คนในพม่าไม่มีใครเชื่อหรือมีเรื่องราวเล่าเกี่ยวกับภัยพิบัติเลย

ตอนนี้ก็มีคนเริ่มโพสเรื่องภัยพิบัติปี 2013 แล้ว บ้างก็บอก 2012-2013 เอากว้างๆไว้ก่อน บ้างก็บอก 2013++(คือปีอะไรก็ได้หลัง2013) บางกระทู้บอก หลัง 2561 โน่นเลย

จากที่เมื่อปีก่อน ที่พูดกันถึงแต่ปีนี้ 2012 จริงหรือเปล่าล่ะครับ?

ก็ลองพิจารณากันเองนะครับ

กระแส สร้างกันขึ้นมาได้ แต่ความจริง ยังไงก็คือความจริง
ถ้าสิ้นปีนี้ไม่มีอะไร ปีหน้า กระแส 2013-2014 ก็มาอีกแน่นอน ขอให้รอดูครับ

 

5555555 ถูกต้องที่ซู้ดดดดดดดคะ

 

ถ้าหมายถึงดร.ก้องภพ ผมยังไม่เคยเห็นว่าดร.ไปฟันธงว่าจะเกิดแม้แต่ครั้งเดียว ท่านแค่บอกให้ระวังเพราะมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะเกิดเช่นแผ่นดินไหวหรือน้ำอาจท่วม แต่ถ้าคุณไม่นำข้อมูลเชิงวิทยาศาสตรของดร.มาพิจารณาเลยก็เป็นเรื่องของคุณครับไม่เกี่ยวกับผม

 

ผมไม่ได้คิดหรือหมายถึง ดร.ก้องภพครับ ผมกล่าวถึงบทความของเหล่าผู้วิเศษในที่นี้ที่เคยกล่าวๆมาและฟันธงกันจนธงไม่มีจะให้ฟันกันแล้ว เอามาจาก ฝันบ้าง เสียงกระซิบ หนังสือ หรือจากคำพระท่านซึ่งกลับไปฟังจริงท่านแทบไม่ได้ระบุถึงวันด้วยซ้ำ บาปน่ะครับ การเอาท่านมากล่าวอ้างสร้างความเชื่อให้คนทั่วไปสับสน

ย้ำน่ะครับ ดร.ก้องภพ ไม่เคยเอ่ยเรื่อง เบื้องบนเลื่อน หรือมีหน่อยลับๆ คอยช่วยโลก อยู่ พาวเวอร์เรนเจอร์มีแต่ในทีวีครับ

 

อย่าเข้าใจผิดว่า ผมตั้งใจเข้ามาป่วน หรือ สร้างความเชื่อ ผิดๆ น่ะครับ
แต่บางกระทู้ บางข้อความ ผมไม่อาจเข้าใจและยอมรับได้ครับ
เลยต้องโต้แย้งบ้างครับ เพื่อหวังว่าอาจจะสร้างความเข้าใจมากขึ้น
แต่ถ้าบอกว่าผมโง่เลยไม่เข้าใจ ก็น้อมรับครับ ยอมเป็นคนโง่ที่ดูโลก
ดำเนินไปอีกหลายๆปีจนผมแก่ตาย แล้วก็ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น

 

ผมก็ไม่เชื่อครับ ว่าจะมีภัยพิบัติล้างโลกอะไรนั่น 2012 ติงต้อง....

ภัยธรรมชาติ มันเกิดขึ้นของมันเรื่อยไป ตามภูมิประเทศ



........นิบิรุ ยิ่งไปกันใหญ่เลย

 

หากเป็นแค่การเล่าสู่กันฟังโดยไม่มีใครต้องเสียอะไรก็ยังพอรับได้ครับ ใช้สติและวิจารณญาณพิจารณากันไป

แต่บางครั้งบางทีก็เห็นมีที่เป็นแนวทางเชิงพานิชมากไป เช่นการระดมเงินเพื่อทำบุญหรือก่อสร้างถาวรวัตถุ บางคนเสียทรัพย์นับแสน... แต่แขนไม่ได้จับ เอ้ย!! บุญไม่ได้รับ เพราะเงินทำบุญถูกถ่ายโอน (กรณี อ.หนู สักยันต์ ที่แฉกันในห้องวิทยาศาสตร์ทางจิต)

