พญานาคกับอดีตที่ผ่านมา

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย คุรุวาโร, 1 กันยายน 2012.

  1. fahmui

    fahmui เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    1,933
    ค่าพลัง:
    +5,440
    โอ้ล่ะหนอออ... กว่าจะเข้ามาได้ช่างยากเย็นแสนเข็ญ :'(

    ฟ้ามุ่ยเลือก I จ้าาา
     
  2. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    เจ้าหลวงปฐมกษัตริย์แห่งล้านนา

    ตำนานสุวรรณคำแดงหรือตำนานพื้น เมืองเชียงใหม่ ที่กล่าวถึงเวียงโบราณในตำนาน คือ เวียงล้านนา เวียงนารัฏฐะ เวียงเจ็ดลิน เวียงสวนดอกและเวียงนพบุรีนั้น ได้รับการคัดลอกสืบต่อกันมาหลายสำนวน และเรียกชื่อแตกต่างกันไป เช่น ตำนานสุวรรณคำแดงฉบับวัดเจดีย์หลวง ดังที่สงวน โชติสุขรัตน์เขียนในหนังสือ ประชุมลานนาไทย

    ในคัมภีร์ใบลาน วัดอภัย ของอำเภอเวียงสา จ.น่าน มีเรื่องราวที่กล่าวถึงเจ้าหลวงคำแดงอย่างมีที่มาที่ไปพร้อมกับความสัมพันธ์ กับการเกิดขึ้นของอาณาจักรนามว่า "ล้านนา" ไว้ดังนี้
     
  3. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    เจ้าหลวงคำแดงเป็นราชบุตรของ "พญาโจรณี" (ตำนานว่าเคยเป็นโจรมาแต่อดีตชาติ) มีหน้าที่ปราบคนที่ไม่เชื่อฟัง วันหนึ่ง พระวิสุทธิกรรมแปลงกายเป็นกวางทองลงมาเดินในสวนให้พญาโจรณีเห็น เมื่อพญาโจรณีพบกวางทองจึงสั่งให้ราชบุตรชื่อว่า เจ้าหลวงคำแดงออกไปติดตามกวางทองตัวนั้นให้ได้

    เจ้าหลวงคำแดงและทหาร ออกติดตามกวางทองมาจนถึงเชิงดอยอ่างสรง (อ่างสลุง) มีนางคนหนึ่งอยู่ที่เชิงดอยอ่างสรงรู้ข่าวว่าเจ้าหลวงคำแดงมาถึงด่านป่าใกล้ เชิงดอยอ่างสรง นางออกมารอดูเจ้าหลวงคำแดง ทั้งสองคนพบกันแล้วเกิดความชอบพอรักใคร่นางชวนเจ้าหลวงคำแดงได้พักแรมอยู่ กับนางที่ดอยอ่างสรงแห่งนั้น ทหารที่เดินทางรอนแรมมากับเจ้าหลวงคำแดงเกิดความเบื่อหน่ายอยากกลับบ้าน เมืองของตน

    ต่อมาทหารก็ได้พบกับฤาษีตนหนึ่ง ฤาษีแนะนำและทำนายว่า บริเวณสถานที่เชิงดอยหลวงนี้เป็นชัยภูมิที่ดี ควรให้เจ้าหลวงคำแดงสร้างบ้านเมืองที่เชิงดอยแห่งนี้ จะอุดมสมบูรณ์มั่งมีด้วยทรัพย์สมบัติ ทหารกลับลงมาบอกความของฤาษีกับเจ้าหลวงคำแดง เจ้าหลวงคำแดงจึงสร้างเมืองตามคำฤาษี เมื่อสร้างเมืองแล้วชื่อเมืองใดจึงจะเหมาะสม แต่ยังหาชื่อเมืองไม่ได้ ทหารจึงตกลงกันว่าเราควรร่วมทำนายว่าแท่นบรรทมของเจ้าหลวงคำแดงมีน้ำหนัก เท่าใด
     
