ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    <TABLE style="WORD-SPACING: 0px; TEXT-TRANSFORM: none; TEXT-INDENT: 0px; FONT-FAMILY: Tahoma; LETTER-SPACING: normal; BACKGROUND-COLOR: rgb(255,255,255); orphans: 2; widows: 2; webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline style="FONT-WEIGHT: bold; FONT-SIZE: medium; COLOR: rgb(0,0,153); FONT-FAMILY: Tahoma; TEXT-DECORATION: none" vAlign=baseline align=left>ปีมะโรงพ่นพิษ 'ยิ่งลักษณ์' ดวงดิ่งเหว ถึงขั้นหลุดจากนายกฯ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body style="FONT-SIZE: x-small; MARGIN: 0px; COLOR: rgb(102,102,102); FONT-FAMILY: Tahoma; TEXT-DECORATION: none" vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการรายวัน</TD><TD class=date style="FONT-SIZE: 11px; COLOR: rgb(204,102,0); FONT-FAMILY: Tahoma; TEXT-DECORATION: none" vAlign=center align=left>24 ธันวาคม 2554 06:03 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]


    กล่าวได้ว่านับแต่ 'น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร' ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ประเทศไทยก็มีแต่ปัญหาที่ถาโถมเข้ามาไม่หยุดหย่อน ที่ร้ายแรงที่สุดก็คือวิกฤตมหาอุทกภัยครั้งใหญ่ที่ทำลายล้างทั้งชีวิต ทรัพย์สิน บ้านเรือน และแหล่งทำมาหากินของคนไทยหลายสิบล้านคน จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าเพราะดวงของนายกฯรัฐมนตรีซึ่งเป็นผู้นำประเทศ ไม่สมพงษ์กับดวงเมืองจึงเกิดอาเพศครั้งใหญ่ ทำให้ในปี 2555 นี้ หลายคนต่างพากันจับตาว่าดวงของนายกฯยิ่งลักษณ์จะเป็นเช่นไร ? จะส่งผลร้ายต่อบ้านเมืองหรือไม่ ?

    **‘หมอนิด’ ฟันฉับ ไม่เกิน พ.ค. นายกฯปู พ้นเก้าอี้

    'หมอนิด' กิจจา ทวีกุลกิจ หมอดูที่โด่งดังด้านการดูดวงทางการเมือง ชี้ชัดแบบไม่เกรงใจใคร ว่า ดวงของนายกฯ ยิ่งลักษณ์เป็นธาตุไฟเหมือนกับพี่ชาย ส่วนดิถีของปี 55 เป็นธาตุน้ำ ทำให้ธาตุไฟของทั้งสองคนจะถูกธาตุน้ำเล่นงาน นอกจากนั้นนายกฯ ยิ่งลักษณ์เกิดปีมะแม ซึ่งเป็นอริกับปีเกิดของพ.ต.ท.ทักษิณซึ่งเกิดปีฉลู คือปีมะแมกับปีฉลูชงกัน ขณะที่ในการดำเนินการทางการเมืองนั้นทั้งสองคนนี้ต้องเกื้อกูลกัน ดังนั้นในปีหน้าทำอะไรก็ไม่สำเร็จ

    ทั้งนี้ ดวงของนายกฯ ยิ่งลักษณ์ตั้งแต่เดือน ม.ค.-ก.พ.2555 เป็นต้นไปดวงจะตกมาก ช่วงที่อันตรายที่สุดคือจาก ก.พ.-พ.ค.55 ดวงตกถึงขั้นอาจจะอยู่ในตำแหน่งนี้ไม่ได้ คือน่าจะไม่เกิน พ.ค.2555 นายกฯ ยิ่งลักษณ์จะต้องหลุดจากตำแหน่งนายกฯ แต่จะลาออกเองหรือมีมือที่มองไม่เห็นนั้นไม่อาจทราบได้

    แต่ถ้า นายกฯยิ่งลักษณ์ลาออกก่อนที่จะมีการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม หรือแก้ไขมาตรา 211 ซึ่งเป็นเหตุทำให้บ้านเมืองลุกเป็นไฟ ก็จะเป็นการดี

    “ถ้านายกฯยิ่งลักษณ์เห็นแก่บ้านเมือง ลาออกเถอะ! แต่ถ้าหากนายกฯยิ่งลักษณ์ไม่ใช้อำนาจยับยั้งรัฐมนตรีและ ส.ส.ในพรรคซึ่งต้องการจะแก้กฎหมาย ปีหน้าบ้านเมืองก็จะวุ่นวายมาก เศรษฐกิจจะวอดวาย คือไม่ว่าขึ้นหรือล่องประเทศไทยก็ต้องเจอ โอกาสที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองถึงขั้นเปลี่ยนรัฐบาลมีถึง 80-90% จะบอกว่า 99.99% ด้วยซ้ำ ขณะที่โอกาสจะเปลี่ยนตัวผู้นำประเทศก่อนที่จะมีการเปลี่ยนรัฐบาลมันก็มี”

    ส่วนเหตุการณ์จะรุนแรงหรือไม่นั้น หมอนิดบอกว่า ขึ้นอยู่กับรัฐบาลยิ่งลักษณ์จะเป็น 'แพะบูชายันต์' ให้ พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ ถ้าใช่รัฐนาวาก็ต้องถึงคราอับปาง ทั้งนี้ เกณฑ์ชะตาในปีหน้าอยู่ที่ผู้นำประเทศจะเลือกก่อกรรมดีหรือกรรมชั่ว

    “จะเห็นว่าดวงของนายกฯยิ่งลักษณ์ซึ่งเป็นผู้นำประเทศไม่ดีเลย ตั้งแต่คุณยิ่งลักษณ์เข้ามายังไม่ทันนั่งเก้าได้เต็มใบ บ้านเมืองก็หายนะแล้ว น้ำท่วมใหญ่ทั่วประเทศ มีปัญหาถาโถมเข้ามาตลอด แล้วไม่ใช่นายกฯยิ่งลักษณ์คนเดียวที่ดวงไม่ดี คณะรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้ มีไม่ต่ำกว่า 24 คนที่ดวงไม่ดี เพราะฉะนั้นการบริหารประเทศที่ผ่านมาก็ไม่เห็นผลงานอะไร”

