พญานาคกับอดีตที่ผ่านมา

เราก็เข้าๆ ออกๆค่ะ... มันหลุดเรื่อยๆ

 

ค่ะ แต่วันนี้พอเข้ามาแล้วได้อ่านนิทานของพี่รั้งและบทกลอนของคุณนุ๊กและทุกๆท่านก็ดีใจแล้วค่ะcatt24ไม่รู้จะหลุดอีกหรือเปล่าหนอ

 

สวัสดีค่ะพี่ๆทุกท่าน

สบายดีนะค่ะ

 

กร๊าก..กกกก มัวแต่เม้าท์ กลับมาอีกที
พวกหายหมดเลยอ่ะ...เหงาจังเยยยยย

หวัดดีค่ะน้องแต เมื่อวานพี่คิดถึงน้องแตม๊ากมากกกกกก
ยังคิดอยู่เลยว่าน้องแตหายไปหลายวันแล้วน้า...าาา
งานยุ่งเหรอคะ....วันนี้ต้องมีเรื่องหนุกๆ มาฝากแน่นอนเลย ชิมิร้า

 

ไม่มีเรื่องจะคุย ไม่มีเรื่องจะอ่าน อ่านเรื่องเดิมๆ ซ้ำๆ แล้วกัน มันจะได้จำขึ้นใจเอาไว้ไปสอบ

เพชรพญานาคนั้นเริ่มโด่งดังเป็นที่รู้จักของผู้คนเป็นจำนวนมากมา ราวๆ 7 – 8 ปีมานี้จวบจนกระทั่งปัจจุบันได้มีของทำเลียนแบบมากมายเสีย จนน่าเป็นห่วง เพราะดูด้วยตาแทบจะแยกไม่ได้เลย ว่าเม็ดไหนแท้เม็ดไหนเทียม ไม่ว่าจะเป็นสีสัน เหลี่ยมและน้ำหนัก

จริงอยู่ตอนนี้เข้าสู่ยุคเปิดโลกธาตุแล้ว กล่าวคือ ของกายสิทธิ์ที่จัดว่าหายากทุกอย่างในแผ่นดิน ก็เริ่มเปิดเผยตัวเองสู่มวลมนุษย์ โดยเฉพาะดินแดนแห่งพระพุทธศาสนาอย่างไทยเรา แต่ใช่ว่าใครก็มีสิทธิ์ที่จะได้ครอบครองหาเป็นเช่นนั้นไม่ ธาตุกายสิทธิ์ทั้งหลายทั้งปวงล้วนมีเจ้าของ ล้วนมีเหตุปัจจัยต่อกันมาแต่ปางก่อนแทบทั้งสิ้น ผู้ที่มีวาสนาต่อกันก็จะได้เป็นเจ้าของสิ่งนั้นสิ่งนี้ ผู้มีเงินแต่ขาดวาสนาต่อกันก็ไม่อาจจะได้มาไว้ในครอบครอง ไอ้ที่ได้มามักจะไม่ใช่ของแท้ ไอ้ที่แท้ก็มักจะพลาดโอกาสไปเป็นอยู่เช่นนี้นี่เอง

จากการเปิดเผยมิติความลี้ลับแห่งเมืองบาดาลจากนาคราชผ่านทางผู้ที่มีอำนาจสัมผัสพิเศษทางจิตเล่าว่าพิภพใต้บาดาลมีกฏเกณฑ์ที่ได้กำหนดให้เหล่า บรรดานาคทุกตนจะต้องมีแก้วมณีประจำตัวนาคทุกตนๆ ละหนึ่งดวง หรือที่มนุษย์โลกเรียกว่าเพชรพญานาค มีทั้งหมด สิบสี (โดยรวมทั้งสีเข้มและสีอ่อน)

สีของเพชรพญานาคนั้นจะเป็นไปตามจริตของพญานาคแต่ละตน และมิใช่เป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงวรรณะของพญานาคตามที่มนุษย์โลกได้เข้าใจผิดกันอยู่ เพียงแต่อานุภาพของเพชรพญานาคนั้นจะมี อิทธิฤทธิ์แตกต่างกันไปตามชั้น ตั้งแต่นาคบริวารจนถึงนาควรรณะกษัตริย์ ในเมืองบาดาลจะมีแก้วมณีกายสิทธิ์ที่บรรดานาค ทั้งหลายต้องทำการพลีนำเอามาอธิษฐานบรรจุฤทธิ์อำนาจเพื่อใช้เป็นแก้วประจำ ตัวของตนตามกฎของนาคบาดาล

