ดร.อาจอง เผย 21 ธ.ค.2012 ไม่ใช่วันสิ้นโลก

ดร.อาจอง เผย 21 ธ.ค.2012 ไม่ใช่วันสิ้นโลก
​

ดร.อาจอง เผย ชนเผ่ามายาในเม็กซิโกยืนยัน 21 ธ.ค.2012 ไม่ใช่วันสิ้นโลก แต่กลียุคจะจบสิ้น และโลกจะเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคใหม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (16 ธ.ค.) ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา นักวิทยาศาสตร์และวิศวกรไฟฟ้า กล่าวถึง กรณีปรากฏการณ์ข่าวลือเรื่อง "วันสิ้นโลก" ที่จะถึงในวันที่ 21 ธันวาคม 2012 ตามคำทำนายของปฏิทินชาวเผ่ามายัน ว่า เคยมีโอกาสไปพูดคุยกับชนเผ่ามายาในประเทศเม็กซิโก เรื่องการสิ้นสุดของปฏิทิน 5,200 ปี ของชนเผ่ามายา ในวันที่ 21 ธ.ค. ซึ่งก็ได้รับการยืนยันว่าไม่ใช่วันสิ้นโลก แต่กลียุคจะจบสิ้นและโลกจะเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคใหม่ เป็นยุคแห่งความสุข แต่ปัญหาคือกลียุคจะจบลงอย่างไร จนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีใครรู้

ที่มา sanook.com

 

เป็นวันที่ skynet เข้าเทคโอเวอร์ระบบคอมพิวเตอร์ของรัฐบาลเพนตากอน แล้วคิดได้ว่าศัตรูคือมวลมนุษย์
จึงปล่อยนุ๊กถล่มรัสเซีย จีน ก่อสงครามล้างเผ่าพันธ์

และจอห์น คอนเนอร์ คือผู้นำของมนุษย์ต่อต้าน skynet (แนวคิดจากคนเหล็ก)

 

กลียุค ของคนป่า
นั่นคือ อาหารไม่พอ พายุฯลฯ
ต่อมาก็การรุกรานจากสเปน จากฝรั่งทั้งหลาย...
นี่...คนป่าผู้โง่งมงายไม่ศิวิไลย์ก็มักจะมีองค์ความรู้แบบเตี้ยติดดิน
แปลกใจที่ผู้ถอดปฏิทิน ฉลาดกว่าเยอะ...ยังเสือกโง่...ไปเชื่อเผ่าโง่โบราณเขียนอีก...เฮ้อ....
ถ้ามันฉลาดจริง หรือ ยูเอฟโอมาสอนจริง ป่านนี้มันต้องอยู่ ไม่ใช่สูญหายไป สิ้นชาติเผ่าพันธ์ไปเหมือนชาวเล ผีตองเหลืองในไทย
ฟังเรื่องนี้ทีไร รำคาญมากๆ ไม่ใช้ปัญญาคิด เห็นควายพูดได้ ไปกราบว่ามันฉลาด...เฮ้อ...พัฒนาจนจากอยู่ถ้ามาอยู่เมือง ดันไปเชื่อปัญญาน้อยนิดของคนป่าโบราณ กลุ้มจริงๆ

 

เห็นคุณวิจารณ์แต่ละที่ละที่ นี้นะหรือคนมีศีลมีธรรม ข้อไม่พูดปลดไม่พูดส่อเสียดก็ไม่ผ่านแล้ว และทำไมต้องไปว่าชนเผ่ามายามาโง่ด้วย ถ้าโง่คงไม่ไม่สร้างพีระมิดได้เข้ามีนักวิจัยวิจัยมาแล้วว่าชนชาติที่สร้าง อารยธรรมโลกแอย่าง ชาวอียิปต์โบราณ ชาวมายา และคนสร้างสโตนเฮนจ์ UK กับ นครวัดนครธมที่เขมร ต่างหายสาบสูญ ไม่สามารถหาลูกหลานรุ่นปัจจุบันได้ ก็แปลกดีเหมือนกัน คงจะเป็นพวกต่างดาวมาสร้างจริงๆ

 

มนุษย์เป็นสัตร์ที่อยู่ด้วยความคิด ทุกข์ก็เพราะคิด สุขก็เพราะคิด

โกรธกันเกลียดกันก็เพราะคิด โลกจะแตกหรือไม่แตกก็เพราะคิด

หยุดคิดเสียบ้าง ตั้งสติที่ลมหายใจเข้าและออก

เพื่อความสงบทั้งของตนเองและผู้อื่น

 

อะไรจะเกิดก้อช่างเหอะ.........ทำตัวเองให้ถึงความดี.....พอแล้ว

 

วันข้างหน้าเป็นอย่างไรไม่มีใครรู้ รู้แต่ว่าทำวันนี้ให้ดีที่สุด เป็นพอ

 

พระพุทธเจ้าสอนว่า มีแต่พระอรหันต์ ที่หายโง้แล้ว แม้แต่ พระโสดา พระสกิคา แค่เริ่มมีความดี แต่ ก็ยังโง้ อยู่มาก ฉะนั้น คุณ ก็ ยังโง้..ผม และท่านๆๆ ก็ ยังโง้..

