ดอกไม้อันไหนควรจะถวายบูชาพระอ่าครับ

ผมอยู่เดนมาร์ค ดอกบัวผมไม่เคยเห็น ที่เดนมาร์คน นะครับ แล้วก็มีร้านดอกไม้ดอกไม้สวยๆเยอะแยะราคาก็ไม่แพงมาก แต่ผมไม่รู้ว่าควรจะเลือกดอกไม้อันไหนถวายบูชาพระ เพราะ ส่วนใหญ่เห็นมีแต่ถวายดอกบัว ที่เดนมาร์คที่ผมเล่นแน่ๆเลยมีดอกกุหลาบ แดง ขาว ที่เหลือผมไม่รู้ดอกไรบ้าง เพราะไม่ใช่เรียนสายพันธุ์ดอกไม้หน้าตาเป็นไงครับ

เอ่อ ผมมีพระพุทธรูป แต่จะบูชาไงดีโดยใช้ดอกไม้นะครับครับ คือผมไม่มีโต๊ะ แบบบูชา แท่นพระแบบนี้ อ่าครับ วางไว้บนชั้นหนังสือ แล้วก็วางของกระจุกกระจิกอ่าครับ

 

โมทนากับความตั้งใจที่ทำบุญด้วยนะครับ
ตอนผมเรียนอยู่ออสเตรเลีย ไม่เคยมีโอกาสนำดอกไม้ไปถวายพระสงฆ์ หรือพระพุทธรูปเลย ส่วนใหญ่ไปวัดฟังธรรม กับช่วยทำความสะอาด แค่คุณคิดจะนำไปถวาย ก็ได้บุญแล้ว
ผมคิดว่าดอกอะไรก็ได้ครับ ดอกไม้ที่นั่นคงสวยมากนะครับ

 

อนุโมทนา ด้วยนะครับ

เรื่องดอกไม่ผมว่านะครับ ดอกไหนก็ำด้มั้งครับ อยู่ที่เจตนาเรามากกว่า ถ้าเรามัวแต่เลือดว่าจะเอาดอกบัว ดอกดาวเรือง แล้วที่ร้านไม่มี ที่ประเทศเค้าไม่มี ไม่ต้องเป็นอันไหว้เลยหรอครับ เอาดอกที่เราคิดว่าสวย เหมาะแก่การบูชาพระ ก็ได้แล้วครับ แล้วก็หลวงพี่เล็กแกบอกนะครับ ให้เอาดอกไม่สดตูมๆ บานๆ หน่อยจะดีกว่า

แล้วก็เรื่องถวายดอกไม้นะครับ ถ้ามีกระจุกเดียวพอเหลือเฟือครับ หาพานมาสักพานหนึง ตั้งหน้าพระ แล้วในพานก็ใส่ดอกไม้ครับ แค่นี้ก็พอครับ ถูกตามหลักด้วย ของบางคนเอาไปคล้องคอ คล้องมือท่าน ถึงแม้จะไม่ผิด แต่ก็ไม่สมควรครับ ทางที่ดี ใส่พานครับ แล้วเอาไปถวายท่าน ในต่างประเทศถ้าหาดอกไม่ที่เป็นพวงไม่ได้นะครับ(ดูแล้วที่นุ่นไม่น่ามีนะครับ)
ก็เอาดอกอะไรก็ได้ ตามข้างบนครับ ตัดก้านให้เล็กลงหน่อย จะได้พอดีกับพาน สัก 3 ดอก อย่างละชนิดนะครับ จะสวยมาก ใส่พานเดียว แล้วก็เอาไปถวายท่าน ครับ ถ้าที่บ้านมีพระหลายองค์ องค์เสด็จพ่อรัชกาลที่ 5 องค์พระเกจิ ต่างๆ ก็พานเดียวพอครับ ที่ผมคิดเสมอมานะครับ บูชาพระรัตนตรัยพานเดียว เปรียบเหมือนบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วโลกครับ

หากมีอะไรสงสัยก็ถามอีกได้เลยนะครับ

 

บัว มะลิ กุหลาบ ดาวเรือง

 

เลือกดอกอะไรก็ได้ที่ชอบ ตัดแต่งให้เหมาะสม วางในถาดที่หามาได้ และไม่ควรวางของจุกจิกใกล้กับพระพุทธรูปนะคะ สาธุโมทนาบุญด้วยค่ะ

