีกทางหนึ่ง....แลจักมีบางกลุ่มพวก...หนักหนาด้วยโทสะ...อันมากยิ่ง...จักต้องโทษผู้อยู่นอก...ว่าเป็นเหตุวิบัตแห่งอาโป...ต้องเข่นฆ่าให้อาสัณ...กลายเป็นแดน วิสัญญี...ท่านทั้งหลายจะทำเยี่ยงไร...เราเหล่ามารจะขอดู...

    โดยสรุปแล้วมีใครมีวิธีอื่นๆในการช่วยเหลือไหมครับ...อ่านแล้วยิ่งวางอุเบกขาหนัก...หรือจริงๆแล้วไม่ควรแทรกแซงกรรมจริงๆ..

    ป.ล.ขออนุญาตย้ายกระทู้จากห้องภัยพิบัติครับ...เพราะเรื่องนี้น่าจะเกี่ยวกับกรรมมากกว่า

    15-10-2011, 01:56 PM

    ที่มา http://palungjit.org/threads/เรื่องกรรม-กับภัยพิบัติ.310192/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ตามเก็บข้อความเก่าๆของคุณกระปุกกา มาให้ได้อ่านกันครับ !!!


    กระปุกกา สมาชิก

    อิอิ.. ช่วงนี้ร้อนวิชาครับ เหมือนเจอสหายธรรมใหม่เลยตื่นเต้นครับ วันนี้ก็ไปหาเขามาอีกครั้งแล้วครับ ประเด็นคือเดียวเขาจะไปต่างจังหวัดไม่ว่างเกือบเดือนครับ ผมก็เลยรีบไปหา วันนี้ได้คุยจริงๆจังๆพอดูไงๆจะพยายามพิมพ์มาไว้น่ะครับ เพื่อเป็นประโยชน์ให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆทุกคนครับ ยาวนิดหนึ่งน่ะครับ อาจจะดูเล่นๆบ้างเพราะผมคุยกันแบบเพื่อนสนิทน่ะครับ

    เนื่อง จากเมื่อว่างที่เขาว่าผมว่า "การอยากรู้ธรรมะก็เป็นกิเลสตัวหนึ่ง แบบนี้ไม่มีทางเข้าถึงธรรมได้แน่" ผมก็เอามานั่งคิด นอนคิดอยู่ครับ ว่าเอ้...ถ้าความอยากมันอาจจะเป็นกิเลสที่ทำให้เข้าไม่ถึงธรรม แต่ถ้าไม่อยากสนใจธรรมะเลยนี้มันจะเข้าถึงธรรมได้ไง เพราะถ้าไม่อยากสนใจธรรมะ แล้วเราพยายามเข้าไปหาคำสั่งสอนของพุทธองค์เหรอ แล้วเราจะไปตามหาครูบาอาจารย์ หาความรู้เหรอ ???

