ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. โชตนา

    โชตนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +773
    สองสามวันนี้เครื่องบินความเร็วสูงแบบโชว์วันเด็กบินแถวดอนเมือง เวลาบ่าย 3โมง มี 3ลำ ซ้อมอยู่ครึ่ง ช.ม. ไม่รู้ว่าซ้อมบินทำไม
     
  2. Ta-Ton

    Ta-Ton สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +24
    ไม่อยากจะเชื่อว่าระบบที่สุวรรณภูมิขัดข้องเป็นเรื่องบังเอิญหรือเหตุสุดวิสัย มันเป็นวิธีปิดบังการขนส่งคนหรืออะไรบางอย่างที่ไม่ต้องการให้จีนรู้และประชาชนส่วนใหญ่รู้ เลยยอมปิดระบบของตัวเอง ไม่รู้ว่าเพ้อไปหรือเปล่านะ ท่านใดอยู่หรือมีญาติอยู่แถว ๆ อู่ตะเภา ช่วยบอกหน่อยเถอะค่ะว่ามีอะไรแปลก ๆ ผิดปกติไม๊
     
  3. TREETORN

    TREETORN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    59
    ค่าพลัง:
    +199
    วันครบรอบ 100 ปี การบินของบุพการีทหารอากาศ 29-30 มิ.ย.นี้ ที่ดอนเมือง
    พบการแสดงการบินของอากาศยานจากกองทัพอากาศไทย
    นอกจากนั้นยังมีการแสดงการบินของกองทัพบก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
    หมู่บินสาธิต Green Hawk ของสำนักฝนหลวงและการบินเกษตร
    และยังมีอากาศยานของกองทัพอากาศสิงคโปร์ และอินโดนิเซีย
    รวมถึงเครื่องบินตั้งแสดงจากทั้งภาครัฐและเอกชนรวมจำนวนอากาศยานที่เข้าร่วมมากกว่าร้อยลำ

    วันที่ ๒๒ มิถุนายน ๒๕๕๕ เวลา ๐๘๐๐ – ๑๖๐๐ ชมนิทรรศการ “ครบรอบ ๑๐๐ ปีการบินของบุพการีทหารอากาศ” และการมอบรางวัลจาก การประกวดวาดภาพเชิงประวัติศาสตร์ด้วยสีน้ำมันหรือสีอะคริลิค หัวข้อ “๑๐๐ ปี บุพการีทหารอากาศกับการ พัฒนาอากาศยานไทย” , การประกวดเรียงความ หัวข้อ “กองทัพอากาศกับประชาชน” , การประกวดจัดบอร์ดนิทรรศการ หัวข้อ “บุพการีทหารอากาศ” , การประกวดโมเดลเครื่องบินกระดาษ หัวข้อ “อากาศยานของกองทัพอากาศไทย” และการประกวดโมเดลเครื่องบินพลาสติก หัวข้อ “อากาศยานของกองทัพอากาศไทย” ณ พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศ​

    วันที่ ๒๙ – ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๕ และวันที่ ๒ กรกฎาคม ๒๕๕๕ เวลา ๐๙๐๐ – ๑๖๐๐ เปิดให้พี่น้องประชาชนเข้าชมฟรี ประกอบด้วย การจัดนิทรรศการของกองทัพอากาศ หน่วยราชการต่างๆ สถานศึกษาทางการบิน และบริษัทการบินต่าง ๆ การตั้งแสดงอากาศยานของกองทัพอากาศ กองทัพบก กองทัพเรือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานฝนหลวงและการบินเกษตร มูลนิธิอนุรักษ์และพัฒนาอากาศยานไทย ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชนต่างๆ
    สำหรับกำหนดการแสดงภาคอากาศ มีดังนี้

    เวลา ๑๐๐๕ – ๑๐๑๕ การแสดงสมรรถนะการบินของเฮลิคอปเตอร์แบบ UH-60 BLACK HAWK ของกองทัพบก
    เวลา ๑๐๒๐ – ๑๐๔๐ การสาธิตการค้นหาช่วยชีวิตของเฮลิคอปเตอร์แบบ BELL-212 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
    เวลา ๑๐๔๕ – ๑๐๕๕ การแสดงการบินผาดแผลงเดี่ยวของเครื่องบินขับไล่แบบ F-16 C ของกองทัพอากาศสิงคโปร์
    เวลา ๑๑๑๐ – ๑๑๔๐ การแสดงการบินของหมู่บินผาดแผลง JUPITER (KT-1) ของกองทัพอากาศอินโดนีเซีย
    เวลา ๑๑๕๐ – ๑๒๐๕ การแสดงการบินผ่านของหมู่บินเครื่องบินแบบ CESSNA 208 CARAVAN จำนวน ๗ เครื่อง (Green Hawk Display Team) จากสำนักการบินฝนหลวงและการเกษตร และการแสดงวงออเคสตร้าของกองทัพอากาศอินโดนีเซีย
    เวลา ๑๒๒๕ – ๑๒๔๐ การแสดงการบินของเครื่องบินผาดแผลงแบบ EA300L ของวิทยาลัยการบินนานาชาตินครพนม
    เวลา ๑๔๐๐ การแสดงภาคอากาศของกองทัพอากาศ
    สำหรับการแสดงภาคอากาศของกองทัพอากาศในวันที่ ๒๙ – ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๕ นั้น กองทัพอากาศจัดการแสดงการบินภายใต้ชื่อ “ภารกิจพิชิตน่านฟ้า” ตอน Love is in the Air “รักสะท้านฟ้า” จะเป็นการแสดงการบิน และการสวนสนามทางอากาศ ประกอบการแสดงสื่อมัลติวิชั่นประกอบการแสดงภาคอากาศผ่านจอ LED และการบรรเลงเพลงจาก วงออร์เคสตร้าของกองทัพอากาศ โดยจะเริ่มทำการแสดง ในเวลา ๑๔๐๐ - ๑๕๒๐ แบ่งการแสดงออกเป็น ดังนี้

    องค์ที่ ๑ รักบุพการีเท่าน่านฟ้า
    เป็นการแสดงเบิกน่านฟ้า ต่อเนื่องด้วยการยกย่องเชิดชู บุพการีทหารอากาศที่วางรากฐานการบินของประเทศจนพัฒนาเป็นกองทัพอากาศที่มี ประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า ๑๐๐ ปี
    เวลา ๑๔๐๐ เครื่องบินขับไล่แบบ F-16A ทำการบินเปิดเบิกน่านฟ้า Synchronize ผ่านพิธีเปิดงาน
    จากนั้น เครื่องบินโจมตีและธุรการแบบ AU-23A จะบินลากป้ายสัญลักษณ์งาน ๑๐๐ ปีฯ
    เวลา ๑๔๐๓ หมู่บินสวนสนามบินผ่านพิธี ฯ ประกอบด้วย
    เครื่องบินขับไล่แบบ F-16 A/B จำนวน ๑๒ เครื่อง
    เครื่องบินขับไล่แบบ F-5E/F จำนวน ๔ เครื่อง
    เครื่องบินโจมตีแบบ ALPHA JET จำนวน ๔ เครื่อง
    เครื่องบินฝึกขับไล่แบบ L-39 จำนวน ๖ เครื่องบิน
    เครื่องบินฝึกแบบ PC-9 จำนวน ๔ เครื่อง
    เครื่องบินควบคุมและแจ้งเตือนแบบ SAAB 340 จำนวน ๑ เครื่อง
    เครื่องบินลำเลียงแบบ BT-67 จำนวน ๑ เครื่อง
    เครื่องบินฝึกแบบ DA-42 จำนวน ๔ เครื่อง
    เครื่องบินฝึกแบบ T-41 จำนวน ๔ เครื่อง

