วิธีจับสังเกตุ "มนุษย์ต่างดาว" พวกเขามีอะไรที่แตกต่างจากสัตว์ในโลกนี้หรือ?

ชาวต่างดาวกลัวความเวอร์ของมนุษย์

 

ติบจ๊อบ ไง สร้างสรรค์สิ่งล้ำสมัย

 

อืมใช่แล้ว คุณเป็นใครก็ไม่รู้ เราไม่เคยรู้จักกัน แต่ก็จะเป็นกำลังใจให้นะ

 

อยากมีเมียเป็นมนุษย์ต่างดาว

 

พระเจ้าแสงแห่งธรรม
มีธรรม เหมือนไม่มีธรรม
สัจธรรมแท้ไร้คำอธิบาย
แต่ "ความรู้สึกนั้น" ใช่เลย
ไม่มีสุขสงบใดกว่านี้อีกแล้ว
พระเจ้าแสงแห่งธรรม ไร้ลักษณ์
ไร้รูป ไร้นาม คล้ายแสงแห่งธรรม


จิตที่สงบนิ่งดุจน้ำนิ่ง
ย่อมส่องเห็นสรรพสิ่ง
ตรงไปตรงมาอย่างนั้น
จิตที่หวั่นไหว ย่อมเห็น
สรรพสิ่ง "บิดเบือนไป"


พระเจ้าแสงแห่งธรรม
พระธรรมกายแห่งพระพุทธองค์
พระจิตหลังดับขันธปรินิพพาน
สิ่งนี้ คือ สิ่งเดียวกัน ยากค้นพบ


...จิตหลุดลอยจากร่าง
เข้าเฝ้าพระธรรมกาย
ของพระพุทธองค์แล้ว
กลับคืนสู่ร่างเดิม กำเนิดใหม่


ใช่ว่าจะพบประสบการณ์นี้ได้บ่อยนัก

 

สัจธรรมเป็นพื้น
ปูหลักรองรับแน่น


บารมีหนุนเสริมส่ง
ดันให้สูงยิ่งๆ ขึ้นไป


ศรัทธาเป็นเครื่องชี้เป้า
ให้จิตพุ่งตรงไปถูกจุด


ปัญญาเป็นคบเพลิง
ส่องสว่างเห็นรอบทิศ


จิตเป็นดั่งผู้บริสุทธิ์
ธรรมชาติเช่นนั้นเอง

 

เขาเป็นร่างหนึ่งของ "ฟง"
เขาป่วย ถ้าอ้างเหตุลาออก
ก็จะมีเวลาปฏิบัติธรรมมากกว่านี้
และจะทำให้ "ฟง" กำเนิดใหม่ได้
ทว่า เขากลับไม่ยอมลามือ ธรรมไม่ถึง


โอกาสโปรดฟง จึงตกเป็นของผู้อื่น ...

 

อยากจะได้ของอะไรที่คิดว่าดีๆ หรือตัวอะไรดีๆ ถ้าอยากได้ "ก็เอาไปเถอะ"

ถ้าข้าพเจ้านิพพานได้ ข้าพเจ้าก็จะนิพพานไปและ ขี้เกียจจะสนใจและจะใส่ใจต่อใครๆอีก

 

เหรอ ก็ยังดีกว่าเป็น "นางแพศยา หมาจิ้งจอกนั่นแหละนะ"

(อุตาย ฉันปรามาถเธอ ฉันคงจะ "ตกนรก")

 

เล่นกัน มืด ไม่เห็นตัว ไม่เห็นหน้าแบบเนี้ย "นิสัย"

จะมาใช้คำว่า "ใจ" ไม่ได้หรอก เพราะมันเหมือน "หมาลอบกัด"

 

หล่อนมี อสูร ครอบขันธ์อยู่ หล่อนเป็นคนไม่รู้ตัวเอง
ไม่ต้องไปเคืองหล่อนเลย นิสัย อสูร มันส่งมาให้แสดง
เพื่อเสพสิ่งต่ำทราม(ให้กายเนื้อแสดงสิ่งต่ำทราม)
เหมือน บอปชอบกินแต่อาจมนั่นแล

 

ขอถามหน่อยว่า ... มนุษย์ต่างดาวจำเป็นที่จะต้องมีกายสังขารไหม
อาจจะเป็นกายที่โปร่งแสง หรือเป็นวัตถุที่มองไม่เห็น
เพราะจริงๆก็สัมผัสได้ถึงลมหายใจ (อุ่นๆ) มีกลิ่นหอมอ่อนๆ
เคลียอยู่ข้างๆแก้ม บางครั้งที่นั่งในมุมที่ตกกระทบกับแสง
จะเห็นเงาดำรางๆ บางครั้ง เขา ก็สามารถตอบโต้ในสิ่งที่ถามได้
(ตอบในความฝัน)

 

ขอถามหน่อยว่า....

