ร่วมสร้างกฐินสามัคคีและบริจาคผ้าขาวเพื่อตัดเย็บผ้าไตรจีวร

ร่วมสร้างกฐินสามัคคีและบริจาคผ้าขาวเพื่อตัดเย็บผ้าไตรจีวร ​

พระเมธชนัน อนาลโย (ครูบาไตรภพ)
ประธานมูลนิธิวิศวาธารอโรคยาธรรมศาลร่วมกับคณะศิษย์
ขอเชิญร่วมสร้างกองกฐินสามัคคีและบริจาคผ้าขาวเพื่อตัดเย็บผ้าไตรจีวร
สมทบทุนก่อสร้างสำนักปฏิบัติธรรมลุงไผ่(ดวงเมตตา)
ซึ่งเป็นสำนักกรรมฐานที่สอนกรรมฐานตามแนวทางขององค์พระโพธิญาณเถร(หลวงปู่ชา สุภทฺโท)แห่งวัดหนองป่าพง

โดยมีท่านพระอาจารย์ ทศพร จันทโก เป็นประธานสงฆ์
อายุพรรษา 24

​

เป็นศิษย์สายองค์พระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท) แห่งวัดหนองป่าพง​

สำนักปฏิบัติธรรมลุงไผ่(ดวงเมตตา)
ตั้งอยู่ที่ ป่าชุมชุนเนื้อที่ 3,000 ไร่
บ้านลุงไผ่ ตำบลลำไทรโยง อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ 31110

หมายกำหนดงานการทอดผ้ากฐิน ตรงกับวันที่
3-4 พฤษจิกายน 2555 ​

วันที่ 3 เป็นวันรวมงาน ภาษาอีสานเรียกวันโฮมงาน
วันที่4 เวลา 09.00 น.เป็นวันทอดผ้ากฐินสามัคคี​

ผู้มีความประสงค์ร่วมบริจาคผ้าขาวก็สามารถซื้อและจัดส่งผ้ามาได้ที่
พระอาจารย์ ทศพร จันทโก
สำนักปฏิบัติธรรมลุงไผ่(ดวงเมตตา)
บ้านลุงไผ่ ตำบลลำไทรโยง อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ 31110
หรือหากไม่สะดวกในการจัดซื้อผ้าขาวหรืออยากร่วมบริจาคปัจจัยเพื่อการก่อสร้าง
ก็สามารถโอนปัจจัยร่วมทางธนาคาร ได้ดังต่อไปนี้

“บัญชีกลางสงฆ์เพื่อสร้างกองกฐินสามัคคีสมทบทุนก่อสร้างสำนักปฏิบัติธรรมลุงไผ่(ดวงเมตตา)"
ธนาคารออมสิน สาขาหนองกี่
ชื่อบัญชี กลางสงฆ์
เลขที่บัญชี 055050231376
หรือ
บัญชี พระเมธชนัน อเนชากุล (ประธานกลุ่ม)
ธนาคารทหารไทย สาขาบุรีรัมย์
หมายเลขบัญชี 426-2-20277-5
บัญชีด้านล่างนี้เป็นบัญชีของครูบาไตรภพ ประธานมูลนิธิ

 

​

สำนักปฏิบัติธรรมลุงไผ่(ดวงเมตตา)ได้ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ภายในวัดและทางวัดยังขาดเสนาสนะต่างๆอยู่อีกมาก

ถนนหนทางยังต้องการการบูรณะซ่อมแซมและก่อสร้างในหลายส่วน
ปีนี้ คือปี พ.ศ. 2555 มีพระภิกษุอยู่จำพรรษาครบ 5 รูป ซึ่งพอแก่การรับผ้ากฐินได้ตามพระธรรมวินัยบัญญัติ


ดังนั้น จึงขอบอกบุญมายังท่านสาธุชนทั้งหลายได้รวมบริจาคทรัพย์เพื่อสมทบทุนในการก่อสร้างบูรณะปฏิสังขรณ์
มีรายการดังต่อไปนี้

1.ร่วมส่งผ้าขาวเพื่อใช้ในการตัดเย็บผ้าไตรจีวรในการทำกฐิน
-ซึ่งใช้ผ้าขาว ซันฟอไรซ์ เบอร์หมื่น (No.10000) 100%

2.ร่วมบริจาคปัจจัยเพื่อสมทบทุนสร้างสำนักปฏิบัติธรรม ซึ่งในปีนี้คงทำสองส่วนก่อนคือ
-ถนนทางเข้าสำนักและถนนภายในสำนักโดยการเอาหินขลุกลง เพราะในปัจจุบันนี้ถนนหนทางยังเป็นหลุมเป็นโคลนอยู่เดินลำบากรถเข้าออกลำบาก
ซึ่งจะใช้งบประมาณราว 80,000 บาท

