เหรียญบิน หลวงพ่อทรง - แพโบสถ์น้ำ หลวงตา (เล็ก) น. ๑๒๖๕

ไปเขียนความเห็นไว้ เลยก็อบมาครับ

ผมอ่่านมาหลายวัน

เรื่องเครื่องรางที่ใช้รักษา อาการบางอย่างมีจริงที่เจอมากับตัว ผมมีโรคปวดกล้ามเนื้อ กับ แพ้อากาศอย่างมากทั้งสองอย่างประจำตัว ของที่ใช้เช่น

๑) เหรียญนั่งพาน หลวงปู่ทิม

๒) พระกริ่งวัดสุทัศน์ ของเก่าของแม่

๓) มีดหมอ สายนครสวรรค์ สายหลวงพ่อเดิม ต้องเลือกหน่อยน่ะครับ แนะนำ หลวงพ่อกัน ราคายังพอรับได้ แพงแต่ดี

๔) เบี้ย สาย อ่างทอง หลวงพ่อ นุ่ม หลวงพ่อ คำ หลวงพ่อ ซำ ( หลวงพ่อ พัก แพงเว่อร์ อย่าไปหาจะโดน ) หลวงพ่อ ทรง หลวงพ่อ อ่อน

ตอนนี้ หา หลวงพ่อ เสียน หลวงพ่อ มี ราคายังจุ๋มจิ๋ม เงินเข้าวัด

๕) ปลัดสาย หลวงพ่อ อี๋ ใช้ฝนทำยากิน เอารุ่นลูกศิษย์ ผมมีของอาจารย์ของผมแต่คนล่ะสายกัน แต่ปลัดสายนี้ใช้หนักทางรักษาโรคครับ คนเอามาเล่นกันเป็นสรรพคุถณอย่างอื่น แต่จริงๆคือ สายหมอครับ

ทั้งหมดข้างบนเอามาทำน้ำมนต์ ช่วยบรรเทาได้ครับ

ไม่แน่ะนำ ยาระงับประสาท เพราะช่วยได้ชั่วคราว ผมเป็นคนเจ็บปวดกล้ามเนื้อ มาตั้งแต่จำความได้ เป็นโรคอย่างหนึ่ง เส้นยึด ตึง เต้น ปวดบางทีนอนไม่หลับ ลุกมาสวดมนต์ ทายา นอนเก้าอี้นวด และต้องนวดหมอประจำ ไม่งั้น เดี้ยงครับ หมอต้องแก่ และ มือหนักๆ หมอสาวๆ มือเบา แค่มาจักกะจี้ ใช้ไม่ได้ ต้องมีหมอประจำ และ บางทีต้องเหยียบหนักๆอย่างเดียว มือ หรือ นิ้ว ไม่สามารถ คลายเส้นผมได้ เพราะแข็งเหมือนหิน

การนวดเองช่วยได้ ใช้ยาพวก สีผึ้งเขียวๆ น้ำมันสามประสาน ดีมาก เสกและนวดด้วยพระคาถา ปัจจุขาด พอช่วยได้

แต่ข้างบนแค่แนะ

แต่ที่จะแน่นำจริงๆ คือ ให้ไปเรียนโยคะ ครับ หาอาจารย์ที่ดี เป็นโยคะจริงๆ ผมเรียนมาครบปี หยุดตอนน้ำท่วม ตอนนี้ลงเงิน เรียนเป็นปี เพราะดีจริงๆได้ผลมาก

มันยืดและดัดกล้ามเนื้อส่วนที่เราต้องการได้ ในท่าที่ต้องการ สติจับไปกับลมหายใจตลอดเวลา อัดลมปราณ เข้าไปยังจุดที่เจ็บปวด ให้คลายความเจ็บลงได้ผลครับ

เป็นการพึ่งตัวเองตามหลักธรรมของพระพุทธองค์สมเด็จปรมครูจอมไตรครับ พระเครื่องรางของขลัง แค่มาให้กำลังใจครับ ๗๐ % ต้องอยู่ที่ตัวเรา ไม่มีใครช่วยเราได้นอกจากตัวเราเอง

ยกเว้นโรคกรรม ก็ก้มหน้ารับครับ ทนเอาครับ ผมคงทรมาณเขามาเยอะ ในอดีตชาติ ที่คอ ไหล่ เอว กระเบนเหน็บ และที่ขา เขาก็ตามมาเอาคืนครับ<!-- google_ad_section_end --> <!-- / message --><!-- sig -->

