การเตรียมตัว เตรียมใจ ไปสู่ยุคภัยพิบัติ

ทำไมต้องรอฟ้าดับกันด้วยละครับ มันเป็นอนิจจัง แต่สิ่งที่ทำได้คือเตรียมตัว เตรียมจิต เตรียมใจ ไว้ให้พร้อมเสมอจะได้ไม่มาเสียดายทีหลังว่าไม่ได้ทำอะไรเลย จะเตรียมอะไรก็แล้วแต่ มันจะสู้เตรียมจิตเตรียมใจไม่ได้
หากเราเตรียมจิตใจได้แล้ว สติจะมาเองว่าเราควรทำอะไรก่อน อะไรหลัง สิ่งไหนควรรู้ ไม่ควรรู้ สิ่งไหนควรคิด ไม่ควรคิด อยากบอกทุกคนว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นครั้งนี้จัดหนักจริงๆ จงเตรียมจิต เตรียมใจ ไว้นะครับ...

 

อย่าลืม พกเกลือ ด่างทับทิมด้วยนะ เวลาเกิดขึ้นมาจริงๆ 2อย่างนี้จำเป็นต้องใช้
เกลือไว้รักษา ฯลฯ
ด่างทับทิม ทำความสะอาด รักษาแผลฯลฯ ฮาๆเผื่อบางคนลืมนึกถึง

เพราะถึงเวลานั้น เกลือไม่สามารถทำได้เพราะน้ำมีพิษ

 

สรุปก็คือยังม่ายเกิด

 

จะเกิดได้ไง

คนตั้งเรื่องเผ่นไปไกลแล้ว สงสัยงานนี้ไม่กลับมาให้เห็นอีกนาน


หึ หึ

ก็แถไปเรื่อยๆ เดี๋ยววันไหนพายุเข้า น้ำท่วมก็จะออกมาเอง ."นี่ไงๆ อย่างที่บอก"


ศานาลึกล้ำกว่าวิทยาศาสตร์ อันนี้ไม่เถียง แต่ไอ้ที่พวกๆคุณใช้ทุกวันนี้ก็วิทยาศาสตร์ล้วนๆ

แม้กระทั่งมานั่งปั้นน้ำในบอร์ด ก็พึ่งพาวิทยาศาสตร์ หรือว่าไม่จริง?????


ช่างหยั่งรู้เสียนี่กระไร

 

ผมมองว่าถ้าตัวเราถือศีล 5 อย่างบริสุทธิ์ ปฏิบัติแผ่เมตตาอยู่เนื่องนิจ ถึงแม้จะเกิดภัยพิบัติ ทวยเทพก็จะมาดลจิตดลใจช่วยเหลือเองครับ ส่วนคนที่ไม่เคยคิดแม้แต่จะถือศีล 5 ปฏิบัติธรรมก็ไม่เอา จะอยู่ที่ปลอดภัยที่ไหนใครเล่าจะมาช่วยเจ้า ความดีอันเป็นกุศลเจ้ายังไม่คิดจะทำ แน่ใจแล้วหรือว่าเจ้าจะพึ่งพาคนอื่นได้ ในเมื่อบารมีพวกเจ้านั้นยังไม่เพียงพอ ใครก็ช่วยพวกเจ้าไม่ได้ ข้าลงมาเตือนแล้วน่ะ

 

แง่ทางวิทยาศาสตร์ สาเหตุนึงก็ภาวะโลกร้อนเป็นหลัก ก๊าซมีเทน ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ก๊าซคาร์บอนมอนออกไซด์ หรือสิ่งต่างๆ ทั้งความร้อนต่างๆที่มนุษย์สร้างขึ้น เป็นตัวการทำลายสิ่งแวดล้อม มนุษย์ทำลายกันเองทั้งนั้่น โลกก็เสมือนเป็นบ้านหลังใหญ่ให้มนุษย์ได้อยู่อาศัยด้วยกัน เมื่อมันไม่สบายก็ย่อมมีอะไรผิดปกติให้เราได้เห็นเป็นรูปธรรมชัดเจน และเห็นได้ชัดว่า บางภัยที่เราไม่ได้เห็นบ่อย ก็ยิ่งปรากฎชัดเจนยิ่งขึ้น ธรรมชาติก็ต้องการสมดุลกลับคืนมาเช่นกัน จึงแสดงออกมาในรูปภัยพิบัติต่างๆกันตลอดมา ไม่แ่น่อาจถึงกาลเวลาีที่
ธรรมชาิติเอาคืนอย่างหนักให้กับเรา มันอาจใกล้มาถึงแล้วก็ได้

