<VSN><<<มาใหม่ สายเขาอ้อ อ.ชุม,อ.ปาล,อ.คง, สรุปรายการหน้า๑๐๓>>><NSV>

รับทราบตามที่คุยกันครับ...........

 

ผมโอนให้แล้วตามนี้ ที่อยู่เดิมครับ

 

รับทราบครับ อาจารย์ผมจะจัดส่งให้เช้านี้นะครับ

 

จัดส่งให้แล้วนะครับเช้านี้ 14/07/55 เลขที่ EJ027292713TH

 

พอจะมีพระหลวงปู่ทวดฝังเหล็กไหล ของสำนักเขาอ้อ เหลือบ้างมั้ยครับ

 

ไม่มีแล้วหายากแล้วครับ ส่วนตัวผมมีแต่ที่เก็บไว้บูชาเองครับ
​

 

พระขุนแผนพิมพ์ใหญ่ อาจารย์ชุม ขอราคาสุดด้วยครับ ขอบคุณครับ

 

ตอบทางPMแล้วครับ.................

 

ประวัติหลวงพ่อแก้ว วัดหัวนา อ.บ้านลาด

วัดหัวนา ตั้งอยู่หมู่ที่4 บ้านหัวนา หรือบ้านนาแหลมทอง ตำบลไร่โคก มีธารน้ำเล็กๆไหลผ่าน การเดินทางไปวัดหัวนา ไปตามถนนเพชรเกษม เพชรบุรี-กรุงเทพฯ จะสะดวกกว่าสายอื่น คือจากตัวเมืองเพชรบุรี ผ่านหัวสะพานไปเล็กน้อยจะถึงทางโค้งบ้านหัวดอน มีทางแยกซ้ายมือเข้าประมาณ 4กิโลเมตร ก็จะถึงวัดหัวนา

ตามทะเบียนวัดของสำนักงานศึกษาธิการอำเภอบ้านลาด ซึ่งทำทะเบียนส่งจังหวัดเมื่อ พ.ศ.2482 ระบุว่าวัดนี้ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา พ.ศ.2468 ในสมัยรัชกาลที่7 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ และทะเบียนวัดภาคกลางได้บันทึกไว้อีกว่าได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา พ.ศ.2516 ซึ่งก็ไม่ผิดอะไร เพราะตามธรรมเนียมประเพณี เมื่อมีการสร้างโบสถ์ใหม่ก็จะขอพระราชทานวิสุงคามสีมาใหม่ทุกครั้ง ช่วงนี้เป็นช่วงที่หลวงปู่แก้วเป็นเจ้าอาวาส ท่านมีบารมีสูงจึงก่อสร้างเสนาสนะไว้ได้มาก

วัดหัวนา ถึงแม้จะสร้างเป็นสำนักสงฆ์มานาน สมัยรัชกาลที่3 แต่เป็นวัดเล็กๆ มีกุฏิพระให้พักอาศัยเท่านั้น ยังไม่มีถาวรวัตถุใดๆ มีเจ้าสำนักปกครองเรียงลำดับ 4รูป คือ
1. หลวงพ่อดอกไม้
2. หลวงพ่อเทพ
3. หลวงพ่อบัว
4. หลวงพ่อทัศน์
หลังจากนั้นก็ถูกให้ทิ้งร้าง ไม่มีเจ้าอาวาสอยู่ 2ปี หลวงปู่แก้วได้รับนิมนต์ให้มาอยู่วัดหัวนา ตั้งแต่ พ.ศ.2470 ท่านเป็นพระที่มีวิทยาคุณวิเศษ มีผู้เลื่อมใสศรัทธามาก ก่อสร้างวัดให้มีเสนาสนะ โบสถ์ครบทุกอย่างเป็นวัดที่สมบูรณ์ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาใหม่แต่โบสถ์เดิม ยังปรากฏอยู่จนทุกวันนี้

ในสมัยแรกๆ ท่านยังไม่สร้างวัตถุมงคลเป็นมาตรฐาน ท่านจะเอาดินเหนียวมาปั้นเป็นพระองค์เล็กๆ แจกเด็กๆ หรือผู้ที่เป็นศานุศิษย์ ปรากฏผลฃทางด้านคงกระพัน เป็นหลัก เด็กๆจะถูกสุนัขกัดไม่เข้าบ้าง บางครั้งท่านก็จะเด็ดดอกบานไม่รู้โรยจากต้น กำเอาไว้ในมือแล้วบริกรรมเป่าพรวดเดียว ดอกบานไม่รู้โรยสดๆ จะแห้งเหมือนตากแดดมานานหลายวัน เป็นของมงคลที่นำไปบูชาเมื่อเปิดร้านหรือทำกิจการซึ่ง จะเจริญรุ่งเรือง หรือว่า " บานไม่รู้โรย

รูปหล่อหลวงพ่อแก้ว วัดหัวนา จ.เพรชบุรี รุ่นแรก ปี 07

หายาก สภาพสวย เก่าเก็บเลยครับ ชาวบ้านแถววัดทราบดีถึงพุทธคุณครับ ประสบการณ์ล้นเหลือจริงๆครับ

​

[FONT=&quot]*ปิดรายการนี้ครับ[/FONT]
​

 