 

ตามโยมพีตอบ ชัดเจนบ้างแล้ว ขอเพิ่มสักนิด
ตามปกติของสงฆ์ พระจะเอามาใช้สอยเป็นของส่วนตัวต้องขอจากสงฆ์ก่อน จึงจะถูกต้อง มิฉะนั้น ต้องเป็นสินใช้หรือเป็นหนี้สงฆ์
วิธีการขอจากสงฆ์มีหลายวิธีเช่น ขอเมื่อคราวสงฆ์ประชุมกัน,สงฆ์แต่งตั้งพระภิกษุรูปใดรูปหนึ่งขึ้นทำหน้าที่ตามกิจนั้นๆเช่น พระแจกงานนิมนต์,แจกอาหาร,แจกเสนาสนะที่อยู่อาศัย เป็นต้น
แต่ของสงฆ์ที่จะแจกมีอยู่ 2 ประเภท คือที่แจกได้กับแจกไม่ได้ ที่แจกได้เช่น อาหาร จีวร ยาแก้ไข เป็นต้น ส่วนที่แจกไม่ได้มีหลายอย่างเช่น ที่ดิน กุฏิ วิหาร เครื่องโลหะต่างๆ เตียง ตั่ง ฟูก เก้าอี้ เถาวัลย์ ไม้ไผ่ หญ้าปล้อง หญ้ามุงกระต่าย หญ้าสามัญ ดิน เครื่องไม้ เครื่องดิน ของเหล่านี้ถ้าขืนแจกเป็นอาบัติกับผู้แจก ผู้รับแจกก็เป็นหนี้สงฆ์เพิ่มอีก หากมีความจำเป็นจริงที่ต้องแจก คงต้องผาติกรรมชดใช้ให้กับสงฆ์เท่าตามราคา่ที่ดิน,วัตถุ ที่แจกไปหรือราคามากกว่าของสงฆ์จึงชอบ
ในกรณีอาหาร ถ้าโยมถวายเป็นของสงฆ์ พระต้องอปโลกน์ตกลงกับสงฆ์แจกให้กับพระทุกรูปตั้งต้นแต่พระเถระลงมาถึงผู้น้อย จึงจะฉันได้ พระฉันแล้ว ถือว่าเป็นเดนแก่พระแล้ว โยมทานได้ ถ้าจำไม่ผิด หลวงพ่อฤาษีลิงดำเคยบอกไว้ว่า ถ้าอปโลกน์แล้ว โยมทานได้เอาของเหลือกลับบ้านได้ด้วย ถ้าไม่ทำอปโลกน์ โยมทานได้อย่างเดียว ห้ามเอากลับบ้าน(ไม่แน่ใจ) หรือในกรณีของผลไม้ที่ขึ้นอยู่ในวัด ที่เป็นของสงฆ์ พระรูปใดจะเอาฉันโดยพลการหาได้ไม่ ต้องใช้คืนสงฆ์ตามราคาของนั้นๆ จะเอาฟรีๆไม่ได้

 

กราบ กราบ กราบ หลวงพ่อทรง หลวงปู่บุญศรี ครับ

 

ชัดเจนน่ะครับ

ที่ผมจะบอกอีกอย่างคือ อย่าเอามาตราฐานของเราไปกะเกณฑ์ เพราะ พระท่านมี พระธรรมวินัยไว้ปฏิบัติ คนล่ะกฎกับเรา แม้จะอยู่โลกเดียวกัน ห้ามเอามาเทียบกัน คนล่ะวรรณะ คนล่ะระดับครับ

ตัวอย่างเลยน่ะครับ เถาวัลย์ หญ้าปล้อง หญ้ามุงกระต่าย หญ้าสามัญ ท่านคิดว่าสมัยนี้ไม่มีค่า ไปขอพระในวัด โดยบอกว่า ผมขอน่ะ ที่จริงดีซ่ะะด้วย วัดจะได้ไม่รก ตัดซ่ะให้เกลี้ยงสะอาด ไม่มีงูเงี้ยว เขี้ยวขอ แต่เป็นของสงฆ์น่ะครับ พระท่านบอกให้ก็อาบัติครับ หรือท่านขโมยเอาไปให้วัว ควาย ท่านกิน ตัวท่านก็ลงนรกครับ คนไม่เชื่อกันครับ คิดว่า ไม่น่ามีอะไร เอาหญ้าวัดไปเลี้ยงวัว ควาย ลงนรกเฉยเลยครับ

