แสงสว่าง, ความมืด และ ความรัก มันต่างกันอย่างไร ?

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย John Lee, 26 ตุลาคม 2012.

  1. John Lee

    John Lee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    204
    ค่าพลัง:
    +424
    แสงสว่าง, ความมืด และ ความรัก มันต่างกันตรงไหน?

    ในพระศาสนาคริสต์ กล่าวว่า ความรัก คือ ทุกสิ่ง ที่เป็นตัวตนหลักในพระคัมภีร์

    ส่วนในพระพุทธศาสนา กล่าวเพียงแต่เป็นแค่เพียงส่วนย่อ คือ หลักพรหมวิหารธรรม หรือ ธรรมะอันเป็นที่ตั้งแห่งความเป็นพรหม ซึ่งสามารถจำแนกออกเป็น ๔ ข้อ คือ
    ๑. เมตตา หมายถึง รักและอยากให้พ้นทุกข์,
    ๒. กรุณา หมายถึง รักและอยากช่วยให้พ้นทุกข์,
    ๓. มุฑิตา หมายถึง รักและอยากแสดงความยินดีอย่างจริงใจด้วยเมื่อหลุดพ้นทุกข์ และสุดท้าย คือ
    ๔. อุเบกขา หมายถึง รักแต่เกินกำลังจะช่วยให้พ้นทุกข์ จึงต้องวางตัวต่อสภาพทุกข์

    แล้วความรักโดยเนื้อแท้จริงแล้ว มันเป็นอย่างไรกันแน่?
    ตอบ. ความรัก ก็คือ บุญ หรือ แสงสว่าง ที่ยังมีกำลังส่อง หรือ ให้ผลในดวงจิต
    ซึ่ง บุญ เป็นคำนามที่แทนความหมายในพระพุทธศาสนา คือ พลังงานแสงสว่าง

    กล่าวสรุปโดยย่อคือ ความรักก็คือแสงสว่างนั่นเอง มนุษย์ที่มีพลังงานแสงสว่างในดวงจิต จะมีลักษณะดังนี้
    ๑. อิ่มเอิบ ชุ่มชื่น
    ๒. มีอารมณ์ตามกำลังของแสงที่มีปรากฏอยู่(อันเจือด้วยกิเลสปนอยู่ภายใน) เช่น ยิ้ม หัวเราะ ร้องให้ ดีใจ และ ทุกข์ใจแต่ยังทรงชีวิตอยู่ได้ ไม่ถึงกับมีความต้องการฆ่าตัวตายที่ร่างมนุษย์หยาบนี้
    ๓. ส่องแสงสี ตามอารมณ์นั้น ที่มีกิเลสและบาปเจือ เป็นครั้งเป็นคราไป (แสงรัสมีออร่าล่ะ เรียกแบบนั้นก็ได้ครับ)

    บุญ และ ความรัก คือ ตัวเดียวกัน
    เราอาจกล่าวได้ว่า บุญ ในจิตใจก็คือ แหล่งกำเนิดความรักนั่นเอง ยิ่งมีบุญมากใจก็จะกว้างมากขึ้นๆ...ๆ ความรักก็จะเบ่งบานกระจายมากขึ้นตามตัวดังฉะนั้น


    ส่วนความมืด (อยากกล่าวเพียงแต่โดยย่อ) คือ สิ่งตรงกันข้ามกับ "บุญ" และ "ความรัก" หมดทุกอย่างๆ
    มนุษย์เกือบหมดทุกคนมีความรัก และ แสงสว่างในจิตใจทั้งสิ้น
    ส่วน มนุษย์ที่ไม่มีแสงหรือมีน้อย ส่วนใหญ่มักจะมีอารมณ์ขุ่นมัวและเกรี้ยวกราด ดุดัน อยากทำลาย ประมาณนั้น
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. AYACOOSHA

    AYACOOSHA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    368
    ค่าพลัง:
    +2,253
    แต่...ความรักก็กลับกลายเป็นพลังอันดำมืดได้...ถ้าเราไม่รู้จักวิธีใช้....หรือเรานำไปใช้ในทางที่ไม่ถูก ผมคิดว่าความสว่างที่แท้ย่อมมาจากความเข้าอกเข้ากันในความทุกข์ เมื่อเข้าใจความทุกข์ของตนเอง ก็จะเข้าใจความทุกข์ของผู้อื่น เมื่อเข้าใจและตระหนักถึง ความทุกข์ของกันและกันก็จะเกิดความเอื้อเฟื้อ เมื่อเอื้อเฟื้อซึ่งกันและกันอย่างจริงใจโดยไม่หวังผลตอบแทน ไม่แบ่ง ชน ชั้น วรรณะ แล้ว ความสงบสุขก็เกิดขึ้น มันถึงจะเป็นความสว่าง ที่ไม่มีด้านมืดเจือปนเลย เพราะบุคคลแต่ละบุคคลมีจิตใจที่สว่างและบริสุทธิ์ เลยลงเอยที่ความสงบ
     
