เล่าประสบการณ์ตรง และเทคนิควิธีการฝึกกสิณแสงสว่าง (จนถึงฌานสี่)

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย ณฐมณฑ์, 12 ตุลาคม 2004.

  1. csประกายพรึก

    csประกายพรึก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    182
    ค่าพลัง:
    +436
    ชื่อจริงของผม นายสราวุธ ฉัตรเศวตรังษี
    Email cs.while@hotmail.com
     
  2. มหัศฤทธิ์

    มหัศฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    222
    ค่าพลัง:
    +855
    การอนุโมทนา..ก็เป็นการแสดงมุทิตาซึ่งถือเป็นคุณธรรมที่ดีอย่างหนึ่ง...
    ดังนั้น..ผมจึงขออนุโมทนาบุญด้วยคนครับ...
     
  3. kk008

    kk008 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    59
    ค่าพลัง:
    +148
    ขอบคุณคลับ

    งั้นผมก็ขอบ้างนะครับ ผมอยู่ปี 4 แล้ว
    ชีววิตก็ วนเวียนอยู่กับโลกๆ ธรรมๆ แบบวัยรุ่น อะครับ
    ถ้าฝึกจนรู้ถึงคุณประโยชน์เป็นชิ้นเป็นอันคงจะได้ไปกระจาย
    ความรู้สู่เพื่อนๆ ได้ว่านั่งสมาธิดีกว่าไปหลีหญิงยังไงอะครับ

    เออ ผมชื่อ หยก นะครับ (อยากรู้เหมือนกันว่าควรฝึงยังไง)
    ก็ขอฝากให้รายละเอียดวิธีการฝึกด้วยนะครับ ขอบคุณมากๆครับผม
     
  4. kk008

    kk008 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    59
    ค่าพลัง:
    +148
    หยก อีเช่นกันครับ ให้ข้อมูลอีกนิดครับ

    ชื่อ นายหยก ชัยเจริญ เสาร์ 17 ธ.ค. 2526

    บ้านเดิม จ.หนองคาย อยู่ในเมืองครับ ptkkk008@hotmail.com
     
  5. qillip

    qillip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    164
    ค่าพลัง:
    +366
    สวัสดีึครับ กระผมอยากรบกวนถามหน่อยนึง เพราะเรื่องปฎิบัติในส่วนตัวผม ไม่ค่อยต่อเนื่องครับ
    จึงอยากถามผู้ที่ฝึกจนได้แล้วว่าการฝึกกสิณนั้น จำเป็นต้องได้ญาณ 4 ก่อนมั้ยครับ

    ขอความกรุณาด้วยครับ
     
  6. Padmapani_AM

    Padmapani_AM เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +158
    6.(ลมหายใจจะหมดไปเอง แต่ตลอดมานั้นไม่สนใจลมหายใจเท่าปฏิภาคนิมิตร) ใจส่วนใหญ่จับที่ปฏิภาคนิมิตร ปฏิภาคนิมิตรจะกลายเป็นแก้วประกายพรึก หรือแก้วใสประกายแบบเพชรเองตามธรรมชาติเมื่อใจสู่อุเบกขารมณ์ หรืออารมณ์นิ่ง ดิ่งวางเฉย
    ตรงนี้คือฌานสี่ในกสิณ
    จากตรงนี้ขอให้ลองปล่อยวางทุกอย่างเป็นไม่มีอะไรเลย คงไว้เพียงการกำหนดลมหายใจเท่านั้น
     
  7. qillip

    qillip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    164
    ค่าพลัง:
    +366
    ขอบคุณครับ
     
  8. แม่หมูอ้วน

    แม่หมูอ้วน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    530
    ค่าพลัง:
    +6,061
    ดิฉันสนใจเรื่องกสินมากเลยค่ะ แต่ไม่เคยมีพื้นฐานมาก่อนเลย ขอให้คุณณฐมณฑ์ช่วยแนะนำว่าควรจะเริ่มที่ กสินแบบไหนดีคะ
     
