ผีฟ้า-ผู้เมตตา

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย tang_go, 14 พฤษภาคม 2012.

  1. tang_go

    tang_go Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2009
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +77
    คำว่า "ผีฟ้า" ทุกคนคงจะคุ้นหูกันดี ซึ่งผีฟ้าที่ทุกคนคุ้นหูนั้นคิดว่าเป็นสิ่งที่น่าสยองชวนขนหัวลุก มักจะมากับคำว่า "ปอบผีฟ้า" ...แต่แท้ที่จริงแล้วผีฟ้าคือผู้ช่วยเหลือคนต่างหาก เป็นผู้มีจิตใจเมตตาและเคร่งครัดในการรักษาศีลห้า เมื่อมีผู้คนเจ็บไข้ได้ป่่วยโดยหมอก็ไม่ทราบสาเหตุ ก็เป็นหน้าที่ของผีฟ้าที่ต้องรักษาคนป่วย ส่วนจะหายหรือไม่หายนั้นขึ้นอยู่กับกรรมและเจ้ากรรมนายเวรของผู้ป่วยแต่ละคน
    พิธีกรรมการรักษาผู้ป่วยของผีฟ้านั้นเรียกว่า"พิธีเหยา" ดังนั้นผีฟ้าจึงมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า"หมอเหยา" ใครสนใจสามารถศึกษาได้จากบทความต่อไปนี้ได้เลยครับ เพื่อให้หายความสงสัย...

    ต้นกำเนิดของผีฟ้ามาจากเผ่า...ภูไท
    ถึงแม้ว่าชาวภูไทจะนับถือศาสนามาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ก็ตาม แต่ก็ยังมีการนับถือผีควบคู่กันมา ซึ่งได้แก่ ผีเชื้อ ผีฟ้าผีแถน ผีปู่ย่า ตายาย เช่นเวลาเจ็บป่วยก็มีการหาหมอดูหมอธรรมมาเสี่ยงทาย หากหมอดูว่าผิดผีก็จะทำการเซ่นไหว้บนบาน แก้ด้วยเป็ดไก่ หมู เหล้า บัดนี้ยังมีชาวภูไทกลุ่มหนึ่ง เป็นชนกลุ่มน้อยคือ แถบตำบลหนองนกเขียน ซึ่งในแถบบ้านโคกก่องก็ยังมีการเลี้ยงผีกันอยู่มากเรียกว่าหมอเหยา ผู้ที่เป็นแม่เมืองหรือหัวหน้าคณะหมอเหยาทั้งตำบล คือ แม่ยนต์ ไกรหาร ซึ่งอยู่ที่บ้านบ่อแก้วติดกับบ้านโคกก่อง การเลี้ยงผีนี้จะจัดขึ้นในเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ของทุกปีเรียกว่า “การลงปาง” ซึ่งบรรดาหมอเหยาทั้งตำบลก็จะเดินทางมาเข้าร่วมพิธีกรรมที่ปะรำพิธีในลานบ้านของหมอเหยาผู้ที่เป็นแม่เมือง ซึ่งจะสร้างตูบเหยาด้วยใบมะพร้าว ฟางแห้ง หรือหญ้าคาก็ได้ จากนั้นก็นอนพักรวมกันเพราะหมอเหยาส่วนมากจะเป็นผู้หญิงและมีครอบครัวแล้ว ก่อนที่จะถึงวันประกอบพิธีกรรมบรรดาลูกหลานของหมอเหยาทั้งหลายก็จะมีการเตรียมเครื่องเซ่นไหว้และอุปกรณ์ต่างๆไว้ให้ เช่นนำอุปกรณ์ต่างๆที่อยู่บนหิ้งผีมาเช็ดทำความสะอาด และร้อยดอกไม้ ซึ่งได้แก่ ดอกไม้แดง ดอกขายของ( ดอกปีบ ) ดอกจำปา ดอกลั่นทม ดอกจาน ฯลฯ
    สิ่งที่ใช้ในการประกอบพิธีลงปาง มีดังนี้ffice:eek:ffice" /><O:p></O:p>
    - เครื่องบรรณาการ ได้แก่<O:p></O:p>
    ช้างหนึ่งคู่, ม้าหนึ่งคู่, ง้าวหนึ่งคู่, ดาบหนึ่งคู่, คันจ้อง( ร่มกระดาษ ),หนึ่งคู่, เฮือ(เรือ )หนึ่งคู่, ปืนหนึ่งคู่, หน้าไม้หนึ่งคู่, พัดหรือวีหนึ่งคู่ และหอกหนึ่งคู่ ( สิ่งเหล่านี้แกะสลักจากแก่นของไม้ยอป่า )<O:p></O:p>
    - เครื่องคาย ได้แก่ <O:p></O:p>
    ถ้วยขาวสาร, กรวยดอกไม้ห้าคู่, ไข่ไก่หนึ่งฟอง, เงินอัฐหนึ่งอัฐ, เทียนหนึ่งคู่, ด้ายสีขาวหนึ่งม้วน, ผ้าขาวหนึ่งผืน<O:p></O:p>
    <O:p> </O:p>- หมอม้าหรือหมอแคน, คนต่อยต้ง ( ดีดพิณ ), คนตีกลอง ( ในสมัยปัจจุบันอาจเปิดดนตรีประกอบก็ได้เช่นกัน )

