พบปะ พูดคุย ประสาเพื่อนพ้องน้องพี่ แบบกันเอง

กองบุญแก้้วมณีธรรม

ผมและชาวคณะกองบุญแก้วมณีธรรมได้มีโอกาศไปร่วมงานถวายบุษบกที่วัดละหารไร่ จ.ระยองเมื่อวันที่๒มิยที่ผ่านมานี้ จึงได้นำพระธาตุเขาสามร้อยยอดจากจ.ประจวบคิรีขันธ์มาถวายยังวัดละหารไร่ด้วย และทางกองบุญได้ร่วมทำบุญสร้างรูปจำลองหลวงพ่อทิม อิสริโกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่กำลังก่อสร้างในวัดละหารไร่เป็นเงินจำนวน๕๐๐บาทด้วยครับ เชิญร่วมอนุโมทนากันได้ครับ

 

สวัสดีเช้าวันใหม่ครับทุกๆท่าน...กระผมนำบุญจากวันวิสาขะบูชามาฝากกัลยาณมิตรทุกๆท่าน ณ ที่แห่งนี้ครับ..(^____^)

เมื่อเช้าตรู่วันวิสาขะบูชาได้เห็นแสงอาทิตย์แรกที่ขอบฟ้าหน้าวัดระฆังและศิริราช, ซึ่งเป็นคนแรกทีได้ไปรอทำบุญอยู่หน้าประตูวัดระฆังซึ่งยังไม่เปิด
พอ6โมงกว่าๆประตูได้เปิดออก...จากนั้นผมก็ได้เดินเข้าไปรอทางวัดเปิดประตูวิหารสมเด็จพุฒาจารย์โตอีกทีเพื่อรอเข้าไปกราบสมเด็จโตและสวดชินบัญชร...ในระหว่างรอนั้นก็เห็นแม่ชีในวัดจัดของเตรียมนู่น,เตรียมนี่กันใหญ่...และบุญกุศลแรกที่บังเกิดของเช้นี้ก็คือการได้ช่วยแม่ชีในวัดระฆังยกลังน้ำหลายกล่องและหอบช่อดอกบัวจากศาลาการเปรียญ2มายังอุโบสถวัดระฆังเพื่อเตรียมพร้อมกับการมาทำบุญของประชาชนในวันนี้...
เป็นการเสียเหงื่อที่ได้บุญและอิ่มใจแต่เช้าของวันวิสาขะบูชาสำหรับผมเลย...(^____^)

จากนั้นก็ได้ข้ามฟากไปตักบาตรบริเวณท่าพระจันทร์และวัดแห่งที่สองที่สามที่ผมไปทำบุญก็คือวัดใหม่อมตรสและวัดอินทรวิหาร(บางขุนพรหม)
และเส้นทางบุญสุดท้ายของวันนี้ด้วยเวลาที่จำกัดก็คือวัดชนะสงครามครับ...(^__^)

ร่วมอนุโมทนาสาธุการด้วยกันนะครับทุกๆท่าน ^^

 

ขอบุญกุศลอันยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ ส่งผลบุญให้คุณนอร์ ได้รับอานิสงฆ์ ตามใจปรารถนาทุกประการเทอญ สาธุ .......

 

ขอบพระคุณครับพี่เสือ.. (^__^)

 

สวัสดีสมาชิกที่น่ารักๆทุกๆท่านค่ะ
ต้องขออภัยด้วยนะคะ เมื่อวานไม่ได้มาลงบทความต่อเพราะไปเวียนเทียนที่่่่ต่างจังหวัดค่ะ ทำให้กลับมามืดแล้ว
จึงผิดคำพูดไม่ได้มาเขียนเล่าต่อนะคะ วันนี้ก็มีประชุมทั้งวันและบ่ายนี้ต้องไปติดต่อราชการที่โรงพัก(คดีเด็ดอีกต่างหาก) บ่ฮู้จะได้เขียนหรือเปล่า หากไม่ได้เขียนเล่าในวันสองวันนี้ วันพฤหัสที่ 8 พ.ค.55 นี้ จะเขียนเล่าแน่นอนก่ะ
แต่น้องนวลเจ้า
อันหยังที่ถามปี้ลับแลเรื่องการส่องบุคคลหรือส่องเทียนเนี่ย ปี้ลับแลบ่รู้จักเลยเน้อ
แต่ถ้าถามเรื่องส่องกล้องล่ะก้อ
ปี้ลับแลพอตอบได้บ้างก่ะจ้าว..........