  4. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ทหารร่วมกันทำนายอย่างสนุกสนาน แล้วชั่งดูน้ำหนักแท่นบรรทมของเจ้าหลวงคำแดง มีน้ำหนัก 1 ล้านหน่วย พวกเขาจึงตกลงเรียกเมืองนี้ว่าเมืองล้านนา เจ้าหลวงคำแดงอยู่กับนางอินทร์เหลาที่ดอยอ่างสรงจนสิ้นอายุ ตามความเชื่อของคนล้านนา ผู้ใดสร้างบ้านสร้างเมือง เมื่อผู้นั้นตายไปแล้ว จะได้รับการยกย่องให้เป็น เสื้อบ้านหรือเสื้อเมือง ของบ้านเมืองนั้น เจ้าหลวงคำแดงจึงกลายเป็นผีเมือง ปกปักษ์รักษาเมืองล้านนารวมทั้งเมืองเชียงดาวและเมืองเชียงใหม่ตามลำดับ เป็นอารักษ์เฝ้าแหนเมืองเชียงดาวและล้านนาคือว่าเมืองเชียงใหม่มีเทวดาคำแดง เป็นเคล้าและเทวดาอารักษ์ทั้งหลายเฝ้าแหนเมือง”

    ก่อนที่เมืองเชียงใหม่จะเสีย เอกราชแก่พม่า สมัยนั้นเจ้าเมืองเชียงใหม่คือพระเมกุฏวิสุทธิวงศ์หรือเจ้าฟ้าแม่กุ (ปกครองระหว่าง พ.ศ.2094 - 2170) และกษัตริย์พม่านามว่าพระเจ้าบุเรงนองนั้น ตำนานถึงสาเหตุการเสียเมืองว่า เจ้าเมืองละทิ้งจารีตบ้านเมืองเดิมของตน ทำให้ผีเมืองทั้งหลายไม่ช่วยปกปักษ์รักษาเมืองเชียงใหม่ จึงเสียเอกราชแก่พม่า

    ชาวเมือง เชียงใหม่ยังเชื่อว่าผีเมืองทั้งหมดจะปกปักษ์รักษาบ้านเมืองเชียงใหม่ตลอดมา จนถึงปัจจุบัน เมื่อมีการเซ่นไหว้ผีเมืองเชียงใหม่ทุกปี ผู้ทำพิธีจะกล่าวคำอันเชิญเจ้าหลวงคำแดงซึ่งเป็นหัวหน้าผีและผีเมืององค์ อื่นๆ อีกหลายองค์ นอกจากนี้ประเพณีไหว้ผีครูช่างซอเมืองลำปาง ในพิธีคนทรงหรือผู้ทำพิธีจะกล่าวนามของเจ้าหลวงคำแดงด้วย

    สะท้อน ถึงความเชื่อเรื่องเจ้าหลวงคำแดงที่กระจายออกไปถึงต่างเมืองในลักษณะพิธีกรรมและการคัดลอกตำนานดอยหลวงเชียงดาว เนื่องจากในสมัยที่เชียงใหม่เป็นศูนย์กลางของการศึกษาของพระสงฆ์และศูนย์ กลางอำนาจแห่งล้านนา ผีเมืองเชียงใหม่จึงยิ่งใหญ่ไปด้วย

    เพราะความศรัทธาในพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้านั้น ได้ตอกย้ำความสำคัญของดอยหลวงเชียงดาวให้มีความศักดิ์สิทธิ์ขึ้นไปอีก เพราะถือว่าเป็นพุทธสถานอีกแห่งหนึ่งซึ่งชาวพุทธและชาวล้านนาทั้งปวงจะ มากราบไหว้ เพราะมีพระพุทธรูป เจดีย์ ต้นโพธิ์ รวมทั้งฤาษีและที่สำคัญคือ มีดวงวิญญาณของเจ้าหลวงคำแดงสิงสถิตอยู่นั่นเอง
     
  5. 9999nui

    9999nui เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    167
    ค่าพลัง:
    +675
    ปู่เพ่งดูได้ไหมว่านาคาของอิฉันมีชื่อว่ากระไรค่ะ
     
