ทะเลาะกับพ่อ เครียด ขอคำปรึกษาค่ะ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย จำปา:), 11 ธันวาคม 2012.

  1. จำปา:)

    จำปา:) สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +18
    สวัสดีค่ะ ตอนนี้หนูอายุอีกไม่กี่ปีก็ 20 แล้ว หนูเครียดมากๆเพราะหนูทะเลาะกับพ่อ พ่อเป็นคนที่ใจร้อนมากๆถึงมากที่สุด หนูรู้ว่าการว่าพ่อแม่มันบาป แต่ถ้าหนุจะอธิบายถึงพ่อหนูจะบาปมั้ยคะ? ถ้าใครทำอะไรขัดใจพ่อพ่อจะตวาดเสียงดังลั่นบ้าน พ่อมีเงินเดือนเดือนละประมาณหมื่นห้าพันบาท พ่อขอแม่ แม่บอกว่าเก็บไว้เลี้ยงลูก(หนูกับพี่)เดือนนี้อาจไม่พอ พ่อก็จะตวาดแม่วาเรื่องแค่นี้ อย่าพูดมาก ฯลฯ ถึงพ่อกับแม่จะยืมกี่บาทหนูไม่รู้ แต่หนูได้ยินทุกอย่าง หนูเคยทะเลาะกับพ่อหลายครั้ง บางทีหนูพูดอะไรมากๆซ้ำไปซ้ำมา พ่อไม่พอใจ ตวาดลั่นบ้านจนสะดุ้ง หนูยอมรับว่ากลัว ถ้าที่พ่อพูดไม่ใช่ความจริงหนูจะบอกว่าความจริงเป็นอย่างนี้ แต่อธิบายได้ไม่เท่าไหร่ถ้าพ่อขวางสิ่งของในบ้านด้วยหนูก็จะวิ่งเข้าห้อง เพราะตกใจมากๆ ครั้งล่าสุดทะเลาะกันรุนแรงพ่อก็ด่าหนูว่าลูกอกตัญญู สันดาร พ่อก็แช่งหนูว่าไม่เจริญแน่ๆลูกแบบนี้ ขอให้ไม่เจริญทั้งๆที่หนูไม่ได้เถียง แค่อธิบายความจริงแล้วบอกว่าอย่าใจร้อนได้มั้ย ช่วงนี้หนูอ่านหนังสือไม่เข้าหัวเลย หรือเป็นเพราะพ่อแช่งไว้ว่าไม่เจริญหรือเปล่าคะ? หนูเครียดมากๆเพราะรู้ว่าการที่เราเถียงกับบิดามารดา แต่บางเรื่องถ้าหนูไม่พูดก็อึดอัด บอกให้พ่อใจเย็นกว่านี้หนูไม่ชอบคนใจร้อนพ่อก็ด่าต่างๆนานา หนูก็ต้องทำใจยอมรับค่ะ :') ขอบคุณที่รับฟังนะคะ หนูควรทำยังไงดี เครียดทุกครั้ง ตอนนี้ไม่พูดกับพ่อเพราะหนูอึดอัดต่างๆนานา ตอนพ่อดีก็ดีนะคะถ้าซื้อขนมมาให้ แต่ถ้าพ่อใจร้อนทั้งเรื่องเงิน เรื่องบ้าน หนูสงสารแม่ด้วย TT
    ปล.ที่หนูอ่านหนังสือไม่ค่อยเข้าหัวพยายามคิดว่าเพราะเราไม่ค่อยได้ทานข้าวเช้าอะคะ TT ต้องรีบออกจากบ้านกินข้าวไม่ทัน หรือกรรมส่วนนึงด้วยมั้งคะ

    เพิ่มเติมนะคะ ขอบคุณทุกความเห็นอีกครั้งนะคะ หนูไม่สนิทกับพ่อค่ะพูดตรงๆ ตั้งแต่เกิดมาพ่อหนูทำงานที่ต่างจังหวัด ไม่ได้มาเยี่ยมหนูเลย พ่อเพิ่งจะกลับมาบ้านตอนหนูอยู่ป.5 ประมาณนั้น แต่กลับมาเฉพาะเสาร์ อาทิตย์ นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้หนูไม่ค่อยสนิทจริงๆ สนิทกับแม่มากกว่า เวลาพ่อตวาดหนูจะเงียบเดินไปที่อื่นตลอด เพราะหนูกลัวและตกใจ

    ขอบคุณทุกความเห็นอีกครั้งนะคะ :cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 ธันวาคม 2012
  2. จำปา:)