    “ผมเคยบอกตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง 3 ก.ค.54 แล้วว่าถ้าเลือกความฉิบหายก็ให้เลือกพรรคประชาธิปัตย์ แต่ถ้าเลือกความหายนะก็ให้เลือกพรรคเพื่อไทย ตอนนั้นมีหมอดูบางคนบอกว่าคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะได้เป็นนายกฯอีกสมัย แต่ผมบอกว่าพรรคเพื่อไทยจะได้เป็นรัฐบาล แต่เป็นแล้วอยู่ไม่นาน รับประกันได้อยู่ไม่เกิน 6-8 เดือน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเอาคนดวงไม่ดีเข้ามา มันถึงทำให้บ้านเมืองมีปัญหา มีอุปสรรคต่างๆ คือ แม้ว่า ม.ค.55 อาจจะมีการปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรี แต่จะเปลี่ยนแปลงยังไงก็แล้วแต่มันก็ยังเหมือนกับการเอา “บ๋อย” ขึ้นมาเป็น “กุ๊ก” คือเอาบ๋อยขึ้นมาเป็นคนปรุงอาหารให้คนไทยทั้งประเทศกิน แล้วในปี 2555 ดวงบริวารของคุณยิ่งลักษณ์ก็ไม่ดีอีก เลยยิ่งแย่กันไปใหญ่ อย่างดวงของ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กลาโหม ปีหน้าก็ไม่ดี ตกยาวเลย ถ้าหากว่าท่านฉลาดนะ ก็ควรลาออก หรือไม่ก็ลู่ตามลมซะ ถ้าไปต้านลม จะพัง”

    นอกจากนั้น หมอนิดยังระบุด้วยว่า เกณฑ์ชะตาของนักการเมืองหลายคนในซีกรัฐบาลก็ไม่ดี หลายคนถึงขั้นจะไม่มีแผ่นดินอยู่ ไม่ตายก็ได้กินข้าวฟรี ต้องขุดรูอยู่กันเยอะ เหล่าบริวารคนสำคัญๆ ถ้าไม่ตายก็ติดคุก คือถ้าเกิดเหตุรุนแรงขึ้นมางวดนี้จะต้องมีการขุดรากถอนโคนกัน 'นักการเมืองที่ชอบผายลมทางปาก' จะเผ่นก่อนเพื่อน ถึงจะชอบทำตัวเป็นนายกฯแต่ถึงเวลาจะเผ่นก่อนใครเลย จะถึงขั้นหนีออกนอกประเทศ !

    ดังนั้น ให้จับตาว่าถ้าเมื่อไรที่ลูกเมียของนักการเมืองซึ่งชอบผายลมทางปากเดินทางออกนอกประเทศแสดงว่าเหตุการณ์รุนแรงกำลังจะเกิด ดวงของนักการเมืองที่ชอบผายลมทางปากไม่ตายด้วยโรคร้ายก็ต้องหนีออกนอกประเทศ

    “ที่จริงแล้วนักการเมืองที่มีดวงจะต้องหนีออกนอกประเทศ ในปี 2555 มีหลายคนเลย หลังเกิดเหตุรุนแรงพรรคเพื่อไทยจะแตก ส.ส.จะกระจัดกระจายไปทั่ว บางคนก็จะออกไปตั้งพรรคใหม่หรือไปร่วมกับบรรดามือโปรในบ้านเลขที่ 111 และต่อไปหมู่บ้านของคนเสื้อแดงจะถูกยุบไปหมด”หมอนิดฟันฉับ

    **อ.ภิญโญ เตือน ‘ยิ่งลักษณ์’ ระวังเลือดตกยางออก และเหตุร้ายที่คุมไม่ได้

    'อาจารย์ภิญโญ พงศ์เจริญ' นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ นั่งคำนวณดวงดาวและลัคนาราศี ก่อนจะชี้ชัดว่า นายกฯ ยิ่งลักษณ์เกิดวันที่ 21 มิ.ย.2510 ที่ จ.เชียงใหม่ ตรงกับวันพุธ ขึ้น 14 ค่ำ เดือน 7 ปีมะแม อายุ 44 ปี อยู่ในราศีเมถุน ซึ่งมีสัญลักษณ์คนคู่ เพราะฉะนั้นจิตใจจึงมี 2 บุคลิก ต้องทำอะไรสองอย่างพร้อมๆ กัน อย่างทำงานการเมืองก็ต้องทำอย่างอื่นด้วย เหมือนกับคนจับปลาสองมือ

    สำหรับขณะนี้ดาวพฤหัสอยู่ในเดือนลาภะ ก็ถือว่ายังอยู่ในภพที่ดีเพราะพฤหัสยังกุมชะตา แต่พฤหัสไปทับราหูกำเนิด ทำการใดมักได้ครึ่งเสียครึ่ง เพราะฉะนั้นนโยบายที่นายกฯยิ่งลักษณ์หาเสียงไว้จะทำได้แค่ครึ่งเดียว ตอนนี้ราหูมาทับจันทร์ ซึ่งพระจันทร์เป็นเจ้าเรือนการเงิน ดาวคู่นี้เป็นคู่หนี้สิน เพราะฉะนั้นในช่วงนี้นายกฯ ยิ่งลักษณ์จะสามารถกู้เงินได้ อาจเป็นได้ทั้งเงินกู้ส่วนตัวและเงินกู้ของประเทศชาติ นอกจากนั้นศัตรูหรือคู่ขัดแย้งจะกลายมาเป็นมิตร ราหูทับจันทร์ยังหมายถึงญาติที่เป็นผู้หญิงหรือมีหน้าตาคล้ายผู้หญิงจะเจ็บป่วยหรือเสียชีวิต เพราะจันทร์หมายถึงผู้หญิง ซึ่งปัญหานี้จะนำมาซึ่งผลกระทบทางด้านจิตใจของนายกฯ ยิ่งลักษณ์อย่างมาก ดังนั้นจึงต้องระวัง

    ส่วนดวงบริวารของนายกฯ ยิ่งลักษณ์ในปีหน้านั้นจะคล้ายกับดวงของพี่ชาย เนื่องจากปุตตะมาอยู่ในกดุมภะหรือเรือนการเงิน ดังนั้นบริวารจึงมุ่งในเรื่องเงินๆทองๆ นอกจากนั้นดาวเสาร์ยังเข้าเดือนปุตตะ หมายถึงบริวารจะนำความเดือดร้อนมาให้ เพราะดาวเสาร์เป็นดาวโทษทุกข์ และการที่ดาวเสาร์มาจากมรณะก็ทำให้นายกฯ ยิ่งลักษณ์รู้สึกเบื่อหน่ายทั้งเรื่องทางการเมืองและบริวาร

