“ พระให้หวย ” เป็นพฤติกรรมที่สมควรแล้วหรือ?

ปรมัติบัญญัติ กับ สมมติ บัญญัติ....

สำคัญ พอๆกัน...การดำรง ชีวิต..ของ มนุษย์ เกิดมาแล้ว..ต้องอยู่ด้วย สมติ ทั้งสิ้น
เพระา เมื่อ มีการ เกิด...วิบาก กรรม ก็ ให้ผลทันที...การ จะ อยู่บนโลก ๆได้ ด้วย
ความปกติ..นั้น ต้อง มีศีล...แต่ ทว่า..ศีลนั้น...หา ผู้ บนิสุทธิ์ เป๊ะๆ...
ตาม คำสอน ทุกประการนั้น..หา มีไม่..เพราะ อะไร เล่า....เพราะว่า ทุก คน ทุก จิตวิญญาณ..มัน ยังติด สมมติ ทั้งสิ้น....

พระ อรหันต์ เอง ที่บรรลุ ธรรมแล้วนั้น หาก ท่านยัง ดำรงขันธ์
ท่านยัง ไม่ แตกดับ...คุณ กล้ารับรอง มั้ยว่า ท่าน ไม่ เผลอ ที่จะ ผิดเ ศีล

ศีล นั้น..มี ที่สุด ตรงไหน..คุณ รู้ มั้ย...........

ที่ท สุดแห่งศีล คือ อะไร.....อมตญาณ..
ที่สุด แห่ง สมาธิ คือ อะไร...
ที่ สุด แห่ง ปัญญา คือ อะไร..........

อมตญาณ....เก่งนัก มาตอบ ที มาคุยกัน..มาเวสนา ธรรมกัน...

 

อย่าอ้าง..อะไรมากความ...
คุณ มาแสดงตัว และ ยกอะไรมา อ้างมากมาย....
แสดงว่า..มั่นใจ ตัวเอวงมาก..คุณ มี มานะ..จัด...
แสดง ธรรม..ตามปาก ตาม กิเลสใจ..ที่มีมานะ..จัด คิดว่า กู เก่ง...

อย่า หนี..มาๆ..มาแสดง กันหา ข้อ ธรรม ที่ดี..ลงตัว
เป็นเครือง ยุติ...เรื่องราว...

 

<embed src="http://www.youtube.com/v/euCEUmg9f-M?&autoplay=1"feature=player_detailpage" frameborder="0" <iframe width="640" height="360" allowfullscreen></iframe></embed>

 

สมเด็จ โต..ท่าน ให้ แตงโม..แก่ชาวบ้าน..((ผมจำได้เลาๆ))

คุณว่า ชาวบ้านไปตีเอง...คุณ รู้อะไร ล่ะ ต แตงโม มันเป็น 1 ใน 12 อย่าง
ที่เป็นหวย....แล้ว หวย มันยออก แตงโม ด้วย..คุณหาว่าท่านไม่ตั้งใจให้ หรอ
มี เหตุผลอะไนล่ะ เมื่อ มีชาวบ้านมาเฝ้าท่านแล้วท่าน หยิบ แตงโมให้..ชาวบ้าน

หลวงพ่้อ จง วัดหน้าต่างนอก..ท่านบอกเลข ตรงๆเลย....ชาวบ้านคนนั้นเอากลับไป
แล้วหลวงพ่อ จง ก้ กังวลกลัววว่า ชาวบ้านคนนั้นจะซื้อเยอะ
ท่านอุส่า พายเรือไปหา ชาวบ้านนั้น..ที่บ้าน..และไปเคาะฝาเรือนบอกว่า
อย่าซื้อเยอะนะ

เรื่องนี้จะอธิบายอย่างไร

เรื่อง พระเทพ กับ หลวงพ่อ เนื่องอีก..คุณจะอธิบายอย่างไร
ท่าน ขอชม บารมี.งหลวงพ่อ เนื่อง ท่านก็รับปาด ว่าจะเขียนให่ 10งวด

เรื่องนี้ คุณว่า หลวงพ่ อเนื่อง ท่าน ทำอะไรล่ะ

 

อย่าเก่ง แต่ เอา ยูทูป มาลงสิ...