    จำปา:) สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +18
    หนูลืมเล่าไป พอพ่อตวาดยังงั้นหนูจะกลัวเลย แม่หนูก็ผู้หญิงตัวเล็กๆคนนึง แม่ก็ให้พ่อ เพระาพูดอะไรไม่ได้ จำนวนเงินหนูไม่รู้ แต่เท่าที่รู้ครั้งนั้นหนึ่งหมื่นบาท พ่อทำธุรกิจไรไม่รู้ ซื้อของเข้ามาๆแต่ขายไม่ได้ ขาดทุน เฮ้อ เครียด
     
  3. Kon Surin

    Kon Surin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +174
    พ่อเเม่ไม่ดียังไงท่านก็เป็นผู้มีพระคุณกับเราน่ะครับที่สําคัญอย่าไปเถียงท่านกลับล่ะกันไม่งั้นจะมาเสียใจภายหลังเหมือนผม ลองขออโหสิกรรมพ่อกับเเม่เเล้วไปปฏิบัติธรรมดูครับ
     
  4. จำปา:)

    จำปา:) สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +18
    ขอบคุณที่เข้ามาตอบนะคะ อโหสิกรรมทุกครั้งที่ทะเลาะกันแต่ครั้งนี้พ่อแช่งหนูต่างๆนานา หนูก็กลัวนะคะ T^T
     
  5. ultimatezpro

    ultimatezpro สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +15
    เราก็เคยเป็นกับพ่อตอนนั้นโดนพ่อตบติ่งหู หลังจากนั้นเราก็ไม่กล้าเถียงอะไรอีกเลยเพราะยังไงพ่อก็เป็นผู้มีพระคุณที่ส่งเสียเลี้ยงดูเรามาเรากลัวเป็นบาปมากตอนเราเครียดเรื่องงานหรืองานไม่เสร็จเหมือนพ่อก็จะห่วงใยเราอยู่ห่างๆนะ ถึงพ่อจะร้ายแต่ก็รักเราแหละ :cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 ธันวาคม 2012
  6. wavepoo

    wavepoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2006
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +113
    จะว่าเป็นผู้ให้กำเนิดก็จริง แต่บางสิ่งบางอย่างที่พ่อแม่ทำก็ไม่ถูกทั้งหมด
    ทำไมพ่อแม่บางคนยังกินเหล้า สูบบุหรี่ ทั้งรู้ว่าไม่ดี ทำไมถึงต้องชอบดุด่าตีลูก ทะเลาะกันแรงๆ ทั้งๆที่รู้ว่าลูกจะต้องเสียใจ และลูกบางคนเอาไปเป็นแบบอย่างที่ไม่ดี --------- วิธีแก้ที่ผมทำคือ พูดคุยกับท่านดีดีเปิดอกคุยกัน ว่าอะไรเป็นอะไร เรารู้สึกยังไงในสิ่งที่ท่านทำ และอยากใหท่านนึกตริตรองให้ดี ว่าจริงไหม ค่อยๆใช้เวลาในการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ กว่าจะให้พ่อเลิกเหล้าได้นี่ ผมต้องเลิกก่อน อยากให้พ่อดีกับเรา เราต้องดีกับท่านก่อน อยากให้ท่านรักเรา เราต้องรักท่านให้ท่านเห็น ให้ท่านรู้สึกว่าเรา เจตนาดีกับท่านจริงๆ

    ...ถ้าไม่ได้จริงๆ วางเฉยครับ และหาโอกาสหาเวลาให้ตัวเองได้พัก ผ่อนความรู้สึก ไปนั่งสมาธิ ไปที่ๆมีต้นไม้ร่มรื่น ทำใจสบายๆ
    โอ้...อาหารเช้า สำคัญมากและขับถ่ายให้ตรงเวลาด้วยนะครับ สมองจะโปร่ง ร่างกายจะโล่ง
    ...ผมทะเลาะกับ พ่อ ถือเป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่ถึงกับแตกหัก แต่ทะเลาะด้วยเหตุผล ด้วยการปรับความเข้าใจ ไม่ใช่สร้างความวุ่นวาย ซึ่ง เราและท่านเข้าใจกันดี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 11 ธันวาคม 2012
  7. UkitoKung

    UkitoKung สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +6
    หัวอกเดียวกันเลยค่ะ แต่ของหนูรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่แข็งมากเลยค่ะ ไม่ยอมรับฟังใคร
    ดื่มเหล้าทุกวัน แล้วเดือดร้อนคนที่บ้านเกือบทุกคืน ต้องมาทนคำพูดที่ไม่น่าฟัง
    เสียสุขภาพจิตตัวเอง บางครั้งก็อยากจะปล่อยวางนะคะ แต่เห็นแม่เราตกที่นั่งลำบากทุกวัน
    คนเป็นลูกก็สงสารแม่ค่ะ แต่ไม่รู้จะจบปัญหานี้ยังไงดี