    อย่างไรก็ดี ดวงนายกฯ ยิ่งลักษณ์ในปี 2555 มีจุดดีตรงที่เสาร์เล็งราหู เพราะเสาร์กับราหูเป็นคู่มิตรกัน อาจจะมีโชคอะไรแบบฟลุคๆ แต่ว่าดวงอุบัติเหตุของนายกฯ ค่อนข้างชัดเพราะมีดาวอังคารกับดาวเสาร์เล็งกันในดวงกำเนิด ซึ่งเป็นดวงที่คล้ายกับดวง พ.ต.ท.ทักษิณในปี 2555 คือจะมีอุบัติเหตุ เลือดตกยางออก หรือเจ็บป่วย ต้องเข้ารับการผ่าตัด โดยช่วงเวลาที่ต้องระวังมีอยู่ 2 ช่วง คือระหว่าง มี.ค.-เม.ย. และ ส.ค.-ก.ย. ซึ่งน่าจะรุนแรง

    นอกจากนั้นหลังจากวันที่ 15 พ.ค.2555 ดาวพฤหัสจะย้ายจากภพลาภะเข้าสู่ภพพินาศ เพราะฉะนั้นหลังเดือน พ.ค. 2555 ต้องระวัง อาจจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นแล้วไม่มีใครคุมได้ จะมีปัญหาทำให้สะเทือนถึงตำแหน่ง ต้องดูแลสุขภาพให้ดี ต้องรักษาชีวิต ต้องรักษาตำแหน่ง โดยพฤหัสจะอยู่ในภพพินาศประมาณ 1 ปีคือ ตั้งแต่ พ.ค.2555 ไปจนถึงกลางปี 2556

    **'ภาณุวัฒน์' ชี้ ปี 55 ดวง 'ปู' -แขัดย้ง 'แม้ว'หนัก

    'ภาณุวัฒน์ พันธุ์วิชาติกุล' ประธานสถาบันศาสตร์แห่งชีวิตแห่งประเทศไทย พูดถึงดวงของนายกฯ ยิ่งลักษณ์ว่า เกิด 21 มิ.ย. 2510 เกิดปีมะแม เดือนมะเส็ง วันมะโรง ปัจจุบันอายุ 44 ขึ้น 45 ปี ซึ่งถือว่าอายุเข้าเคราะห์ ดวงนายกฯ ยิ่งลักษณ์เป็นปีมะแม ส่วน พ.ต.ท.ทักษิณเป็นปีฉลู ขณะปี 2555 เป็นปีมะโรงซึ่งไม่เกื้อหนุนทั้งปีมะแม และฉลู นอกจากนั้นนายกฯ ยิ่งลักษณ์เกิดปีมะแม 2510 ถือว่าเป็นธาตุไฟ ส่วนปี 2555 เป็นปีมะโรง ธาตุน้ำ ฉะนั้นน้ำจะดับไฟ ดังนั้นดวงนายกฯ ยิ่งลักษณ์ในปีนี้หนักมากๆ

    อีกทั้งในปี 55 ปีมะแมของนายกฯ ยิ่งลักษณ์ยังเป็นปีที่ชงกับปีฉลูของนายกฯ ทักษิณ ทำให้ทั้งสองคนมีจะมีความขัดแย้งกัน แล้วในเดือน ก.พ.55 จะเป็นปีที่คนมีอำนาจจะสั่งการผิดพลาดจนนำไปสู่ความเสียหาย ทำให้ตัวเองต้องเสื่อมเสีย และทำให้เกิดความวุ่นวายทางการเมืองขึ้น ดังนั้นนายกฯยิ่งลักษณ์ต้องเบรกตัวเอง ไม่อย่างนั้นจะมีปัญหา คนมีอำนาจจะขัดแย้งกันหนัก

    “คือช่วง ก.พ.เป็นจุดเริ่มต้นของความวุ่นวาย พอเข้าสู่เดือน มี.ค.คนมีอำนาจจะตัดสินใจชนิดที่เรียกว่าซ่อนดาบในรอยยิ้ม คือภายนอกสุขุมลุ่มลึก ไม่มีอะไร แต่ข้างหลังเนี่ยชักดาบมาฟาดฟันกัน จะทำให้คนที่รู้เกมออกมาโพทะนาสังคมก็จะค่อยๆวุ่นวาย เหตุการณ์เริ่มปั่นป่วน”

    “เมื่อเข้าสู่เดือน เม.ย.เป็นช่วงที่ก้าวเข้าสู่ 'เดือนพญามังกร' ซึ่งยอมหักไม่ยอมงอ จะเป็นช่วงที่ใครทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ใครทำอะไรไม่ดีเอาไว้ก็จะแพ้ภัยตัวเอง ฟ้าดินจะลงโทษคนที่ทำไม่ดีให้หลุดไปจากวงจรอำนาจ เป็นช่วงที่พลังประชาชนออกมาเรียกร้องความถูกต้องชอบธรรมชนิดที่ยอมหักไม่ยอมงอ จะมีสิ่งดีๆที่ประชาชนได้เห็น มีอำนาจที่แท้จริง มีบุคคลในเรื่องแบบออกมาช่วยเหลือประชาชน แล้วในเดือน พ.ค. บุคคลที่เป็นพญามังกรจะสำแดงเดชอกมาให้คนทั่วไปได้เห็น”

    ดังนั้น ในช่วง ก.พ- พ.ค.55 เป็นช่วงที่นายกฯ ยิ่งลักษณ์ต้องระวัง เพราะปี 55 เป็นปีที่เข้าเคราะห์ ปัญหาจะประเดประดังเข้ามา ทั้งเรื่องภาระหน้าที่การงานที่จะมีความปั่นป่วน วุ่นวาย คุมเกมไม่อยู่ หรือพูดอย่างหนึ่งคนอาจเอาไปทำอีกอย่าง ซึ่งจะทำให้ตัวนายกฯ ยิ่งลักษณ์เองต้องวุ่นวายหรือเสื่อมเสียได้ ซึ่งทำให้เกิดความเครียดส่งผลเสียต่อสุขภาพ

    สำหรับดวงบริวารนั้น ถ้าพูดถึงในรัฐบาลชุดนี้ ตอนนี้ ครม.ทั้งหมด 36 คน มีคนดวงดีแค่ 12 คน แต่มีดวงเข้าเคราะห์ 24 คน แปลว่าดวงดีน้อยกว่าดวงเสีย ซึ่งถ้าไม่มีการปรับคนใหม่เข้ามา ในช่วงตรุษจีนคือวันที่ 23 ม.ค.55 ดวงของรัฐมนตรีที่ดีจะมีเพิ่มมากขึ้น จาก 12 เป็น 14 คน ดวงเสียจะลดลงจาก 24 เหลือ 22 คน ดังนั้นถ้ามีการปรับ ครม. ในช่วงต้นปี 55 แล้วนายกฯ ยิ่งลักษณ์เอาคนดวงดีๆ เข้ามาเป็นส่วนใหญ่ รัฐบาลก็ยังผ่านไปได้ เพราะเท่ากับเป็นการเคลื่อนดวง แต่ถ้าเอาคนดวงไม่ดีเข้ามารัฐบาลก็จะยิ่งแย่ไปใหญ่

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ที่มา http://manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9540000163605
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Image.jpg
      Image.jpg
      ขนาดไฟล์:
      21.4 KB
      เปิดดู:
      2,638
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มีนาคม 2012
  2. 9อมตะ9

    9อมตะ9 อมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    571
    ค่าพลัง:
    +1,288
    คนดีพระคุ้มครอง....พ่อหลวงพระราชทานเครื่องราช....ให้เชื่อพ่อ...อย่าแตกแยก..ควรแยกเยอะการนำเสนอ:cool:
     
  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    "คำสัตย์ปฏิญาณ" เป็นได้ทั้งพรและคำสาป !!!