ไหนคุยนักหนาไง ว่าเรียนธรรมมะ..มา
มาตอบสดๆสิ
เอาแก่น เอา ความเข้าใจ ในคำสอนมา คุยกัน...
ประเภท แบบคุณ ที่มาแนวนี้ เขาเรียกว่า.....อยาก อวด ดี แต่ไม่มี ดีจะอวด

หาก นาย แน่จริง...เอา ความรู้ ที่ยนายมี มา คุยเลย อย่าไปอ้างของใคร
เพราะ อะไร รู้มั้ย...คนที่รู้จริงน่ะ...หาก กล่าว แบบ มีเหตุผล ตรง สภาวะ แห่งธรรม แล้ว...

ใคร มาอ่าน ใครมา ฟัง เขา ตรองได้ เขา พิจารณษ ได้ ..ว่าจริงมั้ย..

การไปยก คำสอน ใครต่อใครมา เนี่ย...มัน กระจอกไป...

 

ที่สุด แห่งศีล....คือ อะไร....นายยังไม่ตอบเลย

ที่สุดแห่ง
สมาธิ คืออะไร....ตอบ ได้ มั้ย....

ที่สุดแห่ง ปัญญา คืออะไร...ตอบมา สิ.....

เก่งนัก..อย่าหนี นะ

 

พระ ผู้ บรรลุธรรม...นั้น...

เขา มี ปฏิปทา ที่แตกต่างกันไป...แล้ว แต่ วาสนาเดิม..ที่สะสมมา
จู่ๆ จะให้พระ ที่มาบวช..แล้ว เดินไปในเส้นทางเดียวกันหมด
พระ ๆไม่ใช่ สัตว์ ที่ นัก แสดง ลคร สัตว์ จะมาฝึกหัด.งได้
ให้เป็นไป ดังใจ....ทำไม สมถะ กรรมฐาน มี 40 กอง..((ความจริง มีมากกว่านั้นด้วย))
แม้ แต่ สติปัฎฐาน ถึง มีแค่ 4 หมวด...แต่ ใน 4 หมวด นั้น ยังแยกย่อย
ออกไป อีกมาก มาย..ทำไม ล่ะ กรรมฐาน ใน สติปัฎฐาน 4...คุณ รู็จัก ดีมั้ย
หลวงปู่มั่น...เทพเจ้าแห่งพระป่า..ในยุคนี้..

คุณ รู้มั้นยว่าท่าน สอน อะไรเป็นเบื้องต้นแห่งกรรมฐาน และท่านเอามาจากไหน
ท่านไม่ได้คิดเองแน่ๆ..และ สิ่งที่ท่านสอนนั้น เป็น แค่ บท แรก ของกายานุปัสสนากรรมฐานเท่านั้น..ไม่เกี่ยวเนื่อง กับ สติปัฏฐานทั้งหมดด้วย

แต่เมื่อ ปฏิบัตจิตไปแล้ว ควาาเกิดสติ มันจะเข้าถึง ทั้งหมด แห่ง สติปัฎฐาน4...
คุณ รู้มั้ย...แแต่เหตุแห่งการ ปฏิบัติ มี แค่นิดเดียว..

 

ผม นี่แหละ แบงค์

ผม ชัดเจน..

สมมติสัจจะ..ที่นายยกมา..จากยูทูป...นายไปฟังใหห้มาก..ท่านกล่าว ไว้ ดีแล้ว...
หวย คิอ การประโลมโลก..มันเป็นสมมติ..ัมน มีการเกิด มันเป็น กิเลส.งและ
มันเป็นสมมติ ที่ชาวบ้านยังติดข้อง....

ผม มา เม้น เลข ผมบอกว่า ผมอยากดังหรอ..ผม ฝัน จาก ครูบาอาจารย์ บางทีก็ไม่ฝัน..ผม ต้องการอะไร.....

 

หลวงตา บัว......

ท่าน จับต้อง วัตถุ อนามาส...คุณเห็นด้วยมั้ย....
เก่ง นัก ลองวิจารณ์ หลวงตา บัวสิ...อย่า เก่ง แต่ ตี พระให้หวย
พระ ช่วย ประเทศไทยน่ะ...ช่วยวิจารณืด้วยว่า..
ท่านทำ ถุกไม๊

 

พอ เจอ ของจริง..ก้ หนี...
ตอบไม่ได้ ก้ บอกว่้า คนละทาง...

