เว็บนอกแสบ!! ขายเก้าอี้ทรงพระพุทธรูป อ้าง ทำให้เข้าถึงการตรัสรู้

เว็บไซต์เกี่ยวกับการออกแบบผลิตภัณฑ์ของต่างประเทศรายหนึ่ง ได้ผลิตเก้าอี้ลอยน้ำทรงพระพุทธรูป โดยระบุรายละเอียดไว้ว่า เก้าอี้ตัวนี้ช่วยผ่อนคลายเพราะบริเวณหน้าตักกว้าง ทำให้นั่งสบาย ทั้งยังช่วยให้สามารถเข้าถึงการตรัสรู้ได้ แม้จะอยู่ที่บ้าน

ทั้งนี้ เก้าอี้ทรงพระพุทธรูปนี้ ทำจากพลาสติกสังเคราะห์ที่สามารถนำกลับมาใช้ได้อีก มีไฟส่องสว่างในตัวด้วย

นอกจากนี้ ยังมีภาพแสดงสินค้าเป็นภาพผู้หญิงสวมชุดกระโปรงสายเดี่ยวสีดำ เผยให้เห็นร่องหน้าอก นั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วย

Mthai News





สินค้าลบหลู่พระพุทธศาสนา
[ame]http://www.cafepress.com/thaimassage/825955[/ame]


"ดูกรอานนท์ บุคคลจำพวกใด หากเบียดเบียนเสียดสีหมิ่นประมาทใจพระสังฆเถระ และ ภิกษุสามเณรที่เป็นศิษย์ของพระตถาคต โดยที่ท่านทั้งหลาย เหล่านั้นมีโทษไม่ถึงปาราชิก และบังคับให้สึกออกจาก เพศพรหมจรรย์ หรือกระทำปัพพาชนียกรรมไปเสียก็ดี บุคคลจำพวกนั้นเป็นบาปยิ่งนักอาจไม่พ้นนรกได้ บุคคล จำพวกใดมีความเชื่อความเลื่อมใสในคุณธรรมคำสั่งสอน ของเราตถาคต แล้วเชิดชูยกย่องไว้ให้ดี มิได้ดูถูกดูหมิ่น บุคคลจำพวกนั้นก็จะมีความเจริญด้วยความสุขทั้งในโลกนี้ และโลกหน้า แม้ปรารถนาสุขอันใดซึ่งไม่เหลือวิสัย ก็อาจ สำเร็จสุขอันนั้นได้ตามปรารถนา บุคคลที่ทำลายพระพุทธรูป พระสถูปพระเจดีย์ และตัดไม้ศรีมหาโพธิ์ และบุคคลจำพวก ที่กล่าวหมิ่นประมาทเย้ยหยันแก่สานุศิษย์ของเราตถาคต ที่มีโทษไม่ถึงปาราชิก บุคคลจำพวกนี้มีโทษหนักยิ่งกว่า จำพวกที่ทำลายพระพุทธรูป และพระสถูปพระเจดีย์นั้น หลายเท่า บุคคลที่ทำลายพระพุทธรูปเป็นต้นนั้นเป็นบาป มากก็จริงอยู่ แต่ยังไม่นับว่าเป็นการทำลายพระพุทธ
ศาสนา ผู้ที่กล่าวหมิ่นประมาทนั้น ได้ชื่อว่าทำลายศาสนาของ เราตถาคต เพราะว่าผู้ที่มีความผิดโทษไม่ถึงปาราชิกนั้น ยังนับว่าเป็นลูกศิษย์ของเราตถาคตอยู่ ต่อเมื่อเป็นปาราชิก แล้วจึงขาดจากความเป็นลูกศิษย์ของเรา ถ้าเป็นโทษเช่นนั้น แม้จะลงโทษหรือกระทำปัพพาชนียกรรมก็หาโทษมิได้ และ ได้ชื่อว่าช่วยพระศาสนาของเราด้วย การทำลายพระพุทธรูป หรือพระสถูปพระเจดีย์นั้น ยังมีทางเป็นกุศลได้อยู่ ดัง พระพุทธรูปไม่ดีไม่งามแล้วทำลายเสีย แก้ไขให้งามให้ดีขึ้น แม้พระเจดีย์และไม้ศรีมหาโพธิ์ก็เช่นกัน ต้นโพธิ์ที่ตั้งอยู่ ในที่ไม่สมควร เช่นตั้งอยู่ในที่ใกล้ถาวรวัตถุ อาจทำลายวัตถุ นั้นได้ จะตัดเสียก็หาโทษมิได้ ถ้าทำลายเพื่อหาประโยชน์ แก่ตนหรือทำลายโดยความอิจฉาริษยาเช่นนั้น ย่อมเป็น บาปเป็นกรรมโดยแท้ แม้ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่ชื่อว่าเป็นการ ทำลายศาสนา พวกที่หมิ่นประมาท ทำให้สงฆ์ที่มีโทษ ยังไม่ถึงอันติมะให้ได้รับความเดือดร้อนถึงแก่เสื่อมจาก
พรหมจรรย์ ได้ชื่อว่าทำลายพระพุทธศาสนาโดยแท้ ข้าแต่ พระมหากัสสปะพระพุทธเจ้าได้ตรัสเทศนาแก่ข้าฯ อานนท์ ดังนี้"

คัดลอกบางส่วนจาก:คิริมานนทสูตร

http://www.cdthamma.com/pdf/PDF001.ZIP

--------------------------------------------------------------------

Yanky1890

ต้นตอเว็บทีขาย บริษัทนี้ชื่อว่า"Sereno Geeky.com" ซึ่งเป็นบริษัทออกแบบขาบเฟอร์นิเจอร์ เก้าอี้นี้ชื่อว่า"Sereno armchair puts you in the lap of god for that eternal feeling"
ตามลิงค์


Sereno armchair puts you in the lap of god for that eternal feeling | Damn Geeky - The geek's guide to awesomeness

ขอบพระคุณท่านมากๆครับ

---------------------------------------------------
โมกขทรัพย์

กระทู้นี้ สั่นสะเทือนความรู้สึกชาวพุทธนะครับ ก็เตือนได้เท่าที่เตือนเท่านั้นล่ะครับ ที่เหลือก็วางอุเบกขาไป

ทรงพรหมวิหาร ๔ ไว้ เพราะสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมครับ

โมทนากับผู้มีจิตกุศลทุกท่านครับ

----------------------------------------------------

รากโคนบัว

ผู้ที่ตั้งกะทู้มาแบบนี้ ที่หน้าทีหลัง ผมว่าอย่าตั้งมาจะดีกว่า มันไกล้นรกเกินไป ถอยออกมา ตั้งกะทู้อื่นเถอะผมเสียวแทนครับ (มีคนเข้ามาเตือนเยอะจังเสียววุ้ย)หุหุ

----------------------------------------------------

สังขารไม่เที่ยง

สาธุ..สาธุ..สาธุ...กับเฮียปอ แล้วก็คุณโมขทรัพย์ ด้วยนะคะ....