    สรุปได้ความมาแล้วครับ
    A(อันนี้ตัวผมครับ เอ ครับ): แบงค์ที่นายบอกวันก่อนอะ เรื่องความอยากเป็นกิเลสที่ขัดชวางการเข้าถึงธรรมน่ะ เราไม่ค่อยเข้าใจเท่าไร นายอธิบายเพิ่มเติมหน่อยซิ
    B(เพื่อนผมครับ เขาชื่อแบงค์): ไม่เข้าใจอะไรอะ
    A:ก็ถ้าเราไม่อยากแต่ต้นเราจะรู้ข้อธรรมะได้ไงอะ ถ้าไม่อยากเราก็ไม่ขวยขวายจะคุยกับนาย แล้วเราจะเข้าถึงธรรมะได้ไง
    B:เวลานายจะมาบ้านเรา นายมาไงอะ
    A: ก็ขับรถมาซิ
    B: ไม่ใช่เวลานายจะมาบ้านเรา ทำไมนายถึงมา
    A: ก็อยากมาคุยกับนาย
    B: ทำไมถึงอยากมาคุยละ
    A: ก็เรามีอะไรอยากถามนายน่ะ อยากปรึกษาเราก็เลยมา
    B: นายต้องมีเรื่องไม่สบายใจ เป็นทุกข์ใช่ไหมนายเลยมาหาเรา
    A: อืม
    B: เข้าหาธรรมะก็เหมือนกันแหละ ตอนแรกนายมีเรื่องไม่สบายใจที่แก้ไม่ตก ทุกข์ที่แก้ไม่ตก นายเลยพยายามทำตัวให้พ้นจากความทุกข์นั้น จิตตอนนั้นต้องการความสุข จะเรียกว่าเป็นกิเลสก็ได้ จิตที่ต้องการความสุขนั้นพยายามหาทางออกจากทุกข์ นายอาจจะเริ่มจากทำบุญที่วัดต่างๆ ซึ่งถ้าทุกข์ไม่มากจิตนายก็จะดีขึ้น หายทุกข์ พอหายทุกข์นายก็ไม่สนใจที่จะศึกษาอะไรต่อใช่ไหม
    A: อืม ก็คงงั้น
    B: อืมสภาวะจิตที่เกิดขึ้นคือ จิตเป็นทุกข์ ถูกผลักด้วยกิเลสที่อยากจะพ้นจากทุกข์ นายก็เลยไปทำบุญ ถ้าทำบุญแล้วรู้สึกดี นายก็จบตรงนั้น จิตรู้สึกสุขแล้วก็หยุด
    A: อย่างนี้ก็เหมือนไปทำบุญด้วยกิเลส ความอยากอะซิ
    B: ใช่....
    A: แล้วแบบนี้ก็ถูกกิเลสรัดไว้น่ะซิ จะผ่านไปได้ไง
    B: อืม...เดียวซิอย่างพึ่งสรุป มาต่อก่อน ถ้านายทำบุญแล้วไม่พ้นทุกข์ละ จะเอาไงต่อ
    A: อืม ก็หาทางอื่นต่อ
    B: อืม.... จิตมันไม่หยุดนิ่งหรอกตอนแรกแค่ทำบุญอาจจะทำให้จิตสุขได้ แต่พอจิตไปเจอความทุกข์มากขึ้น แค่ทำบุญอาจจะช่วยไม่ได้ จิตหาทางออกใหม่ในที่นี้คือลองถือศีลดู อาจจะช่วยได้ส่วนหนึ่ง แต่ไม่ตลอดหรอกเดียวมันก็มีทุกข์ที่ศีลช่วยไม่ได้ จิตก็ต้องหาทางออกมาขึ้นไปอีกคือลองศึกษาธรรมะดูละกัน พอเข้าใจธรรมะระดับหนึ่งก็ช่วยให้สุขได้ระดับหนึ่ง แต่มันก็ต้องมีทุกข์ที่แก้ไม่ได้อีก จิตก็ทำงานแบบนี้วนเวียนไปเรื่อยๆ จิตก็ถูกผลักด้วยกิเลสที่เรียกว่าความอยากมีสุขไปเรื่อยๆ
    A: งั้นก็ไม่หลุดซะทีซิ
    B: ทำไมจะไม่ละ พอถึงจุดหนึ่งถ้านายเข้าใจได้ และสัมผัสได้ว่าอ้อ...ที่เรามีทุกข์อยู่เรื่อยๆเพราะไอ้กิเลสความอยากนี้ นายจะไม่พยายามจัดการตัดกิเลสนั้นทิ้งเหรอ
    A: ถ้ารู้แบบนั้นก็ต้องพยายามจัดการอยู่แล้ว....
    B: อืมใช่ เมื่อถึงจุดหนึ่งที่นายสัมผัสอะไรมากขึ้น เดียวจิตมันก็จัดการตัวความอยากมีสุขเองแหละ ซึ่งถ้าถึงจิตนั้นนายเองก็จะพ้นจากการถูกผลักดันด้วยความอยากมีความสุข เมื่อพ้นจากกิเลสละเอียดแบบนี้แล้วตอนนั้นก็ถึงจุดที่สำนักโคตมะ (*อันนี้เพื่อนผมเขาเรีกแบบนี้น่ะครับ ไม่ทราบเพราะเหตุใด น่าจะหมายถึงพระพุทธศาสนา) เรียกว่าวิถีแห่งนิพพานเองแหละ
    A: อย่างนั้นแปลว่า...เราต้องปล่อยตัวเองไปตามความอยากที่เป็นกิเลสก่อนเหรอ ไม่เห็นสมเหตุสมผลเลย
    B: ถ้านายรู้ว่านายมีกิเลส นายจะปล่อยตัวเองไปกับมันเหรอ
    A: ไม่อะ ถ้ารู้ว่ามีกิเลสอยู่เราก็ไม่ยอมหรอก
    B: แล้วงั้นนายมาหาเรา พยายามคุยกับเราทำไมละ นายกำลังถูกกิเลสผลักดันอยู่น่ะ
    A: ….. (อึ้งครับ....คิดอะไรไม่ออก)
    B: หรือความจริงแล้วนายยังไม่ได้สัมผัสไอ้กิเลสตัวที่เราพูดถึง นายถึงเดินตามมันอยู่
    A: ….ไม่รู้ได้ไง ก็พูดกันอยู่เนี่ย
    B: การสัมผัสได้ กับการเข้าใจมันต่างกันน่ะ ที่คุยกันเนี่ยนายก็ใช่แค่ความเข้าใจพูดกัน นายยังไม่ได้สัมผสถึงกิเลสตัวนั้นเลย
    A: ……..(แล้วสัมผัส ยังไงอะ...)
    B: อิอิ....ถ้านายเจอกองไฟ นายจะเข้าไปหามันไหม
    A: ไม่อะ มันร้อน
    B: แล้วถ้านาย ยังเดินเข้าไปหามันละ...
    A: …..ก็แสดงว่ามันไม่ร้อนไง
    B: หรือว่าความจริงมันร้อนแต่นายยังไม่สามารถสัมผัสมันได้เพราะความไวในการรับสัมผัสของนายไม่พอหรือเปล่า... ฉันใดก็ฉันนั้น กิเลสก็เหมือนกัน ถ้านายสัมผัสได้ว่าร้อน จิตก็จะออกห่างไปเอง ถ้ายังสัมผัสไม่ได้ จิตก็ยังเดินไปหามันอยู่ดี นายเองเพียงฟังจากเราว่าความอยากเป็นกิเลส แต่นายยังไม่สัมผัสมันเลย นายก็เลยยังตกอยู่ในอำนาจของมันอยู่ไง
    A: แล้วสรุปแล้วให้ทำไงอะ
    B: ก็ไม่เห็นยากอะไรนิ ถ้าจิตนายสนใจธรรมะเพราะความความอยากผลักดัน ก็ไปตามนั้นก่อน พอจิตเห็นว่าความอยากที่ผลักดันเป็นทุกข์ จิตก็จัดการเองแหละ
    A: สรุปคือ ก็ทำตามความอยากไปว่างั้นเถอะ
    B: จะว่างั้นก็ได้ แต่ไม่เหมือนปกติก็ตรงทำตามอย่างมีสติรู้นั้นแหละ เพราะถ้าไม่มีสติมันจะหลง ถ้ามีสติเดียวมันจะค่อยๆเห็นเองว่าความอยากรู้ธรรม ความอยากทำบุญ ความอยากมีสมาธิ ความอยากมีปัญญา มันเป็นทุกข์ เดียวพอรู้สัมผัสได้จริงๆ ไม่ใช่แค่เข้าใจ จิตมันก็จัดการตัวเองเองแหละ
    B: แต่ไม่ต้องเชื่อเราหรอก ไปลองดูถ้าใช่ก็เห็นเอง ไม่ใช่ก็ลืมๆที่เราพูดซิ ฮาฮา

    จบลงด้วยประการฉะนี้ครับ มาทบทวนดูมีหลายเรื่องผมยังไม่ค่อยเข้าใจแน่ชัด คงต้องลองตรึกตรองให้ดีอีกครั้งครับ

    ป.ล.วันนี้พยายามคุยเรื่องภัยพิบัติต่างๆด้วย เขาไม่ยอมคุยเลยครับเงียบอย่างเดียวเลย พิมพ์ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยครับ .... เพื่อนๆพี่ๆน้าๆมีทัศนะอย่างไร แสดงไว้ได้ครับ ถ้ามีโอกาสจะพยายามเป็นตัวกลางถามเขาให้อีกที่ครับ

    02-10-2012, 10:34 AM

    ฮั้วโต๋ สมาชิก

    ...อาจารย์ขยายความให้...สำนักโคตมะ หมายถึง สมเด็จองค์ปัจจุบัน....
    ..."จิตมันจัดการตัวมันเอง"หมายถึง จิตนำทำเอง ไม่ต้องบังคับหรือฝืนใจทำ
    ...ทำตามความอยากหรือกิเลสก่อน หมายถึง เรียนรู้ให้เข้าใจว่ากิเลสแต่ละอย่างมีอะไรบ้าง เมื่อเข้าใจในกิเลสแต่ละอย่างแล้ว จึงตัดกิเลสออกจากจิต...
    อาจารย์ขยายความให้เท่านี้ก่อน เพราะการเรียนรู้ในพระธรรมคำสอนของสมเด็จ เมื่อเรียนรู้แล้วต้องจำและเข้าใจด้วย จึงนำไปปฏิบัติได้ถูกต้อง...
    อย่าใจร้อน ค่อยเป็นค่อยไป ช้า ๆ ได้พร้าเล่มงาม....

    เจริญในธรรม มีพระพุทธเจ้าในจิตให้มาก ๆ

    ที่มา http://palungjit.org/threads/สัญญาณฟ้าเตือนภัยพิบัติ.294356/page-402
     
  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ขออนุญาตส่งต่อข้อมูล !!!

    เกษม สมาชิก

    กราบเรียนถามอาจารย์ฮั้วโต๋ มีเพื่อนสมาชิกบางท่านสนใจที่จะอ่านข้อมูลที่อาจารย์ได้ส่งมาให้ผมได้อ่านทาง PM นี้ด้วย แต่ผมไม่ทราบว่าจะสมควรหรือไม่อย่างไร จึงได้ส่งจดหมายนี้มาเรียนถามอาจารย์ว่า ผมจะส่งต่อข้อมูลนี้ให้เพื่อนๆ ที่มีความสนใจได้หรือไม่ครับ

    ฮั้วโต๋ สมาชิก

    ..สวัสดีครับ.
    การส่งข้อมูลให้ผู้อื่นต้องระวังนิดนึง ตรงที่ว่า เขาเชื่อหรือไม่.และเมื่อรู้แล้ว.จะไม่ดูหมิ่นในข้อความนั้น ๆ ว่าเป็นไปได้หรือ.หรือไม่มีในตำราอะไรประมาณนี้ครับ.เพราะข้อความบางบทไม่มีในตำรานะครับ. ก็ให้ระวังตรงจุดนี้.

