จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ภูภู, 6 เมษายน 2012.

  1. Kim_UoonSo

    Kim_UoonSo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    518
    ค่าพลัง:
    +5,937
    แลแหล่งโลกหนใดอยู่ในหล้า...ที่มีค่าความงามเหนือความหมาย?
    แลแหล่งโลกหนใดมิมลาย...มิสลายหายไปในคืนวัน?
    โอ้อกข้าร้าวแล้วมิแคล้วทุกข์...หลงสนุกแสงสีในความฝัน
    ยืมความสุขมัจจุราชหลายกัปป์กัลป์...จึงวิ่งหาแหล่งฝันนิรันดร์กาล
    จะมีไหมแหล่งใดอยู่ในภพ...ที่จะจบความเกิด-ดับให้ฉายฉาน
    ข้าเข็ดแล้วซึ่งกิเลสแห่งวิญญาน..."พระนิพพาน" ไปเช่นไรบอกข้าที?

    พิชญานิน, ๒๒ สิงหาคม


    ..................................




    พระนิพพาน จากคำครูอาจารย์ (สรุปย่อ)

    สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังษี:
    "นิพพาน คือว่างจากกิเลส จิตวิญญาณของพระอรหันต์ไม่สูญ ที่วิญญาณสูญนั่นคือวิญญาณในขันธ์ ๕ เท่านั้น "


    หลวงปู่บุดดา ถาวโร:
    "นิพพานไม่สูญ เป็นแต่อาสวะกิเลสสูญ อวิชชา ตัณหา อุปาทาน กรรม วิบาก มันสูญ แต่ สังคตะธรรม อสังคะธรรม วิราคะธรรมมันไม่ได้หมดไปด้วย"


    หลวงปู่ขาว อนาลโย:
    " อย่าไปยึดถือมัน ก็จิตนั่นแหละมันถือว่าตัวกู อยู่เดี๋ยวนี้ก็ดี เราถือว่าเราเป็นผู้ชาย เราเป็นผู้หญิง ก็แม่นจิตนั้นแหละ เป็นผู้ว่า มันไม่มีตนมีตัวดอก แล้วพระพุทธเจ้าว่าให้วางเสียให้ดับวิญญาณเสีย ครั้นดับวิญญาณแล้ว ไม่ไปก่อภพก่อชาติอีก ก็นั่นแหละพระนิพพาน"



    หลวงปู่ลี ธมมฺโร วัดอโศการาม
    " โลกนิพพาน ไม่มีทั้งเกิด ไม่มีทั้งตาย กายเป็นของสูญ จิตเป็นของไม่สูญ ไม่ตาย จิตที่ดับจากกาย ย่อมหายไป เหมือนกับไฟที่ดับจากเทียน"




    .
    .................................​



    (ปล. แต่งกลอนข้างบนนี้ซ้อมมือ เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว หลังจากไม่ได้แต่งกลอนมาสองปี
    อาจจะไม่เพราะเท่าไร แต่ก็แต่งด้วยใจล่ะเน้อ พี่ๆ, แล้วใครอยากรู้ว่าพระนิพพานอยู่ที่ไหน-ไปยังไง ให้ลองฝึกจิตให้เข้าถึงพระรัตนตรัย ให้เข้าถึงพระนิพพานด้วยการเรียนรู้จิตตนเองให้มาก อยู่กับพระ มีสติ...จิตเกาะพระไว้แนบแน่นดูจิ แล้วจะเข้าใจว่าพระนิพพานเป็นเช่นไร และอยู่ที่ใด ขอให้ทุกท่านถึงซึ่งพระนิพพานในชาตินี้เถิด...)
     
  2. Linda2009

    Linda2009 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    956
    ค่าพลัง:
    +9,998
    ขอกราบอนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ
     
  3. Linda2009

    Linda2009 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    956
    ค่าพลัง:
    +9,998
    ขอกราบอนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ
     
  4. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    สาธุ สาธุ สาธุ ขออนุโมทนาบุญกับจิตบุญดวงที่ 49 ค่ะ สาธุ๊
     
  5. Wittayapon

    Wittayapon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +19,233
    โปรดฟังอีกครั้งหนึ่ง ... โปรดฟังอีกครั้งหนึ่ง

    เรียนทุกท่านที่เกี่ยวข้อง
    อีเมล์ของกระผมยังไม่สามารถทำอะไรได้เลย ยังเข้าไม่ได้

    ขออภัยทุกท่านมา ณ ที่นี้ ใครจะส่งการบ้าน ส่งบนกระทู้ได้นะครับ หรือจะ PM ก้อได้ครับ

    ขออภัยในความไม่สะดวก

    จิตอยู่กับพระนะครับ .... ผมส่งให้ทุกคนเสมอ รับไปนะครับ

    ธรรมชาติสวัสดี

    วิทย์ จบ.11

    ปล.พี่ไก่ / คุณวัฒ ขึ้นไปรายงานตัวกับท่านพ่อด้วยนะครับ จบกิจสะที มาช่วยผมสอนยกจิตคนด้วยนะครับ มาทำบุญร่วมกัน ช่วยงานท่านพ่อ

    เรายกแล้ว แต่มีอีกหลายล้านคน รอเราไปโปรดเค้าอยู่ ... มาสร้างบารมีร่วมกันนะครับ

    กราบท่านพ่อครับ ....
     
  6. Wittayapon

    Wittayapon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +19,233
    คุณเกษ คืนนี้ รอรับนะ ผมจะทำอะไรให้ ทำจิตนิ่งๆ สบายๆนะครับ

    เกาะพระให้แนบแน่นนะครับ

    กลับบ้านกันนะครับ เราหลงมานานแล้ว

    วิทย์ จบ.11
     
  7. Wittayapon

    Wittayapon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +19,233
    จิตบำเพ็ญ จิตเกาะพระ และผู้กำลังฝึกทุกท่าน คืนนี้ ส่งจิตมาหาผมหน่อยนะ หรือ คิดถึงผมหน่อย

    ผมอยากจะให้ทุกท่านรับไปครับ

    ขอให้ทุกท่านถึงนิพพานในเร็ววันนี้ด้วยเทอญ

    สาธุ.....