 

หวัดดีครับ คุณลับแล มีเวลาก็มาเล่าต่อน่ะครับ

 

ความเดิมเมื่อครั้งก่อนโน้น(อ่านย้อนหลัง จากหน้า 353 เป็นต้นมานะคะ เพราะคนที่เพิ่งมาอ่านจะได้มีโอกาสรู้ว่า ความเสี่ยงในเรื่องลี้ลับมีจริง และจะเสี่ยงกรณีใดบ้าง เพื่อเป็นการระวังตัวได้เป็นอย่างดีนะคะ)
;aa27เมื่อลับแลเกิดทะเล้นไปเช่าตะกรุด มาจากสถานที่แห่งหนึ่งโดยเข้าว่าเป็นของพระภิกษุสงฆ์ชื่อดังท่านหนึ่งทางภาคเหนือ แล้วเกิดเรื่องแปลกประหลาดในห้องนอน กล่าวคือ ลับแลพบเจอวิญญาน(ไม่เห็นเป็นตัวตนแต่แสดงอิทธิฤทธิ์บางอย่างให้รู้ว่า พร้อมรับคำสั่งและด้วยจุดประสงค์บางอย่างของวิญญาน 7 ตนนั้น เพราะเป็นตะกรุด 7 ป่าช้า) ทำให้ลับแลต้องโทรไปหาตาหลวง(คำว่า "ตาหลวง" ลับแลเรียกตามชาวบ้านเพราะเข้าใจผิดว่าตาหลวงเป็นศักดิ์สิทธิ์นะคะ เเละตอนนั้นลับแล ก็เข้าใจผิดว่าตาหลวงเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ คือเข้าใจว่าเป็นวิญญานที่เป็นกึ่งเทพที่ต้องการสร้างบุญบารมี แต่จริงๆตาหลวงคือ วิญญานของคนที่เคยเล่นคุณไสย มนต์ดำมาก่อน และเมื่อตายลงกลายเป็นพวกอาถรรพณ์ค่ะ)
_Love+U_ ตาหลวงได้บอกแก่ลับแลว่าไม่ใช่ตะกรุดสายพุทธคุณแต่เป็นตะกรุดที่ทำจากขึ้เถ้า 7 ป่าช้า มีผีอยู่ถึง 7 ตน ว่าแล้วตาหลวงหักตะกรุดพร้อมพึมพำคาถาไปด้วย(ไม่ทราบคาถาอะไรนะคะ น่าจะจับผีไว้ใช้หรือนำไปปล่อยก็ไม่ทราบนะคะ?)
;aa45 การที่ครั้งแรกๆลับแลไปหาตาหลวงนั้นเพราะพาเพื่อนที่กำลังมีความทุกข์เรื่องครอบครัวไปขอคำปรึกษาค่ะ
;aa50 และเมื่อทุกคนไปที่ตาหลวงๆมักพูดเกี่ยวกับตะกรุดของเขาที่ทำไว้ให้เพื่อให้คนเช่า ได้เช่าไปใช้งานตามแต่กรณีไป ลับแลและเพื่อนจึงเช่าตะกรุดมาใส่คอไว้ตามความสนใจ แต่ด้วยความท่ีลับแลได้พบสัมผัสเรื่องวิญญาน จึงคิดในใจว่าต้องเช่ามาใส่เพิ่มเติมนอกเหนือจากพระเครื่องเพื่อความอุ่นใจ
(tm-love) แต่การณ์กลับหาได้เป็นเช่นนั้นไม่???