    องค์ที่ ๒ รักนภาแห่งสยาม
    เป็นการแสดงถึงความรักเกียรติและศักดิ์ศรีของชาติ ปกป้องน่านฟ้าไทยให้เป็นอธิปไตยมาถึงปัจจุบัน
    เวลา ๑๔๐๙ การแสดงการป้องกันภัยทางอากาศ โดยเครื่องบินขับไล่แบบ F-5E/F, F-16 A/B
    และเครื่องบินควบคุมและแจ้งเตือนแบบ SAAB 340 AEW
    เวลา ๑๔๒๑ การแสดงโจมตีทางอากาศ ของเครื่องบินขับไล่แบบ F-16A/B
    เวลา ๑๕๒๒ การแสดงการบินสนับสนุนกำลังภาคพื้นและเหล่าทัพอื่นๆ ของเครื่องบินโจมตีแบบ ALPHA JET
    เวลา ๑๔๒๕ การแสดงการบินโจมตี และสนับสนุนการค้นหาช่วยชีวิตในพื้นที่การรบ ของ
    เฮลิคอปเตอร์แบบ UH-1 H พร้อมด้วย เครื่องบินแบบ ALPHA JET และ F-16 A/B ​

    องค์ที่ ๓ รักประชาทั่วเขตคาม
    เป็นการแสดงการปฏิบัติกิจของกองทัพอากาศ ปฏิบัติหน้าที่แก่ประเทศชาติ และการแสดงภารกิจของกองทัพอากาศ เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน
    เวลา ๑๔๓๔ การแสดงการสนับสนุนช่วยเหลือพี่น้องประชาชนของเครื่องบินลำเลียงแบบ C-130H
    การแสดงการบินปฏิบัติฝนหลวงตามโครงการพระราชดำริ และการปฏิบัติการดับไฟป่า
    ของเครื่องบินลำเลียงแบบ BT-67​

    องค์ที่ ๔ เทิดพระนามองค์พระมหากษัติรย์ไทย
    เป็นการแสดงถึงความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตรย์ และเฉลิมพระเกียรติ ๘๕ พรรษา มหาราชา
    เวลา ๑๔๓๘ การแสดงโชว์การวิ่งขึ้นของเครื่องบินพระที่นั่ง และการบินผ่านของเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่ง
    เครื่องบินลำเลียงแบบ ATR-72-500
    เครื่องบินลำเลียงแบบ AIRBUS 310
    เครื่องบินลำเลียงแบบ BOEING 737-800
    เฮลิคอปเตอร์แบบ S-92 และเฮลิคอปเตอร์แบบ BELL-412 EP
    ขณะเดียวกัน พื้นเบื้องล่างหน้าพิธี จะเป็นการแสดงสวนสนามแปรขบวนเลข ๘๕ จากวงดุริยางค์ทหารอากาศ พร้อมบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์
    องค์พิเศษ กองทัพอากาศไทย ก้าวไกลวิสัยทัศน์แห่งศตวรรษใหม่
    เป็นการแสดงปิดท้ายด้วยความประทับใจ พร้อมทั้งแสดงถึงวิสัยทัศน์ความมุ่งหวังที่จะก้าวไปสู่กองทัพอากาศชั้นนำใน ภูมิภาค (One of The Best Air Force in ASEAN)
    เวลา ๑๔๔๐ การแสดงโชว์เดี่ยวของเครื่องบินขับไล่แบบ GRIPEN 39 C
    เวลา ๑๔๔๘ การแสดงโชว์เดี่ยวของเครื่องบินขับไล่แบบ F-16 A
    เวลา ๑๔๕๔ การแสดงการบินผาดแผลงของหมู่บินผาดแผลง BLUE PHOENIX
    เวลา ๑๕๐๕ หมู่บินเครื่องบินฝึกแบบ CT-4E ทำการบินหมู่แปรอักษรตัวเลข “100”
    จากนั้นเป็นการบินปล่อยควันสีธงชาติไทย ของเครื่องบินโจมตีและธุรการแบบ AU-23A
    การตั้งแสดงอากาศยานของกองทัพอากาศ ประกอบด้วย
    - กองทัพอากาศ: F-16A, F-5E, GRIPEN 39C, L-39, ALPHA JET, PC-9, DA-42, CT-4 A, AU-23A, SAAB 340B, NOMAD, C-130H, T-41D, BT-67, BELL-412EP, UH-1H, S-92 กองทัพบก AH-1F,Mi-17
    - กองทัพเรือ: SUPER LXNY 300, CL-215
    - สำนักงานตำรวจแห่งชาติ: EC-155
    - มูลนิธิอนุรักษ์และพัฒนาอากาศยานไทย F8F, T-28D, T-6 P-64, A-37B, O-1A, จันทรา, TIGERMOTH, CHIPMUNK, นางสาวสยาม
    - การบินไทย: AIRBUS 300-600
    - กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ: EC-135
    - นกแอร์: Boeing 737-400
    และอาจจะมีเพิ่มเติมมากกว่านี้​

    วันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๕ เวลา ๐๙๐๐ – ๑๖๐๐ ไม่มีการแสดงภาคอากาศ แต่เปิดให้พี่น้องประชาชนเข้าชม การจัดนิทรรศการของกองทัพอากาศ หน่วยราชการต่างๆ สถานศึกษาทางการบิน และบริษัทการบินต่าง ๆ การตั้งแสดงอากาศยาน
    กำหนดการซ้อมทำการบินแสดง มีดังนี้
    ซ้อมย่อย วันอังคารที่ ๑๙ มิถุนายน ๒๕๕๕ เฉพาะหัวหน้าหมู่บิน
    ซ้อมใหญ่ วันพฤหัสบดีที่ ๒๑ และวันจันทร์ที่ ๒๕ มิถุนายน ๒๕๕๕
    ซ้อมใหญ่ (ผู้บังคับบัญชา) วันพุธที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๕๕
    ที่มา : วันครบรอบ 100 ปี การบินของบุพการีทหารอากาศ 29-30 มิ.ย.นี้ ที่ดอนเมือง (UPDATE V)
     