  3. ทีมชุมพร

    ทีมชุมพร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2008
    โพสต์:
    106
    ค่าพลัง:
    +167
    บุญก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นในจิตใจแล้วทำให้จิตใจใสสะอาด ปราศจากความเศร้าหมองขุ่นมัว ก้าวขึ้นสู่<WBR>ภูมิที่ดี เกิดขึ้นจากการที่ใจสงบทำให้เลือก คิดเฉพาะสิ่งที่ดี ที่ถูก ที่ควร ที่เป็นประโยชน์ ผลจากการกระทำสิ่งที่ดี
    ความรัก คือความหวง และห่วง สายใยสัมพันธ์ ที่สร้างกันไว้ ผูกพันธ์กันด้วยวิธีใด อย่างใดอย่างหนึ่ง รักที่ยิ่งใหญ่คือความเสียสละ ให้คนที่รักมีความสุข

    รักก็คือรัก
    บุญคือบุญ
     
  4. John Lee

    John Lee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    204
    ค่าพลัง:
    +424
    สาธุ อนุโมทนาครับความเห็น น้อมรับครับ
    ผมก็ยังไม่รู้จริงน่ะครับ
     
  5. kimberly

    kimberly เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,627
    ค่าพลัง:
    +5,233
    ยากที่มนุษย์จะเข้าใจ เข้าถึงกลไกแห่งความเป็นจริง. ส่วนใหญ่มักหลงติดอยู่ในอยู่วัฎฎะ เพราะมันสบาย สนุก อร่อย..ว่ามั้ย?

    ปล. ถ้าเป็นบุรุษเพศ เมื่อพูดถึงรัก ก็คือการครอบครอง เพื่อให้ได้มาเพื่อดับความความอยาก (ตัณหาราคะ)

    ถ้าเป็นสตรี.. เมื่อพูดถึงรัก ก็....(อันนี้ไม่แน่ใจ ตัวใคร ตัวมัน)
     
  6. Asvel

    Asvel เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    224
    ค่าพลัง:
    +822
    Love is fake.. Mercy is real...
     
  7. nickybamby

    nickybamby เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    216
    ค่าพลัง:
    +174
    ไอ๊..ยะ ทำไมมุมมองผมแคบจัง

    มองเห็น มองไม่เห็น แล้วก็จั๊กกะเดียมหัวใจ
     
  8. minis

    minis สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +0
    ตอบด้วย

    ตามที่ข้าพเจ้าเข้าใจ
    เรามาพูดถึงความรักกันก่อน ความรักก็คือความปรารถนาให้บุคคลคนนั้นพบกับความสุข ความรักมีได้หลายรูปแบบ ความเมตตาก็เป็นความรัก ความสามัคคีก็เป็นความรัก ความจงรักภักดีก็เป็นความรัก
    ความเมตตา คือ รักผู้ที่อยู่ต่ำกว่า และปรารถนาให้บุคคลนั้นได้รับความสุข
    ความสามัคคี คือ รักกลุ่มคน กลุ่มก้อน และอยากนำพาพวกเขาเหล่านั้น (รวมทั้งตัวเราด้วย)ให้พบกับความสุข
    ความจงรักภักดี ก็ รักผู้เป็นนาย เจ้าชีวิต และอยากให้คนๆนั้นมีความสุข โดยการทำอะไรก็ได้ เช่น พูดจาสรรเสริญ หรือปฎิบัติตามคำสั่งสอนของผู้เป็นนาย
    ความรักไม่เลือกด้านมืดหรือว่าสว่าง บางครั้งคุณอาจรักแบดบอยทั้งๆที่รู่ว่าคนๆนั้นทำตัวไม่ดี แต่คุณก็อยากช่วยเขา อยากให้เขาพบความสุข แต่บางคนอาจรักด้านสว่าง รักเทวดา รักศาสนา เพราะรู้ว่าถ้าเราปฎิบัติตามแล้ว เราจะพบความสุข
    ความรักเป็นพลังอย่างนึง ถ้าคุณไม่ปฎิบัติ คุณก็จะไม่รู้ อ๊ะๆ อย่าเพิ่งข้ามไปว่า รักทำให้เกิดทุกข์ เราต้องตัดทิ้ง ก่อนจะถึงขั้นนั้น เรารู้รึเปล่าว่าเราต้องรัก
    เมื่อมีความรัก เราจะรู้สึกเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ อยากให้ และมองสิ่งแวดล้อมในแง่ดี
    โลกสวย และเมื่อถึงวันนั้นเราจะเผื่อแผ่พลังงานตัวเนี๊ยะไปให้สิ่งอื่นๆรอบข้างที่ไม่ใช่คนด้วย
    ปล. อย่าคิดว่ารักเป็นแค่กามา เป็นเรื่องทางโลก เรื่องกามาเป็นความรักก็จริง แต่ไม่ใช่ทั้งหมดของความรัก
     

แชร์หน้านี้

Loading...