เป็นคนใจร้อนช่วยด้วยครับ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย melodicnat, 15 ตุลาคม 2012.

  1. melodicnat

    melodicnat สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +13
    คือผมขอเกริ่นก่อนนะครับ คือผมเป็นคนใจร้อน เวลา โมโหหรือโกรธ ในเรื่องที่ผมไม่ได้ผิดจะเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนเลยครับจากที่เป็นคนเฮฮา คือช่วงนี้ผมทะเลาะกับที่บ้านไม่ว่ากับใครก็แล้วแต่ผมจะปล่อยออกมาเต็มที่ ผมต้องการจะหยุดสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวผม ผมบอกตัวเองตลอดว่าให้ใจเย็นๆลงแต่พอมีปัญหาขึ้นมาทีไรไม่เคยยั้งได้เลยครับผมไม่รู้จะทำยังไงแล้วครับรบกวนช่วยบอกผมทีว่าควรทำยังไงให้เป็นคนใจเย็นแบบคนอื่นเค้า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 15 ตุลาคม 2012
  2. มะหน่อ

    มะหน่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +1,210
    ท่านนี้บรรลุไว

    นั่งฟังเขาด่าเราเฉยๆให้เขาด่าทะลุเป้าไปเลยด่าญาติเราด้วย
    หากเขาด่าบุพการีทนได้นี่ผมกราบ

    ฟังเฉยๆ

    ให้ด่าทั้งวัน

    ฟังบ่อยๆ

    แล้วเขาด่าเรานินทาเรามันสึกตรงไหนของเรา

    จ้างคนต่างชาติต่างภาษามาด่าเรา
    อย่าตะโกนใส่หน้าแล้วกันละเมิดสิทธิ์

    หลายๆชาติ
    ตั้งใจฟังคำด่านั้น

    แล้วท่านจะรู้ว่าอารมณ์ที่ท่านรับมา
    กับอารมณ์ที่ท่านไม่รับมาเป็นอย่างไร

    อารมณ์มีอยู่แน่นอนอยู่แล้ว
    อย่าขยายสาเหตุ
    หาต้นเหตุให้เจอ
    ใครเป็นคนจุดไฟนั้น
    จุดเพื่ออะไรเผาอะไรได้ขี้เถ้าเยอะไหม
    พาราเซตามอนคือยาทำใจเหมือนกันเลยขอรับ

    เกิดขึ้น....ตั้งอยู่.....ดับทันเก่งแล้วครับ
    เกิดขึ้นไม่ตั้งอยู่
    ไม่เกิด
    ........................

    เดี๋ยวเป็นขอรับ

    ขอท่านเจริญในธรรมยิ่งแล้วขอรับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ตุลาคม 2012
  3. นายกสิณ

    นายกสิณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2011
    โพสต์:
    245
    ค่าพลัง:
    +251
    เคยคิดบ้างไหมว่า ตัวคุณที่ไม่ใช่ตัวคุณเอง
     
  4. melodicnat

    melodicnat สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +13
    ขอบคุนมากๆนะครับผมพยายามอย่างที่คุนบอกมานานละผมจะพยายามให้มากยิ่งขึ้นครับ
     
  5. melodicnat

    melodicnat สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +13
    เคยคิดครับว่าบางทีเหมือนไม่ใช่ตัวเรารู้สึกตัวอีกทีสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้ามีแต่เรื่องแย่ๆครับ
     
  6. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    ...ผมเองก็ใช้ สุตมยปัญญา จินตามยปัญญาเป็นฐานนะครับ..คือความรู้เรื่องอกุศลกรรมที่ฟังมานั้น(สุตมยปัญญา) ที่เรียนรู้มาแล้วอย่างดีนั้น..ก็นำมาคิดใคร่ครวญ(จินตามยปัญญา)....ที่เราทำไว้ในใจอย่างดีแล้ว(โยนิโสมนสิการ)...เวลา ภาวนามยปัญญา(มีสติระลึกรู้ที่ปัจจุบัน)...อันจะเป็น ภาวนามยปัญญา(กระทบจริง..)...ทีนี้ ความสมดุลย์ของ ปัญญาทั้งสามนั้นอันเป้นฐานแก่กัน...ก็อยู่ที่ คุณ(หรือผม) คนเดียวนั้นแหละ ว่าจะ "โยนิโสมนสิการ" ปัญญาทั้งสาม แค่ใหน:cool:ก็ มัน ไม่ได้ สายอะไร ดีเสียอีก..ที่คุณ รู้ กุศล อกุศล
     