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในกระทู้นี้...มันแสดงให้เห็นว่า...

คนเรา...เกิดมามีปัญญาต่างกัน มีความโง่เขลาต่างกัน....มองต่างกัน...แต่ในความต่างย่อมมีความถูกต้อง....และไม่ถูกต้อง....

-----------------------------------------------------

ผิดถูกประการใด...กระผมขอกราบ...ขออภัยทุกๆท่านอย่างสูงด้วยนะครับ สำหรับความผิดพลาดในการนำกระทู้นี้ ที่สั่นสะเทือนความรู้สึกชาวพุทธ (โดยเฉพาะตัวของกระผมเอง)
ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น เมื่อ วันพฤหัสที่ 5 กรกฎาคม 2555 23.35 น. กระผมนอนแทบไม่หลับเลยครับ รู้สึกสะเทือนมากๆ ที่จิตใจของ มนุษย์ เราเสื่อมถอยลงเลื่อยๆ (ผู้ไม่มีธรรมเป็นสรณะ)
โลกของเรานับวันอยู่ยากอยู่ลำบากมากขึ้นเรื่อยๆ (รู้หน้าไม่รู้ใจ) และเต็มไปด้วยภัยรอบด้านในสังคมโลก ยิ่งพวก นอกศาสนาแล้ว
พวกเขาชอบมาเบียดเบียน พระพุทธศาสนา ของพวกเราชาวพุทธทั้งหลาย อยู่เรื่อยมา ทั้งๆที่ชาวพุทธเราก็ไม่ได้ไป ดูถูกเหยียดหยาม
พวกนอก (ศาสนา) ของพวกเขาเลยแม้แต่น้อย ซึ่งพวกเรามีแต่ พรหมวิหารธรรม 4 ให้กับพวกเขา ที่กระผมตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาก็เพื่อว่า
ต้องการ เตือน สติ พวกเราชาวพุทธ เพื่อนๆกัลยานมิตร ทุกๆท่านว่า อย่าได้ ประมาท อยู่นิ่งเฉยๆเลย ไม่ใช่ว่าพวกเราจะปล่อยให้ พวกเขา (นอกศาสนา)
มา ย่ำยีพระพุทธศาสนา ของพวกเราอยู่แบบนี้ กระทู้นี้กระผมไม่ได้ตั้งขึ้นมา เพื่อมุ่งหวังให้พวกเรามา ทะเลาะ กันเอง (สติ +ปัญญา)
แต่กระผมตั้งขึ้นมาก็เพื่อว่า และ หวังว่า พวกเราชาวพุทธ เพื่อนๆกัลยานมิตร ที่น่ารักทุกๆท่าน คงจะมาร่วมกัน ช่วยกัน ร่วมประณาม พวกมัน (กลุ่มคนที่มันทำ)
กระผมคิดว่า มันคงถึงเวลาแล้วล่ะครับ ที่จะต้องมาช่วยกัน พิทักษ์ รักษา พระพุทธศาสนา ของพวกเรา มันเป็นหน้าของ พุทธบริษัท 4 ทุกๆท่าน
ส่วนตัวกระผม ผมทนเห็นไม่ได้ที่ พวกมันมาทำกับ พระพุทธศาสนา อยู่แบบนี้.
แม้แต่ท่าน พระมหากัสสปะ ผู้ได้รับยกย่องในทางผู้ทรงธุดงค์ จากพระพุทธเจ้า ท่านยังไม่อยู่นิ่งเฉยเลยครับ ขอยกตัวอย่างบางตอนของท่านครับ

"พระสุภัททะ ซึ่งบวชเมื่อแก่และและมีใจอาฆาตพระพุทธองค์มาแต่เดิม ได้เที่ยวกล่าวแก่ภิกษุทั้งหลายว่าพวกท่านอย่าเศร้าโศก อย่าร่ำไรไปเลย พวกเราจะสบายแล้ว ด้วยเมื่อพระมหาสมณะยังอยู่นั้น ก็ได้คอบห้ามพวกเราอยู่ว่า สิ่งนี้ควรทำ สิ่งนี้ไม่ควรทำ บัดนี้ พวกเรา ปรารถนาจะทำสิ่งใด ก็จะกระทำสิ่งนั้น ไม่ปรารถนาจะทำสิ่งใด ก็จะไม่กระทำสิ่งนั้น

พระเถระฟังคำที่พระสุภัททะได้เที่ยวพูดกับหมู่ภิกษุเหล่านั้นแล้ว ท่านก็เกิดธรรมสังเวช.ว่าพระผู้มีพระภาคเจ้าเพิ่งจะปรินิพพานได้เพียง ๗ วัน พระบรมศพก็ยังอยู่ เสี้ยนหนามศาสนาอันใหญ่เกิดขึ้นเร็วถึงปานนี้ พระศาสนาที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงนำมาด้วยทุกข์ยากนี้ถ้าปล่อยให้คนบาปเหล่านี้เติบโตและได้คนบาปอื่นมาเป็นพรรคพวก ก็อาจจะทำพระศาสนาให้เสื่อมถอยได้

ถ้าเราจะให้ขับไล่พระชั่วองค์นี้ไป ผู้คนทั้งหลายก็จะพากันตำหนิโทษเราว่า พระศาสดาปรินิพพานไปยังไม่ทันไร พระบรมศพของพระสมณโคดมยังคงอยู่ เหล่าสาวกก็เกิดวิวาทกันเสียแล้ว เพราะฉะนั้น เราควรอดกลั้นไว้ก่อน พระธรรมที่ทรงแสดงแล้วนั้น เปรียบเหมือนดอกไม้ทั้งหลายที่เมื่อต้องลมก็ย่อมกระจัดกระจายไป ฉันใด สิกขาบทในวินัยก็จะพินาศ ธรรมในพระสูตรก็จะพินาศ ธรรมในพระอภิธรรมก็จะพินาศ ด้วยอำนาจของบุคคลชั่วเช่นนี้ ก็ฉันนั้นเหมือนกัน.เพราะฉะนั้น เราจะต้องสังคายนาธรรมวินัย เพื่อให้พระธรรมนี้ พระวินัยนี้ มั่นคงเหมือนดอกไม้ที่ผูกไว้ด้วยด้ายเหนียว"
http://www.dharma-gateway.com/monk/great_monk/pra-mahakassapa-page.htm

เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ถ้าหากว่าทางบ้านท่านไม่บังคับให้กระผม บวชเรียนเป็นสามเณร ผมคงไม่มีวันนี้ ป่านนี้ตัวกระผมคงจะต้อง
ทนทุกข์ อยู่ในคุกเป็นแน่ เพราะไม่ตั้งใจเรียน ติดเพื่อนที่ เกเร หนีเรียน ติดยา มาวันนี้ กระผมรู้สึกว่าได้เป็นหนี้ใน พระพุทธศาสนา อย่างมากมายมหาศาล
ไม่รู้ว่า จะใช้หนี้ในคุณของพระพุทธศาสนา ให้หมดได้เมื่อใด!!

กระผมไม่มี เจตนา เลวทราม ตํ่าช้า เป็นอื่นแต่อย่างใดครับ เพียงแค่ หวังต้องการ ให้พี่น้องเราชาวพุทธทั้งหลาย ได้ตระหนักถึง
เรื่องราวที่ได้เกิดขึ้นกับ พระพุทธศาสนา ของเราเท่านั้นครับ เพื่อว่าจะได้ช่วยกันเป็นหูเป็นตา พิทักษ์ รักษา พระพุทธศาสนา
ให้เจริญรุ่งเรือง สืบไปตลอดกาลนาน... กระผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าคงจะได้รับการให้อภัย และ อโหสิกรรม จากทุกๆท่านด้วยนะครับ.

<iframe src="http://www.youtube.com/embed/mQciswVrON0" allowfullscreen="" frameborder="0" height="315" width="420"></iframe>


<iframe src="http://www.youtube.com/embed/9rhhZfmmwAU" allowfullscreen="" frameborder="0" height="315" width="560"></iframe>

 

มองอีกแง่หนึ่งเขาอาจจะไม่ได้ตั้งใจหลบหลู่มากหรอกแต่อาจจะรู้ไม่เท่าถึง ว่าเหมาะสมหรือไม่ อีกอย่าง มันก็คือเก้าอี้ สิ่งที่เรายึดถือคือคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ไม่ใช่เหรอพวกท่านทั้งหลาย พระบางองค์เอา หนังเสือ หนังเสือดาวมานั่ง หนังหมี ผมว่ามันก็ไม่ได้แตกต่างกับการนั่งปูน รูปคล้ายพระเท่าไหร่ อีกอย่างรูปทรงเหมือนพระนิกายจีนมากกว่า พระพุทธเจ้าเสียอีก

 

ขอเหตุผลด้วย อย่าเงียบกันสิพวกท่าน สิ่งไหนที่ว่าไม่ดี โปรดมาชี้แนะด้วย อย่าลืม สิ่งสำคัญที่สุดคือเจตนา ไม่ใช่มองแต่เปลือกนอก เหมือนเด็กเห็นดอกไม้สวยก็สวยโดยไม่รู้ว่าดอกไม้นั้นมันมีพิษ

 

อย่าเอาพระพุทธเจ้า...และพระพุทธรูป...มาเปรียบกับหนังเสือ หนังเสือดาว....เพราะว่าคุณค่าของพระพุทธเจ้า....มันต่างกับหนังเสือนะ...ถ้าคุณใช้ปัญญาคิดดี ๆ คุณคงจะเข้าใจ...

 

เอาผู้หญิงมาเป็นพรีเซ็นเตอร์...นั่งตักพระพุทธรูป ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของชาวพุทธ

งั้นถ้ามีคน....มานั่งขี้รดเยี่ยวรดบนหัวของพ่อคุณ มาทำตัวต่ำๆ กระทืบหัวของพ่อคุณ คุณจะยอมให้คนอื่นทำกับพ่อของคุณไหมคะ....

 

มีประโยคไหนที่ผมบอกว่าโต้ะนั้นคือพระพุทธเจ้า เหรอท่าน ผมบอกให้ท่านกลับไปมองดู เจตนา อีก 1รอบแล้วค่อยๆมากล่าวว่า ผมนะ เหอๆอย่าเอาพ่อแม่ผมมาเล่นเลย ผมไม่ได้ตั้งใจมาลบหลู่ศาสนา อาจจะ เคราพมากกว่าคนบางคนในนี้อีกด้วยซ้ำไป ฮ่าๆ เจตนา อะเข้าใจความหมายไหม คำนี้เหมือนง่ายๆแต่โตแล้วไม่ใช่เด็กก็อาจไม่เข้าใจ คนจะตายยังไงก็จะยื้อไว้เพื่ออะไร เรื่องพื้นๆมาก

 

บางคนเหมือนฉลาดรู้แจ่มแจ้งทุกอย่าง เว้นแต่โง่เขลาในเรื่องธรรมชาติแท้ๆ pity_pig
อายุไม่ได้บ่งบอกถึงการ เป็นคนดีไม่ดีหรอกนะผมว่า หุๆๆ ถ้าเป็นผมจะไม่ว่าว่าพ่อล่อแม่คนอื่นเลย นะ ฮ่ะๆ อายุก็โตแล้วแต่มีโทสะยังกับเด็ก ม.ต้นอยู่เลยนะท่าน

 

กระผมขอเป็นตัวแทน เรียนชี้แจง แด่ สหายธรรมครับ

พวกเราอยากให้สหายธรรมตรองให้ดีกว่านี้ก่อนครับ และขอเล่าเรื่องราวให้ท่านฟัง กระผมได้มีโอกาศกราบพระผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ซึ่งท่านเคยเล่าให้ฟังในตอนหนึ่งว่า หากคลุกคลีในวงศาสนาลึกๆ จะรู้ว่าศาสนาเขาเราถูกรุกรานและโจมตีจากกลุ่มต่างศาสนาอยู่ศาสนาหนึ่ง หวังว่าไม่เอ่ยก็คงพอเข้าใจว่าศาสนาใด

