พระโพธิสัตว์รักตนเองหรือรักผู้อื่นมากกว่า?

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย Norlnorrakuln, 2 สิงหาคม 2012.

  1. Norlnorrakuln

    Norlnorrakuln เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    3,813
    ค่าพลัง:
    +15,095
    ความรักที่เป็นฝ่ายกุศล เช่น เมตตา
    ความรักที่เป็นฝ่ายอกุศล เช่น กามราคะ

    สงสัยว่า ในทั้งสองกรณีเฉพาะเรื่องของความรัก พระโพธิสัตว์จะน้อมจิตไปเพื่อรักตนเองหรือรักผู้อื่นมากกว่า? ในเมื่อท่านยังมี โลภ โกรธ หลง อยู่?
    (ผมทราบดีว่าท่าน"รักโพธิญาณมากกว่า")
     
  2. เทพธรรมบาล

    เทพธรรมบาล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,215
    ค่าพลัง:
    +291
    ในทางมหายาน คำว่าโพธิสัตว์ คือ สัตว์ที่รู้แจ้ง ละอาสวะทั้งปวงได้สะอาดหมดจด ไร้กิเลสแล้ว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. เทพธรรมบาล

    เทพธรรมบาล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,215
    ค่าพลัง:
    +291
    莊嚴淨土分第十
    佛告須菩提,於意云何,如來昔在然燈佛所,於法有所得不?不 也,世尊。如來在然燈佛所,於法實無所得。須菩提,於意云何, 菩薩莊嚴佛土不?不也,世尊。何以故。莊嚴佛土者,即非莊嚴,是名莊嚴。是故須菩提,諸菩薩摩訶薩,應如是生淨心,不應住色 生心,不應住聲香味觸法生心,應無所住而生其心 。 須菩提,譬 如有人,如須彌山王,於意云何,是為大不?須菩提言,甚大,世尊。 何以故,佛說非,是名。
    พ.” สุภูติเอย เธอมีความคิดเห็นเป็นไฉน ณ เบื้องอดีตกาลโน้น เมื่อตถาคต(ยังเป็นพระโพธิสัตว์) อยู่ในสำนักของพระทีปังกรพุทธเจ้า ตถาคตได้บรรลุธรรมอันใดฤา
    สุ “ หามิได้ ข้าแต่พระผู้มีพระภาค เมื่อพระตถาคต (ยังเป็นพระโพธิสัตว์)อยู่ในสำนักพระทีปังกรพุทธเจ้ามิได้ทรงบรรลุ ธรรมใดๆเลย” *4
    ( * 4 เมื่อครั้งพระศาสดาเรายังเสวยพระชาติเป็นโพธิสัตว์ในชาติหนึ่งเกิดเป็นดาบสชื่อสุเมธ ได้ทอดองค์ลงต่างสะพานไปในลุ่มเลน พร้อมทั้งสยายเกศาปกคลุมสถานสกปรกนั้น เพื่อพระทีปังกรพุทธเจ้าและพระอรหันต์สาวกเสด็จผ่าน สุเมธดาบสได้ตั้งความปรารถนาพระโพธิญาณในขณะที่พระทีปังกรพุทธเจ้า เสด็จเหยียบบนร่างกายของตน และได้รับพุทธพยากรณ์ว่า จะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตการ-ผู้แปล)