  7. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    ให้พาตัวกับใจถอยออกมาจากตรงนั้นก่อนครับ
    ระงับใจตอนนั้นไม่ทันหรอก แม้จะเห็นได้อยู่ว่ากำลังร้อน กำลังเกิดอกุศลจิตก็ตาม
    ค่อยๆถอยออกมา ปิดปาก ก่อนเป็นลำดับแรก จากนั้นเมื่อค่อยๆถอยแล้ว ค่อยๆพิจารณาว่ามันเกิดทุกข์อย่างไร อาการเป็นอย่างไร จะดับทุกข์นั้นได้อย่างไร
    ให้พิจารณาไปเรื่อยๆทุกๆครั้งที่ประสบ จากนั้นเมื่อสามารถระงับใจให้นิ่งได้แล้ว
    มีสติ สัมปชัญญะ ดีแล้ว จะเข้าใจได้ครับว่า เราเพียงแค่ไม่ไปจับ เกาะตัวตนว่านี่เรา ของเรา
    จะโดนกระทบใจอย่างไร ก็สามารถเข้าใจ และยอมรับกับความจริงที่ประสบได้ครับ
     
  8. melodicnat

    melodicnat สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +13
    ขอบคุณ สำหรับความรู้ใหม่มากๆนะครับผมจะลองนำไปใช้ดู
     
  9. melodicnat

    melodicnat สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +13
    ขอบคุนมากๆเลยครับสิ่งแรกทีผมพยายามทำคือเงียบไว้ดีที่สุดเลยครับ
     
  10. หลบภัย

    หลบภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,207
    ค่าพลัง:
    +3,123
    ไม่รู้ดิ ก็ยังโมโหอยู่ ไม่หายหรอก แต่พอมันเกิดก็รู้ไป ไม่กระโดดกัดหู ไม่ด่า
    ไม่เต้นท่ากังนัม

    ก็ใช้ได้แระ ดูแบบนี้ไปเรื่อยๆ ไม่ต้องไปเก๊ก วางฟอร์มเดี่ยวมันจะเกิดพายุลูกใหญ่ได้
    ที่สำหรับ ให้อดทนกับตัวเองให้มาก มันจบจริงๆ นะ แต่ตัวเองทรมานนิดนุง เท่านั้นเอง
    ง่ายดีไหม
     
  11. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,566
    ค่าพลัง:
    +9,966
    คือผมขอเกริ่นก่อนนะครับ คือผมเป็นคนใจร้อน เวลา โมโหหรือโกรธ ในเรื่องที่ผมไม่ได้ผิดจะเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนเลยครับจากที่เป็นคนเฮฮา คือช่วงนี้ผมทะเลาะกับที่บ้านไม่ว่ากับใครก็แล้วแต่ผมจะปล่อยออกมาเต็มที่ ผมต้องการจะหยุดสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวผม ผมบอกตัวเองตลอดว่าให้ใจเย็นๆลงแต่พอมีปัญหาขึ้นมาทีไรไม่เคยยั้งได้เลยครับผมไม่รู้จะทำยังไงแล้วครับรบกวนช่วยบอกผมทีว่าควรทำยังไงให้เป็นคนใจเย็นแบบคนอื่นเค้า

    +++ เปรียบเหมือนการกวนน้ำในกาละมังให้เป็นน้ำวน จิตใจของเราก็เป็นน้ำวนวงหนึ่ง จิตเขาก็เป็นอีกวงหนึ่ง จิตปุถุชนทุกดวงก็เป็นน้ำวนของใครของมัน มองในวังน้ำวนระดับประเทศ วังน้ำวนของเราเป็นเพียงแค่ พรายน้ำผุดแค่จุดเล็ก ๆ ยิบ ๆ นิดเดียวเท่านั้น ไม่มีความหมายอะไร ถึงไม่มีเสียเลย คุณ-โทษ ก็ไม่แตกต่างอย่างไรในวังวนขนาดใหญ่