    วิทย์ จบ.11
     
  8. suwipha satraphai

    suwipha satraphai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +461
    สวัสดีค่ะ ครูวิทย์
    สติยังตามไม่ทันจริงๆๆค่ะ ยังงงๆๆๆๆ
    เพราะช่วงหลังนี้ ก้มหน้าก้มตาทำอย่างเดียว ไม่สนใจสิ่งใดๆเลย
    พยายามทำความรู้สึกตัวให้ตลอดค่ะ
    เวลาไปเป็นพุทธอาสาช่วยงานครัวที่วัด
    ก็ฟังหลวงปู่สอนไปด้วย ท่านชอบถามว่า
    รู้สึกตัวหรือเคยชินค่ะ
    ขอบคุณครูวิทย์มากค่ะ ที่กรุณาให้คำแนะนำสั่งสอน
    ด้วยความเมตาตาเสมอมา
    ทำงานทางโลกแล้ว ยังสละเวลาสอนธรรมด้วย
    ขอขอบคุณครูทุกๆๆท่าน โดยเฉพาะพี่ภูที่ตั้งกระทู้ได้โดนใจมาก
    พี่เพ็ญที่สุดยอดในการแนะนำสั่งสอน และสมาชิกจิตเกาะพระทุกท่านค่ะ
    ไก่ถือว่าทุกท่านเป็นครูค่ะ ปกติจะเข้ามาอ่านและปฏิบัติตามเสมอ
    ยังตื่นเต้นอยู่ค่ะครูวิทย์ ขอเวลาตั้งหลักก่อนนะคะ
     
  9. Wittayapon

    Wittayapon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +19,233

    สวัสดีครับพี่ไก่

    ไม่ต้องตื่นตกใจครับ ... ทุกสิ่งที่เกิด เกิดจากการทำของพี่ครับ

    และไม่ต้องขอบคุณอะไรผมมากนะครับ ขอให้พี่ไก่แผ่บุญบารมีให้ผู้ฝึกทุกคนด้วยนะครับ เขาต้องการพลังบุญจากเราเสมอนะครับ

    สิ่งที่ผมทำนั้น เป็นกิจของผมที่ต้องรับใช้ท่านพ่อครับ ผมขออนุญาติเรียนเชิญพี่ไก่ออกอากาศเลยนะครับ มาเป็นครูสอนจิตเกาะพระนะครับ มาช่วยกันยกจิตคนขึ้นข้างบนกัน

    คุณโจ / คุณเมิล / คุณแอ๋ว / คุณพี่ปลื้ม / คุณวัฒ / คุณเกรียง / กัปตันพงษ์ .... ทุกท่านเลยนะครับ ผมขอเรียนเชิญออกอากาศเลยนะครับ

    มาทำเพื่อท่านพ่อ เพื่อพระพุทธศาสนาของเรานะครับ

    มีคนอีกมากมาย รอเราไปช่วยเหลือนะครับ

    ใครที่ยังไม่มีครู ผมเปิดรับนะครับ เดี๋ยวผมและจิตบุญข้างบนจะช่วยท่านนะครับ

    ทางสายเอกมาแล้วทุกท่าน

    เราหลงทางกันมามากแล้ว หลายภพ หลายชาติ .... พอกันสะที กับการเวียนว่ายตายเกิด ....

    ขอให้ทุกท่านเจริญในธรรม เราจะจูงมือทุกท่านไปส่งที่บ้านเดิมของจิตแท้เรานะครับ

    ธรรมชาติสวัสดี

    วิทย์
     
  10. natthapatpun

    natthapatpun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +25,214
    55555555555 ขอหัวเราะดัง ๆ หน่อย
    จบกิจกันไปหลายท่าน
    ครูเพ็ญค่อยตัวเบาขึ้นหน่อย
    เดี๋ยวจะตามครูทุกท่านไปตามเก็บ(ยก)ลูกศิษย์นะคะ
    เพราะสายนอกไ่ม่ค่อยมีไรหนักแล้ว
    สองจิตบุญอันหนักหน่วงได้ปลดพันธนาการจากพี่เพ็ญไปแล้ว
    ขอใบ้หน่อย จิตบุญ 45 กับ 48 เป็นสายนอกกระทู้ที่หนักๆๆๆๆ
    โอ่ย ใครจัดมาเนี้ย กราบขอขมาท่านพ่อ สาธุ
     
  11. Wittayapon

    Wittayapon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +19,233
    นิ่ง

    ช่วงนี้อยากจะบอกกล่าวจิตบำเพ็ญทุกคน

    อย่าไปตื่นเต้น อย่าไปกังวล อย่ารน อย่าอยาก

    ช่วงนี้ ขอให้ทุกคน นิ่ง

    นิ่ง คือ นิ่งจริงๆนะ ไม่ใช่ นิ่งเฉย

    ทำจิตให้มั่นคง อยู่กับพระไป อย่าไปตื่นเต้น อย่าไปกังวล อย่าลุ้น ... ทำจิตสบายๆ ทรงฌาณสี่ไป ใช้ไตรลักษณ์ตัดทุกสิ่งอย่างไป

    ให้จิตวิปัสสนาไป ให้จิตใช้ปัญญาญาณไป ... ปล่อยเค้า เดี๋ยวดีเอง

    หน้าที่ของคุณ คือ ทำจิตให้นิ่งที่สุด มั่นคงในพระพุทะฌจ้า ในพระนิพพาน เท่านั้นพอ

    ถ้ายังไม่นิ่ง ยังอยาก ..... ยังไม่ได้กลับบ้านนะครับ

    วางกำลังใจให้ถูก ทางกลับบ้านก้อไม่ไกล ...
    วางกำลังใจไม่ถูก ก้อเดินวนต่อไป ทั้งที่ประตูอยู่ข้างหน้าแล้ว ...