​

ประวัติวัดใหม่บางปลากด
ตั้งอยู่เลขที่ ๕๗ ถนนสุขสวัสดิ์ หมู่ที่ ๕ ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์จ.สมุทรสมุทรปราการ

สังกัดคณะมหานิกาย ที่ดินตั้งวัดเนื้อที่ ๑๓ ไร่ ๒ งาน ๑๕ ตารางวา ตั้งวัดใหม่ วันที่ ๙ เมษายน พ.ศ. ๒๔๐๐ สมัยในรัชกาลที่๔ ชาวบ้านเรียกอีกนามหนึ่งว่าวัดใหม่บางปลากดได้รับพระราชทาน วิสูงคามสิมาวันที่ ๑๕ พฤศจิกายนพ.ศ.๒๕๑๙ เขตวิสูงคามสีมา กว้าง๔๐เมตรยาว ๘๐เมตร พระประธาน ประจำอุโบสถ ปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง ๓ ศอก ๙ นิ้วสร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๗

อาณาเขต
–ทิศเหนือ-จดที่ดินเอกชน
-ทิศใต้-จดคลองบางปลากด
-ทิศตะวันออก-จดคลองบางปลากด
-ทิศตะวันตก-จดที่ดินเอกชน

อาคารเสนาสนะประกอบด้วย
อุโบสถ-กว้าง๘เมตร ยาว ๒๒ เมตรสร้างเมื่อปีพ.ศ.๒๕๑๖วิหารตรีมุขสร้างเมื่อปีพ.ศ.๒๕๕๐เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก
ศาลาการเปรียญ๒ชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้สร้างเมื่อปีพ.ศ.๒๕๒๔บูรณะเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๕๓
กุฏิสงฆ์ ๒ ชั้น สร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๓

อดีตเจ้าอาวาสวัดใหม่จำนวน ๑๐ รูป
๑ พระอธิการฉ่าง
๒ พระอธิการ บาง
๓ พระอธิการ โสม
๔ พระอธิการอ่อง
๕ พระอธิการผัน
๖ พระอธิการเป๋า
๗ พระอธิการนาม(หลวงปู่นาม)ปภสฺสโร
๘ พระมหาผิน
๙พระครูสมุทรกิจโกศล
๑๐พระครูปลัดนาเรตกิตฺติวุฑฺโฒ (เจ้าอาวาสปัจจุบันนี้)

รูปหล่อรุ่นสอง หลวงพ่อนาม วัดใหม่บางปลากด

บุคคลที่มีอายุทันสมัยปู่นามมีสังขารอยู่่เล่าให้ฟังว่าครั่งหนึ่งวัดใหม่ บางปลากดจัดงานมีพระเถระชั้นผู่ใหญ่มามากมายมีหลวงพ่อแพวัดพิกุลทองมาด้วย ตอนนั้นกำนั้นอำเภอพระสมุทรต้องการที่จะหักหน้าปู่นามต่อหน้าพระเถระชั้นผู่ ใหญ่ โดยกล่าวว่าต่อหน้าพระผู่ใหญ่เพื่อที่จะให้ปู่นามเสียหน้า ว่าปู่นามสร้างวัตถุมงคลออกมา ใหนขอลองหน่อย ว่าเหนียวไหม ปู่นามตอบว่า อย่าลองเลยจะเสียของ ไปหาฝาเป๊ปซี่มาดีกว่า กำนันจึงใช้คนไปหาฝาเป๊ปซี่มาให้ปู่นาม ปู่นามกำฝาเป๊ปซี่ หลับตาเดี๋ยวเดียว จึงส่งให้กำนัน กำนันจึงเอาฝาเป๊ปซี่ไปลอง ปืน ปรากฎว่ายิงไม่ออกกี่ทีก็ยิงไม่ออก หลวงพ่อแพจึงกล่าวว่า เก็บไว้ให้ดีนะ

ปัจจุบันพระเครื่องพ่อนามได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ แม้นตลาดส่วนกลางก็เริ่มรู้จัก คนแถวในคลองบางปลากดนับถือปู่นามกันมากพอพอกับหลวงปู่บุศวัดใหญ่บางปลางกดเลยทีเดียวครับ รูปหล่อองค์นี้ผิวไฟ สวยมากครับ สภาพไม่ได้ใช้ น่าบูชามากครับ

​

[FONT=&quot]*ปิดรายการนี้ครับ[/FONT]

 

พระราชรัตนโมลี​

[ พ่อท่านเส้ง ติสสรเถร ]​

วัดแหลมทราย ต.บ่อยาง อ.เมือง จ.สงขลา​

อดีตเจ้าอาวาส วัดแหลมทราย และ อดีตเจ้าคณะจังหวัดสงขลา​

ชาตะ 13 มกราคม พ.ศ. 2429​

มรณะ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2516​

ศิริอายุรวม 86 ปี 4 เดือน พรรษา 63 พรรษา

​

ปีที่สร้าง : ปี พ.ศ. 2484 (ข้อมูลจากคำสัตยาธิษฐานของหลวงพ่อ ในการจัดสร้างพระโสฬสธาตุ รุ่น 2) ซึ่งเป็นช่วงสงครามอินโดจีน


