ปิดประมูลวัชระบัว ๒ องค์ หน้า ๖๖๑ ,ธรรมะจากพระอาทิพุทธะ หน้า ๖๕๙ ค่ะ

เป็นเพียงอดีตจ๊ะ อย่าคิดอะไรมาก อ่านเพื่อให้เป็นเครื่องเตือนใจจ๊ะ

Numsai

 

ถ้าได้ "เรื่องเล่า" ย้อมใจอีกสักเรื่อง เดี่ยวยิ้มออกเลยค่ะ อิอิ

 

..ประวัติจักรแก้วทั้ง ๖ ตอนที่ ๕..

​

<O</O ​

ครั้นเมื่อครบกำหนดเวลา ๓๖ กัป พระสุทธฤาษี ได้ออกจากสมาบัติเป็นท่านแรก ต่อมาก็เป็นพระทัตตฤาษี -สิทธัตหเสนานาค และพญาสิริขันทนาคราช เป็นองค์สุดท้าย จากนั้นต่างก็อธิษฐานจักรแก้วตามอธิษฐานเดิมของแต่ละบุคคล

พระสุทธฤาษี อธิษฐานจิตเนรมิตจักรแก้วสีขาว นามว่า “จักรสุทธิราชบรมจักร”พระทัตตฤาษีอธิษฐานจิตเนรมิตจักรแก้วสีขาว นามว่า “จักรวิสุทธิจักราวาส”

ส่วนสิทธัตหเสนานาค อธิษฐานจิตสีเหลือง จักรสุทัสสไนยจักรี และพญาสิริขันทนาคราชอธิษฐานจิตเนรมิตจักรสีเหลือง นามว่า “จักรโปสยเมตไตรย”

หลังจากนั้นพระสุทธฤาษีได้พาเข้าสมาบัติอีก ๑๕ วัน เพื่อรวมบุญอีกครั้ง จากนั้นจึงพากันได้เหาะขึ้นไปสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เพื่อน้อมถวายแด่ท้าวสักกเทวราช หรือพระอินทร์ เพื่ออธิษฐานจิต เมื่อรับพรจากพระอินทร์แล้ว

พระสุทธฤาษีนั้น ได้ขอพรจากพระอินทร์ว่า “ขอให้ได้เกิดเป็นคู่กับพระธิดาปทุมวดีในชาติต่อไป หลังจากนางออกจากสมาบัติ” ท้าวสักกเทวราชได้ตรวจด้วยทิพยเนตรแล้ว ทราบว่า พระสุทธฤาษีนั้นเคยเป็นคู่บารมีกันมาก่อน จึงให้พรให้สมความปรารถนา

จากนั้นทั้งหมดจึงได้เหาะลงมายังโลกมนุษย์ พญาสิริขันทนาคราช และสิทธัตหเสนานาค ก็ได้กราบลาพระฤาษีทั้งสอง และได้กลับยังเมืองโปสยนครทันที

ส่วนพระสุทธฤาษี และพระทัตตฤาษีนั้น ยังอยู่บริเวณถ้ำใกล้เคียงกับพระธิดาปทุมวดี และพระธิดาสิรินทร์ทิพย์เข้าสมาบัติ จวบจนสิ้นอายุขัย

ก่อนสิ้นใจพระสุทธฤาษีนั้น ได้อธิษฐานว่า “ในชาติต่อๆ ไป ขอให้เกิดเป็นพระโอรสของพญาโภคนาคราช และได้ครองคู่กับพระธิดาปทุมวดีอีกครั้ง จากนั้นอธิษฐานเข้าสมาบัติ และเคลื่อนภพไปเกิดในพรหมโลก ชั้น ๑๑ กาลต่อมาพระทัตตฤาษีก็เคลื่อนภพมาเกิดในพรหมโลก ชั้น ๑๑ เช่นกัน

โปรดติดตามตอนต่อไป ..
ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ
Numsai

 

..ประวัติจักรแก้วทั้ง ๖ ตอนที่ ๖..