พระพุทธเจ้า องค์สมเด็จบรมครู ท่านสั่งห้ามไว้ครับ อย่าไปถามว่าทำไมพระองค์ถึงห้าม จะซวยตัวท่าน อย่าเอาคนหัวสมัยใหม่ หัวฝรั่ง ไปคิด สงสัยพระพุทธเจ้าว่าเหตุผลคืออะไรถึงห้าม มันต้องมีแน่นอน ท่านตรัสห้ามไว้ก็คือห้าม อย่าไปถามว่าทำไมห้าม ผมอยากรู้ บ้านเมืองประชาธิปไตยทุกอย่างต้องมีคำตอบและเถียงได้ ท่านคิดแบบนี้ อย่าไปยุ่งกับพระครับ ห้อยเทวดา ห้อยคต ห้อยกระดูกสัตว์ไปน่ะครับ

วินัยของพระภิกษุ หยุมหยิมมาก พระบวชใหม่ๆไม่มีทางทราบหมด ต้องบวชนานๆ และ ศึกษาพระธรรมวินัยด้วยเพราะอาจจะมีการตีความเอง แม้ในตอน สมัยพุทธกาล องค์สมเด็จบรมครูยังต้องทรงเมตตามาชำระเองว่า อาบัติ หรือไม่ จนมีพระอุบาลี มาช่วย บรรเทางานขององค์สมเด็จบรมครู โดยมากลั่นกรองซ่ะก่อน

ส่วนการอุปโลกน์ หรือ อปโลกน์ ( อะปะโหลก ) ในวัดที่เคร่ง ในวันงานวันพระ มีญาติโยม เอาข้าวปลาอาหารมาถวายเยอะ

และบางท่าน ถวายเป็น สังฆทาน คือ ของสงฆ์ พระท่านก็กันตัวท่านเอง ท่านจะประชุมกัน ขออนุญาต ปรึกษาหารือกันว่า ขอความเห็นชอบต่อกัน ว่าอาหารให้แบ่งปันกันไปตามลำดับจากพระผู้ใหญ่ลงมา จนถึงญาติโยมด้วย แล้วท่านก็โมทนา สาธุ กันทุกองค์น่ะครับ พระศาสนาพุทธท่านมีประชาธิปไตย มานานกว่า สองพันกว่าปี ก่อนไอ้ประเทศที่อ้างว่ามีประชาธิปไตยจ๋า จะเกิดซ่ะอีก เราคนไทยน่ะมองข้ามกันไปเอง

และเมื่อพระท่าน ฉันเสร็จ มรรคทายก จะขอ ลาอาหาร จากพระไปกินกัน ซึ่งพระก็จะ สาธุ โมทนา อันนี้รวมทั้งอาหารที่ไม่ได้ประเคนพระ แต่ ญาติโยมเอามารวมกันถวายพระที่วางรออยู่

อันนี้ ครบกิจ กินกันสบายใจครับ ไม่มีนรกครับ บุญก็ได้ ท้องก็อิ่ม

เป็นพระ ถ้าเคร่งๆ ไม่ได้เป็นง่ายๆน่ะครับ และ เป็นฆราวาสที่รู้พระวินัยของพระก็ไม่ได้เป็นง่ายๆ พระท่านบางทีไม่สนิท ท่านก็ขี้เกียจจะพูดสอนให้ เดี๋ยวโยมสวน มาสอนพระซ่ะอีก ว่าพระไม่รู้กฎหมาย เลย อะไรๆท่านก็ตามใจญาติโยม ยกเว้นที่อาบัติหนักจริงๆ ท่านก็ไม่เอาด้วย

แต่ไปเจอพระเคร่งๆ ท่านจะด่าเอาน่ะครับ ดุด่าจริงๆด้วยครับ ท่านจะซวยซ้ำสองเข้าไปอีก เท่าที่ผมทราบ ตอนนี้มีนอนอยู่ที่ วิชัยยุทธ หนึ่งองค์ ไปรุ่มร่ามกับพระวินัยของท่าน โดนท่านเอ็ดแน่นอน