หุหุ...เก่ง แต่ ปากดี..เที่ยวแขวะ จะเอาตามใจตนเอง...
พอ โโนจี้ เข้้าหาแก่น ตอบไม่ได้..ก็ หนี วิ่งจุกตูดไป..

น่าสม เพช..จริงๆ..ไปเรียน ให้มากกว่านี้..แค่ งูๆปลาๆอย่้าทำ ปากเก่ง...

 

ผม เกริ่น..เรื่อง ที่สุดแห่ง...ศีล สมาธิ และ ปัญญา..ไว้

ผม จะ กล่าววไ้ว้..ให้เป็น วิทยาทาน

ที่สุดแห่งศีล นั้น...คือ เจตนา วิรัติ...
ที่สุดแห่งสมาธิ คือ อัปปนาสมาธิ
ที่สุดแห่ง ปัญญา คือ อาสวักขยญาณ.....

จำไว้...มีเท่านี้ จะให้ขยาย ต่อ ก็ ร้องขอมาได้..ผม พร้อม...ว่า 3 อย่างทีุ่สุดนี้ เป็นอย่าง
ไร

 

555...กระแนะ กระแน๋...นิสัย อย่ากับกะเทย....
ผม ชัดเจน ผม กล่าวอะไร หยาบคายหรอ.งผม นำเสนอ ชัดๆ..
คุณตอบไม่ได้ ก็ ออกอากกร แบบ คน ลักเพศ

 

แถม ยกหาง ว่ากำไร.นิดหน่อย..เฮ้ออ...

ผม ถาม ความรู้หลายอย่างตอบไม่ได้สักอย่าง...
มีแต่อวด ดี..พอตอบไม่ได้ ก็ เหน็บแนม ผม..เป็นนัยยะ

ตัวนาย เนี่ยนอกจาก อัตตาจัด แล้ว...ยัง ทิฎฐิ ต่ำด้วย
ผมสงสารนะ..พวก หลงครูบาอาจารย์ มองโลกแง่เดียว
แล้วสรุปๆเอาว่า ตนเองคิดถุก แล้ว เก่งแล้ว

กบ..ใน กระลา ครอบ....จริงๆ อมตญาณ...สงสารๆๆๆนะ

 

555555555

ไม่ตอบอะไรผม สักอย่าง..แถมคุยว่า ปัญญาคนละ ขั้น เออ มึงเก่ง...

555555555555555

 

จัดไปเลย...อันไหน ไม่เหมาะสม....
นิสัยคุณ นี่ พอ สู้ไม่ได้ ก็กล่าวหา..
แถม ยัดข้อหา ด้วย...นิสัยแบบนี้ มันคือ พวก อะไร..หว่า..หุหุ

เม้นไหน ไม่เหมาะสม ล่ะ
คุณแจ้งไปเลย

 

เห็น คุย เก่ง หลายเรื่อง..เก่งเรื่อง จิต 89 ดวง เก่ง เรื่อง การเดิดดับจิต ที่ไปอ่านมา แล้ว อยาก อวด ว่า รู้ ..ที่แท้ แค่อ่านมา แล้งยกมา เม้น...

อวด ดี ทั้งที่ไมใ่มีดี...
พอถามสิ่งที่ตอบ ไม่ได้ ก็ บอกว่าธรรมมะ คนละัชั้น..หุหุ..
แถม ยัดข้อหาด้วย.ผม จะอย่างไร ผม ก็ ไม่ทำแบบที่คุณทำ

เรียกผม แพะ...หุหุ ผม อย่างไไร ก้ มีศีลมากกว่าคุณ
ตุณน่ะ 1 ก๊งนงนุ๙ 2ก๊ง พุทธวาจา 3ก๊ง..เมา อย่าง....

ผม อาจไม่ครบ 227...แต่ศีลผมมาสกว่า คุณแน่ๆ..ผมมไม่มีเมีย
ไม่ กอดใคร..คุณล่ะ วันนี้กอด เมีย ยัง..มาอวด เก่งธรรมแถม ว่ากล่าวผมด้วย...

อมตญาณ ตั้งชื่อ โก้เชียว..มาเล่นคอมโชว์ อัตตาไปวันๆ
แน่ จริง มาบวช สิ อย่าเก่งแต่ปาก....ทำเป็นรู้มาก แต่ไม่กล้าบวช..มาบวชสิ แล้ว ทำตัวให้ คนกราบ แบบที่นาย ต้องการ

แน่ ป่าว ล่ะ....