-ระบบน้ำใช้น้ำสรงภายในวัด ซึ่งปัจจุบันยังต้องใช้เครื่องคูโบต้าในการสูบน้ำขึ้นถัง ซึ่งถังน้ำเป็นถังเก่าๆที่ได้รับบริจาคมาจากวัดป่าบูรพาเมื่อหลายปีก่อน
ขณะนี้มีสภาพเก่าชำรุดลงไปมาก งบประมาณในการก่อสร้าง และจัดซื้อเครื่องสูบน้ำ ราว 70,000 บาท

ในขณะนี้ทางมูลนิธิวิศวาธารอโรคยาธรรมศาลได้รับปัจจัยบริจาคมาจากคณะนิสิตนักศึกษา

นำโดยท่านอาจารย์ ดร ปรานอม ขาวเมฆ อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
ได้บริจาคมาเพื่อตั้งเป็นต้นกฐินก่อนแล้วจำนวน 50,000 บาท

จึงยังขาดปัจจัยอยู่อีก 100,000 บาท


ดังนั้น จึงขอบอกบุญมายังท่านสาธุชนทั้งหลาย ได้ร่วมเป็นเจ้าภาพเพื่อสมทบทุนบริจาคสร้างสำนักปฏิบัติธรรมอันจะยังผลกุศล
อันยิ่งใหญ่และก่อเกิดประโยชน์อันใหญ่หลวงให้เกิดแก่สรรพชีวิตอื่นและสันติธรรมทั้งปวงจะเกิดก่อในหมู่สรรพชีวิตสืบต่อไป
ผู้ใดได้ร่วมสร้างสำนักปฏิบัติธรรมย่อมได้รับอานิสงสอันยิ่งใหญ่ ไม่ตกต่ำย่อมพบกับบรมสุขในกาลเบื่องหน้าแล

​

​

​

​

 

​

 

<TABLE style="BORDER-BOTTOM-STYLE: none; WIDOWS: 2; TEXT-TRANSFORM: none; BACKGROUND-COLOR: transparent; TEXT-INDENT: 0px; BORDER-LEFT-STYLE: none; LETTER-SPACING: normal; FONT-FAMILY: Tahoma, Arial, Helvetica, sans-serif; ORPHANS: 2; BORDER-TOP-STYLE: none; BORDER-RIGHT-STYLE: none; WORD-SPACING: 0px; -webkit-text-size-adjust: auto; -webkit-text-stroke-width: 0px" border=0 cellSpacing=0 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BACKGROUND-IMAGE: none; BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; FONT-FAMILY: Tahoma, Arial, Helvetica, sans-serif; FONT-SIZE: 14px; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" vAlign=top>ไปดูพระท่านตัดเย็บผ้ากฐิน

เรื่องการทอดกฐินยังไม่จบครับ
ฉากหน้าที่ญาติโยมทำพิธีถวายผ้ากฐินจบแล้ว
ขั้นตอนต่อไป พระท่านจะต้องนำผ้ากฐินไปตัดเย็บและย้อมจนสำเร็จใช้งานได้
พิธีทอดกฐินดูใน blog ก่อนครับ

ทอดกฐินวัดป่ามณีกาญจน์



การทอดกฐินนั้น วิธีการที่ถูกต้องตั้งแต่ครั้งพุทธกาล ก็คือชาวบ้านนำผ้าขาวไปถวาย
เมื่อคณะสงฆ์รับและอุปโลกน์แล้วว่าจะให้พระรูปไหน
ขั้นตอนต่อไปพระท่านต้องช่วยกันนำผ้านั้นไปตัด เย็บ ย้อม ให้เสร็จภายในวันนั้นเลย
โดยภิกษุผู้จำพรรษาในอารามแห่งนั้นทุกรูปต้องมาช่วยกันทำ ไม่ใช่ว่าพอเองไม่ได้แล้วจะหนีงาน
เพราะนี่เป็นสามัคคีธรรมอย่างหนึ่งของคณะสงฆ์
ในครั้งพุทธกาล พระพุทธเจ้าของเราท่านก็มาช่วยทำด้วย




