จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

โมทนาบุญกับจิตบุญที่ ๗๙ คุณศรี ๘๐ คุณพอใจ ๘๑ คุณปุ๋มและครูที่ช่วยกันดูแลทุกท่านนะคะ
เห็นจิตยกใหม่ ก็เย็น จิตบริสุทธิ์ งดงาม เห็นแล้วปลื้มจิงๆ
ขอบารมีท่านพ่อและบุญบารมีที่ลูกเคยกระทำสั่งสมมา จงสำเร็จแด่ทุกท่าน ขอให้ทุกท่านจงมีความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรมยิ่งๆขึ้นไป จงรักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยและกิเลสทั้งหลายทั้งสิ้นเถิด

 

การเพ่งนี่ใช้จิตนะคะ ไม่ใช่ตาเนื้อ
วางใจให้สบาย ให้จิตนิ่ง ให้จิตรวมตัวกัน และเห็นภาพพระให้ต่อเนื่อง
พอจิตนิ่งมากขึ้น เบาสบายมากขึ้น ภาพพระก็จะชัดขึ้น ใสขึ้นตามสภาวะจิตเอง
ค่อยๆทำไปนะคะ เน้นต่อเนื่อง ทำบ่อยๆ ระหว่างวันก็ทำได้

ฟ้า๒๓

 

ขอขอบพระคุณ คุณหมออุษาวดีมากๆ นะครับ ที่ตอบแทนได้ชัดเจนที่สุดแล้ว แจ่มมั๊กๆ ผู้ผ่านการปฎิบัติจิตเกาะพระเท่านั้น จึงจะมีสิทธิ์พูดได้เต็มปากเต็มคำ ว่า จิตเกาะพระนั้นเป็นอย่างไร ส่วนคำตอบที่ดีที่สุดของผู้ปฎิบัติ ก็คือ ปฎิเวธ หรือผลของผู้ปฎิบัติที่ยกจิตสำเร็จแล้วเท่านั้น สำหรับผู้ที่ยังมิได้ลงมือปฎิบัติ หรือแอบปฎิบัติกันแต่ทำยังทำกันไม่ได้ กรุณาอย่าไปพูดไปเรื่อย หรือเดากันไปเรื่อยเปื่อย อันนั้นมิใช่เป็นผู้ที่มีสติปัญญาหรือผู้ที่เจริญแล้ว

 

วิชา "จิตเกาะพระ" นี้
ทำให้เรารู้เราเห็นอะไรกันบ้าง และจะต้องมองเห็นให้ชัดเจนกับสิ่งต่อไปนี้...

ขอเริ่มต้น คำว่า ศีลก่อนเลย
คือผู้ปฎิบัติทุกคนจะต้องรักษาศีล๕ครบบริบูรณ์เป็นอย่างต่ำ ก่อนลงมือปฎิบัติ(พี่ภูขอร้องนะจ๊ะ นะจ๊ะ)
ใครอยากมีสติมาก ก็ต้องเจริญสติภาวนาให้มาก แต่ที่นี่เน้นการปฎิบัติจิตเกาะพระ
ใครอยากเห็นจิตเดิมแท้หรือจิตประภัสสรของตนเอง ก็สร้างสติกันให้มากจนกว่าจิตจะนิ่ง โดยการระลึกหรือนึกถึงพระให้บ่อยๆ
ใครอยากเห็นธรรม เห็นสัจจธรรมหรือความจริงทั้งปวง ก็ต้องเข้าไปให้ถึงกระแสแห่งจิตของตนเองให้ได้เสียก่อน
ใครอยากเห็นพระตถาคต ก็ทำจิตเป็นพุทธะให้ได้ก่อน นั่นก็คือ มีดวงตาเห็นธรรมก่อน