 

ตั้งกระทู้ขึ้นมาเพื่อ?? สนอง need ตัวเองที่อยากด่าคนอื่น?? เท่านั้นรึป่าว

 

นำเรื่องของสมเด็จพระพุฒาจารย์โตกับหวย มาให้อ่านกัน

ใบ้หวย

วันหนึ่งนางกำนัลของเจ้าจอมอ่อนได้ขึ้นมาขอหวย ก.ข. บอกว่า "ท่านเจ้าคุณขา ดิฉันไม่ค่อยมีเงิน ขอหวยสักตัวเจ้าค่ะ" อุตส่าห์หิ้วปิ่นโตจากวังมาให้ แล้วทำยักคิ้วยักหน้า พระธรรมกิตติมองไปมองมา ก็โพล่งขึ้นมาว่า "ตูดน่าเล่น"

นางกำนัลโมโหใหญ่ กลับไปฟ้องรัชกาลที่ ๔ พระเจ้าแผ่นดินไม่ทรงว่ากระไร รับสั่งว่า "ขรัวโต ไม่มีเจตนาในทางอกุศลหรอก อย่าคิดมาก" วันนั้นหวย ก.ข. ออกตัว ต. ดังไปทั้งวัง

ความดังนี้ ทำให้พระธรรมกิตติ (โต) ไม่มีเวลาปฏิบัติธรรม มีคนมารบเร้าขอหวยอยู่เรื่อย อยู่มาวันหนึ่งท่านไม่รู้จะไล่ญาติโยมที่มาอย่างไร ก็นั่งถ่ายอุจจาระลงมา คนบ้าหวยในสมัยนั้นก็บอกต่อ ๆ กันว่า ท่านเจ้าคุณขี้ ท่านใบ้ ข. ในงวดนี้ เจ้ากรรมหวย ก.ข. ก็ออกตัว ข. จริง ๆ ท่านเจ้าคุณดังระเบิด ทั่วทุกหัวระแหงในบางกอก แม้ในชนบทก็รู้จักพระเดชพระคุณ ถึงกิตติศัพท์ใบ้หวยเหมือนมีตาทิพย์

หวยสมัยนั้นออกทั้งภาคเช้าและภาคเย็น มีพวกอั้งยี่คุมตลอดคลองสองฝั่งและย่านติดแม่น้ำ จากพระราชวังถึงแยกเจริญกรุง อั้งยี่รถเล็กคุม และจากหน้าโรงหวยถึงสะพานเหล็กตกอยู่ในอิทธิพลของอั้งยี่สามแต้ม โดยมีเถ้าแก่ยี่กอฮงเป็นเจ้ามือหวยใหญ่ เมื่อหวยพระอาจารย์โตเข้าเรื่อย ๆ เจ้ามือหวยต้องการจะฉีกหน้าเจ้าคุณธรรมกิตติ (โต) จึงให้ลูกน้องปลอมเป็นลูกศิษย์ไปขอหวยด้วย เจ้าสัวเจ้ามือหวยเถื่อนกำชับลูกน้องว่า ต้องซุ่มดูที่กุฏิ เจ้าคุณให้หวยอะไรรีบมาบอก ลูกน้องก็รับคำ ไปตามคำบัญชาของเจ้าสัว

หวยตกน้ำ

เฝ้าอยู่ถึงบ่าย ลูกน้องเจ้าสัวก็วิ่งมารายงานว่า หวยของขรัวโตคือ "ต" เถ้าแก่ฮงก็สั่งลูกน้องปลดหวย "ต" ทิ้งลงน้ำไป ฝ่ายคนใช้ล้างจานของเจ้าสัวบังเอิญเห็นหวยลอยน้ำ "นี่มันหวยของเจ้าสัวนี่ ทำไมตกน้ำ" จึงหยิบขึ้นไปแขวนใหม่ในที่เดิม โดยไม่รู้ว่าเจ้าสัวเป็นคนสั่งให้โยนทิ้ง

เรื่องบังเอิญแท้ ๆ หวยวันนี้ก็ออกตัว ต. เจ้าสัวถึงกับอุทานว่า ไอ้ห่า หวยขรัวโตตกน้ำแล้วยังขึ้นมาแขวนใหม่ในที่เดิม โดยไม่รู้ว่าเจ้าสัวเป็นคนสั่งให้โยนทิ้ง