จากการที่ลับแลพาเพื่อนไป และมีการเช่าตะกรุดมาใส่สร้อยแขวนคอ (สื่ออาถรรพณ์ )ทำให้ตาหลวงรู้ว่าลับแลเป็นคนฝึกจิต เพราะมีพลังจากการนั่งสมาธิ
catt10 แม้นตาหลวงได้ช่วยกำจัดผีจากตะกรุด 7 ป่าช้าแล้วก็จริง แต่เมื่อกลับเข้าบ้านทีไร หรือแม้แต่จะไปนอนที่ใด ก็รู้สึกว่ายังมีวิญญานติดตามพยายามเข้าใกล้ตัวทุกคืน

เมื่อหลายครั้งหลายคืนเข้า ลับแลให้เกิดความสงกะสัยเป็นกำลังเหลือ จึงได้บึ่งรถไปตามตาหลวงว่า เพราะเหตุจะใด ตาหลวงได้ช่วยกำจัดผีจากตะกรุด 7 ป่าช้าแล้ว ทำไมลับแลยังได้ยินเสียงวิญญานที่พยายามเข้าใกล้ตัวอยู่ทุกคืน ซึ่งนับนานเกือบเดือนเลยทีเดียวที่พวกอาถรรพณ์ได้ใช้ความพยายามในการแทรกร่างของลับแล?
_Hi__ เมื่อถึงบ้านตาหลวง ลับแลจึงถามเขาว่า ตาหลวงตอบว่า "ทั้งตาหลวงและเพื่อนของตาหลวงตนหนึ่ง อยากได้ลับแลเป็นร่างทรง ตาหลวงจึงคอยติดตามไปที่บ้านลับแลบ่อยๆเกือบทุกๆคืน โดยไม่ให้ลับแลรู้ตัวเลย เพื่อที่จะทำการแทรกเข้าร่างเอาเป็นร่างทรง(ของพวกอาถรรพณ์)นั่นเอง ที่ลับแลรู้ก็เพียงรู้แต่ว่าการเคลื่อนไหวอะไรบางอย่างในบ้านมันแปลกไปจากเดิมนั่นเอง
;aa42 ในขณะนั้น ลับแลยังไม่ทราบเรื่องการถูกแทรก จนต้องระหกระเหิรไปนอนบ้านญาติๆ แต่อาถรรพณ์ตาหลวงก็ยังไม่วายติดตามลับแลไปทุกที่เช่นกัน
แต่ละครั้งลับแลต้องใช้ความพยายามในการทำสมาธิ (โดยกำหนดลมหายใจ เข้า-ออก อย่างต่อเนื่องตลอดสาย เพื่อให้จิตเป็นหนึ่ง จึงจะป้องกันตนเองได้ ซึ่งก็ได้ผลจริงๆ
_ sweet Home _จากคนที่รู้เพียงแค่ภาคทฤษฏี จากคนที่ไม่เคยนั่งสมาธิมาก่อน นอกจากการฝึกสติในขณะเคลื่อนไหวเท่านั้น แต่เมื่อถึงคราวคับขัน ภาคทฤษฏีที่เคยเรียนรู้มาก็ยังนำมาใช้ได้ในยามคับขันอย่างเหลือเชื่อเลยทีเดียว เพราะทุกครั้งที่ลับแลกำหนดสมาธิอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย อาถรรณ์ตาหลวงและพวกจะถอยไปทันที แต่จิตต้องเป็นหนึ่งจริงๆ )
((eek)ลับแลมาทราบจากพระสงฆ์ซึ่งเป็นครูบาอาจารย์ในภายหลังว่า"คนฝึกจิต" พวกอาถรรพณ์จะชอบมากเพราะมีพลังและ เขาต้องการความีพลังนั่นเอง)
เมื่อไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นในตอนกลางคืน ทั้งๆที่กำจัดตะกรุดไปแล้ว ลับแลจึงชวนเพื่อนไปพบตาหลวงเพื่อถามให้หายสงสัยในเหตุการณ์ประหลาดนั้นๆ
;k05 เมื่อไปถึงบ้านอาถรรพณ์ตาหลวง ลับแลจึงถามอาถรรพณ์ตาหลวงด้วยความเหลืออดเหลือทนว่า
"ตาหลวง ทำไมตาหลวงกำจัดตะกรุดผีให้หนูแล้ว แต่หนูยังได้ยินเสียงเดินประหลาดนั่นอยู่อีกล่ะคะ.......แปลกมากเลย?
ที่ลับแลสัมผัสได้ ก็เพราะการเคลื่อนไหวอะไรบางอย่างในบ้านมันแปลกไปจากเดิมนั่นเอง
ตาหลวงมีสีหน้าที่แสดงอาการเก้อๆพร้อมกับสีหน้าที่แสดงถึงความพะอืดพะอมอย่างแปลกประหลาดในสายตาของลับแล (ลับแลรู้สึกสะกิดใจเล็กน้อยแต่ก็แปลความหมายไม่ออกเลยจริงๆ)