ส่วนเรื่องเก้าอี้นี้ กระผมมีความเห็นว่า การทำออกมาแล้วเอาผู้หญิงมานั่งนั้น สหายธรรมเข้าใจแล้วว่าเจตตา แต่เข้าใจเพิ่มอีกสักหน่อยว่า เจตนาไม่ดีแน่นอน เพราะศาสนาพุทธเรามีคนรู้กันทั่วว่าธรรมเนียมปฏิบัติกับเพศตรงข้ามทำแบบไหน ซึ่งถ้าหากเขาเปลี่ยนจากภาพผู้หญิงเป็นภาพแจกันดอกไม้ ธูป เทียนวางและมีรูปพระพุทธองค์ หรือรูปจำลองตั้งไว้ อันนี้ก็จะเป็นอีกเจตนาหนึ่งที่ดูดีกว่าภาพผู้หญิงนะครับ ศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่มีผู้นับถือเยอะมากในระดับแนวหน้าก็ว่าได้ เพราะฉะนั้น จะอ้างว่าไม่รู้ธรรมเนียม ไม่ได้นะครับ เหมือนจะอ้างว่าไม่รู้กฏหมาย ก็เช่นกัน
พระนั่งหนัง เสือ หนังสัตว์ ถ้าหากสหายเคยอ่านบัญญัติศีล 220 ข้อของพระสงฆ์ (ต้องอ่านถึงที่มานะครับก่อนที่พระพุทธองค์จะบัญญัติขึ้นมาเพราะเหตุใด)
มีศีลหลายๆข้อที่เกิดจากพระภิกษุฉัพภัคคีกระทำและเกิดความไม่เหมาะสมในเพศสมณ ก่อให้เกิดความไม่งาม ชาวบ้านจึงได้กราบทูลพระพุทธองค์และได้ทรงบัญญัติข้อห้ามขึ้นมา
ภาพพระพุทธองค์ จะทำจากอะไรก็ได้ แต่เป็นของสูงครับไม่ควรนำมาให้ต่ำ สร้างขึ้นมาเพื่อสักการะบูชา ตั้งไว้ที่สูง ถึงแม้จะเหมือนพระในนิกายจีน แต่จีนเขาก็ถือว่านับถือพระพุทธศาสนา ที่หมายถึงพระพุทธเจ้าองค์เดียวกับเรา เพียงแต่เข้าใจกันในคนละนิกายเฉยๆครับ พระสงฆ์จีนก็กราบไหว้ได้เหมือนกันครับ. อะไรก็ตามที่เราเข้าใจว่าเขาสื่อถึงพระพุทธเจ้า ไม่ว่าจะเหมือนหรือไม่เหมือนก็ตาม ก็จงเข้าใจว่าเป็นพระพุทธเจ้าเถอะครับ อย่าเอาว่าเหมือนหรือไม่เหมือนเลย
หากยังไม่เข้าใจ ก็โปรดทำความเข้าใจว่า พระพุทธเจ้าท่านเป็นเจ้าชายสิทธัตถะ มาก่อนครับ เป็นลูกกษัตริย์ หรือลูกพระเจ้าแผ่นดิน เป็นเชื้่อสายกษัตริย์
อะไรควรไม่ควรก็คงพอจะนึกออกบ้างนะครับ.
ด้วยความห่วงใยครับ.​

 

ผมไม่เถียงแล้ว เพราะยังไง ต้นไม้มันก็ย่อมเหี่ยวเฉาไปตามเวลา ท่านดูแลไว้ไม่ผิด แต่มันก็มีอายุขัย ของมัน อีกอย่างไม่มีใครมาบอกทั่งนั้นว่า โต้ะตัวนี้หุ่นนี้คือพระพุทธเจ้าของเรานะ เราคิดกันไปกันเกินเยอะมากเกินไปแล้วไปเรื่องโจมตีศาสนามันมีมาตั้งแต่สมัยก่อนนู้นแล้วยังไม่ชินกันอีกเหรอ ยังไงผมก็ถือ เจตนา เป็นที่ตั้ง อยู่ดี เมื่อมีเรื่องมาแล้วพวกท่านก็ไม่ได้ตกนรก หมกไหม้กันซะหน่อย หลบอะไรก็หลบได้แต่หลบหนีความจริงไม่ได้หรอก อีกอย่างผมไม่ใช่ศาสนา พระศรีอารย์หรืออื่นๆ แน่นอนผมนับถือพระสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มากที่สุดแต่พระองค์ก็สอนผม ให้ถือเรื่อง เจตนา เป็นสำคัญ ฮะๆ ตามนั้น

 

คุณ <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->hydraxis ถ้าคุณพอที่จะมองเห็นนะ คุณมีความเคารพในพ่อแม่คุณเองเช่นใดตาม อันคุณ <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->สังขารไม่เที่ยง<!-- google_ad_section_end --> ก็มีความเคารพในพระพุทธเจ้าเช่นนั้นเช่นกัน....

แต่เรื่องนั้นมันเป็นเพียงแค่การสมมุติให้รู้ให้เข้าใจ.....คุณไม่มีความพอใจเมื่อเขาด่าพ่อแม่คุณถูกไม...ชาวพุทธทั้งหลายก็ไม่มีความพอใจเช่นกันที่จะมีใครไปกระทำเช่นนั้นกับพระพุทธเจ้า....

ถูกต้องในความเห็นของคุณว่าสิ่งนั้นไม่ใช่พระพุทธเจ้า....ก็จะเป็นพระพุทธเจ้าได้อย่างไรหละ ก็พระพุทธเจ้าท่านปรินิพพานไปแล้วตั้งสองพันห้าร้อยกว่าปี....แต่คุณคงจะลืมไปว่าสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่สร้างขึ้นมาแทนรูปของพระพุทธเจ้าที่เป็นที่เคารพในดวงใจของชาวพุทธทั้งหลาย ทั่วไทย และ ทั่วโลก....เมื่อคุณมองรูปเคารพเหล่านั้นคุณกราบรูปเคารพเหล่านั้น จะมีใครบ้างใหมที่คิดว่าฉันกราบรูปเคารพ ไม่ได้กราบพระพุทธเจ้า.....ทุกคนเมื่อกราบลงที่รูปเคารพเหล่านั้นแน่นอนเขาต้องคิดว่ากราบพระพุทธเจ้าอยู่วันยังคำหละครับ.....

