ใครศรัทธา หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด มาพูดคุยกันครับ

อนุโมทนาสาธุการกับทุกๆท่านด้วยครับ... ^__^

แต่ล่ะท่านคุ้นตาทั้งนั้นเลย..พี่รุ่งเสื้อแดงเลือดหมูใช่มะครับพี่นวล.. ^^

เดินทางกลับบ้านโดยสวัสดิภาพนะครับพี่รุ่งและทุกๆท่าน..หลวงปู่ทวดคุ้มครองครับ...

 

สวัสดีค่ะ น้องนอร์ คณะเดินทางกลับเมื่อวานเที่ยวบิน 18.00 น. ค่ะ :d

 

เมื่อครั้งที่พี่ไปงานยันต์เกราะเพชรที่วัดหรงบน หัวไหร นครศรีธรรมราช ได้ยิน
คุณป้าพูดถึงวัตถุมงคล ไอ้ไข่ ว่าท่านบูชาแล้วให้โชค...เป็นรูปเด็กลอยองค์...ค่ะ.....น้องดินสอ....

อยากทราบประวัติที่มานี้บ้าง....

 

ออกจากวัดท่าพรุ ไปวัดถ้ำตลอดค่ะ.....
วัดถ้ำตลอด เคยไป 3 ครั้งแต่นานมาแล้ว....
ทางคณะกองบุญแก้วมณีธรรมได้ไปถวายพระบรมสารีริกธาตุ และร่วมทำบุญที่วัดถ้ำตลอด
เลยได้เขาไปชมถ้ำข้างในซึ่งงดงามมากค่ะ

 

สวัสดีค่ะอาจารย์จงอาง น้องภัทร
ช่วงที่อยู่ยะลาจะโทรติดต่อน้องภัทร พี่เปลี่ยนเบอร์ใหม่ เลยโทรในเขตยะลาไม่ได้ เพราะไม่ได้ลงทะเบียน....ไปวัดศรีมหาโพธิ์พ่อท่านแดง ด้วยค่ะน้องภัทร...

 

กราบหลวงพ่อทวดครับ สวัสดีทุกคนด้วยนะครับ

 

ภายในถ้ำตลอด...(ถ้ำแรกที่เดินเข้าไป)




ถ้ำตลอด เป็นวัดถ้ำที่มีความสวยงามอีกแห่งของจังหวัดสงขลา วัดถ้ำแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตบ้านถ้ำตลอด ม. 6 ต.เขาแดง อ.สะบ้าย้อย ตามถนนสาย รพช. (ต.สะบ้าย้อย-เขาแดง)

 

"ไอ้ไข่" เด็กวัดเจดีย์
​

<table style="WIDTH: 500px; HEIGHT: 25px" cellpadding="0" cellspacing="0" width="500"> <tbody> <tr> <td>

ประวัติความเป็นมาของ "ไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์" เดิม วัดไอ้ไข่ เป็นวัดร้างมาหลายร้อยปี ต่อมา ชาวบ้านเห็นเด้กแก้ผ้าปรากฏกายให้เห็นวิ่งเล่นอยู่บ่อยๆ ชาวบ้านจึงเข้าไปดูบริเวณที่เห็นเด็กวิ่งเล่น แต่ไม่พบอะไรเลย เหตุการณ์เช่นนี้ปรากฏให้เห็นอยู่บ่อยๆ ชาวบ้านจึงเรียกเด็กที่ปรากฏร่างนั้นว่า "เด็กวัด"
ต่อมา ชาวบ้านละแวกนั้นก็จะมากราบไว้บูชา และกล่าวถึง "พ่อท่าน และเด็กวัด" คำว่า "พ่อท่าน" ก็คือ พระพุธรูปเก่าแก่ที่หลงเหลืออยู่ที่วัดร้าง ส่วน "เด็กวัด" วิญญานเด็กที่ปรากฏกาย และแสดงอภินิหารให้เห็นอยู่บ่อยๆ "พ่อท่านและเด็กวัด" เป็นที่เคารพสักการะบูชาของคนละแวกนั้นมาแต่โบราณ ประวัติความเป็นมาก็ไม่มีใครทราบว่าเด็กวัดที่เห็นเป็นลูกเต้าเหล่าใคร ไม่มีใครยืนยันได้ จะเกี่ยวข้องกับหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืดหรือไม่ก็ไม่มีใครกล้ายืนยัน
ต่อ มา ปี พ.ศ.2500 มีการบูรณะวัดดังกล่าว มีพระสงฆ์มาจำวัด และมีทหารมาพักบ้าง ก็เห็นเด็กแก้ผ้า มาปรากฏกายให้เห็นอยู่บ่อยๆ เที่ยวมาหยอกล้อบ้าง ยกมือจะเขกหัวบ้าง ดึงเท้าเล่นบ้าง และบอกว่า วัดนี้ไม่มีพระ ปรากฏอภินิหารต่างๆ ให้เห็นบ่อยๆ ข่าวนี้เป็นที่รู้กันทั่วในหมู่ชาวบ้านละแวกนี้และพื้นที่ใกล้เคียง จนเป็นที่นับถือ เจ้าไข่ หรือ "ไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์" สืบมาจนถึงทุกวันนี้
​