ลักษณะ : จะเป็นองค์พระปิดตานั่งลอยองค์ขนาดเล็ก ด้านหลังองค์พระเป็นอักขระขอม เนื้อโลหะเป็นทองผสม มีวรรณะเหลืองอมเขียว ในส่วนของโลหะที่ประกอบกันเป็นองค์พระ เกิดจากการเรี่ยไรโลหะต่าง ๆ จากผู้มีจิตศรัทธา เช่น ขันลงหินชำรุด , ภาชนะทองเหลือง , โลหะทุกชนิด มีทอง นาค เงิน รวมถึงพ่อท่านฯ ได้นำแผ่นโลหะทองแดง ขนาด 4 x 5 นิ้ว ส่งไปให้บรรดาพระเกจิอาจารย์ในสมัยนั้น ให้เขียนยันต์ลงในแผ่นทองแดงแล้วส่งคืนมา เพื่อทำพิธีหล่อ “พระโสฬสธาตุ”


สำหรับ ที่มาของชื่อ “พระโสฬสธาตุ” ก็เป็นเพราะพระปิดตารุ่นนี้ มีส่วนผสมของโลหะยอดศาสนสถาน อันศักดิ์สิทธิ์ เช่น โบสถ์ อุโบสถ พระเจดีย์วิหาร พระปรางค์ และสถูปต่าง ๆ รวมกันแล้ว เป็นจำนวนโสฬส คือ 16 ยอดพอดี (ยอดของศาสนสถานเหล่านี้ ถือเป็นของสูงและศักดิ์สิทธิ์ และเป็นแหล่งรวมพลังศรัทธาของผู้ไปกราบไหว้บูชา


นอกจากนี้ท่านยังได้ทำ การจารแผ่นยันต์ด้วยยันต์โสฬสมงคล ซึ่งเป็นยันต์โบราณ มีค่าโดยประมาณมิได้ เป็นยันต์ที่ท่านได้เรียนมาจากสมเด็จพระสังฆราช ( แพ ) วัดสุทัศน์ อาจารย์ของท่าน เมื่อรวบรวมเนื้อโลหะได้มากพอแล้ว ท่านก็ได้ทำการหล่อออกมาเป็นองค์พระเล็ก ๆ ขนาดเท่าปลายนิ้วก้อย โดยได้ทำพิธีเททองและพุทธาภิเษก ณ วัดชัยมงคล อำเภอ เมืองสงขลา โดยได้ทำการปลุกเสกอยู่ 16 วันเต็ม ๆ


*หมายเหตุ* ในพิธีท่านได้ถือเคล็ด โดยสั่งให้มหรสพทุกประเภท เช่น หนังตะลุง มโนราห์ ที่มาแสดงในงานนี้ ในทุกเรื่องทุกตอนของการแสดง ห้ามไม่ให้มีการตายเกิดขึ้น ถ้าพ่ายแพ้ก็ให้หลบหนีไปได้ ไม่ถูกฆ่าตาย เพื่อเป็นการเอาเคล็ด และในขณะทำพิธีหลอมโลหะอยู่นั้น โลหะที่กำลังหลอมเหลวด้วยความร้อนได้เกิดระเบิด เศษของโลหะที่กำลังหลอมได้กระเด็นไปโดนผู้ร่วมในพิธี แต่ก็ไม่มีผู้ใดร้อน หรือได้รับอันตรายใดเลย


สิ่งมหัศจรรย์ในพิธี ได้มีปรากฎการณ์ผิดธรรมชาติ คือ มีผึ้งยวนมาเกาะตัวกันเป็นรังยาวอยู่ในโรงพิธี โดยได้มาทำรังเกาะกัน อยู่ตั้งแต่ตอนเริ่มพิธี และเมื่อเสร็จพิธีพุทธาภิเษก ผึ้งเหล่านั้น ก็หายไปหมดโดยไม่ได้มีใครไปไล่ หรือทำอะไรผึ้งเหล่านี้เลย


พระโสฬสธาตุ รุ่น 1 นี้ เมื่อสร้างเสร็จก็ได้นำไปแจกจ่ายให้กับทหารหาญของชาติ ณ ค่ายทหารคอหงษ์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา , ค่ายทหารปืนใหญ่ ร.พัน ๑๓ สวนตูล ตำบลเขารูปช้าง อ.เมือง จ.สงขลา และค่ายทหารบ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ส่วนที่เหลือก็ได้แจกจ่ายแก่ประชาชนทั่วไป
คาถากำกับพระโสฬสธาตุ รุ่น 1 ก่อนจะแขวนหรืออม (เพราะพระองค์เล็กมาก บางท่านใช้อมไว้ในปาก) ต้องเสกด้วย พระคาถานี้ “พุทธังแคล้วคลาด พระพุทธเจ้าย่างบาท อิติปิโสภควา ธัมมังแคล้วคลาด พระพุทธเจ้าย่างบาท อิติปิโสภควา สังฆังแคล้วคลาด พระพุทธเจ้าย่างบาท อิติปิโสภควา” แล้วเอาพระแขวนคอ หรืออม เดินภาวนา นอนภาวนา


ข้อห้าม : พระติดอยู่กับตัวห้ามสังวาสด้วยมาตุคามฯ , ห้ามไม่ให้มีความประมาท เช่น เอาพระผูกคอสัตว์หรือต้นไม้แล้วยิงเพื่อทดลอง