เมื่อพญานาคตนใดใกล้จะถึงกาลอวสานแห่งตน ก่อนที่จะละสังขารก็จะทำการอธิฐานฝากแก้วมณีประจำตัวของตนไว้ในก้อนหิน ซึ่งต่อมามนุษย์เราได้เรียกหินชนิดนี้ว่าหินคลอน เพราะเมื่อเขย่าดูจะได้ยินเสียงดังกุกๆ อยู่ข้างในก้อนหินนั้น นัยว่าได้อธิฐานยกให้กับวงศ์วานที่ได้มาเกิดเป็นมนุษย์เพื่อเป็นของคู่บุญบารมี และต้องเป็นคนดีมีใจฝักใฝ่ในการสร้างคุณงามความดี จึงจะมีสิทธิ์ได้ครอบครอง

เดิมทีได้มีพระสุปฏิปันโนปฏิบัติสามารถผ่านลงไปยังนาคพิภพเมือง บาดาลโดยได้รับอนุญาตให้นำหินคลอนที่ภายในบรรจุเพชรพญานาคอยู่ขึ้นมาให้ญาติ โยมผู้มีวาสนาได้ทำบุญกับพระศาสนาก็จะได้รับมอบหนึ่งก้อน เมื่อทุบหินแตกออกก็จะพบเพชรพญานาคที่บรรจุอยู่ภายในหนึ่งเม็ด สัณฐานกลมหรือรี เป็นเพชรสีอะไรนั้นเป็นเรื่องที่น่าแปลก เพราะแม้แต่พระที่ท่านได้ตาในก็ไม่อาจที่จะมองเข้าไปดูได้ว่าเป็นเพชรสีอะไร?

อานุภาพของเพชรพญานาคนั้นท่านกล่าวว่าทุกสีล้วนมีอิทธิฤทธิ์เด่นทาง ด้านปกป้องคุ้มครองป้องกันภัยอันตรายได้อย่างเอกอุ เรียกโชค เรียกโภคทรัพย์ เมตตามหานิยม มีเดชตบะแรงกล้ายิ่งนัก...

ที่มา : http://www.oknation.net/blog/lee-lub/2010/04/20/entry-2 อ่านต่อ

 

ขอตัวชะแว้บบบบบ ปายทามอารายยยๆๆๆ ก่อนน้า..าา
เดี๋ยวค่ำๆๆๆๆ จะมาเล่านิทานให้อ่านกันน้า...าาาาาา

 

ค่ำหรือยัง..??? เสร็จแล้วจร้า..าา
ว่าจะไปกาดซะหน่อย...ขี้เกียจอีกแระ
เอาอารายยยมาให้ดู...เพิ่งทุบมาหมาดๆ
ก่อนทุบ...ตั้งจิตอธิษฐานบารมีที่ตัวเองบำเพ็ญมาดีแล้ว ทางไหนก็ขอให้ได้สีตรงตามบารมีนั้น

เพชรพญานาคสีแดง หมายถึง สีแห่งกำลังฤทธิ์อำนาจ เป็นสีอันทรงพลัง กล้าหาญ ทั้งยังเป็นที่เกรงขามแก่ผู้อื่น ผู้ที่ได้ครอบครองเพชรพญานาคสีแดง จะเป็นผู้ปฏิบัติธรรมผึกจิต มีสติ รู้เท่าทันอารมณ์เท่าน้น ยิ่งเพชรพญานาคสีแดงเข้มขึ้นเท่าไหร่ ยิ่งบ่งบอกถึงความเป็นนาคราชระดับผู้นำ ฉะนั้นย่อมมีฤทธิ์มากเป็นพิเศษ ดังนั้นเพชรพญานาคสีแดง จึงเหมาะกับผู้ที่ชอบทางฤทธิ์เดช หรือพลังของฌานสมาธิ มีความเป็นผู้นำ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมสง่าราศีแก่ผู้นั้นและต้องมีคุณธรรมในใจด้วย