</td></tr></tbody></table>​

..............................................................................................

เมื่อกล่าวถึงความเชื่อ และความศรัทธาซึ่งในแต่ละพื้นที่แต่ละภูมิภาคในประเทศไทยมีมากมาย หลายแบบแตกต่างกัน ซึ่งความเชื่อและความศรัทธาล้วนแล้วแต่มีประวัติความเป็นมาแทบทั้งสิ้น
ฉบับนี้นักข่าวศูนย์สื่อพลเมืองได้มีโอกาสเข้าวัดเข้าวา ไปไหว้พระวัดเจดีย์เพื่อเอาฤกษ์เอาชัยและบนบานศาลกล่าวอะไรๆหลายประการกับ ไอ้ไข่ หรือ ตาไข่วัดเจดีย์
วัดเจดีย์ตั้งอยู่ หมู่ที่ 7 ตำบลฉลอง อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีฯ ซึ่งเมื่อพิจารณาโดยรอบบริเวณวัดแล้ว วัดเจดีย์ก็ไม่แตกต่างกับวัดทั่วๆไปในประเทศไทยแต่สิ่งที่แปลก และเป็นที่เคารพศรัทธา นับถือ ของชาวบ้านในละแวกนั้นและผู้คนทั่วสาระทิศคือ คือ ไอ้ไข่ วัดเจดีย์
ไอ้ไข่ วัดเจดีย์ หรือ ตาไขวัดเจดีย์ เป็นรูปไม้แกะสลักเป็นรูปเด็กอายุประมาณ 9 – 10 ขวบ สวมชุดลายพรางทหารสวมแว่นตาดำ ซึ่งมาจากสิ่งของที่ชาวบ้านที่นับถือศรัทธานำมาถวายแก้บน สังเกตบริเวณปากทางเข้าวัดจะมีรูปปั้นไก่ชนจำนนวนมากวางอยู่บริเวณใกล้กับ ปากทางเข้าวัดและใกล้ๆกันมีร่องรอยการจุดประทัด เศษชิ้นส่วนของประทัดกองอยู่เป็นเนินสูงและมีผู้คนเข้าออกมาไหว้พระและต่อ ด้วยไหว้แก้บนกับรูปแกะสลักไอ้ไข่ จุดประทัดกันอยู่เนื่องๆ นั้นคงแสดงถึงเหตุผล หรือความเชื่ออะไรบ้างอย่าง ?
นาย เรียม ผิวล้วน ชาวบ้านอยู่ในละแวกใกล้เคียงกับวัดเล่าให้ฟังว่า วัดเจดีย์เมื่อก่อนเป็นวัดที่รกร้างมาประมาณ 1,000 ปี แล้ว ได้บูรณะใหม่เมื่อปี่ พ.ศ. 2500 ซึ่งที่ ที่กำลังก่อสร้างอุโบสถอยู่นั้นเมื่อก่อนเป็นเจดีย์รกร้างชาวบ้านไม่กล้า เข้าไป
ส่วนประวัติของ ไอ้ไข่ วัดเจดีย์ หรือ ตาไข่วัดเจดีย์ ทำไมถึงเรียกเชื่อแตกต่างกัน? ได้รับคำตอบว่าเมื่อพิจารณาอายุของไอ้ไข่แล้วอายุหลายปีแล้ว ชาวบ้านเชื่อว่าคงไม่เหมาะสมที่ลูกหลาน เด็กรุ่นใหม่จะเรียก “ไอ้ไข่” สมควรเรียก “ตาไข่” ซึ่งน่าจะเหมาะสมกว่า
มีการเล่าสืบต่อกันมาหลายชั่วอายุคนว่า สถานที่ตั้งวัดเจดีย์ปัจจุบันนั้นเมื่อก่อนได้มี หลวงปู่ทวดซึ่งเป็นเกจิอาจารย์ดังสายปักษ์ใต้ได้มาปักกรด เดินธุดงค์ อยู่บริเวณนั้น ส่วนไอ้ไข่ นั้นเชื่อว่าเป็นวิญญาณเด็กอายุประมาณ 9 – 10 ขวบเป็นลูกศิษย์ซึ่งติดตามหลวงปู่ทวด เมื่อหลวงปู่ทวดมาถึงสถานที่ดังกล่าวกลับพบว่ามีทรัพย์สมบัติ และ ศาสนสถานที่สำคัญเป็นจำนวนมากซึ่งได้ให้ ไอ้ไข่ สิงสถิตเฝ้าทรัพย์สมบัติดังกล่าว ณ ที่นั้น และหมู่บ้านนั้นภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น “หมู่บ้านโพธิ์เสด็จ” จวบเท่าปัจจุบัน