แต่ไม่ต้องไปอยากเห็นพี่ภูกันนะ เพราะว่าพี่ภูเห็นพวกเรากันหมดแล้ว เอิ๊กๆ

ปล.การรักษาศีลไม่ยาก ถ้ามีความตั้งใจจริงในการกระทำความดีให้ถึงพร้อม การเข้าไปให้ถึงธรรมะนั้นก็ไม่ยากอีก แต่จะยากที่ทำจิตหยาบให้กลายเป็นจิตละเอียด หรือทำจิตให้นิ่งหรือทรงฌานทั้งวันทั้งคืนกันนี่แหล่ะ ยาก แต่พวกเราจะพบกับอุปสรรค์กันตอนที่ทำให้จิตนิ่งมากกันนี่แหล่ะ โดยเฉพาะจิตทรงฌานลึกๆ เพราะเมื่อจิตละเอียดมากๆ จิตจะกลายเป็นทิพย์ หมายถึงจะไปรับรู้เรื่องราวต่างๆมากมายจากในโลกทิพย์ หรือเรียกกันว่า นิมิต เพราะนิมิตจะเป็นตัวหลอกล่อว่าจิตของผู้ปฎิบัติเข้มหรือมีสติมากน้อยเพียงไร นิมิตจะเป็นตัวที่คอยขัดขวางมิให้ผู้ปฎิบัติเจริญในธรรม หรือบรรลุธรรมได้ง่ายๆ และเมื่อจิตได้ยกระดับสูงขึ้นไปถึงฌานแล้ว นักภาวนาหรือผู้ปฎิบัติส่วนใหญ่มักจะไปติดสุขจากฌาน อันนี้ก็มีมากและยากจะออกมาจากจุดตรงนี้กันได้ง่ายๆ ใครๆบอกก็ไม่ฟัง มีทางเดียวก็คือจะต้องรอตัวปัญญาของตนเองเกิดมากๆก่อน เจ้าตัวถึงจะร้องว่า อ่อเป็นอย่างนี้นี่เอง ก็เลยถึงบางอ้อเมื่อนั้น จึงจะหลุดพ้นการติดสุขจากฌานเมื่อนั้น
แต่ผู้ทำสมาธิใหม่ๆนั้น จะต้องผ่านด่านนิวรณ์๕ ตนเองก่อน เมื่อผ่านผ่านนี้ไปแล้ว ก็จะเจอปิติทั้ง๕ อีก เมื่อผ่านปิติ๕ไปแล้ว(อาาการขนลุกซู่ เหมือนตัวโยกตัวเอน รู้สึกว่าตัวพองใหญ่ เหมือนมีมดหรือแมลงมาไต่ตามใบหน้า ตัวเบาเหมือนจะลอยได้) เมื่อเราไม่สนใจกับปิติ๕ จิตเราก็จะเข้าสู่ฌานสมาบัติ กว่าจิตจะหลุดมาจาฌานกันได้ ก็ต้องพบกับนิมิตที่กล่าวกันไปแล้ว ผ่านนิมิตได้แล้ว จิตถึงจะเข้าสู่ความว่าง จิตเสวยวิมุตติสุข หรือที่เราสมมุติเรียกจิตยกกันว่า จิตบุญ นั่นเอง หรือใครอยากจะเรียกว่าอะไรก็ตามใจแต่อย่ามาเรียกที่กระทู้นี้ หรือยังมีใครไม่เข้าใจอีกว่า จิตบุญแปลว่าอะไร? แต่ถ้าใครอยากรู้ก็ให้ส่งPM&e'mail ไปถามครูใหญ่ครูเพ็ญเอาเอง ไม่ต้องมาถามพี่ภูนะ เดี๋ยวถ้าใครมาถามพี่ภูจะให้เธอไปถามท่านพ่อข้างบน...อิอิ (สม)

 

ขออนุญาตประกาศจิตบุญดวงที่ ๗๙ และ ๘๐ ณ วันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๕๕

<hr style="color:#FFFFFF; background-color:#FFFFFF" size="1">

ขอท่านทั้งหลายจงโมทนา
กับจิตบุญดวงที่ ๗๙
ของกลุ่มจิตบุญเทอญ
สาธุ สาธุ สาธุ

ขอท่านทั้งหลายจงโมทนา
กับจิตบุญดวงที่ ๘๐
ของกลุ่มจิตบุญเทอญ
สาธุ สาธุ สาธุ

​

<fieldset class="fieldset"> <legend>รูปขนาดเล็ก</legend>
อนุโมทนาสาธุด้วยอย่างยิ่งค่ะ ว่าแล้วๆๆม้ามืดๆถัาเป็นล้อตเตอรี่ก็รวยแล้ววว(f)chearrcatt13

</fieldset>

 

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=vOBb3udumxo]น้ำตาแสงใต้ - แซม ยุรนันท์ ภมรมนตรี - YouTube[/ame]​