 

ดอกอะไรก็ได้ค่ะ ถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา
เวลาสวดมนต์ทุกคืนให้เพ่งพิจารณา ดอกไม้ ที่สวยวันแรกๆ แล้วก็
ค่อยๆเหี่ยวลง สีคล้ำลง คอตก น้ำในแจกันเริ่มขุ่น เหม็นเน่า
ดูเป็นไตรลักษณ์ว่านั่นคือสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นกับเรา เราก็กำลังตายลง
ช้าๆอย่างดอกไม้นี่แหล่ะค่ะ เวลาเราบูชาพระพุทธองค์ด้วยดอกไม้
เราอาจจะคิดว่า ดอกนี้ท่านชอบ แบบนั้น แบบนี้ ตามนิยม แต่จริงๆ
แล้ว ท่านไม่ได้สนใจหรอกค่ะ เพราะท่านละแล้ว แต่ที่ท่านรับก็เพื่อ
ประโยชน์ของเราล้วนๆ หนึ่งคือ เราจะได้มีพุทธานุสติ ระลึกถึงพระองค์
หากตายไปตอนนั้น ไปสวรรค์ทันที ไม่ตกอบายภูมิ จิตใจที่อิ่มเอม
ดีใจที่ได้ถวายนั้น เป็นกุศลจิต การระลึกถึงพระพุทธองค์ท่าน เราไปดีค่ะ
แล้วพระองค์ท่านก็ห่วงและรักพวกเราทุกคน ท่านอยากให้เราไปดี
ค่ะ อย่างน้อยๆ ไม่ต้องไปอบายภูมิ แม้ยังไปไม่ถึงนิพพานก็เถอะ
ข้อสองคือ พระพุทธองค์ท่านต้องการให้เราได้เห็นไตรลักษณ์ใน
ดอกไม้ เมื่อเราถวายดอกไม้แล้ว เวลาสวดมนต์ก็ให้ได้เพ่ง พิจารณา
ว่ามันสวยวันแรกๆ วันต่อๆมา สีก็คล้ำลง เหี่ยว คอตก แม้กระทั่งน้ำใน
แจกันใสๆในวันแรกๆ ก็ขุ่นมัว เน่าตามดอกไม้นั้น สิ่งที่ดูสวยงามนี้
แท้จริงเป็นของสกปรก ร่างกายที่สวยงามนี้แท้จริงสกปรก ทำให้สิ่งที่
อยู่รอบๆพลอยสกปรกไปด้วย เราใส่เสื้อผ้า เหงื่อไคลทำให้เสื้อเหม็น
สกปรก น้ำใสๆก็เปรียบดังเสื้อผ้าที่เราสวมใส่ กายคือดอกไม้ที่ดูสวยแต่
สกปรกก็ทำให้น้ำหรือสิ่งที่อยู่รอบๆตัวพลอยเน่าไปด้วย
แล้วดอกไม้ก็เหี่ยวลงทุกวัน รอวันเฉาตาย เราก็แก่ลงทุกวัน เราตายลง
ทุกวันช้าๆ เซลล์เสื่อมลงช้าๆ เหมือนดอกไม้นั้น ไม่ยั่งยืน พระพุทธองค์
ท่านต้องการให้เราเห็นตามนี้ ท่านไม่ได้สนใจหรอกค่ะว่าจะเป็นดอกบัว
ดอกกุหลาบ หรืออะไร หากเราบูชาไป สักแต่ปักแจกัน ไม่ได้มีความอิ่มเอม
ในพุทธะ ชื่นชมในบารมี หรือพิจารณาให้เห็นมรณะสติ และกฏแห่งไตรลักษณ์
การบูชาจะเป็นการสูญเปล่า เสียเงินซื้อดอกไม้ไปโดยไม่ได้อะไรแก่เราเลย
นับเป็นที่น่าเสียดายมาก หากเราเห็นตรงนั้น หรือบูชาแล้วพุทธะมาอยู่ในใจ
ดอกไม้อะไรก็ตาม จะทวีค่ามหาศาลแบบหาที่เปรียบไม่ได้ แล้วพระพุทธองค์
ก็จะทรงแย้มยิ้มให้เราว่า เราได้เห็นได้รู้จุดประสงค์แท้จริงของการบูชาดอกไม้
แล้ว ประโยชน์สูงสุดเลยที่จะพึงได้จากดอกไม้สักช่อ คือ การปล่อยวางขันธ์ห้า
ว่ามันไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่ใช่ของเรา
ผิดพลาดประการใดขออภัยผู้มีปัญญาน้อยค่ะ