  4. kiatp123

    kiatp123 โมฆะแมน

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,493
    ค่าพลัง:
    +19,616
    ถามคุณ Treetorn นักบิน F16
    เคมเทรล ที่เขาลือกันในเวปนี้
    ทางการบินแล้วคือปรากฎการณ์อะไร
    หรือเป็นจริงอย่างที่เขาลือกัน
    :':)':)'(
     
  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    "กฏแห่งกรรม" คือกฏแห่งความเที่ยงธรรม

    ใครทำกรรมอะไรไว้ ก็ต้องรับกรรมไปตามนั้น ไม่ว่าดีหรือชั่ว

    ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความพอใจ หรือไม่พอใจ ของใคร

    เช่นถ้ามีใครไปด่าว่า หรือปรามาสผู้ทรงศีลทรงธรรมท่านหนึ่ง

    ท่านอาจจะไม่ถือสาเอาความอะไรเลย แต่กฏแห่งกรรม

    ก็จะทำงานไปเองโดยอัตโนมัติ ตามกรรมที่มีผู้ก่อเอาไว้

    ผมจึงอยากจะเตือนให้ทุกๆ ท่านได้ทราบความจริงข้อนี้เอาไว้

    เพราะกฏแห่งกรรม ไม่มีคำว่าประชาธิปไตย หรือ เผด็จการ

    ไม่ได้สนใจว่าใครจะเชื่อเรื่องภัยพิบัติ หรือไม่เชื่อเรื่องภัยพิบัติ

    ไม่ได้สนใจว่าท่านจะมีเหตุผล ที่จำเป็นต้องทำกรรมนั้นๆ มากน้อยเพียงไร

    ใครทำดีก็จะได้รับผลแห่งกรรมดี ใครทำชั่วก็ต้องได้รับผลแห่งกรรมชั่ว

    นั่นแหละการทำงานของ "กฏแห่งกรรม" ที่ผมอยากจะบอกให้ทุกๆทราบเอาไว้ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มิถุนายน 2012
  6. TREETORN

    TREETORN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    59
    ค่าพลัง:
    +199
    ว่าด้วยเรื่องของไอน้ำ ที่เกิดเป็นเส้นยาวตามหลังเครื่องบินเมื่อบินสูงๆ
    Date: พฤหัสบดี, ธันวาคม 04 @ 00:00:00 ICT
    Topic: TFS Tutorial

    เป็นกระทู้เกี่ยวกับเรื่องของ Contrail หรือไอน้ำที่เราเห็นเกิดเป็นเส้นยาวๆ ตามหลังเครื่องบิน เมื่อบินในระยะสูงๆ ...เพราะว่ามีสมาชิกหลายๆ คนยังไม่เข้าใจ คุณ Supruet (หรือคุณโป้ง) เลยมาไขข้อข้องใจกันครับ เป็นความรู้ที่ดีมากๆ ..ต้องอ่านกันให้ได้ครับ คลิกที่ Read More เพื่ออ่านต่อ

    เห็นกระทู้นี้มาหลายวันแล้ว ไม่ได้ตอบเสียทีครับ เข้าใจว่าที่ถามนั้นหมายถึงในตัว flightsim ไม่ใช่ของจริง ซึ่งก็มีผู้ตอบไปแล้วครับ บังเอิญว่าผมเคยเห็นเขาพูดๆ กันเรื่องนี้ ทั้งในหนังสือ และเว็บไซต์อื่นๆ เห็นว่ายังคลาดเคลื่อนจากความจริงอยู่มาก เลยอดไม่ได้ที่จะมาโพสต์ อย่างน้อยพวกเราจะได้เข้าใจถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องนี้ครับ

    บางแห่งบอกว่าเป็นเครื่องบินตรวจอากาศแล้วมาปล่อยควัน บางแห่งอธิบายว่าอย่างโน้นอย่างนี้

    เอาละครับ ผมขออนุญาตมาไขเรื่องนี้โดยละเอียด ว่าเจ้าควัน ไอ หรือแถบขาวๆ ที่ลอยอยู่หลังเครื่องบินคืออะไร เกิดจากอะไรได้บ้างนะครับ ส่วนถ้าเป็นควันดำ ก็คงต้องฟันธงไปเลยว่า เครื่องยนต์มันเก่า หรือเครื่องยนต์ไอพ่นรุ่นแรกๆ มันสันดาปไม่ดี เลยเกิดควันดำ อ้อ เครื่องยนต์บางอย่างใช้แอลกอฮอล์ผสมน้ำ (Methanol - Water) ฉีดเข้าไปเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ จะมีควันดำออกมามากกว่าปกติครับ อ้าวนอกเรื่องเสียแล้ว

    ควันขาวๆ ที่ว่านี้เกิดจากสองสาเหตุหลักๆ ครับ อันแรกมาจากตัวเครื่องยนต์ อีกอันหนึ่งมาจากชิ้นส่วนของเครื่องบินครับ ใน Flight Sim เท่าที่เห็นมามี effect ทั้งสองอย่างครับ แต่ที่เป็น default ก็คือควันที่เกิดมาจากเครื่องยนต์

    1. ก่อนอื่นต้องเข้าใจเรื่องเครื่องยนต์นิดหน่อยก่อน เครื่องยนต์เปลี่ยนพลังงานเคมี (ในเชื้อเพลิง) ให้เป็นพลังงานความร้อน และพลังงานจลน์ (จากการสันดาป) แล้วเครื่องยนต์ก็จะนำพลังงานนี้ไปใช้ขับเคลื่อนเครื่องบินอีกต่อหนึ่ง อาจเอาไปหมุนใบพัด (เครื่องยนต์ลูกสูบ หรือ เครื่อง Turboprop) หรือพ่นออกไปเพื่อดันท้าย (เครื่องไอพ่น) ก็สุดแล้วแต่ครับ

    2. การเปลี่ยนพลังงานนี้เป็นปฏิกิริยาเคมีที่ต้องใช้ออกซิเจน เรียกว่าการสันดาป (combustion) เมื่อได้พลังงานแล้วจะได้คาร์บอนไดออกไซด์ (Carbon dioxide - CO2) และน้ำ (H20) (ถ้าเป็นปฎิกิริยาที่สมบูรณ์) อาจมีคาร์บอนมอนอคไซด์ (Carbon monoxide - CO) และไฮโดรคาร์บอน (HCx) ออกมาด้วย ถ้าการสันดาปไม่ค่อยจะสมบูรณ์ สิ่งเหล่านี้ก็จะถูกปล่อยออกไปจากเครื่องยนต์

    3. คราวนี้มาถึงเรื่องของอากาศบ้างครับ เราทราบแล้วว่า "ยิ่งสูงยิ่งหนาว" เมื่อเครื่องบิน บินสูงขึ้นไปเรื่อยๆ อุณหภูมิภายนอกจะลดลง (มีสูตรคำนวณ) เพราะว่าอากาศที่อยู่สูงจะรับความร้อนจากพื้นดินได้น้อยกว่า อีกอย่างหนึ่งต้องเข้าใจลักษณะของอากาศด้วย "อากาศร้อนจะลอยขึ้นสูง อากาศเย็นจะเข้ามาแทนที่" อากาศที่ร้อนจะมีพลังงานมาก และมีความชื้นสูง เมื่อลอยตัวขึ้นพลังงานก็จะค่อยลดลง อากาศจะเย็นลง ความชื้นในอากาศจะลดลง