ยกตัวอย่าง เพื่อให้เห็นเด่นชัด ถ้ามีคนไปเห็น พระบรมฉายาทิสลักษณ์ ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เขาให้ความแสดงความเคารพต่อพระบรมฉายาทิสลักษณ์นั้น ถามว่า เขาเคารพในรูปนั้นหรือสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกันแน่.....ถูกต้องรูปนั้นไม่ใช่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพราะสมเด็จท่านอยู่ในพระราชวังนู่น แต่ พระบรมฉายาทิสลักษณ์นั้น เป็นรูปแทนของท่าน แทนในความดีของท่านที่อยู่ในดวงใจของประชาชนชาวไทย เราทั้งหลายเคารพพระบรมฉายาทิสลักษณ์นั้น อันหมายตรงต่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว....และเราทั้งหลายจะไม่พอใจถ้ามีใครกระทำการจาบจ้วง ทำลาย หรือเลียนแบบในสิ่งที่ไม่ดีในพระบรมฉายาทิสลักษณ์นั้น .

พระพุทธรูปไม่ว่าจะเป็นศิลปสมัยใหน ถือเป็น อุทเทสิกเจดีย์ คือเจดีย์ที่ทำเพื่ออุทิศตรงแด่พระพุทธเจ้า...ผมว่าถ้าคุณมีความกตัญญูแม้แต่เล็กน้อยเหมือนดังกับคุณให้ความเคารพต่อบิดามารดาของคุณ คุณจะไม่มีการกล่าววาจาแบบนี้ออกมา.....เพราะอะไร เพราะว่าความเคารพในพระพุทธเจ้าจากใจของคุณนั้นยังไม่แข็งแรงเท่าความเคารพของคุณที่มีให้กับบิดามารดาของคุณนั่นหละครับ.....

หวังว่าคุณจะเข้าใจ....ถ้าใจคุณไม่หยาบกระด้างจนเกินไป.....

ส่วนตัวผมเห็นด้วยกับคุณ <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->สังขารไม่เที่ยง<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_6361919", true); </SCRIPT> ครับ.

 

มีใครพูดข้างๆหูคุณหล่ะ เทวดาเหรอหรือคนข้างๆ ว่าโต้ะนั้นคือพระพุทธเจ้านะ อย่าไปลบหลู่ ฮ่าๆอันตัวผมไม่โกรธหรอกที่มาด่าว่าพ่อแม่ แต่มันเหมือนยังไม่บรรลุนิติภาวะ ก็เท่านั้นเอง บางครั้งก็อดหัวเราะไม่ได้นะ ฮ่า ยังยึดติดกันอยู่เหรอ ปล่อยวางกันมั้งเสียนะ

 

ถ้างั้น ถ้าใจมันหยาบกระด้างได้ขนาดนั้น ผมก็คงไม่มีอะไรที่จะต้องพูดต่อไป....แต่ให้คุณเข้าใจไว้ว่าที่หลายท่านไม่เห็นด้วยกับคุณ....เมื่อคุณทวงถามเหตุผล ผมและคุณ <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->สังขารไม่เที่ยง<!-- google_ad_section_end --> ได้เป็นส่วนหนึ่งในตัวแทนของหลายๆท่านที่กดปุ่มไม่เห็นด้วยกับแนวคิดของคุณก็ด้วยเหตุผลนี้....

เมื่อคุณทวงถามก็มีการตอบไป....แต่เมื่อตอบไปคุณก็ไม่รับฟังเหตุผล....และพร้อมที่จะถกเถียงเพื่อเอาชนะ....อย่างนั้นก็คงจะไม่ใช่หน้าที่ที่ผมต้องพูดอะไรอีกต่อไป.....เพราะว่าใจคุณนั้นอาจหยาบกระด้างจนเกินกว่าที่หลายท่านจะกล่าวตักเตือนได้....แต่ให้คุณจงรู้ไว้ว่าที่หลายคนกดไม่เห็นด้วยกับแนวคิดของคุณนั้น ด้วยเหตุผลใด....

สวัสดี......

 

อันตัวผมขอ จบ ประเด็น เพียงเท่านี้จะไม่พิมตอบโต้ แล้ว ใครจะว่าอะไรก็ช่าง ที่กลุ่มตาลีบันระเบิดพระพุทธรูปไปแล้วพวกท่าน ทำอะไรมั้ง ณ วันนี้ ปัจจุปันนี้ วินาทีนี้ ไม่นั่งเครื่องบินไปตาลีบันแล้วตามล่าฆ่ามันเลยไหม ไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้นพวกท่านก็หลงลืมไปแล้วมั้งเรื่องนี้จะมีใครจำได้ก็อยากรู้เหมือนกัน ถ้าผมจะลบหลู่พระพุทธเจ้าพระองค์จริงๆขอให้พระพุทธองค์ท่านมาตัดสินเอง ในตอนตายแล้วกัน ไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาอย่างพวกท่าน มาตัดสิน เพราะ เจตนา ของผม ก็มีของผม เหมือนเจตนา ของพวกท่านที่ต้องการปกป้องศาสนา แต่เมื่อคนเอาเหล็กมาแทงท่านเลือดไหล แทนที่จะทำแผลกลับ พูดด่า คนที่แทง โดยปล่อยให้เลือดไหล ไปเรื่อยจนตายเสียเอง

 

ก็ถ้า ไม่โง่ หรือว่าตาไม่ได้บอด ก็จะมองเห็นว่า สิ่งที่มันมาทำขายกัน คือที่นั่งเรซิ่นที่พวกอัปปรีมันทำกันน่ะ....เป็นรูปเลียนแบบพระพุทธรูป....

ซึ่ง...พระพุทธรูป...เป็นสิ่งสมมุติที่ชาวพุทธสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นตัวแทนเป๋นที่พึ่งที่ระลึกนึกถึงพระพุทธเจ้า...

 

พระพุทธเจ้าเป็นศาสดาของศาสนาพุทธ เป็นที่พึ่งที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจ สำหรับบางคน พระพุทธเจ้าอาจจะครูเป็นแบบอย่างในการประพฤติปฏิบัติเพื่อให้สำเร็จ บรรลุ มรรค ผล นิพพาน.....

แต่สำหรับดิฉันเอง....พระพุทธเจ้าเป็นทั้ง พ่อและเป็นทั้งอาจารย์....เพราะฉนั้น....การปกป้องพระศาสดาซึ่งเปรียบได้เท่ากับพ่อและเป็นอาจารย์...จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง....บางอย่างมันก็ปล่อยวางได้นะ...เห็นคนศาสนาอื่นทำของแบบนี้ออกมาขาย...ก็พอจะทำใจได้บ้าง....เพราะถือว่ามันเป็นคนอื่น...มันทำขายออกมามันก็บาปกับตัวมันเอง....

แต่ถ้าคนพุทธที่มันเอาคำสอนของท่านมาสอนผิด ๆ นี่สิเราไม่ยอม....