    +++ วังน้ำวนของคุณ กวนไปกวนมา กลายเป็นน้ำเดือด คุณต้องการจะหยุดน้ำเดือดที่เกิดขึ้นกับตัวคุณ คุณบอกตัวเองตลอดว่าให้น้ำเย็นลง แต่พอมีปัญหาขึ้นมาทีไรคุณเอามือลงไปกวนน้ำต่อเมื่อนั้น ไม่เคยยั้งได้เลย ไปหลงกวนน้ำอยู่ได้ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่ามันร้อนและไม่ก่อให้เกิดความสุขความเจริญแต่อย่างไร

    +++ ครั้งหนึ่ง ตอนที่ผมเร่งปฏิบัติธรรมกรรมฐาน ผมเคยติดสภาวะธรรมที่อยู่ในจิตแบบจะให้มันพ้นอย่างไรก็ทำไม่ได้ ต่อสู้กับมันแบบจนปัญญาถึง 3 วัน 3 คืนต่อเนื่อง แม้ในเวลานอนก็หลับไม่ลง กายพักแต่จิตไม่สามารถที่จะพักได้ ตอนที่จิตเหนื่อยจัด ๆ ครั้งหนึ่ง รูปหลวงปู่มั่นที่แขวนอยู่บนหัวนอนของผม พูดชี้แนวทางออกให้ผม บอกว่า "มองจิตก็เหมือน มองน้ำนั่นแหละ" ประโยคนี้ประโยคเดียวเท่านั้นที่ทำให้ผมฝ่าด่านทางจิตออกมาได้ และ สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ในทุกช่วงชั้นแห่งความละเอียดทางจิต

    +++ ลองพิจารณาดูนะครับ เผื่อคำพูดของหลวงปู่มั่นที่พูดกับผมประโยคนี้ อาจถูกจริตและนำมาประยุกต์ใช้กับคุณได้
     
  12. melodicnat

    melodicnat สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +13
    ทรมานมากจิงๆครับ
     
  13. melodicnat

    melodicnat สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +13
    ขอบคุณมากจริงๆครับผมจะพยายามให้หนัก
     
  14. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    พี่มะหน่อ หยอดว่า ท่านนี้บรรลุไว ก็เพราะว่า โอกาสที่ จะยก กิเลส
    อย่างกลาง ซึ่งชื่อ "กุกกุจจะ" มาดู จะง่ายขึ้น และจะดูไม่สะดวกกว่า
    ไปดู "โทษะ"


    แต่....อย่าลืมนะว่า การภาวนาเก่ง คือ รู้สภาพธรรมเหล่านี้ได้ ถี่ยิบ
    ไม่ใช่ รู้ไปวันหนึ่ง อีกสามสี่วันรู้อีกที

    คนที่ ภาวนาเก่งๆเนี่ย แค่แสงแยงตา เกิดความรำคาญใจ กระเพื่อม
    ในจิต นี่ก็คือ พิจารณาธรรมแล้ว แล้วถ้าดูแบบนี้ให้ไวๆ ก็อย่าแต่
    คนในบ้านเลย ข้าวของ เครื่องใช้ ที่ นอน หมอนมุ้ง แสงแดด สายลม
    .........โอยย เยอะ มันจะสร้าง จิตที่มีโทษะ ปฏิฆสัญญา ตลอดเวลา

    เข้าใจไหมนี่ ....

    คือถ้าพิจารณาเป็นปั๊ป จะไม่มีโอากาสว่างเว้นจากการภาวนา เห็น จิตตัวเอง
    ถูกกุ้มรุมด้วยนิวรณ์ เต็มมมมมไปหมด ไม่ได้หายใจ หายคอเลย

    ดังนั้น

    อย่าไปคิดว่า เห็นตัวเองทำตัวไม่ดีกับครอบครัว แล้วถือว่า แค่นี่ก็
    จะไม่เอาแล้ว อยากได้วิธีแก้แล้ว