 

รออยู่นะค้าพี่นุ๊กกกกกก

 

หนู๋ชอบสีแดง จ๋วยมากๆๆ ค๊าบบบบ ^^

 

เมื่อวานเข้าเวปไม่ได้ แต่รู้สึกผิดปกติมากเลย
เพราะเมื่อก่อนเวลาที่เข้าไม่ได้ จะหงุดหงิด งุ่นง่าน
มันจะลงแดงตายยยยยยย

แต่เมื่อวานกลับนิ่งสนิท ไม่กระตือรือร้นหาทางเข้าเลย
แล้วก็ได้นั่งสมาธิเช้า-กลางวัน-เย็น
แกล้งลืมโทรศัพท์มือถือไว้ให้ห้อง เพราะขี้เกียจรับโทรศัพท์

ปรากฏว่าหลวงพี่โทร. มาทั้งวันเลย พอเรากลับเข้าห้องตอนเย็น
เห็นเบอร์โชว์อยู่ ก็ไม่คิดที่จะโทร.กลับ เพราะว่าตั้งใจทำสมาธิเป็นพิเศษ
หลังจากสวดมนต์ นั่งสมาธิไปได้สักพัก กำลังจะเข้าอุปจาร เสียงโทรศัพท์ก็ดัง
ทีแรก นึกอยู่ว่าจะปิดเครื่องซะ เพราะอาจมีใครโทร.มาขณะที่นั่งสมาธิอยู่
รู้ขนาดนี้เลยน้า..าาา แต่ก็ไม่ปิด...พอออกจากสมาธิไปรับ

เสียงปลายทาง ก็พูดน้ำเสียงเหมือนดุ นึกในใจครายว้า..าา ต้องเป็นพี่ชายเรานี่แหละ
ไม่คนใดก็คนหนึ่ง เพราะน้ำเีสียงดุค่ะ ปรากฏว่าเป็นหลวงพี่เอง พร้อมทั้งถามว่าทำไม
ไม่รับโทรศัพท์ท่าน ท่านโทร.มาหลายรอบแล้ว อ๋อ...นู๋ลืมโทรศัพท์ค่ะ (โกหกพระนะเนี่ย)
ท่านก็เลยบอกว่า งั้นพรุ่งนี้อย่าลืมนะ หลวงพี่จะโทร.มาเล่าอะไรให้ฟังเยอะเลย แล้วก็วางสาย

ใครอยากอ่านเรื่องเล่าจากหลวงพี่บ้างหนอ...??

 

อยากฟังคร่าๆๆๆๆ

 

เรื่องที่นำมาเล่านี้ ขอให้ใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะคะ

เจริญพร

พี่โทรไปว่า จะถามเรื่อง น. ว่าติดต่อกันบ้<wbr>างหรือไม่ เพราะหลวงพี่โทรไปหาทั้งวันไม่<wbr>เห็นรับสายไม่รู้ว่าเค้าเป็นอย่<wbr>างไรบ้าง เลยโทรไปหา ป. ไม่เห็นรับสายก็โทรไปถามหลาน ก็บอกว่าไม่รู้เหมือนกัน แล้วก็บอกว่าทางบ้านสบายดี ไม่มีอะไร เมื่อวานหลวงพี่<wbr>ไปเอาของออกจากตัวที่อุตรดิตถ์ เพราะมีอาการมานานแล้ว แต่ก็พอฝืนให้เป็นปกติได้ด้<wbr>วยแรงบุญที่<wbr>เราทำและพระกรรมฐานที่ปฏิบัติ<wbr>อยู่เรื่อยๆ ที่นี้จะเล่าย่อๆ เรื่องในวัด พรรษานี้มีพระมาจำพรรษาด้วย 2 กลุ่ม รวม 8 รูป แรกๆ ก็เข้ากันดี