 

ที่จริงท่านก็น่าจะเดินทางไปตาลีบันนะ...เพื่อหยุดให้คนอิสลามตาลีบัน...ไม่ให้มันยิงปืนใส่พระพุทธรูป....

แล้วพอคุณตายไป...วิญญาณอย่างคุณคงจะไม่มีบุญพอที่จะได้เจอกับพระพุทธเจ้าหรอกค่ะ....คุณคงจะต้องไปหาท่านยมบาลก่อน....เพื่อตัดสินความที่คุณได้เขียนในวันนี้...หากคุณไม่รีบขอขมากรรมถอนคำพูดกับพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ในสิ่งที่คุณพูดที่เขียนในวันนี้....ก็คงจะต้องตกนรกนานหลายกัปหลายกัลป์....เป็นแน่...ฮึฮึฮึ...

คนเรานี่...เวลาพูดอะไรออกไปแล้ว....คำพูดเป็นนายของเราเสมอ...จะสุข จะทุกข์ จะประสบความสำเร็จหรือว่าจะล้มเหลว...มันอยู่ที่คำพูดของตัวเราเอง...หากคิดดี พูดดี ทำดี....คือดี....

 

เหรอจ้ะ คิดว่าคุณคือใครเหรอครับ คุณกิน คุณนอนเหมือนผมไหม ผมไม่ได้พิมพ์อะไรหยาบคายกับศาสนาเลย มีแต่ใครบางคนมาด่าพ่อล่อแม่ เหมือนเด็กๆ อย่ามาตัดสินคนแค่คำพูดโดยปราศจากการไตร่ตรอง ผมไม่พิมพ์เถียงต่อละ เชิญพูดพร่ำไปคนเดียว อีกอย่าง ผมไม่ได้ล่วงเกินศาสนาด้วยกลับไปอ่านที่ผมพิมพ์มาทั้งหมดละนั่งไตร่ตรอง อีกรอบถ้าผมผิด ผมก็ยินดีรับผลกรรม ไม่ซีเรียสเลย บอกแล้วไงนะว่าไม่ต้องมาตัดสินผมหรอก คุณก็ กินขี้นอนเยี่ยวเหมือนผมดีๆนี้แหละ
สมองมีไว้ใช้มั้งนะ อย่าเอาไว้ งมงายจนลืมหูลืมตาไม่ขึ้น มีเหรียญอยู่สองด้าน แต่คนส่วนมากมัน ก็ยังจะมองอยู่ด้านเดียว แปลกเนาะคนเรา กฏหมู่ไม่ต้องมาใช้กับผมหรอก พวกเยอะหรืออะไร เพราะ ผมถือ เจตนา เป็นที่ยึดเหนี่ยว

 

ขออนุญาตนะจ๊ะ
ไม่อยากเปิดประเด็นแต่อยากแชร์ความคิดส่วนตัวอะ
เห็นในข่าวเค้าเขียนว่า "เก้าอี้ทรงพระพุทธรูป"
พระพุทธรูปนี้เรานับถือว่าเป็นสมมุติแทนพระพุทธเจ้า
ชาวพุทธที่นับถือพระพุทธเจ้าจึงรู้สึกสะเทือนใจเป็นธรรมดา

ส่วนคำว่า"เจตนา"...เจตนากระทำ หรือเจตนาไม่กระทำนั้น
เราว่าเพราะมีเจตนา จึงเกิดการกระทำสิ่งนี้
(กว่าจะออกแบบผลิตเพื่อจำหน่ายต้องศึกษาทั้งโครงสร้าง ทั้งConcept และTargetฯลฯ)
ส่วนที่คิดว่าเค้าไม่เจตนาเป็นการคิดบวก แต่แค่คิดแบบคาดเดาเอาเองว่าเค้าอาจจะไม่รู้ ฯลฯ ไม่ใช่ข้อเท็จจริง

การคิด วิเคราะห์ กลั่นกรอง และมีผลประโยชน์ตอบกลับมาด้วยนั่นเป็นทั้งเจตนาคิดและเจตนากระทำ
(ต่างกับการเดินไปนั่งทับมดโดยไม่เจตนาเพราะไม่ทันเห็น)

หากใครเอารูปผู้มีพระคุณของเราไปนั่งทับ เราก้ออาจจะโกรธ แต่เค้าอาจจะบอกว่าไม่เจตนาเพราะไม่รู้จักท่านผู้นั้น
แต่สำหรับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว...
คิดว่าคนส่วนใหญ่บนโลกนี้คงรู้จักว่าท่านเป็นใคร..
ท่านคือหนึ่งใน"ศาสดาเอกของโลก" บนโลกนี้รู้จักท่านมานับพันๆปี แม้รูปปั้นในศาสนอื่นๆยังไม่มีการเอามาทำอย่างนี้ แล้วนี่ครูของมวลมนุษยชาติจำนวนนับร้อยๆพันๆล้าน
เราว่าผู้ผลิตเค้าไม่น่าจะทำสินค้าออกมาในลักษณะเหล่านี้นะ...
..ผิดถูกอย่างไรอันนี้ก้อความคิดส่วนตัวเราน่ะนะ..

 

โถ่เอ๋ย..อนิจจา hydraxis
อันที่จริงนั้น การที่มีรูปเหมือน รูปหล่อ หรือลักษณะใดก็ตามที่เหมือนลักษณะของพระพุทธเจ้า นั้นเป็นการทรงไว้ซึ่งพุทธานุสติ อันเป็นการระลึกถึงคุณงามความดีของพระพุทธเจ้า เรามิได้ไหว้ กระดาษ อิฐ หิน ปูนทรายแต่อย่างใด ยิ่งบุคคลใดจิตละเอียดยิ่งแล้ว แม้แต่หนังสือธรรมะ ตกพื้น ยังไม่กล้าข้ามเลยครับ

เปรียบดั่งเช่น หลวงปู่โต (สมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังสี) ท่านเจ้าคุณเป็นพระเถระผู้ใหญ่ ซึ่งมีจรรยาอาการประพฤติอ่อนน้อม ท่านมีความประพฤติผิดจากชาวบ้านทั่วไป ไม่ว่าพระสงฆ์หรือเณรแบกคัมภีร์เรียนมา ถ้าท่านเจ้าคุณพบเข้า แม้จะเป็นกลางถนน ท่านเป็นต้องหมอบก้มลงกราบ ถ้าพระเณรไม่ทันพิจารณา สำคัญว่าท่านเจ้าคุณก้มลงเคารพตนและก้มเคารพตอบท่านเมื่อไร เมื่อนั้นต่างคนต่างหมอบแต้เคารพอยู่ที่นั่น สร้างความครึกครื้นแก่ผู้พบเห็นเสมอๆ