เหตุหรือที่มาของแห่งน้ำตา

มันเกิดขึ้นได้ทั้งดีใจและเสียใจ แต่ต่างวาระกรรมกันไป สรุปแล้วต่อมน้ำตาจะทำอยู่สองโหมด ก็คือโหมดดีใจสุดๆกับโหมดที่เสียใจสุดๆ ที่แหล่ะหน๋าอาการและอารมณ์ของขันธ์๕ มันช่างไม่เที่ยงเอาเสียเลย แต่ถ้าจิตใครที่ยกแล้ว(จิตบุญ) ขอให้พวกเราเอาสติมาดูที่จิตของตนเองดูบ้าง ปรากฎว่าจิตนี่มันนิ่งสงบเฉยมากจริงๆ มันไม่ได้เป็นเดือด เป็นแค้น ร้อนรน หรือไปวิ่งตามกระแสเหมือนเมื่อก่อน แถมยิ่งพิจารณามันก็น่าสมเพช น่าเวทนาเป็นยิ่งนัก ว่าขันธ์ ๕ ที่ทุกคนเข้าใจว่าเป็นเราหรือเป็นของเรานั้น มันไม่จริงเลย เพราะขันธ์ ๕ เดี๋ยวดีใจ เดี๋ยวเสียใจ มีสุขสลับทุกข์ตลอดเวลา มันไม่เห็นจะมีอะไรเที่ยงแท้และแน่นอนเลย แต่ถ้าใครสามารถเข้าไปถึงกระแสจิต กระแสธรรมกันได้ จิตจะเห็นทุกอย่างเป็นธรรมดาไปหมดจริงๆ ขอให้พวกเราฝึกจิตกัน โดยนำจิตเข้ามาเรียนรู้และจะต้องทำให้จิตเข้าใจด้วย แต่ถ้าไม่อย่างนั้นแล้วจิตก็จะไม่รู้จัก คำว่า ละ ปล่อย วาง แต่ถ้าจิตไม่ละ ปล่อย วางแล้ว เราเองนี่แหล่ะ มิใช่ใครอื่นจะเป็นทุกข์ใจไปตลอดในภายหลัง เพราะฉะนั้นเราฝึกจิตเพื่อหาทางออกแห่งทุกข์ของตัวเราเองให้ได้ ถึงจิตจะฝึกยาก แต่ก็ต้องฝึก แต่ถ้าใครไม่ฝึก หรือฝึกแต่ยังไม่สำเร็จ คนนั้นก็จะตกเป็นเหยื่อของความทุกข์ยากอย่างนั้นตลอดไป

จิตเกาะพระเป็นโอกาสที่ดีที่สุดแล้วในขณะนี้ อย่าปล่อยให้โอกาสนี้หลุดลอยไป มันอาจจะดูแปลกและใหม่สำหรับนักภาวนาหรือผู้ปฎิบัติธรรมทั่วๆไป ขออย่าไปยึดติดกับรูปแบบกันมากนัก ขอให้เป็นวิธีที่ทำให้จิตใจสงบหรือหาทางออกจากทุกข์ ก็น่าจะพึงพอใจแล้ว เพราะพวกเราถูกสอนมานานมากแล้วกับวิธีเดิมๆ พระธรรมหรือคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ประเสริฐยิ่งนัก ประเสริฐแล้วทั้งปวง แต่พวกเรารับสื่อและปฎิบัติกันไม่ถึงไหนสักที ก็เลยเข้าไปไม่ถึงพระธรรม เพราะว่าเราไม่เข้าใจในธรรม ในสิ่งที่มากระทบจิตของเราทุกเมื่อเชื่อวัน หรือทุกขณะจิต นั่นเอง ธรรมะนั้นเรียนรู้ทันกันได้ ธรรมะนั้นสามารถทำความเข้าใจกันได้ แต่อย่าลืมนะว่า พระธรรมหรือคำสั่งสอนของพระพุทธองค์นั้น เป็นของละเอียดและเป็นของสูงล้ำค่ายิ่งนัก เพราะฉะนั้นแล้วพวกเราจะเข้าไปให้ถึงธรรมกันนั้นได้ เราจะต้องทำจิตที่เคยหยาบมาก่อนหน้านี้ให้ละเอียดเสียก่อน และขั้นตอนที่จะทำให้จิตละเอียดนั้น ได้แก่ ขบวนการที่ทำให้จิตของเรานิ่ง นั่นก็คือ การเจริญกรรมฐานทั้ง 40 กองของพระพุทธองค์ที่นำมาให้พวกเราปฎิบัติกัน