สำหรับวัดป่ามณีกาญจน์ เสร็จพิธีทอดกฐินบนศาลากันราวๆ ๑๑ โมง พระท่านก็เริ่มตัดเย็บผ้ากันเลย
กฐินนั้นจะตัดเย็บผ้าชิ้นไหนก็ได้ครับ อาจจะเป็นสบง จีวร หรือสังฆาฎิ
แต่ส่วนใหญ่จะตัดสบงกันครับ ปลอดภัยดีว่ายังไงก็เสร็จทันแน่ๆ
ถ้าตัดจีวรนี่งานหนัก โดยเฉพาะวัดป่าใช้จีวร ๙ ขันธ์ ตัดยากเย็บยาก จะไม่ทันเวลา
อย่างที่เคยพูดไว้หลายครั้งว่าผ้าที่เหมาะกับการตัดจีวร คือ ผ้ามัสลิน เพราะบางเบา
เวลาหนาวกันลมหนาวได้ดี เวลาร้อนผ้าก็เย็นดี เวลาเหงื่อออก หรือเวลาซัก ผ้าก็แห้งเร็ว
คนเข้าวัดป่าส่วนมากรู้กันอยู่แล้วจึงเตรียมผ้ามัชลินมาถวายกัน
แต่ใครที่มองการณ์ไกลกว่านั้น รู้ว่าอย่างไรเสียพระท่านก็ต้องตัดสบงแน่ๆ ก็จะถวายเป็นผ้าซันฟอไรซ์
ผ้าซันฟอไรซ์ก็เป็นผ้าฝ้ายเหมือนกัน แต่หนาและหนักกว่าผ้ามัสลินเล็กน้อย จึงเหมาะกับการทำสบง
วันนี้พระท่านจึงหยิบเอาผ้าซันฟอไรซ์มาตัดสบงกันครับ




วัดขนาดและตัดกันบนพื้นหน้ากุฏิ
การจะตัดให้พอดีนี่เขามีสูตรคำนวนการวัดผ้าแต่ละชิ้นโดยเฉพาะ
ใช้ผ้าต่างชนิดกันมาตัดก็ต้องใช้สูตรต่างกัน พระที่ชำนาญท่านรู้ดี




ตัดเสร็จแล้วก็เริ่มเย็บ เย็บแล้วก็ตัด ตัดแล้วก็เย็บ
หลายขั้นหลายตอนดีเหมือนกัน




นี่เป็นตัวอย่างของคนที่ถวายผ้ากฐินแบบครบชุด
มีผ้าขาวผืนหนึ่ง เข็มเย็บผ้าชุดหนึ่ง กับสีย้อมผ้าสองสี
วัดป่าจำเป็นต้องใช้สีย้อมผ้า ๒ สี คือ สีเหลืองทอง กับสีกรัก
แต่...
ท่านเน้นว่าสีย้อมผ้าดีๆ ย้อมติดง่าย สีไม่เพี้ยน มี ๒ ยี่ห้อ
คือ สิงห์โต (มีแต่หน้า) กับนกแก้ว
ยี่ห้ออื่นมันย้อมติดไม่ค่อยดี อย่างในรูปนี่เป็นสิงโตคู่
งานนี้สิงห์โตมาเป็นคู่ หรือมาเป็นฝูง ก็สู้สิงห์โตตัวเดียวไม่ได้




ส่วนด้าย ถ้าเป็นด้ายสีขาวต้องเป็นตรา Ace & Ten ครับ
เพราะเป็นด้ายผ้าฝ้ายแท้ ส่วนยี่ห้ออื่นเป็นด้ายสังเคราะห์ เวลาย้อมสีจะไม่ค่อยติด
ย้อมเสร็จแล้วจีวรจะเห็นแนวเส้นด้ายสีขาวๆ ต้องรื้อเย็บกันใหม่
หรือจะถวายเป็นด้ายสีก็ได้ วัดป่าใช้ด้ายสีกรักเบอร์ 6686
ด้ายย้อมสีแล้วจะเป็นด้ายสังเคราะห์ก็ได้ เพราะไม่มีปัญหาเรื่องการย้อม




บ่ายสองโมงเสร็จกรรมวิธีตัดเย็บสบง
ขั้นตอนต่อไปคือการย้อมสี




เริ่มจากซักผ้าขาวเพื่อเอาแป้งออกให้หมดก่อน




ต่อไปจึงจะเป็นการย้อมรองพื้น
การรองพื้นนี่ใช้สีแก่นขนุน เป็นสีแท้ๆ จากธรรมชาติ
เอาแก่นขนุนมาต้ม จะได้น้ำย้อมผ้าสีแบบน้