หลังจากปี พ.ศ. 2500 ผู้ใดที่เข้ามานอนพักข้างแรมภายในบริเวณวัดเจดีย์ถ้าไม่เอ่ยชื่อ หรือบอกล่าว หรือขอขมาต่อไอ้ไข่แล้ว จะนอนไม่ได้ มีการก่อกวนทั้งคืนเช่น เมื่อทำท่าจะหลับจะมีเด็กเอามือมาตีศรีษะบ้าง ดึงขา ดึงแขนบ้าง ก่อกวน ตามประสาแบบเด็กๆทั้งคืน
เมื่อปี พ.ศ. 2526 พ่อท่านเทิ่ม ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดเจดีย์ในขณะนั้นได้จัดสร้างเหรียญบูชาไอ้ไข่ เป็นรุ่นแรก พร้อมกับพัฒนาวัดเรื่อยมาแต่ในพื้นที่ขณะนั้นยังเป็น “พื้นที่สีชมพู” คือยังมีความเคลื่อนไหวของผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ ทางราชการจึงส่งทหารพรานประมาณหนึ่งกองร้อยมาตั้งฐานปฏิบัติการชั่วคราวที่ วัดเจดีย์ ซึ่งก็ปรากฏการณ์เช่นเดียวกันคือ เมื่อทหารกำลังหลับรู้สึกว่ามีเด็กมาดึงขาบ้าง ดึงแขนบ้าง เอาปืนตีศรีษะบ้าง ผลักปืนให้ล้มบ้าง จนไม่ได้นอนทั้งคืน เมื่อรุ่งเช้าทหารพรานชุดดังกล่าวจึงได้ไปสอบถามชาวบ้านบริเวณใกล้ๆกับวัด เจดีย์พร้อมกับเล่าเหตุการณ์ดังกล่าวให้ฟังชาวบ้านฟัง ชาวบ้านละแวกนั้นรู้เรื่องราว และเกียติศักดิ์ของไอ้ไข่เป็นอย่างดีจึงได้บอกวิธีการแก้ไข คือ ก่อนกินข้าวหุงเตรียมอาหารต้องเอ่ยถึง ไอ้ไข่ซึ่งสถิตอยู่ ณ ที่นั้นด้วย หลังจากเมื่อทหารพรานชุดดังกล่าวได้ทำตามที่ชาวบ้านแนะนำแล้วคืนต่อมาก็ นอนหลับพักผ่อนกันอย่างสบายเนื้อ และสบายใจ ปราศจากการรบกวนของเด็ก
ซึ่งลุงเรียม ยังกล่าวเน้นคำว่า สัตย์จะ เป็นเรื่องสำคัญมากเท่าที่ประสบและเจอมาเมื่อบ่นบานศาลกล่าวอะไร ก็ต้องนำสิ่งของนั้นมาแก้บนด้วย แล้วลุงก็ตอบอย่างมั่นใจว่า “ขอให้ไหว้รับอย่างแน่นอน”
ภายในจิตคิดว่า นักการเมืองคงไม่กล้ามาบ่นบานศาลกล่าว เกี่ยวกับนโยบาย และ ทิศทางการพัฒนาประเทศ ณ วัดเจดีย์แห่งนี้อย่างแน่นอน เพราะ “สัตย์จะ” ในหมู่ท่านทั้งหลายเป็นที่ทราบกันโดยทั่วกัน ฮา….
ตอนท้าย ลุงเรียม ยังกล่าวเชิญชวนให้พี่น้องเข้าวัดเข้าวา เพื่อทำบุญตักบาตรและถือโอกาสมาไหว้พระและขอพรจาก “ไอ้ไข่ หรือ ตาไข่”วัดเจดีย์และยังฝากประชาสัมพันธ์ว่า ถ้าประสงค์จะเช่าบูชาเหรียญไอ้ไข่ ให้ติดต่อได้ที่วัดเจดีย์เพียงแห่งเดียวเท่านั้นเพราะตอนนี้เหรียญปลอม หรือ ของเลียนแบบเกลื่อนบ้าน เต็มเมืองไปซะหมด.

