นั่งสมาธิแล้วปวดขามากๆ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย dodharma, 1 ธันวาคม 2012.

  1. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    ..............นั่นแหละครับ บางทีภาวนา จะเอา สุขอย่างเดียว พอเจอผัสสะแรงแรง จึงเห็นอาสวะตัณหา ทุกโทมนัสที่มีอยู่..จึงได้เห็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ความไม่เที่ยง ในป้าย ต่อไปได้ บ้าง...พอเข้าใจคำว่า ...สิ่งใดเกิดแต่เหตุ ได้มากขึ้น ครับหลวงพี่:cool:
     
  2. ปัญฺญาวโร

    ปัญฺญาวโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +923
    มีขาก็ปวดขา ตัดขาทิ้งก็ไม่ปวด 55 ล้อเล่น หลวงปู่บุดดา ถาวโร ท่านบอกมีอันไหนก็ปวดอันนั้น พอสมาธิเข้าขั้นเวทนากายจะหายไปก็ไม่ปวดครับ สำคัญต้องหาอริยาบถที่สบายก่อน นั่งสบายๆมั่นคงและอดทน นั่งแล้วเป็นอัมพาตหรือตายก็ยอมประมาณนั้น

    ป.ล.ตอนนิ่งก็ดีอยู่ไม่ปวด แต่ตอนจิตเผลอตกฌาณ รับรองปวดอิปอ๋าย แต่ถ้าไม่ตกฌานถอนสมาธิปกติเดินตัวปลิวเลย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 ธันวาคม 2012
  3. Norlnorrakuln

    Norlnorrakuln เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    3,813
    ค่าพลัง:
    +15,095
    อาการปวดหากพิจารณาจนถึงที่สุดแล้วจะกลายเป็นปัญญา :cool:
    ในเบื้องต้นจะปวดชาแบบเบาๆก่อน แล้วจะค่อยๆคลายตัวหายไปเอง จิตเราตอนนี้จะรับรู้ถึงความไม่เที่ยงของสังขารร่า่งกาย(เกิดปัญญาน้อยๆ)
    จนกระทั้งนั่งไปนั่งไปอาการปวดจะกลับมาใหม่ คราวนี้หนักกว่าเดิม ถึงเอวเลย! เหมือนกับว่าไฟไหม้ หรือ อาการปวดจนเส้นเอ็นจะขาด(อาการคล้ายกับว่าคนกำลังจะตาย)หากผ่านไปได้ เราจะเห็นการทำงานของระบบต่างๆ ภายในร่างกายอย่างชัดเจน

    จนสุดท้ายอาการปวดจะกลับมาใหม่ คราวนี้ปวดจนถึงกระดูก เหมือนจะแตกสลาย บางคนปวดร้าวไปทั่วทั้งตัวฯลฯ หากผ่านไปได้เราจะเห็น "จิตส่วนหนึ่ง,กายส่วนหนึ่ง"แยกออกจากกัน...ส่วนของร่างกายนั้น เราจะเห็นว่า เขามีการปรับธาตุโดยธรรมชาติของเขาเอง คือ ธาตุลมจะค่อยๆละเอียดขึ้นๆ จนรู้สึกว่าไม่ปรากฎลมหายใจหยาบๆ ทางจมูกเลย! นั้นเป็นเพราะว่า หัวใจเริ่มทำงานช้าลงๆ ทำให้เลือดที่ไหลเวียนภายในร่างกายเริ่มแข็งตัว อาการเจ็บปวดก็จะไม่เกิดขึ้นอีกเลย ครับ :cool:

    มีแต่ความเบากายเบาใจอย่างน่าอัศจรรย์! ถึงตรงจุดนี้เป็นทางให้เราเลือกแล้วว่า...เราจะเลือกที่จะสงบแบบสุดๆ(ฌานสมาบัติ) หรือจะเลือกดำเนินไปเพื่อความเป็นอิสระของดวงจิต(วิปัสสนาญาณ...ในส่วนที่เหลือ) เพราะปัญญาในขณะนั้นเห็นเวทนาขันธ์แจ้งในระดับนึ่งแล้ว ย่อมรู้ได้เฉพาะตน ครับ :cool:
     
  4. อินทรี

    อินทรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    418
    ค่าพลัง:
    +562
    ในกรณีถ้าอยากจะทน หรือสู้กับความปวดที่ขานะครับ ถ้าปวดสุดขีดแล้ว ให้หายใจยาวๆลึกๆ
    หลายครั้ง ขณะที่หายใจยาวๆลึกๆเข้า แล้วค่อยถอนลมออกมาช้า ก้ให้พิจารณาความปวดตรงขานั้นเบาๆ ๆ ๆ ทำแบบนี้เรื่อยๆ จะปวดมาก น้อย แค่ไหน ก็ให้ทำใจให้ปกติที่สุด อย่าไปเกร็งอย่าไปฝืนมัน อะไรจะเกิดก้ให้มันเกิด เมื่อคุณหายใจเข้ายาวๆ แล้วค่อยๆหายใจออกมา และทนกับจุดที่ปวดนั้น ความปวดจะค่อยๆทุเลาลง ซึ่งจะเปนอย่างนั้นจริงๆ
    อยากให้ความจริงที่ว่า "ที่สุดของความปวดนั้นเปนเช่นไร" มากกว่าเพียงแค่จะนั่งหรือทน เพื่อให้หายปวด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 ธันวาคม 2012
  5. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    พระวจนะ"ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุประกอบด้วยธรรมหกประการ เป็นผู้ควรเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งความเย็นอันไม่มีอื่นยิ่งกว่า ธรรมหกประการ เหล่าใหนเล่า ภิกษุทั้งหลายธรรมหกประการ คือ ภิกษุในกรณีนี้---ข่มจิตในสมัยที่ควรข่ม(นิคคเหตพพํ)---ประคองจิตในสมัยที่ควรประคอง(ปคคเหตพพํ)---ทำจิตให้ร่าเริงในสมัยที่ควรทำจิตให้ร่าเริง(สมุปหํสิตพพํ)---เข้าไปเพ่งอย่างยิ่งซึ่งจิตในสมัยที่ควรเข้าไปเพ่งอย่างยิ่ง(อชุฌุเปกุขิตพุพํ)--------เป็นผู้มีจิตน้อมไปในธรรมประณีต(ปณีตาธิมุตุติโก)-----และเป็นผู้ยินดียิ่งในนิพพาน(นิพุพานาภิรโต) ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุประกอบด้วยธรรมหกประการเหล่านี้แล้ว เป็นผู้ควรเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งความเย็นอันไม่มีอื่นยิ่งกว่า แล---ฉกก.22/484/356......:cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 ธันวาคม 2012
  6. nataphat

    nataphat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2009
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +246
    เปลี่ยนท่าเลยคับ แต่เราดูกันที่อารมจิตเนอะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...