:z6 เเต่เมื่ออาถรรณ์ตาหลวงถูกลับแลคะยั้นคะยอมากๆเข้า ตาหลวงก็พูดขึ้นว่า"เอ็ง นี่เก่งจริงๆนะ เป็นเเม่หมอได้เลย สวดเรียกผีได้ เสียงอะไรๆ เอ็งก็ได้ยินหมดเลย ข้าเองแหละที่ไปที่บ้านเอ็ง วันนี้เอ็งได้ยินเสียง วันหนึ่งเอ็งจะเห็นตัว(วิญญาน) ข้าจะไปปรากฏตัวให้เอ็งเห็นซักที เอ็งจะได้หายกลัวผี "
catt8ลับแลงงๆ พูดถามว่า "อ้าว แล้วตาหลวงไปทำไม???"(ตาหลวงเงียบ )
เมื่อถูกลับแลคาดคั้นหนักเข้า อาถรรพณ์ตาหลวงก็ตอบอย่างหน้าเจื่อนๆว่า "ทั้งตาหลวงและเพื่อนของตาหลวงตนหนึ่ง อยากได้ลับแลเป็นร่างทรง แต่อาถรรพณ์ตาหลวง กลับพูดโกหกให้ลับแลฟังว่า ตนเองนั้นเป็นเทพ และเพื่อนก็เป็นเทพอยากจะลงมาสร้างบุญบารมี แล้วก็อ้างชื่อเทพให้ฟังว่าชื่ออะไรบ้าง?
(tm-love)แต่ด้วยความที่ลับแลเป็นคนที่มีสัมผัสเรื่องลี้ลับอยู่แล้ว สามารถรับรู้ได้ว่า ที่สัมผัสอยู่ทุกคืนนั้นมันผิดปกติอย่างสิ้นเชิง ทุกคืนที่พวกอาถรรพณ์พยายามแทรกร่างจึงต้องทำสมาธิชนิดต่อเนื่องจนหลับผล็อยไปในที่สุด เพราะลับแลรู้ว่าการทำสมาธิขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นสิ่งเดียวเท่านั้นที่จะช่วยลับแลได้ในยามคับขัน

(ping)และก็เป็นจริง

 

พรุ่งนี้ถ้ามีเวลาว่างช่วงเที่ยงจะเขียนเล่าตอนถูกแทรกจากพวกอาถรรพณ์ให้ฟังนะคะ

 

จะรออ่านนะครับพี่ลับแล

 

ขอบคุณมากครับ ที่มาเล่าให้ฟัง จะรอฟังต่อน่ะครับ สิ่งเหล่านี้ต้องการคนที่จิตอ่อน เพื่อจะแทรกและใช้ร่างเราเป็นสื่อในสิ่งต่างๆที่เขาต้องการ จะเจอบ่อยๆครับ ต้องระวังครับ ที่สำคัญต้องมีของดีติดตัวอยู่ตลอด โดยเฉพาะพระสมเด็จ อย่าได้ขาด......... จะรอฟังเรื่องราวต่อคร้าบ..........

 

มารอฟังคุณลับแลด้วยคนครับ

 