แง่ทางความคิดศาสนา การกระทำของมนุษย์เราก็เป็นกรรม กรรมที่กระทำกันเอง เช่น เข่นฆ่ากัน สงครามรูปแบบต่างๆ กรรมไม่ดีที่เรากระทำต่อธรรมชาติและคนด้วยกัน พลังงานดำที่มีในจิตใจ จิตใต้สำนึกมากขึ้น แผ่ออกไป สิ่งเหล่านั้นเอง เป็นเวรกรรมที่ยุ่อมเป็นไปตามกฎแห่งกรรม คนทำผิดย่อมต้องรับกรรม
จากธรรมชาติ ซึ่งธรรมชาติก็ต้องการสมดุล เหตุผลไปทางเดียวกับวิทยาศาสตร์

อาจมีบางคน ณ ที่นี้ เชื่อในสิ่งที่เห็น สิ่งที่มองไม่เห็น พิสูจน์ด้วยวิทยาศาสาตร์ไม่ได้ ก็ไม่อยากเข้าใจ อย่าลืมว่าเราเองอยู่ในมิติที่เราดำรงอยู่ ในจักรวาลมีมากมายหลายร้อยมิติ มีสิ่งที่เราไม่สามารถสัมผัสได้ด้วย senseและกายเนื้อของเราเอง อยู่มิติอื่น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าสิ่งเหล่านั้นไม่มีอยู่จริง คนที่มีปัญญาย่อมเข้าใจ รับฟัง คิดตามในแง่มุมต่างๆมากขึ้น พลังงานไม่ได้สูญ แต่อาจย้ายจากที่นึงไปอีกที่นึง ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่เจอเรื่องวิญญาณ หรือเจอเรื่องลี้ลับต่างๆที่วิทยาศาสตร์พิสูจน์ไปไม่ถึง คุณคงเปลี่ยนความคิดที่เข้าใจได้ดียิ่งขึ้น ลองไตร่ตรองผสมสานในแง่พุทธศาสนา ศีล สมาธิ ปัญญา

ทำไมคุณถึงไม่ิคิดล่ะว่า อาณาจักรแอตแลนติส ถึงจมใต้ทะเลทั้งๆที่วิทยาศาสตร์ก้าวหน้าและล้ำลึกกว่ายุคปัจจุบันซะอีก ก็เพราะว่าวิทยาศาสตร์ที่เรายึดถือนั้นไม่เพียงพอจะช่วยให้รอดพ้นจากภัยพิบัิตินั้นได้ไงหล่ะครับ
"เราอยู่ใต้ฟ้า ยังไงก็ตามเราย่อมโดนฝน"

พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ มากมาย แต่ละพระองค์ล้วนแต่สำเร็จในธรรม ตรัสรู้โดยชอบได้ด้วยพระองค์เอง พระองค์ย่อมเป็นผู้ที่เห็นในสิ่งที่มนุษย์ธรรมดามิอาจเห็น รู้แจ้งในสิ่งที่มนุษย์ธรรมดาอย่างพวกเรามิอาจรู้ได้ ท่านทรงเป็นบุคคลที่มีความสามารถพิเศษ เด็กบางคนไอคิวสมอง อัจฉริยะ เก่งกว่าเด็กธรรมดาทั่วไป และเผลอๆอาจเก่งและดีกว่า เก่งกว่าผู้ใหญ่บางคนเสียอีก
ทำไมถึงได้แตกต่างกันได้อีกล่ะครับ? ทั้งๆที่เป็นมนุษย์เช่นเดียวกัน มีครบ 32 เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม การที่ท่านทรงเตือนสิ่งใดมา เราก็เรียนรู้กระทู้นี้อย่างมีสติกันทุกคน ถ้ามนุษย์เรามีศีลธรรม ไม่ก่อกรรม ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม รักษ์โลก ถนอมโลกตลอดเวลา ภัยใหญ่ๆที่เกิดขึ้น คงไม่รุนแรงก็ได้

ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ เหมือนนักวิทยาศาสตร์ทีี่่มีแต่ทฤษฎี แต่ขาดซึ่งความคิดดีในใจ ก็ขออภัย ณ ที่นี้ด้วยครับ
หากบางคนไม่ชอบไม่ถูกใจในเนื้อหา ก็ควรปล่อยวางหรือปล่อยกระทู้นี้จะดีมั้ยขอรับ

ขอบคุณครับ

 

สาธุกับข้อความของคุณ Sonk ค่ะ และขอเพิ่มเติมว่า มีคนเตือนดีกว่าไม่มี เสียงเตือนช่วยให้ได้สติ ยั้งคิดก่อนจะผิดพลาดก็ได้(kiss)

 

ข้อความที่จะให้กดอนุโมทนาหายไปไหนคะ ....