    พ “ ดูก่อนสุภูติ เธอมีความคิดเห็นเป็นไฉน พระโพธิสัตว์บุคคลจักพึงกระทำตบแต่งอลังการพระพุทธเกษตรฤาหนอ”
    สุ “ หามิได้ ข้าแต่พระสุคต ข้อนั้นเพราะเหตุใด เพราะเหตุว่าการกระทำตบแต่งอลังการพระพุทธเกษตรนั้น โดยความจริงมิได้มีสภาวะการกระทำตบแต่งอลังการพระพุทธเกษตรเลย เป็นสักแต่ชื่อเรียกว่ากระทำตบแต่งอลังการพระพุทธเกษตรเท่านั้น”
    พ “ เพราะฉะนั้นแล สุภูติ พระโพธิสัตว์ มหาสัตว์ทั้งปวงพึงยังจิตให้บริสุทธิ์สะอาดโดยประการอย่างนี้ กล่าวคือพึงยังจิตมิให้ยึดถือผูกพันในรูป พึงยังจิตมิให้ยึดถือผูกพันในเสียง ในกลิ่ง ในรส ในสัมผัส ในธรรมารมณ์ พึงยังจิตมิให้บังเกิดมีความยึดถือผูกพันในสภาวะใดๆ”
    “ สุภูติ อุปมาดั่งบุคคลผู้มีรูปกายสัณฐานดุจขุนเขาพระสุเมรุ เธอจักมีความคิดเห็นเป็นไฉน รูปกายแห่งบุคคลนั้นมโหฬารฤาหนอแล”
    สุ “มโหฬารนักแล้ว ข้าแต่พระผู้มีพระภาค ข้อนั้นเพราะเหตุใดเล่า เพราะพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า รูปกายนั้นโดยความจริงแล้วก็ไม่มีสภาวะ เป็นสักแต่ชื่อเรียกว่า รูปกายอันมโหฬารเท่านั้น”

    จาก วัชรปรัชญาปารมิตาสูตร แปลโดย ท่านเสถียร โพธินันทะ
    http://palungjit.org/threads/ผู้ที่ปารถนาพุทธภูมิ-ควรได้อ่านสักครั้งในชีวิต.305115/


    เอ็งลองศึกษากันดูเสีย มิเสียหาย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 สิงหาคม 2012
  4. ปุณบพิธ

    ปุณบพิธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,102
    ค่าพลัง:
    +2,134
    ผมเข้าใจว่า ถ้าปรารถนาพระโพธิญาณแล้ว ลึกๆ ในใจ จะรักเมตตา แต่สรรพสัตว์ นะครับ

    แต่ถ้าหากยังเห็นว่ารักตัวเองมากกว่าอยู่ อาจจะเป็นเพราะบารมียังไม่แก่กล้า ธรรมะยังบ่มเพาะไม่ได้ที่ เลยสู้กิเลสของการเกิดเป็นมนุษย์ไม่ได้ครับ
     
  5. Norlnorrakuln

    Norlnorrakuln เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    3,813
    ค่าพลัง:
    +15,095
    อืม...งั้นคำเรียกพระอรหันต์ทางฝ่ายหินยาน กับพระโพธิสัตว์ในฝ่ายมหายาน
    ก็มีความหมายดุจเดียวกันนะสิครับ?
    เพราะต่างก็ละอาสวะทั้งปวงได้สะอาดหมดจด ไร้กิเลสแล้ว

    ในเมื่อยังมิได้บรรลุธรรมเป็นพระพุทธเจ้า? ยังเป็นโพธิสัตว์อยู่...แต่รู้แจ้งสิ้นอาสวะ?


    คิด๒.gif
     
  6. เทพธรรมบาล

    เทพธรรมบาล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,215
    ค่าพลัง:
    +291
    ในส่วนของมหายานนะ ข้าจักเทียบ ง่ายๆ
    ถ้าสมุติเอ็ง เห็นสรรพสัตว์ แสนทุกข์ทรมาน เอ็งเกิดปณิธานแห่งพุทธภูมิอย่างแรง

    เอ็งจึงออก บำเพ็ญ บารมี เช่น ขันติบารมี หรือ ทานบารมีด้วย เอ็งตาย พอเกิดมาเป็นมนุษย์คราใด สัญญาเก่าอันแรงกล้าเตือนเอ็งให้บำเพ็ญบารมีต่อ เกิดชาติหนึ่งชาติใดไปเกิดเจอ พระสาวกในพระพุทธเจ้าองค์ใดองค์หนึ่ง หรือเกิด พบมหาโพธิ์สัตว์มาแสดงธรรม เกิดปฏิบัติจนบรรลุอรหันต์ขึ้นมา ก็อดบำเพ็ญบารมีต่อเพราะต้องนิพพานแล้วเยี่ยงนั้นฤา