กระทู้เราโชคดี มีพระมาคอยอ่าน สาม องค์ จะได้คอยช่วยสั่งสอนเรา ไม่ให้ทำผิด ธรรม น่ะครับ

 

ติดตามมานานแล้วค่ะเคยรับพระปรกโพธิ์จากพี่พีไป มีประสบการณ์มากๆค่ะ

ขออนุญาตพี่พีลงชื่อรับของออกพรรษาด้วยนะคะพี่พี

 

กราบหลวงพ่อทรง และสวัสดีพี่ๆทุกท่าน

 

พระปรกโพธิ์นี่ ...งงเลย...แหะๆ

ชุดนี้ผมแจกคนน้อยมาก และนึกท่านไม่ออก เพราะความชรามาเยือนผม แล้วไม่ยอมจากไป

มาเยี่ยมกันบ้างน่ะครับ กันลืม

ส่วนออกพรรษา มาเตือนเลยน่ะครับ เตรียมซอง ปิดแสตมป์ไว้ ผมไปถามเขาก่อนส่งปิดเท่าไหร่ เอาแบบลงทะเบียน จะได้ไม่หายครับ ของแจกออกพรรษาดีมากครับ จะหาไม่ได้ และ ผมจะเอามาแจก พี่น้องอย่างเดียวที่มาร่วมกันในกระทู้ ไม่มีขายครับ

 

เหนื่อย หนอ ๆ ๆ

พึ่งยกแรก น้ำเอ้ย

มวยมี ห้ายก อย่าล้มเด็ดขาด ต้องเอาแชมป์ให้ได้

 

เปิด ปรับ สมเด็จองค์ปฐม

วันนี้ ( ๓๐ ส.ค.๒๕๕๕ ) เวลา ๑๖.๐๐ น. ปรับบัญชีล่าสุด ขอโมทนาสาธุ กับท่านสาธุชน ผู้มีใจบุญ ใจกุศล ร่วมประมูล บริจาคนำรายได้
๑.สร้างห้องปฏิบัติธรรม กรรมฐาน ถวายพระปลัดวิรัช โอภาโส(ศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) ณ วัดธรรมยาน ต.นาเฉลียง อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์
๒.สร้างพระนาคปรก ๑๔ ศอก ถวายหลวงปู่บุญศรี อินทวัณโณ
๓. และสร้างสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปฐมชำระหนี้สงฆ์ หน้าตัก ๔ ศอก พร้อมวิหาร ณ วัดธรรมยาน ต.นาเฉลียง อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์
๔. ช่วยค่ารักษาพยาบาลพระภิกษุเจ็บป่วย
ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย มีสมเด็จองค์ปฐมเป็นประธาน พระศรีอาริยเมตไตรย พระปัจเจกพุทธเจ้า ทุกพระองค์ พระพรหมทุกชั้นฟ้า เทพเทวดาทุกชั้นฟ้า ครูบาอาจารย์ทั้งหลาย ท้าวมหาราชทั้งสี่ และพญายมราช ขอจงได้เสด็จมาร่วมรับรู้ ร่วมโมทนา ร่วมเป็นเจ้าภาพ ร่วมถวาย ร่วมรับ ร่วมเป็นสักขีพยาน ร่วมได้รับประโยชน์ ความสุข ในบุญกุศล ของท่านทั้งหลาย ครอบครัว และบุคคลอันเป็นที่รักของท่าน ด้วย เทอญ อิทธิ ฤทธิ พุทธนิมิตตัง ขอเดชะ เดชัง ขอเดช เดชะ จงมาเป็นที่พึ่งแก่ มะ อะ อุ นี้ด้วยเถิด ขอโมทนา สาธุ

 

อ่านของท่านพราหมณ์และของพี่ก็เลยไปหาข้อมูลเพิ่ม เลยมาเจอในเว็ปนี้ครับ http://www.intaram.org น่าสนใจดี ขออนุญาตนำมาลงนะครับ