​

ก่อนจะครบกำหนดเวลา ๕๑ กัปของการเข้าสมาบัติของพระธิดาปทุมวดี ท้าวสหบดีพรหมได้กล่าวแก่สิทธิสัตตพรหม( หรือสุทธฤาษีในอดีตนั่นเอง) ให้ไปจุติยังแดนนาคพิภพตามคำอธิษฐานเดิม​

ในวันที่สิทธิสัตตพรหมได้จุติเป็นพญานาคราชนั้น เกิดแผ่นดินสะเทือนไปทั่วนาคพิภพ พร้อมการเกิดดวงแก้วมณีขึ้น ๑ ดวง จากนั้นได้จุติบนแท่นบัลลังก์แห่งพญาโภคนาคราช และพระนางนิมมารตีเทวีโดยจุติแบบโอปปาติกะ คือ เกิดปุ๊ปโตปั๊ป

ก่อนที่สิทธิสัตตพรหมจะลงมาจุตินั้น ได้มีคำพยากรณ์จากผู้เฒ่าแห่งนาคพิภพ นามว่า “ท่านพญานาคีสิรินทรา” ว่า พระโอรสสัตยาสิทธิ์ ผู้มีบุญญาธิการจะมาจุติเป็นพระโอรสของพญาโภคนาคราชอีกครั้ง พระองค์จะมาพร้อมอาวุธคู่กาย คือพระขรรค์ ขอให้ตั้งตามพระนามเดิมว่า “สัตยาสิทธิ์นาคราช”
​

ครั้นพระโอรสมาจุติอีกครั้ง พญาโภคนาคราชนั้นก็มีความปิติยินดีเป็นอย่างยิ่ง จึงตั้งตามพระนามเดิมว่า “สัตยาสิทธิ์นาคราช” จากนั้นจึงได้ให้เข้าสมาบัติ เพื่ออัญเชิญดวงแก้วประจำกาย เป็นเวลา ๑๕ วัน

ขณะนั้น พระโอรส-ธิดาของพญาโภคนาคราช คือ ตติมาณวิกา ,อัครนาคราช ,ปัญจมาณวิกา และสัตตมาณวิกา ได้เคลื่อนภพไปเกิดใหม่หมดแล้ว เหลือเพียงพญาอัคคีตาปนาคราช และศศิมาณวิกาที่ยังคงอยู่นาคพิภพ ส่วนพญาอัคคีตาปะ ผู้เป็นพระโอรสองค์โตก็ยินดีที่พระอนุชากลับมาจุติ จึงรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ได้จัดงานฉลองครั้งใหญ่

ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

Numsai

 

..ประวัติจักรแก้วทั้ง ๖ ตอนที่ ๗..

ดวงแก้วอมรภูเบศก์ ปัจจุบันประดิษฐาน ณ.ประเทศภูฏาน​

การจุติของสัตยาสิทธินาคราชในครั้งนี้ สร้างความยินดีแก่พญาโภคนาคราช พระนางนิมมารตีเทวี และพระโอรส-ธิดาทั้งสอง คือ พญาอัคคตาปนาคราช และพระนางศศิมาณวิกา ซึ่งได้อภิเษกกับพญาโยชนมงคล และแยกไปปกครองอีกเมืองหนึ่งแล้ว

ข่าวนี้ได้ทราบถึงพญาศรีสรรเพ็ชรนาคราช จึงได้ส่งสาส์นมาแสดงความยินดีแก่พญาโภคนาคราช กาลนั้น พญาศรีสรรเพ็ชรได้อภิเษกกับพระนางนิมมาสุนทรีย์ ซึ่งเป็นพระกนิษฐาแห่งพระนางนิมมารตีเทวีนั่นเอง จากนั้น พญาศรีสรรเพ็ชรก็มีพระโอรสอีก ๓ พระองค์ ดังนี้..