ถามว่าสุดท้ายแล้วใครได้อะไรไปมากกว่า? ผมจึงมองว่าเราควรมุ่งประเด็น มีความสุขกับปัจจุบัน ดีกว่านั่งกังวลเรื่องภัยในอนาคต ซึ่งจะเกิดหรือเปล่าก็ไม่อาจรู้ได้
แต่ที่แน่ๆ วันนี้ผมก็ยังคงหายใจได้โดยปกติ

มองอดีตให้เป็นครับ
ข่าวการมาของภัยต่างๆ มองย้อนไปในอดีต มันเกิดขึ้นเป็นประจำอยู่แล้วนี่ครับ

แผ่นดินไหว - ดูจากสถิติของกรมทรัพยากรธรนีย้อนหลังเป็น10-20ปีได้ จริงแล้ว มันไม่ได้ถี่ขึ้นนะครับ

สึนามิ - ผู้เฒ่าผู้แก่ทางภาคใต้ เล่าต่อๆกันมาว่าสมัยปู่ย่าตาทวดก็เคยมีคลื่นยักษ์ (เข้าใจว่า 100-200ปี/ครั้ง) ไปถามคนแก่ๆทางใต้ดูได้เลยว่าเป็นเรื่องราวที่เล่าต่อๆกันมา แล้วล่าสุดก็เกิด พ.ศ.2547 ซึ่งอีกครั้งถ้าจะมีก็อาจจะ 100ปีข้างหน้า

พายุใต้ฝุ่น - ตั้งแต่จำความได้ ที่หนักๆ ก็ 4-5ปี/ครั้ง สติถิไม่เคยโกหกครับ เวปกรมอุตุฯมีบอกอยู่

แต่พักหลังๆ เนื่องจากการสื่อสารต่างๆพัฒนาขึ้นมาก อุปกรณ์ตรวจวัดต่างๆพัฒนาขึ้น เราเลยได้รับรู้ว่าที่โน่น-ที่นี่ มีภัยธรรมชาติแบบนั้น-แบบนี้ จนเรามองว่ามันถี่ขึ้นไปเอง

แล้วจากนั้นก็มีคน 2 ประเภทถือกำเนิดขึ้นครับ

ประเภทแรก - จับแพะชนแกะ เอาข้อมูล โน่น-นี่-นั่น มารวมๆ โฮ๊ะๆกัน จากนั้นสร้างความกลัวในใจ แล้วเกิดการแบ่งปันความกลัวให้ผู้อื่น
ประเภทที่สอง - อุปทาน, อุปโลกน์, อุปฯลฯ จนสามารถสะกดจิตตัวเองว่าเป็นผู้วิเศษ จากนั้นไปสะกดจิตคนอื่นให้คล้อยตาม โดยนำเรื่องภัยพิบัติเป็นประเด็นและสาระสำคัญ

อยากให้พิจารณากันนิดนึงครับ...

คำทำนายต่างๆ มันเกิดขึ้นตั้งแต่สมัย ร.5 แล้วนะครับ ถูกบ้าง ผิดบ้าง เป็นปกติของการทำนาย ที่มีบันทึกเป็นหลักฐานคำทำนายภัยพิบัติ ที่ผมอ่านเจอแล้วจำได้ ก็มี พ.ศ.2500, พ.ศ.2525, พ.ศ.2550, ค.ศ.1999-2000 ฯลฯ ที่เหลือจำไม่ได้แล้วครับ แต่เหตุการณ์ใหญ่ระดับโลกที่เกิดขึ้นจริงๆ ก็เห็นๆกันอยู่ว่ามีปีอะไรบ้าง

แต่หากจะพิจารณากันในเฉพาะเวปบอร์ดพลังจิต เมื่อ 2-3ปีก่อน มีแต่คนพูดถึง มหาภัยพิบัติ2011-2012 หลุด 2011 ก็เลื่อนโดยไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงมายัง ปี2012