    ..และอีกประการนึง นามของผู้เป็นเจ้าของข้อความ เขาเป็นเทวราชมาร ถ้าส่งจิตไปตามชื่อ ก็มีอันตรายได้ ถ้าอ่านแล้วไม่คิดที่จะลองดีกับเขา ก็ไม่เป็นไร.อาจารย์ไม่ห้ามในการส่งต่อข้อความครับ.แต่ต้องระวัง ทำความเข้าใจกับเพื่อน ๆ ให้ดีครับ..

    ..และท่านก็สามารถ คัดข้อมูลลงในกระทู้ของท่านได้.คัดเอา เรียบเรียงเอา.แต่ไม่เปิดเผยนามเทวราชมาร. อาจารย์ไม่ห้าม ไม่หวงในข้อความ ดีเสียอีกจะได้ช่วยกันประกาศเตือนภัยให้ทราบกันหลาย ๆ ทาง.

    ..อาจารย์ทำงาน เป็นฝ่ายกลาง ระหว่างเทพผู้รักษา และฝ่ายเทวราชมาร.จึงทราบข้อมูลที่เป็นจริง.ในเหตุที่จะเกิด.บางเหตุทราบล่วงหน้านานพอควร..ท่านเกษม นำไปพิจารณานะครับ..หากมีข้อมูลใหม่ อาจารย์จะส่งให้อีก ที่มีอยู่ก็เก่าแล้ว.จะได้มีความรู้กันครับ..ขอบคุณมากครับ..

    เจริญในธรรม มีพระพุทธเจ้าในจิตให้มาก ๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มกราคม 2013
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เราหวังว่าสิ่งนั้นจะมิได้เกิดขึ้น !!!

    กระปุกกา สมาชิก

    ขอขอบคุณทุกท่านที่กระทำให้ผล(สรุป)ออกมาเยี่ยงนี้ ความจริงนี้เป็นสิ่งอันเราควรจะบอกกล่าวนานแล้ว แต่ถ้าพูดเยี่ยงนี้ในเบื้องต้น พวกท่านทั้งหลายคงมิได้มีจิตใจจดจ่อและเข้าใจเรา

    ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณทุกสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะผลจากเหตุการณ์นั้นเป็นไปด้วยดีนัก เราเข้าใจว่าท่านทั้งหลายมิสามารถบอกกล่าวผู้อื่น ถึงตัวตนที่แท้จริงของเราได้ แต่ท่านทั้งหลายก็สื่อสารสิ่งที่เราต้องการบอกกล่าว กับพวกท่านได้ชัดเจนนัก ทั้งกลุ่มช้างน้อยๆ ที่ตอนนี้ตัดสินใจออกมาภายนอก เพื่อรวบรวมผู้คนเข้าถึงธรรมทั้งภายใน และรักษาธรรมชาติภายนอก กลุ่มคุณ Kios ที่สุดท้ายก็ยินยอมใช้อภิญญาที่กลุ่มท่านมีนักหนา ในการเฝ้าดูแลธรรมชาติทั้งหลาย

    ทั้งกลุ่ม siberian ที่สุดท้ายก็ปฎิรูปวิธีสอนและกิจกรรมในวัด ของพวกท่านเพื่อเน้นการเข้าใจถึงธรรมและธรรมชาติ และสุดท้ายคุณฮั้วโต๋ ที่แม้จะยากเย็นเพียงใด แต่ท่านก็ได้สื่อให้กลุ่มบุคคลมากมายรับรู้ว่า ธรรมชาติทั้งหลายนั้นเสื่อมก็ด้วยมนุษย์ จะดีก็ด้วยมนุษย์ จะรักษาโลกไว้ก็เพราะท่านทั้งหลายเหล่ามนุษย์นั้นแหละ

    มีสิ่งหนึ่งท้ายสุดที่เราต้องว่ากล่าวไว้ คือเราทั้งหลายมิได้จงเกลียดจงชังมนุษย์ หรือพระพุทธศาสนาของพวกท่าน เราเพียงสนใจแต่ธรรมชาติทั้งหลายเท่านั้น ถ้าธรรมชาติทั้งหลายเป็นไปด้วยดี เราเองก็มิได้อยากลงมาวุ่นวายอันใด แต่เพราะมันเสื่อมอย่างรุนแรง เราทั้งหลายจึงต้องออกเสียจากการทำสมาธิของพวกเราลงมากระทำกิจ

    สุดท้ายเราบอกท่านเสียอีกครั้ง เราทั้งหลายนั้นทำตามธรรมชาติ ถ้าธรรมชาติดีเรารักษาไว้ ถ้าเสื่อมจนเกินเยียวยา ก็เป็นหน้าที่ของเราที่ต้องทำลายทิ้ง เพื่อสรรสร้างสิ่งใหม่ๆ ท่านทั้งหลายมิอยากให้เกิดภัยรุนแรง ท่านก็รักษาธรรมชาติอย่าให้เสื่อมทรามอย่ารุนแรง ถ้าไม่ต้องการให้เกิดภัยเลย ก็รักษาธรรมชาติไม่ให้เสื่อมเลย เมื่อเป็นเยี่ยงนั้น ก็ถือว่าท่านทั้งหลายมีอำนาจเหนือเราแล้ว

    สุดท้ายเราหวังว่าด้วยปรีชาณาน และปัญญาทั้งหลายของศาสนาของท่าน คงสามารถดูแลธรรมชาติเหล่านั้นไว้ได้ โดยที่เรามิต้องลงมือกระทำการอันใด.... แต่ถ้าจะดูถึงสถานะปัจจุบัน เราแจ้งไว้ให้ทราบ ว่าตอนนี้ธรรมชาติเสื่อมอย่างหนัก 4 ใน 10 ส่วน เสื่อมบ้าง 5 ใน 10 ส่วน ยังดีอยู่ 1 ใน 10 ส่วน ถ้าท่านมิทำอันใด ด้วยสถานะเหล่านี้ในไม่เกิน 5 ปี เราทั้งหลายต้องล้างโลกธาตุนี้ทิ้ง เพื่อสร้างขึ้นใหม่เป็นแน่แท้ ซึ่งเราหวังว่าสิ่งนั้นจะมิได้เกิดขึ้น

    ขอลา

    ข้อความทาง PM ที่ท่านฮั้วโต๋ได้ส่งมาให้ตัวผมและเพื่อนๆได้รับทราบโดยทั่วกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มกราคม 2013
  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    จับตาภูเขาไฟที่ปลายแหลมญวน

    [​IMG]

    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ดูที่จิต<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4489124", true); </SCRIPT> สมาชิก

    เมื่อคืนฝันแผ่นดินไหวประมาณ 8.6 ริกเตอร์ห่างจาก จังหวัดตราดไปในทะเลเฉียงไปทางเขมร น่ากลัวมาก<!-- google_ad_section_end -->