แต่จิตเกาะพระนี้แล ที่จะมาช่วยย่นระยะทาง ระยะเวลาที่จะทำให้จิตของผู้ปฎิบัติเข้าสู่ความนิ่ง ความสงบได้ไว และเป็นไปด้วยความต่อเนื่อง แต่ถ้าจิตไม่นิ่ง อันจะมีผลต่อจิตโดยตรง ก็คือไม่เกิดปัญญา นั่นเอง แต่ถ้าทำให้จิตนิ่งมากจนกลายเป็นสมาธิ เป็นฌาน และในที่สุดจิตก็จะเกิดปัญญา และจิตจะก้าวให้พ้นจากที่เคยติดสุขจากฌานกันนี้ได้ เราจะต้องทรงฌานให้ได้นานที่สุด หรือทรงฌานให้ได้ทั้งวันทั้งคืน นั่นเอง เมื่อผู้ปฎิบัติทำได้กันอย่างนี้แล้ว จิตก็จะพัฒนาเข้าสู่การวิปัสสนา และผ่านวิปัสสนาญาณหรือปัญญาญาณ โดยตามลำดับจิตของผู้ปฎิบัติ ที่มีความเพียรมากน้อยด้วย หวังว่าพอจะเข้าใจแนวทางการปฎิบัติจิตเกาะพระ จิตเกาะพระนี้จะเน้นการปฎิบัติธรรมในเชิิงรุกมากกว่าเชิงรับ จงฟังให้ดีๆ ต่อไปนี้มารหรือกิเลสมาร จะต้องถูกทำลายด้วยวิชาเดินมรรคาให้ถูก+ตรงทางของวิธีจิตเกาะพระนี้ เพราะฉะนั้นได้โปรดสังเกตกันให้ดีๆว่า พวกครูทั้งหลายจะเป็นผู้ช่วยคอยกระทุ้งจิต ให้กิเลสขนาดกลางและละเอียดออกมาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผู้ปฎิบัติก็อย่ามาโกรธ เกลียด มาโทษกับครูกันเลยนะ แต่ถ้าครูไม่มาทำแบบนี้กับผู้ปฎิบัติแล้ว ผู้ปฎิบัติก็จะผ่านด่านนี้ไปได้ยากมาก ยากเหลือเกิน แต่ถ้าไม่เชื่อก็ลองทำกันเอง การเดินจิตหรือการเดินมรรคานี้ ผู้ปฎิบัติจำเป็นจะต้องมีครูหรือผู้รู้มาคอยชี้แนะแนวทางในการปฎิบัติให้ถูกต้อง และจะต้องดูแลจิตอย่างใกล้ชิดด้วย เพราะถ้าครูไม่ทำอย่างนั้นแล้ว ผู้ปฎิบัติก็มักชอบเดินทางอ้อม ชอบเลี้ยว ชอบแวะข้างทาง หรือไม่ก็ออกนอกทะเลไปเลย แต่ถ้ามีครูคอยดูแลหรือระวังจิตของผู้ปฎิบัติให้เดินทางให้ถูกและตรงมรรคผลนิพพานกันนี้ จิตก็จะพัฒนาหรือจิตยกได้ไวขึ้น
เราไม่รู้วันตาย ผู้ปฎิบัติจะปฎิบัติไปตามยถากรรมไม่ได้อีกต่อไปแล้ว คนที่บอกว่าค่อยเป็นค่อยไป อะไรทำนองนั้นน่ะ อันนั้นผู้ปฎิบัติไปแนวตั้งรับแล้ว เราจะไปใจดีกับกิเลสของตนเองไม่ได้ จะต้องโหด เพราะพวกเรานั้นตกอยู่ภายใต้อำนาจกิเลสกันมานับชาติไม่ถ้วนแล้ว

ธรรมะและผลของการปฎิบัติในแนวของจิตเกาะพระ ก็คือ สิ่งต่างๆที่กำลังกระทบจิตในปัจจุบัน ทุกขณะจิตอยู่นั้น จิตของผู้ปฎิบัติมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง โดยเฉพาะจิตที่ยกแล้ว หรือจิตบุญ อินทรีย์ใครอ่อน ใครแก่กล้ามาชมกัน...