    ถ้าจักใช้ศัทพ์ให้เข้าใจ พระอรหันต์ กับพระโพธิ์สัตว์ ต่างกันตรงที่ตัวปณิธาณ
    ปณิธาณแห่งความเมตตากรุณาเพื่อการหลุดพ้นของสพรรสัตว์ทั้งปวง

    หากไร้ปณิธานก็หมดกิจก็นิพานในแบบที่เถรวาทเขาเรียกกันเพราะไม่มีอะไรต้องยึดอีกต่อไป


    แล้วมีคำถามต่อไปว่า "อ้าวแล้วถ้าบรรลุอรหันต์แล้วยังไม่นิพพานแล้วจะเป็นอย่างไร"

    ก็ต้องไปศึกษาเรื่องตรีกาย กันต่อไป

    ของแบบนี้มันต้องศึกษานะ ถ้าจะอธิบายคงอีกยาว


    ข้าพูดในคติของมหายานนะ

    มหายานส่วนมหายาน เถรวาทส่วนเถรวาท ศึกษาไว้ จะได้รู้ว่า อ๋อคติแบบนี้คือมหายาน อ๋อคติแบบนี้คือเถรวาท มิเสียหายดอก
     
  7. เทพธรรมบาล

    เทพธรรมบาล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,215
    ค่าพลัง:
    +291
    หรือจักฟัีงท่าน อาจารย์เสถียร โพธินันทะบรรยายก็ดี ตัวท่านนับถือเถรวาท แต่ท่านศึกษา ทั้ง 18 นิกาย จนได้ฉายาว่าตู้พระไตรปิฏกเคลื่อนที่ แต่เสียดายท่านอายุสั้นนัก

    รวมเสียงธรรมบรรยาย .mp3 (อ.เสถียร โพธินันทะ) ชุดที่ 1

    ไฟล์ที่ชื่อว่า เหตุการณ์หลังพุทธปรินิพพาน.mp3

    ลองไปฟังดู แนะนำนะ
     
  8. Norlnorrakuln

    Norlnorrakuln เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    3,813
    ค่าพลัง:
    +15,095
    อ้า! ตอบได้น่าฟังทีเดียวครับ สาธุ...................
    วัดกันที่การบำเพ็ญบารมีแก่กล้า กับบารมีอ่อน :cool:

    แต่ในอีกกรณีหนึ่ง รักตนเองมากกว่า จึงมุ่งสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้า!(เช่น เรื่องพระเวสสันดร)
    ในทางตรงกันข้าม ก็ต้องรักผู้อื่นมากกว่า จึงมุ่งช่วยให้สรรพสัตว์พ้นทุกข์!(เช่น ฤาษี สละชีวิตเพื่อแม่เสือที่หิวโหยจะได้ไม่กินลูกตนเอง)
    ถ้าในกรณีนี้ล่ะครับ แน่นอนเป็นฝ่ายกุศล..."รักตนเพื่อตนเอง หรือว่ารักผู้อื่นเพื่อผู้อื่นกันแน่"
     
  9. bosslnwskr10

    bosslnwskr10 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,912
    ค่าพลัง:
    +1,512
    รักโพธิญาณมากกว่า หมายถึง ถ้าต้องตาย เพื่อโพธิญาณก็ยอม
     
  10. Norlnorrakuln

    Norlnorrakuln เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    3,813
    ค่าพลัง:
    +15,095

    หมายถึงยังมีห่วงอยู่?(ก็สิ้นกิเลสแล้วมิใช่หรือ?)งง :'(
    หรือหมายถึง ความสำเร็จเป็นพระอรหันต์ก็สามารถกลับมาเป็น โพธิสัตว์สร้างบารมีเพื่อเป็น พระพุธเจ้าได้อีก!!
    สงสัยผมคงศึกษาน้อยไป เริ่มงงๆแล้วจริงๆด้วย! :'(
     
