เมืองกรุงเก่าอัญเชิญ"พระเขี้ยวแก้ว" ให้สักการะในงาน“ความสัมพันธ์อยุธยา-ศรีลังกา”

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450><TBODY><TR><TD vAlign=top width=450 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>การแสดงนาฏศิลป์พื้นเมืองของศรีลังกา</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE> จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกาประจำประเทศไทย จัดงาน “ความสัมพันธ์อยุธยา-ศรีลังกา” ในวันที่ 2 - 4 ส.ค. นี้ ณ ศาลากลางหลังเก่า จ.พระนครศรีอยุธยา ภายในงานมีการจัดแสดงขบวนแห่ “เอสาละ เปราเหรา” ซึ่งเป็นประเพณีที่มีชื่อเสียงและเป็นสัญลักษณ์ของศรีลังกา และกิจกรรมอื่นๆอีกมากมาย

งานนี้จัดขึ้นเพื่อร่วมเฉลิมฉลองพุทธชยันตี 2,600 ปีแห่งการตรัสรู้ฯ โดยอัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของศรีลังกาคือ “พระเขี้ยวแก้ว” จากเมืองแคนดี้(องค์จำลอง) ให้พุทธศาสนิกชนได้สักการะบูชา และจัดแสดงขบวนแห่ “เอสาละ เปราเหรา” ซึ่งเป็นประเพณีที่มีชื่อเสียงและเป็นสัญลักษณ์ของศรีลังกา พร้อมด้วยหลักฐานสำคัญต่างๆ เกี่ยวกับพุทธศาสนา “สยามนิกาย” และพระอุบาลีมหาเถระ หัวหน้าคณะพระธรรมทูตไทยในสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศแห่งกรุงศรีอยุธยา ที่ไปฟื้นฟูสืบทอดพุทธศาสนาในศรีลังกาซึ่งเสื่อมลงในสมัยนั้น นอกจากนี้ยังมีการแสดงด้านศิลปวัฒนธรรม ดนตรี นาฏศิลป์พื้นเมือง และสาธิตงานหัตถกรรมต่างๆ พร้อมทั้งการออกร้านจำหน่ายสินค้าและของที่ระลึก ฯลฯ

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350><TBODY><TR><TD vAlign=top width=350 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE> นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ศรีลังกากับไทยเป็นเหมือนญาติที่สนิทกันมาตั้งแต่โบราณ โดยมีความสัมพันธ์ทางพุทธศาสนามาตั้งแต่สมัยสุโขทัย จากการที่พระสงฆ์ลังกาได้เข้ามาเผยแผ่พระพุทธศาสนาเถรวาท ‘ลังกาวงศ์’ ต่อมาในสมัยกรุงศรีอยุธยา คณะพระธรรมทูตไทยได้ไปฟื้นฟูพุทธศาสนาในประเทศศรีลังกา อันเป็นที่มาของ ‘สยามวงศ์’และ ‘สยามนิกาย’ ที่เจริญรุ่งเรืองมาจนถึงปัจจุบัน การจัดงานในครั้งนี้ ได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากสถานทูต ศรีลังกา นอกจากเป็นการย้อนรำลึกถึงความสัมพันธ์แล้ว ยังเป็นการร่วมเฉลิมฉลองพุทธชยันตี ซึ่งพุทธศาสนิกชนในไทย จะได้มีโอกาสกราบสักการะพระเขี้ยวแก้วซึ่งเปรียบเสมือนได้เดินทางมาเฝ้าสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และได้นมัสการพระธรรมคำสอนในพระคัมภีร์ใบลานที่นำมาจัดแสดงด้วย

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450><TBODY><TR><TD vAlign=top width=450 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ช่างงานศิลปหัตถกรรมศรีลังกา</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE> ด้าน พลเอก สุวันทะ แหนนะทิเค ศานตะ โกฏเฏโกฑะ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกาประจำประเทศไทย กล่าวว่า นอกเหนือจากการอัญเชิญพระเขี้ยวแก้วองค์จำลองจากเมืองแคนดี้ และการจัดแสดงศาสนวัตถุ-สิ่งของสำคัญทางพุทธศาสนาฝ่ายสยามนิกายเพื่อร่วมฉลองปีพุทธชยันตีแล้ว ศรีลังกามีการจัดการแสดงนาฏศิลป์พื้นเมืองหลายชุดที่หาชมได้ยาก มีเอกลักษณ์เด่นคือลีลาท่วงท่าที่โลดโผน ว่องไว การแสดงหุ่นสายแบบดั้งเดิม การฉายภาพยนตร์ การสาธิตงานศิลปหัตถกรรมต่างๆ อาทิ การแกะสลักไม้ การทำเครื่องทองเหลือง เป็นต้น พร้อมทั้งการออกร้านจำหน่ายสินค้าที่ขึ้นชื่อ เช่น ชาซีลอน ซึ่งเป็นหนึ่งในชาที่ดีที่สุดของโลก อัญมณี เครื่องประดับ ฯลฯ ตลอดจนอาหารคาวหวานจานเด่นของศรีลังกา ทั้งหมดนี้เราได้เตรียมมาเป็นพิเศษสำหรับงานนี้โดยเฉพาะ

Travel - Manager Online - เมืองกรุงเก่าอัญเชิญพระเขี้ยวแก้ว ให้สักการะในงาน“ความสัมพันธ์อยุธยา-ศรีลังกา”
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

อย่าดูหมิ่น บุญกรรม จำนวนน้อย
มันจะคอย ติดตามต้อง สนองผล
เหมือนตุ่มใหญ่ เปิดหงาย รับสายชล
ย่อมเต็มล้น ด้วยอุทก ที่ตกลง
สาธุชน สั่งสม บ่มบุญบ่อย
ทีละน้อย แนบไว้ มิให้หลง
บุญนั้นย่อม เต็มพลัง ด้วยมั่นคง
กุศลส่ง สู่สถาน นิพพานเอย​