​

 

"ไอ้ไข่" เด็กวัดเจดีย์
​

<table style="WIDTH: 500px; HEIGHT: 25px" cellpadding="0" cellspacing="0" width="500"> <tbody> <tr> <td>

ประวัติความเป็นมาของ "ไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์" เดิม วัดไอ้ไข่ เป็นวัดร้างมาหลายร้อยปี ต่อมา ชาวบ้านเห็นเด้กแก้ผ้าปรากฏกายให้เห็นวิ่งเล่นอยู่บ่อยๆ ชาวบ้านจึงเข้าไปดูบริเวณที่เห็นเด็กวิ่งเล่น แต่ไม่พบอะไรเลย เหตุการณ์เช่นนี้ปรากฏให้เห็นอยู่บ่อยๆ ชาวบ้านจึงเรียกเด็กที่ปรากฏร่างนั้นว่า "เด็กวัด"
ต่อมา ชาวบ้านละแวกนั้นก็จะมากราบไว้บูชา และกล่าวถึง "พ่อท่าน และเด็กวัด" คำว่า "พ่อท่าน" ก็คือ พระพุธรูปเก่าแก่ที่หลงเหลืออยู่ที่วัดร้าง ส่วน "เด็กวัด" วิญญานเด็กที่ปรากฏกาย และแสดงอภินิหารให้เห็นอยู่บ่อยๆ "พ่อท่านและเด็กวัด" เป็นที่เคารพสักการะบูชาของคนละแวกนั้นมาแต่โบราณ ประวัติความเป็นมาก็ไม่มีใครทราบว่าเด็กวัดที่เห็นเป็นลูกเต้าเหล่าใคร ไม่มีใครยืนยันได้ จะเกี่ยวข้องกับหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืดหรือไม่ก็ไม่มีใครกล้ายืนยัน
ต่อ มา ปี พ.ศ.2500 มีการบูรณะวัดดังกล่าว มีพระสงฆ์มาจำวัด และมีทหารมาพักบ้าง ก็เห็นเด็กแก้ผ้า มาปรากฏกายให้เห็นอยู่บ่อยๆ เที่ยวมาหยอกล้อบ้าง ยกมือจะเขกหัวบ้าง ดึงเท้าเล่นบ้าง และบอกว่า วัดนี้ไม่มีพระ ปรากฏอภินิหารต่างๆ ให้เห็นบ่อยๆ ข่าวนี้เป็นที่รู้กันทั่วในหมู่ชาวบ้านละแวกนี้และพื้นที่ใกล้เคียง จนเป็นที่นับถือ เจ้าไข่ หรือ "ไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์" สืบมาจนถึงทุกวันนี้
​

</td></tr></tbody></table>​

..............................................................................................