เรื่องบังเอิญแท้ ๆ หวยวันนั้นก็ออกตัว ต. เจ้าสัวถึงกับอุทานว่า ไอ้ห่า หวยขรัวโตตกน้ำแล้วยังขึ้นมาแขวนได้โว้ย
ท่านเจ้าคุณพระธรรมกิตติ มีกิตติศัพท์ดังไปทั่วทุกคุ้งน้ำ ไม่เป็นอันทำวัตรปฏิบัติธรรม เพราะต้องคอยต้อนรับนักเล่นหวย ท่านเจ้าคุณถึงกับรำพึงและกล่าวขึ้นลอย ๆ ว่า "ขรัวโตดีก็ว่า ขรัวโตบ้า ขรัวโตบ้าก็ว่าขรัวโตดี"

 

อ่านยากๆพิมตัวใหญ่ อิอิ

 

สมเด็จโตให้หวย

กล่าวกันว่า การใบ้หวย ก ข นั้น ท่านเจ้าคุณ ให้ หรือใบ้แม้นมากๆ หวย ก ข ในสมัยรัชกาลที่ ๓
สาเหตุ เพราะเงินพดด้วง ที่ทำขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๑ ถึง ที่ ๓ นั้น มีใช้ลดน้อยลงไป ไม่มีพอหมุนเวียน เจ้าสัว หง ชี้แจง ว่าเนื่องจาก ประชาชน เมื่อ ได้เงินมาแล้ว เก็บฝั่งดินไว้นั้นเอง
การแก้ปัญหา ก็ต้องตั้งบ่อนหวยขึ้น เพื่อให้ประชาชนนำเงินมาเล่นหวย เงินจึงจะได้หมุนเวียน
รัชกาลที่ ๓ เห็นด้วย จึงโปรดเกล้าให้เจ้าสั่วหง เป็นพระศรีชัยบาล เป็นนายอากรบ่อนเบี้ย
การเล่นหวยที่พอมีหลักฐาน ใน ปี พ.ศ. ๒๓๗๘ การเล่นหวยวิวัฒนาการมาตลอด จนมาถึง

กล่าวถึงการใบ้หวยของสมเด็จโต ฯ มีอยู่วันหนึ่ง สมเด็จพระวันรัต ( เซ่ง ) วัดอรุณราชวราราม ได้ให้ศิษย์ ไปนิมนต์ สมเด็จโตไปพบเพื่อไต่ถามเรื่องให้หวยชาวบ้าน และจะตักเตือนให้เลิกกระทำเสีย เมื่อสมเด็จโตไปถึง สมเด็จพระวันรัตถามขึ้นว่า ยังไง หมู่นี้ได้ยินข่าวว่าให้หวยแม่นถูกกันทั้งตำบลหรือ ?
สมเด็จโต ได้เรียนว่า ตั้งแต่บวชเป็นพระมาหลายสิบพรรษา และได้สมณศักดิ์ถึงพระเทพกวีฯ ยังไม่เคยให้หวยแก่ผู้ใดเลย
สมเด็จฯพระวันรัตฯ กล่าวว่า คนแถวๆวัดฉันยังถูกหวยท่านโตเลย เห็นเขาลือกันมาก จึงเรียกมาตักเตือนให้เพลาๆลงเสียบ้าง

แต่วันนี้ฉันจะให้ท่านโตให้ลูกศิษย์ฉันบ้าง จะลองดูซิ...สมเด็จโตฯ

ท่านสมเด็จโตฯกล่าวว่า ถ้าเป็นความสงค์ของพระเดชพระคุณฯก็จะให้ ท่านโตกล่าวต่อหน้าพระวันรัตฯ

ว่า..ใครเล่าอยากได้หวย ให้จดเอานะฉันจะบอกหนเดียว ขณะนั้นมีญาติโยม พระเณร และศิษย์วัดอยู่กัน

สิบกว่าคน สมเด็จโตกล่าวออกมาดังๆ ว่านี่เป็นคำสั่งของสมเด็จพระวันรัตฯ ให้ขรัวโตให้หวย และบอกทุกคนคอยจดไว้นะฉันจะให้แล้ว และถามอีกครั้งว่า โยมจำได้ไหมฉันจะให้แล้ว....พระวันรัตฯถามว่า ..

