นิทาน เรื่อง "พญานาค"

มิกกี้...พี่รั้ง...คะรุทา พากันกลับจากวัดหรือยังคะ...

รอนานแล้วนะ ฟังเทศน์ต่อเหรอ ฟังมาทุกปีก็เทศน์เรื่อง ประสูติ ตรัสรู้และปรินิพพาน เหมือนกันทุกปีนั่นแหละค่ะ

ที่พูดเนี่ย ไม่ใช่ไม่ให้ความสำคัญนะคะ แต่รู้แล้วให้นำมาปฏิบัติค่ะ ไม่ต้องไปนั่งเบียดเสียดยัดเยียดกันหรอกค่ะ ธรรมะอยู่ที่ใจ ถ้าใจเข้าไม่ถึงธรรม พูดกรอกหูยังไงก็ไม่มีผลค่ะ

 

ตอนนี้ยังบิ้วอารมณ์ไม่ขึ้นอ่ะ และไม่มีอะไรเล่าด้วยนิ

 

บิ้วได้เมื่อไหร่ก็เล่าแล้วกันนะ ให้เวลาจ้ะ เดี๋ยวกลับมาอ่าน
จะออกไปทำธุรกรรมนิดหน่อย ไม่เกิน 1 ชั่วโมง แล้วเจอกันนะจ๊ะ
เฝ้ากระทู้ไว้ในดีๆ ล่ะ ธิดาพญานาค เดี๋ยวใครมาลักไปยุ่งเลย

อ้อ...ลืมไป คืนนี้อย่าลืมสวดบท ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎกนะ

 

เอาะ..อ๋อ..ท่านปี้..น้องไปเริ่มงาน 06.00-12.00 น.ของทุกวันนะเจ้า..
บ่มีวันหยุด ยกเว้น สงกรานต์กับปี๋ใหม่ นะจ้า..
วัด น้องไม่ได้ไปหรอกค่ะ บาตรก็ไม่ได้ใส่..ยกเว้นที่น้องสลับเวลาได้หละค่ะ..
แต่บ่อยก็ไม่ดีเกรงใจเขา น้องทำได้ดีที่สุดแค่ สวดมนต์ไหว้พระ นั่งสมาธิตอนเช้า กับก่อนนอนทุกวันอ๊ะ จ้า..พอได้มะ ...อิอิ
อ้อ...แต่น้องบ่ลืม พุทโธ นะเจ้า..

 

หวัดดีจ้ะ นกน้อยคะุรุทาผู้น่ารัก

มีเรื่องราวความฝันมาเล่าให้อ่านบ้างมั้ยหนอ เราฝันพอตื่นมาก็ลืมเพราะคิดถึงเรื่องงานวันนี้ ลืมหมดเลยอ่ะ ตะเองเล่าให้ฟังหน่อยจิ เมื่อคืนไปเที่ยวที่ไหนมา้บ้าง เราก็ไปแต่จำรายละเอียดมะได้เลย ตามที่บอกไปนั่นแหละ ยังไม่ได้ทำเงินเดือนให้ลูกน้องเลยอ่ะ วันนี้โดนลูกน้องรุมแน่ๆ เล้ยยย

 

ทำไมช่วงนี้เค้าฝันเห็นแต่คนตายอ่ะ...ยังไม่ถึงงานบุญเดือนสิบสักหน่อย

 

กลับมาแล้วค่ะเพื่อนๆ ไม่เห็นมีนิทานรอคนกลับมาอ่านเลย
ซึ้งในรสพระธรรมกันหมดแล้วเหรอคะ
มิกกี้ เราเว้นวรรคให้ตั้งหลายชั่วโมงแล้ว
ทำไมยังบิ้วไม่ขึ้นอีกหละ ถ้าไม่เล่าคืนนี้ไม่พาไปเที่ยวด้วยยย

 

เฮ้อ!!!! ตกลงเราต้องเป็นคนหาเรื่องมาให้อ่านกันอีกแล้วเหรอเนี่ย
ให้รางวัลกันบ้างนะคะ เพื่อนๆ สมาชิก
ขอกำลังใจแค่นิทานวันละเรื่องยาวๆ ก็พอค่ะ

 

สัทธรรมปุณฑริกสูตร อวโลกิเตศวร โพธิสัตว์สมันตมุขปริวรรค 妙法蓮華經 觀世音菩薩普門品

ในสมัยหนึ่ง พระอักษยมติโพธิสัตว์ ได้ลุกขึ้นจากอาสนะที่ประทับ แล้วลดผ้าเฉวียงบ่าขวา
ประคองหัตถ์ถวายอัญชุลีแด่สมเด็จพระผู้มีพระภาค แล้วทูลถามต่อพระพุทธองค์ว่า

ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เจริญ พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์นั้น ประกอบด้วยเหตุปัจจัยประการใดฤๅ ถึงได้รับสมญานามว่า อวโลกิเตศวร(ผู้เพ่งมองโดยอิสระ) พระเจ้าข้า

พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงทรงมีพุทธฎีกาแก่ พระอักษยมติโพธิสัตว์ว่า ดูก่อน กุลบุตร หากแม้นมีสรรพสัตว์ที่นับจำนวนด้วยร้อย พัน หมื่น โกฏิอันมีจำนวนมายมายมิอาจประมาณ ได้เสวยทุกข์ทรมานนานา หากผู้นั้นได้สดับยลยินถึงนามของพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ แล้วบังเกิดเอกจิตตั้งมั่นสรรเสริญในนามนั้น เมื่อนั้นพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ก็จักพิจารณาสอดส่องในศัพท์สำเนียงนั้นใน ทันที ยังให้ได้หลุดพ้นจากความทุกข์ประการทั้งปวง

หากมีผู้ที่ถือปฏิบัติในนามของพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ ได้เข้าสู่มหาอัคคีเพลิง อันกองเพลิงที่ร้อนแรงนั้นย่อมมิอาจเผาพลาญได้ ทั้งนี้แลเหตุเพราะพลานุภาพแห่งโพธิสัตว์เจ้าพระองค์นั้น หากถูกกระแสธารของมหาอุทกพัดพาไป แล้วหากได้สรรเสริญในนามนั้น(พระอวโลกิเตศวร) แล้วไซร้ ก็ย่อมจักบรรลุถึงผืนแผ่นดินที่ตื้นเขินทันที หากมีสรรพสัตว์จำนวนร้อย พัน หมื่น โกฏิด้วยปรารถนาในสุวรรณ รัชตะ(เงิน) ไวฑูรย์ บุษราคัม ทับทิม ปะการัง แก้วผลึก ไข่มุกแลรัตนมณีเลอค่าทั้งปวง จึงเข้าสู่ห้วงมหาสมุทรสาครสมมติว่าได้ถูกกาฬวายุร้ายพัดพานาวานั้น ไปสู่ดินแดนของยักษ์แลรากษส

ในบรรดาบุคคลเหล่านั้นหากมีแม้นเพียงผู้เดียวที่สรรเสริญสดุดีในนามของพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์แล้วไซร้ อันบุคคลทั้งหลายนั้นย่อมจักรอดพ้นจากภยันตรายของยักษาได้ด้วยอาศัยเหตุ ปัจจัยเช่นนี้แล จึงมีนามว่า “อวโลกิเตศวร”

 

สัทธรรมปุณฑริกสูตร (โดยรองศาสตราจารย์พรเพ็ญ ฮั่นตระกูล)
เป็นพระสูตรสุดท้ายที่ทรงประทานไว้ก่อนเสด็จดับขันธปรินิพพาน

..พระ พุทธองค์ทรงเห็นว่าสำหรับมนุษย์แล้วปัญญามีความสำคัญที่สุด เพราะปัญญาจะทำให้คนไร้ทุุกข์กังวล มีความแจ่มใสเต็มไปด้วยความสุข ถึงเกิดมาหน้าตาไม่ดี แต่ปัญญาจะทำให้คนๆ นั้นดูดี ปัญญาจะทำให้คนละจากกิเลสได้ ปัญญาเพิ่มปัญญาจนที่สุด ทำให้คนสามารถเข้าสู่สภาวะโพธิสัตว์ได้และด้วยบุญ กุศลอันเนื่องจากการสะสมปัญญา เขาจะรอดพ้นจากอันตรายทั้งปวง

​

ผู้คิดร้ายจะได้รับผลร้ายเอง เพราะโพธิสัตว์ย่อมยอมรับทุกสิ่งทุกอย่างได้ ด้วยจิตใจที่เต็มไปด้วยความ เมตตาและให้อภัย จึงมิได้รู้สึกว่าถูกทำร้าย ส่วนผู้คิดร้ายต่อผู้อื่นและมุ่งแต่การทำลาย จิตใจเขาจะไม่มีความสุข หากเขาสมหวัง ซึ่งเขาจะดีใจ แต่หารู้ไม่ว่าได้ทำบาป และถ้าเขาผิดหวัง จิตใจเขายิ่งต้องทนทุกข์ทรมาน แต่ผู้บรรลุโพธิธรรมเขาจะไปไหน อยู่ที่ไหน ทำอะไร ก็จะมีความสุขทุกเมื่อ ชีวิตเต็มไปด้วยแสงสว่างแห่งปัญญา ยากที่จะตกต่ำ ตกอับ หม่นหมอง หรือมองไม่เห็นทางใดๆ...