    วางกำลังใจให้เป็น เย็นทั่วจิต
    วางกำลังใจผิดๆ ติดตลอดกาล

    จิตนิ่ง ... ไม่ไหวติงต่อสิ่งใด
    มุ่งหน้าไปนิพพานด้วยจิตแท้
    จิตอ่อนไหว ร้อนรน กังวลแย่
    ก้อต้องแพ้ให้ความอยากทุกชาติไป

    ขอให้ทุกคนเดินไปด้วยความนิ่ง มั่นใจในสิ่งที่ท่านทำ มั่นใจในนิพพาน ในท่านพ่อ

    แล้วท่านก้อจะได้ เมื่อท่านวาง
    เมื่อหมดอยาก ก้อจะได้ นะครับ

    ผมเอาใจช่วยทุกดวงจิตนะครับ

    ธรรมชาติสวัสดี

    วิทย์ จบ.11
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 สิงหาคม 2012
  12. เมธญา

    เมธญา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    92
    ค่าพลัง:
    +1,584
    อนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยนะคะ ว่าแต่ว่าคุณครูเพ็ญมีเวลาอ่านการบ้านฉบับแรกที่ส่งไปทางเมลล์ให้หรือยัง ระหว่างรอก็แอบฝึกจำพระไปได้สักสองวันแล้ว แต่ก็มีลืมๆบ้าง ก็จะพยายามค่ะ ยังไม่ชินกับการ focus ที่ภาพพระเพียงอย่างเดียว ยังติดการหายใจเข้าพุธและออกโธอยู่ ไม่ทราบว่าทำทั้งสองอย่างพร้อมกันได้ไหมคะ ยังไง
    ถ้าครูเพ็ญม่เวลา ก็ดู้เมลล์การบ้านให้ด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ ส่งจาก methaya9@gmail.com ค่ะ
     
  13. watta chan

    watta chan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    71
    ค่าพลัง:
    +586
    กราบนมัสการท่านสมเด็จพ่อองค์ปฐมฯ
    สวัสดีท่านพี่ใหญ่ภู ซึ่งเป็นครูคนแรกของผมเลย
    ผมเข้ามาในกระทู้นี้ได้ก็เพราะติดธรรมมะ ท่านพี่นี้แหละ
    คงจำวันที่ผมเข้ามาทักทายท่านพี่ใหม่ ๆ ได้นะ
    สวัสดี ครูเพ็ญ ครูวิทย์ ผู้ซึ่งทำให้ผมได้มีวันนี้
    เกาะธรรมมะพี่ภูอยู่ดี ๆ ทำไมมาเป็นลูกศิษย์ครูวิทย์ได้ก็ไม่รู้นะ
    สงสัยท่านสมเด็จพ่อฯ จัดสรรค์ให้
    ประมาณ 3 เดือนเต็มกับการถูกปลุกปล้ำ ขยำ เคี่ยวเค้น จากครูวิทย์
    ถึงแม้เกือบหลุดไปครั้งหนึ่ง แต่ด้วยความเมตตาอย่างยิ่งของครูวิทย์ดึงไว้
    ว่ายังไงก็ไม่ให้หลุด เพราะเราสัญญากันไว้แล้วว่าจะเดินกลับบ้านด้วยกัน
    ท่านพ่อรอเราอยู่
    ถ้าปล่อยคุณไปผมก็ผิดสัญญาด้วยนะ ทำให้ผมต้องกลับมาสู้อีกครั้งหนึ่ง
    ก็ได้คุณครูวิทย์นี่แหละคอยให้กำลังใจ ทั้งเมล์ และโทรศัพท์ ไม่เคยขาด
    ไม่รู้จะขอบคุณท่านยังไงดีนะ ท่านเป็นครูที่เมตตาจริงๆ
    อยากเล่ารายละเอียดถึงอารมณ์วันนี้เหมือนกันนะ
    แต่เกรงว่าจะไม่เหมาะ แต่ก็ได้ส่งการบ้านไปทางครูวิทย์แล้วละ
    ขอบุญกุศลใดที่เกิดขึ้นในวันนี้ที่ผมได้รับเพียงใด
    ขอบุญกุศลนี้จงถึงแก่จิตเกาะพระและจิตบำเพ็ญทุกท่าน
    และขอให้ทุกท่านที่เกาะกระทู้นี้จง ถึงฝั่งพระนิพพานดังที่ปรารถนาโดยทั่วกันนะครับ
    วัฒ
     
  14. natthapatpun

    natthapatpun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +25,214
    นิ่ง คือ นิ่งจริง ๆ นะ ไม่ใช่ นิ่งเฉย

    นิ่ง คือ นิ่งจริงๆนะ ไม่ใช่ นิ่งเฉย

    ทำจิตให้มั่นคง อยู่กับพระไป อย่าไปตื่นเต้น อย่าไปกังวล อย่าลุ้น ... ทำจิตสบายๆ ทรงฌาณสี่ไป ใช้ไตรลักษณ์ตัดทุกสิ่งอย่างไป

    ให้จิตวิปัสสนาไป ให้จิตใช้ปัญญาญาณไป ... ปล่อยเค้า เดี๋ยวดีเอง

    หน้าที่ของคุณ คือ ทำจิตให้นิ่งที่สุด มั่นคงในพระพุทธจ้า ในพระนิพพาน เท่านั้นพอ



    กล่าวถึงความ "นิ่ง" พี่เพ็ญขอเล่าเรื่องการปฏิบัติจิตของจิตบุญ 48 ให้ทราบพอเป็นแนวทางกันนะ

    จิตบุญ 48 ท่านเป็นสมณเพศ แต่ท่านน่ารักมาก ท่านไม่มีอัตตามานะเหลืออยู่เลย แต่ท่านก็ยังเป็นทุกข์ใจว่าทำไมเราไม่สำเร็จสักที เราส่งลูกศิษย์ให้ได้ดีไปก็หลายคน แต่ทำไมเราจึงเข้าไม่ถึงแก่นของธรรมสักที ท่านปรารภกับพี่เพ็ญมาว่าอย่างนี้

    พี่เพ็ญก็ตอบอย่างสบาย ๆ เลยว่าเพราะท่านไม่เข้าใจในมรรค ท่านวางกำลังใจไม่ถูก ท่านสอนคนอื่นได้ แต่ท่านไม่เข้าใจจิตตนเอง ท่านตามหาจิตตนเองไม่เจอ

    ท่านร้องออกมาเสียงดัง(ทางโทรศัพท์)เลยว่า "ใช่ เราหาจิตไม่เจอ เราหาตรงนั้นไม่เจอ ทำไม?"

    พี่เพ็ญตอบท่านไปว่า "ก็เพราะจิตของท่านไม่นิ่ง จิตท่านยังส่่งส่ายออกไปข้างนอก ท่านไม่ได้เฝ้าดูจิตตนเองให้แนบแน่นตลอดเวลา"

    ท่านถามว่า "ทำยังไง?"

    พี่เพ็ญเรียนท่านว่า "พระอาจารย์ การที่พระอาจารย์จะเข้าถึงแก่นของธรรม พระอาจารย์จะต้องทรงฌานสี่ให้ได้ต่อเนื่องทั้งวันทั้งคืน..."

