เคล็ดบูชาพระพุทธเจ้า๒๘พระองค์วัดอัปสรสวรรค์มิ่งมงคลรับปีใหม่

เคล็ดบูชาพระพุทธเจ้า๒๘พระองค์วัดอัปสรสวรรค์มิ่งมงคลรับปีใหม่

ใกล้ถึงปีใหม่ก็มีหลายท่านถามว่า ปีใหม่ปีนี้ปีงูเล็กคนที่อยู่กรุงเทพจะไปไหว้พระที่ไหนดี ที่จะเป็นมิ่งขวัญมงคล และคนที่ชงกับปีงูเล็กมีที่ไหนไหมที่จะไหว้พระเพื่อเสริมบุญ ลดเคราะห์ ท่านวินแสจึงกล่าวว่าเพื่อน้อมความเป็นมงคลสูงสุดในชีวิตของเราชาวพุทธทั้งหลาย ก็คือไปกราบไหว้องค์พระพุทธปฏิมา อันเป็นเสมือนเครื่องแทนองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเมื่อยังคงพระชนม์อยู่เป็นอุเทสิกเจดีย์สิ่งที่ถวายเป็นพุทธบูชาแก่พระพุทธเจ้า ปีใหม่จึงควรที่จะได้กราบพระพุทธปฏิมาเพื่อน้อมนำความเป็นมงคลมาสู่ตน ยิ่งปีนี้ปีมะเส็งและปีกุนเขาว่าเป็นปีชงอุบัติเหตุจะมาก เคราะห์จะมาก เมื่อคิดแก้เคราะห์จงเอาบารมีพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง ดังนั้นหากปีใหม่นี้คิดจะไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคล ก็ขอแนะนำไปกราบพระประธานพระพุทธเจ้าทั้ง๒๘พระองค์ วัดอัปสรสวรรค์ เพื่อความเป็นมงคลสูงสุดชาวพุทธ โดยมีเคล็ดง่ายๆได้บุญแถมได้สักการะเครื่องแทนพระพุทธเจ้า๒๘พระองค์อีกด้วย
ก่อนไปไหว้พระประธานทั้ง๒๘องค์ ก็มีเครื่องบูชาดังนี้
๑.ดอกบัว ท่านละ๓ดอก
๒.สตางค์เท่าอายุเรา
๓.ธูป ๙ดอก เทียน๑คู่
๔.ทองคำเปลว ท่านละ๓แผ่น
๕.น้ำมันตะเกียง ท่านละ๑ขวด
เสร็จแล้วให้จุดธูปเทียน ที่ทางวัดจัดไว้ให้
ตั้งนโมสามจบ
อิมินาสักกาเรนะ พุทธังอะภิปูชะยามิ อิมินาสักกาเรนะ ธัมมังอะภิปูชะยามิ อิมินาสักกาเรนะ สังฆังอะภิปูชะยามิ
พุทธปูชา มหาเตชะวัณโต ธัมมะปูชามหาเตชะวันโต สังฆะปูชามหาโภคะวะโห ติโลกะนาถัง ปูเชมิ
วันทามิพุทธัง สัพพังเมโทสัง ขะมะถะเม ภันเต วันทามิธัมมัง สัพพังเมโทสัง ขะมะถะเม ภันเต วันทามิสังฆัง สัพพังเมโทสัง ขะมะถะเม ภันเต
พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิพุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ทุติยัมปิธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ ทุติยัมปิสังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ตติยัมปิพุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ตติยัมปิธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ ตติยัมปิสังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