ในช่วงระหว่างสงครามนั้น นอกจากพระเครื่องแล้ว พ่อท่านฯ ได้ทำเสื้อยันต์สีแดงขึ้นมา เพื่อแจกทหารที่ร่วมรบกับทหารญี่ปุ่น เสื้อยันต์นี้ดีทางแคล้วคลาด และคงกระพัน
ปีที่สร้าง : ประมาณปี พ.ศ. 2484 ลักษณะ : เป็นเสื้อยันต์สีแดง พิมพ์เป็นลายยันต์ต่าง ๆ ผสมด้วยอักขระขอม ลักษณะคล้ายเสื้อคอกลม ไม่เย็บตะเข็บด้านข้างตัว แต่ใช้วิธีผูกคล้ายเสื้อม่อฮ่อมแทน


วัตถุมงคลพ่อท่านเส้ง

1.พระโสฬสมงคล รุ่น 1 หรือปิดตาแหลมทราย ปี 2482
2.พระผงมหานิยม พระชินราช ปี 2485
3.พระพุทธโสฬสธาตุมงคล ปี 2491
4.พระผงสมเด็จ 3 ชั้น 7 ชั้น ปี 2497
5.เหรียญรุ่นแรก ปี 2502
6.พระโสฬสมงคล รุ่น 2 ปี 2504
7.พระกริ่งภัยนิรันต์ ปี 2507
8.ประปิดทวารทั้งเก้า ปี 2511
9.พระรูปหล่อท่านเจ้าคุณ ปี 2512
10.เหรียญพระราชรัตนโมลี ปี 2515 ​

พระปิดตาโสฬสธาตุ พ่อท่านเส้ง วัดแหลมทราย รุ่น ๓ ปี ๒๕๑๑ จ.สงขลา

พระปิดตาพ่อท่านเส้ง "รุ่น3" วัดแหลมทราย จ.สงขลา พ่อท่านเส้งท่านเป็นพระสงฆ์ที่เก่งในทุกๆด้าน ในสมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ท่านได้เป็นถึงเจ้าคณะจังหวัดสงขลา เมื่อท่านมรณภาพลงนั้น ได้สั่งเสียให้ลูกศิษย์บรรจุร่างของท่านไว้ที่วัดแหลมทราย แล้วสร้างสถูปครอบไว้ เรื่องความแกร่งกล้าทางอาคมของพ่อท่านเส้งนั้นมีให้เห็นกันชัดๆ เมื่อคราวสงครามที่มีเรื่องบินมาทิ้งระเบิดบริเวณวัดแหลมทรายแต่เหลือเชื่อ ระเบิดที่ตกมายังวัดแหลมทรายนั้น "ด้าน" ไม่ระเบิด และมีบางส่วนพลัดตกไประเบิดที่ทะเลหน้าวัด นี่คือความศักดิ์สิทธิของพ่อท่านเส้งที่ล่ำลือกันในหมู่คนสงขลาข้อมูลนี้ได้รับการยืนยันมาจาก ท่านเจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน

น่าเก็บสะสมมากครับสำหรับพระปิดตาองค์นี้ ท่านสร้างพระรุ่นนี้ เมื่อ พ.ศ.2511 โดยนิมนต์เกจิอาจารย์ทั้งทางสงขลาและพัทลุง (โดยเฉพาะสายเขาอ้อ) มาร่วมพิธีพุทธาภิเษก พิธีใหญ่ พระปิดตาพ่อท่านเส้งรุ่น1 ราคาไปถึงหลักหมื่นแล้ว ส่วนพระปิดตารุ่น2 นั้น ราคาเข้าหลักพันกลางๆไปแล้ว ถ้ายึดมั่นในพ่อท่านเส้ง เก็บปิดตารุ่น3 ซึ่งถือเป็นรุ่นสุดท้ายของท่าน พระสวย สมบูรณ์มากครับ

**คาถากำกับ พระปิดตาพ่อท่านเส้ง รุ่น3**
ยกมือขึ้นไหว้แล้วว่า
"พุทธัง อาราธนานัง ธัมมังอาราธนานัง สังฆังอาราธนานัง"
แล้วเสกด้วยพระคาถานี้
พุทธังแคล้วคลาด ธัมมังแคล้วคลาด สังฆังแคล้วคลาด
พระพุทธเจ้าย่างบาท อิติปิโสภควา




[FONT=&quot]*ปิดรายการนี้ครับ[/FONT]

 

ขอรวมชุดที่น่าสนใจไว้ดูก่อน

รายการที่30.>>>พระผงพระธาตุพนม พิมพ์พระุพุทธปางนาคปรก ปี๒๕๑๘>>> [FONT=&quot]ให้บูชา[/FONT][FONT=&quot]องค์[/FONT][FONT=&quot]ละ 650 บ.[/FONT][FONT=&quot][FONT=&quot][FONT=&quot][FONT=&quot] / หน้า11.[/FONT][/FONT][/FONT][/FONT]



ให้บูชา 1,850บ. ครับ<!-- google_ad_section_end -->
<FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>
</FIELDSET>
รายการที่44.>>>พระร่วงรางปืน อ.ชุม ไชยคีรี ปลุกเศกพิเศษ แจกเฉพาะคณะศิษย์ 2517>>> ให้บูชาองค์ละ 550 บ. / หน้า17.