    ท่านบอกว่า "นั่นสิ เราไปเรียนกับครูอาจารย์มาหลายสำนัก ทุกท่านบอกว่าเราำทำไม่ถูก เราทำไม่ตรง แต่ทำไมไม่มีใครบอกเราได้เลยว่า เราทำไม่ถูกอย่างไร ทั้งที่เราเคยเข้าถึงสมาธิจนจิตนิ่ง จิตเห็นอสุภะตั้งแต่เกิดจนดับเป็นผุยผง แล้วมันก็หยุดอยู่แค่นั้น ทำไมจิตไม่เดินต่อไป เราตามหาคำตอบนี้มานานหลายปีแล้ว สี่-ห้าปีที่เราธุดงค์รอนแรมไปตามจังหวัดต่าง ๆ ตามหาครูเก่ง ๆ ครูที่เราไปหาก็ล้วนแต่ขึ้นชื่อทั้งนั้น แล้วทำไมเราทำไม่ได้ ไม่มีใครตอบปัญหาคาใจของเราได้เลย มันติดค้างคาใจของเรามานานแล้ว เราอยากจะรู้คำตอบ"

    พี่เพ็ญเรียนว่า "คำตอบมีอย่างเดียว คือจิตพระอาจารย์ไม่นิ่ง พระอาจารย์ไม่สามารถทรงฌานสี่ได้ต่อเนื่อง..."

    ท่านบอกว่า "ใช่ เรายอมรับว่าจิตเราไม่นิ่ง เพราะเราต้องสอนลูกศิษย์ จิตเราคอยส่งช่วยแต่ลูกศิษย์ อยากให้ลูกศิษย์ไ้ด้ดีและพ้นทุกข์กันทุกคน"

    พี่เพ็ญเรียนว่า "จิตของท่านมีเมตตาไม่มีประมาณ แสดงให้เห็นว่าท่านเจริญพรหมวิหารสี่มาอย่างต่อเนื่องนับเป็นเวลานานมากแล้ว"

    ท่านบอกว่า "ใช่ เป็นอย่างนั้น"

    พี่เพ็ญเรียนว่า "พระอาจารย์ การที่พระอาจารย์จะทำจิตให้นิ่งพระอาจารย์จะต้องทรงฌานสี่ แต่จิตปกติของผู้เจริญสมถภาวนาด้วย พุท-โธ จะต้องใช้เวลาในการบ่มเพาะจิตให้นิ่งนั้น ต้องใช้เวลานานมาก อาจจะว่ากันเป็นสิบ ๆ ปี..."

    ท่านบอกว่า "ใช่ เป็นอย่างนั้นจริง ๆ เราก็ภาวนา พุท-โธ มาตลอด"

    พี่เพ็ญเรียนว่า "พระอาจารย์ต้องวางรูปแบบเดิมก่อน ทิ้งคำภาวนาไปซะ แล้วนำจิตมาจับภาพพระแทนคำภาวนา การนำจิตมาจับภาพพระเป็นพุทธานุสสติกรรมฐาน+กสิณ ซึ่งให้อานุภาพในการทรงฌานได้รวดเร็ว ทำง่่ายและต่อเนื่องได้ในเวลาอันรวดเร็ว แต่สำคัญที่สติของพระอาจารย์จะต้องตามจิตให้ทัน ซึ่งหนูวัดกำลังใจพระอาจารย์ได้ว่า สติของพระอาจารย์ดีมากแล้ว เพียงแต่ทรงฌานไม่ต่อเนื่องเท่านั้นเอง"

    ทา่นถามว่า "แล้วจะต้องทำยังไง คำนี้เราไม่ค่อยแน่ใจ เราไม่เคยได้ยินมาก่อน"

    พี่เพ็ญเรียนว่า "พระอาจารย์จะต้องนึกถึงภาพพระ ภาพพระองค์ใดก็ได้ที่พระอาจารย์นึกออกหรือนึกได้ แล้วให้พระอาจารย์ทำใจจดจ่ออยู่กับภาพนั้น หมายถึงนึกถึงภาพพระที่เห็นอยู่ในจิตบ่อย ๆ นึกเนือง ๆ ทำทั้งวันทั้งคืน ทำให้ิจิตเกาะอยู่กับภาพพระ จิตมีความผูกพันอยู่กับภาพพระ ถ้าไม่เห็นแล้วก็ต้องคิดถึงภาพพระหรือพะวงหาภาพพระอยู่ร่ำไป แต่ต้องทำด้วยใจเป็นกลาง ไม่เครียด และอารมณ์สบาย เพียงแต่ว่าจิตจะต้องแนบแน่นอยู่กับพระ หมายถึงว่าจิตทรงฌานหรือจิตเป็นสมาธิ สิ่งที่เราต้องการคือสมาธิขั้นสูง โดยเทียบกับภาพพระ ถ้าพระอาจารย์เห็นภาพพระเป็นประกายพรึก หรือแสงประกาย หรือสว่างไสว นั่นหมายความว่าจิตพระอาจารย์ทรงฌานสี่ได้แล้ว เมื่อเป็นเ่ช่นนั้น ให้พระอาจารย์ดูอยู่ที่ภาพพระเป็นประกายเพียงอย่างเดียว จิตเป็นเอกัคตาอยู่กับภาพเดียว ทรงอยู่อารมณ์เดียวคือฌานสี่ จิตไม่หวั่นไหววอกแวก แต่มีสติรู้สึกตัวอยู่ตลอดดเวลา ไม่เคลิ้ม ไม่หลับ"

    จากคำอธิบายของพี่เพ็ญ พระอาจารย์เข้าใจได้อย่างรวดเร็ว เพราะท่านปฏิบัติมานานแล้ว ท่านรู้จักอารมณ์ใจอารมณ์ฌานและรู้จักองค์ฌานเป็นอย่างดี เพียงแต่ท่านไม่สามารถทรงฌานสูงได้ต่อเนื่องเท่านั้นเอง

    หลังจากฟังคำอธิบายแล้วพระอาจารย์ก็บอกว่าจะลงมือทำเดี๋ยวนี้เลย ใจอภิญญาท่านไวอย่างนี้เลยนะ พอมีคนมาสะกิดให้ตื่นรู้ ท่านไม่รีรอ บอกว่าจะทำเดี๋ยวนี้เลย