<O.....:z17ตอน....อาถรรพณ์พยายามแทรกร่าง
</Oจากการที่ลับแลได้เช่าตะกรุดของตาหลวงมาแขวนคอเพื่อกันปีศาจจากวัตถุอาถรรพณ์อื่น(ตะกรุด 7 ป่าช้า) ซึ่งตะกรุดอาถรรพณ์ตาหลวง มันก็คือสื่อให้อาถรรพณ์ตาหลวง ทราบความเคลื่อนไหวของคนที่นำไปแขวนคอในเรื่องทุกสิ่งทุกอย่าง โดยเจ้าตัวจะไม่ทราบมาก่อนเลย ทุกคนที่ไปเช่าตะกรุดของเขา เมื่อกลับมาหาเขาใหม่ในวันถัดไป อาถรรพณ์ตาหลวง จะพูดทักพูดบอกได้หมดอย่างถูกต้องว่า เราไปไหนมาบ้าง? และเราพูดอะไรบ้างกับใคร? อาถรรพณ์ตาหลวงจะรู้เรื่องความเป็นไปของเราได้หมด <O></O>
;aa28มีอยู่วันหนึ่ง ลับแลนึกอยากพาคุณตาลไปที่บ้านอาถรรพณ์ตาหลวง อย่าลืมนะคะ คุณตาลเป็นคนลูกครึ่งไทย-มอญ พูดภาษามอญ พม่า ไทยได้ และเคยทำพิธีครอบครูในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวมอญแถวจังหวัดกาญจนบุรีมาแล้ว โดยการครอบครูปู่ตะนาวศรี (ปู่แห่งภูเขา) เขตที่เฮลิคอปเตอร์ทหารไทยไปตกถึง 3 ลำ เมื่อหลายเดือนก่อนนะคะ และครอบครูปู่ฤาษีตาไฟมาก่อน และครอบครูพระสงฆ์ที่มีชื่อเสียงดังของชาวมอญซึ่งเป็นศิษย์ของหลวงพ่ออุดตมะ(ตอนนั้นท่านยังไม่มรณภาพ) คุณตาลดูดวงชะตาไม่เคยถามวันเดือนปีเกิดเลย แต่ทายทักถูกต้องหมด คุณตาลเพียงแต่จับมือและทำสมาธิสักครู่เท่านั้น เรื่องราวต่างๆจะหลั่งไหลพรั่งพรูออกมาเองโดยอัตโนมัติ
คุณตาลเคยทำงานกับทหารที่ชายแดนตามตะเข็บชายแดนไทย-พม่าแถวจังหวัดกาญจนบุรีมาก่อน รวมถึงเขตจังหวัด 3 จังหวัดชายแดนใต้ด้วย นายทหารใหญ่ๆ หลายท่านรู้จักคุณตาลเป็นอย่างดี จนถึงวันนี้ ทั้งนายทหารและนายตำรวจยังมาหาและขอให้คุณตาลทำนายทายทัก (มีทั้งที่เสียชีวิตไปแล้วจากการทายของคุณตาล เป็นนายทหารที่เคยเป็นข่าวทางทีวีด้วย และมีทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่ )
dencee คุณตาล มีกุมารทองเลี้ยงอยู่ 2 ตน อีกตนหนึ่ง(ชื่อเจ้าไข่) เจอกับคุณตาลที่วัด และตามมาขออยู่กับคุณตาลเอง คุณตาลบอกว่า เป็นเพราะเจ้าไข่เป็นวิญญานเด็กที่มารดาของเขาทำแท้งแล้วเอามาทิ้งที่วัด แต่ไม่ได้ทำพิธีฌาปนกิจศพให้ ออจึงทำให้เจ้าไข่ไม่ได้ไปผุดไปเกิด แต่คอยวนเวียนเที่ยวเล่นอยู่ในวัดนั่นเอง
:z2จนวันหนึ่งคุณตาลไปที่วัดและคุณตาลสามารถสัมผัสกับสิ่งลี้ลับและสามารถสื่อสารกับวิญญาณได้ จึงได้สื่อสารกับเจ้าไข่และรู้ว่าเจ้าไข่ขอตามมาอยู่ด้วย จึงสงสารให้ติดตามมาอยู่ด้วยจนทุกวันนี้<O></O>