ท่านให้หวยตรงไหน ท่านโตฯ ตอบว่า ตรงที่ให้หวย พระวันรัตนกล่าวว่า ท่านโต มาล้อฉันเล่นหรือ

ฉันไม่ใช่เพื่อนเล่นนะ ท่านโตจึงกล่าวว่า ก็ท่านให้ผมให้หวย กระผมก็ให้ไปแล้ว ยังมาว่าอะไรอีก..

ให้แล้วก็แล้วกันซิ ว่าแล้วก็ลาสมเด็จพระวันรัตฯกลับไป พระวันรัตฯกล่าวว่ายังกลับไม่ได้

สมเด็จโตกล่าวว่าก็ให้แล้วทำไหมกลับไม่ได้ แล้วเดินลงเรือกลับวัดระฆังฯไปทันที

ฝ่ายสมเด็จพระวันรัตฯ หัวเสีย พวกญาติโยมที่ชอบเล่นหวยก็พากันลากลับไปด้วย สมเด็จพระวันรัตฯ

ถามว่าจะรีบไปไหน ญาติโยมบอกว่าจะรีบไปแทงหวยตอนเย็น สมเด็จพระวันรัตฯ จึงกล่าวว่า..

ลองบอกมาซิว่าจะแทงตัวอะไร ญาติโยมเหล่านนั้นได้กล่าวว่า แทงตัว ห. หีบ สองตัว ตัวแรกท่านให้

ตัวหนึ่ง และตัวหวย อีกตัวหนึ่ง

พอตกเย็นศิษย์วัดได้ขึ้นไปกราบเรียนสมเด็จพระวัน รัตฯ ว่า หวยออก ห. บ้องหลิม

พวกญาติโยมที่แทงหวยรวยกันไปตามๆกัน สมเด็จพระวันรัตฯ นั่งนึกดูว่าท่านโตรูปนี้มีญาณสมาบัติสำคัญนักรู้ในสิ่งที่คนอื่นไม่รู้

และยังมีเกร็ดสนุกๆมากมาย

หวยเจ้าสัวหง แทงได้สูงสุด ตัว ๑ บาท เท่านั้น ใครแทงถูกเอาโพยไปขึ้นเงินได้ ๓๐ บาท(แทง ๑บาท จ่าย ๓๐ บาท)

กล่าวกันว่า ท่านเจ้าคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์โต ใบ้หวยแม้นมากๆ ท่านได้รับนิมนต์ เข้าไปเทศน์ในพระบรมมหาราชวัง

พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ ได้กล่าวสัพยอกมาว่า ..เจ้าคุณโต ใครๆพากันชมเทศน์ดี และได้ยินข่าวว่าบอก

หวยแม้น เขาถูกกันจริงหรือ ?

สมเด็จฯโตทูลว่า ขอถวายพระพร อาตมาถวายโดยสัจจริงว่า ตั้งแต่อาตมาได้อุปสมบทมาไม่เคยออกวาจา

ว่าหวยจะออก ด กวงสัว หง ชี้แจง ชี้แจงว่าเนื่องจาก ประชาชน เมื่อ ได้เงินมาแล้ว เก็บฝั่งดินไว้นั้นเอง

เหม็งตรงๆ เหมือนดังถวายแก่พระบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้าอย่างวันนี้แก่ใครเลย

สมเด็จพระจอมเกล้าฯทรงพระสรนวล มิได้ตรัสประการใด ทรงจุดธูปเทียนบูชาคุณพระศรีรัตนตรัย

และให้พระสังฆการีอาราธนาแสดงพระธรรมเทศนาต่อไป วันต่อมา หวยออก ด กวงเหม็ง ตรงกับ

ที่ท่านบอกรัชกาลที่ ๔

จึงเป็นที่เลืองลือเรื่องใบ้หวยแม่นของสมเด็จโตกันตลอดมา

สมเด็จโตใบ้หวยให้ชาวบ้าน โดยพฤติกรรมหรือวาจาแปลกๆ

การเล่นหวยเกิดขึ้นครั้งแรก ที่พอมีเอกสารอ้างอิงได้ ว่ามีตั้งแต่ พ.ศ. ๒๓๗๘ และเลิกเมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๙ ในสมัยรัชกาลที่ ๖