จะสังเกตุได้ว่า หลวงปู่หลวงพ่อทั้งหลาย ยิ่งจิตท่านละเอียดเท่าไร ท่านก็จะมองเห็นว่าพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์นั้น ไม่ว่าจะอยู่ในรูปลักษณะใด แม้รูปคล้ายรูปเหมือนนั้น ท่านก็ให้ความเคารพเสมอ

สิ่งที่มีลักษณะคล้ายพระพุทธเจ้านั้น ชาวพุทธให้ความเคารพศรัทธายิ่งนัก เพราะฉะนั้น การกระทำการใดๆทีเ่ป็นการลบหลู่ ดูหมิ่น แล้วไซร้ จึงไม่สมควรยิ่งครับ โทษนั้นหนักหนายิ่งหนัก

ที่บ้านผมก็มีพระพุทธรูปอยู่หลายองค์ หนึ่งในนั้นคือสมเด็จองค์ปฐม ซึ่งผมก็เคารพกราบไหว้อยู่เสมอ เพื่อรำลึกถึงคุณอันหาประมาณมิได้ของพระองค์

พุทธานุสสติ เป็นกรรมฐานที่ง่ายมีแต่กำไร

​

พุทธานุสสติ เป็นกรรมฐานที่ง่ายมีแต่กำไร ​

​

[FONT=trebuchet ms,sans-serif] "[FONT=trebuchet ms,sans-serif]การสร้างพระพุทธรูป นี่เป็นพุทธบูชาเป็น พุทธานุสสติ ในกรรมฐาน ๔๐ กอง ท่านบอกว่ากำลัง พุทธานุสสติเป็นเหตุให้เข้าถึงพระนิพพานได้ง่ายที่สุด ง่ายกว่ากองอื่น ก็เห็นจะจริง เพราะว่าพระพุทธเจ้าท่านอยู่ที่นิพพานนี่ และท่านก็เป็นต้นตระกูลของพระนิพพาน ใช่ไหม... ทีนี้ถ้าเราต้องการสร้างให้สวยตามที่เราชอบ เห็นแล้วก็ทำให้จิตใจสดชื่น จิตมันก็นึกถึงพระอยู่เสมอ ถ้าจิตนึกถึงพระพุทธรูปองค์นั้นอยู่เสมอก็จัดเป็น พุทธานุสสติกรรมฐาน ถ้าใจเราเกาะพระพุทธเจ้าเป็นปกติ ตายแล้วลงนรกไม่เป็น ฉะนั้นถ้าหากโยมเห็นว่าพระที่ทำด้วยโลหะสวยกว่า ชอบมากกว่า โยมก็สร้างแบบนั้น"[/FONT][/FONT]​

[FONT=trebuchet ms,sans-serif] --------------------------------------------[/FONT]​

[FONT=trebuchet ms,sans-serif] [/FONT]​

[FONT=trebuchet ms,sans-serif] "อาตมานี่เป็นคนเกาะ "พุทธานุสสติกรรมฐาน" เป็นอารมณ์ตลอดเวลา ถ้าวันไหนไม่ได้เห็นพระพุทธเจ้าวันนั้นตายดีกว่า ทิ้งไม่ได้ไม่ยอม มันจะเป็นอย่างไร จะป่วยจะไข้จะปวด ยิ่งป่วยยิ่งหนักเกาะติดเลย ป่วยนิดเดียวไม่ยอมคลาย จิตไม่ยอมคลาดสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เรียกว่าเราถือว่าเราเกาะพระพุทธเจ้าตายมันจะลงนรกก็เชิญ พระพุทธเจ้าท่านจะลงกับเราก็เอา ใช่ไหม ท่านคงไม่ยอมลงนะ"[/FONT]​

​

[FONT=trebuchet ms,sans-serif](คัดลอกบางตอนจาก หนังสือพ่อรักลูก หน้า ๑๕๑)[/FONT]​

[FONT=trebuchet ms,sans-serif] [/FONT]​

[FONT=trebuchet ms,sans-serif][/FONT][FONT=trebuchet ms,sans-serif]ขอบรรดาท่านพุทธบริษัททุกคนเมื่อตื่นใหม่ๆ ให้นึกถึงพระพุทธเจ้าก่อน ถ้านึกไม่ไหวเอาพระที่คอนี่แหละ จะเป็น พระคำข้าว พระหางหมาก จะเป็นพระวัดไหนก็ตาม เขาทำเหมือนกันหมดแทนพระพุทธเจ้าเหมือนกันนะ อาราธนาท่าน
[/FONT]​

[FONT=trebuchet ms,sans-serif] [/FONT]​

[FONT=trebuchet ms,sans-serif] อันดับแรกตั้ง นะโม แสดงความเคารพด้วยความจริงใจ หลังจากนั้นอธิษฐานตามความชอบใจ ต้องการซื้อง่ายขายคล่องก็ได้ รับราชการก็ได้ตามใจชอบ อย่าลืมว่า นั่นคือนึกถึง พระพุทธเจ้า ถือว่าเป็นบันใดขั้นแรกที่เราจะไปพระนิพพาน และนอกจากนั้นเราตั้งใจคิดไว้ว่า ถ้าเราตายเมื่อไหร่ขอไปนิพพานเมื่อนั้น เอาแค่นี้นะ[/FONT]​

[FONT=trebuchet ms,sans-serif] [/FONT]​

[FONT=trebuchet ms,sans-serif] ถ้ากลุ่มอื่นตาย กำลังใจมันไม่ถึงนิพพานใช่ไหม อย่างเลวก็ไปค้างบนสวรรค์ชั้นดาวดึงสเทวโลกอาจสูงกว่านั้นก็ได้นะ แล้วเวลาที่ตาย ใจมันไป ร่างกายมันอยู่ ใจที่อยากจะไปนิพพานนี่มันจะยังมีอารมณ์อยู่ ถ้าฟังเทศน์จากพระพุทธเจ้าเพียงจบแค่เดียว อย่างน้อยก็เป็นพระ ไม่ใช่พระโสดาบันอย่างมัฏฐกุณฑลี เพราะของเราดีกว่า เรานึกถึงทุกวันใช่ไหม บุญทุกอย่างเราทำแล้ว นี่ถือว่าเป็นที่พักขั้น แรกของเรา หรือว่าบรรดาญาติโยมพุทธบริษัททุกท่าน [/FONT]​