  11. mongko

    mongko เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    148
    ค่าพลัง:
    +329
    ไม่มีพระโพธิสัตว์คนไหนรักตัวเองมากกว่าผู้อื่นหรอกครับ
     
  12. Norlnorrakuln

    Norlnorrakuln เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    3,813
    ค่าพลัง:
    +15,095
    คิดเช่นนั้นเหมือนกันครับ :cool:

    เพียงแต่อยากทราบความหมาย ของคำว่า "รักโพธิญาณ"
    ว่ามีขอบเขตจำกัดความหมาย โดยปริยายไว้มากน้อยเพียงใด?

    เหตุผล เพื่อการบำเพ็ญบารมี ในทำนองว่า
    "ต้องตายโดยไม่เสียชาติเกิดเพราะ รัก ในโพธิญาณแบบผิดๆ ไงครับ!!"
     
  13. Norlnorrakuln

    Norlnorrakuln เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    3,813
    ค่าพลัง:
    +15,095
    เห็นด้วยครับในกรณีของ พระมหาโพธิสัตว์ผู้เที่ยงแท้! :cool:

    แต่สำหรับโพธิสัตว์ ที่ยังมิได้รับพยากร (แต่ยังคงเรียกโพธิสัตว์อยู่เหมือนกัน) คงต้องมี รัก ตนเองมากกว่าเป็นแน่แท้ เพราะยังไม่พ้นอำนาจ มาร จึงถูกโมหะครอบงำจิต
    ไม่ยากเห็นใครดี และยิ่งใหญ่เกินตน เช่น พญาปรินิมมิตสวัตตีมาร(หากเขียนผิดขออภัยครับ)

    ถึงแม้กระนั้นเมื่อท่านกลับใจแล้ว (ด้วยเหตุพระอุปคุต)ก็ยังสามารถกลับเข้าสู่ ปณิธานเดิมได้!
     
  14. เทพธรรมบาล

    เทพธรรมบาล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,215
    ค่าพลัง:
    +291
    พิจรณาเอาเถิด......:cool:


    คติมันต่างกัน มันเป็นเรื่องของมหายานนะ

    เถรวาทถือว่า พระโพธิสัตว์ บำเพ็ญมาเกิดตายเกิดตายเป็นภพชาติ แล้ว สุดท้ายเกิดเป็น เจ้าชายสิทธัตถะ และ ตรัสรู้ พระพุทธเจ้า

    มหายานถือว่า พระพุทธเจ้านั้นได้บรรลุอนุตรสัมโพธิ์ญาณนานแล้ว เป็นลักษณะธรรมกาย
    เช่น พระไวโรจนะพุทธเจ้า เป็นธรรมกาย ได้นิรมานกายเจ้าชายสิทธัตถะ มาเพื่อ แสดงธรรม แสดงตัวอย่างการปฏิบัติเผยแพร่คำสอน นำพาสรรพสัตว์หลุดพ้น

    ลักษณะธรรมกาย เป็นสูญตา(ความว่าง)คือ
    1จะว่ามี ก็ไม่ใช่
    2จะว่าไม่มี ก็ไม่ใช่
    3จะว่ามีทั้งมีและไม่มี ก็ไม่ใช่
    4จะว่าไม่มีทั้งมีและไม่มี ก็ไม่ใช่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 สิงหาคม 2012
  15. เทพธรรมบาล

    เทพธรรมบาล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,215
    ค่าพลัง:
    +291
    ข้าก็บอกเอ็งแล้ว มันเป็นคติมหายาน เถรวาท กับ มหายาน ไม่สามารถนำมาแย้งกันได้
    เพียงเพื่อศึกษาไว้จักได้รู้ว่านั้นคือเถรวาท นั้นคือมหายาน นั้นคือวัชรยาน