;k05แม้คุณตาลจะเป็น"ล่ามพม่า"ที่มาทำงานคอยเป็นสื่อกลางคุยกับคนไข้พม่าให้กับลับแลนานนับสิบปีเศษแล้วก็ตาม คุณตาลไม่เคยแสดงตัวตนให้ลับแลทราบมาก่อนเลยว่า คุณตาลเป็นคนที่สามารถดูดวงชะตาได้ (แต่ลับแลมาทราบทีหลังว่า ตอนที่คุณตาลทำงานอยู่ที่บ้านเกิดตามตะเขบชายแดนไทย-พม่า จังหวัดกาญจนบุรี มีคนจำนวนมากมายที่มาคอยรอดูดวงชะตากับคุณตาล ชนิดต้องรอคิวกันนานนับเดือนเลยทีเดียว
และที่จังหวัดสงขลานี้ คุณตาลก็ไม่เคยแสดงตัวหรือเปิดสำนักดูดวงที่ไหน แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่รู้ว่าเขาทำนายทายทักได้แม่นเหมือนจับกวาง ถึงขนาดบางคนที่มาดูดวงกับคุณตาล เอ่ยปากว่า "ตั้งแต่ผมดูดวงมา ยังไม่เคยเห็นใครดูดวงเเบบนี้เลย คือ ไม่ได้ถามวันเดือนปี แต่ดูรู้เรื่องราวความลับหมด" ลับแลเพิ่งมาทราบว่าคุณตาลดูดวงทายทักได้ เมื่อวันที่เราทั้ง 2 เหยี่ยบย่างไปที่บ้านอาถรรพณ์ตาหลวงนี่เอง <O></O>
colour__ และจากการที่ลับแลพาคุณตาลไปที่บ้านอาถรรพณ์ตาหลวง ร่างทรงของอาถรรพณ์ตาหลวงนั่งทานข้าวกับภรรยาอยู่ ลับแลและคุณตาลจึงขึ้นไปรอชั้นบน แต่เมื่ออาถรรพณ์ตาหลวงขึ้นมาที่ชั้น 2 (ห้องพิธีกรรมของเขา) คุณตาลถึงกับหน้าถอดสีด้วยความตระหนกตกใจและหันมากระซิบกับลับแลว่า “ที่ตาลเห็นเมื่อกี๊นี้ตอนอยู่ชั้นล่าง มันคนละคน คนละหน้ากันเลยนะ คนที่เห็นจะหนุ่มกว่าคนที่เป็นร่างทรงคนนี้นะ “<O></O>
wel lcome_pink เมื่อเจอคุณตาลครั้งแรก อาถรรพณ์ตาหลวงก็ทักคุณตาลว่า พาเด็กๆมาด้วยนะ(หมายถึงกุมารทองค่ะ) ลับแลสังเกตุได้ว่าอาถรรพณ์ตาหลวงมีท่าทีแปลกๆ พอคุณตาลและลับแลนั่งลงตรงหน้า อาถรรพณ์ตาหลวงก็ยื่นมือมาที่คุณตาล พร้อมกับพูดว่า “ดูหมอให้หน่อยสิ” ลับแลนึกในใจว่า ตาหลวงนี่แปลกๆ ทำไมยื่นมือมาให้คุณตาลดูดวง (เพราะไม่ทราบว่าคุณตาลเป็นคนดูดวงได้อย่างที่กล่าวมาแต่ต้นนะคะ ออกจากบ้านตาหลวงมาแล้ว คุณตาลก็ยังไม่ได้พูดหรือบอกอะไรแก่ลับแลเลย แต่คุณตาลบอก ลับแลว่า ตอนอาถรรพณ์ตาหลวงยื่นมือมาให้คุณตาลดู ลายมือนั้น ไม่ใช่ลายมือของคนที่เป็นร่างทรงให้อาถรรพณ์ตาหลวงแต่อย่างใด
:z17 เมื่อไปบ้านตาหลวงในสัปดาห์ต่อมา อาถรรพณ์ตาหลวงยังคงยื่นมือมาให้ คุณตาลดูดวงให้อีก และหันมาบอกลับแลว่า”เขาเป็นหมอดู” ลับแลไม่ได้นึกอะไร แต่คิดว่าอาถรรพณ์ตาหลวงพูดเล่นๆ<O></O>
<O</O
(tm-love) ที่ลับแลเล่าเกี่ยวกับคุณตาลมากหน่อย เพราะเขามีบทบาทในการให้ความช่วยเหลือลับแลมิให้ถูกแทรกร่างโดยอาถรรพณ์ค่ะ
fairy3 ติดตามตอนต่อไปนะคะ....ที่รักทุกๆท่านของลับแล
<O</O<O</O<O</O<O</O<O</O<O</O<O</O