    ท่านทำไปหนึ่งคืนท่านก็โทร.มาหาพี่เพ็ญในวันรุ่งขึ้น ท่านบอกว่ามองไม่ค่อยเห็นภาพพระเลย ภาพเป็นเงาลาง ๆ สงสัยเราทำไม่ได้ พี่เพ็ญก็บอกว่าเดี๋ยวก่อนพระอาจารย์ท่านอย่าเพิ่งด่วนสรุปอย่างนั้น ช่วยอธิบายภาพพระให้ฟังหน่อย ท่านบอกว่าภาพพระเป็นเงาดำ ๆ ไม่เห็นรายละเอียดอะไรเลย พี่เพ็ญถามว่าเงาดำนั้นทึบหรือใส ท่านบอกว่าทึบ พี่เพ็ญถามว่าภาพพระที่เห็นเป็นเงาดำทึบนั้นท่านเห็นเป็นกรอบเป็นโครงรูปพระแต่ดำทึบใช่ไหม ท่านตอบว่าใช่ พี่เพ็ญถามว่าอารมณ์ใจของพระอาจารย์มันนิ่งสงบอยากอยู่ตามลำพังใช่ไหม ท่านตอบว่าใช่

    พี่เพ็ญเรียนท่านว่าพระอาจารยทรงฌาานสามอยู่นะ แต่เป็นฌานสามหยาบ ๆ ท่านทำเสียงเหมือนจะไม่เชื่อว่าอะไรมันจะไวปานนั้น ก็เพิ่งลองทำเมื่อไม่กี่ชั่วโมงมานี่เอง ท่านพูดทำนองว่าทำมาตั้งหลายปีไม่ยักรู้ว่าอารมณ์แบบนี้เป็นฌานสาม พี่เพ็ญไม่สงสัยหรอกว่าทำไมท่านจึงตามจิตตนเองไม่ทันว่าอารมณ์ในฌานเหล่านั้นเป็นเช่นไร เพราะสมถภาวนานี้ถ้าใครได้นำจิตเข้าไปสู่กระแสความนิ่งในกรรมฐานแล้ว ส่วนใหญ่ก็มักจะเคลิบเคลิ้มไหลลื่นไปตามอารมณ์ฌานโดยที่สติตามจิตไม่ทันก็เลยไม่รู้ว่าจิตอยู่องค์ไหนในฌานนั้น ๆ พี่เพ็ญเคยปฏิบัติมาก่อนจึงเห็นข้อแตกต่างระหว่างการทรงฌานในลักษณะนั่งนิ่งกับลักษณะเคลื่อนไหว เรื่องนี้พี่ลูกพลังเคยสงสัยมาครั้งหนึ่งแล้วสมัยที่ท่านเป็นผู้ศึกษาอยู่ และพี่เพ็ญก็ได้ตอบไปแล้ว คราวนี้มาเจอข้อสงสัยของพระอาจารย์อีกครั้ง

    พี่เพ็ญแนะนำให้ท่านทำจิตจับภาพพระอยู่ที่ภาพดำทึบนั้นต่อไป ท่านนิ่งไปสักครูหนึ่งเหมือนจะงงว่าก็จะให้ดูทำไม ภาพไม่เห็นมีอะไรเลยมีแต่ภาพดำ ๆ แต่ท่านก็เชื่อครูหลังจากได้รับคำแนะนำให้วางกำลังใจให้ถูกตรงแล้ว ท่านก็ทำจิตเกาะพระต่อไป ดูภาพนั้นไปเรื่อย ๆ อย่างตั้งใจ ทั้งเดินจงกรมและนั่งกรรมฐาน ทำอยู่อารมณ์เดียว ท่านหายไปช่วงเวลาหนึ่งก็โทร.กลับมารายงานอีกว่า ตอนนี้ภาพพระเปลี่ยนไปแล้ว ท่านถามว่าภาพพระเปลี่ยนได้ใช่ไหม พี่เพ็ญตอบว่าใช่ เมื่อจิตจะเอียดขึ้นภาพพระจะเปลี่ยนไปเองโดยไม่ต้องกำหนด ท่านบอกว่าตอนนี้เราเห็นภาพพระเป็นแสงวูบวาบ ๆ อยู่ในจิต จิตเราคึกคักมาก เห็นอยู่ตลอดเวลาเลยนะ ตอนที่คุยอยู่นี่ก็เห็น พี่เพ็ญเรียนท่านว่าพระอาจารย์ทรงฌานสี่แล้ว ดีมาก ๆ เลย นี่แหละคือสิ่งที่เราต้องการในการปฏิบัติกรรมฐาน คือจิตนิ่งจิตทรงฌานสี่ แต่ผู้ปฏิบัติส่วนใหญ่เข้าไม่ถึง แม้เข้าถึงก็รักษาไว้ไม่ได้ ท่านตอบเสียงหนักแน่นเลยว่า "ใช่!"

    ท่านบอกด้วยเสียงตื่นเต้นตื้นตันว่านี่แหละที่เราตามหาอยู่ เราเคยเข้าถึงแต่เรารักษาไว้ไม่ได้ เราตามหาครูที่จะมาช่วยเราตรงนี้นานแล้ว หลายปีแล้ว เราอธิษฐานจิตถึงพระพุทธเจ้า ครูอาจารย์และหลวงพ่อฤๅษีลิงดำอยู่ทุกวันว่าขอให้เราได้พบเจอครูอาจารย์ที่จะสามารถช่วยเราได้ ไม่น่าเชื่อว่าวันนี้เราจะได้มาพบคุณเพ็ญ พี่เพ็ญกราบเรียนท่านว่าเพราะเราเป็นสายบุญที่เคยมีความสัมพันธ์กันมาก่อน วันหนึ่งเราจึงได้มาพบกัน