    ทุกวันนี้เราก็ตั้งปณิธานทานมังสวิรัตตลอดชีวิต ตั้งชีวิตในศีลในธรรม เข้าวัดให้บ่อยที่สุด
    ทำบุญทุกครั้งที่มีโอกาส แต่ทุกวันนี้เหมือนพ่อเราเป็นมารผจญ ที่เราต้องใช้ความอดทน
    เป็นอย่างยิ่งในการผ่านไปแต่ละวัน เพราะเหมือนจะเตือนแกด้วยเหตุผล หรือใช้อารมณ์
    ก็ไม่เคยได้ผลเลยค่ะ หนำซ้ำโดนแกสวนมาแบบ ต้องมีปากเสียงทุกครั้งค่ะ ถามว่าทุกวันนี้
    เสียใจที่มีพ่อแบบนี้ไหมคะ ก็เสียใจนะคะ แต่ว่าก็ดีใจที่แกได้มอบชีวิตให้เรา

    ปกติทุกวันที่ทำงานก็เครียดนะคะ เลิกกลับบ้านมาดึกเกือบทุกวัน
    มีปัญหาให้มาแก้ไขตลอด แต่เมื่อกลับมาถึงบ้าน ก็จะพยายามไม่บอกเรื่องที่ทำงานให้กับ
    ทางบ้านทราบ เพราะงานที่ทำทุกวันมีความกดดันสูง งานหนัก แต่หนูก็สู้ค่ะ
    เพราะเพื่อนร่วมงานดีมาก คอยช่วยเหลือให้กำลังใจตลอดมา

    ยอมรับค่ะ ว่าขาดกำลังใจและความอบอุ่นจากคนในบ้านพอสมควร แต่ก็จะตั้งปณิธานเป็น
    คนดีของสังคมค่ะ จะทำทุกวันให้เป็นวันที่ดีที่สุดเลยค่ะ ที่สำคัญหนูรักแม่ที่สุดเลยค่ะ
    ขอบคุณนะคะที่หนูยังมีแม่ที่ดี :'(
     
  8. มเหศวร

    มเหศวร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2012
    โพสต์:
    2,776
    ค่าพลัง:
    +792
    ตั้งสติให้ดี 3 สิ่งที่ห้ามแตะต้อง
    1 สถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะทำให้เรามีชาติ มีแผ่นดินอยู่ มีประเทศไทยทุกวันนี้
    2 พระพุทธศาสนา เป็นสิ่งประเสริฐสุดในโลก
    3 พ่อ-แม่ เพราะเป็นผู้ให้กำเนิด

    ถ้าประมาทพลาดพลั้งไปจะยากมากเกินการแก้ไข แม้แต่แผ่นดินก็ยังรับน้ำหนักกรรมเอาไว้ไม่ได้ หรือเรียกว่า ธรณีสูบ
    มีเรื่องแบบทำนองนี้เยอะมาก ทั่วโลก แล้วเราจะทำยังงัย ก่อนอื่นหยุดคิด หยุดๆๆๆๆๆๆๆ วางลงให้กลาง ให้ว่าง ตั้งเข็มทิศ ชีวิตใหม่ ....มีวิธี
    ถ้าพ่อแม่เราชอบพูดคำด่าคำ ชอบสาปแช่งล่ะเราจะทำอย่างไรดี
    ** สวดมนต์บทธรรมจักร ก่อนจะสวด ต้องสมาทาน ศีล 5 แล้ว อธิษฐาน ดังนี้ **
    " ข้าพเจ้ามีพ่อแม่เป็นผู้ให้ชีวิต ข้าพเจ้าขออาราธนาศีลทั้งหมด จงคุ้มครองให้พ่อแม่ข้าพเจ้าหลุดพ้นจากอบายภูมิ "
    เคล็ดลับที่ไม่ลับ ขอให้ท่านทั้งหลายตั้งสติ เปลี่ยนเข็มทิศชีวิตสู่ความเป็นมนุษย์สมบัติ แก่ตัวท่านเองและทุกคนในครอบครัวของท่าน วงวารของท่าน สัมมาอาชีพและปัจจัยสี่ ให้รุ่งเรืองเทอด อย่าเปลี่ยนเข็มทิศลงตรงกันข้าม มันจะสายเกินแก่ ....จ้า
    ขออนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ ล่วงหน้า เมื่อเหตุการณ์ทั้งหลายเปลี่ยนไปในทางที่ดี แล้ว ท่านจะนึกถึง อักษรพยัญชนะทุกตัวที่เราได้ถ่ายทอดออกไปนี้ ว่าใช้ได้จริง เมื่อตั้งใจทำ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 ธันวาคม 2012
  9. เฟลม