    17-03-2011, 01:48 AM

    คลิป ภูเขาไฟใกล้ไทยรอวันปะทุ

    ในประเทศไทย พบว่าภูเขาไฟส่วนใหญ่มักเกิดบริเวณภาคเหนือ กระจายตัวและตำแหน่งที่ไม่แน่นอน สันนิษฐานว่าเป็นภูเขาไฟเมื่อประมาณ 2-4 ล้านปีที่แล้ว จากรายงานทางธรณีวิทยาและแผนที่ทางธรณีวิทยา พบบริเวณที่เป็นหินภูเขาไฟ หรือหินบะซอลต์อยู่ 5 บริเวณ ได้แก่

    บริเวณที่ 1 ทางภาคเหนือ ได้แก่ อำเภอแม่ทา อำเภอสบปราบ และอำเภอเมืองลำปาง ทางด้านทิศตะวันตกของจังหวัดแพร่ น่าน อุตรดิตถ์ ตาก และสุโขทัย เป็นหินบะซอลต์ ไรโอไลต์ แอนดีไซต์ และแอกโกเมอเรต (ศิลาแลง)

    บริเวณที่ 2 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณเขากระโดง เขาพนมรุ้ง และภูอังคาร จังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ และทางทิศใต้ของจังหวัดศรีสะเกษ

    บริเวณที่ 3 ที่ราบสูงภาคกลาง พบที่จังหวัดสระบุรี โคกสำโรง หล่มเก่า ท่าลี่ และทางด้านทิศตะวันตกของภูกระดึง จังหวัดเลย อำเภอเดิมบางนางบวช อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี

    บริเวณที่ 4 ภาคตะวันตก พบที่อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี

    บริเวณที่ 5 ภาคตะวันออก พบที่บ้านบ่อไร่ จังหวัดตราด บ้านบ่อพลอย จังหวัดจันทบุรี

    ภูเขาไฟที่พบในประเทศไทยทั้งหมดเป็นภูเขาไฟที่สิ้นพลังแล้วทั้งสิ้น อายุอย่างน้อยที่สุดประมาณ 7 แสนปี

    ส่วนใหญ่มีสัณฐานแบบรูปโล่ (Shield Volcanoes) คือสัณฐานไม่สูงมากนักมีความลาดเอียงไม่เกิน 10 องศา ส่วนความเอียงที่ฐานไม่เกิน 2 องศา และมีแร่รัตนชาติอยู่มาก เช่น ทับทิม บุษราคัม และเขียวส่อง เป็นต้น ส่วนภูเขาโคลนที่พบในทะเลอันดามัน มีโอกาสน้อยมากที่จะเป็นภูเขาไฟ แต่ยังต้องรอการพิสูจน์ที่ชัดเจนต่อไป

    วรวุฒิ ตันติวนิช" ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่ปรึกษาทางการบริหารจัดการทรัพยากรธรณี กรมทรัพยากรธรณี ซึ่งระบุว่าภูเขาไฟลูกนี้เคยระเบิดมาแล้วเมื่อครั้งอดีต แต่เป็นภูเขาไฟขนาดเล็กไม่ค่อยมีความสำคัญในสายตาของนักวิทยาศาสตร์โลก แต่บังเอิญว่าเป็นภูเขาไฟที่อยู่ใกล้ประเทศไทย

    วรวุฒิอธิบายว่า ภูเขาไฟบนเกาะบาร์เรนตั้งอยู่กลางทะเลอันดามัน อยู่ห่างจากหมู่เกาะนิโคบาร์ ประเทศอินโดนีเซีย ไปทางทิศตะวันออก มีประวัติการปะทุและระเบิดของภูเขาไฟลูกนี้เป็นระยะๆ แต่ไม่รุนแรง ล่าสุดปี 2538 มีรายงานการปะทุและมีรายงานการพ่นลาวาออกมา

    อย่างไรก็ตามวรวุฒิ บอกว่า บนเกาะบาร์เรนไม่มีคนอยู่อาศัย จึงไม่ค่อยมีข้อมูลเกี่ยวกับการระเบิดมากเท่าไรนัก แต่ภูเขาไฟลูกนี้ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ประธานกรรมการอำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กังวลว่าหากเกิดการระเบิดอาจจะเกิดสึนามิ ซึ่งประเทศไทยอาจได้รับผลกระทบจากภูเขาไฟลูกนี้ เพราะอยู่ใกล้ประเทศไทยมากกว่าภูเขาไฟลูกอื่นๆ

    เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2550 มีรายงานการปะทุและระเบิดของภูเขาไฟบนเกาะบาร์เรนที่อยู่ห่างจากเกาะนิโคบาร์ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 135 กิโลเมตร ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านภูเขาไฟระเบิดจากประเทศอินเดีย ลงไปสำรวจร่องรอยการระเบิดครั้งใหม่ในรอบ 10 ปี เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ที่ผ่านมา พบลาวาและหินระเบิดพุ่งออกมาอย่างรุนแรงจากปล่องภูเขาไฟ มีอุณหภูมิตั้งแต่ 900 ถึงมากกว่า 1,200 องศาเซลเซียส พร้อมด้วยฝุ่นหินของลาวาที่ร้อนแรงพุ่งออกมาจากปล่องสูงถึง 100 เมตร นานกว่า 15-30 วินาที หมอกควันที่ระเบิดออกมา มีรูปร่างคล้ายดอกเห็ดใหญ่ๆ ที่มีทิศทางพุ่งไปทางเหนือ

    นอกจากนี้วรวุฒิ ยังระบุถึง ภูเขาไฟอีกลูกที่อาจก่อให้เกิดคลื่นสึนามิชายฝั่งอ่าวไทย นั่นคือ ภูเขาไฟที่ตั้งอยู่ตรงบริเวณปลายแหลมญวน หากระเบิดขึ้นมาอาจทำให้เกิดคลื่นสึนามิได้ แต่ตอนนี้ยังสบายใจได้ เพราะภูเขาไฟลูกนี้ยังสงบเงียบอยู่

    แต่ขณะเดียวกันภูเขาไฟกรากะตัวที่ยังคุกรุ่นอยู่ด้วย ยังเป็นสิ่งที่น่ากังวล เพราะหากภูเขาไฟลูกนี้ระเบิดอีกครั้งอาจทำให้เกิดสึนามิได้เช่นกัน ภูเขาหินยักษ์ที่อัดแน่นไปด้วยแมกม่าจากหินหลอมละลายใต้พิภพเกือบ 200 แห่งทั่วโลกอาจกำลังถูกปลุกด้วยการขยับตัวของแผ่นเปลือกโลก ฤา...ใกล้ถึงวงรอบการระเบิดของภูเขาไฟครั้งประวัติศาสตร์ที่จะย้อนมากลืนอารยธรรมของมนุษย์อีกครั้ง!

    ที่มา http://atcloud.com/stories/21326
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มกราคม 2013
  6. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    "ภาคตะวันออก"อาจจะจมทะเล ถ้าแผ่นดินต้องเลื่อนลงไปทดแทน !!!