เมื่อกล่าวถึงความเชื่อ และความศรัทธาซึ่งในแต่ละพื้นที่แต่ละภูมิภาคในประเทศไทยมีมากมาย หลายแบบแตกต่างกัน ซึ่งความเชื่อและความศรัทธาล้วนแล้วแต่มีประวัติความเป็นมาแทบทั้งสิ้น
ฉบับนี้นักข่าวศูนย์สื่อพลเมืองได้มีโอกาสเข้าวัดเข้าวา ไปไหว้พระวัดเจดีย์เพื่อเอาฤกษ์เอาชัยและบนบานศาลกล่าวอะไรๆหลายประการกับ ไอ้ไข่ หรือ ตาไข่วัดเจดีย์
วัดเจดีย์ตั้งอยู่ หมู่ที่ 7 ตำบลฉลอง อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีฯ ซึ่งเมื่อพิจารณาโดยรอบบริเวณวัดแล้ว วัดเจดีย์ก็ไม่แตกต่างกับวัดทั่วๆไปในประเทศไทยแต่สิ่งที่แปลก และเป็นที่เคารพศรัทธา นับถือ ของชาวบ้านในละแวกนั้นและผู้คนทั่วสาระทิศคือ คือ ไอ้ไข่ วัดเจดีย์
ไอ้ไข่ วัดเจดีย์ หรือ ตาไขวัดเจดีย์ เป็นรูปไม้แกะสลักเป็นรูปเด็กอายุประมาณ 9 – 10 ขวบ สวมชุดลายพรางทหารสวมแว่นตาดำ ซึ่งมาจากสิ่งของที่ชาวบ้านที่นับถือศรัทธานำมาถวายแก้บน สังเกตบริเวณปากทางเข้าวัดจะมีรูปปั้นไก่ชนจำนนวนมากวางอยู่บริเวณใกล้กับ ปากทางเข้าวัดและใกล้ๆกันมีร่องรอยการจุดประทัด เศษชิ้นส่วนของประทัดกองอยู่เป็นเนินสูงและมีผู้คนเข้าออกมาไหว้พระและต่อ ด้วยไหว้แก้บนกับรูปแกะสลักไอ้ไข่ จุดประทัดกันอยู่เนื่องๆ นั้นคงแสดงถึงเหตุผล หรือความเชื่ออะไรบ้างอย่าง ?
นาย เรียม ผิวล้วน ชาวบ้านอยู่ในละแวกใกล้เคียงกับวัดเล่าให้ฟังว่า วัดเจดีย์เมื่อก่อนเป็นวัดที่รกร้างมาประมาณ 1,000 ปี แล้ว ได้บูรณะใหม่เมื่อปี่ พ.ศ. 2500 ซึ่งที่ ที่กำลังก่อสร้างอุโบสถอยู่นั้นเมื่อก่อนเป็นเจดีย์รกร้างชาวบ้านไม่กล้า เข้าไป
ส่วนประวัติของ ไอ้ไข่ วัดเจดีย์ หรือ ตาไข่วัดเจดีย์ ทำไมถึงเรียกเชื่อแตกต่างกัน? ได้รับคำตอบว่าเมื่อพิจารณาอายุของไอ้ไข่แล้วอายุหลายปีแล้ว ชาวบ้านเชื่อว่าคงไม่เหมาะสมที่ลูกหลาน เด็กรุ่นใหม่จะเรียก “ไอ้ไข่” สมควรเรียก “ตาไข่” ซึ่งน่าจะเหมาะสมกว่า
มีการเล่าสืบต่อกันมาหลายชั่วอายุคนว่า สถานที่ตั้งวัดเจดีย์ปัจจุบันนั้นเมื่อก่อนได้มี หลวงปู่ทวดซึ่งเป็นเกจิอาจารย์ดังสายปักษ์ใต้ได้มาปักกรด เดินธุดงค์ อยู่บริเวณนั้น ส่วนไอ้ไข่ นั้นเชื่อว่าเป็นวิญญาณเด็กอายุประมาณ 9 – 10 ขวบเป็นลูกศิษย์ซึ่งติดตามหลวงปู่ทวด เมื่อหลวงปู่ทวดมาถึงสถานที่ดังกล่าวกลับพบว่ามีทรัพย์สมบัติ และ ศาสนสถานที่สำคัญเป็นจำนวนมากซึ่งได้ให้ ไอ้ไข่ สิงสถิตเฝ้าทรัพย์สมบัติดังกล่าว ณ ที่นั้น และหมู่บ้านนั้นภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น “หมู่บ้านโพธิ์เสด็จ” จวบเท่าปัจจุบัน