[FONT=trebuchet ms,sans-serif] [/FONT]​

[FONT=trebuchet ms,sans-serif] ถ้าหากว่านึกถึงพระพุทธเจ้าด้วย นึกถึงพระที่คอด้วย ขอลาภสักการะจากท่าน แล้วพร้อมกันนั้นเราคิดว่า ชีวิตนี้มันเต็มไปด้วยความทุกข์ ขึ้นชื่อว่าความทุกข์มาจากไหน มาจากการมีร่างกาย ถ้าเราไม่มีร่างกายอย่างนี้ เราก็ไม่มีทุกข์อย่างนี้ ขึ้นชื่อว่าร่างกายเลวๆ อย่างนี้จะไม่ขอมีอีกต่อไป เมื่อตายจากนี้แล้วขอไปนิพพานถ้าคิดอย่างนี้ทุกวันมันมี การสะสมตัว ถ้าตายวันไหนวันนั้นจะเป็นพระอรหันต์ไปนิพพานทันที นี่เวิธีใช้ง่ายๆ แบบนี้ญาติ หรือว่าบรรดาญาติโยมพุทธบริษัททุกท่าน ถ้าหากว่านึกถึงพระพุทธเจ้าด้วย นึกถึงพระที่คอด้วยขอลาภสักการะจากท่านแล้วพร้อมกันนั้นเราคิดว่า ชีวิตนี้มันเต็มไปด้วยความทุกข์ขึ้นชื่อว่าความทุกข์มาจากไหน มาจากการมีร่างกาย ถ้าเราไม่มีร่างกายอย่างนี้เราก็ไม่มีทุกข์อย่างนี้ [/FONT]​

​

[FONT=trebuchet ms,sans-serif](คัดจากหนังสือ ธรรมปฏบัติ เล่ม ๙ โดยพระราชพรหมยาน หน้า ๗๘)[/FONT]​

​

​

​

​

[FONT=trebuchet ms,sans-serif]พระพุทธองค์ทรงชมเชย และพยากรณ์[/FONT]​

[FONT=trebuchet ms,sans-serif] [/FONT]​

[FONT=trebuchet ms,sans-serif] (คำสอนหลังกรรมฐาน คืนวันที่ ๘ กพ. ๒๕๓๑ แล้วหลวงพ่อบอกว่า)[/FONT]​

[FONT=trebuchet ms,sans-serif] [/FONT]​

[FONT=trebuchet ms,sans-serif] ...พระท่านสั่งถึงญาติโยมทุกคนมีคนยืนข้างนอกไหม (มีเยอะครับ) ท่านบอกว่า ทุกคนจิตเข้มข้นมาก ข้างในก็ดี ข้างนอกก็ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้างนอกหนัก ไม่งั้นยืนไม่ไหว[/FONT]​

[FONT=trebuchet ms,sans-serif] [/FONT]​

[FONT=trebuchet ms,sans-serif] ท่านก็เลยบอกว่า "ทุก คนก่อนจะหลับ หรือตื่นใหม่ๆ ตั้งใจจำภาพพระพุทธรูป หรือคนที่เคยเห็นภาพพระพุทธเจ้าด้วยทิพจักขุญานนะ จับภาพพระพุทธเจ้าไว้ก่อนหลับหน่อยหนึ่ง หรือตื่นใหม่ๆ ไม่ต้องนั่งก็ได้ นอนก็ได้ นอนลืมตาดูท่าน หรือหลับตานึกถึงท่าน จะภาวนาก็ได้ แต่ห้ามภาวด่า นี่ท่านไม่ได้ห้ามนะฉันห้ามเอง ก็ถามท่านว่า มีผลอย่างไร ท่านบอก จะรู้ผลเองเมื่อตาย นี่ท่านพูดเองนะ[/FONT]​

[FONT=trebuchet ms,sans-serif] [/FONT]​

[FONT=trebuchet ms,sans-serif] ทีนี้ท่านย่า ท่านยืนกับแม่ศรี ท่านก็หัวเราะ ย่าบอก "คุณ ๑๐๐ เปอร์เซนต์"[/FONT]​

[FONT=trebuchet ms,sans-serif] [/FONT]​

[FONT=trebuchet ms,sans-serif] แต่ความจริงจับภาพพระพุทธเจ้านี่ดีนะ ฉันเคยไปหลับที่บ้านบนหลายหน ก่อนป่วยหนักฉันก็หลับอยู่บนบ้านนั้นแหละ บ้านสูง เดินเที่วไปเที่ยวมา อยู่บนนี้ดีกว่า เดี๋ยวไอ้ตัวล่างหลับแหงแก๋ไปแล้ว มันตัดกันนี่นะ มันหลับไปเราก็สบาย ลงโน่นนั่นแหละตี ๕ หรือไม่ก้ ๖ โมงเช้าสบายโก๋ ความจริงจิตเป็นสุขถ้าทำอย่างนี้ทุกวันนะ ผู้ได้มโนมยิทธิน่ะขึ้นไปเลย ถ้าก่อนนอนขึ้นไม่ไหว เช้ามืดตื่นปั๊บขึ้นไป ให้มันชินต่ออารมณ์ ถ้าชินต่ออารมณ์ก็มีความรักในสถานที่นั้น ถ้าเวลาจะตาย ใจมันไปที่มันรัก[/FONT]​

​

[FONT=trebuchet ms,sans-serif](คัดลอกบางตอนจากหนังสือธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ ๘๕ มีนาคม ๒๕๓๑ หน้า ๒๐-๒๑)[/FONT]​

มีอยู่คราวหนึ่งที่ พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุง(หลวงพ่อฤาษีฯ) ท่านได้เดินไปตรวจงานก่อนสร้าง แล้วไปเจอพระพุทธรูปที่ยังสร้างไม่เสร็จ เพิ่งจะก่ออิฐ ยังเป็นอิฐเป็นทรายอยู่ พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านฯยังยกมือไหว้เลยครับ

โมทนาสาธุกับกุศลกรรมของทุกท่านด้วยครับ

 

รูปที่เห็นไม่เที่ยง เกิดดับ ตัวเราก็ไม่เที่ยง เกิดดับ
ข้อความที่อ่านไม่เที่ยง เกิดดับ ตัวเราก็ไม่เที่ยงเกิดดับ
โทสะ - อารมณ์โกรธที่เกิดมาจากการโต้ตอบในข้อความต่อกันนั้นไม่เที่ยง เกิดดับ ตัวเราก็ไม่เที่ยง เกิดดับ