  9. มะยม22

    มะยม22 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +188
    คุณน่าจะเริ่มฝึกโดยหัดทรงอารมณ์ก่อน ให้คุณหาภาพพระพุทธรูป หรือพระพุทธรูป สีทองหรือขาวหรือสีใสแบบแก้วมา แล้วหัดจำภาพพระ
    วิธีฝึก ให้ลืมตามองพระ แล้วหลับตา จะเห็นว่าภาพพระยังลอยอยู่ข้างหน้า พอคุณพยายามมองให้ชัดภาพพระก็เลือนหายไป ให้คุณลืมตาแล้วมองใหม่ทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ หากคุณสามารถจำภาพได้แล้ว ให้ฝึกทรงภาพนั้นให้ได้ตามระยะเวลา อาจสิบวินาที ยี่สิบวินาที หรือนานกว่านี้ โดยเริ่มจากน้อยๆ
    คุณสามารถฝึกได้ทุกเวลาสถานที่ คำแนะนำคือ ฝึกบ่อยๆแต่อย่านาน ควรฝึกทุกวัน
    วิธีนี้จะทำให้คุณรู้วิธีรักษาอารมณ์สมาธิ หากคุณทรงภาพพระไว้ได้ไม่นาน นั่นเพราะคุณกำหนดอารมณ์ผิด ให้เริ่มจากอารมณ์สบายๆ
    ในขั้นต่อไปเมื่อคุณฝึกไประยะหนึ่ง คุณจะสังเกตเห็นว่าพระจะยิ้มและสวยขึ้นเรื่อยๆ พระจะเริ่มใสเป็นแก้ว.....คุณจะรู้วิธีต่อไปเองหลังจากนั้น แล้วคุณจะได้คำตอบในสิ่งที่อยากจะค้นหา ....ขอโชคดี
    ปล. ในการฝึกกสิณ คุณจะต้องมีสถานที่ที่จะฝึก ซึ่งจะต้องไม่ถูกรบกวนจากสิ่งรอบข้าง หากไม่สงัดพออาจเกิดปัญหากับคุณได้ ต่างจากกรรมฐานกองอื่น
    และที่สำคัญการฝึกเองอาจมีข้อสงสัยมากนัก ไม่รู้จะถามใคร วิธีนี้ขึ้นต้นด้วยการมองภาพพระพุทธเจ้า ทุกอย่างจะมีคำตอบเอง...


    ปล. แต่บางทีท่านเจ้าของบอร์ดอาจให้คำแนะนำที่ดีกว่า..แต่ระวังนะบางครั้งการรู้มากก็ทำให้สงสัยมาก
    ในการเริ่มฝึกต้นๆ การพูดน้อยๆหรือไม่พูดเลยเีกี่ยวกับผลการฝึกจะเป็นผลดีมากๆ หากมักเล่าผลปฏิบัติ
    จะทำให้เฝือ..อุบายในการฝึก เช่น การหายใจเข้าลึกๆ หายใจออกยาวๆช้าๆสองสามคร้ัง เป็นการระบายลมหายใจหยาบ เมื่อกลับมาหายใจปกติจะเห็นว่าลมหายใจละเอียดขึ้นเป็นต้น


    *ปัญหาบางอย่าง...ต้องขออภัยนะ คำเตือนมักระคายหู..หากเริ่มฝึกความเข้าใจบางอย่างคงต้องงด ละ ไว้ก่อน เพื่อเลือกลองทำสักอย่างให้เกิดผล เหมือนขุดบ่อหลายบ่อที่ตื้น ไม่เท่าขุดบ่อเดียวให้ลึกและเจอน้ำ (หลวงพ่อบอกไว้)
    *การทำสมาธิ มีผลบุญและพลานุภาพมาก..เป็นธรรมดาที่หลายคนอาจถูกรบกวนและบางท่านอาจมีเจ้ากรรมนายเวร
    ติดตามมาก... จากสิ่งที่คิดว่าไม่มี หากแต่จะมีผลต่อผู้ฝึกได้
    ..บางท่านได้ปวานาไว้(ว่าจะให้ความคุ้มครอง)..คงไม่ยากไป หากจะจัดดอกไม้สามสี(สีละดอกก็ได้) กับธูปสามดอก เทียนเล่มหนึ่ง(หนักบาทหนึ่งเล่มก็ได้) และเงินหนึ่งสลึงขึ้นไป ใส่ใ่นจานสะอาดๆ ตั้งนะโมสามจบ ยกขึ้นหัว กล่าวว่า ข้าพระพุทธเจ้าขอมอบกายถวายชีวิตแด่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ขอให้ข้าพระพุทธเจ้าได้รู้เห็นโดยชัดเจนตามความเป็นจริงทุกประการด้วยเถิดพระเจ้าข้า
    ..ให้นำจานนี้วางไว้บนหัวนอน หรือหิ้งพระ..เงินในจานให้เอาใส่ตู้ตามกิจการสงฆ์ (ตู้ตามวัดก็ได้)