    'ดร.กัญจีรา กาญจนเกตุ' กับ 'คำทำนายคลื่นยักษ์ในอ่าวไทย' การ ทำนาย ทุกครั้งก็ไม่ได้พูดส่งเดช แต่มีหลักความเป็นไปได้ ส่วนใหญ่จะมองจะวิเคราะห์เป็นรายปี ถามว่าเคยพลาดไหม ตรงนี้แหละที่แปลก อย่างเหตุการณ์พายุนาร์กีสที่พม่า แผ่นดินไหวที่จีน ก็เคยเตือนไว้ตอนปี 2548-2549 ว่ามันจะเกิด มันก็เกิดขึ้นในปี 2551 จริง ๆ”

    ปลายปี 2550 เตือนย้ำเรื่องพม่า จีน และต่อที่อินโดนีเซีย เกิดแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด และกระทบถึง ศรีลังกากับอินเดีย ต่อเนื่องมาที่ลาว ซึ่งถ้าลาวแผ่นดินไหวไทยก็ต้องเจอ แต่ไม่รู้ว่าวงจรนี้จะเกิดเมื่อใด ?

    สำหรับคำทำนายที่เกี่ยวกับไทย ดร.กัญจีรา บอกว่า

    “สัญญาณอันตรายจะเกิดขึ้นด้วยคลื่นความถี่ ภาพภัยพิบัติล่าสุดที่เห็นคือ ภูเขาไฟในอินโดนีเซียปะทุและระเบิด เกิดคลื่นยักษ์ในอ่าวไทย ไม่ใช่สึนามิแต่จะเป็นคลื่นที่ระลอกแล้วระลอกเล่าถาโถมเข้ามาพร้อม กับพายุที่มีความรุนแรงกว่าปกติ คนที่อยู่แถวริมทะเลจะได้รับผลกระทบ อาทิ เพชรบุรี สมุทรปราการ”

    ดร.กัญจีรา อธิบายด้วยเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ว่า จากภาพที่เห็นตั้งสมมุติฐานว่าบริเวณอ่าวไทย เลียบชายฝั่งเป็นดินใหม่ที่มีโคลน เมื่อมีการขยับตัวของแผ่นดินเกาะสุมาตราก็จะมี ลักษณะเหมือนโดมิโน เมื่อตรงนี้ขยับตรงโน้นก็ขยับต่อทีละนิดไปเรื่อย ๆ

    ในอ่าวไทยมีหลุมใหญ่จากการขุดเจาะก๊าซธรรมชาติ สูบน้ำมันมานาน 20-30 ปี ของเหลวถูกสูบขึ้นมา ความสมดุลของโลกก็สูญเสียไป ฉะนั้นแผ่นดินต้องเลื่อนลงไปทดแทน พื้นทรายทรุดตัวลงช้า ๆ สิ่งที่เข้าไปแทนที่คือ ทราย ฟองอากาศ พื้นดินจะขยับไปเรื่อย ๆ ซึ่งต้องมีผลกระทบ

    ที่มา http://www.watthummuangna.com/board/...ad.php?p=96245
     
  7. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ที่ใดมีน้ำพุร้อน...ใต้ดินคือลาวาของภูเขาไฟ !!!

    [​IMG]

    ฮือฮา พบบ่อน้ำพุร้อนกรุงเก่า ต้มไข่ 10 นาทีสุก

    ชาวบ้านเมืองกรุงเก่าฮือฮาแห่กันนำไข่ไปต้มในหลุมน้ำพุร้อน พบอยู่ใกล้กับหมู่บ้านญี่ปุ่น ส่งกลิ่นกำมะถันคลุ้งไปทั่ว เชื่อเป็นเพราะเหตุการณ์แผ่นดินไหวอาจทำให้ใต้แผ่นดินเปลี่ยนแปลง วอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ

    เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 18 พ.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากประชาชนที่อยู่บริเวณชุมชน ม.7 ต.เกาะเรียน อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ว่า พบน้ำร้อนอยู่ในบ่อน้ำใกล้กับร้านขายของชำ ริมถนนสายอยุธยา-บางปะอินสายใน เลยวัดพนัญเชิงวรวิหาร ไปประมาณ 500 เมตร ก่อนถึงหมู่บ้านญี่ปุ่น จึงได้เดินทางไปพิสูจน์ข้อเท็จจริง

    พบว่าบริเวณริมถนนมุ่งหน้าไป อ.บางปะอิน เป็นร้านขายของชำ เลขที่ 1/9 ม. 7 ต.เกาะเรียน อ.พระนครศรีอยุธยา ปลูกเป็นบ้านหลังเล็กๆ ยกพื้นสูง อยู่ห่างจากถนนประมาณ 5 เมตร ที่พื้นด้านล่างใกล้กับเสาไฟฟ้ามีหญ้าขึ้นรก และยังมีรางน้ำไหลผ่าน ห่างจากลำลางน้ำประมาณ 1 เมตรเข้าไปทางใต้ถุน เป็นหลุมน้ำเล็กๆเดือดปุดๆขึ้นมา มีควันและกลิ่นกำมะถันคลุ้งไปประชาชนที่อยู่บริเวณนั้นจึงได้ทดลองนำไข่ไก่ลงไปวางปรากฎว่าไข่สุกในเวลาประมาณ 7-10 นาทีเท่านั้น

    นายไพรวัลย์ ธรรมพร อายุ 44 ปี เจ้าของร้านขายของชำ ได้ลงไปขุดให้บ่อน้ำดังกล่าวกว้างเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 20 ซ.ม. ลึกประมาณ 1 ฟุตเศษ ปรากฎว่า มีควันคลุ้งออกมามากกว่าเดิม และมีกลิ่นเหม็นฉุนเหมือนกำมะถัน และเมื่อนำไข่ลงไปต้มอีก ก็ปรากฎว่าไข่ที่ต้มสุกทุกฟองอย่างรวดเร็ว

    นายไพรวัลย์ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงบ่ายวันเดียวกัน ขณะที่ตนและลูกสาว กำลังนั่งเล่นอยู่ที่ระเบียงบ้าน ก็มองลงไปเห็นมีตาน้ำผุดขึ้นมา และมีควันขึ้น จึงได้ลงไปดู เอามือแตะๆก็พบว่ามีความร้อนจึงได้ ลองเอาไข่วาง ปรากฎว่าไข่สุกในเวลา 7-10 นาที จึงได้ขุดให้กว้างขึ้นอีก แล้วลองต้มอีก ปรากฎว่าไข่ก็สุกอย่างรวดเร็ว ตนได้ให้เจ้าหน้าที่ของการไฟฟ้ามาดูว่าเกิดจากกระแสไฟฟ้ารั่วหรือไม่ เนื่องจากมีเสาไฟฟ้าอยู่ แต่ทางเจ้าหน้าที่ไฟฟ้าก็ยืนยันว่าไม่มีกระแสไฟฟ้ารั่วแต่อย่างใด เนื่องจากลำรางน้ำที่อยู่ใกล้ก็ไม่ได้รับผลอะไร ปลายังสามารถว่ายน้ำได้ด้วย ซึ่งร้านของตนปลูกมากว่า 20 ปีแล้วยังไม่เคยเกิดปรากฎการณ์เช่นนี้มาก่อน

