ขอถามเรื่องบทสวดมนต์ด้วยครับ

ในห้อง 'บทสวดมนต์ - คาถา' ตั้งกระทู้โดย hokiiz, 3 กรกฎาคม 2012.

  1. hokiiz

    hokiiz สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +16
    คือผม อายุ 19
    เห็นน้าผมเขาสวดบทบ่อยมาก เช้า เย็น กลางคืน เข้าไปเป็นชั่วโมงๆ

    คือผมก็อยากสวดดูบ้าง แต่ไม่ทราบว่าจะสวดบทไหน อะไรยังไง คือผมไม่รู้เรื่องเลย แค่เข้าวัดปีหนึ่งนี้นับครั้งได้เลย

    พี่ๆ ช่วยบอกผมหน่อยนะครับ

    ขอบคุณ ครับ!!
     
  2. naitiw

    naitiw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,611
    ค่าพลัง:
    +2,882
    เริ่มจาก บทนมัสการพระรัตนตรัย แล้วชินบัญชร ก่อนก็ได้ครับ

    ถ้าสวดยาวๆแรกๆจะเหนื่อยแล้วเบื่อไปก่อน 2 บทนี้ก็ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที
     
  3. วฤณภา

    วฤณภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +101
    เอาบทนี้ไปเลยนะคะ สำหรับผู้ที่ไม่ค่อยได้เข้าวัด ทำบุญ จะด้วยเหตุผลประการใดก็ตาม หรือสำหรับผู้ที่เริ่มสวดมนต์ใหม่ๆ สวดน้อยบท จะได้ไม่เบื่อ ไม่ขี้เกียจ แรกๆ ยังสวดไม่ได้เปิดหนังสือดูก่อนก็ได้ พอสวดได้แล้วค่อยเพิ่ม บทใหญ่ๆ เช่น พาหุงฯ ชินบัญชร
    ลองดูนะคะ ดีมากๆ เลย ส่วนตัวของพี่แล้ว สวดทุกวัน พอวันพระ ก้อจะเพิ่มบทพาหุง ชินบัญชร (แต่ถ้าสวดได้ทุกวันจะดีมาก)