    4. เวลาเราเจออากาศหนาวๆ เราจะเห็นว่าเวลาเราหายใจ จะมีควันออกมาใช่ไหมครับ นั่นคือความชื่นในตัวเรา (ที่ปนอยู่กับลมหายใจ) ที่มีอุณหภูมิเท่ากับร่างกายคือ 37 องศาเซลเซียส มากระทบกับอากาศที่เย็น ไอน้ำ (ความชื้น) จึงเกิดการควบแน่น (condensation) ทำให้เห็นไปควันขาวๆ

    5. สำหรับเครื่องบินก็เหมือนกันครับ เมื่อเครื่องยนต์ปล่อยไอน้ำออกมา หากอากาศเย็น และแห้งพอ ไอน้ำจากเครื่องยนต์ก็จะเกิดการควบแน่น และเกิดควันขาวเป็นทางยาว เรียกกันว่า contrail (condensation trail), vapour trail ก็เรียก

    6. เราอาจสงสัยว่าแล้วทำไมบางครั้งเราเห็นเจ้า contrail นี่ บางครั้งก็ไม่เห็น อันนี้ขึ้นอยู่กับความชื้นในอากาศครับ ถ้าความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศสูงกว่าความชื่นที่ปล่อยออกมาจากเครื่องยนต์ ต่อให้หนาวยังไง อุณหภูมิต่ำแค่ไหน ก็จะไม่เกิด contrail แต่ถ้าความชื่นสัมพันธ์ในอากาศต่ำกว่าความชื้นจากเครื่องยนต์ อุณหภูมิไม่ต้องต่ำมากก็อาจเกิด contrail ได้ครับ

    7. บางคนที่เดินทางบ่อยๆ อาจสังเกตว่าทำไมบางที่จึงเกิด contrail มากกว่าที่อื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศที่อยู่ใน latitude ที่ค่อนข้างสูง (ใกล้ขั่วโลกเหนือและใต้) อันนี้มีคำอธิบายเพิ่มเติมครับ

    เมื่ออากาศร้อนคายพลังงานจนเกือบหมด อุณหภูมิของอากาศจะต่ำถึงขีดหนึ่ง ประมาณ -30 ถึง -50 องศาเซลเซียส ความชื้นในอากาศลดลงจนแทบจะไม่เหลือ หากสูงขึ้นไปกว่านี้อุณหภูมิจะเริ่มสูงขึ้น คราวนี้จะกลายเป็น "ยิ่งสูงยิ่งร้อน" เพราะว่าอากาศเบาบางมาก อุณหภูมิไม่ได้เกิดจากพลังงานในอากาศอีกต่อไป แต่เป็นผลมาจากการแผ่รังสีของดวงอาทิตย์ เส้นแบ่งระหว่าง "ยิ่งสูงยิ่งหนาว" และ "ยิ่งสูงยิ่งร้อน" เรียกว่า Tropopause (ถ้าใครเล่น PSS A320 จะเห็นใน FMCG ว่ามีคำนี้ และมีค่าประมาณ 36,000) จุดนี้เป็นจุดแบ่งระหว่างชั้น Troposphere กับ Stratosphere

    8. ถามต่อไปว่าไอ้ Tropopause นี้สูงเท่าไหร่ ตอบได้ว่าไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับพลังงานในอากาศ ณ บริเวณต่างๆ นอกจากนี้ยังมีผลจากการหมุนของโลกด้วย เพราะว่ามีแรงเหวี่ยงหนีศูนย์กลาง (centrifugal force) ถ้าเราลองเอาน้ำใส่แก้วกลมๆ แล้วแกว่ง จะเห็นว่าตรงกลางแก้วระดับน้ำจะต่ำกว่าบริเวณที่ติดกับแก้ว เพราะว่าแรงเหวี่ยงหนีศูนย์กลางนั่นเองครับ

    อากาศก็เช่นกัน เมื่อโลกหมุนอากาศก็จะไปกระจุกตัวมากหน่อยบริเวณขอบๆ ซึ่งก็คือบริเวณเส้นศูนย์สูตร (โลกเราอ้วนที่สุดก็ตรงเส้นศูนย์สูตรนี่แหละครับ) ดังนั้นบริเวณที่ใกล้เส้นศูนย์สูตร ชั้น Tropopause จะสูงกว่าบริเวณอื่นๆ ยิ่งเข้าใกล้ขั้วโลก (ทั้งเหนือและใต้) เจ้า Tropopause นี่จะเตี้ยลงครับ (เหมือนน้ำตรงกลางแก้ว)

    9. ดังนั้นในบริเวณ latitude สูงๆ (ใกล้ขั่วโลก) ชั้น Tropopause อาจต่ำมาก ประมาณ 28,000 - 35,000 ฟุต ในขณะที่บริเวณเส้นศูนย์สูตร ชั้นนี้อาจอยู่สูงกว่า 40,000 - 50,000 ฟุตขึ้นไป จึงทำให้โอกาสที่เครื่องบินจะปล่อย contrail นั้นสูงกว่าเมื่อบินในบริเวณ latitude สูงๆ (ถ้าบินที่ระดับความสูงเท่ากัน)

    10. ฤดูกาลก็มีผลกับ Tropopause ครับ หน้าร้อนของซีกโลกเหนือ (หน้าหนาวของซีกโลกใต้) Tropopause ในซีกโลกเหนือจะสูงกว่าในซีกโลกใต้ แต่ความสูงของ Tropopause ใกล้เส้นศูนย์สูตรมักจะไม่ค่อยเปลี่ยนแปลง

    แล้วก็ตามด้วยอีกตอนครับ</SPAN>

    มาต่อกันเรื่องควันขาวๆ ที่ไม่ได้เกิดจากเครื่องยนต์นะครับ แต่เกิดจากชิ้นส่วนของเครื่องบิน

    1. ชิ้นส่วนที่จะทำให้เกิดควันขาวๆ ได้นั้นมันจะเป็นชิ้นส่วนที่อยู่บริเวณที่มีความแตกต่างของความดันอากาศ นั้นคือพวกปีก ปลายปีก fairing บนปีก หรือหางครับ รวมทั้งเจ้า Vortex Generator ด้วย

    ชิ้นส่วนที่หน้าตาเป็นปีกนั้นมักจะก่อให้เกิดความแตกต่างของความดันอากาศ เมื่อเทียบกับความดันอากาศที่อยู่ห่างจากเครื่องบินออกไป