    [​IMG]


    หาก...ผู้บริหารไทย...ทรยศ "สัจจะ" ที่ปฏิญาณที่ให้ไว้....

    ท่านทั้งหลาย...จะกลายเป็นผู้ขายชาติทันที !!!

    ชีวิตต่อไป...จะวิบัติเจ็บทุกข์ทรมานถึงที่สุด

    หาก...ท่านทั้งหลาย...มั่นคงใน "คำสัตย์ปฏิญาณ" !!!

    ชีวิตของท่าน...จะเจริญ อย่างที่สุด

    เพราะ...คำสัตย์ ปฏิญาณ สาบานตน...คือ สัจจะ ที่ห้ามล่วงเกิน

    จึง เป็นได้ทั้ง "พร" และ "คำสาป" จาก สิ่งศักดิ์สิทธิ์

    ชีวิตอนาคตของท่านทั้งหลาย

    ขึ้นกับ "การกระทำ" ของตัวเองทั้งสิ้น

    ขอให้คิดถึงใจเขาใจเรา ... เมตตา ... เสียสละให้มาก

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
    05-02-2007, 01:32 PM

    ที่มา http://board.plungjai.com/index.php?topic=861.150
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SuriyoThai.jpg
      SuriyoThai.jpg
      ขนาดไฟล์:
      26.7 KB
      เปิดดู:
      8,058
  4. ANAN JANG

    ANAN JANG เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    544
    ค่าพลัง:
    +175
    สัจจะบารมี ^^
     
  5. apichan

    apichan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    825
    ค่าพลัง:
    +4,424
    รายการ เรื่องเด่นเย็นนี้ ตอน สึนามิ สิ้นปีนี้ที่อ่าวไทย

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=WGyhnKArSZ8]รายการ เรื่องเด่นเย็นนี้ ตอน สึนามิ สิ้นปีนี้ที่อ่าวไทย - YouTube[/ame]
     
  6. ANAN JANG

    ANAN JANG เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    544
    ค่าพลัง:
    +175
  7. klu

    klu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,320
    ฟังจากพี่บอลก็ว่าแค่ทรุดกับแยก เพื่อความไม่ประมาทเดี๋ยวจะป้องกันอีกชั้นหนึ่ง

    ให้มันทั้งทรุด, ยุบ, แยก ตอนพวกสีต่าง ๆ มันออกมาตีกันตอนนั้นเลย จะได้สำนึกซักที

    ที่พระราม 4 เขาเตือนแล้วนะ ถ้ายังออกมาตีกัน โดนแน่ ๆ ไม่รู้ว่าป่านนี้ตรวจสอบหาสาเหตุไปถึงไหน ข่าวเงียบมาก ใครทราบโปรดอัพเดท
     
  8. ANAN JANG

    ANAN JANG เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    544
    ค่าพลัง:
    +175
    นั่นแหละครับ หล่นชิวๆ++
     
  9. apichan

    apichan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    825
    ค่าพลัง:
    +4,424
    เอามาให้ดูความเป็นไปได้ครับ
     
  10. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ก่อนที่ทุกคนจะหันกลับมารักสามัคคีกัน ก็จะต้องสูญเสียซะก่อน !!!

    [​IMG]

    สาส์นจากแม่พระธรณี

    อาทิตย์ที่ 22 พฤจิกายน 2552

    - เจ้านับถอยหลังได้เลย สำหรับการเกิดความแตกร้าวของประชาชนคนรากหญ้า “คนรากหญ้า” จะเข้ามาช่วยทำให้เกิดความปั่นป่วนด้วยเหตุของเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ แต่ถูกจ้างมาให้เสริมพลัง คนกักขฬะจะถูกจ้างให้ก่อกวน คนใจร้ายจะถูกหว่านด้วยเงินให้ทุบตีคนอื่นด้วยความคะนอง

    - การปฏิวัติจะกลับมาอีกครั้ง แต่บางคำอาจจะถูกการเปลี่ยน มิใช้คำนั้น เพราะมันรุนแรง
    -
    ศุกร์ที่ 14 พ.ค. 53

    - จำไว้ว่า เพลานี้ อยู่ที่พวกเจ้าภาวนาขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองคนดีๆ เพื่อให้ปกป้องบ้านเมืองนะลูกนะ ช่วยกันภาวนาให้ความร้าย ความโลภ ความโมหะ โทสะของมนุษย์ที่ผู้ที่อยากจะยิ่งใหญ่ เหนือกว่ามนุษย์ใดๆ นั้น ได้บรรเทาความอยากของอารมณ์

    อังคารที่ 18 พ.ค. 2553

    - เจ้าจำนะ ความล่มสลายของอโยธยา นั่นคือการเสียแผ่นดิน แต่เพลาตรงนี้ เจ้าจะมิเสียแผ่นดินอย่างอโยธยา แต่เจ้าจะต้องล้มเสียชีวาของประชาชน

    - คนดีจะทะยานขึ้นมา คนชั่วก็จะถูกเหยียบย่ำ จะมีคนที่มีเลือดบรรพบุรุษเกิดขึ้นมา เพื่อทำให้บ้านเมืองสงบ เลือดรักชาติ รักแผ่นดิน รักธรณี ก็จะมีการรวบรวมคนที่เจ้ามิคิดว่าเขาจะรักบ้านเมือง ซึ่งอยู่ในหลืบ ในซอก ในดิน ในหิน ก็จะรวมตัวกัน แล้วก็เกิดมาเพื่อที่ทำให้ธรณีนี้สูงส่งขึ้นมาอีกครา มินานเกินรอ ที่มนุษย์จักเห็น

    พุธที่ 19 พ.ค. 53

    - สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มนุษย์ยังกราบไหว้บูชา ยังมีฤทธาที่ช่วยบ้าน ช่วยเมือง และช่วยคนดีๆ จำไว้อย่างนะลูกนะ “สิ่งศักดิ์สิทธิ์”นั้น ยังช่วยคนดีอยู่ตลอด “ธรรมะ” ยังไงก็เป็นยาทิพย์ ที่จะช่วยผู้ที่คิดดี ทำดี ปรารถนาดี