๑.พญาคีรีนันทนาคราช
๒.พญาปักษบวรนาคราช
๓. พญาจักรเทวราช
<O</O

สำหรับพญาจักรเทวราชนั้น จุติเป็นองค์สุดท้าย นั้น มีรัศมีกายที่สว่างไสวมาก เป็นผู้มีปัญญาเฉียบแหลม ในวันจุติจะปรากฏเสียงดนตรีขึ้นภายในเมือง ปรากฏวิมานแก้วรัตนทั้ง ๗ ขึ้นมา พร้อมกับดวงแก้วมณีนามว่า “มณีรัตนอมรภูเบศก์” โดยไม่ต้องเข้าสมาบัติเช่นเดียวกับพญานาคราชอื่น ๆ

เหตุที่มีทิพยสมบัติดุจเทวราชา จึงให้นามพระโอรสว่า “จักรเทวราช” แปลว่า ผู้ยังความสำเร็จดุจเทวราชา

กล่าวถึงพระโอรสแห่งพญาศรีสรรเพ็ชรทั้งสามนั้น เมื่อจุติแล้วก็ทราบเรื่องของพญาปฐพีวิศาท และพระธิดาปทุมวดีเข้าสมาบัติ เพื่ออธิษฐานจักรแก้ว จึงเกิดความศรัทธายิ่ง

พญาคีรีนันทนาคราชได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ส่งเวรยามดูแลสถานที่พญาปฐพีวิศาทนาคราชเข้าสมาบัติ ณ.ไตรคีรี ส่วนพญาปักษบวรนาคราชนั้น ดูแลบริเวณที่พระธิดาปทุมวดีเข้าสมาบัติ รอคอยการออกจากสมาบัติ

ส่วนพญาจักรเทวราชนั้น มีหน้าที่ไปประชุมที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์พร้อมกับพญาศรีสรรเพ็ชรทุกวันขึ้น และแรม ๑๕ ค่ำ ตลอดทั้งการประชุมอื่นๆ ท้าวสักกเทวราช ได้มอบวัชระแก่พญาจักรเทวราช เนื่องจากความสามารถในการให้ข้อธรรมแก่เทพบุตรเทพธิดาทั้งหลายในบางครั้ง

พญาจักรเทวราชนั้น มีความสนิทสนมกับพญาอัคคตาปนาคราชเป็นพิเศษ เนื่องจากต่างก็ต้องไปเข้าเฝ้าท้าวสักกเทวราชเหมือนกัน

ปกติแล้วพญานาคราชนั้นจะมีการสังสรรค์ หรือชุมนุมอย่างนั้นเดือนละครั้ง เมื่อได้ทราบการจุติของพระโอรสองค์ใหม่ของพญาโภคนาคราช พระโอรสทั้ง ๓ ต่างอยากทำความรู้จักจึงได้เดินทางไปร่วมงานเลี้ยงฉลอง ณ.เมืองสัตตรัตนมณี

พระโอรสทั้งสามนั้น เมื่อได้พบกับสัตยาสิทธิ์นาคราช จึงถูกชะตาและเห็นว่า พระธิดาปทุมวดีนั้น ยังไม่มีคู่หมั้นหมาย เมื่อกลับมายังเมืองของตน จึงได้ลงความเห็นอยากให้พญาสัตยาสิทธิ์นั้นได้หมั้นหมายกับพระพี่นางของตน พญาศรีสรรเพ็ชรก็ทรงเห็นด้วย จึงได้ส่งสาส์นมายังพญาโภคนาคราชอีกครั้ง พญาโภคนาคราชนั้น มีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง จึงได้เรียกสัตยาสิทธิ์นาคราช เพื่อขอความเห็น สัตยาสิทธิ์นาคราชนั้น ได้ทราบด้วยทิพยจักขุญาณว่า พระธิดาปทุมวดีนั้นเป็นคู่บารมีของตน จึงได้ตอบตกลง โดยส่งพระขรรค์สีขาว เป็นเครื่องหมั้นหมายเอาไว้ก่อน