    นายสำเริง อดิศะ อายุ 48 ปี ประชาชนที่เดินทางมาดู เปิดเผยว่า เชื่อว่าน่าจะเป็นน้ำพุร้อน และเกิดจากสาเหตุของแผ่นดินไหวเกี่ยวกับรอยเลื่อนของเปลือกโลกที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของใต้พื้นโลก อยากให้เจ้าหน้าที่หรือนักวิชาการมาดู หากเป็นน้ำพุร้อนจริงจะได้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่

    ที่มา ข่าว แปลก ฮือฮา พบ บ่อน้ำพุร้อน กรุงเก่า อยุธยา ต้มไข่ 10นาที สุก
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. ผ้าไตร

    ผ้าไตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2012
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +116
    ทำไมประเทศไทยช่วงนี้พบตาน้ำร้อนบ่อยจัง
     
  9. โชตนา

    โชตนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +773
    ซินแสไฮเทค ทำนายดวงปี 2556 เผยบ้านเมืองเสี่ยงปะทะหากเร่งแก้ รธน. , ทักษิณ จะป่วยหนัก ได้กลับไทยปี 2557 - ยิ่งลักษณ์ เตียงหัก

    เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม ที่สถาบันวิชาการฮวงจุ้ยแห่งประเทศไทย อ.มาศ เคหาสน์ธรรม ซินแสฮวงจุ้ยไฮเทค กล่าวถึงดวงประเทศไทยในปีมะเส็ง พ.ศ. 2556 หรือปี "งูน้ำ" ว่า ปีมะเส็งถือว่าเป็นปีของธาตุไฟกับธาตุน้ำมาเจอกันเป็นปีแห่งความขัดแย้งรุนแรง เศรษฐกิจโลกจะพลิกสู่ขาขึ้นในยุโรปและอเมริกา คนหันมาสนใจลงทุนในตลาดหุ้นมากขึ้น ส่วนราคาทองจะคงที่

    ปีงูนี้จะมีโอกาสเกิดการลอบสังหารบุคคลสำคัญ เหมือนกับวินาศกรรมตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ถล่ม 11 กันยายน 2001 มีการจลาจลและเข่นฆ่ากันได้ง่าย ๆ ให้ระวังเรื่องไฟฟ้าช็อต หมั่นสำรวจเครื่องทำน้ำอุ่นในบ้านด้วย นอกจากนี้จะเป็นปีที่มีบุคคลสำคัญเกิดเส้นเลือดในสมองแตกถึงขั้นเป็นอัมพฤกษ์-อัมพาต ในช่วงเดือนสิงหาคม

    ที่สำคัญปีหน้านี้จะเกิดพายุสุริยะรุนแรงกว่ารอบอื่น ๆ จะมีการกระแทกอย่างรุนแรง กระแสน้ำในมหาสมุทรจะเกิดการไหลเปลี่ยนทิศอย่างรุนแรง เปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน เพราะกระแสน้ำทั่วโลกจะเปลี่ยนทุก ๆ 5 ปี ร้อนไม่เป็นร้อน หนาวไม่เป็นหนาว สำหรับภูมิอากาศจะเริ่มเข้าสู่ภาวะแห้งแล้งและจะแล้งมากในปี 2557 ดังนั้นต้องเก็บกักน้ำในปีนี้ไว้ให้มาก

    ส่วนธุรกิจที่รุ่งโรจน์ในปีนี้คือ ธุรกิจโรงหนังจะเป็นช่วงกอบโกยรายได้เป็นกอบเป็นกำ ขณะเดียวกันธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะบูมมาก ราคาที่ดินจะพุ่งพรวดโดยเฉพาะที่ดินริมทางรถไฟฟ้า นักลงทุนญี่ปุ่นจะหันมาลงทุนในไทยมากขึ้น เพราะเกิดภัยพิบัติในประเทศญี่ปุ่น

    สำหรับดวงประเทศนั้น ถ้านายกฯ เร่งแก้รัฐธรรมนูญในปีนี้จะเสี่ยงปะทะ เพราะดวงนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนางพญาหงส์ไฟ ไม่ชอบธาตุน้ำ คนธาตุไฟจะดวงอ่อนในปีธาตุน้ำ ดังนั้นไม่ควรฝืนทำในเดือนธันวาคม 2555 หากจะแก้อะไรควรทำในเดือนเมษายน-พฤษภาคม เป็นช่วงที่นายกฯ ยิ่งลักษณ์ดวงดีที่สุด แต่ต้องเข้าหาผู้ใหญ่ แบบอ่อนน้อมถึงจะสำเร็จ และนายกฯ ยิ่งลักษณ์ จะเตียงหัก

    และในเดือนมกราคม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะป่วยมีอาการชัดเจน จนต้องเข้าโรงพยาบาล และอยากกลับบ้าน แต่ยังกลับไม่ได้ เพราะเป็นดวงร้าย แต่จะได้กลับไทยปี 2557

    สำหรับดวงชงปีนี้ อ.มาศ บอกว่า คนเกิดปีกุน และคนเกิดเดือนพฤศจิกายน หากทำอะไรเสี่ยงจะเกิดผลร้าย ถ้าไม่ทำเสี่ยงก็ไม่เกิด คนดวงชงเบา ๆ หรือปะทะ คือ ปีขาล กับปีวอก จะถูกลงโทษ คนอื่นเบียดเบียนให้เสียหาย แตกแยก ถูกคนใส่ร้าย โดนหมางเมินและถูกเข้าใจผิด และปีที่ซวยซ้ำซวยซ้อน คือ ปีมะเส็ง ถ้าซวยจะซวย 2 ต่อ ถ้าดีจะดี 2 เด้ง

    ส่วนดวงเฮงปี 56 คือ ชาวปีระกา ฉลู และวอก คนโสดมีโอกาสได้แต่งงาน เป็นปีมหาเสน่ห์ของคนปีนี้ คนปีชวดจะเป็นปีเฮงระดับหนึ่ง และปีเถาะจะมีอุปสรรคเยอะให้เน้นศึกษาธรรมะ



    อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
    ประขาขาติธุรกิจ
     
  10. นางไพจิตต์

    นางไพจิตต์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    320
    ค่าพลัง:
    +956
    ..........................................................
    catt3 ระวังตะขอเกี่ยวลิ้นเกี่ยวปากน่ะอ่านเฉยๆๆๆอย่าออกความคิดเห็น....:mad:
     
  11. siamblogza

    siamblogza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    398
    ค่าพลัง:
    +2,590
  12. นางไพจิตต์

    นางไพจิตต์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    320
    ค่าพลัง:
    +956
    ................................................................................
    ดิฉันเองก็มีความรู้น้อย...ไม่ลึกซึ้งด้านพระไตรปิฏก...แต่สรัทธาต่อคำสอนขของพระพุทธเจ้าไม่คลอนแคลน...ดิฉันปวารณาตัวเองขอบำรุงพระพุทธศาสนาตราบอายุของพระพุทธศาสนา ....และจากความรู้น้อย..นิด...แต่เปี่ยมด้วยศรัทธา...จากความรู้ที่น้อยนิดถ้าเทียบกับเจ้าของกระทู้หรือท่านใดๆก็ตาม...ในเว็ปนี้..สิ่งหนึ่งที่พบจากการศึกษาพระพุทธวัจนที่สั่งสอนเวไนยสัตว์ ...ไม่มีสิ่งใดที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง...ฉะนั้นท่านที่อ้างพุทธพจน์...แล้วเหตุการณ์คลาดเคลื่อนไปจากความจริงไปเรื่อยๆๆๆๆเลื่อนๆๆๆๆๆ
    เกรงว่าท่านๆจะใกล้...ตะขอที่ท่านแจกให้คนอื่นๆน่ะค่ะ...รักพระพุทธเจ้ายิ่งชีพค่ะ...:cool:
     