โมทนา สาธุ ๆ
กับทุกท่านที่ได้ร่วมกัน
ทำบุญอัญเชิญพระเขี้ยวแก้ว
และสร้างบุญกุศลทุกอย่างในกาลนี้ด้วย​

 

เมื่อปลายปี 1990 ผมและคณะได้มีโอกาสไปนมัสการพระทันตธาตุของพระพุทธองค์ที่วัดพระธาตุเขี้ยวแก้ว เมืองแคนดี้ (พี่คนนึงในคณะตั้งใจไปถวายแหวนบุศราคัมล้อมเพ็ชร พวกเราทุกคนเลยร่วมบุญถวายสร้อยคอทองคำมาต่อๆกันเพื่อคล้ององค์พระเจดีย์ที่ครอบองค์พระทันตธาตุ นับเป็นบุญตาจริงๆที่ได้เห็นเพ็ชรนิลจินดาสารพัดชนิดและสร้อยสังวาลย์ทองคำแต่โบราณกาลที่คล้องทับซ้อนกันมาเป็นร้อยเป็นพันปีครับ)
เจ้าอาวาสในขณะนั้นได้ประทานพระบรมสารีริกธาตุให้ทุกคนในคณะของเราทั้ง 6 คน นำกลับเมืองไทยมาบูชา เป็นที่ปิติอย่างหาประมาณมิได้
ผมบูชาพระบรมธาตุองค์นี้นานเกือบ 17 ปี กระทั่งวันหนึ่ง เพื่อนสนิทชวนไปวัดพุทธบูชาที่บางมดเพื่อร่วมบุญสร้างพระมหาเจดีย์พุทธบูชา หลวงปู่สนธิ์ อนาลโย เจ้าอาวาสกำลังเตรียมเดินทางไปศรีลังกาพอดี ผมเลยขอโอกาสท่านขอน้อมถวายพระบรมสารีรกธาตุองค์นี้เพื่อบรรจุในพระมหาเจดีย์ ท่านก็โมทนากับผมด้วย
ในวันที่ผมทำพิธีอัญเชิญพระบรมธาตุจากห้องพระเพื่อไปประดิษฐานที่วัดพุทธบูชานั้น ได้มีเสียงกลองแขกดังแว่วในหูนานเป็นนาที ทำให้นึกถึงคณะระบำอัญเชิญพระธาตุ เป-รา-เฮ-ร่า ขึ้นมาทันที (ครังที่ 2 ได้ชมที่วัดพิชัยญาติ วงเวียนเล็ก ฝั่งธนฯ เมื่อหลายปีก่อน) แต่เพื่อนๆไม่มีใครได้ยินเลย นอกจากนั้น ในวันที่มีพิธีบรรจุพระบรมธาตุ ก็มีพระอาทิตย์ทรงกลดสวยงามมาก
ที่เล่าสู่กันฟังก็เพื่อบอกว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริงครับ มักปรากฏให้เห็นตามงานหล่อพระที่มีพระอริยเจ้าไปร่วมพิธีกรรม เห็นมาหลักสิบครั้งแล้วครับ

ขอทุกท่านจงเร่งสร้างบุญกุศล บำเพ็ญเพียรภาวนา นะครับ

ผมเชื่อคำสอนขององค์หลวงตาพระมหาบัวอย่างสุดใจเลย
ท่านมักเทศน์สอนลูกศิษย์เสมอๆว่า
...บาปมี...บุญมี...นรกมี...สวรรค์มี...นิพพานมี
ครับผม

 

ไปเที่ยวมาแล้ว
สนุกมากครับ

 

งานเริ่มวันที่ 2 สิงหา ผมไปตอนเปิดงาน
งานจบ 4 สิงหา เรียบร้อยไปแล้ว
เอาภาพมาให้ดู เผื่อใครอยากไปงานแบบนี้ในคราวหน้า



นาฏศิลป์ประยุกต์ ศรีลังกา







ภูติ ศรีลังกา ออกมา ปัดเป่าทุกข์ภัย
หันหน้ามายิ้มกับผม

 

นักแสดงจากกองทัพบกศรีลังกา

 

ระบำนกยูงศรีลังกา
เสียดาย ผมยืนทางข้าง ไม่เห็นตอนนกยูงรำแพนซึ่งต้องมองจากตรงหน้าเท่านั้น

 

นักแสดงศรีลังกา นางเอก










นักแสดงไทย นางเอก โพสต์ 3 รูปเลย

 

เดิมNetผมช้ามาก ตอนนี้แก้ไขแล้ว ก็เลยเพิ่งจะโหลดภาพได้ อีกครั้ง
เดี๋ยวมาต่อครับ

 

หุ่นชักศรีลังกา







หุ่นชักของไทย

 

ช้างไทยแต่งเครื่องประดับจากศรีลังกา









อัญเชิญพระเจดีย์บรรจุพระเขี้ยวแก้ว

 

ช้างอารมณ์ดียิ้มทั้งวัน

 

ชาศรีลังกาของแท้ มีวางขายด้วย ผมซื้อมากล่องนึง

 

พระสงฆ์จากศรีลังกาผูกข้อมือให้พรผู้ร่วมงาน

 

Body Paint แบบศรีลังกา
ผู้หญิงเสื้อสีแดงเป็นช่าง Paint จากศรีลังกา








ใส่อีกหลากสีเพิ่มเข้าไป







Paint แล้ว คงจะรอให้สีแห้งมั้ง