เล็งก่อนว่าจะย้อมยังไง เพราะน้ำร้อนมาก




คนน้ำให้สีเข้ากันครับ




เริ่มกระบวนการย้อม ชักขึ้นชักลงเหมือนการชงกาแฟโบราณ




รูปอื่นจับแล้วปล่อยกันเป็นแถวเพราะร้อน
ย้อมสีตรงนี้จึงเป็นฝีมือครูบารัตน์เสียเป็นส่วนใหญ่




แต่พระวัดป่ามณีกาญจน์ไม่ชำนาญการย้อมผ้าครับ ปีนึงทำกันหนเดียว
พระอาจารย์กฤษณ์ท่านต้องมาสาธิตว่าต้องย้อมเยอะๆ หลายๆ ครั้ง ดึงผ้าให้ทั่วๆ สีจะได้เสมอกัน




แล้วก็เวียนช่วยกันทำ แบ่งกันร้อนให้ถ้วนหน้า




แค่ยกผ้าขึ้นยกผ้าลงสีจะยังไม่ค่อยเข้าเนื้อ ต้องช่วยกันขยำอีก
ขั้นนี้ยังร้อนนะครับ




เสร็จแล้วก็บิดน้ำสีแก่นขนุนออก




เทน้ำเก่าทิ้ง ตักน้ำต้มแก่นขนุนมาใหม่ เตรียมการย้อมสีจริง




ขั้นนี้ต้องผู้ชำนาญการเรื่องสีแล้วครับ ไม่งั้นสีจะเพี้ยน
อาจารย์เวทย์มานั่งเลือกสี บ่นว่ามันยี่ห้ออะไรเนี่ย




ท่านมีสูตรอีกครับว่าใส่สีเหลืองทองเท่าไหร่ สีกรักอีกเท่าไหร่
ย้อมแล้วสีจะได้เหมือนเดิม ได้มาตรฐาน




ใกล้ขั้นตอนสุดท้ายแล้ว พระรูปอื่นๆ ก็ทะยอยเวียนมาช่วยงาน
ต้องช่วยครับ ไม่งั้นอาบัติ บางรูปมาช่วยนิดๆ หน่อยพอเป็นพิธีแล้วก็รีบไป
เพราะยังมีงานอื่นต้องทำอีกมาก




คนละไม้คนละมือ




หัวเราะคลายร้อน
ขั้นตอนเหมือนกับการย้อมสีรองพื้นรอบแรก



ย้อมเสร็จตอนบ่ายสองโมง
ฟ้าครึ้ม ฝนลงนิดๆ ไม่มีแสงแดดเลย
แล้วจะตากกันที่ไหนล่ะ




นี่เลย
ตากในโรงไม้ แล้วเอาพัดลมตัวใหญ่มาเป่า




เป็นอันว่าผ้ากฐินตัดเย็บและย้อมเสร็จเรียบร้อย
ขั้นตอนต่อไปคือพระที่รับกฐินต้องเปลี่ยนสบงมาครองสบงผืนนี้
อาจารย์กฤษณ์บอกว่าจะเปลี่ยนสบงตอนทำวัตรเย็น ให้มาถ่ายรูปอีกทีจะได้ครบสูตร

แต่ ผมกลับบ้านก่อน หลับเป็นตายเลย ลุกไปวัดอีกไม่ไหว
เลยได้ภาพมาเท่านี้ครับ
​

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ร่วมสร้างกฐินสามัคคีและบริจาคผ้าขาวเพื่อตัดเย็บผ้าไตรจีวร

กุศลนี้ขอธิษฐานบูชาคุณ พระพุทธเจ้าทุกองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้า พระธรรม
และพระอริยะสงฆ์ทั้งหลาย ครูอุปัชฌาอาจารย์ คุณบิดา คุณมารดา และพระสยามเทวาธิราช

และหากข้าพเจ้าได้เคยล่วงเกินไม่ว่าจะเป็นท่านผู้ใด ด้วยกาย วาจา และใจ ทั้งที่เจตนา และไม่เจตนา
ท่านจะอยู่ภพใดหรือภูมิใดก็ตาม ขอให้ท่านได้รับผลบุญนี้ แล้วโปรดอโหสิกรรม
และอนุโมทนาบุญแก่ข้าพเจ้าด้วยอำนาจบุญนี้ด้วยเทอญนับตั้งแต่บัดนี้ตราบเข้าสู่พระนิพพาน
ขอแม่พระธรณีและพระยายมบาล จงเป็นพยานในการทำบุญนี้แก่ข้าพเจ้า ด้วยเทอญ

 