    เมื่อได้ฤกษ์งามยามดีแล้วเหล่าบรรดาหมอเหยาทั้งหลายก็จะเข้าไปอยู่ในตูบเหยาและเริ่มทำพิธีบริกรรมนำเครื่องเซ่นไหว้ของตนขึ้นคายยกครู ( ไหว้ครู ) และเชิญผีต่างๆ มาเทียมตัว( เข้าสิงร่าง ) และตอนนี้ดนตรีก็เริ่มบรรเลงขึ้น ซึ่งหมอเหยาแต่ละคนก็จะมีท่าเต้นและท่ารำที่ไม่เหมือนกันเพราะบางคนก็เต้นแรงจนดิ้นเหมือนใจจะขาด บางคนก็ฟ้อนรำในท่าทางที่สวยงาม บางคนก็วิ่งเหยีบไฟ บางคนก็งัดไม้ขุดดิน หรือบางคนก็ทั้งเต้นทั้งร่ายออกมาเป็นกลอนลำไปด้วย ซึ่งก็แล้วแต่ผีที่เข้ามาเทียมอยู่ในตัวของแต่ละคนว่าว่าชอบอย่างไร ซึ่งผีที่เข้ามาเทียมตัวได้แก่ ผีบรรพบุรุษ ผีเชื้อ ผีครู ผีป่า ผีเร่รอน และผีฟ้า(เทพและเทวดา ) เช่น นางเมขลา นางสีดา นางอำคา หูระดาน หมอน้อย ฯลฯ ในการเชิญผีนั้นหมอเหยาจะมีบทบริกรรม (ผู้จัดทำนำมาเป็นบางส่วน) เป็นคำผญาภาษาภูไท ดังนี้<O:p></O:p>
    <O:p> </O:p>
    “ หอมดอกจิกคึดฮอดบ้านหลัง หอมดอกฮังคึดฮอดบ้านเก่า หอมดอกคัดเค้าคือล่ะเฒ่ามีเป๋น หอมดอกจิกมาวั่งวั่ง หอมดอกฮังมาโฮ่นโฮ่น อ๋อนซอนเด๊ โหลมอ่อนพัดไม้ป๊องอ๊อน พัดเป๋นสีเลิ่งล่างคือซ้างม่ายโฮง เสงมะฮิงม้าผะดังมาก้องสะหนั่น สาวพุนุ่งเสื้อคั๊งฮ่มขาว สาวลาวพุคั๊งฮ่มเจ๊ นุ่งเสื้อเอ้เก็บดอกแคฝอย ”<O:p></O:p>
    <O:p> </O:p>
    การลงปางจะทำกันเป็นเวลาหนึ่งวันหนึ่งคืนหรือแล้วแต่ความพอใจของผีจนกว่าผีอยากจะกลับขึ้นไปอยูบนหิ้ง จึงจะทำการส่งผีกลับขึ้นหิ้งและเป็นอันเสร็จพิธีการลงปาง และหลังจากนั้นก็จะทำการรวมญาติพี่น้องผูกข้อต่อแขน ทานอาหารร่วมกันและอำลากันกลับบ้านของตน<O:p></O:p>
    จุดประสงค์ของการเลี้ยงผีของของชาวภูไทนี้ก็เพื่อ ความอยู่ดีกินดี ทำนายฝนฟ้าความอุดมสมบูรณ์ของปีนั้นๆ รักษาโรคภัยไข้เจ็บที่หาสาเหตุไม่พบและเชื่อว่าเกิดจากการกระทำของผี และขอความคุ้มครองจากผีที่ตนนับถือ ที่สำคัญการเลี้ยงผีไม่ใช่เรื่องง่าย ซึ่งผู้ที่จะเลี้ยงผีได้นั้น ต้องเป็นทายาทสายเลือดเดียวกันกับบรรพบุรุษที่เคยเลี้ยงผีมาก่อน เป็นคนที่ได้รับสัญญาณจากผีที่ต้องการอยู่ด้วย เป็นคนที่จิตใจเข้มแข็งไม่คลอนแคลนมีจิตใจเมตตาปราณีไม่เลือกที่รักที่ชัง สามรถ ขะลำ หรือ ทำตามข้อห้ามที่ครูสั่งได้ เช่น ห้ามกินสุกๆดิบๆ ห้ามตระหนี่ถี่เหนียว ห้ามลักขโมย ห้ามด่าหรือพูดส่อเสียด ห้ามกินของเซ่นไหว้ครู เป็นต้น ถ้าหากรักษาไม่ได้เพียงข้อเดียวก็จะถือว่าผิดครู อาจจะกลายเป็น บ้า ผีปอบ ผีเป้า ผีโพง ไปได้ แล้วแต่วิญญาณของครูจะลงโทษ<O:p></O:p>

    <O:p></O:p>
     
  2. tang_go

    tang_go Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2009
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +77
    นี่คือพิธีเหยาของเหล่าบรรดาผีฟ้าครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. tang_go

    tang_go Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2009
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +77
    แม่ยนต์ ไกรหาร ผู้เป้นแม่เมือง (คนที่สองนับจากด้านซ้ายมือ)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. tang_go

    tang_go Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2009
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +77
    ชาวผู้ไทกำลังน้อมใจ ไหว้สา ผีฟ้าปู่อัญญาหลวง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. tang_go

    tang_go Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2009
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +77
    ศาลาปู่อัญญาหลวง ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. tang_go

    tang_go Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2009
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +77
    เล็กๆน้อยๆ เก็บมาฝากครับ ^_^
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. purivat

    purivat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2010
    โพสต์:
    227
    ค่าพลัง:
    +254
    นี่มันแถวๆมุกดาหารบ้านผม
     
  8. tang_go

    tang_go Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2009
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +77
    ข้อมูลและภาพถ่ายทั้งหมดนี้นี้นำมาจาก บ้านนายูง ต.นายูง อ.ศรีธาตุ จ.อุดรธานี
    เป็นงานวัฒนธรรมผู้ไท ขึ้นสามค่ำเดือนสาม จัดทุกปีครับช่วงเดือนกุมภาพันธ์
     

แชร์หน้านี้

Loading...