ต่อมาก็มีเรื่องระหว่าง 2 กลุ่ม กลุ่มร้ายมาจากคนละที่ มาเจอกันที่นี่ พลังจิตสู้กลุ่มที่มาคอยช่<wbr>วยเหลือหลวงพี่ไม่ได้ เลยจับกลุ่<wbr>มกันใช้วิชาไสยศาสตร์ ทำคุณไสย์ให้หลวงพี่มีอาการที่<wbr>ไม่รู้ตัวในบางครั้ง

 

แล้วสร้างเรื่องจะให้หลวงพี่ไล่<wbr>พระอาจารย์องค์ที่มาช่วยหลวงพี่<wbr>สร้างวัดไป ท่านชื่ออาจารย์ ช. น.ก็รู้จัก เพราะเคยมางานหลวงปู่เทพโลกอุดร สำหรับเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นนั้นหลวงพี่ก็เฉย ๆ ในที่สุดอาจารย์ ช. ก็ออกไปก่<wbr>อน เพราะท่านเห็นว่าหลวงพี่ไม่<wbr>ทำอะไรให้เด็ดขาดสักที แต่ท่านก็บอกว่าจะไปๆ มาๆ ไม่ได้<wbr>โกรธหลวงพี่

พอท่านไปได้วันเดียวกลุ่มที่อยู<wbr>่ก็ทำท่าดีใจเหมือนมีความสามั<wbr>คคีกันดีแต่พอมาอีกวันรุ่งขึ้น หนึ่งในพวกนั้นก็ออกปฏิกิริ<wbr>ยาไม่สุภาพกับหลวงพี่ หลวงพี่ก็อดกลั้นไว้ก่อน กะว่าวันพระจะเรียกประชุ<wbr>ม และจะตรวจสอบประวัติละเอียดทุ<wbr>กองค์ โดยให้ทุกรูปนำหมายเลขบั<wbr>ตรประชาชน13 หลักมาแสดง โดยประกาศออกไมค์ 3 ครั้ง ในวันพระ และมีลูกศิษย์ที่เป็<wbr>นตำรวจของหลวงพี่มาพอดีจะได้ให้<wbr>เอาเลขบัตรนั้นไปค้นประวัติ

ทั้ง 4 รูป ในกลุ่มที่ก่อเรื่องก็<wbr>จับกลุ่มหนีไป 3 รูป ยังเหลืออีก 1 รูป ซึ่งคาดว่ารูปนี้เป็นรูปที่<wbr>ทำคุณไสย์ได้แต่เรายังไม่ได้<wbr>ทำให้เขาตื่นแต่ตอนนี้คงจะรู้ตั<wbr>วบ้างแล้ว หลังจากพวกนั้นไปแล้วอีก 1 อาทิ<wbr>ตย์ อาจารย์ ช. ก็กลับมา รูปที่เหลืออยู่ก็สืบรู้ว่าท่<wbr>านกำลังจะมาเลยหาเรื่องลาไปธุ<wbr>ระกรุงเทพฯ ชั่วคราว ส่วนอาจารย์ ช. มาแล้วก็ปรึ<wbr>กษากับหลวงพี่ถึงเรื่องวุ่<wbr>นวายต่างๆ และพยายามช่วยหลวงพี่<wbr>เต็มที่

ท่านเล่าว่าเหมือนฟ้าลิ<wbr>ขิตที่ท่านไปก็ไม่ได้วางแผนมาก่<wbr>อน คิดว่าจะไปกรุงเทพฯ หนีความวุ่<wbr>นวายไปชั่วคราวแต่อยู่ดีๆ ก็<wbr>ไปลงอุตรดิตถ์ แวะเยี่ยมเพื่<wbr>อนพระที่เคยรู้จักกัน และไปเจอพระอาจารย์ทองดี ซึ่งเป็นผู้เก่งกาจในการถอนคุ<wbr>ณไสย์ ตัวท่านอาจารย์ ช. ก็สงสั<wbr>ยตัวเองว่าจะโดน

 

จึงให้พระอาจารย์ทองดีทำให้พร้<wbr>อมกับโยมลูกศิษย์ของท่านจึงให้พระอาจารย์ทองดีทำให้พร้<wbr>อมกับโยมลูกศิษย์ของท่านอาจารย์ ช.ด้วย ปรากฎว่าท่านบอกโดนจริงๆ มีไม้ตะเคียนบ้าง ตะปูบ้างที่เขาเรียกออกมา