สาธุ ขออนุโมทนาด้วยเน้อ และขอขอบใจมากๆสาธุ

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=2 width="100%"><TBODY><TR><TD align=left>บัญชีผู้รับเงิน</TD><TD class=bd_en_blk11 align=left></TD></TR><TR><TD></TD><TD class=bd_th_blk_11_rtlt_10 align=left>เลขที่บัญชี - ชื่อเรียกบัญชี</TD><TD class=bd_th_blk_11 align=left>4262202775 - กฐินลุงไผ่</TD></TR><TR><TD></TD><TD class=bd_th_blk_11_rtlt_10 align=left>ชื่อบัญชี</TD><TD class=bd_th_blk_11 align=left>MATACHANAN AN</TD></TR><TR><TD></TD><TD class=bd_th_blk_11_rtlt_10 align=left>ธนาคารผู้รับโอน</TD><TD class=bd_th_blk_11 align=left>ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน)</TD></TR><TR><TD></TD><TD align=left>วิธีการโอนเงิน</TD><TD class=bd_en_blk11 align=left></TD></TR><TR><TD></TD><TD class=bd_th_blk_11_rtlt_10 align=left>วิธีการโอนเงิน</TD><TD class=bd_th_blk_11 align=left>โอนแบบทันที</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=15 vAlign=middle align=left></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=2 width="100%"><TBODY><TR><TD width=30></TD><TD width=189 align=left>จำนวนเงิน</TD><TD class=bd_en_blk11 width=355 align=left></TD></TR><TR><TD></TD><TD class=bd_th_blk_11_rtlt_10 align=left>จำนวนเงินที่ต้องการโอน</TD><TD class=bd_th_blk_11 align=left>8,888.00บาท</TD></TR><TR><TD></TD><TD class=bd_th_blk_11_rtlt_10 align=left>ค่าธรรมเนียม</TD><TD class=bd_th_blk_11 align=left>25.00 บาท</TD></TR><TR><TD></TD><TD class=bd_th_blk_11_rtlt_10 align=left>คำอธิบาย</TD><TD class=bd_th_blk_11 align=left></TD></TR><TR><TD></TD><TD class=bd_th_blk_11_rtlt_10 align=left>วัน-เวลาที่ทำรายการ</TD><TD class=bd_th_blk_11 align=left>10/09/2555 - 20:45:07</TD></TR><TR><TD></TD><TD class=bd_th_blk_11_rtlt_10 align=left>วัน-เวลาที่หักเงินจากบัญชี</TD><TD class=bd_th_blk_11 align=left>10/09/2555 - 20:45:07</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
ขอร่วมทำบุญด้วยครับ ขอให้อำนาจของบุญนี้ สำเร็จแก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งปวง ขอให้ข้าพเจ้าทำมาค้าขึ้น แข็งแรงไม่เจ็บป่วย

 

ร่วมบุญสร้างกฐินสามัคคีและบริจาคผ้าขาวเพื่อตัดเย็บผ้าไตรจีวร จำนวน 100 บาท โอนแล้วเวลา 22.19 น.โมทนาสาธุค่ะ

 

ขอร่วมบุญสร้างกฐินสามัคคี และบริจาคผ้าขาวเพื่อตัดเย็บผ้าไตรจีวร โดยได้โอนเงิน

เข้าบัญชี ธ.ออมสิน แล้ววันนี้ เวลา 17.35 น. จำนวน 100 บาท ขออนุโมทนาบุญ

กับผู้ร่วมบุญทุกๆท่านด้วยครับ สาธุ

 

ดิฉันและครอบครัวได้ร่วมบุญนี้ เป็นจำนวนเงิน 951 บาทค่ะ เงินเข้าวันนี้หลังบ่าย 3 โมง

ขออานิสงค์แห่งผลบุญ เป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้าและครอบครัว มีดวงตาและปัญญาแห่งธรรม ชัดแจ้งและเข้าถึงทางพ้นทุกข์ทั้งทางธรรมและทางโลก ตราบเข้านิพพานเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ

 

ดิฉันพร้อมครอบครัวและผู้ไม่ประสงค์ออกนามได้ร่วมบุญกฐินสามัคคี จำนวน 1000 บาทโอนวันที่26/9/12 เวลา 17.27น เข้า บ/ช TMB 4262202775 พระเมธชนัน อเนชากุล
อนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านที่ได้ร่วมบุญกฐินสามัคคีครั้งนี้ค่ะ

 

องค์สมเด็จพระบรมศาสดาตรัสว่า การอุปสมบทบรรพชามีอานิสงส์พิเศษ ซึ่งองค์สมเด็จพระบรมโลกเชษฐ์ตรัสว่า อานิสงส์อย่างอื่น มีการสร้างวิหารที่ดี การถวายสังฑานก็ดี ทอดกฐินผ้าป่าก็ดี จัดว่าเป็นอานิสงส์สำคัญ แต่อานิสงส์นี้นั้น บุคคลที่จะพึงได้ต้องโมทนาก่อน