    ยังนะ ยัง ต้องดูให้เห็น ทุกๆขณะจิต ระยิบ ระยับ เหมือนไอแดด ไฟนรก
    เผารนจิตตลอดเวลา เสียก่อน แล้วค่อยมาถามว่า ท่านครับ ช่วยผมที

    ถ้ามาเจอแค่ .....ของเด็กๆ แล้วก็เริ่ม ไม่กล้าพิจารณาธรรม พิจารณาทุกข์
    ก็สงสัยยังต้อง ป้อแป้ๆ ร้องหาคนช่วยอีกนาน

    แต่ถ้า โอยยยยยย เห็นจิตเรา เต็มไปด้วย ปฏิฆะสัญญา กุกกุจจะ ฝั่งซ่านรำคาญใจ
    แบบทุกๆ เสี้ยววินาที ก็มีแล้ว .....แล้วค่อยมาร้องเรียก วิธีการช่วยให้พ้นทุกข์ แบบ
    นี้สิแน่จริง

    เชื่อไหม พอคุณเห็นได้ทุกขณะแบบนั้นแล้ว ไม่มาถามเราหรอก เพราะ จะเริ่มเห็น
    เองแล้วหละว่า ทำอย่างไรถึงจะ ทรหด อดทน มีขันติ มีตบะ ได้ขนาดนั้น

    ( ก็มีอยู่แล้วไง มันถึงได้ ย้อนมาพิจารณาตนได้ขนาดนี้ ฉีกหน้ากากตัวเองได้
    ขนาดนี้ และ แก้ที่ตัวเองไม่ใช่แก้ที่คนอื่น นี่สัมมาทิฏฐิ มันก็ ชัดอยู่แล้ว

    อนึ่ง หากเราท่องเว็บธรรมะ มานานพอสมควร อาจจะเคยเห็น คนที่มีปัญญหาอย่าง
    คุณเปะ แต่เวลาเขาถาม เขาจะมาถามว่า ผมจะไปบอกพ่อแม่ พี่น้อง ผมยังไง
    ดีครับ ว่าผมต้องการรักความสงบ ผมต้องการภาพนักปฏิบัติ ที่ทุกคนต้องเคารพ

    เนียะ ต่างกันเยอะเลยนะ คนที่มีอินทรีย์ภาวนา กับ คนไม่มีอินทรีย์ภาวนา

    มั่นใจตัวเองหน่อย แล้ว ภาวนาไปอย่างที่เราเป็น ไม่ใช่ จะขอเป็นอย่าง
    คนที่เขาภาวนามามากกว่าคุณ จิ๊ดเดียว ..... แต่ จิ๊ดเดียวนี่ มันเป็นการจิ๊ด
    เดียวแบบวิ่งตามจรวดนะ ดังนั้น ไม่ใช่ น้อยๆ คร้าบ วิ่งไล่กัน เหนือยแหละ )
     
  15. suthipongnuy

    suthipongnuy ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    661
    ค่าพลัง:
    +1,428
    ลองฝึกเจริญสติ หมวดกาย ลองดูนะครับ

    ให้มีสติอยู่กับกาย พอมันคิดมันนึก เราจะรู้เท่าทันมัน

    และหยุดไม่ให้มันนึกคิดได้ทัน :cool:
     
  16. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    <img src='http://sphotos-h.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/386572_283658958341678_764403049_n.jpg' width=200>
    เดี๋ยว จะเล่านิทานให้ฟังเรื่องนึง

    เป็นนิทานเรื่องอะไรนั้น ......ไม่มีใครรู้ว่านิทานเรื่องนี้มีจำเดิมมาแต่ไหน....

    แต่เรื่องมันมีอยู่ง่ายๆแค่ว่า กะทาหนุ่มน้อยนายหนึ่ง เอากากกาแฟมาปั้นไข่เค็ม
    เพื่อทำเป็นอาชีพเลี้ยงดูแม่ผู้แก่เฒ่า ........