    ความเข้าใจในเถรวาท เอามาเข้าใจในมหายานก็ลำบาก เพราะ มันงงๆขัดๆนะ
    จะเอาความเข้าใจมหายานมาเข้าใจเถระวาท ก็งงๆขัดๆเหมือนกัน
    555+

    ต้องแยกกัน




    แต่ทั้ง มหายานและ เถรวาท มีพระสุตันตะปิฏกเหมือนกัน
    ข้อสังเกตุว่า
    ทางมหายานมัก จะขึ้นต้นคำว่า ดูกรสาริบุตร หรือ ท่านอื่นๆ
    ทางเถรวาทมัก จะขึ้นต้นคำว่า ดูกรอานนท์ หรือ ท่านอื่นๆ

    ไม่ได้แตกแยก แต่ เป็นมรรควิธีหนึ่ง หรือจะเรียกว่า ยี้ห้อ ก็เป็นได้
     
  16. เทพธรรมบาล

    เทพธรรมบาล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,215
    ค่าพลัง:
    +291
    <object width="420" height="315"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/4HRiEg6Zimo?version=3&amp;hl=th_TH"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/4HRiEg6Zimo?version=3&amp;hl=th_TH" type="application/x-shockwave-flash" width="420" height="315" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"></embed></object>

    ข้าจักว่าจักนอนเสียแล้ว ดันไปเจอ เขาอธิบายเรื่อง ตรีกาย ศูนย์ตา ได้ชัดเจนแจ่มแจ้ง
    พวกเอ็ง ลองกด PLAY ดูเถิด ประมาญนาที ที่6 ก็เริ่มเข้าสาระ
     
  17. Norlnorrakuln

    Norlnorrakuln เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    3,813
    ค่าพลัง:
    +15,095
    หวังว่าการตั้งกระทู้ของผมในครั้งนี้ คงมิได้เป็นคำถาม แนวอจินไตย นะครับ!
    เพราะผมยังเล็งเห็นความสำคัญ และคุณค่าของ "ความรัก"
    ซึ่งมีต่างกัน ระหว่า "ปุถุชน สร้างบารมีเพื่อ บรรลุพระอรหันต์"กับ "พระโพธิสัตว์ สร้างบารมีเพื่อ บรรลุ เป็นพระพุทธเจ้า" โดยมี ปณิธาน เป็นตัวแปรสำคัญ แต่เมื่อปรินิพานแล้ว มีวิมุติสุขเสมอกัน!

    ในที่นี้ผมซูมเจาะลงไปที่ "ความรัก ของพระโพธิสัตว์" เมื่อบรรลุธรรมแล้ว แน่นอนย่อมมี คุณาลังการอันยิ่งใหญ่กว่าพระอรหันต์ธรรมดาแน่นอน (ข้อนี้ผมทราบดีครับ)

    แต่ในขณะที่ยังมิได้บรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณอยู่ตราบใด ย่อม อุบัติในสุคติภูมิบ้าง ในทุคติภูมิบ้าง
    ในเมื่อพระพุทธเจ้ามีอยู่ ๓ ประเภท (ปัญญา,สัทธา,วิริยะ)

    จะเป็นไปได้หรือไม่? ที่พระโพธิสัตว์จะมี "ความรักในตนเองมากกว่าในเบื้องต้น ก่อน" แล้วจึง "รักผู้อื่น(สรรพสัตว์)มากกว่าในที่สุด"....ไม่ว่าท่านจะตั้งปณิธานปรารถนาเป็นพระพุธเจ้าประเภทใดก็ตาม!! จะถอนอธิษฐาน ลาพุทธภูมิหรือไม่!!....

