ใครศรัทธา หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด มาพูดคุยกันครับ

งามมากครับ

 

มีใครช่วยดูหลวงปู่ทวดองค์นี้ให้หน่อย...พอจะขึ้นคอไหวใหม?ขอบคุณครับ

 

มาแร้วจ้าาาาา ..... ตรงจากปัตตานี อ้อนป๊ะป๋า ... มาจนได้ เก็บแบบไม่ต้องเสียตัง 555+





















ได้มาวันเดียวกัน ... เลยขอนำมาโชว์ ปลัดขิกไม้งิ้วดำ เบี้ยแก้ไร้ตะเข็บ ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อตี๋ วัดหูช้าง

 

สวัสดีค่ะน้องภัทร

น้องภัทรมาตอนตี 1.42 นะคะ...

พระ 100ปี หลวงพ่อทิม งดงามมากเลย ปะป๋าใจดีจัง

ชุดนี้ พี่จะจองเหรียญทองแดง หมด
เมื่อวานไปเดินใต้สะพานลอยหาดใหญ่
เหรียญทองแดง ให้บูชา ตั้ง สี่ร้อยห้าสิบบาท....:'(

 

ราคาหน้าวัด 1500 ครับพี่นวล:'(

 

ตอนปลุกเสกผมอยู่ในพิธี เข้าไปยืนในเขตโบสถ์ที่ทำพิธีสักพักรู้สึกมึนหัวมาก ตอนใกล้เสร็จพิธี คุนแม่ที่นั่งอยู่ตรงสถานที่ทางวัดเตรียมไว้ให้ผู้ร่วมงาน ได้กลิ่นหมากแช่ลอยมาครับ

 

อยากเล่าให้น้องภัทรฟังค่ะ.....

เมื่อสองวันก่อนพี่คุยกับพี่ที่ทำงาน พูดเรื่องทำบุญกันค่ะ เดือนตุลาคม-พฤศจิกายนมี
ทอดกฐินกันหลายวัดพี่ก็ได้ไปร่วมทำบุญในหลายที่
เมื่อวันที่ 4 ที่ผ่านมา จริงๆ แล้วต้องไปงานทอดกฐินของวัดท่าพรุ อ.นาทวี จ.สงขลา
แต่ติดงานกีฬา ก็เลยโอนปัจจัย เข้าบัญชี ท่านเจ้าอาวาส
พี่และครอบครัว จองพุ่มไว้ 10,000 บาท

เมื่อวันจันทร์ เจอพี่ที่ทำงานก็บอกนำบุญมาฝากพี่เขาก็โมทนาบุญที่พี่ได้ร่วมทำบุญไป
พี่คนนั้นเขาบอกว่า เขาได้กลิ่นพระผงหอม โชยมาค่ะ......

เล่าสู่กันฟัง...

ขอตัวไปนอนก่อนค่ะ
บุญรักษาหลวงพ่อทวดคุ้มครองน้องภัทรและทุกท่านให้ปลอดภัยค่ะ

 

รบกวนช่วยดูหลวงปู่ทวดองค์นี้ด้วย ขอบคุณครับ

 

ชอบมาก เบี้ยแก้ สวยครับ บูชามาเท่าไรครับ

 

เบี้ยไร้ตะเข็บสงสัยทำยาก ทำบุญที่วัด 1 แบงค์เทา เบี้ยมีตะเข็บ 1 แบงค์ม่วง เบี้ยไร้ตะเข็บนาน ๆ มีใช้บูชาซะที (k)

 

เบี้ยไร้ตะเข็บสงสัยทำยาก ทำบุญที่วัด 1 แบงค์เทา เบี้ยมีตะเข็บ 1 แบงค์ม่วง เบี้ยไร้ตะเข็บนาน ๆ มีใช้บูชาซะที (k) ขึ้นอยู่กับโชคชะตา

 

ครับผม อยากได้มาบูชาบ้างครับ เบี้ยมีตะเข็บ เนื้อตะกั่ว 1 แบงค์ม่วง สู้ได้ครับ

 

สวัสดียามเย็นค่ะ

อ่านเจอมาค่ะ..