    มีต่อ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 สิงหาคม 2012
  15. natthapatpun

    natthapatpun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +25,214
    ต่อ

    พี่เพ็ญแนะนำท่านว่านับจากนี้ไปขอให้พระอาจารย์ทรงฌานสี่ให้ต่อเนื่องทั้งวันทั้งคืนโดยทำจิตจดจ่ออยู่กับภาพพระเป็นประกายตลอดเวลา ถ้าภาพพระหายไปก็ไม่ต้องกังวล ให้เอาสติเข้าไปดูพระในกายว่าท่านตั้งอยู่ที่ใด ท่านตอบทันทีว่าท่านเห็นอยู่ที่อกเปล่งแสงวูบวาบตลอดเวลา ภาพชัดขึ้นทุกที ใจมีปีติมาก ปลาบปลื้มมาก พี่เพ็ญบอกว่าดีแล้วขอให้พระอาจารย์เห็นพระในจิตตลอดเวลา ทำอยู่อารมณ์เดียว ไม่ส่งจิตออกไปคิดเรื่องอื่น นอกจากจะเกิดวิปัสสนาญาณขึ้นมาเท่านั้น เมื่อจิตเกิดวิปัสสนาญาณ จิตจะคิดค้นพิจารณาทบทวนธรรมได้เองโดยไม่ต้องใช้สมอง ให้ปล่อยจิตทำงานไปตามธรรมชาติ โดยมีสติเป็นเพียงผู้เฝ้าดูอย่าให้คลาดสายตา ถ้าสติเผลอเราจะไม่รู้ว่าจิตพิจารณาเรื่องอะไรก็เลยเหมือนว่าจิตมันฟุ้งไปเลย แต่ถ้าสติตามทันจิตจะเห็นว่าฟุ้งนั้นเป็นธรรมะตลอดเวลา เนื่องจากว่าจิตเข้าไปขุดคุ้ยหาอาสวกิเลสตั้งแต่หยาบจนถึงละเอียดออกมาแสดงให้สติได้รู้เห็น แล้วปัญญาก็มีหน้าที่พิจารณาทบทวนในเรื่องนั้น ๆ ให้เป็นไปตามกฎไตรลักษณ์

    พระอาจารย์หยุดการสนทนานำิจิตกลับไปปฏิบัติตามคำแนะนำ วันรุ่งขึ้นท่านโทร.มาบอกว่าเมื่อคืนจิตวิปัสสนาตลอดเลย มันไปคุ้ยเรื่องอดีตขึ้นมาให้เห็นกันชัด ๆ เลยว่ายังมีสิ่งนี้ ๆ ค้างคาอยู่ในจิตตามที่คุณเพ็ญบอกไว้จริง ๆ พอเห็นแล้วเราก็รู้สึกโล่ง เบาเลย แต่...

    พี่เพ็ญถามว่าพระอาจารย์ยังมีกังวลอยู่ใช่ไหม ท่านตอบว่าใช่คุณเพ็ญรู้ใจเรา เพราะจิตหนูตามดูจิตพระอาจารย์ตลอดจึงเห็นว่าจิตพระอาจารย์ยังติดอยู่นิดหนึ่ง ท่านถามว่าทำไงจะรู้ว่าเรื่องนั้นคือเรื่องอะไร พี่เพ็ญบอกเล่าเรื่องที่คุณแม่สุมาลีไปรู้กรรมเก่าของท่านให้ทราบ จิตท่านก็ตื่นขึ้นมาทันทีเลยว่าใช่เราเคยคิดถึงสถานที่นั้นเราอยากไปแต่ไม่รู้ว่าอยากไปทำไม อ้อ มันติดตรงนี้เอง เรารู้แล้ว เรารู้แล้ว มันชัดมากเลย ตอนนี้เรามั่นใจมาก เรามั่นใจว่าเราจะหลุดก็ตรงนี้แหละ นี่เองคือสิ่งที่เรากังวลอยู่ พี่เพ็ญบอกว่าขอให้พระอาจารย์เข้าสมาธิอาราธนาบารมีท่านพ่อช่วยเปิดดวงตาให้เห็นกรรม เรียกเขามาแล้วเจรจากับเขาบอกกล่าวถึงความตั้งใจจริงในการปฏิบัติของเรา ขออโหสิกรรมและแผ่เมตตาให้กับเขาอุทิศบุญจากการปฏิบัติให้เขาไป ขอบารมีท่านพ่อช่วยดลใจให้เขาเลิกพยาบาทและรับบุญที่เราอุทิศให้ ท่านบอกว่าเราเข้าใจแล้วเดี๋ยวเราจะทำเดี๋ยวนี้เลย ขอกำลังใจจากคุณเพ็ญด้วยนะ หนูยกบุญให้พระอาจารย์ทั้งหมดเลย ท่านกล่าวโมทนา สาธุ

    หลังจากนั้นไม่ถึงชั่วโมงท่านโทร.มาบอกด้วยความปีติและโล่งอกโล่งใจว่า "หลุดแล้ว เขาให้อโหสิกรรมแล้ว เขาไปแล้ว พอภาพเขาหายไป ก็มีพระพุทธเจ้าองค์สีขาวสว่างลอยลงมาจากเบื้องบน ท่านบอกให้ตามเรามา พระอาจารย์จึงยื่นมือไปจับชายผ้าสีขาวของท่านแล้วลอยตามท่านขึ้นข้างบนไปทันทีเลย โอ๊ย พระอาจารย์ไม่เคยเห็นอะไรอย่างนี้มาก่อนเลย มันตื้นตันปลาบปลื้มมาก น้ำตาพระอาจารย์ไหลตลอดเลย พระอาจารย์ไม่เคยร้องไห้ด้วยความดีใจอะไรอย่างนี้มาก่อนเลยนะ" พี่เพ็ญก็พลอยโล่งใจไปด้วย โมทนา สาธุกับพระอาจารย์เป็นคนแรกเลย ทั้งที่ท่านเคยตั้งเจตนาจะให้ลูกศิษย์ท่านอีกคนหนึ่งเป็นคนโมทนาเป็นคนแรก พี่เพ็ญพูดปนหัวเราะว่าไม่ทันหนูแล้วล่ะ พระอาจารย์หัวเราะอารมณ์ดีเลย สอบอารมณ์ท่านจนแน่ใจว่าจิตท่านวางได้จริง ๆ พี่เพ็ญจึงขึ้นกระทู้ประกาศ

    ทั้งหมดทั้งมวลนี้ขอยกความดีทั้งหมดให้คุณแม่สุมาลีผู้อยู่เบื้องหลังที่ไปช่วยนำพาดวงจิตของพระอาจารย์ให้หลุดออกมาจากกลุ่มเจ้ากรรมนายเวรทีละชั้นจนเหลือชั้นสุดท้ายที่ยากและหินสุด ๆ เพราะเขาปฏิเสธไม่รับบุญคุณแม่สุมาลี แต่กลับยอมรับบุญของพระอาจารย์ นั่นหมายความว่าเขารอรับบุญใหญ่คือบุญสูงสุดของพระอาจารย์นั่นเอง

    ที่เล่ามาทั้งหมดนี้สรุปได้อย่างเดียวคือ "หน้าที่ของคุณ คือ ทำจิตให้นิ่งที่สุด มั่นคงในพระพุทธจ้า ในพระนิพพาน เท่านั้นพอ" ตามที่ครูวิทย์ได้กล่าวชอบแล้วนั่นเอง การจะไปนิพพานทำแค่นี้เอง จริง ๆ นะจะบอกให้