งั้นดิฉันกด LIKE ให้คุณ SONK 100 ครั้งแทนละกัน

 

ในแง่เตือนของกระทู้นี้ ถ้าเปรียบเทียบแบบเห็นภาพ เช่น
โลกที่เราอยู่เหมือนเราอยู่บนเรือในมหาสมุทร
การเกิดเหตุร้ายใดๆในโลกนี้เกิดได้ตลอดเวลาเหมือน
การเดินทางทะเลอาจมีพายุ คลื่นยักษ์ เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
การเตือนนี้ให้ระวังตัวคราวนี้เหมือนเดินเรือให้ระวังลม คลื่นแรง พายุ
ซึ่งจะมาเมื่อไหร่บอกตายตัวไม่ได้ อาจมีอุกาฟ้าเหลืองให้พอตั้งตัว หรือลมพายุฉับพลันทันใดก็ได้
สามารถเกิดได้ทั้งสิ้น ไม่มีเวลาเจาะจงได้ แต่จะเกิดขึ้นไหม เกิดแน่นอนถ้าอาศัยอยู่ในมหาสมุทร
อย่าประมาทนะ อาจพลัดตกทะเลได้ถ้าเผลอไม่เกาะไว้หรือทรงตัวไม่ดียามพายุหรือคลื่นพัดกระหน่ำ
เช่นเราขณะนี้ อยู่บนโลก พื้นโลกย่อมมีการเปลี่ยนแปลงขยับตัว เคลื่อนตัวเหมือนท้องสมุทร
คาดคะเนภัยล่วงหน้าไม่ค่อยได้ ถึงแม้จะมีเรด้าร์พิเศษ(ตาที่สาม,ญาน) ก็ระบุตายตัวเลยไม่ได้.
แต่มันคงเกิดแน่ถ้าเรือนั้นยังอยู่ในทะเล และเข้าสู่ช่วงมหาสมุทรกำลังเริ่มปั่นป่วน
หากเราเตือนลูกเรือ ให้ระวังภัยที่จะเกิดขึ้นข้างหน้านี้ แล้วเขาไม่เชื่อ
ไม่เกาะเรือ ไม่หาชูชีพไว้(ความดี) ไม่วางแผนใดๆเลย
ถ้ามีพายุมาแล้ว เขาพลัดตกเรือไป ในมหาสมุทรอันบ้าคลั่ง
เมื่อนั้นเขาจะนึกถึงคำเตือนของเราเอง
เราเองก็คงต้องหาชูชีพที่ดีๆ ติดตัวไว้สักชุดเผื่อยามมีพายุกระหนำ่มาแบบไม่ทันตั้งตัว
เมื่อถึงคราวเราคงต้องช่วยตัวเองก่อนให้พ้น จึงจักช่วยฉุดคนอื่นได้
ถึงตอนนี้. คุณพร้อมจะเดินเรือฝ่าพายุหรือยังคะ
ตัวคุณพร้อม ใจพร้อม ชูชีพพร้อม โอเคค่ะ ออกเดินทางได้ เย้!55555
(ไม่เปรียบเป็นเรือแตกแบบพระมหาชนกนะคะ น่ากลัวไปค่ะ)

 

ขอบคุณอย่างมากเลยครับ สำหรับท่านที่เข้าใจ อนุโมทนามา
ผมก็จะหมั่น สวดมนต์ อธิษฐานจิตใหุ้ทุกท่านที่มีปัญญา
มีสติใฝ่ดีในธรรม มีความสามารถในตน เจริญๆ แคล้วคลาด ปลอดภัย ด้วยกันหมด
ขอพรพระรัตนตรัย โปรดดลบันดาลให้เป็นผลเถิด
สาธุ สาธุ สาธุ _/\_ (f)

 