    เฟลม สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    90
    ค่าพลัง:
    +15
    วางเฉยครับ เงียบ สงบ มีเมตตา ไม่โกรธไม่ขุ่นเคืองใคร
    ถ้าในบ้านร้อน เราต้องเย็น ถ้าเราไปทะเลาะ กับพ่อก็เหมือนเพิ่มความร้อนเข้าไปในบ้าน เราก็ไม่มีความสุข คนในบ้านก็ไม่มีความสุข
    ถ้าเรื่องมันแย่ก็พยายามทำให้ดีขึ้น ทำให้เย็นลง แต่ถ้าทำให้ดีขึ้นไม่ได้ก็อย่าทำให้มันเลวลงกว่าเดิม การที่คุณทะเลาะกับพ่อ ไม่ได้ช่วยให้ปัญหาในบ้านดีขึ้น เราเป็นลูกก็ควรจะเป็นกัลยาณมิตรที่ดีของพ่อแม่นะครับ
     
  10. NARKA

    NARKA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    1,572
    ค่าพลัง:
    +4,560
    น่าเห็นใจ...
    ...หนูต้องใช้สติ ทบทวนดู...
    ..ตั้งแต่เราเกิดมา จำความได้ "เรารู้อะไรบ้าง"....
    ใครป้อนข้าวป้อนน้ำ ใครอุ้ม ใครพาเที่ยว ใครพาส่งโรงเรียนฯลฯ
    แต่พอเราเริ่มรู้ความ เราเริ่มหลง...หลงว่าเรานี้ เก่งกว่า ทำถูกต้องกว่า พ่อ และแม่....
    ลูกๆส่วนใหญ่ มักจะเป็นแบบนี้แทบทุกคน...
    ...หลักการคือ พ่อแม่ทำให้เราเกิด เขาจะทิ้งเราหรือหักคอเราเสียก็ได้...บุญคุณต่างๆเหล่านี้ พระพุทธองค์จึงเปรียบบิดามารดาเป็น"พรหมของบุตร"ทีเดียว
    อานุภาพพระรัตนตรัย...มีจริง ดลบันดาลได้จริง มีฤทธิ์จริงแท้แน่นอน
    อานุภาพความกตัญญู ก็มีอานุภาพจริง มีฤทธิ์จริงแท้แน่นอน...
    ..จะเล่าอีกทีเรื่องรามเกียรติ์ ยักษ์หนีพระราม ไปพึ่งแม่หณุมาณ
    พระรามตามฆ่า ยักษ์ ส่วนยักษ์ ขอให้แม่หณุมาณช่วย แม่จึงสั่งหณุมาณให้ช่วย ส่วนพระราม สั่งไม่ให้ช่วย
    หณุมาณก็ลังเลใจในผู้มีพระคุณทั้งสอง...จึงเนรมิตรตัวเองใหญ่โต แล้วเอาหางวงล้อมตัวยักษ์ไว้....พระรามจึงยิงศรหายักษ์ที่อยู่ในวงหางหณุมาณ
    หณุมาณภาวนาสองคำคือ "แม่พระราม"ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
    ปรากฏว่าศรนั้นกลับกลายเป็นดอกไม้สิ้น..
    ..พระรามจึงดึงศรสามโลกวินาศออกมาใช้
    เหล่าเทพเทวาตกใจกันทั้งสามโลก พากันมาห้าม แต่พระรามไม่ฟัง
    เหล่าเทพก็ตกใจ..เพราะศรนี้ อาจารย์.ฤาษีใหญ่ เป็นผู้ประทานให้พระราม ไม่มีใครสามารถหยุดศรนี้ได้ นอกจากฤาษีใหญ่เท่านั้น แต่ท่านดันเข้านิโรธสมาบัติ1000ปี ไม่มีใครในสามโลกนี้ สามารถปลุกได้...
    ..เมื่อพระรามแผลงศรสามโลกวินาศออกไป....ทั้งสามโลกก็เสทือนเลือนลั่นจะถล่มทลาย...
    ..ทันใดก็มีอาจารย์พระฤาษีใหญ่ เหาะมาจับศรนั้นไว้....สามโลกพลันสงบลง
    อาจารย์ฤาษีพูดว่า"อันนิโรธสมาบัติพันปีของเรานั้น ไม่มีอานุภาพใดในสามโลกสามารถปลุกได้...
    ..แต่อานุภาพความกตัญญูที่หณุมาณภาวนานี่ ...สามารถแทรกเข้าไปในฌานสมาบัติพันปีของเราได้"
    นี่เห็นไหมว่าความกตัญญูนั้น มีอานุภาพมหาศาลจริงๆ
    ดังนั้นขอให้หนูตั้งสติ ใช้ขันติ แล้วภาวนาคำว่า"พ่อแม่"ๆๆๆๆๆๆในใจตลอดเวลาเท่าที่สามารถทำได้ ไม่ว่านั่งเดินยืนนอน งานก็ทำไป เรียนก็เรียนไป ว่างเมื่อไหร่ให้ภาวนาสองคำนี้ แล้วหนูดูผลของคำภาวนา...ลุงว่าไม่เกินเดือน พ่อหนู...ต้องดีขึ้นแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์
     