ซึ่งพิธีเช่นนี้เหมือนกับว่าพระรูปหล่อหลวงปู่ทวดรุ่นนี้ได้กระทำพิธีปลุกเสกทีละองค์
จนครบถ้วน 4,322 องค์ จากท่านเจ้าอาวาสวัดชนะสงคราม



กำหนดพิธีในวันพฤหัสบดีที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2537
ซึ่งเป็นวันที่ดีที่สุดต่อการประกอบพิธีมงคลของเดือนนี้
หมายกำหนดการเริ่มจุดเทียนชัยเวลา 16.09 น.
ตามฤกษ์เป็นมหาฤกษ์เพชรฤกษ์มงคล และมหาอุดมฤกษ์
พระทั้งหมดนำเข้าพิธีในพระอุโบสถวัดช้างให้ โดยมีพระครูอนุกูลปริยัติกิจ
ท่านเจ้าอาวาส เป็นผู้ลงมาดูแลควบคุมความเรียบร้อย
ก่อนที่จะเริ่มพิธีสวด พระพุทธมนต์ในเวลาประมาณ 14.00 น.
ฝนได้ตกลงมาอย่างลืมหูลืมตาไม่ขึ้น

ครั้นพอจะเริ่มสวดปรากฏว่าในบริเวณวัดช้างให้ฝนหยุดตกเป็นปลิดทิ้ง

แต่รอบๆ วัดด้านนอกนั้นประชาชนที่เพิ่งจะเข้ามาบอกว่าฝนยังตกหนักอยู่เลย

ซึ่งเป็นเหตุที่ผลเองก็แปลกใจ แต่ก็ได้ประสบมาด้วยตัวเอง

พระสงฆ์ได้สวดเจริญพระชัยมงคลคาถาจะนกระทั่งถึงเวลา 16.09 น.

พระราชปริยัติโมลี ท่านเจ้าคณะจังหวัดพัทลุง เป็นผู้อธิษฐานจุดเทียนชัย

พระพิธีกรรมเจริญพระพุทธมนต์ จากนั้นพระเถรานุเถระสายเขาอ้อ

พร้อมกับพระเถระที่ได้คัดเลือกแล้วว่าเป็นผู้ที่ทรงคุณวุฒิในด้านการปลุกเสก

วัตถุมงคลซึ่งคลุมผ้าขาวสะอาดบริสุทธิ์......



พิธีกรรมการปลุกเสร็จสิ้นเมื่อเวลาประมารเกือบห้าทุ่ม

เรียกว่าปลุกเสกกันหลายชั่วโมงทีเดียว

เป็นอันเสร็จสิ้นในทุกขั้นตอนตั้งแต่เริ่มแรกจนกระทั่งปลุกเสก

ท่านผู้อ่านจะเห็นได้ว่าทุกขั้นตอนะเอียดถี่ถ้วน มีการควบคุมที่พิถีพิถัน

ถ้าท่านมีพระรุ่นนี้อยู่ในครอบครองแล้วท่านอาราธนาขึ้นคอได้เลยครับ

แม้ว่าจะเป็นพระใหม่แต่ไม่ไร้ในด้านคุณค่า

หลวงปู่ทวดนั้นท่านศักดิ์สิทธิ์ขอเพียงให้มีการสร้างที่มีเจตนาบริสุทธิ์

ประกอบพิธีกรรมถูกต้อง

ไม่ต้องมีพระรุ่นแรกก็ใช้แทนได้เช่นเดียวกัน

“นะโมโพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภควา”
ขออาราธนาบารมีแห่งหลวงปู่ทวดได้คุ้มครองและให้ท่านผู้อ่านทุกท่านมีแต่ความ โชคดีตลอดไป
http://palungjit.org/attachments/a.2350666/

อ้างอิง
http://prabangrakam.blogspot.com/2012/07/blog-post_17.html#!/2012/07/blog-post_17.html

 

เจดีย์หลวงพ่อทวดหนอนยอดเขามะรวด



หลวงพ่อทวดหนอน หรือที่ชาวบ้านปะนาเระ มักเรียกว่า“ท่านสมภาร หรือ สมภารท่านหนอน”
ท่านเป็นพระเถระผู้ขมังเวท ยุคเดียวกับหลวงพ่อทวดวัดช้างให้