 

black_pigน้องแกงส้ม.........จ้าว
น้องแกงส้มเป็นคนเมืองลับแล จ.อุตรดิตถ์ ใช่ก่ะจ้าว???
น้องแกงส้ม ถามปี้ลับแล มาหลังไมค์ว่าตะกรุด(7 ป่าช้า)ที่ปี้ลับแลเช่ามาว่าเป็นของครูบาอาจารย์ภาคเหนือเป็นของไผท? (ของเลียนแบบที่ถูกอ้างอิง )
(smile) เพราะตะกรุดของแต๊ๆนั้น เป็นของศักดิ์สิทธิ์ร้อยเปอร์เซ็นต์อยู่แล้ว
แต่ของแท้นั้น ปี้ลับแลฮู้ดี๋ว่ามันบ่มีแล้ว เพราะครูบาท่านมรณภาพไปนานเป็นหลายปีแล้ว
:z5คงมีแต่ของทำเลียนแบบเท่านั้นเองเน้อ
แต่น้องแกงส้มถามปี้ลับแลว่าเป็นวิญญานดีหรือไม่ ?
เขาก็เป็นวิญญานที่ถูกบังคับมาให้ทำงานด้วยคาถาอาคมของคนเล่นมนต์ดำ เมื่อเราเช่ามาเป็นสมบัติส่วนตัวเมื่อใด
(cry)ก็เท่ากับเรามีของอาถรรพณ์ในครอบครอง ซึ่งเท่ากับเรามีความเสี่ยงในการถูกครอบงำได้ หรือกลายเป็น"อาถรรพณ์"ได้เมื่อเราเสียชีวิตลงในวันใด
pig_balletเมื่อเราไม่มีร่าง เราจะกลายเป็นพวกอาถรรพณ์เต็มตัวนั่นเอง แต่ถ้ายังมีชีวิต เรามีสิทธิ์เสี่ยงต่อการถูกครอบงำค่ะ
;k06ทุกวงการทุกสังคม มีทั้งคนชั่วและคนดี ไม่เว้นแม้แต่วงการพระพุทธศาสนา ดังนั้น พระสงฆ์บางรูป ก่อนมาบวช บางรูปท่านเคยเล่นมนต์ดำมาก่อน พอบวชเป็นพระ ท่านยังคงใช้วิชามารในชีวิตเพศสมณะก็มีเยอะแยะไปค่ะ
;k02 การที่พระบางรูปที่เล่นมนต์ดำ เมื่อเขาเสียชีวิตลง พระรูปนั้นจะกลายเป็นพวกอาถรรพณ์เต็มตัวแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ทันที (เคยมีมาแล้ว) จากนั้น จะเข้าสิงในลูกศิษย์ลูกหาที่ให้ความเคารพนับถือเขา เพื่อถ่ายทอดความเป็นมารและเพื่อความอยู่รอดของเขาต่อไป ก็เหมือนอาถรรพณ์ตาหลวงนี่แหละค่ะ เพราะหากเขาไม่ได้ถ่ายทอดวิชามาร และรับของเซ่นไหว้ หากไม่ได้รับเครื่องเซ่นไหว้ เขาจะขาดพลัง ทำให้จิตวิญญานของเขาแตกสลายเร็วขึ้น จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่เขาต้องพยายามหาร่างทรงให้ได้
ถามว่าทำไมลูกศิษย์ลูกหาถึงถูกครอบงำ???
:z7 ก็เพราะจิตเขาเปิดรับแล้ว(ก็จากการที่จิตเขาให้ความเคารพนับถือในบุคคลผู้นั้นนั่นเอง เท่ากับจิตไม่ได้ต่อต้าน แต่จิตเปิดรับไงคะ และมีลูกศิษย์ลูกหาของพระสงฆ์บางรูป (บางทีพระสงฆ์รูปนั้นตอนท่านมีชีวิตอยู่ ท่านก็เป็นคนมีชื่อเสียงด้วยซ้ำไป เพราะท่านมีชื่อเสียงในการปลุกเสกของ เพียงแต่คนที่ไปเช่าของท่านมา เห็นท่านเป็นพระ จึงไม่ได้ฉุกใจคิดว่าพระบางรูปที่เล่นมนต์ดำก่อนมาบวชก็มีอยู่) และลูกศิษย์ที่ถูกวิญญานพระบางรูปที่เล่นมนต์ดำ เมื่อถูกครอบงำแล้ว ในกาลต่อมา จะมีอาการสติวิปลาส จนญาติๆที่รู้กิตติศัพท์ของพระอาจารย์ไข่ ต้องพาตัวมาให้พระอาจารย์ไข่ล้างอาถรรพณ์ให้ เคยมีเหตุการณ์แบบนี้มาแล้ว แต่ไม่เป็นข่าวเท่านั้นเอง เพราะคนที่จะรู้เรื่องแบบนี้มีน้อยมาก และหากไม่แก้ไข เขาจะต้องกลายเป็นคนบ้าสติวิปลาสไปตลอดกาลค่ะ