    ความจริงอันนี้จะยังคง ถึอเป็นสัจธรรมแท้ได้หรือไม่?คือ

    ๑.เป็นสูตรว่า ต้องเริ่มต้นมาจากความรักตนเอง เข้าข้างตนเองมากกว่า ด้วยอำนาจ ตัณหา กามราคะ.....
    จนในที่สุดเห็นโทษ แล้วจึงปล่อยวาง ความรักในตนเอง(จาคะ)เข้าสู่ มหาสูญตา "จึงได้ชื่อว่าทำประโยชน์ตนให้ถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาท"(เปรียบพระโพธิสัตว์ถอนอธิษฐาน แล้วบรรลุธรรมเท่ากับเป็นพระอรหันต์ธรรมดา)

    ๒.เป็นสูตรว่า ต้องเริ่มต้นมาจากความรักตนเอง เข้าข้างตนเองมากกว่า ด้วยอำนาจ ตัณหา กามราคะ.....
    จนในที่สุดเห็นโทษ แล้วจึงปล่อยวาง ความรักในตนเอง(จาคะ)เข้าสู่ มหาสูญตาด้วยมหากรุณา "ได้ชื่อว่าทำประโยชน์ตนให้ถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาท...แล้วยังสามารถทำประโยชน์ผู้อื่นให้ถึงพร้อม อย่างยอดเยี่ยมได้อีกด้วย"

    "คงเป็นความรักตนมากกว่า(ด้วยการนำตนเข้าสู่มหาสูญตา) แล้วอาศัยความรักตนนั้นแหละ เป็นบันได นำไปสู่ปณิธานความรักในสรรพสัตว์(ด้วยพระมหากรุณา)"ในอัตภาพแห่งพระมหาบุรุษสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น!!
     
  18. Norlnorrakuln

    Norlnorrakuln เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    3,813
    ค่าพลัง:
    +15,095
    หวังว่าการตั้งกระทู้ของผมในครั้งนี้ คงมิได้เป็นคำถาม แนวอจินไตย นะครับ!
    เพราะผมยังเล็งเห็นความสำคัญ และคุณค่าของ "ความรัก"
    ซึ่งมีต่างกัน ระหว่า "ปุถุชน สร้างบารมีเพื่อ บรรลุพระอรหันต์"กับ "พระโพธิสัตว์ สร้างบารมีเพื่อ บรรลุ เป็นพระพุทธเจ้า" โดยมี ปณิธาน เป็นตัวแปรสำคัญ แต่เมื่อปรินิพานแล้ว มีวิมุติสุขเสมอกัน!

    ในที่นี้ผมซูมเจาะลงไปที่ "ความรัก ของพระโพธิสัตว์" เมื่อบรรลุธรรมแล้ว แน่นอนย่อมมี คุณาลังการอันยิ่งใหญ่กว่าพระอรหันต์ธรรมดาแน่นอน (ข้อนี้ผมทราบดีครับ)

    แต่ในขณะที่ยังมิได้บรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณอยู่ตราบใด ย่อม อุบัติในสุคติภูมิบ้าง ในทุคติภูมิบ้าง
    ในเมื่อพระพุทธเจ้ามีอยู่ ๓ ประเภท (ปัญญา,สัทธา,วิริยะ)

    จะเป็นไปได้หรือไม่? ที่พระโพธิสัตว์จะมี "ความรักในตนเองมากกว่าในเบื้องต้น ก่อน" แล้วจึง "รักผู้อื่น(สรรพสัตว์)มากกว่าในที่สุด"....ไม่ว่าท่านจะตั้งปณิธานปรารถนาเป็นพระพุธเจ้าประเภทใดก็ตาม!! จะถอนอธิษฐาน ลาพุทธภูมิหรือไม่!!....

    ความจริงอันนี้จะยังคง ถึอเป็นสัจธรรมแท้ได้หรือไม่?คือ

    ๑.เป็นสูตรว่า ต้องเริ่มต้นมาจากความรักตนเอง เข้าข้างตนเองมากกว่า ด้วยอำนาจ ตัณหา กามราคะ.....
    จนในที่สุดเห็นโทษ แล้วจึงปล่อยวาง ความรักในตนเอง(จาคะ)เข้าสู่ มหาสูญตา "จึงได้ชื่อว่าทำประโยชน์ตนให้ถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาท"(เปรียบพระโพธิสัตว์ถอนอธิษฐาน แล้วบรรลุธรรมเท่ากับเป็นพระอรหันต์ธรรมดา)