    อังคารที่ 25 พ.ค. 53

    - เมื่อเจ้าเร่งความโลภของตนเอง ก็คือการสร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่น อย่างที่เจ้าเห็นการสูญเสียมนุษย์ผู้อื่น แม้ชีวิตที่เจ้าเห็นนั้นสมควรจักต้องอาสัญก็ตาม แต่นั่นก็ไม่ใช่ชีวิตที่เขาต้องมาจบอย่างนี้ เพราะชีวิตมนุษย์ขึ้นอยู่กับกฎเกณฑ์ชะตา แต่เมื่อมีเหตุที่ทำให้เขาต้องสูญสิ้นก่อนอายุ ก็คือสิ่งที่มนุษย์ได้กระทำกรรมให้กับผู้อื่น

    เสาร์ที่ 29 พ.ค. 53

    - จำไว้นะลูก แผ่นดินที่เจ้าเหยียบย่างอยู่ มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คอยดูแลจักแน่นอน แต่ผู้ใดทำกรรมกับแผ่นดิน ก็ต้องชดใช้ใหญ่หลวงเสียมากกว่าทำต่อบุคคลนะลูกนะ

    จันทร์ที่ 7 มิ.ย. 53

    - แผ่นดินจะไม่ระอุดอก ถ้ามนุษย์รู้จักละอายที่จะกระทำต่อสิ่งที่ไม่ดีต่อคนอื่น เจ้าถามว่า กรรมของแผ่นดินอีกนานมั้ยกว่าจะหมด? แผ่นดิน ไม่ได้ก่อให้เกิดกรรม แต่คนที่ยืนอยู่บนแผ่นดินอย่างพวกเจ้า ทำให้เกิดกรรมกับแผ่นดิน

    - เมื่อใดมารสิ้นบุญ เมื่อใดผู้กระทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน บุญวาสนาหมด นั่นแหละ กรรมจะจักโหมหนักยิ่งกว่าแสงสว่าง (คงหมายถึงเพลิงหรือไฟที่จุดเผาสถานที่ต่างๆ) ที่พวกเขาได้กระทำกับคนอื่น แล้วเจ้าคอยดู เจ้าจำนะลูกนะ เมืองบางเมืองที่เจ้าเห็น ก็จะถูกยุคเข็ญเข้าครอบงำ กลียุคก็จะเกิดจากเมืองนั้น ก็เหมือนกับหัวเมืองสมัยเก่าก่อน เมืองใดทรยศต่อธรรมะของตนเอง เมืองใดมีความละโมบโลภในสิ่งต่างๆ ที่มิใช่ทรัพย์ของตน เมืองนั้นแหละก็จะถูกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทำให้เกิดการเผาผลาญ

    - แต่ถ้าถามว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้กระทำมั้ย? มิใช่.. ทุกอย่างจะเกิดจากคนที่มีจิตใจละโมบในอำนาจวาสนา ซึ่งมันมิใช่ของตนแล นะลูกนะ

    อังคารที่ 22 มิ.ย. 53

    - นั่นแหละ แม่ถึงบอกว่าให้พวกเจ้าเตรียมตัวที่จะช่วยมนุษย์ ทั้งด้วยคำภาวนา ทั้งด้วยสิ่งที่เราจะบอกทิศทางที่ถูกต้อง โดยที่ไม่ใช่การหลอกลวงและฉ้อฉลนะลูกนะ

    พฤหัสบดีที่ 15 ก.ค. 53

    - ดวงชะตาบ้านเมืองอ่อนระโหยโรยแรง พร้อมที่จะเสียพื้นที่ พื้นสยามของเจ้าจะถูกตัดหั่นแหว่งหายไป เพลาปีนี้ของมนุษย์ จะสูญเสียแผ่นดิน แล้วจักเพลานี้ ที่มินานนี้จะเกิดศึกเช่นนี้ขึ้น ถ้าผู้ที่ปวารณาตัว ไม่ลุกขึ้นมาทำอะไรโดยเร็ววัน

    เสาร์ที่ 21 ส.ค. 53

    - เจ้าจำนะ อีกไม่กี่เพลา “แดงจะเดือด เลือดจะฉาน” เข้าใจมั้ยลูก? ฉะนั้นเจ้าจงจำ แม้ทุกอย่างจะเกิดการเปลี่ยนแปลง การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ จะเปลี่ยนแปลงในทางดีที่เจ้าคาดคิด คือเรื่องของคนข้างกาย แต่ผลเสียคือ จะทำให้เกิดการสูญเสียที่ไม่ยิ่งหย่อน

    - ถึงอย่างไรก็ตาม ทุกอย่างจะเป็นไปตามที่แม่เคยบอกเจ้า ที่เจ้าบันทึกไว้จะเริ่มเกิด และบันทึกที่เจ้าจะต้องบันทึกใหม่คือบันทึกเหตุการณ์ที่จะเกิดใหม่เร็วๆ นี้

    พฤหัสบดีที่ 9 ก.ย. 53

    - เจ้าจำนะ แดงเลือดที่จะสาดส่องมาคราวนี้ จะเป็นแดงเลือดสุดท้าย แล้วจากนั้น ความสุขสงบและสวัสดี สำหรับแผ่นดิน ก็จะเกิดขึ้นอีกคราหนึ่ง

    อังคารที่ 28 ก.ย. 53

    - อีกอึดใจมนุษย์ เจ้าจะเห็นความเปลี่ยนแปลง แต่ความเปลี่ยนแปลงนั้น จะแฝงไปด้วยเลือด จะแฝงไปด้วยความฉิบหายของบ้านเมือง และสูญเสียผู้ที่ทำคุณประโยชน์ให้กับบ้านเมือง

    - เจ้าจำนะลูกนะ ความสูญเสียทางหายนะ ฉิบหายของธรรมชาติก็คืบคลานใกล้เข้ามา คลื่นใหญ่ที่จะถาโถมทำร้ายมนุษย์ ทำให้บ้านเรือนล่มสลายก็ใกล้ที่จะเข้ามา ความวิบัติจากทุกอย่างจะใกล้เข้ามา แต่ทุกอย่างที่เกิดขึ้นนี้ ก็คือชะตากรรมของแผ่นดินที่มนุษย์ผู้เหยียบย่ำอยู่นั้น ก่อให้เกิดกันเอง ความโลภ ความอยากมีอำนาจ ความอยากได้การยกย่อง นั่นแหละคือกรรมที่ทำแล้วตกกับธรณีแผ่นดิน แล้วผู้ที่ได้รับกรรมก็คือพวกที่มิได้รูเรื่องราวอะไรอย่างที่เจ้าเห็นเค้าเรียกว่า “คนเล็กคนน้อย”