  11. datchanee

    datchanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,947
    ค่าพลัง:
    +1,276
    นานาจิตตัง ด้วยวัยของน้องยังไม่สามารถมีภาวะที่จะทำใจให้ปฏิบัติธรรมกำหนดสติให้รู้ปัจจุบันได้จึงยากที่จะทำตามคำแนะนำที่ดีข้างบนได้ นอกจากจะเพิ่มความเพียรและขันตคืออดทนต่อสภาพแวดล้อมแล้วก็สวดมนต์อบรมจิตใจตัวเอง บางครั้งพ่อกับแม่เค้าก็มีกรรมต่อกันต้องใช้กันไป ส่วนเราเมื่อเข้าไปเกี่ยวข้องก็เป็นการเพิ่มวิบากกรมให้ตัวเอง ฉะนั้นอดทนดกลั้นคือส่งที่ดีจ้ะ ขอให้ทุกอย่างดีขึ้นน่ะจ้ะเป็นกำลังใจจ้ะ
     
  12. firstini

    firstini เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,213
    ค่าพลัง:
    +3,770
    ถ้าเถียงแล้วพ่ออารมณ์ขึ้น อย่าไปเถียง อย่าไปอธิบาย ไม่มีประโยชน์
    ไม่ใช่วิสัยของคุณที่จะช่วยอะไรท่านได้

    ต้องรอเวลา

    หางานพิเศษทำให้ได้เงิน ไม่งั้นจะเดือดร้อนมากกว่านี้
     
  13. พูน

    พูน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    595
    ค่าพลัง:
    +2,479
    อืม...น่าสนใจ
    ปีใหม่ หรือสงกรานต์นี้ หนู เตรียมพานดอกไม้ ธูปเทียน ดูช่วงที่ท่านอารมณ์ดีๆ เข้าไปกราบ ขอขมา คุณพ่อคุณแม่ เสีย "กรรมใดที่ข้าพเจ้าได้ล่วงเกินท่านตั้งแต่อดีตชาติ จนถึงปัจจุบัน ขอท่านพ่อ ท่านแม่ โปรดจงอโหสิกรรมกับลูกด้วยเทอญ" ให้ท่านกล่าวคำว่า ขออโหลิกรรมกับคุณ
    แล้วเริ่มใหม่นะ วันพระหาพวงมาลัยสวยสักพวงไปไหว้ท่าน แล้วดูผลว่าเป็นอย่างไร โชคดีจ๊ะ
     
  14. นายดอกบัว

    นายดอกบัว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +5,676
    ไม่รู้จะให้คำแนะนำยังงัย ถึงแม้ผมจะเคยผ่านเหตุการณ์แบบนั้นมา แต่การกระทำผมตรงกันข้ามกับเจ้าของกระทู้ (ผมสู้พ่อ ตอนที่เค้าจะทำร้ายผม เพราะยังงัยพ่อผมก็สู้ผมไม่ได้หรอก ถ้าไม่ใช้ปืน ) แต่นั่นมันสมัยอายุ 14-15 ล่ะ

    คำสาปแช่ง ผมพูดตรงๆนะ มันไม่ส่งผลอะไรหรอก ถ้าการกระทำ จิตใจเราไม่ได้ทำแบบนั้น มันไม่มีสาเหตุที่จะต้องทำให้เกิดเหตุการณ์ตามที่สาปแช่ง

    คุณวิกรม ไม่ถูกกับพ่อนะ ยังเจริญเป็นร้อยๆล้าน
     
  15. ติดบ่วง

    ติดบ่วง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2012
    โพสต์:
    194
    ค่าพลัง:
    +771
    จขกท. ถ้าทนไม่ไ่ด้ก็พยายามหนีให้ห่างจากคุณพ่อของคุณไว้ ผมทำชั่วมายิ่งกว่าคุณเยอะ และก็โดนจากท่านมาเยอะ ผมเคยคับแค้นใจขนาดว่าจะฆ่าตัวตายเพราะที่เกิดมาเป็นลูกของท่าน ทุกวันนี้ไม่ว่ากับใครถ้ารู้สึกอารมณ์ขึ้นต้องเดินหนีหรือออกไปจากตรงนั้นทันที พ่อแม่ถึงแม้จะชั่วช้าแค่ไหน ต่อให้เอาลูกไปขายให้คนอื่น หรือคอยทำลายลูกตัวเอง ก็ยังได้ขึ้นชื่อว่าผู้ให้กำเนิด ถ้าต้องเจ็บปวดกับท่านต้องยอมรับในสิ่งนั้นว่าน่าจะเป็นผลกรรมในอดีตชาติ อย่าพยายามสร้างกรรมเพิ่มอีกเลย ทนให้มันหมดกรรมไปดีกว่าอย่างมากก็อาจจะแค่ชาตินี้ชาติเดียว
     