ประวัติหลวงพ่อทวดหนอน เป็นคำเล่าสืบต่อกันมาช้านานว่า ณ วันอังคาร ขึ้นห้าค่ำ เดือนยี่ ปีขาล พุทธศักราช ๒๐๗๓ ประมาณ ๔๘๒ ปีล่วงมาแล้ว สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีและตรงกับรัชสมัยพระมหาจักพรรติ ขณะนั้นพระเจ้าหงสาวดีได้ยกทัพใหญ่มาตั้งอยู่ที่ตำบลลุมพลีได้ ๓ วัน และมีดำริที่จะตีกรุงศรีอยุธยาให้ได้ ขณะนั้นหลวงพ่อหนอนท่านเป็นพรระภิกษุที่พระสามีอินทร์ พำนักอยู่ในกรุงศรีอยุธยา ครั้นทราบข่าวจากพระเจ้าหงสาวดี ยกมาหวังจะย่ำยีกรุงศรรีอยุธยาเช่นนั้น พระภิกษุสามีอินทร์จึงแปลงเพศเป็นชีปะขาวอาสาต่อสู้ศึกโดยการใช้พระเวทย์ผูกหุ่นยนต์ทหารจำนวนมากมายอีกทั้งกองทัพต่อแตนและอสรพิษร้ายเหลือคณานับออกไปต่อสู้กับข้าศึกศัตรูจนกองทัพพระเจ้าหงสาวดีแตกพ่ายหนีไป เมื่อได้รับชัยชนะจึงได้รับโปรดเกล้าฯ ให้พระสามีอินทร์เป็น “พระครูอินทรโมลี” ดำรงตำแน่งเจ้าคณะสงฆ์แห่งกรุงศรีอยุธยาภายหลังท่านเกิดความเบื่อหน่ายจึงสละตำแหน่งเจ้าคณะสงฆ์แห่งกรุงศรีอยุธยาแล้วออกธุดงค์ไปเรื่อย แล้วได้อาศัยเรือสำเภาพ่อค้าเดินทางลงมาทางใต้ขณะนั้นมีปลาว่ายน้ำตามเรือมาหลวงพ่อจึงเชือดเนื้อโยนให้ปลาเพื่อเป็นทานแก่ปลานั้น เมื่อเรือจอดเทียบท่าที่ปัตตานีแล้ว หลวงพ่อได้ธุดงค์ไปตามป่าเขาเลาเนาไพรจนกระทั่งไปถึงเขามะรวด หลวงพ่อเห็นเป็นที่เหมาะแก่การบำเพ็ญเพียรจึงได้ใช้ชะง่อนหินผาใกล้เขามะรวดนั้นเป็นที่บำเพ็ญญาณ ช่วงนี้เองบาดแผลที่เกิดจากการเชือดเนื้อให้ปลากินเกิดการอักเสบเน่าเปื่อยมีหนอนชอนไชแผลที่เน่าเปื่อยนั้น หลวงพ่อท่านได้อดทนต่อทุกขเวทนานั้นโดยไม่ได้รักษาบาดแผล โดยหลวงพ่อท่านบอกกบชาวบ้านว่า “อาตมาได้ตัดสินใจ อุทิศเลือดเนื้อร่างกายให้เป็นทานแล้วแม้ชีวิตอาตมาก็อุทิศเพื่อหาปรมัตถบารมี แล้วการรักษาบาดแผลก็เป็นการฆ่าชีวิตหนอน อาตมาตัดสินใจแล้วโยม”

ด้วยเหตุนี้ชาวบ้านที่ไดัพบเห็นหลวงพ่อจึงพากันเรียกขานท่านว่า “หลวงพ่อหนอน”หรือ “สมภารหนอน”ระหว่างที่หลวงพ่อหนอนได้พำนักอยู่บนเขามะรวดนั้น ปรากฎว่าได้มีแมวกับสุนัขสองตัวมาอาศัยอยู่กับหลวงพ่อและเป็นเพื่อนรักกันไปไหนด้วยกันเสมอและเมื่อหลวงพ่อหนอนเกิดอาพาธหนักไม่สามารถลงมาจากเขาเพื่อบิณฑบาตรได้ หลวงพ่อก็ได้ให้แมวกับสุนัขคู่นั้นคาบย่ามลงมาจากยอดเขาเพื่อรับอาหารจากชาวบ้านขึ้นไปถวายหลวงพ่อบนยอดเขามะรวดทุกวัน และเมื่อหลวงพ่อได้ถึงแก่มรณภาพทิ้งร่างกายของท่านไว้ในท่านั่งสมาธิพำเพ็ญญาณบนแท่นหินหน้าผา ณ ยอดเขามะรวด ชาวบ้านจึงได้ขึ้นไปช่วยกันทำฌาปนกิจศพหลวงพ่อ แล้วก่อสร้างสถูปขึ้นบรรจุอัฐิของหลวงพ่อไว้สักการบูชา ทุกวันนี้ในช่วงเทศการสำคัญทางพระพุทธศาสนาชาวบ้านจะขึ้นไปสักการะ และประกอบพิธีเวียนเทียนเป็นประจำ