แต่ว่าการอุปสมบทบรรพชานี้แปลกกว่านั้น องค์สมเด็จพระทรงธรรมบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ว่า "สมมุติว่าบุตรชายของท่านผู้ใดออกจากครรภ์มารดาวันนั้น บิดามารดาก็จากกัน ลูกกับพ่อแม่ย่อมไม่รู้จักกัน เวลาที่อุปสมบทบรรพชานั้น บิดามารดาไม่ทราบ บิดามารดาย่อมได้อานิสงส์นั้นโดยสมบูรณ์ การอุปสมบทบรรพชาจึงจัดว่าเป็นกุศลพิเศษ"

คำว่า "บรรพชา" หมายความว่า บวชเป็นเณร คำว่า "อุปสมบท" หมายความว่า บวชเป็นพระ

ท่านที่บรรพชาในพระพุทธศาสนาเป็นสามเณร องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า ท่านผู้บรรพชาเอง คือ เณร ถ้าประพฤติปฏิบัติดีก็เป็นการลงทุนซื้อสวรรค์ ถ้าปฏิบัติเลว การบวชพระบวชเณรก็ถือว่าเป็นการซื้อนรก ท่านที่บวชป็นเณรเข้ามาในพระพุทธศาสนาแล้วประพฤติปฏิบัติดีปฏิบัติชอบตามระบบธรรมวินัย สำหรับท่านผู้เป็นเณรนั้นไซร้ ย่อมมีอานิสงส์ถ้าตายจากความเป็นคน ถ้าจิตของตนมีกุศลธรรมดาไม่สามารถจะทรงจิตเป็นฌาน ท่านผู้นั้นจะเสวยความสุขบนสวรรค์ได้ถึง ๓๐ กัป

ถ้าหากว่าทำจิตของตนเกือบเป็นฌาน ได้ฌานสมาบัติ ตายจากความเป็นคนจะเกิดเป็นพรหม มีอายุอยู่ถึง ๓๐ กัปเช่นเดียวกัน
อายุเทวดาหรือพรหมย่อมมีกำหนดไม่ถึง ๓๐ กัป ก็หมายความว่าเมื่อหมดอายุแล้วก็จะเกิดเป็นเทวดาใหม่ เกิดเป็นพรหมใหม่อยู่บนนั้นไปจนกว่าจะถึง ๓๐ กัปหรือมิฉะนั้นก็ต้องเข้าพระนิพพานก่อน

บิดามารดาของสามเณร ย่อมได้อานิสงส์คนละ ๑๕ กัป ครึ่งหนึ่งของเณร
องค์สมเด็จพระมหามุนีตรัสต่อไปว่า บุคคลผู้มีวาสนาบารมี คือมีศรัทธาแก่กล้า ตั้งใจอุปสมบทในพระพุทธศาสนาเป็นพระสงฆ์ แต่ว่าเมื่อบวชแล้วก็ต้องปฏิบัติชอบ ประกอบไปด้วยคุณธรรม คือ มีพระธรรมวินัยเป็นสำคัญ ท่านที่บวชเป็นพระด้วยตนเอง จะมีอานิสงส์อยู่เป็นเทวดาหรือพรหม ๖๐ กัป บิดามารดาจะได้คนละ ๓๐ กัป นี้เป็นอานิสงส์พิเศษ

แต่ทว่าภิกษุสามเณรท่านใดทำผิดบทบัญญัติในพระพุทธศาสนา ก็พึ่งทราบว่าเวลาตายก็มีอเวจีเป็นที่ไปเหมือนกันอานิสงส์ที่พึงได้ใหญ่เพียงใดโทษก็มีเพียงนั้น

สำหรับผู้ที่ช่วยในการบวช การอุปสมบทบรรพชาในพระพุทธศาสนา คือบำเพ็ญกุศลร่วมกับเขา ด้วยจตุปัจจัยมากบ้างน้อยบ้าง ช่วยขวนขวายในกิจการงานในการที่จะอุปสมบทบ้าง อย่างนี้องค์สมเด็จพระพิชิตมารบรมศาสดากล่าวว่า ท่านผู้นั้นจะมีอานิสงส์เสวยความสุขอยู่บนสวรรค์ หรือในพรหมโลกคนละ ๘ กัป