  16. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    เราก็มีกรรมของเรา พ่อเค้าก็มีกรรมของเค้า ต่างคนต่างก็มีกรรมเป็นของๆตน แล้วก็ต้องรับผลของกรรมนั้น (ผลคือพฤติกรรมที่แสดงออกทั้งดีและชั่ว)

    กรรมในที่นี้คือเจตนา และเจตนาก็มีทั้งกุศลเจตนา และอกุศลเจตนา
     
  17. อจิตตะ

    อจิตตะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มกราคม 2012
    โพสต์:
    305
    ค่าพลัง:
    +1,840
    พ่อแม่คือครูอาจารย์ ทุกอย่างที่ท่านทำก็เพื่อเป็นตัวอย่างให้ลูกดู...
    ๑.การทำตัวให้เป็นพ่อแม่ที่ดีนั้นเป็นการลงทุนต่ำได้กำไรมาก...
    ๒.แต่การทำตัวให้เป็นพ่อแม่ที่ไม่ดีนั้นเป็นการลงทุนสูงที่อาจได้กำไรสูงหรือขาดทุนได้

    ดังนั้นผู้เป็นลูก จงดูให้ดีดี...หากพ่อแม่เป็นข้อที่ ๑ ก็เบาสบายเดินตามท่านไป ชีวิตนี้เกิดมาได้กำไรแน่นอน
    แต่หากมีพ่อแม่ข้อ ๒ ก็ต้องคว้าปัญญามาพิจารณาให้มากกว่าพ่อแม่ข้อที่ ๑...เพราะท่านลงทุนสูงด้วยชีวิตท่านเอง หากเรามองเห็นธรรมในการกระทำของท่าน นั่นเท่ากับได้กำไรทั้งครอบครัว...แต่หากเราเพิกเฉยหรือไม่นำการกระทำของท่านมาพิจารณา(เพราะมัวเพลินอยู่กับการเสียใจ น้อยใจ ไม่ถูกใจ)...นั่นเท่ากับขาดทุนยับเยินทั้งครอบครัวเลยทีเดียว...

    "จงดู" แล้วทิ้งมันเสีย อย่าได้ไป "จับมันไว้"...กำไรแน่นอน...
     
  18. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    จากที่อ่านดู หนูก็ไม่ได้ทำบาบกรรมอะไรกับคุณพ่อ มากมายอะไร ปัญหานี้ผมขอแนะนำว่า

    1 ด้วยบิดา มารดาและผู้มีพระคุณเราควร วางตนที่ดีคือ การรู้จักทำความดีทดแทนคุณดูแลท่าน กรณีที่ท่านมีมิจฉาทิฏฐิ และกระทำผิด เราเป็นบุตรหรือผู้น้อย ควรรู้ว่าท่านมีอุปนิสัยอย่างไร การที่จะช่วยเหลือจึงเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมากๆ ในคราวที่ท่านพ่อขาดสติ เราควรสงบนิ่ง ในคราวที่ท่านอารมณ์ดีปกติเราควรกล่าวอุปมาให้ท่านคิดอย่างไร ในสถานการณ์ที่แย่ๆเราควรประคับประคอง มารดาของเราอย่างไร การดุด่าบิดามารดาผู้มีพระคุณห้ามทำเด็ดขาด แต่ควรฉลาดในการพูดหรือใช้โอกาสและถ้อยคำที่เหมาะสม

    2 หากพิจารณาว่า ด้วยบิดารมารดาผู้มีพระคุณของเรา มีอุปนิสัยสันดารอันเป็นกรรมชั่วมากกว่ากรรมดี ก็เป็นการยากที่จะฉุดเขาให้เปลี่ยนอุปนิสัย สิ่งที่ทำได้คือการรู้จักสวดมนต์ ไหว้พระ ทำบุญ อุทิศให้ เจ้ากรรมนายเวรทั้งของเรา ของบิดารมารดาเรา ตลอดจนควรอุทิศให้ครูอาจารย์เทวดาที่รักษาเราให้ท่านช่วย ซึ่งแรงบุญจะดลบันดาลให้ ท่านพ่อท่านแม่ มีจิตใจที่ดีขึ้น การทะเละเบาะแว้งลดลง ปัญหาจะคลี่คลายลง