อิติปิโส ภะคะวา อะระหังสัมมา สัมพุทโธ วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโตโลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิสัตถาเทวะมนุสสานัง พุทโธภะคะวาติ
สวากขาโต ภะคะวะตาธัมโม สัณฐิฏฏิโก อะกลาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูฮีติ
สุปัฏฏิปัณโณ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อุชุปะฏิปันนโนภะคะวะโตสาวะกะสังโฆ ญายะปะฏิปันโนภะคะวะโตสาวะกะสังโฆ สามีจิปะฏิปันโนภะคะวะโตสาวะกะสังโฆ ยะทิธังจัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฐฐะปุริสะปุคคะลา เอสะภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเนยโย อัญชะลีกะระนีโย อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติเสร็จแล้วก็ปักธูปเทียนนำเอาดอกบัวเข้าไปกราบพระประธานในพระอุโบสถ แล้วเดินเข้าไปในพระอุโบสถ เอาดอกบัวพนมในมืออธิษฐานบูชาพระพุทธเจ้าทั้ง๒๘พระองค์
นโมสามจบ
นะโม เม สัพพะพุทธานัง อุปปันนานัง มะเหสินัง
ตัณหังกะโร มะหาวีโร เมธังกะโร มะหายะโส
สะระณังกะโร โลกะหิโต ทีปังกะโร ชุตินธะโร
โกณฑัญโญ ชะนะปาโมกโข มังคะโล ปุริสาสะโภ
สุมะโน สุมะโน ธีโร เรวะโต ระติวัฑฒะโน
โสภีโต คุณะสัมปันโน อะโนมะทัสสี ชะนุตตะโม
ปะทุโม โลกะปัชโชโต นาระโท วะระสาระถี
ปะทุมุตตะโร สัตตะสาโร สุเมโธ อัปปะฏิปุคคะโล
สุชาโต สัพพะโลกัคโค ปิยะทัสสี นะราสะโภ
อัตถะทัสสี การุณิโก ธัมมะทัสสี ตะโมนุโท
สิทธัตโถ อะสะโม โลเก ติสโส จะ วะทะตัง วะโร
ปุสโส จะ วะระโท พุทโธ วิปัสสี จะ อะนูปะโม
สิขี สัพพะหิโต สัตถา เวสสะภู สุขะทายะโก
กะกุสันโธ สัตถะวาโห โกนาคะมะโน ระณัญชะโห
กัสสะโป สิริสัมปันโน โคตะโม สักยะปุงคะโว ฯ
เตสาหัง สิระสา ปาเท วันทามิ ปุริสุตตะเม วะจะสา มะนะสา เจวะ
วันทาเมเต ตะถาคะเต สะยะเน อาสะเน ฐาเน คะมะเน จาปิ สัพพะทา
อุกาสะ อุกาสะ อุกาสะ ศรีศรีสวัสดิมงคล ลูกขอก้มประณมหัตถ์ ไหว้พระพุทธเจ้าทั้งยี่สิบแปดพระองค์ อันมีองค์ปฐมตัณหังกร เป็นอาทิ เนื่องในดิถีขึ้นปีใหม่ลูก......(บอกชื่อเรา) ขอพลังพระพุทธมหาบารมีของสมเด็จพระศรีสรรเพชญ์พุทธองค์ทั้ง๒๘พระองค์ ได้โปรดประทานอำนวยพระพุทธพรชัยมงคล.....