 

การบูชาที่ดีกว่าการบูชาด้วยดอกไม้ธูปเทียน
คือการปฏิบัติบูชาครับ ตอนไปเรียนที่อังกฤษไม่มีพระบูชาในห้องครับ
จึงไม่มีการบูชาดอกไม้ มีแต่พระที่แขวนบนคอครับ
แค่คิดดี ทำดีเอื้อเฝื้อ แล้วการสวดมนต์ครับ

 

ปฏิบัติบูชา...


อรรถกถามหาปรินิพพานสูตร

ท่านอธิบายไว้อย่างนี้ว่า ดูก่อนอานนท์ เราตถาคตหมอบอยู่แทบบาท

มูลของพระพุทธเจ้าพระนามว่าทีปังกร ประชุมธรรม ๘ ประการ เมื่อจะ

กระทำอภินิหาร มิใช่กระทำอภินิหาร เพื่อประโยชน์แก่พวงมาลัยของหอม

และดุริยางค์สังคีต มิใช่บำเพ็ญบารมีทั้งหลาย เพื่อประโยชน์แก่สิ่งเหล่า

นั้นเพราะฉะนั้น เราตถาคตไม่ชื่อว่า เขาบูชาแล้วด้วยการบูชาอันนี้เลย.

ถามว่า ก็เพราะเหตุไร พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงสรรเสริญวิบาก ที่แม้

พระพุทธญาณก็กำหนดไม่ได้ของการบูชา ที่บุคคลถือเพียงดอกฝ้ายดอกเดียว

ระลึกถึงพระพุทธคุณบูชาแล้วไว้ในที่อื่น ในที่นี้กลับทรงคัดค้านการบูชาใหญ่

อย่างนี้. ตอบว่า เพราะเพื่อจะทรงอนุเคราะห์บริษัทอย่างหนึ่ง เพื่อประสงค์

จะให้พระศาสนาดำรงยั่งยืนอย่างหนึ่ง.

จริงอยู่ พระผู้มีพระภาคเจ้า ไม่พึงคัดค้านอย่างนั้นไซร้ ต่อไปใน

อนาคต พุทธบริษัทก็ไม่ต้องบำเพ็ญศีลในฐานะที่ศีลมาถึง จักไม่ให้สมาธิ

บริบูรณ์ในฐานะที่สมาธิมาถึง ไม่ให้ถือห้องคือวิปัสสนาในฐานะที่วิปัสสนา

มาถึง ชักชวนแล้วชักชวนอีก ซึ่งอุปัฏฐากกระทำการบูชาอย่างเดียวอยู่. จริงอยู่

ชื่อว่าอามิสบูชานั้น ไม่สามารถจะดำรงพระศาสนาแม้ในวันหนึ่งบ้าง แม้ชั่วดื่ม

ข้าวยาคูครั้งหนึ่งบ้าง. จริงอยู่วิหารพันแห่งเช่นมหาวิหาร เจดีย์พันเจดีย์ เช่น

มหาเจดีย์ ก็ดำรงพระศาสนาไว้ไม่ได้. บุญูผู้ใด ทำไว้ก็เป็นของผู้นั้นผู้เดียว.

ส่วนสัมมาปฏิบัติ ชื่อว่าเป็นบูชาที่สมควรแก่พระตถาคต. เป็นความจริงปฏิบัติ

บูชานั้นชื่อว่าดำรงอยู่แล้ว สามารถดำรงพระศาสนาไว้ได้ด้วย เพราะฉะนั้น

พระผู้มีพระภาคเจ้าเมื่อจะทรงแสดงปฏิบัติบูชานั้น จึงตรัสว่า โย โข อานนฺท

เป็นต้น.


ขอบคุณ
ปฏิบัติบูชา [อรรถกถามหาปรินิพพานสูตร]