หลังจากปี พ.ศ. 2500 ผู้ใดที่เข้ามานอนพักข้างแรมภายในบริเวณวัดเจดีย์ถ้าไม่เอ่ยชื่อ หรือบอกล่าว หรือขอขมาต่อไอ้ไข่แล้ว จะนอนไม่ได้ มีการก่อกวนทั้งคืนเช่น เมื่อทำท่าจะหลับจะมีเด็กเอามือมาตีศรีษะบ้าง ดึงขา ดึงแขนบ้าง ก่อกวน ตามประสาแบบเด็กๆทั้งคืน
เมื่อปี พ.ศ. 2526 พ่อท่านเทิ่ม ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดเจดีย์ในขณะนั้นได้จัดสร้างเหรียญบูชาไอ้ไข่ เป็นรุ่นแรก พร้อมกับพัฒนาวัดเรื่อยมาแต่ในพื้นที่ขณะนั้นยังเป็น “พื้นที่สีชมพู” คือยังมีความเคลื่อนไหวของผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ ทางราชการจึงส่งทหารพรานประมาณหนึ่งกองร้อยมาตั้งฐานปฏิบัติการชั่วคราวที่ วัดเจดีย์ ซึ่งก็ปรากฏการณ์เช่นเดียวกันคือ เมื่อทหารกำลังหลับรู้สึกว่ามีเด็กมาดึงขาบ้าง ดึงแขนบ้าง เอาปืนตีศรีษะบ้าง ผลักปืนให้ล้มบ้าง จนไม่ได้นอนทั้งคืน เมื่อรุ่งเช้าทหารพรานชุดดังกล่าวจึงได้ไปสอบถามชาวบ้านบริเวณใกล้ๆกับวัด เจดีย์พร้อมกับเล่าเหตุการณ์ดังกล่าวให้ฟังชาวบ้านฟัง ชาวบ้านละแวกนั้นรู้เรื่องราว และเกียติศักดิ์ของไอ้ไข่เป็นอย่างดีจึงได้บอกวิธีการแก้ไข คือ ก่อนกินข้าวหุงเตรียมอาหารต้องเอ่ยถึง ไอ้ไข่ซึ่งสถิตอยู่ ณ ที่นั้นด้วย หลังจากเมื่อทหารพรานชุดดังกล่าวได้ทำตามที่ชาวบ้านแนะนำแล้วคืนต่อมาก็ นอนหลับพักผ่อนกันอย่างสบายเนื้อ และสบายใจ ปราศจากการรบกวนของเด็ก
ซึ่งลุงเรียม ยังกล่าวเน้นคำว่า สัตย์จะ เป็นเรื่องสำคัญมากเท่าที่ประสบและเจอมาเมื่อบ่นบานศาลกล่าวอะไร ก็ต้องนำสิ่งของนั้นมาแก้บนด้วย แล้วลุงก็ตอบอย่างมั่นใจว่า “ขอให้ไหว้รับอย่างแน่นอน”
ภายในจิตคิดว่า นักการเมืองคงไม่กล้ามาบ่นบานศาลกล่าว เกี่ยวกับนโยบาย และ ทิศทางการพัฒนาประเทศ ณ วัดเจดีย์แห่งนี้อย่างแน่นอน เพราะ “สัตย์จะ” ในหมู่ท่านทั้งหลายเป็นที่ทราบกันโดยทั่วกัน ฮา….
ตอนท้าย ลุงเรียม ยังกล่าวเชิญชวนให้พี่น้องเข้าวัดเข้าวา เพื่อทำบุญตักบาตรและถือโอกาสมาไหว้พระและขอพรจาก “ไอ้ไข่ หรือ ตาไข่”วัดเจดีย์และยังฝากประชาสัมพันธ์ว่า ถ้าประสงค์จะเช่าบูชาเหรียญไอ้ไข่ ให้ติดต่อได้ที่วัดเจดีย์เพียงแห่งเดียวเท่านั้นเพราะตอนนี้เหรียญปลอม หรือ ของเลียนแบบเกลื่อนบ้าน เต็มเมืองไปซะหมด.