  6. fahmui

    fahmui เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    1,933
    ค่าพลัง:
    +5,440
    สงสัยช่วงนี้คุณปู่พักฟื้น เอาแรงอยู่ค่ะ วันนี้หายเงียบกริบไปเลยจ้ะ :cool:
     
  7. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ส่องสาวบ้านไกล ยังไม่กลับมาคร้า..าาา ไปหาคำตอบเรื่องลูกสาวย่าอยู่น้า..าา :cool:
     
  8. hastin

    hastin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,116
    ค่าพลัง:
    +3,084
    ถึงเพื่อนๆมาก็จะไม่รู้ครับ ถึงใครมาเราก็จะไม่ค่อยสนใจ

    เวลานั่งเราก็จะสนใจแต่ตัวเราอ่ะ 555+

    เพื่อนๆอย่ามัวแต่เที่ยวกันเพลินล่ะ พักผ่อนกันบ้างเน้อ

    พูดถึง เมืองเชียงใหม่นี่ คิดถึงเรื่องราวตำนานรัก ของ เจ้าน้อยกับสาวชาวพม่า จัง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กันยายน 2012
  9. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ตำนานรัก...วังบัวบาน

    วังบัวบาน เป็นชื่อวังน้ำที่อยู่เบื้องล่างชะง่อนผาสูงบริเวณเหนือน้ำตกห้วยแก้ว ซึ่งอยู่ในเขตตำบลสุเทพ อำเภอเมือง เชียงใหม่ วังน้ำนี้เดิมเรียกว่า"วังคูลวา" หรือ "วังกุลา" ด้วย มีเรื่องเล่ามาก่อนว่ามี "คูลวา-กุลา"ซึ่งหมายถึงแขกคนหนึ่งพลัดตกลงไปตายในวังน้ำแห่งนี้ คำว่า "คูลวา-กุลา" ในภาษาล้านนาหมายถึงแขกหรือฝรั่งชาวต่างชาติซึ่งถือว่าไม่เป็นที่พึงต้อนรับ วังน้ำที่เกิดเหตุจึงได้ชื่อดังกล่าว ทั้งนี้ บุญช่วย ศรีสวัสดิ์ นักเขียนสารคดีเชิงบันทึกเหตุการณ์กล่าวไว้ว่ามีการเปลี่ยนชื่อ เป็น "วังบัวบาน" เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๗ โดยเหตุที่มีหญิงชื่อ "บัวบาน" ตกลงไปตายในวังน้ำนี้อีก วังน้ำอาถรรพณ์นี้จึงเปลี่ยนมาเรียกชื่อว่า "วังบัวบาน"

    เรื่อง ราวการตายของบัวบานมีการโจษจันกันอยู่สองกระแส บ้างเชื่อว่าเป็นการฆ่าตัวตาย บ้างว่าเป็นเพราะหญิงคนงามดังกล่าว พลัดตกโดยอุบัติเหตุ แต่ก็มีสาเหตุมาจากเรื่องชู้สาว

    ที่ตั้งบ้านของ บัวบาน ปัจจุบันอยู่ฟากถนนตรงกันข้ามกับอาคารอำนวยการหลังเก่าของโรงเรียนปรินส์รอย แยลส์วิทยาลัย เชียงใหม่ มีอาชีพเป็นครูสอนในโรงเรียนดาราวิทยาลัย โรงเรียนซินเซิง โรงเรียนฮั่วเคี้ยวและโรงเรียนฮั่วเอง ครูบัวบานมีคนรักเป็นนายทหารรักษาพระองค์ ต่อมาถูกทหารดังกล่าวสลัดรัก บัวบานจึงเสียใจมากและได้ตัดสินใจฆ่าตัวตายโดยการกระโดดลงไปในวังน้ำแห่งนั้น
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 106550292.jpeg
      106550292.jpeg
      ขนาดไฟล์:
      106.7 KB
      เปิดดู:
      45
    • wbb3.jpg
      wbb3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      64.9 KB
      เปิดดู:
      43
  10. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ครูบัวบาน...เป็น คนสวยจนเป็นที่เล่าลือกันทั่วไป ในช่วงที่เกิดเหตุนั้นอยู่ในช่วงระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง (พ.ศ.๒๔๘๒ - ๒๔๘๘) ครูบัวบานคนสวยเป็นครูอยู่ที่โรงเรียนวัดฟ้าฮ่าม อำเภอเมือง เชียงใหม่ ครั้งนั้นได้มีทหารหน่วยราบจากกรุงเทพฯ ขึ้นมาตั้งอยู่ที่วัดฟ้าฮ่ามด้วย นายร้อยตรีหนุ่มรูปงามในกองทหารนั้นได้พบกับครูบัวบานคนสวยบ่อยครั้งเข้าก็ สนิทสนมแล้วกลายเป็นคู่รักและได้เสียกันขึ้น ต่อมานายร้อยตรีผู้นั้นกลับลงไปกรุงเทพฯ