การใช้พลังจิตแบบมารจะทำให้ถูกครอบงำไหม
แม้จะเป็นความคิดเชิงบวกก็ตาม
ในสวรรค์ชั้นมารเข้าใจว่าน่าจะเป็นปรนิมมิตวสวัตดี
ทำไมถึงไม่เลือกการใช้พลังจิตแบบเทพแทน (หรือมันไม่มี)
เพราะชั้นนั้นก็มีทั้งมารและเทพไม่ใช่เหรอ
ที่คนเค้าพูดกันถึงว่าคิดบวก
หมายถึงว่าเรากำลังถูกต้อนให้ใช้พลังจิตแบบมารอยู่หรือ

 

ถ้าจริงล่ะก็ เคยเจอมาหลายคนแล้วล่ะค่ะ
ส่วนใหญ่อยู่ในแวดวง วิทยาศาสตร์

 

แบบเทพก็มีครับ แต่คนทำไม่ค่อยได้
กฏระเบียบเยอะยิ่งกว่าทหารอีกครับ
อย่างเช่น ถ้ารู้ว่าอะไรเป็นแหล่งพลัง
ดำ เราจะยุ่งไม่ได้เลย แยกกันอยู่อย่าง
อย่างเด็ดขาด ห้ามคบ ห้ามพูด ห้ามคุย
ห้ามทุกๆ อย่าง เพื่อไม่ให้เราเป๋นอกทาง
มันทำได้สักกี่คนครับ? แต่ว่าพลังจิตระดับ
ไซย่านี่ ก็ยิ่งยากไปใหญ่ ทำได้น้อยไปอีก


คนเราอยากได้แต่สิ่งดีๆ ทั้งนั้น แต่มันไม่
อาจไม่พลาดได้ตลอดไป ถ้าพลาด ก็อาจ
เผลอไปใช้พลังจิตแบบมารได้ง่ายครับ

 

ไม่จำเป็นต้องติดภาพที่เคยเห็น
แต่จำเป็นต้องเปิดใจให้กว้างเพื่อ
ทำใจรับสิ่งที่เป็นจริง อันอาจจะ
ต่างไปจากที่คิดหรือเคยเห็นครับ

 

พระเจ้ามีหลายองค์


พระธรรมกายของพระพุทธเจ้า
จะต่างจากพระเจ้าทั่วไปตรงที่
"ท่านจะเข้านิพพานแล้ว จะไม่
สั่งใช้อะไรเราโดยตรง" ในขณะ
ที่พระเจ้าองค์อื่นๆ ยังไม่ถึงวาระ
นิพพาน ท่านจะสั่งใช้เราตรงๆ
เลย เหมือนพระอัลเลาะห์กระทำ


แต่แม้ว่าท่านจะมีหลายองค์ ก็ทำ
กิจเป็นเอกภาพกัน เป็นหนึ่งเดียว
กันในด้านการช่วยเหลือโลกครับ

 

สรรพสิ่งเป็นหนึ่งเดียวกันอยู่แล้ว
การกระทำเพื่อรวม เกิดจากการ
ที่มันแตกแยกไปจากภาวะหนึ่ง
เดียวกันนั้น


เข้าถึงภาวะหนึ่งเดียว ก็ไม่ต้องรวม
อะไรอีก เพราะมัน ก็รวมกันอยู่แล้ว

 

กล่าวได้เยี่ยม เพราะ มันมีของมันอยู่แล้ว

สุดแล้วแต่ว่าใครจะพบเห็นเป็นอย่างไร

ก็ย่อมแตกต่างไปตามการพบเห็น แตกต่าง

ไปตามบารมีของผู้พบเห็น ....

ปกติธรรม หรือธรรมชาติมันมีของมันอยู่แล้ว

 

ไม่ให้ยุ่งเพราะเวลายุ่งกับมัน ก็คือการคิด
การประวัตถึง หรือการเปิดมิติ หรือการส่งสัญญาณ
ถึงสิ่งที่เราคิด เมื่อคิดเมื่อส่งสัญญาณเมื่อเปิดมิต
มันมาทันที ไม่เชื่อก็ลองดู ความคิดจะลื่นไหลและยังไม่อยู่
มีความเพลิดเพลินภายในหลงไหลไปกับความคิดอันนั้นโดยขาดสติ

นั้นละมันมาแล้ว