แล้วตอนนี้เป็นเช่นไรครับ? 2012-2013, 2013++, 2043 กรุงเทพฯ อีก 10ปี, 2561+ ฯลฯ เป็นกระแส(trend) ใหม่อีกแล้ว

ใช้สติเป็นที่ตั้งกันเถิดครับ พิจารณาให้ถ้วนทั่ว อย่าตระหนก แล้วชีวิตจะดีขึ้น ธรรมชาติก็คือธรรมชาติ คุณหนีมันไม่พ้นหรอก เพราะคุณจะรู้ได้อย่างไรว่าภูเขาไฟมันจะไม่ระเบิดตรงที่ๆคุณหนีไปอยู่พอดี?

 

หมอดูอีทีก็ยังไม่เชื่อเลยนิ

 

" จะเชื่ออะไรต้องใช้ปัญญาให้รอบครอบ
ไม่ใช่ใครพูดไรก็เชื่อ
หลงกระแสไปกับเขา
พระพุทธเจ้าท่านให้พิสูจน์ ท่านไม่ได้ห้าม
พิสูจน์ให้เห็น ความศรัทธาจึงเกิดได้
ถ้าไม่พิสูจน์ไม่ทำให้เห็น ก็ไม่ต่างกับการ งมงาย"

เครดิต : ยายทองคำ

 

ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ zixma99
แล้วข้อมูลที่ท่านๆกล่าวมาแต่ละครั้งมันเป็นจริงบ้างหรือป่าวครับ (ขอละครับอย่าตอบว่าเบื้องบนเลื่อน หรือมีหน่วยลับๆไปแก้)

ผมขอโทษที่เข้าใจคุณผิดไป เนื่องจากข้อความข้างบนของคุณ ทำให้ผมคิดว่าคุณจงใจถามผม ซึ่งผมตอบคุณไม่ได้หรอก เพราะผมใช้ข้อมูลของดร.ก้องภพอยู่ เรื่องเบื้องบนผมไม่รู้ครับ หน่วยลับๆผมก็ไม่รู้ครับ ไม่ได้ต้องการมาขัดแย้งอะไรกับคุณนะครับ เพียงแต่อยากให้คุณระวังหน่อย เพราะอาจจะเป็นผมหรือคนอื่นๆเข้าใจผิดอีก ขอบคุณครับ

 

อย่าเครียดกันเลยทุกท่าน ผมมีวลีเด็ดมาฝาก

"ตามทันมั้ยจ๊ะ..?"

 

อันนี้ผมไม่ทันจริงครับท่าน:'(

 

มิเป็นไร ยินดีแรกเปลี่ยนความคิดเห็นครับ

 

เชยจริงๆเลยท่าน

งั้นดูนี่ครับ ...
[ame=http://www.youtube.com/watch?v=abMQPXSng2E]Case Study Steve Jobs (สตีฟ จ็อบส์) ตอนที่ 1.2 - YouTube[/ame]

ปล.ผมไม่ใช่สาวกนะครับ แค่ดูแล้วรู้สึกตลกดี ผู้บรรยายชอบพูดว่า "ตามทันมั้ยจ๊ะ"
(deejai)

 

ขอบคุณครับ สำหรับคำอวยพร ที่ดีครับ
แต่ที่นี่เป็นเหมือนเมืองบาปนะ มีการเล่าให้ผมฟังจากคนงานที่นี่
(คนที่นี่ชาวบ้านก็พูดภาษาอังกฤษรู้เรื่อง ดีกว่าบ้านเราแยะน่าเป็นห่วงอาเซียนนะ)
เล่าว่าตรงทุ่งที่มีการก่อสร้างนี้ 5555 เมื่อก่อน เคยเป็นสนามรบ
โดยเฉพาะ ตรงจุดที่ตั้งแน๊ะมาขู่อีกของไซย์งาน
มันรับรองว่า ขุดลงไปตรงใหนก็เจอกระดูกคน
555 อันนี้จริงครับ เฉพาะตรงงานฐานรากใหนส่วนที่ผมดูแลอยู่
เจอกระดูกไม่ต่ำกว่าสามกระสอบ ถ้าไถเปิดทั้งหมดสงสัยเป็นลำรถ
เขาบอกว่าเป็นสนามรบมีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา จนถึงกรุงธน
และตอนที่ญี่ปุ่นรบกับฝรั่ง ไม่ว่าใครรบใคร
ศพแถวนี้เกลื่อน
ผมจึงชักหายสงสัยว่าทำไมแถวนี้แร้งกา มากผิดปกติ
แต่ที่หาไม่เจอคือตัวเงินตัวทองที่้บ้านเรามากมายบ้าง
พอไปถามหมอพม่า ที่เคยมาเรียนต่อบ้านเรา เจ้านั่นหัวเราะก๊าก
บอกว่าตัวเหี้ยเจอแต่ประเทศไทย โดยเฉาะแถวสภาไทยกับ เขาดิน
แล้วทำหน้ากวนติงอีก สงสัยจะมีรายการเตะผ่าโสร่งซักวัน