    ...................................................................................................
    ตอบคุณ cop1976
    การเห็นแบบตาทิพย์ ไม่ได้หมายถึงการมองเห็นแบบตาเห็น แต่เป็นการเห็นโดยความรู้สึกว่าเห็น ...เมื่อเกิดความอยากเห็นคุณจะไม่เห็นอะไร...สงบใจมองพระ...หลับตา...ทิ้ง
    ความอยากเสียก่อน...แล้วคุณจะเข้าใจว่าทำไม ใครเพียรอธิบายเท่าไรก็ไม่เข้าใจว่าใช้อารมณ์แบบ
    ไหน ..นั่นเพราะถ้าไม่พบเองยังไงก็ไม่เข้าใจ..เมื่อคุณหลับตา พระอยู่กับคุณอยู่แล้ว..เห็นลางๆหรือ
    บางส่วน..ก็คือเห็น..เมื่อฝึกบ่อยๆภาพจะติดตาคุณไปเอง..อย่าเกร็ง อย่าเครียด..เริ่มจากอารมณ์สบายๆ
    ถ้าเครียด หรือฟุ้งซ่านเกินไป ก็เลิก..ไปอาบน้ำ ดูหนังฟังเพลง..ว่างๆใจสบายค่อยมาลองใหม่..ทำไม่ต้อง
    นาน แต่บ่อยๆเดี๋ยวก็ได้เอง..อ้อ..อย่ามัวไปติดที่ท่าทาง นั่งก็ดี นอนได้ หรือจะเดินก็ไม่ว่า

    ปล. ทิ้งนิมิตอื่นๆไปก่อน..ตราบใดที่คุณยังหัดทรงอารมณ์ไม่ได้...ภาพพระยังไม่ชัดแจ่มใส...
    ก็ยังไม่ถึงเวลาลุย...พยายามอีกนิด...และเลิกสงสัยได้แล้ว...มันคุ้มเกินกว่าที่คุณคิดมากนัก
    ..ขอพระจงอยู่กับคุณ ติดตาติดใจไปทุกที่..

    ผมว่ามีที่หนึ่ง อยากให้คุณไปลองดู...คุณอาจได้พบสิ่งที่ต้องการได้ โดยเร็ว...ฝึกเต็มกำลังที่
    วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี ตอนปลายปี.....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2007
  10. a_booknet

    a_booknet สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +3
    การนั่งสมาธิและสวดมนต์สม่ำเสมอทุกวันมีผลช่วยให้เรามีสติหรือเปล่าและมีผลต่อความสามารถแก้ปัญหาธุรกิจส่วนตัวเราได้ไหม ปัจจุบันผมกำลังเครียดเรื่องธุรกิจส่วนตัว เนื่องจากขาดสภาพคล่อง จะแก้ปัญหาทางธรรมอย่างไรขอคำแนะนำด้วยครับ
     
  11. มะยม22

    มะยม22 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +188
    แวะมาครับ..

    พอดีผมแวะมาดู เหล่านี้อาจไม่ใช่คำตอบนะครับ ถือว่าเล่าสู่กันฟัง
    สมาธิช่วยให้มีสติจริง ...ขึ้นอยู่กับว่าขณะที่คุณ กำลังฟุ้งซ่านจะมีวิ
    ธียังไงในการทรงสมาธิ หากไม่ได้รับการฝึกฝนมาก่อน(หมายถึงทำ
    ได้ทุกอิริยาบท) ก็คงยาก..น่าจะลองเริ่มด้วยการสงบสติอารมณ์ก่อน
    ..อาบน้ำพักผ่อนออกไปจากปัญหา แช่น้ำร้อน..ผ่อนคลาย..หรือนอน
    หงายกางมือ กางเท้า..หายใจเข้า หายใจออก(ตอนหายใจออก นึก
    คำผ่อนคลาย..เริ่มจากแขน ขา จากนั้นศีรษะหรืออื่นๆ เพื่อเรียกสติ
    สมาธิ และความสามารถในการวินิจฉัยสิ่งต่างๆต่อไป