 

สนใจแต่ยังไม่ได้จองนะครับ รับทราบครับผม 5555...................

 

​

พระผงกรุวัดใหม่ปากบาง ตำบลท่าตอ อำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

หลวงปู่ทรัพย์ท่านเป็นชาวอำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ เป็นพระธุดงค์เดินทางรอนแรมมาปักกลดอยู่ที่ตำบลท่าตอ มาสร้างวัดใหม่ปากบางสำเร็จเมื่อปี พ.ศ. 2394 แต่ก่อนนั้นเป็นเพียงสำนักสงฆ์เล็กๆ มีท่านกับพระอีกรูปหนึ่ง ซึ่งเชื่อกันว่า เป็นเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์โต วัดระฆัง นั่นเอง
ลำดับเจ้าอาวาสมีดังนี้
1. หลวงปู่ทรัพย์
2. หลวงปู่เฮง
3. หลวงปู่ฮี้
4. พระครูสถิตธรรมโสภิษ
5. พระอธิการคำ ฐิตาจาโร
6. พระครูสมุห์เชวง ทินนปาโร เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน พระเครื่องแตกกรุ ในปี พ.ศ. 2485-2486 และปี พ.ศ. 2495 ครั้งแรกนั้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง พระแตกกรุออกมาโดยชาวบ้านไปค้นหาจากโพรงของเจดีย์ที่นกเข้าไปอยู่อาศัยแล้ว คุ้ยเขี่ยพระเครื่องออกมาทำให้ชาวบ้านพบเห็นแล้วก็ค้นหาขึ้น พอดีทางวัดต้องการเงินมาใช้ในการก่อสร้างซ่อมแซมเสนาสนะต่างๆ จึงได้เปิดคอระฆังตรงที่บรรจุพระเอาไว้ นำพระเครื่องออกมาให้คนทำบุญ สมัยนั้นองค์ละไม่กี่สตางค์ และยังมีการลักขุดของชาวบ้าน เพื่อเอาพระเอาของมีค่าได้พระเครื่องมาบ้าง แต่คนที่ได้ไปก็ต้องนำมาคืนวางไว้ที่วัดตามเดิม ด้วยมีสิ่งอัศจรรย์ทำให้คนผู้นั้นเดือดร้อน ร้อนรนจนอยู่บ้านแทบไม่ได้ ต้องนำพระไปไว้ที่วัด

ต่อมามีการลักขุดกันอีก ในที่สุดทางวัดก็เลยเปิดกรุเอาพระเครื่องออกมา เพราะไม่อย่างนั้นแล้วเจดีย์คงจะพังและพระในนั้นก็หมด ทางวัดจึงเปิดกรุออกมาในปี พ.ศ. 2495 ซึ่งเป็นการเปิดกรุครั้งสุดท้าย โดยทางวัดได้นำพระออกมาให้คนทำบุญเพื่อนำเงินมาซ่อมแซมเสนาสนะต่างๆ ที่ชำรุดทรุดโทรมอย่างมาก สิ่งไหนต้องสร้างใหม่ก็ทำ รวมทั้งซ่อมแซมสิ่งก่อสร้างต่างๆ ให้คงสภาพแข็งแรงสมบูรณ์ จะได้ใช้ในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป
ผู้คนเขานิยมเชื่อว่า ท่านเจ้าประคุณสมเด็จโตท่านปลุกเสกอย่างแน่นอน คนที่ไม่อาจจะหาพระผงสมเด็จที่มีราคาแพงๆ มาบูชาได้จะใช้พระผงกรุวัดใหม่ปากบางแทน แม้แต่พระอาจารย์ที่มีอาคมขลังแก่กล้าในจังหวัดอ่างทองหลายรูป และในอำเภอมหาราชหลายรูป ท่านยังมีพระผงกรุวัดใหม่ปากบางติดย่ามตลอดเวลา ท่านจะบอกว่า พระเครื่องนี้ดีทีเดียว ท่านยังบอกให้บรรดาศิษย์ใกล้ชิดหาติดตัวเอาไว้ ท่านยังพูดอีกว่า ต่อไปจะหายาก และราคาแพง ของดีอย่างนี้ไม่รีบหาเอาไว้ก็ไม่รู้จะหาอะไรมาติดตัว แต่ต้องให้ถือมั่นในศีลในธรรมจะประสบความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ปลอดภัยอันตราย ไปไหนคนเมตตาสงสารไม่มีใครทำร้ายทำอันตราย ติดต่อการงานการค้าขายดี

เมื่อสิบปีก่อนยังพบเห็นพระเครื่องกรุวัด ใหม่ปากบางบ่อยๆ มาระยะหลังผู้คนที่เป็นนักนิยมสะสมพระเครื่องเช่าหาเก็บเอาไว้จนหมด นานๆ ครั้งจะมีให้เห็นแต่องค์พระก็ไม่ค่อยสวย สมัยก่อนองค์ที่คมชัดเจนสมบูรณ์มีคราบติดบางๆ จะหาง่าย ถ้าคราบกรุติดเกาะแน่นมากและหนาดูแล้วก็ไม่ค่อยสวยบางคนเอาไปแช่น้ำเอาไปขัด ด้วยแปรงทำให้ผิวพระเครื่องเสียหายไป

ความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่ ทรัพย์นั้นคนท้องถิ่นเขารู้ดีว่า ท่านมีความศักดิ์สิทธิ์แค่ไหน มีคนเดินทางไปกราบไหว้เสมอ ยิ่งเมื่อถึงงานประจำปีผู้คนในท้องถิ่นใกล้เคียงจะเดินทางมากราบไหว้กันมาก ปิดทองรูปเหมือนของท่านจนเหลืองอร่ามทั้งองค์ ควันธูปตลบอบอวนไปทั่ว ทั้งพวงมาลัยดอกไม้สด และดอกไม้แห้ง ชาวบ้านคงจะประสบความสำเร็จในการบนขอให้ท่านช่วยเหลือในสิ่งที่ตนเองต้องการ

พระผงกรุวัดใหม่ปากบางถือว่า เป็นพระผงยุคกึ่งพุทธกาลอีกวัดหนึ่งที่ได้รับความนิยมจากนักสะสมพระเครื่อง ทั่วประเทศไทย ในประเภทพระผง ในด้านอิทธิคุณแล้วสูงมากจะเทียบกับพระเครื่องในตระกูลที่มีราคาการเช่าแพงๆ ได้เลย แต่ด้านราคาการเช่าหาตอนนี้ถือว่า อยู่ที่หลักพันต้นๆ หรือกลางๆ เท่านั้น ถ้าจะหาองค์พระสวยๆ สมบูรณ์ก็ต้องใช้ความพยายามเอาหน่อย แต่ถ้าหาไม่ได้จริงๆ พิมพ์ไม่สวยก็ใช้ได้เหมือนกัน เราบูชาพระเพื่อความเป็นสิริมงคล เพื่อให้บังเกิดอิทธิคุณป้องกันอันตรายและด้านต่างๆ ตามที่เชื่อถือ

​

[FONT=&quot]ให้บูชา 1,850บ. ครับ[/FONT]

 

​

หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล

พระผงดวงเศรษฐี เนื้อแก่มวลสาร หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล ติดเกศา ชานหมาก จีวร ครบในองค์เดียว หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล รุ่นเสาร์ห้ามหาเศรษฐี 8 เมษายน 2543
พุทธคุณเด่น ทางค้าขายโชคลาภ อยากเป็นเศรษฐี ต้องแขวนดวงเศรษฐีครับ มวลสารดีพิธีดี เจตนาดี ชื่อดี ดวงเศรษฐี ออกวัดป่าหนองหล่ม ปี 2543 หน้าหลวงปู่คมชัด องค์นี้สวยมากครับ

[FONT=&quot]*ปิดรายการนี้ครับ[/FONT]​

​

 