    การทำบุญแบบง่ายๆ ตามภาษาคน (ไม่ค่อย) มีเวลา

    พูดถึงเวลาถ้าเราจะทำบุญ คนส่วนใหญ่ มักจะนึกถึง การตักบาตรพระ หรือเข้าวัดทำบุญ เป็นส่วนมาก ถ้าหากว่าเราไม่ค่อยมีเวลาตักบาตร หรือเข้าวัดทำบุญ ก็เลยเสียโอกาส ในการสะสมบุญของเรา ในการสร้างบุญ สร้างกุศล สำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลา มีเกร็ดเล็ก เกร็ดน้อยดังนี้
    เชื่อว่าที่บ้านของทุกคนจะต้องมี หิ้งบูชา หรือโต๊ะหมู่บูชา จากนั้นให้เราหา ขัน หรือ กระปุกออมสิน หรือ บาตรพระพลาสติก เจาะรูเหมือนกระปุกออมสิน ทุกวันให้เราทุกคนสละเวลาเพียงวันละ ประมาณ 15 – 20 นาที ให้สวดมนต์ ไหว้พระ เวลาไหนก็ได้ที่เราว่าง เราสบายใจ เช้า สาย บ่าย เย็น หรือก่อนนอนก็ได้ โดยเริ่มสวด บทคำบูชาพระรัตนตรัย
    “อิมินา สักกาเรนะ พุทธัง อะภิปูชะยามิ
    อิมินา สักกาเรนะ ธัมมัง อะภิปูชะยามิ
    อิมินา สักกาเรนะ สังฆัง อะภิปูชะยามิ”
    จบแล้วตามด้วย บทกราบพระรัตนตรัย
    “อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา พุทธัง ภะคะวันตัง อภิวาเทมิ
    สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม ธัมมัง นะมัสสามิ
    สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สังฆัง นะมามิ”
    จบแล้วต่อด้วย บทนมัสการพระรัตนตรัย
    “นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ” (สวด 3 จบ)
    ระหว่างที่ตั้ง นะโม ให้เราเอาเงินมาจบไว้ที่มือจะมีกี่บาทก็ได้ 1 บาท, 5 บาท, 10 บาท, 20 บาท หรือมากกว่านั้นก็ได้ตามศรัทธา จากนั้นก็เริ่มสวด บทขอขมาพระรัตนตรัย
    “วันทามิ พุทธัง สัพพะ เมโทสัง ขะมะถะเม ภันเต
    วันทามิ ธัมมัง สัพพะ เมโทสัง ขะมะถะเม ภันเต
    วันทามิ สังฆัง สัพพะ เมโทสัง ขะมะถะเม ภันเต”
    ตามด้วย บทไตรสรณคมน์
    “พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
    ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
    สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
    ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
    ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
    ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
    ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
    ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
    ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ”
    จบแล้วต่อด้วย บทถวายพรพระ
    “อิติปิโส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ” (พุทธคุณ)
    “สะวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหีติ” (อ่านว่า วิญญูฮีติ) (ธรรมคุณ)
    “สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา เอสะภะคะวะโต สาวะกะสงโฆ อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเณยโญ อัญชะลี กะระณีโย อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ” (สังฆคุณ)
    ต่อจากนั้น ตั้งสมาธิจิตสักระยะหนึ่ง แล้วอธิษฐานจิต
    คำอธิษฐานจิต
    ข้าแต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ ข้าพเจ้า (บอกชื่อ-นามสกุล) ขออุทิศบุญกุศลจากการเจริญภาวนานี้ ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายของข้าพเจ้า และข้าพเจ้าขอตั้งจิตออมทรัพย์ เพื่อเป็นการชดใช้ ขอขมา เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ที่ข้าพเจ้าได้เคยเอาเงิน เอาทรัพย์ท่านมา โดยความตั้งใจ เจตนา หรือ ไม่ตั้งใจ ไม่เจตนา ก็ดี และที่ข้าพเจ้าได้เคยล่วงเกินท่านไว้ ตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาติ ท่านจะอยู่ภพใดหรือภูมิใดก็ตาม ขอให้ท่านได้รับผลบุญนี้ แล้วโปรดอโหสิกรรมและอนุโมทนาบุญแก่ข้าพเจ้าด้วยอำนาจบุญนี้ด้วยเทอญ
    อธิษฐานจิตเสร็จ เอาเงินที่เราจบไว้ที่มือใส่เข้าไปในภาชนะที่เตรียมไว้ที่หิ้งพระ หรือที่โต๊ะหมู่ เสร็จแล้ว แผ่เมตตา อุทิศส่วนกุศลทุกครั้ง
    คาถาแผ่เมตตาตนเอง
    อะหัง สุขิโต โหมิ ขอให้ข้าพเจ้ามีความสุข
    อะหัง นิททุกโข โหมิ ขอให้ข้าพเจ้าปราศจากความทุกข์
    อะหัง อะเวโร โหมิ ขอให้ข้าพเจ้าปราศจากเวร
    อะหัง อัพยาปัชโฌ โหมิ ขอให้ข้าพเจ้าปราศจากอุปสรรคอันตรายทั้งปวง
    สุขี อัตตานัง ปะริหะรามิ
    ขอให้ข้าพเจ้าจงมีความสุขกายสุขใจ รักษากายวาจาใจให้พันจากความทุกข์ภัยทั้งปวงเถิด
    แผ่เมตตาให้สรรพสัตว์
    สัพเพสัตตา สัตว์ทั้งหลาย ที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น
    อะเวรา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย
    อัพยาปัชฌา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้พยาบาทเบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย
    อนีฆา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย
    สุขีอัตตานัง ปะริหะรันตุ จงมีความสุขกายสุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิดฯ
    บทอุทิศส่วนกุศล
    อิทัง เม มาตาปิตูนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ มาตาปิตะโร
    - ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่มารดาบิดาของข้าพเจ้า ขอให้มารดาบิดาของข้าพเจ้า จงมีความสุข
    อิทัง เม ญาตินัง โหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย
    - ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า ขอให้ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า จงมีความสุข
    อิทัง เม คุรูปัชฌายาจริยานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ คุรูปัชฌายาจริยา
    - ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แด่ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของข้าพเจ้า ขอให้ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ จงมีความสุข
    อิทัง สัพพะ เทวะตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เทวา
    - ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เทวดาทั้งหลาย ขอให้เทวดาทั้งหลายจงมีความสุข
    อิทัง สัพพะเปตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เปตา
    - ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่เปรตทั้งหลาย ขอให้เปรตทั้งหลาย จงมีความสุข
    อิทัง สัพพะ เวรีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพเวรี
    - ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ขอให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย จงมีความสุข
    อิทัง สัพพะสัตตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพสัตตา
    - ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ขอให้สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง จงมีความสุข
    ทำอย่างนี้ทุกวันอย่าได้ขาด เมื่อมีโอกาสเข้าวัด เราก็เอาเงินนั้นแหละไปทำบุญ สิ่งที่เราจะได้รับคือความดี ที่ควรบำเพ็ญ ซึ่งประกอบด้วย
    1. ทานบารมี คือ ขณะนั้น เราทำทานโดยเอาเงินที่จบใส่ในขัน
    2. ศีลบารมี คือ ขณะนั้น เราไม่ได้ทำบาปรรมกับใคร
    3. เนกขัมมะบารมี คือ ขณะนั้น เราจิตเราปราศจากนิวรณ์ มารบกวนใจ ถือว่าเป็นการบวชใจ
    4. ปัญญาบารมี คือ ขณะนั้น เราทำด้วยปัญญา ที่เห็นว่าเป็นประโยชน์ ช่วยฝึกจิต ฝึกใจ ให้เกิดสติ
    5. วิริยะบารมี คือ ขณะนั้น เราทำด้วยความเพียร
    6. ขันติบารมี คือ ขณะนั้น เราทำด้วยความอดทน
    7. สัจจะบารมี คือ ขณะนั้น เราทำด้วยความจริงใจในการประพฤติปฏิบัติ
    8. อธิษฐานบารมี คือ ขณะนั้น เราทำสมาธิ ตั้งจิตอธิษฐาน
    9. เมตตาบารมี คือ ขณะนั้น เราแผ่เมตตา อุทิศส่วนกุศล
    10. อุเบกขาบารมี คือ ขณะนั้น เราก็ต้องทำใจให้เป็นเมตตา ทำใจเป็นพรหมวิหาร อุเบกขา วางเฉย อโหสิกรรม กับบุคคลที่เราไม่เคยล่วงเกินกันมา ไม่โกรธใคร ไม่เกลียดใคร ไม่ชังใคร ทำใจให้นิ่ง ทำจิตให้สงบเย็น
     
  4. hokiiz

    hokiiz สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +16
    ขอบคุณมากๆ เลยครับพี่ทั้ง สองคน
     

แชร์หน้านี้

Loading...