(ตามที่เราอธิษฐาน)ขอพระพุทธบารมีของสมเด็จพระศรสรรเพชญ์ดาญาณทั้ง๒๘องค์มาเป็นประธานโปรดประทานความเป็นศิริมงคลให้แก่ลูกตลอดไปและตลอดกาล มารใดประจยผลาญขอให้แพ้พ่ายพ่ายไปด้วยพระพุทธบาทบารมีเป็นศรีศักดิ์ ขอให้กิจการงานการค้ารุ่งเรื่องก้าวหน้าไปไกล จบเจ็ดคาบสมุทร ด้วยพรพุทธประทาน ขอให้ได้ความเป็นสุขสานต์ตราบชั่วนิรันดร์เทอญ พุทธชัยยะชนะมงคล พุทธชัยยะชนะมาร พุทธชัยยะชนะที่๑ตลอดกาลด้วย พุทโธ ธัมโม สังโฆ ชัยโย นิจจังชนะที่ตลอดกาล สิทธิพุทธา มหาลาภัง สุขขัง ภะวันตุเม สิทธิธรรมา มหาลาภังสุขขัง ภะวันตุเม สิทธิสังฆามหาลาภัง สุขขัง ภะวันตุเม โอมสาธุ โอมสาธุ สิทธิประสิทธิเม ภะวันตุเม
เสร็จแล้ววางดอกบัวถวาย แล้วเอาเงินเท่าอายุแล้วพนมมืออธิษฐาน
สุโขโหตุ สุทินนัง สุโขโหมิญาติทานัง สุทินนัง ด้วยผลบุญนี้ขอให้ข้าพเจ้าเป็นผู้มีความสุข และหากข้าพเจ้าไม่ถึงพระนิพพานตราบใด ความไม่มี ความขัดสน ความยากจนอย่าได้บังเกิดแก่ข้าพเจ้า ทั้งชาตินี้ชาติหน้าตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานและขอบุญนี้จงสำเร็จแก่ญาติและปิยะชนทั้งหลายของข้าพเจ้าด้วยเทอญ
หมายเหตุ ปิยะชน(หมายถึงบรรพบุรุษทั้งโคตรตระกูล)
แล้วใส่เงินลงในตู้บริจาคหน้าพระพุทธเจ้าทั้ง๒๘พระองค์(เป็นเคล็ดทำบุญถวายต่อหน้าพระพุทธเจ้าทั้ง๒๘พระองค์อานิสงส์มาก)
ส่วนน้ำมันตะเกียงให้นำไปเติมที่ตะเกียงอธิษฐานว่า ด้วยบุญเติมน้ำมันตะเกียงนี้ขอให้ข้าพเจ้าหมดเคราะห์ สำเร็จทุกๆๆกิจการผ่องใสดั่งแสงประทีปในตะเกียง ตลอดกาลนานเทอญ
ส่วนทองคำเปลวสามแผ่นให้ถือไปที่พระมณฑปสีขาว ไปกราบพระพุทธรูปปางฉันสมอ โดย
ตั้งนะโมสามจบ
นโม ภควเต ไภษัชยคุรุ ไวฑูรย์ประภา ราชายะ ตถาคตายะ อะระหัตเต สัมมะยักกะ สัมพุทธายะ ตัถยถา โอม ไภษัชชะเย ไภษัชชะเย มะหาไภษัชะเย ราชาสมุทะคะเต สวาหะ
ขอบารมีพระพุทธเจ้าไภษัชยะ ผู้ทรงถือผลสมอเป็นยา ขอได้โปรด ประทานพรให้ลูกหมดเคราะห์ความเจ็บไข้อย่าได้มี ขอความร่ำรวย ความโชคดี มีแก่ข้าพเจ้าตลอดกาลเทอญ
เสร็จแล้วให้เอาทองเปลวปิดเป็นพุทธบูชา
หมายเหตุ พระปางฉันสมอก็คือพระไภษัชยคุรุไวฑูรย์พุทธเจ้าผุ้เป็นประธานในการต่ออายุ สะเดาะเคราะห์ รักษาโรคภัยไข้เจ็บ ตามคติพระพุทธศาสนามหายาน
ก็เป็นเคล็ดง่ายๆๆนำมาฝากกันเป็นทริป วันวันปีใหม่สำหรับท่านที่ไม่รู้จะไปไหนอยากเที่ยวในกรุงเทพก็ขอเชิญครับ
หมายเหตุ เคล็ดนี้ใช้ได้ทั้งปีใหม่สากลและปีใหม่ไทยครับ
ที่มา ซินแสโบ