 

_/\_ สาธุ
ขออนุโมทนากับจิตบุญดวงที่ ๘๑ และคุณครูจิตบุญทุกท่านด้วยครับ

 

*อีกหน่อยเธอ(คุณสุภาทร)ก็จะลืมฉัน วันนั้นฉันพูดกับเธอไว้
เธอเถียงว่าเป็นไปไม่ได้ และจะไม่ลืมฉันเมื่อเรียนจบจิตเกาะพระ...อิอิ

แต่ตอนนี้เธอได้จิตบุญสมใจนึกไปแล้ว และป่านนี้เธอก็คงลืมคนที่ชื่อ "ภู" ไปเรียบร้อยแล้ว..ฮือๆ
(คนร้องเพลงนี้ ไม่ทราบไปอยู่ ณ แห่งหนตำบลใดแล้ว คุณสุภาทรพอจะทราบไหม๊?)
##############
เมื่อ๒ปีกว่า(บั้นปลายของชีวิต)ทั้งศึกษาั้ธรรมะทั้งปฎิบัติธรรมก็ไม่ไปไหน ติดๆๆๆสงสัยๆๆทําบุญวันแม่สร้างสมเด็จองค์ปฐม แต่ก็ยังสงสัยว่า"การที่เรานับถือบูชาสมเด็จองค์ปฐมจะมิเป็นการย่อหย่อนความนับถีอบูชาในพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันหรือ?" จนกระทั่งมากระทู้นี้ราวๆเมษา ชักชอบใจ โชคดีที่ท่านอาจารย์ภูรับเป็นลูกศิษย์ฝึกไปๆๆดื่้อๆๆๆ โดนตีๆๆ โอ้โฮมีอยู่วันหนึงจิตเขาบอกว่า"สมเด็จองค์ปฐมท่านช่วยสอนในตอนนี้น่ะ แล้วพระพุทธเจ้าน่ะมีมามากเท่าไหร่แล้ว แสดงว่าท่านสอนพวกเรามาเป็นอสงไขยๆๆนับไม่ถ้วนแล้ว" เท่านั้นแหละ he llo _กราบท่านอาจารย์ภู"ครูคนสุดท้าย"ค่ะcatt1

 

โมทนาบุญกับจิตบุญที่ ๗๙ คุณศรี ๘๐ คุณพอใจ ๘๑ คุณปุ๋ม และคุณครูที่เมตตามาช่วยฝึกสอนและดูแลจิตของผู้ปฎิบัติทุกๆท่าน
ขอให้ช่วยกันยกจิตพวกเราอย่างนี้ไปกันเรื่อยๆเลยนะ ท่านพ่อโปรดปราน ครูเพ็ญครับ ดอกบัวเกือบจะหมดสระหรือยัง? ผ่านไปอย่างรวดเร็วเกือบจะครบร้อยแล้ว แทบไม่น่าเชื่อเลย เป็นไปได้อย่างไร มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย แค่ให้พากันรักษาศีลแค่นี้ก็ยากแล้ว นี่อะไรจะปั้นใครสักคนนึงให้มีดวงตาเห็นธรรมสักคนนึงก็แทบแย่อยู่แล้ว

 

นี่ตอบด้วยเพลงนี้เรยยค่ะ พี่สุภาทรณ์แต่เนื้อแปลงเป็นดังนี้ รุ่นเรานี้ต้องขอแรงพี่สุรพล นะคะ และขอส่งบุญให้ท่านด้วยค่ะ
-----------------------------------------------
ไม่ืลืม ไม่ลืมรสธรรมที่เคยฝากฝัง ไม่ลืมพระธรรมที่อ่านผ่านมา จวบจนชีวาสิ้นเราก็ไม่ลืม ไม่ลืม ไม่ลืมไม่ลืม ฯลฯ




http://www.youtube.com/watch?feature=player_detailpage&v=NrlxPIeKjoQ#t=0s

 

โห่ฮิ้ว...นึกว่า ค้นหาจิตตัวเอง ดัชนีจะได้ช่วย
แต่ค้นหาเรื่องอื่น ถ๊อยยยยย ดีก่า ไม่เอา ดีก่า

 

โมทนาสาธุจ๊า มาแพ๊คคู่ตามที่ครูวิทย์เคยบอกเลย อิอิ

 

โมทนาสาธุค่ะ กับดวงจิตที่ 81
แห๊ม ตามแทบไม่ทันเลยอ่ะ

 

ยังไงก็ขอโมทนาร่วมกับครูผู้สอนทุกท่าน กับดวงจิต 79 80 81 จ๊า
สาธุ สาธุ สาธุ

 

ช่วงนี้ครูย่าทวด ปู่ทวดคงนั่งยิ้มกันน่าดูฮุๆๆๆๆๆๆๆๆ (ครูเกษของเรายังเป็นพี่ๆอยู่ 5555555555555 )

 