    ตามคำสั่งพร้อมกับคำสัญญา ว่าจะขึ้นมาแต่งงานกับครูบัวบานคนงาม แต่คำสัญญานั้นลงท้ายก็กลายเป็นคำลวงเพราะนายร้อยตรีนั้นมีภรรยาอยู่แล้ว ครูบัวบานรออยู่นานจนผิดสังเกตและเห็นว่าครรภ์โตมากขึ้น เมื่อแน่ใจว่าตนถูกหลอกแน่แล้วจึงตัดสินใจไปกระโดดน้ำตาย

    ...บัวบานเทวีผู้มีความช้ำ...

    “ ร้อนลมหน้าแล้ง ใบไม้แห้งร่วงลอย หล่นทยอยเกลื่อนตา ไหลตามกระแสน้ำพา ลอยมาทั้งกลีบดอกไม้ จากหุบผาไหลมาสู่ในวังน้ำ สุสานเทวีผู้มีความช้ำเหนือใคร ดอกไม้ใบไม้ไหลมา คล้ายพวงหรีดร้อยมาลา ไหลมาบูชาบัวบาน “

    ปัจจุบันร่างของบัวบานถูกฝังไว้ ณ สุสานเด่นดำรงธรรม บ้านเด่น ตำบลหนองหอย อำเภอเมือง เชียงใหม่
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • wbb4.jpg
      wbb4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      98.3 KB
      เปิดดู:
      36
  11. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    วังเอ๋ยวังบัวบาน...สุสานเทพีผู้มีความรักเหนือใคร
    ฝังร่างฝังรักฝากรอยอาลัย...เอาวังน้ำเย็นเช่นเรือนตาย
    วิญญาณเวียนว่ายในน้ำวัง...

    จากเขาลำเนาไพร สู่ในเวียงฟ้า เกิดมาไม่พ้นอนิจจา
    เพราะซื่อถือนัก ว่ารักจีรัง ไม่มีระแวง ไม่เคยระวัง
    ชีพนางจึงฝัง สังเวยธาร...

    เหลือเพียงชื่อไว้ เหลือเพียงดอกไม้ คล้ายหรีดมาลา
    ไหลมาบูชาบัวบาน น้ำวังนี่หนอที่ก่อเหตุการณ์
    นี่แหละคือสุสาน เปรียบดังสถานโลงทอง...

    ยินเสียงน้ำตกซ่า แว่วมาน่าฟัง
    เปรียบดังแตรสังฆ์เสียงกลอง
    เสียงหริ่งระงม ลมพริ้วเป็นทำนอง
    ดุจดังเสียงเพลงกล่อมเมรทองให้ผู้เจ้าของวังบัวบาน...

    ยินเสียงน้ำตกซ่า แว่วมาน่าฟัง
    เปรียบดังแตรสังฆ์เสียงกลอง
    เสียงหริ่งระงม ลมพริ้วเป็นทำนอง
    ดุจดังเสียงเพลงกล่อมเมรทอง
    ให้ผู้เจ้าของวังบัวบาน...
     