    ปีกจะสร้างแรงยกได้ เมื่อทำให้อากาศเหนือปีกมีความดัน (สัมพัทธ์) ต่ำกว่าความดันใต้ปีก ตามหลักก็คือ เมื่ออากาศไหลช้าด้านบนปีก (ช้ากว่าโดยเปรียบเทียบกับอากาศใต้ปีก และอากาศที่อยู่ไกลๆ เครื่อง - free flow airstream) ความดันจะลดลง ส่วนใต้ปีกความดันจะสูงกว่า (โดยเปรียบเทียบอีกเช่นกัน) ความดันจะเพิ่มขึ้น

    2. บริเวณปลายปีก หรือพวก fairing มักจะเป็นจุดที่ความดันที่แตกต่างกันสองบริเวณมาบรรจบกัน จึงทำให้เกิดอากาศแปรปรวนท้ายเครื่องบินอยู่ระยะหนึ่งกว่าความดันจะปรับเข้าสู่สภาพอากาศปกติ ปีกยิ่งใหญ่จะยิ่งเกิดความแปรปรวนของอากาศมาก นี่คือที่เกิดของพวก wake turbulence ซึ่งทำให้เครื่องบินต้องมีการรอเวลาขึ้น หรือลงเป็นระยะเวลาพอควร

    3. กลับมาถึงเรื่องอากาศ เมื่อความดันอากาศลดลง อุณหภูมิของอากาศก็จะลดลงด้วย ถ้าปริมาณไอน้ำในอากาศมีมากพอ ก็จะเกิดการควบแน่น (condensation) เกิดเป็นควันขึ้น เรามักเรียกว่าหมอก

    4. ในวันที่ความชื่นสูงๆ เช่นฝนเพิ่งตกใหม่ๆ หมาดๆ หรือเมฆมาก ครึ้มๆ ทั้งวัน เมื่อเครื่องบินบินขึ้น หรือลง หรือกำลัง approach หรือบินผ่านเมฆ (ที่ไม่หนามาก) เรามักจะเห็นควันขาวๆ เหนือปีก เหมือนเป็นหมอกลอยอยู่เหนือปีก แล้วก็ยังมีควันขาวเป็นทางจากปลายปีก และบริเวณชาย flap หรือปลาย fairing ทั้งนี้ก็เพราะความดันที่ต่ำกว่าบริเวณอื่นๆ ทำให้อุณหภูมิในบริเวณนั้นต่ำกว่าบริเวณใกล้เคียง และทำให้เกิดการควบแน่น

    ควันจากปลายปีก ชาย flap หรือปลาย fairing จะมีการผสมกันระหว่างความดันสูงกับความดันต่ำ เพราะมันสิ้นสุดบริเวณปีกแล้ว บริเวณที่มีความดันแตกต่างกันก็จะมาชนกัน ต้องใช้เวลาในการที่ความแตกต่างนั้นจะหายไป การผสมกันของความดันอากาศที่แตกต่างกันจะทำให้เกิด Vortex ถ้าสังเกตให้ดี ควันขาวๆ จำพวกนี้จะไม่ได้เป็นเส้นตรงๆ แต่จะเป็นขดๆ บางครั้งจะสังเกตได้ง่าย บางครั้งก็ยาก เห็นเหมือนจะเป็นเส้นขาวๆ ธรรมดา ในเวลาที่เครื่องบินรบบินผาดแผลง ตีลังกา เลี้ยววงแคบ ควงสว่าน หรือทำ high A-o-A stall มักจะเกิดพวกควันเหล่านี้ง่าย เพราะความแตกต่างของความดันในการบินท่าต่างๆ นั้นสูงกว่าปกติ

    สรุปแล้ว contrail เกิดจากไอน้ำที่ได้จากการสันดาปของเครื่องยนต์ กระทบกับอากาศเย็นจัด และแห้งจัด แล้วควบแน่น ส่วนควันขาวๆ ที่เราเห็นเวลาเครื่องบินในระดับต่ำหน่อยจะเกิดจากการควบแน่นของไอน้ำในอากาศบริเวณที่มีความดันต่ำกว่าบริเวณใกล้เคียง บริเวณที่มีความดันต่ำนั้นเกิดจากชิ้นส่วนทาง aerodynamics ของเครื่องบินครับ
    ที่มา : Thai Flight Simulator -
     
  7. ragpon

    ragpon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    456
    ค่าพลัง:
    +954
    แล้วอันนี้คืออะไรหรือครับ
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=VhduEsuvMaw&feature=player_embedded"]CHEMTRAILS - SCIE CHIMICHE the evidence - la prova - - YouTube[/ame]

    ผมเชื่ออยู่บ้างนะครับข้อมูลที่คุณบอกมาทั้งหมด เพราะอะไรหรือครับ คุณบอกข้อมูลในเชิงการคำนวนหรือผลลับอะไรบางอย่างที่คนส่วนใหญ่มิอาจทราบได้ ความสูงเท่าไหร่ น้ำหนักเท่าไหร่ หรือเครื่องยนต์ประเภทอะไรไม่มีใครมากมายหรอกครับที่จะไปมีปัญญาสืบค้นว่าข้อมูลที่คุณพูดเป็นเรื่องจริงเพราะมันพิสูตรกันไม่ได้ง่ายๆ มันเป็นสิ่งอ้างอิงของผู้ที่ออกมาบอกในผลลับมันเป็นอย่างงี้ๆ แต่คนที่ฟังที่อ่านก็น้ำลายยืดนั่งฟังว่ามันเป็นจริงอย่างนั้น ผมคนนึงที่นั่งอ่านตาห้อยเลยแต่มันน่าเชื่อครับผมยอมรับแต่ใครจะมีปัญญาขึ้นไปนั่งดูตรูดเครื่องบินในระดับความสูงนี้ๆๆ เร่งเครื่องเท่านี้ๆๆ แล้วก็บอกอ๋อมันจริงนี้นาที่เขาพูดจริงไหมครับ

    แก้ไขครับ

    วีดีโอแถม ครับ
    http://www.youtube.com/watch?NR=1&v=l1ngd0Ir5_k&feature=endscreen
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มิถุนายน 2012
  8. TREETORN

    TREETORN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    59
    ค่าพลัง:
    +199
     
  9. ragpon

    ragpon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    456
    ค่าพลัง:
    +954
    คุณ TREETORN แล้ว contrail (condensation trail), vapour trail
    และ Vortex มันคืออะไรหรอครับ ผมไม่ค่อยมีการศึกษาอะไรมาก แต่ถ้าอธิบายก็พอจะเข้าใจได้ครับ คงไม่โกรธอีกนะครับ ผมถามตรงๆ ข้อความแรกก็ถามตรงๆ จนอาจจะทำใ้ห้คุณเหมือนจะหงุดหงิดผมเลยนะเนี้ย ผมขอโทษจริงๆ แล้ว Vortex เนี้ยมันจะมีโอกาศเป็นอันตรายมากน้อยแค่ไหนด้วยนะครับ อีกข้อนึง
     