ส่วนโยมนั้นก็มีตุ๊กตามัดหุ่<wbr>นอกมาเพราะเคยมีเมียหลายคน เลยโดนฝ่ายผู้หญิงทำใส่ เมื่อมาเล่าให้หลวงพี่ฟังหลวงพี<wbr>่ก็ยังทำใจ เพราะคิดว่าเป็นพระช่<wbr>างมันเถอะจะเป็นจะตายก็ช่างมั<wbr>นทั้งที่อาการล่าสุดตัวหลวงพี่<wbr>เองกินข้าวก็ไม่ได้นอนก็ไม่ได้ ก็เลยทำสมาธิอย่างเดียว หน้าก็หมองแต่เราเองไม่รู้ตัว บางทีก็พูดเรื่องอะไรกับอาจารย์ ช.ไปก็จำไม่ได้ อาจารย์ ช.บอกว่าหลวงพี่บางที<wbr>เหมือนคุ้มดีคุ้มร้ายเดาอารมณ์<wbr>ไม่ถูก ท่านก็เลยสงสัยว่าหลวงพี่ต้<wbr>องโดนอะไรมาเยอะแน่ๆ เพราะท้องก็ใหญ่ทั้งที่ไม่ค่<wbr>อยฉันอะไร

ท่านก็ชวนไปหาพระอาจารย์ทองดี ก็หาคนขับรถจะไปกันก็ไม่ลงตัวซั<wbr>กทีหลวงพี่เองก็ไม่ใส่ใจ อยู่ๆ ก็เหมือนฟ้าลิขิต โยมที่สนิทและไว้ใจได้ของหลวงพี<wbr>่ก็มาบอกว่าวันนี้ผมว่<wbr>างไปเลยไม๊! วันอื่นไม่รู้ว่าจะว่างหรือปล่<wbr>าว! หลวงพี่ก็ยังบ่ายเบี่ยง ว่าพรุ่งนี้ดีกว่าลังเลอยู่พั<wbr>กหนึ่ง ก็ตัดสินใจส่งเดชว่าไปก็<wbr>ไป แล้วก็ไปกัน

พอพบอาจารย์ทองดีท่านอัธยาศั<wbr>ยดีมากคุยกันดี แล้วก็ไปทำพิธีง่ายใช้แป้<wbr>งพอกตามตัวของในตัวก็ออกมาอยู่<wbr>ในแป้ง ท่านบอกว่าเป็นวิชาของต้นตระกู<wbr>ลท่านที่ได้มาจากหลวงปู่ทวดที่<wbr>เรารู้จักกัน ปรากฎว่้าของหลวงพี่มี<wbr>ของออกมาหลายอย่างมาก คือออกมาเห็นๆ ไม่ใช่เล่นกล

และแป้งที่ใช้หลวงพี่ก็<wbr>เอาไปเองด้วย มีทั้งกระดูกผี<wbr>ตายโหงขนาดประมาณตลับเมตร ออกจากท้อง โกเต็กที่ผู้หญิงใช้ ลวดทองแดงเป็นขดๆ ตะปู ๒ นิ้ว หอยทากอัดด้วยดินเจ็ดป่าช้า ตัวขนาดจุกขวดเหล้า ไม้ตะเคียนใหญ่ยาวขนาดนิ้<wbr>วกลางของหลวงพี่ จนคนที่เอาออกบอกไม่ไหวแล้ววันนี้ เพราะของมันจะเข้าเขา พลังเขาอ่อนแล้ว ในตัวหลวงพี่ยังมีอีก ให้มาเอาออกอีกวันหลังได้

แต่พอเอาออกแล้วหลวงพี่หน้<wbr>าขาวใสทันทีทันใด ที่รู้เพราะบังเอิญเดินผ่<wbr>านกระจกรถ ก็นึกในใจว่า เอ๊ะ หน้าเราเปลี่ยนไป การพูดคุยก็คล่องขึ้น จิตใจแจ่มใสขึ้น แล้วอาจารย์ทองดีก็เสกสายสิญจน์<wbr>ไว้ให้ป้องกัน ทำนำ้มนต์ถอนและกันไว้ให้ เพื่อว่ามันทำมาอีกจะได้ป้องกั<wbr>นไว้ก่อน