  12. 9999nui

    9999nui เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    167
    ค่าพลัง:
    +675
    เอาใจช่วยปู่ค่ะ หายไว-ไวเนอะ กลับมาแล้วตอบด้วยนะคร๊า
    สวัสดีคุณ Fahmui นะค่ะ ยินดีที่ได้คุยกันค่ะ
     
  13. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ก็ไม่ได้ชอบเที่ยวจั๊กน้อย...แต่มันไปเองคร้า..าาา พอหัวถึงหมอนก็...แระ
    ไม่รู้อะไรกันนักกันหนา นิมิตแบบนี้ไม่ค่อยชอบ แต่บังคับควบคุมไม่ไ้ด้คร้า..าา
    สงสัยตอนกลางวันคงรับเรื่องไว้เยอะ พอตกกลางคืนก็แปรสารทันที ฮ่าฮ่า..:cool:
     
  14. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    จัดให้อีกเรื่องน้า...ไม่มีครายอยากเล่าอารายเลย

    นิทาน เรื่อง สุวัณณะโคมคำ

    "สุวัณณะโคมฅำ" เป็นชื่อตำนานและชื่อเมืองโบราณในเขตจังหวัดเชียงราย ซึ่ง "จิตร ภูมิศักดิ์" ได้ศึกษาสรุปว่าตั้งอยู่บนเกาะใหญ่ริมแม่น้ำโขงฝั่งลาวตรงดอนมูล เยื้องปากแม่น้ำกกลงไปทางใต้เล็กน้อย อยู่ตรงกันข้ามกับบ้านสวนดอก อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย

    ในพงศาวดารโยนก กล่าวว่า ในช่วงปลายศาสนาของพระพุทธโกนาคมะนั้น ได้เกิดโรคระบาด ราชบุตรแห่งเมืองปาตลีบุตรจึงพาผู้คนอพยพไปตั้งอยู่ในเขตโพธิสารหลวง ต่อมาราชบุตรชื่อกุรุวงษากุมารได้สร้างเป็นเมืองขึ้นมา พอพระเจ้าโพธิสารหลวงทราบข่าวก็ไปรบหลายครั้งแต่ก็พ่ายแพ้ จนพระองค์ต้องยกราชสมบัติให้แก่กุรุวงษากุมาร ต่อมาได้เรียกชื่อแคว้นนั้นว่ากุรุรัฐและเรียกประชาชนว่า "กล๋อม" ยังมีนางกุมารีผู้หนึ่ง ซึ่งเป็นธิดาของเจ้าเมืองได้อพยพหนีโรคร้ายไปอยู่ในป่า และพาบริวารปลูกข้าวอยู่ที่ขอบหนองแห่งหนึ่ง และได้สร้างเมืองชื่อ "อินทปฐาน" ต่อมาเจ้ากุรุวงษากุมารได้นางนั้นเป็นชายาจึงรวมสองเมืองเข้าด้วยกันให้ชื่อ ว่า "อินทปัตถมหานคร"
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1212115236.jpg
      1212115236.jpg
      ขนาดไฟล์:
      55.4 KB
      เปิดดู:
      39
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กันยายน 2012
  15. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    จากนั้นก็มีกษัตริย์สืบมาถึง 44,800 องค์ จนถึงสมัยพญาศรีวงษาได้ครองเมืองโพธิสารหลวง พระองค์มีราชบุตรสององค์คือ "อินทรวงษา"และองค์น้องชื่อ"ไอยกุมาร" ซึ่งอินทรวงษาก็ได้ขึ้นครองเมืองสืบจากพระบิดาและมีไอยกุมารเป็นอุปราช

    ต่อมาราชบุตรของพญาอินทรวงษาชื่ออินทรปฐมได้อภิเษกกับธิดาของไอยอุปราช มีราชบุตรรวมห้าพระองค์อยู่ครองเมืองโพธิสารหลวง

    ต่อ มาไอยอุปราชได้ลาจาก ตำแหน่งอุปราช และพาบริวารลงเรือขึ้นไปแม่น้ำโขง จนไปถึงเขตดอนทรายกลางน้ำแม่โขงเยื้องปากน้ำแม่กก จึงตั้งเมืองอยู่ในที่นั้น