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ
ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ
Numsai

 

..ประวัติจักรแก้วทั้ง ๖ ตอนจบ

​

เมื่อครบเวลาเข้าสมาบัติของพระธิดาปทุมวดี และพระธิดาสิรินทร์ทิพย์ เหล่าพญานาคราช ๓ ตระกูลต่าง คือตระกูลพญาศรีสรรเพ็ชร ตระกูลโปสยนาค และตระกูลพญาโภคนาคราช(ซึ่งพญาสัตยาสิทธิ์นั้น เป็นว่าที่พระคู่หมั้นของพระธิดาปทุมวดี) ต่างก็มาชุมนุมในบริเวณที่ไม่ห่างจากถ้ำนั้นมากนัก

พระธิดาทั้งสองนั้น หลังออกจากสมาบัติต่างก็อธิษฐานเนรมิตจักรแก้วของตน ในวันนั้นเองเกิดแผ่นดินสั่นสะเทือนไปทั่วบริเวณ จากนั้นออกจากถ้ำพบว่า มีผู้มารอต้อนรับตนเป็นจำนวนมาก

ครั้งนั้น พญาสุรสิทธิ์นาคราช หรือสุรสิทธิ์เสนานาค ต่อมาภายหลังได้ครองเมืองสุทธิยังคนครได้มารอการออกสมาบัติของพระธิดาปทุมวดี แต่เมื่อได้พบพระธิดาสิรินทร์ ก็เกิดความเสน่หาด้วยบุพเพสันนิวาสเดิม ต่อมาทั้งสองก็ได้อภิเษกสมรส และมีโอรส-ธิดา ๖ องค์

ส่วนสัตยาสิทธิ์นาคราชนั้น เมื่อได้พบพระธิดาปทุมวดีอีกครั้ง ก็ยิ่งเสน่หาในนางมากขึ้น โดยที่พระธิดาปทุมวดีไม่ได้ทราบเรื่อง หลังจากออกสมาบัติแล้ว กลับเมืองจึงทราบว่า พระบิดาให้หมั้นตนไว้กับสัตยาสิทธิ์นาคราช จึงรู้สึกเสียใจที่ตนไม่ทราบล่วงหน้า อีกทั้งทราบว่า พระบิดาได้อภิเษกสมรสใหม่ และมีพระอนุชาอีก ๓ องค์จึงยังปรับสภาพไม่ได้ และไม่ยอมรับการหมั้นนั้น

ทำให้พญาภูมบดีนาคราช และพระนางหยาดทิพย์ จึงได้มาปลอบใจ และปรับความเข้าใจกัน นางจึงยอมตามความประสงค์ของพระบิดา ยอมรับของหมั้น ๑ ในของหมั้นนั้น คือพระขรรค์สีขาวจากสัตยาสิทธิ์นาคราช เมื่อสัมผัสพระขรรค์สีขาว นางจึงรับรู้ถึงกระแสแห่งการครองคู่กันมายาวนาน ภาพต่างๆ ถูกฉายมาในความทรงจำ ทำให้นางทราบแท้จริงแล้ว สุทธฤาษี ผู้เป็นอาจารย์ เคยเป็นคู่ของนางมาแต่อดีตนั่นเอง

จากนั้นอีก ๓ เดือน กำหนดการอภิเษกสมรสระหว่างสัตยาสิทธิ์นาคราช และพระธิดาปทุมวดีจึงเกิดขึ้น สร้างความปิติแก่ทั้งสองเมือง คือ เมืองสัตตรัตนมณี และ ปัญจพชรนคร เป็นอย่างยิ่ง ได้มีการฉลองการแต่งงาน ๓ วัน ๓ คืน