พอทราบเรื่องราว ทำเอาไม่ค่อยกล้าจะเร่งปฏิบัติแยกกายทิพย์เลย
อนุบาลอย่างเรากลัวหลุดออกไป จากร่างหยาบเจอ พรรคพวกนุุ่่งโสร่งหรือ
ม่ายก็ทหารสมัยพระนเรศวรที่มาจอดป้ายแถวนี้มารอสั่งเสียไปทางบ้าน
จะยุ่งเอาอีก สรุปแล้วเลยตัดสินใจ สวดมนต์แทน

 

ฟังว่าไซด์งานเป็นสนามรบมาก่อนนี่...สยึ๋มกึ๋ย์...ยยยย์์ เลย นะครับ

ยิ่งบอกยุคสมัยการฆ่าฟันกันได้นี่ยิ่งสยอง
ไม่รู้ว่าสร้างไปแล้วจะอยู่กันได้หรือเปล่า....

ส่วนที่ว่าพม่านุ่งโสร่งบอกว่า แถวนี้ไม่มีคุณบ๊อบบี้เพราะไปมีแต่แถวรัฐสภาไทย
ที่แท้พวกพม่ามันจับไปทำลาบ รับประทานกันเรียบวุธ

ถ้าเป็นไปได้งานเสร็จรีบกลับบ้านเราดีกว่า ครับ
สถานที่แบบนั้นอยู่ไปก็ยิ่งลำบาก

 

ขอบคุณที่แบ่งปันเรื่องราวดี ๆ นะคะ (ถ้ามีมาเล่าอีก ก็จะตามมาฟังอีกค่ะ)

คุณต้นที่สามฝึกสมาธิมานานเพียงไรแล้วคะ และฝึกแนวไหน

ที่ถามนี่ไม่ใช่อะไรเลยค่ะ ดิฉันยังคงไปตามสำนักปฏิบัติธรรม และฟังบรรดาผู้รู้อยู่ค่ะ ยังไม่ได้ฝึกจริงจังเลยอยากหาความรู้เพิ่มเติมค่ะ

 

ขอบคุณครับ ที่เตือน
ไม่แปลกใจครับในส่วนที่สร้างมีคนอยู่เดิมไม่มากทั้งๆที่ไม่ไกลมาก
ส่วนบริษัทไทยที่ไปตั้งส่วนใหญ่จะทำพิธีสวดถอน
และทำบุญใหญ่ ไปให้คนตายแล้วครับ
แต่อดสงสัยไม่ได้ว่าพวกฝรั่งญี่ปุ่นพม่า
หรือคนสมัยโบราญมันรับบุญเราหรือเปล่า 5555
ส่วนตัวผมเองกลับประมาณต้นพฤศจิกายนครับ
ขอบคุณอีกครั้งที่เป็นห่วงครับ