    3เรื่องการอ่านหนังสือแล้วจำไม่ค่อยได้ ต้องค่อยฝึกเรื่องสมาธิ และการปล่อยวางปัญหาต่างๆ เมื่อเราอ่านหนังสือ นั้นคือจิตต้องมีสมาธิ และจะมีเคร็ดลับวิธีการในการฝึกท่องจำ ควรรู้ว่า สาระสำคัญของสิ่งที่เราอ่านแต่ละบทแต่ละเรื่องเราควรจะต้องเข้าใจและจดจำอะไรบ้าง แล้วควรท่องจำเฉพาะหัวใจหรือจุดสำคัญให้ได้ก่อน ส่วนรายละเอียดก็ค่อยจำจำตามมา กลวิธีการท่องจำมีเทคนิคและวิธีการช่วย เราได้หาวิธีการหรือเทคนิดเหล่านั้นเข้ามาช่วยหรือยัง เมื่อเราอ่านหนังสือด้วยเทคนิคต่างๆแล้ว เราเคยทำการทวนสอบความจำหรือความรู้ของเราบ่อยแค่ไหน ก่อนสอบ หากยังไม่ดีไม่คล่องเราก็ต้องทำบ่อยๆจนทวนสอบตัวเองแล้วได้หมดไม่บกพร่อง ขอตอบเยอะนะ เพราะเคยเป็นคนที่เรียนเก่งมากก่อนตอนปีหนึ่งปีสอง ได้เกรดเฉลี่ย3.6 แต่จะอีกสองปีก่อนจบป.ตรี เบนไปทำกิจกรรมเป็นอุปนายกฝ่ายปกครอง เกรดก็เลยเหลือน้อยลงครับ ทุกอย่างอยู่ที่เราตั้งใจที่จะทำและอยากให้มันเกิดได้ แต่ต้องหาวิธีการ ของเราเองนะครับ

    4สุดท้าย ควรวางกรอบกติกาในชีวิต ทั้งเรื่องส่วนตัวกิจวัตรประจำวัน การเรียน ครอบครัว การดูแลบิดารมารดา เพื่อนมิตร การใช้เวลาว่าง ทุกอย่างต้องคิดต้องวางกรอบไว้ให้ดีนะครับ แล้วคุณจะประสบความสำเร็จในชีวิตและมีความสุขครับ และสิ่งที่ขาดไม่ได้คือต้องแบ่งเวลาในการ ศึกษาธรรมะ การสวดมนต์ การปฏิบัติธรรมเพื่อชำระจิตเพื่อนำจิตทะยานสู่ความเป็นมนุษย์ผู้มีจิตใจสูงมีปัญญา รู้เท่าทัน สรรพสิ่ง ครับ สาธุ

    ลองดูนะครับว่าต้องทำอะไรอย่างไรก่อนหลัง โตแล้วน่าจะคิดและวางกรอบได้เองนะครับ สาธุ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ธันวาคม 2012
  19. อริยะบุคคล

    อริยะบุคคล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    110
    ค่าพลัง:
    +476
    เป็นผลแห่งกรรมที่ร่วมทำมาถ้าไม่อยากทุกข์อีกต้องตัดวงจรกรรมเสียคือการปล่อยวาง ปล่อยความคิดสู่ความว่างไม่ปรุงแต่งในคำพูดที่ถูกกระทบเช่นคำแช่ง ด่า ไม่ยึดติดตัวตน ถ้าทำได้แล้วจะสังเกตว่าใจเราไม่ถูกกระทบตามคำด่า ค่อยๆฝึกโดยใช้การทำสมถะกรรมฐาน ฝึกสติให้รู้เท่าทันเวลาเดินก็รู้ นั่งก็รู้ ช่วยตัวเองไม่มีใครช่วยได้ ความก้าวหน้าอยู่ที่การสังเกตใจที่ถูกกระทบจากสิ่งภายนอก ไม่ว่าจะเป็นใครที่มาว่าหรือมาแช่งก็ไม่ตอบโต้ มัจจุราชก็มองไม่เห็นเพราะไร้อัตตา ขอความเจริญในธรรมจงเกิดแด่เธอ นิพพานเป็นที่พึ่งแก่เธอแน่นอน
     
  20. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941
    ไม่เป็นบาปอะไรเลย เมื่อเราชี้แจงเหตุผลที่เป็นความจริงและ"ถูกธรรม"เพื่อให้ท่านเข้าใจและอาจช่วยให้ท่านฉุกคิดถึงความประพฤติที่เสียหายของท่านได้ แล้วเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ นี้ย่อมเป็นได้แต่"บุญอันยิ่ง"ที่หนูจะสามารถทำได้เรียกว่าเป็นการตอบแทนคุณท่านยิ่งกว่าวิธีอื่นทีเดียวเพราะสามารถฉุดท่านให้พ้นความเห็นผิด เกิดหิริโอตตัปปะขึ้นมา เมื่อท่านประพฤติดีขึ้นคือละโทสะที่รุนแรงลง ประตูที่เปิดกว้างเพื่อการไปนรกของผู้มากด้วยโทสะย่อมปิดลงหรือ แคบลงมา ....