ท่านบอกว่าพอของออกแล้วไอ้พวกที<wbr>่ทำมันจะรู้ตัวโดยธรรมชาติ<wbr>ของคนเล่นของ ของพวกนี้ถ้าพวกมันหายไปพวกที่<wbr>เหลืออยู่มันจะวิ่งหากัน ดังนั้นตอนหลวงพี่เอาออกใหม่ๆ มั<wbr>นจะโล่ง แต่พอกลับมาแล้วไอ้ที่เหลืออยู่<wbr>มันก็จะออกมาวิ่งหากันว่าพวกมั<wbr>นหายไปไหน หลวงพี่ก็เลยยังมีอาการอยู่แต่<wbr>ไม่มากเหมือนเก่า ตอนนี้ฉันได้มากขึ้น นอนก็ได้ไม่ปวดเมื่อยเหมือนก่อน ขาพับที่เข่าก็มีอาการปวดน้<wbr>อยลงจนเกือบหาย ก็มาวิเคราะห์กันกับอาจารย์ ช.ว่า หลวงพี่โดนได้อย่างไร

 

ท่านบอกว่า เพราะเราสร้างหลวงปู่เทพโลกอุดร พวกเล่นวิชามันเลยคิดว่าเราต้<wbr>องมีอะไรดี พวกเขาอยากสร้างกันเยอะแต่ก็สร้<wbr>างไม่ได้ ถ้าหลวงปู่ท่านไม่เปิดให้ พวกเล่นวิชาก็เลยคิดว่าหลวงพี่<wbr>ต้องมีวิชา มันก็เลยลองทำมา

มีทั้งพระ และโยมชาวบ้านเลยนะที่ทำมาใส่<wbr>หลวงพี่ (เคยมีพระมีโยมมาหามาทำบุญแล้<wbr>วถามหลวงพี่เหมือนกันว่าอยู่รู<wbr>ปเดียวไม่กลัวหรือ เกิดมีใครทำอะไรมาจะทำอย่างไร หลวงพี่ก็ตอบว่าช่างมันเราไม่รู<wbr>้ไม่เห็นใครทำอะไรเรารู้แต่ว่<wbr>าเรากำลังทำอะไร อะไรคือประโยชน์ทั้งโลกนี้<wbr>และโลกหน้าและอะไรไม่ใช่<wbr>ประโยชน์ทั้งโลกนี้และโลกหน้า) นี่เป็นส่วนหนึ่ง

อีกส่วนหนึ่งเป็นของพวกผู้หญิ<wbr>งที่ทำที่มาทำบุญแล้วคิดว่<wbr>าหลวงพี่รวย กะจะทำให้หลวงพี่<wbr>ตกอยู่ในอำนาจแล้วไปเบิกเงินวั<wbr>ดให้เป็นกลุ่มเดียวกับที่ บ.น้องเราเคยไปข้องเกี่ยวแล้<wbr>วต้องสึกหาลาเพศออกมานี่ละ อีกส่วนหนึ่ง เป็นลมเพลมพัดที่<wbr>เขาปล่อยของในวันโกนวันพระ เพราะพวกเล่นของมันจะร้อนวั<wbr>นโกนวันพระมันต้องปล่อยออก ซึ่<wbr>งปกติมันก็ไม่เข้าคนมีศีลมี<wbr>ธรรมนอกจากคนนั้นก่อนจะมาถือศี<wbr>ลหรือมาบวชเคยโดนมาก่อนบ้างแล้<wbr>ว มันก็เลยเป็นเชื้อล่ออยู่ข้างใน นี่หลวงพี่จึงรู้ว่าโดนเยอะ