​

 

ถัดมาอีกหน่อย อีกถ้ำซึ่งมียักษ์ขนาดใหญ่
เข้าไปกราบพระพุทธรูปเก่าแก่....
วัดแห่งนี้สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2219 เป็นที่เคารพนับถือของคนทั่วไป มีพระพุทธรูปปางสมาธิ ปางไสยาสน์ทั้งขนาดเล็ก และขนาดใหญ่ ประมาณ 100 องค์ ปากถ้ำมีรูปยักษ์ขนาดใหญ่ สูง 6 ม.

 

บันทึกบทเรียนเชิงคุณภาพ
สถานที่พักพระศพสมเด็จเจ้าพะโคะ ครั้งที่ ๑๖ ณ บ้านถ้ำตลอด ตำบลเขาแดง อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงลา
ผลการสัมภาษณ์ระหว่างนางจามรี แก้วประเทือง อายุ ๖๐ ปี ผู้สัมภาษณ์ และนายดำรงศักดิ์ แก้วประเทือง อายุ ๔๓ ปี ผู้ให้สัมภาษณ์ ซึ่งบุคคลผู้นี้คือเจ้าของที่ดินที่พักพระศพสมเด็จเจ้าพะโคะ ณ บ้านถ้ำตลอด อยู่บ้านเลขที่ ๓๕/๑๐๕ หมู่ที่ ๑ ตำบลคอหงส์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา มีสวนยางพาราอยู่ที่บ้านเลขที่ ๑๑/๒ ตำบลเขาแดง อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา
๑. โจทย์คำถาม โปรดเล่าความเดิม เรื่องสถานที่พักพระศพของสมเด็จเจ้าพะโคะ จุดที่ ๑๖ ณ บ้านถ้ำตลอด หมู่ที่ ๖ บ้านถ้ำตลอด ตำบลเขาแดง อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา
๑. คุณดำรงศักดิ์ แก้วประเทือง ตอบ ข้าพเจ้าและครอบครัว เริ่มเข้ามาเกี่ยวข้องกับที่พักพระศพหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ครั้นเมื่ออดีดเจ้าของที่ดินคือ นายแหลม ติ้งประสม ได้มาเสนอขายที่ดิน โดยมารดาของข้าพเจ้าคือ นางเขียน แก้วประเทือง สนใจไปขอดูสภาพที่ดิน และทราบว่าที่ดินแปลงนี้ ด้านหน้าติดกับถนนที่ชาวบ้านเรียกว่า "เขื่อนทวด" หรือ "โคกทวด" แต่ไม่ทราบว่าเป็นทวดอะไร เพราะในพื้นที่นี้มีทวดท้องถิ่นหลายทวด นี่คือเหตุผลที่ที่ดินแปลงนี้ มาถึงมือของครอบครัวข้าพเจ้า เพราะก่อนหน้านี้ นายแหลม ติ้งประสม (เจ้าของที่ดินเดิม)ได้บอกขายกับคนในพื้นที่บ้านถ้ำตลอด แต่ขายไม่ได้ เพราะเขาบอกว่าที่ดินแปลงนี้เป็นที่เขื่อนทวด มีข้อดี , ข้อเสีย กล่าวคือ เมื่อถือครองที่ดินทำกินแล้ว ทำดีก็ได้ดีไป แต่ถ้าทำไม่ดีหรือไปทำอะไรที่เป็นการลบหลู่สถานที่ ก็อาจจมีโทษ ในที่สุดครอบครัวของข้าพเจ้าก็ตกลงซื้อที่ดินแปลงนี้ ที่พักพระศพหลวงพ่อทวดแห่งที่ ๑๖ ณ บ้านถ้ำตลอด ซึ่งมีคณะของคุณวิบูล เกียรติโมฬี ซึ่งได้ศึกษาประเด็นภูมิประเทศทั้งของจริงและแผนที่มาตราส่วน ๑ ; ๒๕๐,๐๐๐ ของกรมแผนที่ทหาร ท่านได้ค้นพบว่าตลอดชายแดนไทย - มาเลเซีย ซึ่งมีเทือกเขาสูงตลอดยกเว้นจุดผ่านแดนที่บ้านประกอบที่เป็นพื้นที่ไม่สูงมากนักและสามารถเดินผ่านไปมาได้สะดวก สันนิฐานว่า ในสมัยที่หลวงพ่อทวดมีชีวิตอยู่ คงจะเดินทางผ่านวัดช้างให้ และเมืองไทรบุรี ด้วยเส้นทางนี้ และการเคลื่อนย้ายพระศพ ก็คงเดินทางมาตามเส้นทางนี้เหมือนกัน
จากชายแดนบ้านประกอบ มาตามเส้นทางที่ผ่านบ้านถ้ำตลอด ซึ่งตั้งอยู่ที่ตำบลเขาแดง อำเภอสะบ้าย้อย มีระยะทางห่างจากชายแดน ๒๕ กิโลเมตร มีตำนานเล่าขานอีกเหมือนกันว่าหลวงพ่อทวดเคยบำเพ็ญภาวนาอยู่ในถ้ำบริเวณนี้ (ถ้ำคอก บ้านถ้ำตลอด) คุณวิบูล เกียรติโมฬี ได้สอบถามชาวบ้านอวุโสของบ้านถ้ำตลอดคือคุณลุงชุม รัตนะ (เสียชีวิตแล้ว) เรื่องเขื่อนหลวงพ่อทวด ซึ่งเข้าใจว่าน่าจะเป็นจุดแรกที่เป็นที่พักพระศพหลังจากออกจากเมืที่โรงเรียนใกล้องไทรบุรี ได้รับคำบอกเล่าว่า ตอนหนุ่ม ๆ ท่านยังคงเห็นไม้หลักปักอยู่ที่ตรงไหนสมัยก่อนมีหลังคาครอบอยู่และมีเนินดินเป็นที่สักการะของคนในสมัยก่อน ปัจจุบันหลักไม้แก่นที่เป็นสถูปเดิม ได้สูญหายไปหมดแล้ว
ข้าพเจ้าได้สัมภาษณ์ นายนอม ดวงยอด เป็นอดีดผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ ๖ บ้านถ้ำตลอด ตำบลเขาแดง ซึ่งท่านได้เล่าให้ฟังว่า ในสมัยที่ท่านเรียนชั้นประถมที่โรงเรียนใกล้บ้านซึ่งท่านต้องเดินผ่านบริเวณสถานที่พักพระศพหลวงพ่อทวด (โคกทวด) ซึ่งในเวลานั้นเป็นป่าไม้ขนาดใหญ่ บรรยากาศวังเวง ว่ากันว่าเป็นที่ "ผีดุ" เมื่เดินผ่านมาบริเวณนี้ ทุกคนต้องวิ่งผ่านไปสิทธิ์อย่างรวดเร็ว ที่สำคัญคือชาวบ้านในชุมชนนี้เชื่อว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เพราะในเวลากลางคืนมีผู้มองเห็นแสงสว่างลอยไปมาในบริเวณนี้ โดยเฉพาะในเวลาช่วงเดือน ๕ (ที่พักพระศพหลายแห่งได้มีการทำบุญประจำปี ในเดือน ๕ นี้)
เหตุผลหลักที่เป็นข้อโต้แย้งว่าทำไมไม่หยุดพักวางพระศพที่วัดถ้ำตลอดคือตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ระบุว่า หลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืดได้ละสังขาร เมื่อประมาณปี พ.ศ. ๒๒๑๗ และได้มี่การอัญเชิญพระศพไปตามเส้นทางดังกล่าวเพื่อไปทำการฌาปณกิจที่วัดช้างให้
ผลการศึกษาทราบว่าพื้นที่บ้านถ้ำตลอดในเวลานั้นยังไม่ได้มีการสร้างวัด ตามประวัติศาสตร์มีการสร้างวัดในปี พ.ศ. ๒๒๑๙ ซึ่งเป็นภายหลังที่หลวงพ่อทวดได้ละสังขาร และได้เคลื่อนย้ายพระศพผ่านไปตามเส้นทางนี้แล้ว ซึ่งที่พักพระศพแห่งนี้มีระยะห่างจากวัดถ้ำตลอดประมาณ ๑ กิโลเมตร