  10. 9อมตะ9

    9อมตะ9 อมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    571
    ค่าพลัง:
    +1,288
    พรุ่งนี้เสาร์ 5 ขึ้น 5 ค่ำ.........เวลา 18.00 น.ที่วัดท่าซุงมีพิธีพุทธาภิเษก....เตรียมดอกไม้ ธูป 3 ดอก เทียนหนัก 1 บาท ไหว้พระพร้อมๆกันนะ....สิ่งมงคลจะเกิดกับทุกๆๆท่าน[​IMG]
     
  11. suriyap

    suriyap เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +177
    คุณ Treetorn ตอบได้ละเอียดแล้วนะครับขอสรุปนิดนึงจากความรู้ที่ผมพอมีอยู่บ้าง การเผาไหม้เกิดไอน้ำ และเขม่า (ไฮโดรคาร์บอน) ซึ่งจะเป็นแกนให้ไอน้ำมาเกาะเป็นหยดน้ำขนาดเล็กๆ ได้ครับ เกิดได้ทั้งสองแบบ ส่วนการเปลี่ยนแปลงความดันบรรยากาศอาจทำให้ไอน้ำควบแน่นเป็นหยดน้ำขนาดเล็กได้เช่นกันครับ ทั้งสองอย่างก็ขึ้นกับอุณหภูมิ ความดัน ความชื้นของบรรยากาศบริเวณนั้นว่าจะทำให้หยดน้ำเล็กๆนั้นคงตัวอยู่ได้นานแค่ไหน อาจจะสั้นจนไม่เห็นเลยก็ได้ครับ หรืออาจอยู่ได้นาน ๆ ก็ได้ครับ
     
  12. suriyap

    suriyap เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +177
    สำหรับเรื่อง Vortex ลองดูที่ลิ้งค์นี้แบบคร่าว ๆ น่าจะช่วยได้นะครับ
    Wingtip vortices - Wikipedia, the free encyclopedia

    ผมไม่แน่ใจนะครับว่าตรงประเด็นหรือเปล่าครับ
     
  13. ragpon

    ragpon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    456
    ค่าพลัง:
    +954
    ขอบคุณครับ ผมได้เข้าไปดูแล้วครับ แต่รูปแบบการเกิดค่อนข้างจะแตกต่างจากที่พบเห็นจากระยะพื้นดินแม้จะใช้กล้องส่องทางไกลแล้วก็จะดูเป็นระยะทางที่ไกลมากและกว้างมากกว่าที่ในรูปการสาธิตหรือรูปจำลองที่เขาทำให้ดู ผมคิดว่าน่าจะเกิดจากเกี่ยวพันกันค่าคาบอนในแถบใกล้ตัวเมืองที่มีคนอยู่หนาแน่นอะไรทำนองนี้ด้วยนะครับ เอาเป็นว่าผมขอยุติความสงสัยของผมเพียงเท่านี้ครับ
    ขอบคุณทุกคนที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมขอรับ
     
  14. kiatp123

    kiatp123 โมฆะแมน

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,493
    ค่าพลัง:
    +19,616
    อ้างอิง:ถามคุณ Treetorn นักบิน F16
    เคมเทรล ที่เขาลือกันในเวปนี้
    ทางการบินแล้วคือปรากฎการณ์อะไร
    หรือเป็นจริงอย่างที่เขาลือกัน
    ตอบ ; ฯลฯ สรุปแล้ว contrail เกิดจากไอน้ำที่ได้จากการสันดาปของเครื่องยนต์ กระทบกับอากาศเย็นจัด และแห้งจัด แล้วควบแน่น ส่วนควันขาวๆ ที่เราเห็นเวลาเครื่องบินในระดับต่ำหน่อยจะเกิดจากการควบแน่นของไอน้ำในอากาศบริเวณที่มีความดันต่ำกว่าบริเวณใกล้เคียง บริเวณที่มีความดันต่ำนั้นเกิดจากชิ้นส่วนทาง aerodynamics ของเครื่องบินครับ ฯลฯ

    ขอบคุณมากๆ ครับ ไม่ต้องเถียงกันแล้ว ถ้าไม่มีใครเอายาเบื่อหนูมาโปรยในอากาศก็ใช้ได้แล้ว ผมไม่ได้ไปทำอะไรให้ใครเจ็บช้ำน้ำใจ ถึงขนาดต้องเอายาเบื่อหนูมาโปรยในอากาศเพื่อให้ผมป่วยและตายไป ยุ่งยากเสียเปล่าๆ มีอะไรก็คุยกันได้

    ขออย่างเดียวถ้าใครเอาของมีพิษมาโปรยบนน่านฟ้าไทย ท่านช่วยขับ F 16 ไปยิงตูดมันให้ตกตายไปเลยนะครับ
    ผมจำได้น้า ตอนผมไปขายเต้าฮวยอยู่ริมรั้วโรงเรียน นนอ. ได้ยินเสียงแว่วๆมาว่า "น่านฟ้าไทยจะมิให้ใครย่ำยี"
    <IFRAME height=315 src="http://www.youtube.com/embed/1G5eamZfZ-A" frameBorder=0 width=420 allowfullscreen></IFRAME>


    <IFRAME height=315 src="http://www.youtube.com/embed/2wQf9WQ3Br4" frameBorder=0 width=420 allowfullscreen></IFRAME>

    :boo::boo:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มิถุนายน 2012
  15. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    28 ก.ค.55 สัมมนาฟรี "มหาภัยพิบัติกำลังคืบคลานมา เวลาเหลือน้อย"

    [​IMG]

    karan20 สมาชิก

    ขอนำข่าวสารจากทีมงานผู้จัดงานสัมมนามาเผยแพร่นะครับ
    ขออภัย...รู้สึกว่าเพิ่งจะเริ่มกระจายข่าวงานสัมมนาในวงกว้าง
    เลยทำให้ภาพประกอบไม่ค่อยสมบูรณ์

    งานจัดในวันเสาร์ที่ 28 กรกฎาคม 2555 เวลา 8.00 - 17.00 น
    สถานที่ อาคารสารนิเทศ 50 ปี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
    จัดโดย ชมรมคนบุญมุ่งสู่ยุคศิวิไลซ์ (นำโดย ดร.ปชา ภานุบุญ)

    สัมนาครั้งนี้...เป็นครั้งสำคัญ จัดเนื้อหาแบบเข้มข้นไม่เกรงใจใคร..
    อยากให้ทุกคนถึงบางอ้อ..! แล้ว ได้รู้รอดปลอดภัยไปด้วยกัน

    เนื้อหาคือ..เหตุการณ์จะเกิดที่ไหน อย่างไร...เตรียมตัวออกเมื่อไหร่..
    จุดนัดพบที่พวกเราจะเดินทางออกนอกกรุงเทพ..จะไปกันอย่างไร??