ขออนุโมทนากับจิตบุญ79 พี่ศรี จิตบุญ80 พี่พอใจ จิตบุญ81 คุณปุ๋ม และครูจิตบุญผู้สอนทุกท่าน

แอบลุ้นอยู่ทุกวัน ในที่สุดพี่ศรีและพี่พอใจ ก็ทำสำเร็จแล้ว เฮ! เจอกันขอกอดทีนึงคะ

บุญกุศลใดๆที่ข้าพเจ้าได้กระทำมา ขออุทิศให้จิตบุญทุกท่าน ให้ทุกท่านได้ถึงนิพพานในชาตินี้ด้วยเถิด

ขอบารมีสมเด็จพ่อช่วยจิตเกาะพระทุกท่าน ให้เกิดปัญญาและยกจิตได้ไวๆทั่วหน้ากัน

ฝากไว้สำหรับผู้ที่ยังลังเล สงสัย วันคืนล่วงไปทุกทีๆ เราได้ทำอะไรหรือยัง พระพุทธเจ้าทรงเตือนไว้แล้วว่า.."..ท่านทั้งหลาย จงทำความไม่ประมาทให้ถึงพร้อม.."

 

<table id="post6725368" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr valign="top"><td class="alt2" style="border: 1px solid #FFFFFF; border-top: 0px; border-bottom: 0px" width="175">Linda2009
สมาชิก














</td> <td class="alt1" id="td_post_6725368" style="border-right: 1px solid #FFFFFF"> นี่ตอบด้วยเพลงนี้เรยยค่ะ พี่สุทาภรณ์ แต่เนื้อแปลงเป็นดังนี้ รุ่นเรานี้ต้องขอแรงพี่สุรพล นะคะ และขอส่งบุญให้ท่านด้วยค่ะ
-----------------------------------------------
ไม่ืลืม ไม่ลืมรสธรรมที่เคยฝากฝัง ไม่ลืมพระธรรมที่อ่านผ่านมา จวบจนชีวาสิ้นเราก็ไม่ลืม ไม่ลืม ไม่ลืมไม่ลืม
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
เอสงสัยรุ่น"สุนทราภรณ์"หลายคน ถ้างั้นก็ต้องมี"กุงกาดิน"ด้วย และ"ผู้ใหญ่ลี"(สุกรนั้นไซร้คือหมาน้อยธรรมดา หมาน่อยหมาน่อยธรรมดา) .....กําลังจะบอกว่าคุณน้องพอใจน่ะ เสียงเพราะมาก(เซาะทราย)เลย อีกหน่อยคงได้ร้องเพลง"จิตเกาะพระ"

</td></tr></tbody></table>

 

คุยอะไรกันครับนี่ ผมงงฮิๆๆๆๆๆๆๆ

 

เมิลก็ขอโมทนาบุญกับจิตบุญ New Born ทุก ๆ ท่านนะคะ (โมทนาต่อจากครั้งที่แล้วถึงครั้งนี้) พี่พอใจเป็นลูกศิษย์ที่มีความตั้งใจนะคะ ตอนแรกมีงงบ้างไรบ้าง แต่พอได้รับคำแนะนำจากครูเพ็ญและครูวิทย์จนเข้าใจแล้ว พี่เขาก็ลุยโล้ด แนะนำอะไรก็รับไปทำ ทำให้เรียนจบไว้
ลูกศิษย์ทั้ง 2 คน เรียนจบไว้ก็เพราะมีสิ่งนี้แหละคะ ความอดทนที่ไม่ย่อท้ออุปสรรค, ความตั้งใจจริง และความเชื่อมั่นในพระเมตตาอันหาประมาณมิได้ของพระพุทธองค์ทุก ๆ พระองค์ พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ทรงเป็นเหมือนพ่อและแม่ของเรา ที่คอยมองเราด้วยความเมตตา รอเรากลับบ้านคะ

แล้วยังไงจิตบุญ New Born ทั้งหลายอย่าลืมรักษาสติกับจิตไว้ให้ดีนะคะ ตามที่พี่ภูคอยเตือนนะคะ

 

โมทนาสาธุการกับจิตบุญทั้ง 3 ท่าน
จิตบุญ79 พี่ศรี จิตบุญ80 พี่พอใจ จิตบุญ81 คุณปุ๋ม
และโมทนาบุญกับคุณครูจิตบุญทุกท่าน
ขอให้ทุกท่านเจริญทั้งทางโลกและทางธรรมยิ่งๆขึ้นคะ..สาธุ