    จบแล้วจ้า

    ปล. ลืมบอกไปว่าพระอาจารย์จบกิจได้ภายใน 2 วันเท่านั้นเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 สิงหาคม 2012
  16. Linda2009

    Linda2009 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    956
    ค่าพลัง:
    +9,998
    หากยังติดอยู่กับการฝึกเดิม หากรู้สึกอึดอัด ก็ทำแบบเดิมได้แต่อย่านาน เมื่อรู้สึกสบายใจก็ให้กลับมาจับภาพพระที่ชอบด้วยใจสบายๆค่ะ ภาพพระจะชัดหรือไม่ไม่เป็นไรค่ะ หมั่นขอขมาพระรัตนตรัย พร้อมกับขออาราธนาบารมีขององค์พระปฐมและพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ช่วยนะคะ ที่สำคัญศีลห้าต้องบริบูรณ์ค่ะ(ทางกาย)
    ระหว่างรอครูเพ็ญ หากมีข้อสงสัยเขียนลงกระทู้ได้เลยค่ะ แล้วครูเพ็ญจะตอบให้ละเอียดอีกครั้งนะคะ แล้วจะติดใจในคำตอบแลธรรมมะของครูเพ็ญนะคะ ...จะบอกหั่ยย ขอเป็นกำลังใจให้มากมายเลยค่ะ(kiss)
     
  17. natthapatpun

    natthapatpun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +25,214

    คุณเมธญาอย่าเพิ่งท้อนะ เดี๋ยวพี่เพ็ญตามไป ระหว่างนี้จับภาพพระไปเรื่อย ๆ และส่งการบ้านเข้ามาอย่างต่อเนื่องนะคะ เน้นทำจิตดูภาพพระด้วยอารมณ์ใจสบายค่ะ เหมือนดูภาพในนิตยสาร หรือดูภาพวิวทิวทัศน์ อย่าไปเค้นอารมณ์ให้จ้องดูจนจิตเครียดนะคะ มีคนอ้วกมาแล้วเพราะเค้นอารมณ์หนักเกินไป ทำใจให้สบาย ดูภาพพระไปด้วยใจสบายค่ะ เห็นภาพชัดหรือไม่ชัดไม่เป็นไร อย่าไปใส่ใจรายละเอียดบนองค์พระมากนัก จิตเห็นอย่างไรดูอย่างนั้น ต้องปล่อยตามใจจิตค่ะ อย่าไปบังคับจิตนะ ถ้าตาเนื้อดูภาพหนึ่งแต่จิตไปเห็นอีกภาพหนึ่งไม่เหมือนที่ตาเนื้อเห็น ให้เลือกภาพที่จิตเห็นนะคะ ทำต่อไปค่ะแล้วส่งการบ้านให้ต่อเนื่องนะ เดี๋ยวพี่เพ็ญตามไป
     
  18. PlaiifarPP

    PlaiifarPP เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +1,194
    โมทนาสาธุกับจิตบุญทั้งสี่ดวงด้วยค่ะ
    จิตบุญ ๔๖ คุณไก่
    จิตบุญ ๔๗ น้องลิสา ลูกสาวคุณกานต์
    จิตบุญ ๔๘ พระอาจารย์ชัชวาล
    จิตบุญ ๔๙ คุณวัฒน์ (Watta Chan)
    โมทนาบุญกับคุณครูและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกท่านนะคะ สาธุ


    เดี๋ยวก็จะมีคนยกตามมาเรื่อยๆ โมทนารอล่วงหน้าเลยได้มั้ย ๕๕๕
     
  19. newwave1959

    newwave1959 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    200
    ค่าพลัง:
    +2,681

    ขอโมทนา สาธุ กับคุณ watta jan ลูกศิษย์ครูวิทย์ที่สามารถยกจิตได้ในวันนี้ด้วยนะครับ
    ผมขอแผ่เมตตา และยกผลบุญบารมีที่ได้กระทำมาทั้งหมด ให้กับคุณwatta jan หมดเลย
    และให้กับครูวิทย์ และครูจิตบุญทุกท่านที่ได้พยายามช่วยเหลือแนะนำช่วยดันส่งอย่างเต็มที่ จนสำเร็จในที่สุด

    อ้อ...ครูวิทย์ครับ คืนนี้ผมขอส่งจิตไปช่วยเต็มที่เลยนะครับ เห็นมีสัญญานใกล้ๆจะถึงกันหลายคนแล้ว
    โดยเฉพาะคุณเกษ ก็พยายามน่าดูเหมือนกัน ผมขอส่งพลังไปช่วยสุดๆไปเลยครับ สาธุ

    ด้วยจิตคารวะ

    นิวเวป จบ.๑๔
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 สิงหาคม 2012
  20. Linda2009

    Linda2009 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    956
    ค่าพลัง:
    +9,998
    หลวงพ่อฤาษีลิงดำ (พระราชพรหมยาน วีระ ถาวโร ปธ.๔) วัดท่าซุง อุทัยธานี

    .....ความหมายตามบาลี
    (ยมกสูตร) คนที่เห็นว่าพระอรหันต์ตายแล้วสูญ พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่าเป็นความเห็นผิด แล้วท่านบรรดานักเขียนนักแต่งทั้งหลายท่านเอามาจากไหนว่า นิพพานสูญ อันนี้น่าจะเกิดจากความเข้าใจผิดอะไรกันสักอย่าง เพราะมีพระบาลีบทหนึ่งว่า นิพพานนัง ปรมังสูญญัง แปลว่านิพพานเป็นธรรมว่างอย่างยิ่ง ท่านอาจจะไปคว้าเอา ปรมังสูญญัง โดยเข้าใจว่า สูญโญเข้าให้ ......