    หลวงพ่อบอกว่า บุญเป็นของใหญ่จึงให้ผลช้าอยู่บ้าง คงต้องใช้เวลา หาก
    จะสร้างตนเองโดยกุศล...จะทำดังนี้
    สร้างบารมีให้ผู้อื่นยำเกรง ให้ทำพุทธานุสติกรรมฐาน (ภาวนาพุทโธ,สวดมนต์
    หรือถวายพระพุทธรูปหรือร่วมสร้างพระพุธรูป เป็นต้น)
    สร้างความคล่องตัวในกิจการงาน...ให้ทำบุญเป็นค่าอาหารพระเป็นต้น(หากระป๋อง
    มาใบ เขียนติดกระป๋องว่า ค่าอาหารพระ หากมีเงินเข้ามือให้แบ่งส่วนหนึ่งมา ใส่
    มากน้อยไม่ว่า ให้เกิดความรู้สึกว่าพอรับเิงินมาก็ต้องนำมาใส่ ทำให้เคยชิน)
    ท่านว่า ลาภต่อลาภ ก่อให้เกิดโชคและโอกาสใหม่ๆเสมอ...

    ฝรั่งเขาว่า ปัญหาอยู่ได้ไม่นาน คนที่หนักแน่นต่างหากอยู่นานกว่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มีนาคม 2007
  12. มะยม22

    มะยม22 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +188
    มาเห็นพอดี ..อ่านแล้วนึกถึงหลวงพ่อ...ถือว่าเป็นเพื่อนคุยเล่าสู่กันฟังดีกว่านะครับ
    หลายสิ่ง หลายอย่างที่ ปรับเปลี่ยนมัน โดยธรรมชาติของจิตย่อมดื้อพยศ ตั้งใจเกิน
    หรือตึงเกินไปก็เครียด หลวงพ่อบอกว่า ให้ค่อยๆเพิ่มมันมันเข้าไปในชีวิต อะไรที่คิด
    จะละเลิกก็ค่อยเป็นค่อยไป....วันไหนมองพระ พระไม่ยิ้ม แสดงว่าขณะนั้นจิตใจเศร้า
    หมอง มองพระ พระดูยิ้มๆ สวยๆ จิตสะอาด สบายใจ ใช้ความคิดในเรื่องใด ก็มักจะ
    ได้คำตอบ และวิธีแก้ไข...สมาธิมีพื้นฐานจากศีล ทำศีลเศร้าหมองบ่อยๆ ตัวคนก็จะ
    ฟุ้งซ่านได้ง่าย...จับสมาธิก็จะไม่ค่อยได้ดี วันนี้หากคิดไม่ออก หรือจำพระไม่ได้ทำ
    ไม เราไม่ลองเลิกจำซะ ทำงานไปด้วยหันมามองที ....เดี๋ยวก็ติดหูติดตาจนแยกไม่
    ออกว่าลืมตาก็เห็น หลับตาก็เห็นชัดเจน เองละน้าว่าไหม?

    เขาว่ากันว่า ในชีวิตคนเราจะมีเรื่องใหญๆที่ต้องตัดสินใจไม่กี่เรื่อง บางทีก็อย่าเพิ่งรีบ
    ร้อนตัดสินใจนะครับ...ขอให้กำลังใจ

    ดังภาษิตที่ว่า ความพยายามอยู่ทีไหน ความพยายามก็อยู่ทีนั่น(ล้อเล่นๆๆๆๆ) ครึก
    ครื้นเข้าไว้..ขำเข้าไว้ จะได้คลายเครียด หวัดดี!
     