ส่งข่าวหมู่บ้านท่อของผม หน่อยครับ
ที่บ้านส่งข่าวมา ตอนนี้เถือบร้อยเปอร์เซ็นแล้วครับ
ทดลองเอาถึงหินขนาด 50 กิโล
โยนมาจากปลายเครน ของรถการไฟฟ้า
ปรากฏว่าเรียบร้อยดีครับ คนข้างในไม่รู้สึกอะไร
แต่เป็นห่วงเรื่องประตู ปิดครับเพราะตอนนี้ทำได้ดีที่สุดคือประตูไม้
โครงเหล็กครับ ไม่สามารถซิลได้สนิทเหมือคอนเทนเนอร์
กลัวพวกแมลงหรืองู แต่ก็ใช้วิธีสร้างขอบในรอบประตูขึ้นมาจาก
แท่งยางพาราและทำประตูสองชั้นครับ
ราคารวมโหลงโจ้งไม่รวมเฟอร์นิเจอร์ และน้ำยาอาหารแบตเตอรี่
และโน่นนั่นนี้ตามความเหมาะสม นั้นอยู่ที่ 35,000 -37,000 บาทครับ
ส่วนแบบก็ตามที่ผมเคยส่งขึ้นไปในห้องบ้านท่อ แล้วครับ
ยังไม่มีเวลาเขียนให้สวยๆครับ ส่วนรูปถ่ายบ้านท่อเอาไว้ผมกลับไปจะถ่ายมาให้ดูครับ
และที่น่าสนใจก็คือผมใช้วัสดุทั้งหมดและช่างชาวบ้านในพื้นที่ครับ
ซึ่งหมายความว่าพื้นที่ใหนก็ทำได้ครับ

 

เล่าต่อครับ
สำหรับคนที่ว่างๆตอนนี้ เพราะฝนวันนี้คงตกทั้งวัน
งานที่ไซย์งานคงต้องช้าออกไปอีก เฮ้อ

ผมถามลึกๆในกลุ่มคนพม่า ถามเขาและแปลที่พระคุณลุงคนเชียงใหม่
โพสส์ไว้แล้วเอาไปเชื่อมโยงกับของพระอาจารย์รัตน์ และก็ ดร.ก้องภพเรื่องจักรวาล
และเชื่อมโยงเรื่องภัยพิบัติให้ฟัง ว่ามีความรุนแรงขึ้นและโลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง
โห...คนระดับ หัวหน้าไซบย์งานของบริษัทใหญ่ ของพม่า
ทำตาปริบๆ หลังจากเล่าไปแล้วเกือบชั่วโมงตอนกินกาแฟคุยกัน โหเขาสนใจ
และบอกว่าตัวเองเป็นชาวพุทธ แต่เขาสรุปว่าเขาไม่กลัวตายเพราะตายวันใหนก็เหมือนกัน
ยิ่งตายตอนมีพวกแยะๆยิ่งดี อ้าาวไปโน่นเลย
แล้วย้ำว่า ความสำคัญของการตายอยู่ที่ตายดีหรือไม่เท่านั้น
ถ้าคนศึกษาศาสนามาอย่างดี แล้วเขาไม่กลัวตายกัน
แล้วถ้าเขาจะตายแบบไม่เตรียมอะไร จิตก็จะไม่ข้องหรือมีคำถามว่า
แล้วที่ฉันเตรียมมากมาย ทำไมไม่รอดวะ 555555
วิธีคิดแบบนี้ก็เป็นอีกแนวนะ เล่นเอาผมไปไม่เป็นเหมือนกัน
และเขาก็บอกว่า ถ้ารุนแรงอย่างนั้นจริงๆ เขาพร้อมจะตายกับลูกกับเมีย
จิตจะได้ไม่มีห่วงถ้ายตายพร้อมกัน จะได้ไม่ข้องแวะกับเรื่องอื่นๆ
ว่าแต่ยูก็แล้วกัน ระวังตายไป จะเป็นเปรตเฝ้าหลุมที่เตรียมไว้ นะ

โหไปโน้นเลย และเมื่อถามต่อว่าความเชื่อเรื่องภัยพิบัติเขาคิดอย่างไร
เขายิ้มๆ และบอกว่าเมื่อเช้าก็มีคนเดินตกท่อตายนะ อย่าซีเรียสเลย
โดยส่วนตัวเขาเชื่อในข้อมูลนะ แต่ไม่กังวลกับผลที่จะเกิดขึ้น
เพราะอย่างไงเขาก็จะกลับมาเป็นคนที่พม่าอีก 55555
เอาเข้าไป