  13. นางไพจิตต์

    นางไพจิตต์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    320
    ค่าพลัง:
    +956
    ................................................................................
    ดิฉันเองก็มีความรู้น้อย...ไม่ลึกซึ้งด้านพระไตรปิฏก...แต่สรัทธาต่อคำสอนขของพระพุทธเจ้าไม่คลอนแคลน...ดิฉันปวารณาตัวเองขอบำรุงพระพุทธศาสนาตราบอายุของพระพุทธศาสนา ....และจากความรู้น้อย..นิด...แต่เปี่ยมด้วยศรัทธา...จากความรู้ที่น้อยนิดถ้าเทียบกับเจ้าของกระทู้หรือท่านใดๆก็ตาม...ในเว็ปนี้..สิ่งหนึ่งที่พบจากการศึกษาพระพุทธวัจนที่สั่งสอนเวไนยสัตว์ ...ไม่มีสิ่งใดที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง...ฉะนั้นท่านที่อ้างพุทธพจน์...แล้วเหตุการณ์คลาดเคลื่อนไปจากความจริงไปเรื่อยๆๆๆๆเลื่อนๆๆๆๆๆ
    เกรงว่าท่านๆจะใกล้...ตะขอที่ท่านแจกให้คนอื่นๆน่ะค่ะ...รักพระพุทธเจ้ายิ่งชีพค่ะ...:cool:และเห็นด้วยกับท่านtam220t ที่เกรงว่าหลักฐานจะคลาดเคลื่อน...อ่านดีๆ น่ะค่ะหลักฐานคลาดเคลื่อน...ไม่ได้ปรามาสพุทธพจน์น่ะค่ะ:cool:
     
  14. nut_20036

    nut_20036 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    185
    ค่าพลัง:
    +1,776
    ขอแบบแหลมๆหน่อยนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มกราคม 2013
  15. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    สัญญาณฟ้า "เกาะล้าน" พึงระวังอย่าประมาท !!!

    [​IMG]

    ฮั้วโต๋ สมาชิก

    ..สัญญาณฟ้าเมื่อวานนี้. เกาะล้าน พึงระวัง อย่าประมาท."โดยเด็ดขาด" กรรมจัดสรรเรียบร้อยแล้ว.และพร้อมแล้วที่จะทำงาน...

    เจริญในธรรม มีพระพุทธเจ้าในจิตให้มาก ๆ

    08-01-2013, 06:50 AM

    ที่มา http://palungjit.org/threads/สัญญาณฟ้าเตือนภัยพิบัติ.294356/page-523

    หมายเหตุ

    เกาะล้าน เป็นเกาะอยู่ในอ่าวไทย อยู่ในเขตอำเภอเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ตัวเกาะตั้งอยู่แนวขนานกับชายหาดพัทยา ห่างจากชายฝั่งเมืองพัทยาไปเพียงประมาณ 7.5 กิโลเมตร
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มกราคม 2013
  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ชลบุรีเปิดการฝึกซ้อมแผนภัยพิบัติจากพายุคลื่นชัดฝั่ง !!!

    [​IMG]

    จังหวัดชลบุรีเปิดการฝึกซ้อมแผนภัยพิบัติจากพายุคลื่นชัดฝั่ง Storm Surg เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมของภาครัฐในการปกป้อง คุ้มครองดูแลประชาชน

    วันนี้ (20 ก.ค.) นายภัครธรณ์ เทียนไชย รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ได้เดินทางมาเป็นประธาน เปิดการฝึกซ้อมแผนการป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัยเกิดพายุคลื่นซัดฝั่ง (Storm Surg) ณ ห้องประชุมหมายเลข 2 ค่ายมหาเจษฎาราชเจ้า กองพลนาวิกโยธิน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

    ทั้งนี้ มีศูนย์ภัยพิบัติแห่งชาติ กรมอุตุนิยมวิทยา หน่วยกำลังทั้งทหารบก และทหารเรือหน่วยงาน ด้านการแพทย์ และพยาบาลในจังหวัด ส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ หน่วยงานปกครองในพื้นที่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และองค์กรการกุศลต่างๆ รวมกว่า 50 หน่วยงาน เข้าร่วมในพิธีเปิดแผนการซ้อมแผนภัยพิบัติ

    นายกอบชัย บุญอรณะ หัวหน้าสำนักงานการป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย กล่าวรายงานว่า จากสถานการณ์ปัจจุบันได้เกิดภัยพิบัติหลากหลายรูปแบบขึ้นในหลายพื้นที่ทั่วโลก ภาพความสูญเสีย และความเสียหายจากภัยพิบัติต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นจากสภาพอากาศที่แปรแปรวน การเกิดอุทกภัยการเกิดพายุหมุนรุนแรงในระดับต่างๆ การเกิดพายุคลื่นชัดฝั่ง (Storm Surg) การเกิดคลื่นสึนามิ (Tsnami ) ล้วนสร้างความตื่นตระหนก และความเศร้าสลดให้กับประชาชนทั่วโลกที่ได้ติดตามข่าวสารเป็นอย่างมาก

    นอกจากนี้ ปัจจุบันยังมีการเผยแพร่ข่าวสารที่เป็นการคาดการณ์ถึงภัยพิบัติขนาดใหญ่ที่อาจเกิดขึ้นในประเทศไทยเกิดความตื่นตัว และคาดหวังถึงการเตรียมความพร้อมของภาครัฐในการปกป้อง คุ้มครองดูแลประชาชนมากขึ้นด้วยเหตุผลดังกล่าว จังหวัดชลบุรีและกรมกิจการพลเรือนทหาร กองบัญชาการกองทัพไทยในฐานะศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพไทย พิจารณาแล้วเห็นว่าการเตรียมความพร้อมในการป้องกัน และรับมือกับภัยพิบัติของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ โดยเฉพาะหน่วยงานฝ่ายพลเรือน และฝ่ายทหารที่ต่างมีบทบาทในการป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย และเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมร่วมกันระหว่างฝ่ายพลเรือน และฝ่ายทหาร

    ตลอดจนเพื่อเป็นการแสดงถึงศักยภาพในการบูรณาการกำลังในการเตรียมพร้อมป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย จึงเห็นควรให้มีการดำเนินการฝึกซ้อมแผนป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย ประจำปี พ.ศ. 2554 กรณีเกิดสถานการณ์ภัยพิบัติจากพายุคลื่นชัดฝั่ง (Storm Surg) ขึ้นโดยจะทำการสมมติสถานการณ์ กรณีเกิดภัยพิบัติจากวาตภัย (Storm Surg) ในระดับ 3 เกินขีดความสามารถของจังหวัดก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายฝั่งทะเลอ่าวไทย และชาวตำบลแสมสาร อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ส่งผลให้หน่วยงานฝ่ายพลเรือน และทหารต้องระดมสรรพกำลังเข้าอำนวยการปฏิบัติการแก้ไขปัญหาตามกรอบพระราชบัญญัติ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย

    นายภัครธรณ์ เทียนไชย รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า จากการรับฟังคำกล่าวรายงาน นับว่าเป็นสิ่งที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่กรมกิจการพลเรือนทหารกองบัญชากองทัพไทยได้ให้ความสำคัญในการบูรณาการ กำลังทั้งฝ่ายทหาร และฝ่ายพลเรือน ในการซ้อมแผนการป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย โดยเฉพาะในการฝึกซ้อมในครั้งนี้ เป็นการจำลองเหตุการณ์ของพายุหมุนเขตร้อนที่มีกำลังแรงทำให้เกิดพายุคลื่นซัดฝั่ง (Storm Surg) ซึ่งเป็นสิ่งที่ที่หลายฝ่ายได้วิเคราะห์ได้ว่ามีความเป็นไปได้ที่อาจจะเกิดขึ้นจะเกิดขึ้นในจังหวัดฝั่งอ่าวไทย รวมถึงจังหวัดชลบุรีด้วย สาธารณภัยดังกล่าวหากเกิดขึ้นจะเป็นสาธารณภัยที่มีขนาดใหญ่ มีความจำเป็นต้องบูรณาการวามช่วยเหลือจากทุกภาคส่วน

    ดังนั้น การฝึกซ้อมแผนในครั้งนี้จึงเป็นนิมิตหมายอันดี และจะทำให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดชลบุรี โดยเฉพาะชาวตำบลแสมสารที่ได้ร่วมแรงร่วมใจเข้า ร่วมการฝึกซ้อมในครั้งนี้ได้เกิดความอุ่นใจในความปลอดภัย ตลอดจนได้เห็นถึงความพร้อมในการปฏิบัติการป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัยของข้าราชการฝ่ายทหาร และฝ่ายพลเรือน นอกจากนี้ยังทำให้ฝ่ายข้าราชการพลเรือนได้เข้าใจถึงบทบาทหน้าที่ของฝ่ายทหารในการป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัยมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

    ที่มา Local - Manager Online - ชลบุรีเปิดการฝึกซ้อมแผนภัยพิบัติจากพายุคลื่นชัดฝั่ง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    อย่าแชเชือน เตือนตน ให้พ้นภัย !!!

    [​IMG]

    จงเตือนตน ของตน ให้พ้นผิด
    ตนเตือนจิต ตนได้ ใครจะเหมือน
    ตนเตือนตน ไม่ได้ ใครจะเตือน
    อย่าแชเชือน เตือนตน ให้พ้นภัยฯ

    ฮั้วโต๋ สมาชิก

    .ครับ..ท้องฟ้าปิดมาหลายวันแล้วครับ.แถมมีพลังไม่ดีส่งลงมามากมาย.บางครั้งรู้สึกแสบร้อน อึดอัด.มึนจนเพลีย..เมื่อวานวันพระ.ไปประชุมมา.ผลของการประชุมมีหลายเรื่องครับ.ต้องทำใจยอมรับให้ได้จริง ๆ อาการตายก่อนตายของเรื่องเมตตาและขันติจบลงที่อุเบกขา.ต้องมีในจิตและเข้มข้นทีเดียวจึงจะผ่านไปได้.ไม่งั้นอาการตรอมใจ หดหู่ ซึมเศร้า.สติหลุด.เพราะทำใจให้ยอมรับไม่ได้นั่นเอง.....

    ..ฝึกจิตเตรียมใจให้พร้อมแต่เนิ่น ๆ.ก็คงที่จะพอทำให้มีกำลังได้บ้าง.ที่ผ่านมาเราสนุกสนาน เริงร่า กันมามาก.ฟุ่มเฟือยก็มาก.ถึงเวลาที่"ธรรมชาติ"เอาคืน....
    ..ในพื้นที่ที่ปรับสมดุลย์ธรรมธาตุ.ทางตะวันออกของไทย.ตีเขต ตอกเสาเข็ม
    ส่งพลังงานในการปรับสมดุลย์ธรรมธาตุ.เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้วเมื่อกันยายน 2555.ที่ผ่านมา.และต่อจากตะวันออกของไทย.ก็กำลังจะทำการตีเขต ตอกเสาเข็ม และส่งพลังงานในการปรับสมดุลย์ธรรมธาตุต่อไป.จะเป็นเขตใด พื้นที่ใดนั้น.เดี๋ยวมาลุ้นกัน.ระหว่าง ภาคกลาง ภาคใต้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ..

    ..ในทางตะวันออกของไทย.ผู้ที่รอดได้อพยพออกจากพื้นที่ก็หลายครอบครัวแล้ว.ยังมีตกค้างบ้างแต่ไม่มาก.ที่เหลือคือผู้ที่รู้แล้ว แต่ไม่เชื่อ.และผู้ที่รู้แล้ว และเชื่อแต่ไม่ทำ.ยังเพิกเฉย.และกรรมจัดสรรไว้แล้ว สำหรับผู้ที่เชื่อและไม่เชื่อ.ส่วนผู้ที่รู้และเชื่อแต่ไม่ทำ ก็ยังถูกจัดสรรไว้ในกลุ่มของผู้ที่รู้แล้วแต่ไม่เชื่อ..จึงมีผลสรุปของการประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ เมื่อกลางปี 2555.ให้มนุษย์ได้เรียนรู้จากธรรมชาติและภัยจากธรรมชาติ ที่กำลังจะเกิดขึ้นก็จะดีที่สุด ถูกต้องที่สุด.เพื่อเป็นตัวอย่าง เชือดไก่ให้ลิงดู.และอย่าได้แหงนหน้าขึ้นฟ้าแล้วร้องขอ เพราะสายเสียแล้ว....

    ..และอย่าได้โทษฝ่ายเทวราชมาร.และอย่าได้ตำหนิในฝ่ายเทพผู้รักษาว่า"ทำไมไม่ช่วยปกปักรักษา.เพราะตนไม่ช่วยตนนั่นเอง...ขอให้เป็นผู้ชมที่ดีทุกท่านครับ...

    เจริญในธรรม มีพระพุทธเจ้าในจิตให้มาก ๆ

    06-01-2013, 02:55 AM

    ที่มา http://palungjit.org/threads/สัญญาณฟ้าเตือนภัยพิบัติ.294356/page-519#post7230308
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มกราคม 2013
  18. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,681
    ค่าพลัง:
    +51,926
    *** ศึกทวงคืน ****

    ถึงบางประกง

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  19. nattaphong8

    nattaphong8 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +30
    โห ? ยังอยู่ในวังวนนี้อีกเหรอ เอาเวลาไปคิดทำอะไรที่มีประโยชน์ดีกว่ามั้ย
     
  20. ผ้าไตร

    ผ้าไตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2012
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +116
    ถ้ามีเวลาเข้ามาอ่านในบอร์ดนี้อยู่ ก็เอาเวลาไปคิดทำอะไรที่มีประโยชน์มากกว่านี้ดีกว่าไหม ไม่ได้เชิญเลย เข้ามาอ่านอยู่ได้
     

แชร์หน้านี้

Loading...