    เราจะนัดหมายกันในงานนี้ ดังนั้นอย่าปล่อยให้ตัวเองพลาดโอกาส...
    ชีวิตของเรานั้นยังมีค่า มากกว่าสิ่งสมมุติใดๆที่อยู่รอบตัวเราในเวลานี้

    เมื่อถึงเวลานั้น...เราจะรู้คุณค่าของการมีชีวิตรอด

    สัมมนาฟรี ! มีอาหารและน้ำเลี้ยงฟรี !! มีของแจก !!!

    สำหรับท่านที่ต้องการไปร่วมงานสามารถลงทะเบียนได้ที่
    email: konboon1@gmail.com หรือโทร 08-45467943 (คุณเรือง)

    *** หมายเหตุ การลงทะเบียนนี้ เพื่อต้องการจะทราบจำนวนท่านที่ไปงานชัดเจน
    จะได้เตรียมสั่งอาหารและน้ำไว้จัดเลี้ยงให้เพียงพอกับทุกคน

    *************************
    ตระหนกเสียโอกาส ประมาทเสียชีวิต


    *************************​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มิถุนายน 2012
  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    นานาทัศนะมุมมองในเรื่องของการเตือนภัยพิบัติ...

    ในขณะนี้ไม่ว่าเราจะเปิดดูทีวี ฟังข่าวทางวิทยุ หรืออ่านข่าวทางหน้าหนังสือพิมพ์ ก็จะพบแต่ข่าวของภัยพิบัติสารพัดรูปแบบ ทั้งที่มาจากคนและมาจากธรรมชาติ ให้เห็นอยู่เต็มไปหมด มีทั้งการเตือนภัยให้รับมือกับน้ำท่วม แผ่นดินไหว แผ่นดินแยก แผ่นดินยุบ โรคระบาด คลื่นสึนามิ พายุใต้ฝุ่น พายุเฮอริเคน ตลอดจนถึงการรับมือกับเหตุการณ์จลาจล สงครามกลางเมือง ฯลฯ

    จึงไม่อาจจะปฏิเสธไปได้เลยว่า เราได้เข้ามาสู่ยุคแห่งภัยพิบัติอย่างเต็มรูปแบบแล้ว แต่ก็ยังมีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่ไม่สนใจกับข่าวเหล่านี้ และยังพยายามต่อต้านคนที่มาให้ข่าวเหล่านี้อีกด้วย โดยอ้างว่าทำให้เสียบรรยากาศการท่องเทียว เสียบรรยากาศการลงทุนทางธุรกิจ และทำให้คนตื่นตระหนกตกใจ สร้างความปั่นป่วนวุ่นวายทางสังคม เพื่อแสวงหาผลประโยชน์กับเรื่องของภัยพิบัติ ฯลฯ

    ในฐานะที่ผมก็เป็นมิสเตอร์เตือนภัยคนหนึ่งเหมือนกัน ก็รู้สึกอึดอัดใจกับเรื่องเหล่านี้อยู่ไม่น้อย เพราะการทำหน้าที่ของผม ก็มีทั้งคนที่เข้าใจและให้การสนับสนุน แต่ก็มีอีกจำนวนไม่น้อยที่ไม่เข้าใจ และพยายามเข้ามาโจมตีอยู่ตลอดเวลาเช่นเดียวกัน แต่ผมก็ยึดถือเอาพุทธโอวาทในพุทธทำนาย ที่ว่า"ผู้ที่รู้เรื่องของภัยพิบัติแล้วไม่บอกต่อๆกันไป นับว่าเป็นกรรมของสัตว์โลกที่ต้องสิ้นสุดตามกาลเวลา" นี้มาเป็นกำลังใจในการเตือนภัยอยู่เสมอมา

    เพราะขนาดพระพุทธเจ้า ท่านยังต้องการให้มีการแจ้งข่าวเตือนภัยนี้ออกไปให้ชาวโลกได้รับรู้กันให้มากที่สุด แต่ถ้าเรามามัวห่วงว่าจะต้องมีคนที่ไม่เห็นด้วย เข้ามาโจมตีให้ร้ายแล้วหละก็ อาจจะทำให้คนดีๆ ที่มีโอกาสจะรอดพ้นจากภัยพิบัติ เพื่อได้มีชีวิตสร้างสมบุญบารมีให้ยุคของชาวศิวิไล ต้องเสียโอกาสอันดีงามนี้ไป

    ส่วนเรื่องที่ว่าการเตือนภัยนี้อาจจะเป็นการไปทำร้ายผู้อื่นได้นั้น ผมคิดว่าให้ถือคำสอนของพระพุทธเจ้าที่ว่า 'เจตนาหัง ภิกขเว กัมมัง วทามิ'...แปลว่าภิกษุทั้งหลาย เรากล่าวว่าเจตนาเป็นกรรม.. นี้มาเป็นหลักใจของเราดีกว่าครับ เพราะพวกเราเตือนไปด้วยเจตนาดี ไม่ได้คิดทำให้ใครต้องเดือดร้อน จึงไม่น่าจะเป็นบาปกรรมแต่อย่างใด แต่กลับจะได้บุญที่ช่วยให้เขาได้รอดพ้นจากภัยอันตรายต่างๆ นั้นไปได้ครับ และการเตือนก็ไม่ได้แค่เตือนภัยอย่างเดียว พวกเรายังได้แนะนำวิธีการเตรียมกายและใจไปด้วย ว่าควรจะต้องทำอย่างไรบ้างโดยละเอียด

    แต่ถ้าจะมีคนเดือดร้อน เพราะความตื่นตระหนก ถึงกับต้องรีบขายบ้าน หรือรีบลาออกจากงาน โดยที่ยังไม่เกิดภัยพิบัติแต่อย่างใดนั้น ก็เพราะเขาไม่ได้อ่านคำเตือนของพวกเราให้ครบถ้วนกระบวนความเสียก่อน ว่าให้สังเกตุดูสัญญาณเตือนภัยต่างๆ เสียก่อนจึงจะรีบทำการอพยพ เช่นมีฟ้ามืดมิดอย่างฉับพลันในเวลากลางวัน หรือพฤติกรรมของสัตว์ต่างๆ เปลี่ยนแปลงไปจากปรกติ เป็นต้น

    ทั้งนี้เรื่องวันเวลาที่จะเกิดภัยพิบัตินั้น ไม่มีใครสามารถบอกได้อย่างแน่นอนว่าจะเกิดวันไหน และถึงจะมีผู้ทรงศีลทรงธรรมบางท่าน คาดการณ์ว่าจะเป็นวันนั้นวันนี้บ้าง แต่เมื่อถึงเวลาแล้วกลับไม่มีอะไรเกิดขึ้นนั้น จะไปโทษท่านว่าโกหกก็ไม่ได้ เพราะท่านเชื่อตามข้อมูลที่ท่านได้มาอย่างบริสุทธิ์ใจ เหมือนกับพ่อของเด็กชายปลาบู่ สรุปก็คือพวกเราเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจว่าจะต้องเกิดภัยพิบัติตามคำทำนายอย่างแน่นอน แต่ท่านจะมาคาดคั้นอย่างเอาเป็นเอาตายว่า ถ้ารู้จริงต้องบอกได้สิว่าจะเกิดวันไหน เวลาไหนนั้น