    .แต่ในความจริงคือ..พ่อเป็นผู้สั่งสมอุปนิสสัยที่จะเป็นคนขี้โกรธไว้จนหนาแน่นถึงกับล่วงออกมาเป็นวจีทุจริต และกายทุจริตคือขว้างข้าวของในบ้าน การที่ท่านจขกท จะกล่าวอธิบายเหตุผลด้วยดี ย่อมยากที่พ่อจะรับหรือเข้าใจได้..

    เรื่องนี้ หนูพึงมีความแยบคายในการบอกกล่าวแก่พ่อ เช่นเมื่อเวลาพ่ออารมณ์ดี ก็พูดกับท่านว่า.."พ่อคะ หนูมีความสุขที่สุดเวลาพ่อใจดีอย่างนี้ิ หนูอยากให้พ่อใจดีเช่นนี้ตลอดไป เพราะเวลาพ่อโกรธหรือด่าและเขวี้ยงของ หนูจะรู้สึกเหมือนคนกำพร้า ไม่มีที่จะหลบซ่อนเลย หนูไม่อยากให้ชีวิต อยู่ในมุมมืดตลอดไป แม้คำแช่งของพ่อก็อาจส่งผลให้หนูตกต่ำไม่มีอนาคต เวลานี้หนูก็แทบเรียนไม่รู้เรื่อง เลย หนูไม่มีที่พึ่งที่ใหนอีก หนูเป็นทุกข์ที่เห็นพ่ออารมณ์เสีย หนูไม่เคยคิดร้ายหรือโกรธพ่อหรอกค่ะ เพราะหนูเกิดมาเป็นคนได้เพราะพ่อและแม่ ย่อมมีบุญคุณเหนือเศียรเกล้าอยู่ เมื่อหนูสามารถทำงานเลี้ยงตนได้ก็จะเลี้ยงดูพ่อแม่ด้วยเต็มความสามารถ ขอพ่อช่วยสนับสนุนให้หนูมีโอกาสตอบแทนคุณพ่อแม่ในไม่ช้านี้เถิด...

    หนูกราบขออโหสิกรรมในการที่ทำให้พ่อโกรธหรือไม่ชอบใจในคำพูดหรือการกระทำใดๆ ทั้งที่ตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ ที่ผ่านมาแล้ว ขอพ่อได้โปรดอภัยให้หนู เพื่อหนูจะระวังสังวรสำรวมต่อไป..."..

    หรือหนูจะพิมพ์ใส่กระดาษส่งให้พ่ออ่าน เมื่อเห็นท่านใจดีอารมณ์ดีก็ได้...

    อย่างไรก็ตาม นี้เป็นขั้นต้นของการกระทำที่ดีที่หนูจะช่วยให้พ่อฉุกคิดได้ในข้อเสียของท่าน แต่หนูไม่พึงหวังว่าแสงสว่างจะสามารถสาดส่องไปถึงใจพ่อได้ในทันทีทันใด หรือท่านจะกลายเป็นคนสุขุมเย็นขึ้นในบัดดลก็คงไม่ใช่เรื่องง่าย... แต่อย่างน้อย การแสดงออกเช่นนี้จะเป็นจุดเล็กๆที่จะสะกิดพ่อในใจแล้วครั้งหนึ่ง..ครั้งต่อไปเมื่อโทสะกำเริบอีก ท่านอาจหวนระลึกถึงถ้อยคำของหนูได้ แม้นั้นก็ย่อมเป็นปัจจัยให้การแสดงออกของท่าน"เบาลง"บ้างไม่มากก็น้อย..ลองดูครับ


    หนูไม่พึงวิตกเพราะเหตุแห่งคำพูดเหล่านี้ที่มีที่มาจาก"โทสะ"หรือความโกรธ...ชีวิตใครๆจะเจริญได้ก็เพราะตนเจริญบุญคือ ทาน ศีล ภาวนาเท่านั้น หาได้วิบัติหรือเสื่อมได้เพราะคำสาปแช่งของใครอื่นไม่ คนที่แช่งเขาให้เสื่อมนั้นเท่ากับแช่งตนเองเท่านั้น ข้อนี้หนูพึงเข้าใจกฏแห่งกรรมไว้ให้ดีว่า..ทำดีได้ดี ทำชั่วย่อมได้ชั่ว...ไม่แปรผันเป็นตรงข้ามเลย และไม่มีใครทำกรรมแทนใครกันได้ เพราะกรรม"เป็นของเฉพาะตน"เท่านั้น..

    ขอให้พ้นทุกข์โดยพลันครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...