ของสงฆ์ ของอาถรรพ์

นานมาแล้วสมัยยังเด็ก เคยอ่านหนังสือธรรมะของหลวงพ่อฤษีลิงดำ (พระราชพรหมยาน) วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี ท่านบอกว่า “พระ-เณรสมัยนี้ตกนรกประมาณ 90 %” อ่านครั้งแรกก็งง ไม่เข้าใจว่าทำไมพระเณรจึงตกนรกกันมากมายนัก ยังคิดแย้งท่านในใจว่า “ถ้าพระเณรไม่ได้ขึ้นสวรรค์ แล้วใครจะได้ขึ้นสวรรค์ล่ะ?”
ต่อมาเมื่อมีโอกาสได้บวชเรียน จึงค่อย ๆ เข้าใจในสิ่งที่ท่านเคยบอกไว้ ยิ่งต่อมาได้เห็นตัวอย่างพระเณรที่คอร์รัปชั่น นำของสงฆ์หรือนำเงินที่โยมถวายไปใช้ผิดประเภท จึงมาร่วมยืนยันให้หลวงพ่อฤษีลิงดำอีกหนึ่งเสียงว่า ที่ท่านกล่าวไว้เป็นเรื่องจริง
พระพุทธองค์ตรัสไว้ว่า “สามัญฺญํ ทุปฺปรามตฺถํ นิรยายูปกฑฺฒติ” แปลว่า “ชีวิตความเป็นพระนั้น ถ้าประพฤติไม่ดีแค่นิดเดียว ก็ลงนรกได้” พระนั้นลงนรกง่ายกว่าโยมมาก เช่น การรับประทานอาหาร พระต้องพิจารณาแล้วจึงฉัน ถ้าไม่พิจารณาให้เห็นเป็นเพียงธาตุ ๔ แล้วฉัน ต้องอาบัติ ส่วนโยมนั้นซื้ออาหารมาทานได้เลย
เหตุที่เป็นอย่างนี้ ก็เพราะว่า ชีวิตความเป็นอยู่ของพระนั้น ต้องอาศัยชาวบ้าน พระไม่ได้ทำมาหากินเอง ได้วัตถุสิ่งของมาแบบง่าย ๆ ได้มาโดยอาศัยศรัทธาที่ชาวบ้านเขาทำบุญให้ ชาวบ้านนั้นกว่าจะได้มาแต่ละบาทแต่ละสตางค์นั้น ต้องอาบเหงื่อต่างน้ำ ต้องต่อสู้ดิ้นรนแก่งแย่งกัน ส่วนพระนั้นได้มาอย่างง่ายที่สุด แทบไม่ต้องลงทุนหรือลงแรงอะไรเลย
ดังเช่นพระออกไปฉันเช้าหรือฉันเพล นอกจากฉันอาหารฟรี ๆ แล้ว ยังได้รับจตุปัจจัยไทยทานได้มาแบบฟรี ๆ อีก แล้วยังได้เงินใส่ซองมาอีกต่างหาก มากบ้างน้อยบ้างแล้วแต่ฐานะของเจ้าภาพ ใช้เวลาแค่ประมาณ 2 – 3 ชั่วโมงเท่านั้น
ดังนั้น ถ้าพระได้เงินจากการไปฉันเช้าและฉันเพลแล้ว นำมาใช้ในทางที่ผิด อาทิ เล่นอบายมุขต่าง ๆ เป็นต้น ก็ไม่แคล้วที่จะไปอบาย ถ้าไม่ไปอยู่ในนรกก็ไปเป็นเปรต (มีเพียง ๒ อย่างเท่านั้น)



พระครู

เมื่อหลายปีก่อน มีพระรูปหนึ่งบวชมานานตั้งแต่เป็นสามเณร จนกระทั่งได้เป็นพระครูฯ มียศมีตำแหน่งทางคณะสงฆ์ อีกทั้งมีทรัพย์สินที่ได้มาระหว่างบวชมากมาย ประมาณไม่ต่ำกว่า ๑ ล้านบาท พระรูปนี้จะรักญาติของท่านมาก ด้วยความที่ถือตัวว่าเป็นพระผู้ใหญ่ จึงมักจะชอบหยิบของวัด (ของสงฆ์) นำไปให้ญาติของท่านใช้ โดยที่ไม่มีผู้ใดกล้าทัดทานหรือคัดค้าน
ต่อมาไม่นานท่านก็ได้เสียชีวิตลงไป แต่ตอนเสียนี่ซิสำคัญ พวกญาติโกโหติกาของท่าน ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน เมื่อทราบข่าวก็พากันมาที่กุฏิ พากันมาขนของออกไปไว้บ้านตัวเองจนหมด ไม่เหลือสิ่งมีค่าไว้เลย โดยอ้างว่าพระครูเป็นญาติของตน ตนมีสิทธิ์นำไปได้
เมื่อทางคณะสงฆ์เข้าไปตรวจค้นทีหลัง เห็นแต่ความว่างเปล่าและกระดาษทิชชูที่ใช้เช็ดน้ำมูกแล้ว ๑ ใบ พอถึงคราวจัดงานศพ พวกญาติ ๆ ของพระครูฯ ก็เข้ามาป่วนอีก โดยเป็นเจ้ากี้เจ้าการจัดการเรื่องเงินเสร็จสรรพ เสร็จจากงานศพเหลือเงินหลายแสนบาท พวกญาติที่แสนดีของพระครูก็เอาไปแบ่งกันหมด วัดไม่ได้อะไรแม้แต่บาทเดียว หนำซ้ำ ! วัดต้องจ้างคนมาเคลียร์สถานที่หลังเสร็จงานศพให้อีก (แต่ไม่เป็นไรหรอก)