 

พระไภชยคุรุพุทธเจ้าพระฉันสมอ วัดอัปสรสวรรค์

สถานที่ประดิษฐาน พระวิหาร วัดอัปสรสวรรค์ วรวิหาร
เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร

พุทธลักษณะ ศิลปะจีน ปางฉันเสมอ
ขนาด หน้าตักกว้าง ๑ ศอกเศษ (๑๕ นิ้ว)

วัสดุ โลหะปิดทอง

ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดฯให้สมเด็จพระมหาสมณเจ้ัากรมพระปรมานุชิตชิโนรส ทรงค้นคิดพระพุทธรูปปางต่างๆขึ้นอีก ๓๔ ปาง โดยอิงเรื่องราวตามพุทธประวัติ หนึ่งในนั้นมีพระปางฉันสมองอันเป็นปางที่มาจากพุทธประวัติ ตอนหลังจากพระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้วประทับเสวยวิมุติสุขอยู่ ๗ วัน เมื่อเสด็จออกจากสมาธิ ท้าวสักกะเทวราชได้นำไม้สีพระทนต์ฺกับผลสมอมาถวาย ทรงใช้ไม้สีพระทนต์และเสวยผลสมอนั้นพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าฯยังได้โปรดฯให้ประดิษฐาน พระปางนี้ไว้ในหอพระสุลาลัยพิมาน วัดพระศรีรัตนศาสดารามองค์หนึ่ง

ส่วนพระฉันสมอองค์ที่วัดอัปสรสวรรค์นี้ เป็นพระที่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่เจ้าจอมท่านหนึ่งของพระองค์ คือ เจ้าจอมน้อย(สุหรานากง)เพื่อประดิษฐาน ณ วัดแห่งนี้

ความเป็นมาของพระฉันสมอองค์นี้กล่าวกันว่าเป็นพระที่ได้มาจากเมืองเวียงจันทน์ในรัชกาลที่ ๓ คราวเดียวกับได้พระบางซึ่งโปรดฯให้นำไปประดิษฐานยังวัดจักรวรรดิราชวาส และพระแซกคำซึ่งพระราชทานแก่พระยาราชมนตรี(ภู่ ภมรมนตรี) ไปประดิษฐานเป็นพระประธานที่วัดคฤหบดีฝั่งธนบุรีจนถึงทุกวันนี้ พระฉันสมอองค์นี้แรกทีเดียวประดิษฐานไว้ในหอพระนาค วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ภายหลังจึงพระราชทานไปสำหรับวัดอัปสรสวรรค์ พระฉันสมอจัดเป็นพระพุทธรูปปางที่หาดูได้ยากปางหนึ่ง ทั้งยังมีพุทธศิลปะแบบจีนอีกด้วย นับเป็นพระพุทธรูปที่น่าชมองค์หนึ่ง

สำหรับเจ้าจอมน้อยอยู่ซึ่งได้รับพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานพระพุทธรูปจาก พระบรมมหาราชวังนี้คงเป็นเจ้าจอมที่ทรงโปรดปรานยิ่งผู้หนึ่ง เล่ากันมาในหมู่ชาววังว่าเจ้าจอมน้อยเป็น ผู้มีความสามารถในการแสดงละครในโดยเฉพาะบทสุหรานากงในเรื่องอิเหนาจะแสดงได้โดดเด่น เป็นพิเศษ จึงเป็นที่มาของฉายาสุหรานากงต่อท้ายชื่อของท่าน

เจ้าจอมน้อยเป็นธิดาของข้าราชการผู้ใหญ่ในราชสำนึกคือ พระยาพลเทพ(ฉิม) เมื่อเห็นว่าวัดหมูในคลองด่านทรุดโทรมลงก็ใคร่ที่จะปฏิสังขรณ์เพื่ออุทิศเป็นกุศลแก่ท่านบิดา และคงจะด้วยความเป็น "คนโปรด"นั้นเอง พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าฯจึงพระราชทานทั้งพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ในการบูรณะวัด พร้อมทั้งพระราชทานพระฉันสมอให้มาประดิษฐาน อีกทั้งยังพระราชทานนามวัดใหม่ว่า วัดอัปสรสวรรค์เพื่อเป็นที่ระลึกถึงเจ้าภาพผู้ปฏิสังขรณ์วัดว่าเป็นสตรีสูงศักดิ์จากในรั้วในวัง