  13. เด็กใหม่คับ

    เด็กใหม่คับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    102
    ค่าพลัง:
    +152
    พี่ๆคับ ผมลองทำแบบที่พี่ๆบอก ลองเพ่งหลอดไฟกลมๆ หลังจากเพ่งไปสักระยะหนึ่งแล้ว มองกำแพงซึ่งเป็นสีเขียว ผมเห็นกลมๆสีแดงวิ่งไปอย่างช้าๆ พอหลับตาแล้วลองอีกครั้งเห็นเป็นสีน้ำเงิน ไม่ทราบว่ามันคืออะไร ตาพล่ามัวรึป่าว
     
  14. AJ_Purngkan

    AJ_Purngkan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    395
    ค่าพลัง:
    +3,789
    ผมไม่รู้ว่าจะเรียกว่าฝึกกสิณแสงสว่าง รึเปล่าครับ คือผมมองอะไรก็จะนิ่ง ๆ ไปหมด แล้วก็จะรวมกันอยู่ตรงกลาง เช่น มองพระพุทธรูปซักพักก็นะนิ่ง จนเหลือแต่หน้าพระพุทธรูป มองไฟจนเหลือแต่ ตรงนั้น ตาก็ไม่ค่อยกระพริบ แล้วก็จะนิ่งไปเลยครับ อย่างนี้เรียกฝึกได้อะไรอ่ะคั๊บ หรือว่า ผมคิดไปเองคั๊บ

    ผมอยากทราบและวิธีฝึกที่ถูกต้องเพราะก่อนที่ผมจะมองอะไรแล้วนิ่งนี้ มันจะเห็นอะไรก็จับเป็นภาพสี ๆ ไปหมดเลย จนผมปวดตามาก ต้องนอนพักหลับตา ผมว่าเป็นปัญหาที่ตาเราด้วยรึเปล่าครับ

    ศิษย์โง่
     
  15. โอทาตนาค

    โอทาตนาค Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +99
    คือว่าผมฝึกสมาธิมานานพอสมควรเคยเล่นกสิณไฟ แต่ก็ยังไม่เกิดความสงบ เลยหันกลับมาใช้ลมหายใจเหมือนเดิม แล้วเคยฝึกสติปัฏฐาน4 ด้วยคับ ตอนนี้ ตีกันไปหมด เลยอยากทราบว่าผมควรจะเอายังไงดีคับ ผมเกิด วันจันทร์ที่ 26 มกราคม 2524 คับ ยังไงก้ฝากผู้รู้ช่วยนำทางทีนะคับ ขอบพระคุณล่วงหน้าคับomeagekrub@hotmail.com
     
  16. BEST2822

    BEST2822 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +64
    เบส

    อนุโมธาครับ
     
  17. Nothingness11

    Nothingness11 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +37
    อยากทราบเหมือนกันค่ะ รบกวนช่วยดูให้ด้วยค่ะ