อ้างอิงจาก...
theepugprasob.fix.gs/index.php?action=recent

 

ออกจากวัดถ้ำตลอด ใกล้เพล
พระมหาไพศาล ท่านฉันเพล...ที่โคกโพธิ์ค่ะ...
แล้วจากนั้น ไปวัดศรีมหาโพธิ์ หลวงพ่อแดง....

วันนี้ค่อนข้างเงียบ แต่บรรยากาศร่มรื่น กราบสักการะหลวงพ่อทวด
เห็นต้นสาละลูกใหญ่มาก มีห่าน 2 ตัวที่วัด...

 

คณะกองบุญแก้วมณีธรรมถวายพระบรมสารีริกธาตุ และปัจจัยร่วมทำบุญกับทางวัดศรีมหาโพธิ์ ค่ะ..





ที่วัดศรีมหาโพธิ์ท่านเจ้าอาวาสมอบผ้ายันต์..แม่ย่านางให้ด้วยค่ะ...

 

พระหลวงพ่อทวดและวัตถุมงคลของทางวัดศรีมหาโพธิ์ พ่อท่านแดง..
พระอาจารย์มหาไพศาลและคณะมอบพระและผ้ายันต์ให้กับตำรวจที่ดูแลความปลอดภัยภายในวัด...
ก่อนเดินทางไปวัดทรายขาว พระอาจารย์นอง ค่ะ

 

เสี่ยล้างใจ

เกือบลืมไป ถ้าเจอเตารีดหลวงพ่อทวด รุ่นนี้
จะส่งมาให้เก็บคู่กัน สวยมาก ครับท่าน

จงอาง

 

งามมากครับ
ตอนอยู่มัธยมต้น ผมก็เรียนที่โรงเรียน นราธิวาสนี้ล่ะครับ

รุ่นนี้พี่สาวผมมี พิมพ์เตารีดด้วย แกก็เป็นศิษย์เก่าเหมือนกันครับ

 

แอบผ่านบ้านผมมาแระนะนั้น เมื่อก่อนมีห่านสีขาวเยอะมาก โดนขโมยหมดแร้วว พระที่ดูแลวัตถุมงคล หลวงโอ๋ ท่านได้รับครอบมือจากหลวงตาแดง เป็นพระที่แกะพิมพ์หลวงพ่อทวด ของวัดศรีมหาโพธิ์ รวมถึงหารผสมเนื้อว่านด้วช

 

​

 

แม่นแล้วน้องภัทร แล้วบ้านน้องภัทรอยู่ตรงไหนค่ะ.....:d

 

วัดต่อไปคือวัดทรายขาวพระอาจารย์นองค่ะ...
ก่อนกลับหลวงพ่อท่านมอบพระหลวงปู่ทวดเนื้อว่าน
รุ่นโปรดสัตว์ ปราบทุกข์ภัย ก้าวหน้า ปี 2536 ค่ะ