    ก็ต้องขออภัยอย่างแรงที่จะบอกว่า ไม่ทราบจริงๆครับ ว่าภัยพิบัติขั้นรุนแรงตามคำทำนายนั้นจะเกิดวันไหน เวลาไหนกันแน่ เพราะแม้แต่พวกเราเองก็ยังต้องคอยสังเกตุสัญญาณเตือนภัยอยู่เหมือนกันครับ แต่อย่างไรผมคิดว่ามีคนเตือนก็ดีกว่าไม่มีใครเตือนอะไรเลย ดีกว่าที่ท่านจะเดินไปข้างหน้าอย่างมืดแปดด้าน อย่างน้อยก็ยังรู้ว่าชีวิตในวันข้างหน้าของท่าน ยังมีภัยอันตรายอะไรบ้างที่รออยู่ข้างหน้าครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มิถุนายน 2012
  17. palungman

    palungman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    96
    ค่าพลัง:
    +173
    <TABLE class=t_table width="98%"><TBODY><TR><TD>
    คดี “ซอมบี้” โผล่อีก!! หนุ่มเปลือยมะกันคลั่ง กัดแขนเหยื่อจนเนื้อขาด
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=t_table width="98%"><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=t_table width="98%"><TBODY><TR><TD><TABLE class=t_table><TBODY><TR><TD>
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
    </TD><TD>
    22 มิถุนายน 2555 02:42 น.​
    </TD><TD>


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD>Around the World - Manager Online - คดี “ซอมบี้” โผล่อีก!! หนุ่มเปลือยมะกันคลั่ง กัดแขนเหยื่อจนเนื้อขาด</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=t_table width="98%"><TBODY><TR><TD>
    [​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=t_table width="98%"><TBODY><TR><TD><TABLE class=t_table width="98%"><TBODY><TR><TD>
    <TABLE class=t_table><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]
    </TD><TD><TABLE class=t_table width=306><TBODY><TR><TD width=306>[​IMG] </TD></TR><TR><TD>
    นายชาร์ลส์ เบเกอร์ ผู้ต้องสงสัยวัย 26 ปี​
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> เอบีซีนิวส์ - คดีสะเทือนขวัญ เหตุโจมตีคล้าย “ซอมบี้” เกิดขึ้นอีกแล้ว คราวนี้ที่มานาตี เคาน์ตี มลรัฐฟลอริดา สหรัฐฯ เมื่อช่วงค่ำวันพุธ (20) ตามเวลาท้องถิ่น หลังชายคนหนึ่งคลุ้มคลั่งเข้าทำร้ายและกัดเนื้อบริเวณท่อนแขนของเหยื่อจนขาด

    สำนักงานนายอำเภอมานาตี เคาน์ตี เปิดเผยว่าเช่นเดียวกับคนร้ายที่ก่อเหตุโจมตีและสวาปามใบหน้ามนุษย์ที่ไมอามี นายชาร์ลส์ เบเกอร์ วัย 26 ปีก็อยู่ในสภาพเปลือยเปล่า กัดเนื้อของเหยื่อ และไม่ยอมรามือง่ายๆ ระหว่างที่ทั้งสองต่อสู้กัน

    เจ้าหน้าที่บอกว่า นายเบเกอร์ไปเยี่ยมลูกๆ ที่บ้านของแฟนสาวในเมืองพาลเมตโต เวลาประมาณ 22.15 น. พร้อมบอกว่าชายคนนี้มีท่าทีเหมือนคนกำลังเมายา ตอนที่เคาะประตูบ้าน จากนั้นก็พุ่งพรวดเข้าไป เริ่มตะโกนเสียงดังและถอดเสื้อผ้าออก

    เขากรีดร้อง ไม่มีท่าทีสงบและเริ่มขว้างปาเฟอร์นิเจอร์ไปรอบๆ บ้าน จากนั้นนายเจฟเฟอรี เบลค วัย 48 ปี ที่พักอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน ก็เข้ามาพยายามระงับสติอารมณ์นายเบเกอร์ ทว่ากลับถูกผู้ต้องสงสัยกัดเข้าที่แขน และกระชากก้อนเนื้อด้านหน้าของแขนจนขาด

    เบลค สามารถจับนายเบเกอร์กดลงกับพื้นและกดเขาไว้อย่างนั้นจนกระทั่งเจ้าหน้าที่ 2 นายเดินทางมาถึง อย่างไรก็ตาม ในตอนนั้นเอง เบลค ได้ปล่อยมือ ทำให้ เบเกอร์ เป็นอิสระและไม่ยอมทำตามคำสั่งของตำรวจ

    จากนั้นายเบเกอร์ก็หันไปเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่และทำท่าเหมือนจะพุ่งเข้าเล่นงานทั้ง 2 คน จนเจ้าหน้าที่นายหนึ่งต้องออกปากเตือนและใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าระงับความคลุ้มคลั่งของเขาและสามารถจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยได้สำเร็จ

    เบื้องต้นนาย เบเกอร์ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลมานาตี เมโมเรียล ก่อนถูกย้ายไปยังสถานคุมขังต่อไป ขณะที่เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  18. ZZ

    ZZ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2005
    โพสต์:
    5,374
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,649
    ขอบคุณครับสำหรับข้อมูล


    ลองค้นศัพท์ต่างๆดู....ครับ


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มิถุนายน 2012
  19. phitd

    phitd สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    76
    ค่าพลัง:
    +10

    ผมก็คนหนึ่งครับไม่เชื่อว่าจะเป็นเหตุขัดข้องทางระบบไฟฟ้า...เพราะโดยปกติระบบเรดาห์สุวรรณภูมิถูกออกแบบมาเป็นอย่างดีมาก เราๆท่านๆ คงจะเคยเห็นข่าวต่างๆก่อนเปิดสนามบินมีรายการ ทีวีไปถ่ายทำหลายรายการ ระบบจะออกแบบไว้ให้สามารถใช้เรดาห์ของดอนเมืองได้เมื่อเกิดเหตุที่ สุวรรณภูมิใช้ไม่ได้
     
  20. k_isara 1

    k_isara 1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +7,059
    23 มิ.ย. 55 ผลไม้เมืองนอก

    ณ.เวลานี้ 13.35น. ไม่ทราบว่าท่านใดลืมผลไม้เมืองนอกรุ่น M79หรือRPG เอาไว้ตรงข้ามเยื้องร้านค้าไปหน่อย ขอให้มารับกลับไปด้วย ไม่เช่นนั้นอีกสักครู่หน่วยเก็บกู้จะมาเก็บแทน....ฮา

    เวลา 14.34น. สพ.ทอ. มาเก็บผลไม้ไปเรียบร้อยแล้ว

    เคอิสรา<!-- google_ad_section_end --> <!-- / message -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 23 มิถุนายน 2012

แชร์หน้านี้

Loading...