คงจะโดนมาก่อนบวชบ้างแล้<wbr>วเพราะเคยเกเรนั่นเอง หลวงพี่จึงมีอารมณ์เหมือน เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายมาตลอด ก็เห็<wbr>นใช่ไหมในสมัยก่อนบวช แม้บวชแล้วบางครั้งยังคุ<wbr>มอารมณ์ไม่ได้ เหมือนที่หลานกับน้อง<wbr>เคยเจอตอนมาบวชเณรบวชพระกั<wbr>บหลวงพี่ แต่ก็เป็นอารมณ์ดุดันที่ต้<wbr>องการให้ทำให้ถูกต้องตามวิธี<wbr>ของพระของเณรเท่านั้ัน แม้แต่จะเป็นพระเณรรูปอื่นๆ ก็<wbr>ตาม

แต่พอถึงเวลาที่บุญส่งผลแล้<wbr>วทำให้เหมือนฟ้าลิขิตให้มี<wbr>คนมาช่วยเหลือหลวงพี่ แล้วเรื่องต่างๆ ก็กระจ่างขึ้<wbr>นเรื่อยๆ เดี๋ยววันศุกร์หลวงพี่จะต้<wbr>องไปเอาออกอีกให้หมด จะได้ทำงานให้พระพุทธศาสนาได้ดี<wbr>ยิ่งขึ้น มีความระมัดระวังเรื่องต่าง ๆ มากขึ้น ยังมีอีกเยอะในเรื่องนี้

 

ตอนนี้เล่าย่อๆ ก่อน ที่หลวงพี่โทรหาก็เพื่อจะเล่<wbr>าให้ฟังนี่ละ เพราะตอนนี้หลวงพี่มองเห็<wbr>นทางแก้ไขเรื่องหลายๆ เรื่องทั้<wbr>งที่วัดที่บ้านได้แจ่มใสมากขึ้น เรื่องที่หลวงพี่เล่ามาหลายคนคิดว่ามันยังมีอยู่อีกหรือในสมั<wbr>ยนี้ หลวงพี่เองก็ไม่เชื่อในทีแรก กึ<wbr>่งแบ่งรับแบ่งสู้ แต่ตอนนี้เห็นกับตาเจอกับตัวเอง เลยจะเตือนพวกเราให้ระวังเอาไว้<wbr>ว่าในสถานที่ี่ไม่ดี มีคนชั่วหยาบหากินอยู่จะมีสิ่<wbr>งพวกนี้แฝงอยู่ทั้งสถานที่บั<wbr>นเทิง ร้านอาหาร สถานเริงรมณ์ ผู้หญิงขายตัว เด็กเสริฟ หรือเป็นกิ๊ก คบชู้สู่สาว หรือคบชู้สู่ชาย กินเหล้าเมายาไม่เลือกสถานที่ อย่างนี้เป็นต้น (ยังมีอีกหลายที<wbr>่บางทีก็คนใกล้ตัวเป็นเพื่อนบ้<wbr>านเพื่อนสนิท) มีทั้งฝ่<wbr>ายขาวและฝ่ายดำมันเป็นได้ทั้งนั<wbr>้น เพราะในสมัยกึ่งศตวรรตเป็นยุ<wbr>คของพวกปีศาจเริ่มทยอยออกมาสร้<wbr>างบารมี เขาก็สร้างตามแบบของมารภูตผีปี<wbr>ศาจ มีทั้งฝ่ายขาวและฝ่ายดำ หรือจะเป็นเทพก็มีทั้งเทพฝ่<wbr>ายขาวและฝ่ายดำ มารก็มีทั้งมารขาวมารดำ ให้เราเป็นคนดีมีศีลมีธรรมสั่<wbr>งสมบุญด้วยศรัทธาที่บริสุทธิ์<wbr>ไม่มีใจแอบแฝงเรื่องอื่นๆ

แล้วเมื่อผลบุญเต็<wbr>มที่แล้วเราก็จะเห็นทางสว่<wbr>างและมีปัญญามากขึ้น ทุกมวลสรรพสิ่งทุกเรื่องราวมี<wbr>เกิดขึ้นแล้ว ย่อมมีสลายไป แตกดับไป เพียงแต่เราสามารถสร้างปัจจั<wbr>ยในการแตกดับหรือสลายไปในลั<wbr>กษณะใดเท่านั้นเอง นั่นหมายถึงจะให้เป็นแบบฝ่<wbr>ายขาวหรือฝ่ายดำ แต่หลวงพี่ว่าที่ดีที่สุดก็<wbr>แบบที่หลวงพี่ทำ คือยึดพระรั<wbr>ตนตรัย คือพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ เรียนรู้ในแก้วสามดวงนี้ให้ลึ<wbr>กซึ้ง