อย่าสร้างกรรมให้กับตนเองกันเลยค่ะ การตำหนิผู้อื่นทั้งถูกหรือผิดก็ไม่ดีทั้งสิ้น ยิ่งหากผลาดพลั้งไปติคนที่ มีศีลมีธรรมด้วยแล้ว เพราะเราก็ไม่อาจรู้ได้ว่าผู้ใด ธรรมเยอะธรรมน้อย เพื่อเป็นการไม่ประมาท มานั่งดูจิตดูใจตัวเองกันดีกว่าเนอะ

 

ท่าน Aunyasit หายไปเลย ท่านคงงงๆอยู่ว่าทำไมมันไม่เกิดตามวันเวลาที่ระบุไว้
จะว่าไปเรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมดา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ ดช.ปลาบู่ พระภิกษุกัมมัฏฐาน อ.ปริญญา และอีกมากมาย ก็ไม่เกิดตามทำนาย แต่ที่เกิดมักไม่มีใครทำนาย เช่นสึนามิ47 แทบจะไม่มีใครมาทำนายเลย แต่เท่าที่สังเกตุคนทำนายทั่วไปมักจะไม่ระบุวันเวลากัน
เพราะเรื่องวันเวลามันเปลี่ยนแปลงได้มาก เรื่องนี้อาจเป็นแผนการณ์เบื้องบนเพื่อทดสอบอะไรหรือเปล่า น่าคิดกว่า แต่อย่างไรก็ตาม คนเราอาจจะตายวันไหนก็ได้ไม่จำเป็นต้องเกิดภัยพิบัติ ฉะนั้นเพื่อให้เกิดผลดี ก็รักษา กาย วาจา ใจให้บริสุทธิ คือการเตรียมตัวที่ดีที่สุด

 

ใช่คับ แต่คิดก็ผิดแล้ว นานๆจะเจอคนที่ความคิดเห็นแบบดีๆนะคับ บางคนก็วางอุเบกขา เรื่องนี้ ไปสนใจเรื่องอื่นมากกว่าภัยพิบัติ

 

ภัยไม่เกิด เป็นบทพิสูจน์จากเบื้องบนอีกแล้วหรอ


22 แล้วสรุปจะเกิดหรือเปล่าครับ จะได้ตัดไม้ไผ่มาทำแพ




ปล.พกไฟฉายออกจากบ้านทุกวันเลยอ่ะ กลัวฟ้าดับ

 

พกไฟฉายหลายวันถ่านอาจจะหมดได้ ควรใช้แบบไม่ต้องใช้ถ่าน เช่น แบบบีบ ที่ร้าน Daiso 60 บาท

 

โมทนาบุญกับทุกๆท่านที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบครับ
สาธุ สาธุ สาธุ

 

ไม่ทราบมีใคร ได้ไปร่วมงานเมื่อวันที่ 20 พ.ค. ที่ พุทธสถาน แล้วมีข่าว update บ้างหรือเปล่าครับ รบกวนเล่าสู่กันฟัง ด้วยครับ

 

ลองหาตามร้านที่ติดป้าย ทุกอย่าง 20 บาท ทุกอย่าง19บาท จะเจอครับ
ผมซื้อมาใช้ก็โอเค บีบๆออกกำลังกายแขนกำลังมือไปในตัว ไม่บีบก็ได้
มีแหล่งสะสมพลังงานอยู่นิดหน่อย

 

อยากจะบอกว่า พกไฟฉาย มาทำงานทุกวันเหมือนกันเลยคะ - -!
กลัวฟ้าดับ แล้วกลับบ้านไม่ได้ นึกว่าคิดไปคนเดียวนะนี่

 

ติ๊กก็พกเหมือนกันค่ะ ถือเป็นอุปกรณ์สำคัญยามฉุกเฉิน เก็บไว้ในที่หยิบง่ายใกล้มือ ไม่เฉพาะเจาะจงต้องใช้ประโยชน์ในเรื่องภัยพิบัติเท่านั้น เวลาไฟดับก็มีประโยชน์มาก

แม้จะเป็นผู้หญิง ไฟฉายเล็ก ๆ ประมาณ 3 นิ้ว ไฟแช็ก นกหวีด พกอยู่ในกระเป๋าเป็นประจำค่ะ
บางทีเพื่อนถาม สูบบุหรี่เหรอเห็นพกไฟแช็ก ตอบว่าเปล่า ที่พกไว้ส่วนมากจะใช้จุดธูปกับเทียน (ปฏิบัติธรรมในถ้ำบ่อย เลยติดเป็นนิสัยเพราะต้องใช้ประจำ)