    ขอบคุณมากค่ะ zozoalexa@gmail.com
     
  18. mindanaric

    mindanaric เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    161
    ค่าพลัง:
    +1,964
    คือ อยากจะบอกทุกๆคนที่เข้ามาในกระทู้นี้น่ะค่ะ ดิฉันขออนุญาต ออกความคิดเห็นไว้นะคะไม่ได้มีเจตนาจะต้องทำให้ใครขุ่นข้องใจ หากเป็นอย่างนั้นดิฉันก็ขออภัยไว้นะที่นี้ด้วย ดิฉันไม่รู้จักกับคุณณฐมณฑ์เป็นการส่วนตัวหรอกนะคะ ดิฉันก็เหมือนทุกๆคนที่อยากให้คุณณฐมณฑ์อยู่เป็นขวัญกำลังใจในการฝึกปฏิบัติกรรมฐานให้แก่คนในที่นี้เช่นกัน หากแต่ว่าดิฉันทราบมาว่าคุณณฐมณฑ์ก็เคยได้ให้การช่วยเหลืออย่างที่กล่าวมามาก มากจนสุดความสามมารถของเธอแล้ว และดิฉันก็แน่ใจว่าเธอทำด้วยจิตที่เบิกบานล้วนๆ ไม่ได้คิดว่าเป็นเรื่องลำบาก หรือเป็นภาระแต่อย่างใด การเสียสละที่คุณณฐมณฑ์และมิตรธรรมทำดิฉันคิดว่าเป็นเรื่องที่หาได้ยากและมีประโยชน์อย่างสูงยิ่งอย่างหาที่เปรียบไม่ได้และดิฉันก็คอยอนุโมทนาและอวยพรอยู่ตลอดให้คุณณและมิตรธรรมประสบความสำเร็จกับสิ่งที่ท่านเหล่านั้นตั้งใจไว้ การทิ้งกระทู้ที่มีค่านี้ไว้เป็นสิ่งที่มีค่ามากนะคะสำหรับดิฉันกับคนอีกหลายๆคน คุณณฐมณฑ์เคยได้มาให้คำปรึกษาในเรื่องการปฏิบัติ ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง(ซึ่งไม่ใช่ปัจจุบันนี้) และดิฉันก็คาดได้ว่า เธอก็มีความจำเป็นที่จะต้องปฏิบัติหน้าที่ที่สำคัญยิ่งที่เธอได้ตั้งจิตมั่นไว้แล้วต่อ หลังจากที่ต้องหยุดชะงักมาแนะแนวให้พวกเราได้ซักพักใหญ่(ขอเน้นว่าพักใหญ่ๆแล้ว) ด้วยอัธยาศัยที่ชอบเอื้ออารีเกื้อกูลต่อเพื่อนมนุษย์และไม่เคยปฏิเสธการขอความช่วยเหลือของผู้ใดเลย หน้าที่ที่เธอจะต้องทำนั้น ดิฉันก็ขอกล่าวไว้เลยว่าไม่มีอะไรสำคัญยิ่งไปกว่าสิ่งที่มนุษย์พึ่งควรกระทำยิ่งไปกว่านี้อีกแล้ว และในความเป็นจริงการที่คุณณฐมณฑ์จะรีบเร่งควาเพียรโดยไม่ต้องสนใจผู้คนที่อยู่ข้างหลังก็ยังได้ แต่เธอก็ได้สละเวลาอันมีค่ามาช่วยเหลือ นับว่าเป็นการเสียสละที่ยิ่งใหญ่ (ซึ่งดิฉันก็คงไม่อาจจะทำได้เหมือนคุณณฐมณฑ์หากดิฉันเป็นคุณณฐมณฑ์)เพระเนื่องจากการกระทำอย่างนั้นต้องผจญกับเรื่องต่างๆสารพัด ซึ่งดิฉันแน่ใจว่าผู้ปฏิบัตฺส่วนใหญ่คงไม่คิดจะเสี่ยงเสียสิ่งที่ได้สร้างสมมา และในตอนนี้ดิฉันก็คิดว่าคุณณฐมณฑ์คงไม่สามารถที่จะกลับเข้ามาที่กระทู้นี้อีกได้ในปัจจุบันตอนนี้ หรืออนาคตอันใกล้ ดิฉันแค่อยากจะบอกว่าหาก ท่านใดมีจิตตั้งมั่นที่จะปฏิบัติดีแล้ว ดิฉันก็ขออนุโมทนาและอยากจะแนะว่าสิ่งที่คุณณฐมณฑ์ได้ทิ้งไว้ให้เรานั้นล้วนมีคำตอบที่เราสงสัยและจำเป็นที่จะต้องสงสัยไว้หมดแล้ว ดิฉันไม่อยากให้คิดกันว่า "แหม อุตส่าห์ได้เข้ามาอ่าน กลับไม่ได้เจอเจ้าของกระทู้ซะได้เรานี้ช่างไม่มีวาสนาเอาเสียเลยมาไม่ทันคุณณฐมณฑ์" หากแต่ขอให้คิดว่าเป็นวาสนามหาศาลที่ทุกคนได้เข้ามาพบเจอคุณณฐมณฑ์และได้รับความรู้จากเธอ(ถึงแม้ว่าปัจจุบันเธอจะไม่ได้เข้ามาในบอร์ดนี้แล้วก็ตาม) และเกิดแรงบัดาลใจ มีกำลังใจในการปฏิบัติ และได้เข้ามาศึกษาสิ่งที่คุณณฐมณฑ์ได้มอบไว้ให้เรา การรอที่จะให้ใครมาช่วยเหลือ โดยหวังว่าเขาจะช่วยเราได้ นั้นไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นจริงๆหรือมีความสำคัญมากเพียงใดเลย เมื่อเทียบกับการที่เราจะเริ่มต้น ลงมือทำด้วยตัวของเราเอง ณ นาทีที่เรารู้สึกตัว อย่าลืมนะคะว่าในที่สุดแล้ว คนที่จะนำเราไปในทางที่เราต้องการได้ก็คือตัวของเราเองเท่านั้น เนื้อหาทั้งหลายในกระทู้นี้ล้วนนำมาใช้ได้ และได้ผลจริง โดยไม่ต้องมารอให้คุณณฐมณฑ์มาช่วยแนะเลย คงจะน่าเสียดายมากที่จะให้ทุกคนเสียเวลาอันมีค่าไปกับการรอคอย .... และปล่อยเวลาให้มันผ่านไปอย่างเปล่าประโยชน์ ชีวิตนี้มีค่ามากนะคะที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์อย่าให้ได้เสียเปล่าเลย และดิฉันเชื่อว่าหากท่านใดที่มีความปรารถนาที่จะฝึกปฏิบัติจริง ขอให้เริ่มทำเลย ณ ตอนนี้เลยนะคะ ขอรับลองว่าหากไม่พ้นความพยายามของเราแล้วทุกท่านจะได้ประสบพบเห็นอย่างแน่นอน !!!
    สุดท้ายนี้ขอให้ทุกท่าน คุณณฐมณฑ์ และมิตรธรรมของคุณณฐมณฑ์ เจริญในธรรม สมหวังในสิ่งที่ตั้งใจไว้ ส่วนตัวดิฉันก็จะพยายามต่อไปเช่นกัน หากมีโอกาสเมื่อถึงเวลานั้นจริงๆ คุณณฐมณฑ์ก็อย่าพึ่งตัดช่องน้อยแต่พอตัวนะคะ ช่วยกลับมาฉุด มาดึงคนที่กำลังเดิน กำลังวิ่ง กำลังปีนป่ายอยู่ตอนนี้บ้างนะคะ ^^ ด้วยความรำลึกถึงคุณณฐมณฑ์และมิตรธรรมผู้เอื้ออารีอยู่ตลอดเวลาค่ะ