แต่ถ้าเป็นคนฉลาด อย่างที่วัดนี้เขาบวชพระกัน ๔๒ องค์ เราก็บำเพ็ญกุศลช่วยในการบวชพระ ใม่เจาะจงเฉพาะท่านผู้ใดผู้หนึ่ง เรียกว่าช่วยทั้งหมดทั้ง ๔๒ องค์ ก็ต้อง ๔๒ องค์ ตั้งเอา ๘ คูณ

อานิสงส์กุศลบุญราศีท่เราจะพึงได้สำหรับท่านผู้เป็นเจ้าภาพ ในฐานะคนที่บวชไม่ได้เป็นบุตรของเรา แต่ว่าเป็นผู้จัดการขวนขวายในการอุปสมบทบรรพชาให้ อันนี้องค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดากล่าวว่า ท่านผู้จัดการบวชจะได้อานิสงส์ ๑๒ กัป จะมีผลลดหลั่น ซึ่งกันและกัน

การที่นำเอาอานิสงส์บรรพชากุลบุตรกุลธิดาไว้ในพระพุทธศาสนามาแสดงแก่บรรดาท่านพุทธบริษัท เพราะเห็นว่าในเวลานี้ บรรดาพุทธบริษัททั้งหลายยังไม่ค่อยจะมีความเข้าใจคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระประทีปแก้วในข้อนี้ อีกประการหนึ่ง การจะบวชลูกหลานเข้าไว้ในพระพุทธศาสนา ส่วนใหญ่ไม่ได้ตั้งใจจะเอาบุญ ถือทำกันตามประเพณีเป็นสำคัญ พอเริ่มการจัดงานก็มีการฆ่าไก่บ้าง ฆ่าปลาบ้าง ฆ่าหมูบ้าง ฆ่าวัวฆ่าควายบ้าง เอาสุราเบียร์เข้ามาเลี้ยงกันบ้าง ถ้าทำกันตามประเพณีแบบนี้ก็จะได้ชื่อว่า ไม่มีอานิสงส์กุศลบุญราศีอะไรเลย เพราะมีเจตนาชั่ว คือเริ่มต้นก็ทำบาปก่อนแล้วองค์สมเด็จพระประทีปแก้วกล่าวว่า ถ้าจิตเป็นอกุศล กุศลใดๆ ที่ตนคิดว่าจะทำมันก็ไม่ปรากฏ

ฉะนั้น ในการใด ถ้าเราจะบำเพ็ญกุศลบุญราศีให้ปรากฏเป็นผลดีก็ขอให้การนั้นเป็นการที่บำเพ็ญกุศลจริงๆ จงเว้นกรรมที่เป็นอกุศลเสียให้หมด งดสิ่งที่เป็นกรรมชั่วทุกประการ ตั้งใจไว้เฉพาะบำเพ็ญกุศลบุญราศีเท่านั้น

กุลบุตรที่บวชในพระพุทธศาสนา ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ความผ่องใสของท่านผู้บวชก็มีขึ้น คือ จิตผ่องใสปราศจากอารมณ์ที่เป็นกิเลส ต่อมาปฏิบัติตามคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระบรมโลกเชษฐ์ คือเจริญสมถกรรมฐาน วิปัสสนากรรมฐาน จนอารมณ์ชื่นบานเข้าถึงธรรมปีติ คำว่า ธรรมปีติ หมายความว่า ยินดีในการปฏิบัติความดีในด้านพระธรรมวินัยอย่างหนึ่ง ยินดีในการเจริญสมถภาวนาและวิปัสสนาภาวนา อานิสงส์กุศลบุญราศีก็เกิด

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงเปรียบเทียบไว้ว่า ผู้ใดอุปสมบทบรรชาในพระพุทธศาสนาแล้ว วันหนึ่งทำจิตใจว่างจากกิเลสเพียงวันละชั่วขณะจิตเดียว เวลานอกนั้นจิตก็ฟุ้งซ่านไปตามอารมณ์ต่างๆ แต่พยายามควบคุมกำลังใจไม่พลาดพลั้งจากพระธรรมวินัย ท่านผู้นั้นบวชเข้ามาแม้แต่วันเดียว ก็ย่อมมีอานิสงส์ดีกว่าพระที่บวชเข้าในพระพุทธศาสนาตั้ง ๑๐๐ ปี มีศีลบริสุทธิ์ แต่ไม่เคยเจริญสมาธิจิต คือ ทำจิตว่างจากกิเลสวันหนึ่งชั่วขณะจิตเดียว มีรัศมีกายสว่างไสวกว่า