    หลังจากนางอุรสา ราชเทวีของพญาอินทรปฐมคลอดราชบุตรออกทางปากมีชื่อ "สุวัณณมุกขทวาร" เมื่ออายุ 7 เดือนก็มีอภินิหารแรงกล้า พาหิรพราหมณ์ปุโรหิตจึงไปทูลยุยงให้ลอยแพพระกุมารและพระเทวีไปเสีย มิฉะนั้นจะเกิดอุบาทว์แก่เมือง

    ฝ่ายไอยมหาอุปราช ทราบว่าพระเทวีและพระกุมารถูกลอยแพก็รีบกลับเมืองแล้วให้จัดพิธีบวงสรวงพญานาคและปักเสาประทีปโคมทองทุกท่าน้ำ ครั้งนั้นพญานาคชื่อ พญาศรีสัตตนาคก็พาบริวารนำหินไปทำฝาย ปิดทางต้นน้ำแม่โขงไว้มิให้ไหลลงสู่สมุทร (ทุกวันนี้เรียกว่า"ฝายนาค" หรือ"ลี่ผี") เมื่อน้ำท้นขึ้นเต็มฝั่งแล้ว แพของพระเทวีและพระกุมารก็ย้อนไปถึงท่าโคมฅำ ไอยมหาอุปราชจึงรับธิดาและนัดดาไว้ แล้วต่อมาก็ให้สร้างเป็นเมืองให้ชื่อว่า "สุวัณณะโคมฅำ" ฝ่ายเมืองโพธิสารหลวง เมื่อลอยแพพระกุมารและพระเทวีไปแล้วก็เกิดโรคระบาด คนหนีออกจากเมืองไปสมทบกับเมืองสุวัณณะโคมฅำเป็นอันมาก
     
  16. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ต่อมาพระอินทร์ต้องการให้พระราชบิดาและราชบุตรได้พบกัน จึงบันดาลให้มีม้าอัศดรไปยังเมืองโพธิสาร ซึ่งผู้จับขี่ได้คือราชกุมาร ชื่อเทวินทรบวรและม้านั้นก็พาไปพบไอยอุปราชและทุกท่านในเมืองสุวัณณะโคมฅำ เมื่อพระบิดาได้ทราบข่าวแล้วก็เชิญให้พระเทวีและพระโอรสกลับเมือง แต่นางไม่ยอมกลับ พญาอินทรปฐมและไอยอุปราชจึงอภิเษกสุวัณณมุกขทวารราชกุมารขึ้นเป็นพญาในเมือง สุวัณณะโคมฅำ

    องค์เทวินทรบวรราชกุมารจึงได้ครองเมืองโพธิสาร สืบจากพระราชบิดา และได้เนรเทศพาหิรพราหมณ์เสีย พาหิรพราหมณ์จึงพาบริวารไปตั้งอยู่ที่เชิงเขา ปลายแม่น้ำกกเบื้องตะวันตก ไกลจากเมืองสุวัณณะโคมฅำชั่วระยะ 3 คืน เนื่องจากที่อยู่นั้นเป็นถ้ำใหญ่ ต่อมาจึงตั้งชื่อว่าเมือง "อุมงคเสลานคร"

    กษัตริย์ ในเมืองสุวัณณะโคมฅำสืบต่อจากพญาสุวัณณมุกขทวารมีถึง 84,550 องค์ จึงสิ้นสุดลง และเชื้อสายฝ่ายพาหิรพราหมณ์ เมืองอุมงคเสลานครได้เป็นใหญ่ในสุวัณณะโคมฅำ และได้ข่มเหงไพร่เมืองให้ได้รับความเดือดร้อนเป็นอันมาก ยังมีชายเข็ญใจคนหนึ่ง ทำไร่อยู่ริมแม่น้ำโขง ระหว่างเมืองสุวัณณะโคมฅำและเมืองโพธิสารหลวง มีนางนาคธิดา 3 นางไปกินข้าวไร่ของปลูกในไร่ของชายนั้น

    เมื่อพญาศรีสัตตนาคได้รับแจ้งจากชายเข็ญใจว่า ธิดาของตนไปลักกินพืชผลดังกล่าว จึงให้ธิดาทั้งสามแปลงเป็นคนไปรับใช้มานพนั้น ต่อมา นางทั้งสามแนะให้ชายหนุ่มไปค้าขายที่เมืองสุวัณณะโคมฅำ แต่ก็ถูกชาวเมืองทำอุบายใส่ความแล้วริบสินค้า