 

การกระทำภายนอกอะไรต่<wbr>างจะออกมาทางศีล ทางธรรม สมาธิ ปัญญา หรือการทำบุญในรูปแบบต่<wbr>างๆ จะออกมาเองตามกำลังบุญบารมี<wbr>ที่เราสั่งสมแล้วนั่นเอง อยากจะเล่าต่ออีกแต่พิมพ์แบบจิ้<wbr>มนี้มันนานเลยเมื่อยหลัง และกลัวจะอ่านไม่หมด ถ้ามีเวลาก็โทรมาคุยหรือปรึ<wbr>กษากับหลวงพี่ได้นะ เพราะเราเองจริงๆ แล้วก็เหลือแค่<wbr>สี่พี่น้องนี่ละ ตอนนี้ก็ห่วง น. อยู่เหมือนกัน เพราะวันนี้ติดต่อไม่ได้เลย เมื่อหัวคำ่ก็ยังติดต่อไม่ได้ ไม่รับสายเลย

เอาเรื่องที่หลวงพี่เล่<wbr>ามาเล่าต่อให้หลานให้น้องฟังหรื<wbr>อใครๆ ที่เรารักเราห่วงฟังได้ เล่าให้หลานฟังบ้างว่าที่สมั<wbr>ยหลวงพี่กินเที่ยวหรือเที่<wbr>ยวเตร่กินเหล้ากินเบียร์ กินยา กับเพื่อนกับฝูง ทะเลาะกันตีกัน เป็นคนเก่งเล่นของบ้างชนะบ้<wbr>างแพ้บ้างนั้นน่ะ และแล้วก็ต้องมาเจอกับอะไรบ้าง แล้วบอกเขาด้วยว่าเมื่อรู้แล้<wbr>วอย่าไปทำเองละ ไอ้เดรัจฉานวิ<wbr>ชาพวกนี้น่ะไม่ว่าในตัวนอกตัว มันจะเป็นเวรเป็<wbr>นกรรมตกนรกหมกไหม้ไม่สิ้นสุด

พวกที่เคยทำกับหลวงพี่สมัยก่<wbr>อนบวชหลวงพี่ก็รู้ตัวหมดแล้ว ทั้งหญิงทั้งชาย บางคนก็ตายไปแล้วยังไม่ทันแก่<wbr>เลย บางคนก็ป่วยเป็นโรครักษาไม่หาย บางคนก็เหมือนเป็นบ้าเป็นบอ จะได้เป็นอุทาหรณ์ ถ้าหลวงพี่ไม่ได้บวชมาปฏิบัติ<wbr>คงตายไปแล้ว เพราะมีหมอดูหรือคนมีวิชาที่ดี<wbr>หลายคนเคยทักอยู่เหมือนกันบ่<wbr>อยๆว่ารอดมาได้ยังไง ซึ่งตอนนั้นก็ยังไม่รู้ว่าท่<wbr>านหมายถึงอะไร และไม่ค่อยเชื่อด้วย เมื่อบวชแล้วก็ปลงว่ามันเป็<wbr>นธรรมดาของโลก เลยไม่ค่อยได้ใสใจ แต่ตอนนี้พอจะรู้แล้วความเป็<wbr>นธรรมดาที่อยู่เหนือโลกยังมีอีก

พอก่อนนะดึกแล้วเมื่อยด้วย แล้วคุยกันใหม่

เจริญพร....................<wbr>หลวงพี่

 

หายปายหนายกันหมดแย้ว..ววว พรุ่งนี้มาผลุบเข้าผลุบออกกันใหม่น้า..าา

 

เข้าๆ ออกๆ กันจนเหนี่อยละมั้งคร๊าบบ

 

จ๊ะเอ๋....วันศุกร์แล้วจร้า..าา ปี๋หลอก:boo:
ปยานาคเข้าถ้ำม่ายด้ายยยเหยอออ