เหรียญหลวงพ่อสมภพ วัดสาลีโขภิตาราม หลังสิงห์ ปีพศ.2514


ในปี 2514 หลวงพ่อสมภพ นำมวลสารทำวัตถุมงคล รุ่น 2
ปี พ.ศ.2514 หลวงปู่เผือก พระปรมาจารย์แห่งวัดสาลีโขภิตาราม ได้คำนวณฤกษ์เห็นควรประกอบมหาพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ยิ่งยวด สืบเนื่องมาแต่ “มหาฤกษ์” ที่ยากจะเกิดขึ้นในแต่ละคราว นั่นคือ "ฤกษ์มหาจักรจตุรงคสันนิบาต”
อันได้แก่ ดาวจันทร์ ดาวพฤหัส ดาวเสาร์ และดาวราหู ต่างเคลื่อนเข้าสถิตอยู่ในองค์เกณท์ราศีอันเป็น “มหาจักร” แห่งตน และจะปรากฎถึง 4 วาระด้วยกันตลอดไตรมาสพรรษาปี 2514 ซึ่งเหตุการณ์นี้ ทุก 200 ปีจะเกิดมีขึ้นครั้งหนึ่ง
วาระมหามงคลที่จะ ถึงนั้น บรรดาผู้รู้ทั้งหลายไม่อาจปล่อยให้หลุดลอยได้ หลวงพ่อสาลีโขจึงกำหนดการจัดสร้างวัตถุมงคลขึ้นเป็นจำนวนมาก เพื่อให้สมเวลาที่รอคอย ทั้งยังปรารถนาให้เป็น “ครั้งสำคัญที่สุดในชีวิต” ของท่านทีเดียว
การสร้างอิทธิวัตถุของหลวงพ่อสาลีโขนั้นไม่เลยแม้สัก ครั้งเดียวที่จะใช้โลหะเปล่า ท่านเพียรพยายามยิ่งในการจารอักขระเลขยันต์สำคัญครอบคลุมสรรพวิชาทั้งมวลลง ในแผ่นโลหะ เน้นหนักในทุกๆสายวิชาทั้งคงกระพัน มหาอุด ชาตรี กำบังตน มหาลาภ มหานิยม เมตตา แคล้วคลาด กันภัยกันคุณไสย กันภูตผี
วิชาเหล่านี้ท่าน เพียรจารเสกเป่า แต่ละอักขระแต่ละพระยันต์ ท่านจะบรรจงเขียนอย่างสวยงาม ปลุกเสกและลงถม นำไปหลอมเอามาลงใหม่ ซับซ้อนเช่นนี้อย่างน้อย ถึง 3 วาระด้วยกัน กระทั่งคราวหลอมเพื่อรีดปั๊มเหรียญ ช่างถึงกับตะลึงเมื่อแผ่นทองวิ่งวนอยู่ในเบ้าหลอม ไม่ยอมละลาย ได้ตักเก็บไว้เป็นหลักฐานจำนวนหลายสิบแผ่น
แผ่นทองชนวนนับสิบกิโล แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจจริง และวิริยะอุตสาหะ อันหาได้ยากในพระอาจารย์สมัยปัจจุบัน ไม่ควรแปลกใจเลยที่บังเกิดปาฏิหาริย์แผ่นทองไม่ละลายเพราะ “ปราณ” ที่ท่านเป่าประจุย่อมสถิตแนบแน่นอยู่ในทุกอณูแผ่นทอง จนโลหะธาตุธรรมชาติทั้งมวลถูกแปรสภาพเป็น “ธาตุสำเร็จ” จากการตั้งธาตุ ปรุงธาตุ และหนุนธาตุทั้ง 4 ขึ้นมาจากจิตที่ทรงอภิญญา
เฉพาะ “เตโชกสิณ” นั้น ท่านเชี่ยวชาญถึงขีดสุด
มงคล วัตถุที่สร้างประกอบด้วย พระพุทธรูปสุโขทัย หน้านาง ขนาด 9 และ 5 นิ้ว พระพุทธนาคปรก ขนาด 9, 5 นิ้ว, พระสังกัจจายน์ ขนาด 9 นิ้ว, รูปหล่อหลวงปู่เผือก ขนาด 9 , 5 นิ้ว , พระนาคปรกแขวนคอ, รูปหล่อหลวงปู่เผือกขนาดแขวนคอ, เหรียญหลวงปู่เผือก รุ่น 2 พิมพ์ใหญ่ – เล็ก, เหรียญรูปเหมือนหลวงพ่อสาลีโข รุ่น 2 ชนวนมวลสารทั้งหมดถูกนำมาประกอบพิธีปลุกเสกในวันพฤหัสบดีที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2514 เวลา 18.00 น. โดยพระคณาจารย์มากมาย มีหลวงปู่เผือกประทับทรง หลวงพ่อสาลีโขเป็นประธาน เมื่อแล้วเสร็จได้จุณเจิมสรรพวัสดุด้วยกระแจะหอม และสวดหนุนด้วยพระพุทธมนต์พิเศษ คือ บทยานี , บทภาณวาร , บทคาถาพัน และอิติปิโสรัตนมาลา ก่อนจะนำแผ่นโลหะทั้งปวงมาหล่อหลอมเป็นชนวนสัมฤทธิ์เพื่อนำไปสร้างเป็นองค์ พระต่อไป
วันพฤหัสบดีที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2514 เวลา 10.08 น. เป็นกำหนดจุดเทียนชัยในพิธีเททอง และเริ่มทำพิธีพุทธาภิเษก วันนี้หลวงพ่อสาลีโขถือเป็นวันสำคัญที่สุดของงาน เพราะเป็นการเชิญชนวนสัมฤทธิ์เข้าสู่เบ้าหลอมหล่อรวมกับโลหะมงคลอื่นๆ แล้วเททองลงหุ่นให้สำเร็จเป็นองค์พระ จากนั้นจึงประพรมน้ำพระพุทธมนต์ยังเบ้าหลอม
ครั้นทุบหุ่นดินออกก็ อัญเชิญพระปฏิมาลงชุบน้ำศักดิ์สิทธ์จากสถานที่สำคัญเช่น น้ำสรงพระบรมธาตุ , น้ำเมืองเพชร, น้ำสระแก้ว, น้ำบ้านบางปืน ฯลฯ แล้วอัญเชิญขึ้นประดิษฐานในพานเชิงใบใหญ่เคล้าคละประโปรบด้วยเครื่องหอม กระแจะจันทน์ พร้อมด้วยการเรียกสูตรตั้งนามให้เป็นสิริ ท่ามกลางพิธีมหาพุทธปรมาภิเษก พระมหานาคทั้งสี่เจริญบทมหาจักรพรรดิราช และบทพุทธาภิเษก โดยมีรายนามพระมหาเถระผู้ทรงรัตตัญญู ภาพเข้าร่วมพิธี ดังนี้
1. พระภัทรมุกมุนี (ชิต) วัดเขาเต่า ประจวบคีรีขันธ์
2. หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลย สุพรรณบุรี
3. หลวงพ่อกุหลาบ วัดใหญ่สว่างอารมณ์ นนทบุรี
4. หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ธนบุรี
5. หลวงพ่อเจริญ วัดทองนพคุณ เพชรบุรี
6. พระครูประกาศสมาธิคุณ วัดมหาธาตุ พระนคร
7. หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู ลพบุรี
8. หลวงพ่อโอด วัดจันเสน นครสวรรค์
9. หลวงปู่ผาง วัดอุดมคงคาคีรีเขต ขอนแก่น
10. หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช พระนครศรีอยุธยา
11. หลวงพ่อมิ วัดสิงห์ ธนบุรี
12. หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส จันทบุรี
13. หลวงพ่อปี้ วัดด่านลานหอย สุโขทัย
14. หลวงพ่อวัดปากคลองมะขามเฒ่า ชัยนาท
15. หลวงพ่อทบ วัดชนแดน เพชรบูรณ์
16. หลวงพ่อชื่น วัดตำหนักเหนือ นนทบุรี
17. พระครูเมธีวรานุวัตร วัดมหาธาตุ พระนคร
18. หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง นนทบุรี
19. หลวงพ่อจัน วัดสระเกษ พระนคร
20. หลวงพ่อสั้น วัดท่าอิฐ นนทบุรี
21. หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ พระนครศรีอยุธยา
22. หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี สมุทรสงคราม
23. หลวงพ่อจันทร์ วัดโสธรวราราม ฉะเชิงเทรา
24. หลวงปู่เส็ง วัดกัลยาณมิตร ธนบุรี
25. หลวงพ่อทองสุข วัดสะพานสูง นนทบุรี
วัน พฤหัสบดีที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2514 เวลา 16.00 น. พิธีมหามงคลสรงองค์พระให้สำเร็จเป็น “พระเครื่อง” โดยบริสุทธิ์บริบูรณ์ ปราศจากมลทินโทษใดๆ พระคณาจารย์ในงานเจริญบทมงคลจักรวาล , ชัยมงคลคาถา และทิพยมนต์
วันอาทิตย์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ.2514 เวลา 09.00 น. ตรงกับวันมหาจักรจตุรงคสันนิบาตวันสุดท้าย เป็นวาระนัดผู้สั่งจองอิทธิวัตถุให้มารับการประสิทธิเมจากมือหลวงพ่อสาลีโข ด้วยตนเองจนถ้วนทั่วทุกตัวคน
แลหาพิธีกรรมที่จัดทำอย่างมโหฬาร มหากาฬเยี่ยงนี้ในปัจจุบันแล้วใจหาย ด้วยหาไม่เจอยังไม่เท่าไร กลับประสบเพียงสุกเอาเผากินหลอกขายหลอกแขวนกันไปวันๆ ซึมเศร้าจนต้องมองหาเหรียญนี้มาแขวนแทนพระสมัยอินเตอร์เนต ค่อยอุ่นใจหน่อย
ใคร หนาวใจแล้วอยากอุ่นอย่างผมต้องดิ้นรนหน่อยละ ที่ว่าหน่อยก็เพราะเหรียญหลวงปู่เผือกรุ่นสองนี้ยังพอหาได้ตามสนามทั่วไปใน ราคาเบาๆ ของปลอมผมยังไม่เคยเจอ แต่เขียนไปแล้วอาจเจอก็ได้ฉะนั้นให้รีบหา
การันตี ด้วยหัวหลิมๆ (ที่เพื่อนชอบล้อ) ได้เลยว่าผมแขวนพระมาก็มาก ประทับใจจริงๆกับประสบการณ์ไม่กี่ชิ้น ยอมให้หมดใจว่าหลวงปู่เผือก เป็น 1 ในนั้นไม่สงสัยเพื่อนที่แขวนก็ยกนิ้วให้ว่าเยี่ยม
แถมนิดนึงว่าเหรียญ รุ่นนี้ทุกเหรียญ จะมีคราบแป้งสีขาวอันเกิดจากผงวิเศษเกาะติดอยู่ ถ้ามีตกค้างอย่าไปแกะทิ้งเพราะเป็นของดี หากหลุดไปแล้ว เหลือคราบขาวไว้ ก็อย่าตกใจ มีทุกเหรียญแหละครับ
เหรียญหลวงปู่เผือก รุ่น 2 หรือ รุ่นปี 14 ได้ขอให้หลวงพ่อสมภพ สร้างเหรียญและเนื้อผงมาให้ประชาชนและลูกศิษย์ต่างมาบูชากัน เหรียญและพระผงที่ท่านสร้าง คือ เหรียญหลวงปู่เผือกนั่งฐานสิงห์ เป็นรุ่น 2 หรือเรียกกันติดปากว่า รุ่นปี 14 เพราะสร้างปี 2514 จะเล็กกว่ารุ่นแรกเพียงเล็กน้อยพิธีใหญ่ พิธีนี้ทางวัดสาลีโขได้อันเชิญพระกิจิอาจารย์ต่างที่ดังรวมสมัยนั้นมาปลุก เสก ก็ปลุกกันกว่าจะให้ลกศิษย์เช่าหากันไป

​

ข้อมูลจาก กรุสยาม ครับ
​

​

[FONT=&quot]*ปิดรายการนี้ครับ[FONT=&quot][/FONT][/FONT]​

 

พระหลวงปู่หงษ์ ไม้สะพานร้อยปี รุ่น2 ขอจองได้ไหมครับ ปลายอาทิตย์หน้า จะโอนให้ครับ
(081-409-3550)

 

สวัสดีครับคุณโมโม ส่วนแรกโอนเรียบร้อยแล้วนะครับ ยังไงส่วนที่เหลือรบกวนตอนสิ้นเดือนตามที่คุยกันนะครับ รบกวนด้วยนะครับ(deejai) ที่อยู่จัดส่งตาม PM เลยคร้าบ....

 

รบกวนจองครับคุณโมโม สิ้นเดือนพร้อมกับรายการที่เหลือครับ (ping-love

 

รับทราบครับท่าน.................