หลังจากอภิเษกแล้ว พญาโภคนาคราชได้ยกเมือง สัณตรัตนนครให้ปกครอง ต่อมาทั้งสองได้มีพระโอรส-ธิดา ๓ องค์นามว่า สุทธเศรษฐ์นาคราช สุรสีห์นาคราช และสิริจันทาเทวี ทั้งสองจึงครองรักกันอย่างมีความสุขเรื่อยมา

จบประวัติจักรแก้วทั้ง ๖ แต่เพียงเท่านี้ค่ะ

ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ
Numsai<O

 

ขออภัยจ๊ะ มีเพียง ๖ องค์เองจ๊ะ ที่อธิษฐานเข้าสมาบัติพร้อมกัน สีชมพู น้องคมน์ต้องอธิษฐานขอเองจ๊ะ หากไม่อธิษฐาน หรือไม่มีจิตศรัทธาก็ไม่มาจ๊ะ (deejai)chearrchearr

ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

Numsai

 

ว้าวววววว...วันนี้ได้อ่านแบบจุใจเลยค่ะ

 

เป็นประวัติที่ยาวมากเลย เห็นด้วยกับคุณ mukmik ค่ะ จุใจ

 

อ่านจบเสียที ประวัติจักรแก้วทั้ง 6 นะครับ
ขอบคุณพี่น้ำใสมากครับ คงหมดแรงไปเยอะ รักษาสุขภาพด้วยนะครับ

 

ผมได้โอนเงินร่วมบุญ ประมูลจักรสีขาว หมายเลข ๔ แล้ว วันที่ 6 กันยายน 2555 สถานที่ K00842 เวลา 16.40 น. จำนวนเงิน 4,100 บาท
กรุณาจัดส่งตามที่อยู่ แจ้งทาง PM ครับ
ขอขอบคุณและโมทนาบุญด้วยครับ

 

สิริจันทาเทวี...ชื่อเพราะจัง

 

ชื่อของใครรึมิก ชื่อนี้น่ะ

 

ยังมีประวัติพระขรรค์ภาคสองที่เนื่องมาด้วยค่ะ
อีกยาวเลย อิอิอิ

 

เค้าเอามาจากเรื่องเล่าของคุณน้ำใสไงจ๊ะ เพรชซี่ ^^

จากนั้นอีก ๓ เดือน กำหนดการอภิเษกสมรสระหว่างสัตยาสิทธิ์นาคราช และพระธิดาปทุมวดีจึงเกิดขึ้น สร้างความปิติแก่ทั้งสองเมือง คือ เมืองสัตตรัตนมณี และ ปัญจพชรนคร เป็นอย่างยิ่ง ได้มีการฉลองการแต่งงาน ๓ วัน ๓ คืน

หลังจากอภิเษกแล้ว พญาโภคนาคราชได้ยกเมือง สัณตรัตนนครให้ปกครอง ต่อมาทั้งสองได้มีพระโอรส-ธิดา ๓ องค์นามว่า สุทธเศรษฐ์นาคราช สุรสีห์นาคราช และสิริจันทาเทวี ทั้งสองจึงครองรักกันอย่างมีความสุขเรื่อยมา

 

ปูเสื่อรอเลยค่ะ @^_^@

 

ใช่ค่ะ ขอโมทนากับพี่น้ำใสด้วย
หมดแรงเยอะจริง ๆ ไหนจะเรื่องโน้นเรื่องนี้
เอาใจช่วยนะคะ...และขอบคุณที่พี่ได้ช่วยเหลือหนูมาแล้วหลายเรื่องค่ะ

 

มาแล้วววว ขอแซวนิดนุง อิอิอิ โมทนาค่ะ

 

อะไรมา เหรอจ๊ะ เพื่อนตาลลลล

 

แซวไปเหอะ วันนี้เด๋วมีงอนกันอีก แกยิ่งบ่นว่าคนเดียวก็จะแย่แล้ว 555 ขำ