พระครูอยู่ที่ไหน ?

เขียนมาถึงตรงนี้แล้วคุณผู้อ่านหลายคนอาจสงสัยอยากรู้ว่า ตอนนี้พระครูท่านเสวยสุขอยู่ ณ แห่งหนตำบลใด หรืออยู่สวรรค์วิมานอะไร สุขกายสบายใจหรือไม่อย่างไร ?
ขอเฉลยว่า ขณะนี้ท่านพระครูกำลังเสวยทุกข์หนักอยู่ในนรก ในชั้นที่เกือบต่ำสุด เพราะชอบยักยอกของสงฆ์เอาไปให้ญาติ (คิดว่าญาติจะเป็นที่พึ่งอันเกษม หารู้ไม่ว่าพวกญาติตัวดีนี่แหละที่ทำให้ท่านลงนรกลึกกว่าเดิม ทุกข์ทรมานมากกว่าเดิม)
ความจริงแล้ว ท่านพระครูจะลงนรกไม่ลึกเท่านี้หรอก ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะญาติตัวดีของท่านมีส่วนช่วยกระทืบท่านซ้ำ กระทืบอย่างไร ? กระทืบโดยการมาเอาของท่านไปไว้บ้านนะซิ ความจริงแล้ว ข้าวของเครื่องใช้ของพระครูทั้งหมดที่ได้มาระหว่างบวช เมื่อท่านตายแล้วต้องตกเป็นของสงฆ์ (ของวัดนั้น ๆ) พวกญาติไม่มีสิทธิ์เอาไปบ้าน
ถ้าพวกญาติของท่านนำของเหล่านั้นมาคืนสงฆ์ทั้งหมด ท่านพระครูก็จะได้รับความทุกข์ทรมานในนรกลดลงครึ่งหนึ่ง แต่เมื่อไม่คืนให้สงฆ์ ท่านพระครูก็ได้รับความทุกข์ทรมานเต็ม 100 % ปัจจุบันนี้แม้ท่านพระครูจะสำนึกผิดแล้ว แม้จะร้องเสียงแหบเสียงแห้งอยู่ในนรก ก็ไม่มีญาติคนไหนได้ยิน (นอกจากท่านผู้มีตาทิพย์และหูทิพย์และพวกสัตว์นรกด้วยกัน)
พวกญาติของท่านก็เช่นกัน ถ้าไม่นำของมาคืนสงฆ์ ตายแล้วก็เตรียมตัวไปอยู่กับท่านพระครูที่นครได้เลย (ตอนนี้ท่านพญายมสั่งยมทูตให้เตรียมสถานที่ไว้รอแล้ว) แม้ตอนคนเหล่านี้ตายจะนิมนต์พระมาสวดศพ แต่สวดอย่างไรพวกนี้ก็ไม่ได้ขึ้นสวรรค์หรอก เพราะกรรมหนักจริง ๆ