    - ก่อนที่แผ่นดินสยามจะสงบ มันก็เหมือนอโยธยาเก่าจะเกิดขึ้นอีกครั้ง ก่อนที่ทุกคนจะหันกลับมารักสามัคคีกัน ก็ต้องสูญเสียจักก่อน

    ศุกร์ที่ 1 ต.ค. 53

    - จงบอกเพื่อนมิตรเถอะ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เขานับถือนั้น มีตัวตนทุกสิ่ง แต่สิ่งนั้นจะบังเกิดต่อเมื่อ พวกเขาเชื่อมั่นและศรัทธา และต้องมีความดีควบคู่ มิใช่มิเป็นคนดี แต่เชื่อมั่น (สิ่งศักดิ์สิทธิ์) ก็ไม่ได้ประโยชน์

    อังคารที่ 5 ต.ค. 53

    - ใครที่ทำให้แผ่นดินร้อน คนที่โกงกินเงินแผ่นดิน แม้อัฐแม้เฟื้อง ผู้นั้นจะไม่มีเป็นสุข

    - ผู้ใดทำให้แผ่นดินร้องไห้ ผู้ใดทำให้เลือดตกถึงธรณี ผู้นั้นจะต้องชดใช้ชีวิตคนอื่นด้วยเลือดและชีวิตเช่นกัน

    - “ธรรมะ ย่อมให้การตอบสนอง ผู้กระทำความดี” ไม่มีผู้ใดกระทำความดีแล้วได้รับการตอบสนองด้วยความเลวร้ายหรอกนะลูกนะ

    อังคารที่ 2 พ.ย. 53

    - ถ้าเปรียบแล้ว มนุษย์ก็เหมือนเปลือกต้นไม้ ที่บางครั้งพยายามห่อหุ้มตัวเองไว้ มิให้ใครเห็นแก่นของต้นของตน แต่อีกไม่ช้านี่แหละ มนุษย์บางคนที่ยิ่งใหญ่ (นายกฯ ปัจจุบัน) ก็จะถูกลอกเปลือก ผู้ใดในแก่นของไม้นั้นมันดำ ถูกมอดหรือถูกอะไรต่างๆ คอยทำอยู่ มันก็จะโค่นด้วยความเปราะบางของมันเอง คือความชั่วที่ถูกซ่อนไว้ใต้เปลือกไม้ ก็จะถูกกระชากออกมาแล้วนั่นแหละ คือการเปลี่ยนแปลง

    อาทิตย์ที่ 28 พ.ย. 53

    - ถ้าถามเรื่องชาติบ้านเมือง แม่บอกได้เลยว่า มันจะยุ่งเสียยิ่งกว่ายุคใดๆ ที่เจ้าเคยจักเห็น ยุคของการเข่นฆ่าแบบเลือดเย็น ยุคของการฆ่ากันแบบว่าไม่ได้รู้ว่าผู้ใดเป็นผู้ทำ ผู้ใดคือผู้ที่ต้องตายต่อไป แล้วเจ้าจำนะลูกนะ เมื่อถึงเวลานั้นแล้ว คนดีอย่างพวกเจ้าต้องหลบ เพื่อให้ใบไม้มันผลิใบ มันหล่นจนพอจักใจมัน แล้วความดี คนดีก็จะขึ้นมาเป็นแขนงอ่อน แขนงอ่อนก็คือ พวกที่ดีๆ ของพวกเจ้า จะรวมกลุ่มกัน แล้วแผ่นดินแห่งการเปลี่ยนแปลงก็จะเริ่มค่อยๆ เกิด เหมือนต้นกล้าที่ผุดทีละนิดและมันก็จะเติบโตด้วยความแกร่งกล้าที่ลำต้น มันจะไม่สามารถโดนเพลี้ย หรือแมลงใดทำลาย

    พุธที่ 15 ธ.ค. 53

    - จำไว้เถอะ แผ่นดินสยามที่เจ้ายืนอยู่นี้ จะมิราบคาบด้วยอธรรม แผ่นดินสยาม ไม่มีมารตนใดจะสำเร็จผลในการที่จะขึ้นครองแผ่นดิน คนดีที่ปวารณาตัวว่าจะรักษาธรรมะให้อยู่เคียงคู่กับแผ่นดินสยาม จะได้รับการตอบแทนจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ “กรรม” กำลังไล่ล่าผู้ที่กระทำต่อแผ่นดินไทยโดยการที่โกงชาติบ้านเมือง

    ที่มา Anontawong Series - Anontawong Series
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1_42.jpg
      1_42.jpg
      ขนาดไฟล์:
      47.5 KB
      เปิดดู:
      1,749
    • ExDay.jpg
      ExDay.jpg
      ขนาดไฟล์:
      28.6 KB
      เปิดดู:
      87
    • 012a.jpg
      012a.jpg
      ขนาดไฟล์:
      39.1 KB
      เปิดดู:
      89
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มีนาคม 2012
  11. Mr.tom

    Mr.tom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2005
    โพสต์:
    269
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,185
    มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาประเทศฯ จับมือภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน เปิดเวที “อะไร คือ เศรษฐกิจพอเพียง” มุ่งขับเคลื่อนการประยุกต์ใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในมิติต่างๆ

    มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาประเทศตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (มพพ.) ร่วมกับภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน จัดปาฐกถาพิเศษพร้อมแลกเปลี่ยนความเห็น ภายใต้หัวข้อ “อะไร คือ เศรษฐกิจพอเพียง” เพื่อเผยแพร่ความรู้ และความก้าวหน้าการประยุกต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในมิติต่างๆ ในวันพุธที่ 28 มีนาคม 2555 เวลา 8.00 — 16.30 น. ณ ห้องแกรนด์ไดมอน บอลรูม ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้า อิมแพค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี

    ภาคเช้า ชมวีดิทัศน์ “อะไร คือ เศรษฐกิจพอเพียง” พร้อมรับฟังปาฐกถาพิเศษเกี่ยวกับปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงจาก ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ประธานกรรมการมูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาประเทศตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์เกษม วัฒนชัย องคมนตรี นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี และ ดร.จิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์

    ภาคบ่าย การแบ่งกลุ่มเสวนาเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ถ่ายทอดประสบการณ์ความสำเร็จจากการนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใช้ของภาคส่วนต่างๆ 5 กลุ่มย่อย ให้ผู้ร่วมประชุมสามารถเลือกเข้าฟัง ประกอบด้วย