    ดูเพิ่มเติมที่ [
    หนังสือคู่มือปฏิบัติพระกรรมฐาน อุปสมานุสสติกรรมฐาน]

    ผู้ถาม : เกิดมาแล้วทำไมจึงต้องตายครับ…?
    หลวงพ่อ : เพราะอยากตาย ไอ้คนอยากเกิดก็อยากตายด้วยใช่ไหม…เกิดแล้วมันก็ต้องตาย เพราะธรรมดาเราฝืนมันไม่ได้ ทีนี้ถ้าเราไม่ต้องการตาย เราก็ไม่ต้องเกิด
    ผู้ถาม : ที่นิพพานไม่มีการเกิดใช่ไหมครับ จึงไม่มีการตาย…?
    หลวงพ่อ : อันนี้เคยมีพระหรือพราหมณ์ถามพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าตรัสว่า นิพพานจะไม่มีการเกิดก็ไม่ใช่ จะเรียกว่าเกิดก็ต้องเกิด ถ้าจะว่าไม่เกิด แต่สภาวะมันมีอยู่ ตอนแรกฉันอ่านแล้วไม่เข้าใจ ก็เลยย่องไปถามท่าน ฉะนั้นนิพพานควรเรียกว่าอะไร ท่านบอกว่าควรจะเรียก "ทิพย์พิเศษ" ที่ไม่มีการเคลื่อน เทวดาหรือพรหมยังมีการเคลื่อน ที่เรียกว่า "จุติ" จุติ แปลว่า เคลื่อน ไอ้ศัพท์ที่ว่าตายนี่ พระพุทธเจ้าท่านไม่เรียก ท่านเรียก กาลัง กัตวา ถึงวาระแล้ว ถึงกาลเวลาแล้ว ท่านไม่เรียกว่าตาย ตาย นี่ มรณะ ตามศัพท์ของบาลีไม่มีคำว่ามรณะ ท่านเรียกว่า กาลัง กัตวา แปลว่าถึงวาระที่จะต้องไปจากร่างกายนี้ ร่างกายนี้มันพังมันไม่ยอมทำงาน
    ผู้ถาม : ขอหลวงพ่อโปรดอธิบายเรื่องนิพพาน ให้ผมเข้าใจด้วยครับ
    หลวงพ่อ : คำว่า นิพพาน เหรอ…คุณต้องการรู้เรื่องนิพพานไปทำไม…?
    ผู้ถาม : (หัวเราะ) เอาไว้ประดับความรู้ครับ
    หลวงพ่อ : เอาไว้ประดับความรู้….ดี คำว่า นิพพานเป็นของง่ายเป็นของไม่ยาก นิพพานนี่เขาแปลว่า ดับ นะคุณนะ ถ้าจะถามว่าดับอะไร ก็ขอตอบว่า ดับความชั่ว คนที่จะถึงนิพพานได้ต้องไม่มีความชั่ว ๓ อย่าง คือ
    ๑. ไม่ชั่วทางกาย
    ๒. ไม่ชั่วทางวาจา
    ๓. ไม่ชั่วทางใจ
    ถ้าทุกคนดับความชั่วได้หมด บุคคลนั้นก็ชื่อว่าเป็นผู้เข้าถึงซึ่งพระนิพพาน
    ผู้ถาม : แต่ผมเคยได้ยินมาว่า นิพพาน แปลว่า ดับไปเลย ไม่เหลืออะไรเลยนี่ครับ
    หลวงพ่อ : ความจริงคุณจะต้องรู้ว่าอะไรดับ คำว่านิพพานแปลว่าดับ ดับทีแรกคือดับกิเลส ดับที่สองคือดับขันธ์ ๕ แต่ว่าตามพระบาลีไม่ได้บอกว่า จิตดับ
    ปัญหาของคุณที่ถามนี่ เหมือนกับปัญหาของพระที่ถามพระพุทธเจ้าเคยถามมาแล้ว คือ ท่านผู้นี้มีนามว่า พระโมกขราช ท่านถามพระพุทธเจ้าว่า"นิพพานมีสภาพสูญ ใช่ไหม…พระพุทธเจ้าข้า" หมายความว่า เมื่อถึงนิพพานแล้วก็ดับสูญ มีสภาพคล้ายกับควันไฟที่ลอยไปในอากาศ ไม่มีที่เกาะ ไม่มีที่อยู่ อย่างนั้นองค์สมเด็จพระบรมครูตรัสว่า "โมกขราช เรากล่าวว่า นิพพานนั้นหมายถึงกิเลสดับ และขันธ์ ๕ ดับ"พระพุทธเจ้าไม่ได้บอกว่า จิตดับทีนี้ถ้าหากว่าคุณจะศึกษาเรื่องนิพพาน ถ้าเราจะพูดกันไปกี่ร้อยปี มันก็ไม่จบ ฉะนั้น ถ้าต้องการจะรู้เรื่องพระนิพพานจริงๆ คุณจะต้อง
    - เป็นคนมีศีลบริสุทธิ์ เป็นอันดับแรก
    - เป็นผู้ทรงฌานสมาบัติ
    - ในขณะที่ทรงฌานสมาบัติได้แล้ว คุณจะต้องทำจิตของตนให้เข้าถึงวิปัสสนาญาณ ที่เรียกกันว่าสังขารุเปกขาญาณ
    เมื่อจิตเข้าถึงสังขารุเปกขาญาณแล้ว ก็ต้องชำระกิเลสด้วยการตัดสังโยชน์ ๓ เบื้องต้น คือ
    ๑. ทำลายสักกายทิฏฐิ
    ๒. ทำลายวิจิกิจฉา คือ ความสงสัยให้หมดไป
    ๓. สีลัพพตปรามาส ทรงศีลให้บริสุทธิ์
    ๔. มีอารมณ์จิตรักพระนิพพานเป็นอารมณ์ ที่เราเรียกกันว่า โครตภูญาณ
    ถ้ากำลังใจของคุณทำได้อย่างนี้ เมื่อจิตเข้าถึงโครตภูญาณ คุณจะทราบว่า คำว่าดับของนิพพานนั้นก็คือ
    ๑. ดับกิเลส ในขณะที่มีชีวิตอยู่
    ๒. ดับขันธ์ ๕ หรือขันธ์ ๕ ดับ
    ๓. อารมณ์จิตที่บริสุทธิ์ไม่ได้ดับไปด้วย
    คำว่าพระนิพพาน ยังมีจุดที่เป็นอยู่อันหนึ่ง ที่เขาเรียกว่าเป็นทิพย์พิเศษ พ้นจากอำนาจของวัฏฏะ


    ดูเพิ่มเติมที่ [
    หนังสือหลวงพ่อตอบปัญหา เล่ม ๓]
    -----------------------------------------------------------------
    ;k06-
    From:พระนิพพาน จากคำครูอาจารย์, palungjit.org
    <!-- google_ad_section_end -->
     

แชร์หน้านี้

Loading...