    ภายหลังนางนาคธิดาจึงไปกับเรือค้านั้นด้วย เมื่อพญาขอมในเมืองนั้นทำอุบายมาพนันเพื่อจะริบเอาสินค้า นางก็บันดาลให้พญาขอมแพ้ แต่พญาขอมไม่ยอมให้สินพนันตามสัญญาและยังหาเหตุไล่ออกจากเมืองด้วย นางจึงไปทูลพญานาคผู้บิดา พญานาคจึงพาบริวารไปขุดฝั่งน้ำ"ขลนที-ขรนที"คือน้ำของหรือแม่โขง ทำให้เมืองล่มลงในเวลาราตรี พญาขอมเจ้าเมืองและชาวเมืองจมน้ำตายไปมาก ที่เหลือก็แตกกระจายกันไป และมีจำนวนมากที่ไปสมทบอยู่กับชายเข็ญใจพ่อค้าผู้นั้นจนกลายเป็นเมืองใหญ่ ขึ้นมา เมืองสุวัณณะโคมฅำก็ร้างกลายเป็นท่าหลวงไปได้ชื่อว่า "ท่าโคมฅำ"

    อนึ่ง "ตำนานเมืองสุวัณณะโคมฅำ" นี้ เป็นที่มาของวรรณกรรมล้านนาหลายเรื่อง ดังพบว่าเรื่อง "สิรสากุมารชาดก" ใน ชุดปัญญาสชาดก ก็ได้กล่าวถึงสิรสากุมารว่าคลอดจากทางปาก ถูกเนรเทศ และมีปู่ "อัยยอามาตย์" เป็นผู้อุปถัมภ์คล้ายกับเรื่องในตำนาน และยังมีเรื่องชายหนุ่มไปทำไร่และมีธิดาพญานาคไปกินพืชผล จนต้องไปเป็นผู้รับใช้ ดังปรากฏในเรื่อง "อ้อมล้อมต่อมฅำ"หรือ"ชมพูราชแตงเขียว" เป็นต้น

     
  17. fahmui

    fahmui เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    1,933
    ค่าพลัง:
    +5,440
    ยินดีเช่นกันจ้า... กันเองๆ ไม่ต้องพิธีรีตองอะไรมากมายจ้า อิอิ :cool:

    ท่านเซย่าหายไปนานเลยเชียว หวังว่าคงสบายดีนะคะ :cool:
     
  18. alline

    alline เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    209
    ค่าพลัง:
    +1,324
    โอ้แม่เจ้า!!! กรุงเทพเมืองฟ้า พระพิรุณกระหน่ำซะชุ่มช่ำไปเลย
    ยังงี้พญานาคคงจะชอบมากมายเนอะ ได้เล่นน้ำอย่างหนำใจซิเนี่ย

    สวัสดียามบ่ายเพื่อนๆๆ พี่ๆๆน้องๆๆทุกท่านเจ้าค่ะ
     
  19. 9999nui

    9999nui เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    167
    ค่าพลัง:
    +675
    วันก่อนปู่ทายฝันให้ว่ามีเทวดาคุ้มครองจะช่วยเหลือ วันต่อมาไม่สบายหนัก ทนอยู่ 2 วันทนไม่ไหว จุดธูปบอกเทพเทวดาคุ้มครอง ปวดหัวมากมาย ช่วยให้หายที
    เหมือนกับว่าแกล้งหายเป็นปลิดทิ้ง สาธุการจิง-จิง นึกว่าไม่รอดเสียแล้ว ขอบคุณปู่มากๆ นะค่ะ ที่ทำนายฝันให้ แถมยังได้ 79 มาอีกเป็นรางวัลอีก 3000 โอ้วโชคดีจิงๆ
     
  20. Thidanakin

    Thidanakin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    367
    ค่าพลัง:
    +2,067
    ^/|\^ สาธุ สาธุจ้า คุณ SuperSaiya
     

แชร์หน้านี้

Loading...