    "ถึงคุณณฐมณฑ์และมิตรธรรม
    ดิฉันขอขอบพระคุณมากๆเลยนะคะสำหรับสิ่งที่คุณได้ทำไว้ให้ ดิฉันว่าคุณสมหวังแล้วจริงๆล่ะคะหากหวังว่ากระทู้ๆนี้จะทำให้ใครก็ตามเกิดกำลังใจขึ้นมา หากมีโอกาสเราคงได้สนทนากันนะคะ มีเรื่องอยากเล่าให้คุณฟังมากมายถึงสิ่งที่คุณทำให้ ซาบซึ้งจริงๆค่ะ ขอบอกว่าความพยายามของคุณที่สร้างกระทู้ๆนี้ขึ้นมา ไม่เสียเปล่าเลยนะคะคุณประสบความสำเร็จแล้ว อย่างน้อยๆคุณก็นับดิฉันได้คนหนึ่งแล้วล่ะคะ ^^"

    ขอให้ทุกท่านเจริญในธรรมกันถ้วนหน้าคะ
     
  19. มานัส

    มานัส สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +9
    อนุโมทนาสาธุ

    ผมไม่เคยฝึกกสิณมาก่อนอยากทราบเหมือนกันว่ากสิณใดที่เหมาะสมในครั้งแรกถ้าผมจะลงมือปฏิบัติอย่างจริงจัง เพื่อนที่เคยฝึกมโนมยิทธิก็แนะนำว่าให้ลองไปฝึกกับเขาก่อนไหมมีผู้รู้คอยแนะนำด้วย
    สองคืนก่อนผมลองนอนกำหนดลมหายใจ จนรับรู้การวิ่งเข้าออกของลม
    โดยไม่รู้ว่าต่อไปจะเป็นอย่างไร ในที่สุดก็เริ่มรู้สึกเหมือนตัวของผมกำลังจะจมลงไปในที่นอน ลมหายใจมันแผ่วลงเหมือนจะขาดใจตาย ผมเกิดกลัวตายขึ้นมาเลยทำตัวเองให้รู้สึกตัว ทุกอย่างเลยหายไปหมด ถามเพื่อนที่เคยปฏิบัติเขาก็บอกว่าไม่เคยเป็น
     
  20. ดาราจักร

    ดาราจักร ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,707
    ค่าพลัง:
    +10,092
    ผมกับคุณแม่กำลังฝึกสมาธิ ตอนนี้ไปไม่ถึงไหนเลย อยากขอคำแนะนำครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...