    กลุ่มที่ 1 อะไรคือเศรษฐกิจพอเพียงของภาคการศึกษา
    กลุ่มที่ 2 อะไรคือเศรษฐกิจพอเพียงของภาคธุรกิจเอกชน
    กลุ่มที่ 3 อะไรคือเศรษฐกิจพอเพียงของภาคประชาชนและชุมชน
    กลุ่มที่ 4 อะไรคือเศรษฐกิจพอเพียงของภาครัฐ
    กลุ่มที่ 5 อะไรคือเศรษฐกิจพอเพียงในกลุ่มเด็กและเยาวชน
    สำรองที่นั่ง และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานมูลนิธิสถาบันวิจัยฯ โทร. 0-2280-4085 ต่อ 2311, 6114, 6158

    ที่มา
     
  12. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    วันฟ้าดับ

    [​IMG]
    MThai News : กลายเป็นกระแสที่ถูกพูดถึงกันในโลกออนไลน์อีกครั้ง หลังจากมีผู้นำบทความเรื่อง วันฟ้าดับ โพสในเว็บไซต์ดัง ทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆนาๆ และมีการส่งต่อกันจำนวนมาก
    โดยบันทึกดังกล่าวมีชื่อว่า บันทึกของพระคุณลุงคนเชียงใหม่ถึงหลานๆ เรื่องภัยพิบัติ ซึ่งได้บอกถึงภัยพิบัติต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นใน วันฟ้าดับ และภาพคนล้มตายมากมาย ซึ่งบทความดังกล่าวได้เขียนไว้ดังนี้
    ………………………………………………………………………………………………….
    บันทึกของพระคุณลุงคนเชียงใหม่ถึงหลาน ๆ เรื่องภัยพิบัติ
    เรียนสมาชิกทุกท่านครับ หลังจากไตร่ตรองอยู่หลายวัน ผมตัดสินใจนำบันทึกทั้งหมดของพระคุณลุงออกนำมาเสนอก่อนที่จะเกิดภัยพิบัติมากเกินไป กว่าที่จะคาดเดาได้ของมนุษย์ชาติ ในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย โดยที่ผมมีส่วนได้เห็นคำบันทึกอันเนื่องมากจากญาน ของพระคุณลุง โดยที่ผมไม่ได้นำมาเสนอให้มีการเตรียมการกัน จะเป็นบาปติดในใจผมซึ่งถ้าเกิดเหตุการณ์แบบในบันทึก ที่เขียนไว้ แม้นว่าตัวผมเองจะได้วางอุเบกขา แต่ว่าถ้าไม่ได้เผยแพร่ออกไปผมสิ่งนี้ถือว่าผมขาดเมตตา จะเชื่อหรือไม่เป็นเรื่องของบุญกรรมของท่าน ในส่วนตัวผมเองถือว่าได้เผยแพร่สิ่งที่ติดค้างในใจผมแล้ว
    ผมขอแบ่งบันทึกออกเป็น 4 ตอนนะครับ
    1. เรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันฟ้าดับ
    2. เรื่องราวที่จะเกิดตามมาหลังวันฟ้าดับ 3 วัน
    3. เรื่องราวที่จะเกิดขึ้นหลัง จากวันฟ้าดับ
    4. คนไทยจะเผชิญกับสิ่งใดบ้าง
    1.เรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันฟ้าดับ
    วิกรมหลานลุง หลังจากลุงได้แจ่มชัดในญานทัศนะในสิ่งที่จะเกิดขึ้นแล้ว ทำให้จิตใจของลุงเองเศร้าหมอง จนไม่อาจข่มจิตให้เป็นอุเบกขาว่ามนุษย์ทุกคนล้วนมีกรรมเป็นของตัวเอง การเข้าไปก้าวล่วงกรรมของผู้อื่นนั้น ผู้ที่เข้าไปเปลี่ยนแปลงนั้นจะต้องเป็นผู้แบกรับกรรมนั้นๆ ไว้ หลังจากบันทึกนี้ลุงตัดสินใจที่จะออกบวช เรื่องราวที่มีการเตรียมการกันนั้น ฝากให้หลานดูแล ประสานกับคุณลุงประสิทธิ์ และกลุ่มบ้านพุทธบุตร เพื่อช่วยเหลือกันตามกำลังบุญต่อไป เรื่องราวที่ลุงบันทึกทิ้งไว้ใหลานนี้ ทั้งหมดเพื่อไม่ให้หลานและ คณะเกิดความประมาท ในสิ่งที่จะเกิดขึ้น ทั้งในด้านการเตรียมการภายนอกและการเตรียมการภายใน เน้นย้ำเรื่องการฝึกตายก่อนตาย เพื่อให้จิตคุ้นเคยกับอาสัญกรรมในทางสว่าง ให้กับน้อง ๆ และหลาน ๆ ทุกคนด้วย เพราะกุญแจดอกแรกที่จะเปิดเข้าไปในโลกแห่งวิญญานนั้น กรรมที่แรงสุดคืออาสัญกรรม เพราะถ้าจิตผูกยึดกับสิ่งใดในขณะที่ขาดห้วงลมหายใจสุดท้ายนั้นถ้าหากมีเพียงแค่เสี้ยวอึดใจ อาจจะถลำลงสู่อบายภูมิถ้า จิตเป็นอกุศล หมั่นทำทานในสิ่งที่ยากๆเพื่อไม่ให้ตนติดยึดกับคน สัตว์สิ่งของใดๆ อันจะเป็นแรงเหนี่ยวรั้งเรา ไปสู่การเกิดที่ไม่เป็นกุศล หม่นเจริญมรณะสติ เรื่องราวที่ลุงได้บันทึกไว้ให้หลานนี้ เป็นเรื่องราวที่เกิดจากญานทัศนะของลุง เพื่อให้หลาน จะได้เตรียมตัว เตรียมใจ วันเวลาอาจจะมีการคลาดเคลื่อนบ้างตามเหตุและปัจจัย แต่ เรื่องราวที่จะเกิดขึ้น สิ่งเตือนซึ่งวันเกิดภัยพิบัตินั้น ไม่เปลี่ยนแปลง