ข้อควรปฏิบัติเกี่ยวกับของสงฆ์

๑. สิ่งใดที่ได้มาก่อนบวช เช่น บ้าน ที่ดิน รถยนต์ เรือกสวนไร่นา หรือเงินสด เป็นต้น เป็นของที่ภิษุรูปนั้นจะทำอะไรก็ได้ตามปรารถนา
๒. สิ่งใดที่ได้มาระหว่างบวช แม้ว่าโยมจะถวายส่วนตัวก็ตาม ก็ถือว่าเป็นของสงฆ์เช่นกัน เพราะเป็นของที่ได้มาเพราะผ้าเหลือง (ผ้ากาสาวพัตร์) ถือว่าเป็นสมบัติของศาสนา เมื่อสึกออกไปจะต้องคืนสงฆ์ทั้งหมด จะต้องนำของนั้นถวายวัดใดวัดหนึ่งที่เห็นสมควร
ของสงฆ์นั้นถือเป็นของสูง เป็นของที่ผู้มีจิตศรัทธาทำบุญให้มา ถ้าใครนำเอาไปทำมาหากินส่วนตัว จะเป็นอาถรรพ์ จะประสบแต่ความวิบัติหาความเจริญมิได้
๓. ถ้าผู้ใดเอาของสงฆ์ไปใช้แล้วสำนึกได้ก่อนตาย ให้รีบนำมาคืนสงฆ์หรือถ้าของนั้นชำรุดแล้ว ก็ให้ชดใช้เป็นเงินแทน เรียกว่า “ชำระหนี้สงฆ์”
๔. การแก้กรรมเหล่านี้ให้พยายามทำในระหว่างที่เป็นคน (ยังไม่ตาย) ตายแล้วแก้ยาก
๕. ของสงฆ์ไม่ใช่สมบัติประจำตระกูล และไม่ใช่สมบัติของเจ้าอาวาส แต่เป็นของผู้มีจิตศรัทธาถวายพระพุทธเจ้าและภิกษุสงฆ์ผู้มาจากทิศทั้งสี่ แม้กระทั่งเจ้าอาวาสก็ไม่มีสิทธิ์นำของสงฆ์ไปมอบให้ใคร ถ้าจะจัดการหรือทำอะไรเกี่ยวกับของสงฆ์ ต้องฟังมติสงฆ์เท่านั้น ไม่ใช่ฟังคำสั่งเจ้าอาวาส
๖. ถ้าญาติ ๆ ของเราซึ่งเคยนำของสงฆ์มาใช้จนพังและเขาก็ตายไปแล้ว เราก็สามารถทำบุญชำระหนี้สงฆ์แทนเขาได้ (แต่เงินทำบุญต้องมีค่าเท่ากับของสงฆ์นั้น) ทำอย่างนี้เขาก็จะพ้นจากความทุกข์ในนรกได้

 

กราบโมทนาบุญด้วยครับ

 

กราบโมทนาบุญด้วยครับ

 

รอบที่ 8 เริ่มแล้ว รายได้ทำบุญทุกอย่าง ในพระพุทธศาสนา ถวาย เป็นพุทธบูชา ธรรมมะบูชา สังฆะบูชา
ประเดิมครับ เบี้ยหลวงพ่อทรง
2999 บาท ครับ
__________________
อยู่กับปัจจุบันด้วยสติ
ขอต่อยอดจากพี่เปี๊ยกที่ 3,500 บาทครับ
__________________
เรื่องเล่าพระเนื้อขาว ลป.ทิม
Natui : error page

 

ขอกราบ หลวงปู่บุญศรี หลวงพ่อทรง ด้วยความนอบน้อมอย่างสูงสุด
ขออนุโมทนา ท่านเจ้าของกระทู้ และเพื่อนสมาชิกที่นำบทความดีๆที่
หาอ่านที่ไหนไม่ได้ ได้ทั้งการเพิ่มศรัทธาและความรู้ สาธุ สาธุ สาธุ

 

อย่าลืมนะท่านผู้ชม ในยุคนี้ ผู้หญิง เ้ป็นใหญ่ในแผ่นดิน มีหรือ ที่ผู้หญิง จะยอมง่าย ๆ คิดเสียใหม่

 

สถานะการณ์ ล่าสุดในการประมูล รอบที่ ๘ ครับ

http://palungjit.org/threads/ประมูลรอบที่-๘-หลวงปู่พระครูบุญศรี-หลวงพ่อทรง-หน้า-๑๐๙.329652/page-109

 

กราบขอบคุณครับ ปิยวาจา ทำให้ มีกำลังใจให้เขียนและสร้างบุญต่อครับ

สาธุ ๆ ๆ

 

บอกแล้วไม่เชื่อ

 

เชื่อแล้วจ้า............

 

โมทนา สาธุ ด้วยขอรับ