รวมความว่า การอุปสมบทบรรชาในพระพุทธศาสนา ย่อมเป็นปัจจัยเข้าถึงพระนิพพาน และมีอานิสงส์เป็นสามัญผล คือผลที่เสมอกัน คนที่บวชในพระพุทธศาสนาจะลูกผู้ดีหรือยากจนเข็ญใจย่อมมีสิทธิเสมอกันในการทรงสิกขาบท และในการกำหนดจิตปฏิบัติสมถกรรมฐาน และวิปัสสนากรรมฐาน

ถามพระท่านว่า ถ้าพระพวกนั้นจะทำบุญบวชพระบ้าง ทั้งๆ ที่ตัวเองก็บวช และทำบุญด้วยจะมีอานิสงส์เหมือนญาติโยมไหม

พระท่านก็บอกว่า ถ้าเขาจะทำบุญต้องทำบุญก่อนที่เขาบวช นั่นหมายความว่า ขณะที่บวชก็เอาเงินมาช่วยกับกองกลางเท่าไรก็ตามที่จะพึงมีตั้งใจบวชพระทั้งหมด ท่านพวกนั้นจะมีอานิสงส์นอกจากของตัวเอง ๖๐ กัปแล้ว จะมีอานิสงส์เป็นเจ้าภาพด้วย เอา ๑๒ คูณ จำนวนองค์ที่บวช

ถามว่า ถ้าพระทั้งหลายเหล่านั้นเมื่อบวชแล้วจึงรู้อานิสงส์ เมื่อบวชแล้วเอาสตางค์มาร่วมในการทำบุญบวชพระ

ท่านบอก อันนี้ไม่ใช่แล้ว นั่นต้องเป็นทานบารมีปกติ เป็นถวายสังฆทานไป อานิสงส์นับกัปไม่ได้ แต่มีความร่ำรวยแน่ รวยทุกชาติ

 

ร่วมทำบุญ..100..บาทโอนเงินแล้ว ธ.ออมสิน..วันที่..27/9/55

 

ร่วมทำบุญ 300.- คะ โอนผ่าน ATM no. 4262202775 เมื่อวันที่ 28/9/55 เวลา 8.31 น สถานที่ k00781 คะ

 

ร่วมสร้างกฐินสามัคคีและบริจาคผ้าขาวเพื่อตัดเย็บผ้าไตรจีวร

ได้โอนเงินเข้าบัญชีพระเมธชนัน จำนวน 500 บาท วันที่ 8 ต.ค.55 เวลาประมาณ 14.20 น. ค่ะ

ข้าพเจ้าขออุทิศบุญกุศลนี้ให้กับ บิดานาย มารดา ของข้าพเจ้า ญาติพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้ว รวมทั้งเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย สรรพสัตว์ทั้งหลาย ขอท่านโมทนาในบุญกุศลครั้งนี้ด้วยเทอญ.

 

http://board.palungjit.com/misc.php?do=cfrules&doredir=1&cfrset=2

ได้โอนเงินมาร่วมทำบุญด้วยแล้วในวันนี้ อนุโมทนาบุญ สาธุ
1,700 บาท โดย คุณไพโรจน์ คงธนารัตน์ 500 บาท
คุณวิจักษณ์ คงธนารัตน์ 200 บาท
คุณสาลี่ คงธนารัตน์ 1,000 บาท
(โพสต์ภาพไม่ขี้น)

 

ได้โอนเงินไป 1,700 บาท ขอร่วมในบุญกฐินนี้ด้วย อนุโมทนาบุญ สาธุ
คุณไพโรจน์ คงธนารัตน์ 500 บาท
คุณวิจักษณ์ คงธนารัตน์ 200 บาท
คุณสาลี่ คงธนารัตน์ 1,000 บาท

 

ได้โอนเงินมาร่วมทำบุญด้วยแล้วในวันนี้ 1,228.00 บาท from Siri Kringsumrit and family from Sydney

 

ร่วมทำบุญจำนวน 500 บาท วันที่ 15/10/2555 เข้า ธ.ทหารไทยนะเจ้าคะ

 

ร่วมสร้างกฐินสามัคคีและบริจาคผ้าขาวเพื่อตัดเย็บผ้าไตรจีวร จำนวน 100 บาท
เงินแม้เพียงน้อยนิดแต่ข้าพเจ้าก็ทำด้วยความตั้งใจ ขออำนาจบุญบารมีแห่งคุณพระพุทธเจ้า คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ ได้โปรดเมตตาดลบัลดาลขอบุญนี้จงส่งผลให้ข้าพเจ้าได้เข้าถึงพระนิพพานในชาตนี้ด้วยเถิด