 

อนาคตังสญาณ บอกว่า

เหตุปัจจัยที่ทำให้โลกเราเกิดการเปลี่ยนแปลง อันก่อให้เกิดมหาภัยภิบัติ นั้นมี

1 เหตุจากแรงดึงดูดของระบบสุริยะจักรวาล และจักรวาลน้อยใหญ่ที่มีอิทธิพล ต่อจักรวาลของเราเกิดการเปลี่ยนแปลง
ทำให้เสียสมดุลย์ แต่กลไกของระบบพลังงานในจักรวาล และพลังงานในระบบสุริยะจักรวาล เกิดการปรับสมดุลย์ใหม่
ส่งผลให้สนามแม่เหล็กของโลกเปลี่ยนใหม่เกิดการปรับสภาวะใหม่เพื่อรักษาสมดุลย์

2 เหตุ จากปัจจัยภายใน ของโลกเราเอง ด้วยมวลธาตุของเหลวและของแข็งที่หมุนเวียนบนพื้นภิภพหรือผิวเปลือกโลกเกิด
การเปลี่ยนแปลง และมวลของเหลวและของแข็งในใจกลางหรือในแกนโลกเกิดการเปลี่ยนแปลง ทำให้พลังงานสนามแม่เหล็ก
ของโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงไป

จากข้อ1. จะส่งผลกระทบหลายด้าน เพราะเกี่ยวข้องทั้งระบบสุริยะจักรวาล และจักรวาลน้อยใหญ่ที่มีอิทธิพลต่อสุริยะจักรวาล
ส่งผลให้พลังงานต่างๆแรงดึงดูดต่างๆเปลี่ยนไป การหมุนเวียนของ ของดาวต่างๆรอบดวงอาทิตย์เปลี่ยนไป การหมุนรอบตัวเอง
เปลี่ยนไป และโลกเราก็เช่นกัน โลกจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากที่สุด
[ลองคิดดูนะครับว่าหากเกิดตรงนี้วงจรชีวิตของสิ่งมีชีวิตทุกอย่างจะเปลี่ยนไปด้วยครับ น่ากลัวมากครับ]

จากข้อ2 หากเกิดลักษณะแบบนี้ จะเกิดการเปลี่ยนแปลงเฉพาะโลกของเราเท่านั้น ไม่เกี่ยวข้องกับสุริยะจักรวาล
หรืออื่นๆ ในสภาวะที่เกิดการเปลี่ยนสนามแม่เหล็ก การถ่ายเทมวลสารและพลังงานในช่วงที่เกิดสภาวะที่ผิดปกติ
นี้จะส่งผลให้ มวลธาตุต่างๆ เกิดความไม่สมดุลย์ การหมุนเวียนของโลกรอบดวงอาทิตย์ยังปกติ แต่การหมุนเวียนของ
โลกรอบตัวเอง ในช่วงเวลาดังกล่าวอาจจะช้าและเร็วสลับกันเล็กน้อย เพราะการถ่ายเทมวลธาตุและพลังงานของโลก
เกิความผิดปกติ ไม่สมดุลย์ แต่เมื่อผ่านไปไม่นาน มวลธาตุและพลังงานกลับสู่สภาวะสมดุลย์ ทุกอย่างก็กลับสู่ภาวะปกติ
แต่ส่วนที่ไม่ปกติ เพราะสภาพของพื้นผิวโลก ได้เปลี่ยนใหม่ ไม่สามารถตอบได่้ว่าส่วนใดจะต่ำลง ส่วนใดจะสูงขึ้น มวลน้ำใน
มหาสมุทรจะถูกถ่ายเทไปยังจุดใดบ้าง สิ่งมีชีวิตทั้งหลายล้มตายมากน้อยแต่ละพื้นที่ตอบไม่ได้ สภาพอากาศและฝุ่นผง
น้ำฝนเปลี่ยนไป สภาพท้องฟ้าเปลี่ยนไปหมอกเมฆที่ปกคลุมผิวโลกเปลี่ยนไป

ทุกอย่างจะกลับคืนสู่สภาวะปกติบางอย่างอาจใช้เวลานาน บางอย่างก็ไม่นาน

นิมิตเห็นว่า ก่อนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ จะมีปรากฏการณ์ทางพื้นดิน มหาสมุทร และทางอากาศท้องฟ้าที่ผิดปกติซึ่งจะเตือนให้ทราบ
ล่วงหน้าเพียง1-3วันเท่านั้น