    อยู่มาวันหนึ่ง แม่เฒ่ากายสังขารร่วงโรยเลยทำให้เคลื่อนไหวช้ากว่าเดิม ทำให้
    กะทาน้อยนั้นต้องปั้นไข่เค็มไปหลายพันใบ ระหว่างที่รออาหารจากแม่เฒ่า

    ระหว่างที่ปั้น บางลูกก็กลมเกลี้ยง บางลูกก็ขยุมๆพอดุกดุ๋ยก็เอาไปตาก สายตาของ
    กะทาหนุ่มก็แลเห็น ไม่ใช่ไม่แลเห็น ที่ฝีมือการปั๊นไข่ของตน ตกมาตราฐานชายไทย
    แต่ข่มใจ ไม่ดูตน หาเรื่องโทษว่าเพราะหิว เก็บสะสม วิตก วิจาร ในทาง อกุศลเอา
    ไว้ เกิดเป็นธรรม กุกกุจจะ ฝุ้งซ่านอยู่ภายใน แต่อาศัยไข่ใบใหม่ที่ปั้นนั่นแหละ ขยำ
    ขยี้ด้วยแรงที่ระบายอารมณ์ เหมือนพวกข่มใจด้วยการ บริกรรมคำในใจ แต่อันนี้เป็น
    บริกรรมด้วยการปั้น ไขก็เลยยิ่งบูดเบี้ยว แต่ใจเฉยนิ่ง และ ยังปั้นไข่อยู่ได้ แถม
    รวดเร็วแคล้วคล่องกว่าเดิม เดี๋ยววางตับ ตับ ตับ

    แต่ยิ่งทำก็ยิ่งบูดเบี้ยว ก็ไม่ยอมดูตน ยังเอาวิตก วิจาร ปักไปในทางอกุศล พอกพูลเอาไว้ เก็บ
    งำเอาไว้ ในใจก็รู้อยู่ว่า ไม่ดีเลย ไข่ปั้นแบบนี้เดี๋ยวไปเรียงใส่กล่องก็คงลำบากอีก
    เป็นแน่ แต่แทนที่จะแก้ที่ตัว พิจารณาที่ตัว ไปอย่างที่เป็น ก็แอบเอาเรื่องภายนอก
    มารองรับ ส่งจิตออกนอกไปว่า เพราะหิว

    เท่านั้นแหละ พอแม่เฒ่ามา ก็เลยเอาไข่ปาใส่แม่เฒ่าล้มฟาดลงกับพื้น.........คัต!!

    จบแค่นี้ก่อน เดี๋ยวคนทั่วไปจะเที่ยวสู่รู้ไปว่า นิทานเรื่องนี้มีมาแต่ที่ใด

    ********************

    นิทานเรื่องนี้ สอนให้รู้ว่า แท้จริแล้ว เราเอา วิตก วิจาร ของจิต ไปปักในอกุศล
    หลายๆเรื่อง แต่เพราะ สัญญาวิปลาสก็เลยอาจจะไขว้เขวไปโทษคนอื่น สิ่งอื่น
    ทั้งที่ๆ จริงแล้ว เรานั่นแหละ เผารนตัวเองไว้แต่กาลก่อนๆ ข้ามไม่ได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ตุลาคม 2012
  17. melodicnat

    melodicnat สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +13
    ขอบคุนมากๆนะครับแหวกวิธีคิดของผมไปเยอะเลยแต่ดีนะครับ
     
  18. melodicnat

    melodicnat สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +13
    บางทีผมก็ยึดติดกับบางสิ่งมากจนเกินไป / นิทานเรื่องนี้ดีจริงๆครับผมอ่านตั้งหลายรอบ
     
  19. melodicnat

    melodicnat สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +13
    ผมจะพยายามมีขันติให้มากขึ้นครับ*-*
     
  20. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    ก็ลองเอาไป พินาดู เนาะ เพื่อนๆเขาว่าอย่างไร ก็เอาไปพิจารณา
    ยกเป็นข้อปฏิบัติดู อย่ามัวแต่เอาจิตไป วิตก ทางอกุศลต่างๆ

    วิ่งตามจรวด จะเอาอย่างเขา เหนื่อยนะ

    พอเราขี้เกียจ มัวแต่ ป้อแป้ๆ อย่าว่าแต่ ฝุ่นจรวดเลย

    บางที ร่องรอยมรรคจรวดในอากาศ ก็มองไม่เห็น
     

แชร์หน้านี้

Loading...