    ๒.เป็นสูตรว่า ต้องเริ่มต้นมาจากความรักตนเอง เข้าข้างตนเองมากกว่า ด้วยอำนาจ ตัณหา กามราคะ.....
    จนในที่สุดเห็นโทษ แล้วจึงปล่อยวาง ความรักในตนเอง(จาคะ)เข้าสู่ มหาสูญตาด้วยมหากรุณา "ได้ชื่อว่าทำประโยชน์ตนให้ถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาท...แล้วยังสามารถทำประโยชน์ผู้อื่นให้ถึงพร้อม อย่างยอดเยี่ยมได้อีกด้วย"

    "คงเป็นความรักตนมากกว่า(ด้วยการนำตนเข้าสู่มหาสูญตา) แล้วอาศัยความรักตนนั้นแหละ เป็นบันได นำไปสู่ปณิธานความรักในสรรพสัตว์(ด้วยพระมหากรุณา)"ในอัตภาพแห่งพระมหาบุรุษสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น!!
     
  19. Reynolds

    Reynolds เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    578
    ค่าพลัง:
    +1,501
    รักป่าวไม่รู้แต่ใจที่ทำแต่เพื่อคนอื่นนั่นแหละครับ ดูในหลวงสิครับ
     
  20. เทพธรรมบาล

    เทพธรรมบาล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,215
    ค่าพลัง:
    +291

    ใครๆ ก็ตั้งปณิธาณแห่งพระโพธิ์สตว์ได้ แต่จัก กลายเป็นปณิธาณแท้จริงหรือไม่
    อย่าที่เอ็งบอก พระโพธิ์สัตว์มี 3 สาย ได้แก่
    การสร้างบารมี

    เช่นปัญญาธิกะใช้ ปัญญานำ

    ศรัทธาธิกะใช้ ศรัทธาเป็นนำ

    วิริยะธิกะ ใช้ วิริยะนำ

    ในการบำเพ็ญบารมี
    แต่ปัญญา ศรัทธา วิริยะ นั้น ต้องมีมหาศาล มากกว่าคนธรรมดาเห็นจักได้
    เพราะอาจจักหน่ายเสียก่อน ยิ่งวิริยะธิกะ ด้วยแล้วยิ่งยาวนานกว่าสายอื่น
    และจักต้องประสบเหตุกราณ์ใดสักอย่างจึงเกิดมหาปณิธาณบำเพ็ญบารมี
    แต่ที่แน่ๆ จักต้องพบพระพุทธองค์ หรือ องค์ปฏิมาแห่งพุทธองค์เสียก่อน
    เพราะถ้าไม่รู้จัก ไม่เคยเลื่อมใส ไม่เคยพบเห็นองด์พระปฏิมา พระพุทธองค์เลย ก็ไม่มีแบบอย่างให้สร้างปณิธาณให้ต้องการเป็นพระพุทธเจ้าได้

    อย่างที่เอ็งว่า ต้องมาจากความรัก นั้นสิ จักรักตัวเองมากกว่า หรือรักสพรรสัตว์อื่นมากกว่า หรือรักตัวเองก่อนแล้วจึงรักสรรพสัตว์อื่นมากกว่า
    ข้าว่าเห็นทีจักวินิฉัยยากนัก

    อาจมีพระโพธิ์สัตว์ที่รักตนเองก่อนในเบื้องต้นแล้วจึงมีปณิธาณ
    หรืออาจมีพระโพธิ์สัตว์ที่มีปัญญาญาณระดับหนึ่งแล้วมีปณิธาณก็เป็นได้
    หรืออาจมีพระอรหันต์มีมีปณิธาณเนื่งด้วยเห็นประโยนช์ที่เป็นคุณอนันต์แล้วมีปณิธาณก็เป็นได้
    เป็นไปได้ทั้งนั้น
    :cool:
     

แชร์หน้านี้

Loading...