อ้างอิง..
http://www.m-culture.in.th/album/view/149619/

 

กิจกรรมฟื้นฟูประเพณี “การเดินขึ้นเขา-สักการะหลวงพ่อทวดหนอน”
อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี



วันนี้ (๒๘ กรกฎาคม ๒๕๕๕ ) เวลา ๐๘.๐๐ น. ที่ วัดศรีสุดาจันทร์ ตำบลท่าข้าม อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี พลตรี ชวลิต ชุนประสาน ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหารและประชาชน รวมถึงเยาวชนในพื้นที่ร่วมกันถวายเทียนพรรษาและจตุปัจจัยให้แด่พระภิกษุสงฆ์ จำนวน ๘ รูป เนื่องในวันเข้าพรรษาที่จะมาถึง ในวันที่ ๓ สิงหาคม ๒๕๕๕ นี้ ซึ่งเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา โดยพระภิกษุสงฆ์จะหยุดจาริกไปยังสถานที่อื่นๆแต่จะเข้าพักอยู่ประจำในวัด แห่งเดียวตามพุทธบัญญัติเพื่อศึกษาพระธรรมวินัยและสงเคราะห์พุทธบริษัททั่ว ไป นอกจากนี้ยังเป็นเทศกาลที่มีความสำคัญต่อพุทธศาสนิกชนเป็นอย่างยิ่ง ด้วยการงดเว้นอบายมุขและความชั่วต่าง ๆ ในช่วงเข้าพรรษา โดยพุทธศาสนิกชนทั่วไปจะบำเพ็ญทาน รักษาศีลฟังธรรม และเจริญภาวนามากขึ้น


ต่อมาในเวลา ๐๙.๐๐ น. พันเอก อัตถเดช มาถนอม รองเสนาธิการรักษาความมั่นคงภายในภาค ๔ ส่วนหน้า เดินทางไปยังวัดศรีสุดาจันทร์ เพื่อร่วมกิจกรรมฟื้นฟูประเพณี“การเดินขึ้นเขา-สักการะหลวงพ่อทวดหนอน” โดยได้ร่วมเดินทางขึ้นไปยังเจดีย์หลวงพ่อทวดหนอน บนเขามะรวด ตำบลท่าข้าม อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี พร้อมกับเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี ๒๕, หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ ๔๔, พี่น้องประชาชนและเยาวชนในพื้นที่ กว่า ๓๐๐ คน ท่ามกลางอากาศร้อนรวมระยะทางเฉลี่ยแล้ว ๔ กิโลเมตร ถือได้ว่าเป็นการแสวงบุญของผู้ที่มาร่วมกิจกรรมอย่างแท้จริง หลังจากนั้นได้ร่วมถวายภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุสงฆ์จำนวน ๘ รูปและร่วมรับประทานอาหารกลางวัน พบปะพูดคุยกับผู้ที่มาร่วมกิจกรรมอย่างเป็นกันเอง ในเวลาต่อมาได้ร่วมเวียนเทียนประทักษิณารอบเจดีย์หลวงพ่อทวดหนอนจำนวน ๓ รอบ เป็นการช่วยฟื้นฟูประเพณีมุฑิตาสักการะหลวงพ่อทวดหนอน ซึ่งเป็นประเพณีนิยมดั้งเดิมที่ได้ปฏิบัติสืบทอดต่อกันมาอย่างยาวนานเป็น ประจำทุกวันพระ แต่เนื่องจากได้เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทำให้มีผลกระทบต่อการแสวงบุญของชาวไทยพุทธ ในการเดินทางมายังเจดีย์หลวงพ่อทวดหนอน แห่งนี้