 

จะรอฟังต่อน่ะครับ ขอขอบคุณครับ.........

 

จัดให้ชมพระสักองค์ครับ สมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังสี กรุธาตุพนม ด้านหลังเป็นพญานาค สร้างในยุคสมัยรัชกาลที่ 4 ประมาณปี พ.ศ.2401 ลงรักชาดแดงปิดทองคำ ฝังพระธาตุหยดน้ำค้าง ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง พุทธานุภาพครอบจักรวาล อธิษฐานในทุกๆด้านตามปรารถนา จัดให้ชมกันครับ............

 

ลงให้ชมกันอีกองค์ ด้านหลังเป็นพระแก้วมรกต ที่หายากมากๆ และสุดๆครับ พระมีจำนวนจำกัด ไม่มีมากมาย สร้างเพื่อพระพุทธศาสนา แตกกรุออกมาเมื่อปี 2518 ได้ครอบครองมาประมาณ 4 ปีที่แล้วครับ จัดให้ชมครับ.........

 

จัดให้ชมอีกองค์ สมเด็จวัดระฆัง พิมพ์พระประธาน ยุคกลาง ภาพไม่ค่อยคมชัดน่ะครับ พระสมเด็จวัดระฆัง มี 3 ยุค มียุคแรก ยุคกลางและยุคสุดท้าย บรรดาเซียนที่เล่นซื้อ/ขาย จะมีแต่ยุคท้ายๆ และเล่นเป็นกลุ่ม คือเฉพาะกลุ่มตัวเอง เพื่อจะได้มีราคาทำการตลาด ที่จริงทุกยุคเป็นของดี เป็นพระที่สมเด็จโตฯ ได้ปลุกเสกด้วยพระคาถาชินบัญชร ทั้งสิ้น แต่คนมาตั้งกฏกติกากันเอง แต่ก็เป็นสิ่งที่ดีสำหรับคนทั่วไป จะได้มีของดีไว้ครอบครอง เพื่อเสริมบุญบารมีให้กับตัวเอง โดยไม่ต้องไปพึ่งเซียนให้เสียเงินทองครับผม พระสมเด็จสร้างกันตั้งแต่ปี 2401 - 2414 สมเด็จโตมรณะภาพ 22 มิ.ย.2415 พุทธานุภาพไม่ต้องพูดถึง ครอบคลุมทุกด้านครับ

 

จัดให้ชมองค์สวยๆอีกสักองค์ครับ พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์พระประธาน อยู่ในตลับน่ะครับ เห็นด้านเดียวครับ องค์นี้ก็อยู่ในยุคกลางๆครับผม

 

เพิ่มเติมให้อีกองค์ครับ เป็นพระสมเด็จวัดระฆังยุคต้นๆครับ ส่วนใหญ่จะหายากครับ เพราะพระยุคต้นๆ จะไปอยู่ตามบ้านคนมีอายุทั้งนั้นครับ ไม่มีออกมาดูหรือให้เห็นกัน เพราะเซียนเขาไม่รู้จัก และจะมองข้ามครับ จึงเป็นพระที่อยู่กับคนยุคเก่าๆ ที่สนใจพระสมเด็จมายาวนานเท่านั้นครับ จัดให้ชมครับ พอดีผมมีอยู่องค์เดียวด้วยครับ ปัจจุบันมอบให้พ่อไว้ใช้ครับ