​

เขาเผยแผ่รัศมีศรีปัญญา ดุจดั่งดวงสุริยันตะวันฉาย​

เมื่อพระพุทธองค์ทรงประกาศสัทธรรม ปุณฑริกสูตรแก่สาวก และสาวกผู้ได้นำไปอ่านแล้ว จึงได้รับบุญกุศลดังปรากฏในคำประพันธ์ตอนหนึ่งของสูตร

ความว่า :ผู้ซึ่งอ่านสูตรนี้ จักหลุดสุดสิ้นความกังวล ไม่เจ็บปวดรวดร้าว ไร้โรคาทั้งหน้าตาจักสดใสกระจ่างขาว ไม่เกิดมาลำบากแสนยากจน ไม่ต่ำต้อยน้อยหน้าอัปลักษณ์ สรรพสัตว์พานพบจักปรีดา เฉกเช่นองค์โพธิสัตว์ที่ปราถนาเทพยตาสุราลัย จักเรียงรอเป็นข้าผู้รับใช้ ดาบกระบองไม่อาจสัมผัสกาย ยาพิษร้ายไม่เป็นภัยทำลายล้าง หากมีคนบาปสาปแช่งเขา ปากคนนั้นจักปิดสนิทลง เขารอนจรไปได้ทุกแห่งดุจดั่งพญาสิงห์ไม่กริ่งเกรง เขาแผ่เผยรัศมีศรีปัญญาดุจดั่งดวงสุริยันตะวันฉาย

 

ไม่ว่าจะยุคใด ทองแท้ ก็ยังคงเป็นทอง ไม่แปรเปลี่ยน
คนดีแท้ ไม่ว่าจะอยู่ไหน ก็ยังเป็นคนดีอยู่นั่นเอง

 

ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 11 คน ( เป็นสมาชิก 3 คน และ บุคคลทั่วไป 8 คน )

รายงานสถานการณ์ปัจจุบันค่ะ ยังไม่กลับมาจากวัดกันเหรอคะ
อยากอ่านนิทานวันพระค่ะ

 

อ่า...มีคนมาเล่านิทานแระ คุณsaekue20
เล่าเลยค่ะ รออ่านหนอ นิทาน...ความฝัน...วัฒนธรรมประเพณีชนเผ่า
วันนี้คงมีเราสองคน คุยกันกระหนุงกระหนิง งุ้งงิ้งๆๆๆ นะคะ

 

มาแอบอ่านเงียบๆๆ จะไม่เปิดเผยตัวตน..

 

มาเอาเปรียบกันได้ไงเนี่ย เห็นเราเป็นอะไร พี่วันนี้ไม่มีจะให้...เจ้าวันไหนที่จะให้พี่

 

สวัสดีวันพระทุกๆ ท่านคะ หลังจากที่ไปวัดเพิ่งกลับมาก็มารอติดตามอ่านนิทานคะ

 

สวัสดีค่ะพี่ๆ

 

ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 15 คน ( เป็นสมาชิก 8 คน และ บุคคลทั่วไป 7 คน )
nouk, แสงสุริยา, A-ya, mukmik, คะรุทา, saekue20
แล้วอีก 2 คนไปไหนเนี่ย (ระบบแย่จริงๆ)

ถ้าไม่เล่า เราจะแงๆ ด้วยนะ เราจะงอนไม่ไปเที่ยวด้วย เราจะงอนไม่รับรู้เรื่องราว เราจะ....

 

ขอเล่าความฝันละกันนะคะ ไม่เกี่ยวกับพญานาคเลยคะ ช่วงนี้ไม่รู้เป็นไง เราฝันเห็นแต่พระสงฆ์คะ ยังคิดอยู่ว่าฝันเห็นบ่อยขนาดนี้จิตเราปรุงแต่งไปเองรึเปล่า

คืนวันเสาร์ ฝันเห็น พระพุทธเจ้าท่านแสดงเทศนาธรรม มีพระสงฆ์นั่งล้อม อยู่ 300 กว่าองค์ แต่ว่า ทั้งพระพุทธเจ้าและพระสงฆ์ ต่างมีกายสว่างสีขาวมุก สว่างแบบมองไม่เห็นสีจีวรเลยคะ ตื่นขึ้นมาก็จำไม่ได้ว่าท่านเทศว่าอะไร

คืนวันอาทิตย์ ฝันเห็นพระสงฆ์ มรณภาพ ในฝันเราเสียใจร้องไห้หนักมาก ตื่นขึ้นมาตัวชาและวูบทั้งตัว ได้เสียงเหมือนพระสวดและรู้สึกเหมือนมีคนอยู่ในห้องนอนอีกละ แต่เราก็ไม่ได้สนใจไม่ทันได้มองดูเวลาด้วยว่ากี่โมงละ ก็นอนต่อคะ

เราเล่าให้เพื่อนฟัง เพื่อนบอกว่าเราใกล้บ้าละเพ้อเจ้อขั้นหนัก ว่าไปนั่น

ลืมบอกไปว่าช่วงนี้ เปิดบทสวด พระคาถาธารณปริตร ของท่านคุรุวาโร ที่เคยแนะนำ ฟังทุกวันหลายๆรอบ สวดไม่เป็นคะแต่ชอบฟังบทแปล จะเกี่ยวกันมั้ยน้อ????

 

:z4 ขอเป็นผู้อ่านดีกว่านะค่ะ