พระครูศรีเทวะธร รมาชัย เจ้าอาวาสวัดศรีสุดาจันทร์ เล่าให้ฟังถึงประวัติของเจดีย์หลวงพ่อทวดหนอนว่า หลวงพ่อหนอนเป็นพระที่ออกบวชในสมัยอยุธยาเป็นราชธานี ออกธุดงค์โดยอาศัยเรือสำเภาของพ่อค้ามาทางภาคใต้ ในขณะเดินทางนั้น ท่านได้มองเห็นฝูงปลาว่ายตามเรือที่ท่านโดยสารมา จึงเกิดความเมตตาสงสาร ท่านจึงเชือดเนื้อของท่านให้เป็นทานแก่ปลาฝูงนั้น และเมื่อเรือสำเภาเทียบท่าที่เมืองปัตตานี ท่านได้ออกธุดงค์มายังเขามะรวดและได้พำนักอยู่ที่นี่ บาดแผลที่เกิดจากการเชือดเนื้อเพื่อเป็นทานแก่ฝูงปลาได้เน่าเปื่อยมีหนอนชอน ไช โดยที่ท่านไม่ยอมรับการรักษาจากชาวบ้านที่พบเห็น ด้วยเหตุนี้เองชาวบ้านจึงเรียกท่านว่า "หลวงพ่อหนอน" ขณะที่ท่านพำนักอยู่บนเขามะรวดนั้น ท่านได้เลี้ยงสุนัขและแมวไว้คู่หนึ่ง เมื่อท่านอาพาธหนัก ไม่สามารถลงมาบิณฑบาตได้ สุนัขกับแมวคู่นี้จะพากันคาบย่ามลงมาจากยอดเขาเพื่อรับอาหารจากชาวบ้านไป ถวายแด่หลวงพ่อหนอนทุกวัน ต่อมาหลวงพ่อหนอนท่านมรณภาพในท่านั่งสมาธิ บำเพ็ญญาณบนแท่นหินบนหน้าผาบนยอดเขามะรวด ชาวบ้านจึงได้ช่วยกันสร้างสถูปบรรจุอัฐิของท่าน ไว้เพื่อเป็นที่สักการะบูชาของชาวพุทธสืบไป สถูป ที่บรรจุอัฐิของท่าน ชาวบ้านจึงเรียกกันว่า "เจดีย์หลวงพ่อหนอน"


เจ้าอาวาสวัดศรีสุดา จันทร์ กล่าวอีกว่า ในการจัดกิจกรรมฟื้นฟูประเพณี “การเดินขึ้นเขา-สักการะหลวงพ่อทวดหนอน” ตั้งใจว่าในแต่ละปีนั้น จะจัดขึ้น ๓ ครั้ง โดยจะจัดในช่วงก่อนวันมาฆบูชา วันวิสาขบูชาและวันอาสาฬหบูชา ซึ่งจะชักชวนชาวบ้าน เยาวชนในพื้นที่มาร่วมกิจกรรมให้มากยิ่งขึ้น ถือเป็นการทำนุบำรุงศาสนาที่ขาดหายมาเป็นเวลานาน หากมีชาวบ้านมาร่วมกิจกรรมมากขึ้นก็จะมีการทำถนนคอนกรีต เพื่อช่วยให้การเดินทางมายังเจดีย์หลวงพ่อหนอนสะดวกมากยิ่งขึ้น




อ้างอิง
กิจกรรมฟื้นฟูประเพณี “การเดินขึ้นเขา-สักการะหลวงพ่อทวดหนอน” อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี

 

ทำไมเขาส่งมาให้ผมเกินครับคุณน้องนวล...ผมสั่งไป2องค์เอง..

 

ไปดูกระทู้หลวงพ่อกี๋ หลวงพ่อตี๋ หาเบอร์ติดต่อหลวงพี่อ๊อด ท่านจัดส่งไปรษณีย์ให้

 

แหล่ม ....

 

อาจเกินจากความผิดพลาดหรือเปล่าค่ะ....
เพราะคนสั่งจองเยอะ...ลองติดต่อทางวัดค่ะพี่...
"หากไม่ใช่ที่เราจอง ....ก็ส่งกลับนะคะ"....:d
อาจจะเป็นของลูกค้าท่านอื่น.....

หรือเขาแถมให้พี่เปล่า....

 

เนื้อเงินลงยาสี สวยมั้ยครับองค์จริง

ถ้าสวยก็อยากได้กับเขาบ้าง
:'''(