วันเวลาที่จะเกิดยังไม่สามารถกำหนดได้เพราะมีเหตุปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เพื่อความไม่ประมาทจึงควรระวังและเตรียม
ความพร้อมไว้ด้วยก็จะดีครับ สาธุ สาธุ สาธุ

 

ความเห็นของท่าน มาแนวเดียวกับที่เราได้รับรู้

อนาคตัง ฉายให้เห็นภาพรายละเอียด ภาพปรากฏการณ์ที่น่ากลัว เป็นชิ้นส่วน

แต่ครูอาจารย์และพระสัทธรรมของพระพุทธเจ้า สอนให้เห็นวิธีวางจิต วางใจ และเอาจิตใจที่มั่นคง มาช่วยกันเปลี่ยนภาพอนาคต

หากร่วมมือกันในปัจจุบัน อนาคตย่อมมีการเปลี่ยนแปลง แม้แต่เทวดาก็รอลุ้น

มาลุ้นด้วยกันค่ะ

ช่วยกันสวดมนต์บทมงคลจักรวาลใหญ่ ปรับสมดุลย์จักรวาลกันเถิดค่ะ
www.visudhidham.com

 

=====

อนุโมทนาด้วยครับ กระผมก็ชื่นชอบในบทนี้ บทมงคลจักรวาลใหญ่ มีพุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ สังฆานุภาพมากครับ พร้อมด้วยให้เสริมด้วยบท พระธารณปริตตัง เป็นพระปริตร ที่มีอานุภาพมากช่วยให้แคล้วคลาดปลอดภัยจาก ภัยภิบัติทั้งปวงครับ สาธุ สาธุ สาธุ

 

ยังไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดหรือไม่เกิด ??? แต่ขอใช้ชีวิตตามปกติดีกว่า
ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงซะก่อน วันที่ 20/12/2012 นี้
จะไปทำบุญและจะไปกราบพระธาตุช่อแฮ
แล้วจะนำรูปมาแชร์ให้ดูนะคะ (f)

 

- กลียุคของโลกจะหนักหรือเบาขึ้นอยู่กับตัวแปรสำคัญก็คือ คน , มนุษย์ , ผู้ทรงญาณ , พระอริยเจ้า และพระโพธิสัตว์

 

อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดค่ะ ไม่ช้า ไม่นาน เราก็ต้องตายอยู่ดีค่ะ

 

ทุกอย่างสำเร็จได้ด้วยใจ
ขอฝากไว้ด้วยนะครับ ให้ช่วยกันเฝ้าระวังอย่าไปส่งเสริม ตื่นข่าวกับกระทู้ประเภทภัยพิบัติให้มาก ถ้าทำใจไม่ไหวก็ทำใจสบายๆ หาบทความที่เป็นกุศลจะช่วยให้เรามีสติ เตรียมพร้อมได้มาก หรือแม้แต้ผู้มีพลังทั้งหลายที่เราตามๆอยู่ก็ไม่มีใครสักคนที่จะพึ่งได้เลย กลายเป็นภาชนะเรียบร้อยแล้ว

 

ผมว่าไม่ต้องตื่นตระหนกหลอกครับ เพราะว่า พระพุทธองค์ทรงยืนยันไว้แล้วว่า ศาสนาพุทธ
จะมีอายุถึง 5000 ปี เพราะฉนั้น เหลืออีก 2400 กว่า ปี ที่เราจะมีโอกาสเวียนว่ายตายเกิดอีกหลายรอบ ครับ

 

ในโลกนี้ไม่มีสิ่งใดที่เป็นอมตะหรอกครับ

ถ้าอ่านนี้จะเข้าใจเอง

ไตรลักษณ์ - วิกิพีเดีย

 

และก็เคยมีตำนานเล่าขานกันว่าแผ่นดินทีเจริญกว่าหริอพอๆกับโลกเราในปัจจุบันก็เคยล่มสลายมาแล้ว
เช่นนครมูกับแอตแลนติส

 

เอาแบบที่ใกล้ๆตัวสหภาพโซเวียตทำไมจึงล่มสลายทั้งๆที่ไม่ใช่คนป่า
พม่าเคยเหนือกว่าไทย แล้วทำไมในตอนนี้จึงด้อยกว่า
ทุกอย่างมันขึ้นกับวิบากกรรมด้วย
ดังนั้นเหตุผลที่ว่ามาจากความเป็นคนป่าคงไม่ใช่
และที่สำคัญถ้าเปนคนป่าจริงๆคงสร้างอารยธรรมไม่ได้

 

อย่าลืมว่าหลายๆชาติมหาอำนาจในยุคนี้มีอายุน้อยกว่าอาณาจักรมายาในวันที่ล่มสลาย
แม้จะไม่ใช่มหาอำนาจทั้งหมดตัวอย่างเช่นจีนก็ไม่น่าใช่