    เรื่องราวที่จะเกิดขึ้นนั้น ลุงขอเรียกว่า วันฟ้าดับ ก็แล้วกัน เพราะในยามนั้น สิ่งที่เกิดขึ้น ทุกด้านมืดสนิท แม้แต่ในยามที่เราหลับตายังมีความสว่างมากกว่าเสียอีก ลุงบันทึกหลังจากอธิฐาน ไปยังวันก่อนหน้าที่จะเกิดภัยพิบัติแก่บ้านเรา 3 วันเจ็ดวัน ก่อนหน้านั้นลุงเห็น คนที่มีจิตเป็นอกุศลกรรม ได้มีการฉลอง จุดพลุ ร้องเพลงปีใหม่และนับย้อนหลังในวันสิ้นปี (ลุงจึงคาดว่าเหตุการจะเกิดขึ้นหลังฉลองสิ้นปีใหม่) ลุงเห็นดาวเหนือเปลี่ยนไป ในลักษณะที่อธิบายไม่ถูก แต่มีความแตกต่างและเห็นได้เจนทั้งขนาด และความสว่าง (จุดนี้น่าจะเป็นสัญญานเตือนให้มีการเตรียมการกันนานหลายวัน) ในวันฟ้าดับ ก่อนหน้านั้นจะมีฝนตกต่อเนื่องกันหลายวัน แล้วในวันนั้นไร้ฝน ฟ้าหม่นหมองยิ่งนัก ใบไม้ เงียบจนไม่ฟลิกใบ ฝูงสัตว์เลี้ยง สัตว์ป่า จะครวญครางแอบหมอบ
    ลุงเห็นฟ้าสว่างโร่อย่างไม่เคนเห็นมาก่อน (ทำให้ลุงนึกถึงเรื่องราวที่คนเล่าถึงแสงสว่างจากระเบิดปรมาณู) ในยามที่เกิดแสงสว่างลุงเตือนหลานและทุกคนอย่าพยายามที่จะมองหาต้นทางของแสง เพราะหลังจากนั้นลุงเห็นภาพคนที่ตามืดบอดเนื่องจากแสงจักรวาลที่ฟาดลงมาแทงทำลายตาของเขา แต่หลังจากเกิดแสงนี้แล้วหลานยังมีเวลาเตรียมตัว ในช่วงนี้เองสัตว์ต่าง ๆ จะตื่นกลัววิ่งหนีแบบ ไม่มีทิศทาง บ้านเราถ้ามีสัตว์ใดขอให้หลานอย่าได้กักขังเขา เพราะจะเป็นอันตราย แม่แต่สัตว์ที่เชื่องที่สุด แต่ก็มีบางตัวที่จะรอดนั้นจะหมอบตัวสั่นใกล้ ๆ กับมนุษย์ ในยามนี้ขอให้หลานได้เข้าไปยังสถานที่ที่มีการเตรียมการและปิดให้มิดชิด อาหาร น้ำ ยา และชุดยังชีพให้ทุกคนแยกติดตัวไว้ อย่าเอารวมกันเพื่อจะแบ่งกัน เพราะอาจจะลำบากมาก ในการติดต่อกันแม้แต่อยู่ใกล้ ๆ กัน
    ส่วนการย้ายเข้าที่ปลอดภัยและ ที่มีมีการเตรียมการอพยพขอให้หลานๆได้เตรียมตัวกันเต็มที่ หลังจากที่เห็นดาวเหนือเปลี่ยนไป หลังจากที่มีแสงจักรวาลเข้ามาแล้ว หลังอีกไม่นานนัก ลุงเห็นภาพคนกำลังทานข้าวกันอยู่ จะเกิดเหตุการณ์โลกเราเหมือกับชนกับอะไรซักอย่าง คนที่อยู่บนผืนดิน เหมือนคนที่อยู่บน รถขนาดใหญ่ที่มีการชน ภาพคนคนล้มไถล ไปกับพื้น ตึกพังทลายราบ ลงมาทันที ยังไม่ทันได้ตั้งตัว จะมีเสียงดังเหมือนวัวยักษ์ครางอือ ๆๆๆๆๆ ขอให้หลานและทุกคนห้องแข็งแรงของเรา หรือคนที่ อยู่นอกพื้นที่ให้เข้าไปยังที่มีหลังคาแข็งแรงและปิดหูด้วยอุปกรณ์ป้องกันเสียงที่ลุงได้ให้เตรียมไว้แล้ว เพราะพอเสียงวัวยักษ์ร้องเงียบลง ไม่กี่อึดใจ ลุงเห็นภาพผู้คนวิ่งออกจากตึกเพราะกลัวแผ่นดินไหวที่จะตามมา หลังจากนั้น จะมีเสียงดังที่สุด ซึ่งลุงก็บอกไม่ได้ว่ามันดังแค่ใหน แต่หลังจากนั้นลุงเห็นผู้คนเลือดออกจากรูหูนอนกลิ้งเกลือก ไปตามพื้น ตาเถลือกถลน คนที่เอามืออุดหูทันนั้น ก็ยังไม่สามารถป้องกันได้ เพราะลุงเห็นคน ที่พยายามสื่อสารกัน แต่เหมือนกับว่าคนในโลกนี้แก้วหูขาดไปหมดสิ้นแล้ว เสียงตะโกนโหวกเหวก แต่ต่างคนต่างไม่รู้เรื่อง ลุงจึงขอย้ำเตือนหลานตรงนี้เรื่องการจัดหาอุปกรณ์ป้องกันหูให้ดีที่สุด อาจจะทำให้หนักเป็นเบาได้
    หลังจากนั้นลุงเห็นภาพที่ทุกคนกลับมาตื่นกลัวอีกครั้งจากแผ่นดินไหวรุนแรงและสั่นต่อเนื่องกันผิดจากครั้งแรกที่เหมือนจะชนโครมเดียวแล้วหยุด แต่คราวนี้เป็นเหมือนมีคนจับเอาเราอยู่ในกระด้งแล้วเคาะ ขอบมันอย่างแรงอย่างต่อเนื่อง เสียงหวีดร้องตื่นกลัวดังไประงม แต่ในยามมนั้นนิมิตลุงอาจจะมี เพียงลุงในจุดนั้นที่ได้ยินเสียงเพราะภาพคนที่วิ่งไปมามีเลือดไหลออกจากหู ช่างเป็นภาพที่น่าเวทนา ที่ลูกหลานที่พ่อแม่หอบออกมาจากอาคารบ้านเรือนที่กลัวแผ่นดินไหว มาเจอเสียงดังก็วิงกลับไป ในที่คิดว่าปลอดภัย และพอแผ่นดินไหว ก็พากันวิ่งกระเซอะกระเซิง อออกมาอีก หลานวิกรม ลุงเห็นภาพที่สร้างความน่าเวทนาสงสารสรรพสัตว์ทั้งหลาย ว่าชีวิตมนุษย์มีเพียงแค่นี้เอง ยังไม่จบสิ้นแค่นี้นะ ภาพผู้คนที่วิ่งหลบแผ่นดินไหวออกมา นั่งกอดกัน ร้องไห้ เป็นกลุ่ม ๆ มีควันไฟ ที่เกิดจากไฟไหม้ลอยคละคลุ้งไปหมด หลายคนที่เสียสติเริ่มต้นร้องไห้ ภาพพ่อแม่พยายามค้นหาลูกหลานที่ติดอยู่ในซากปรักหักพัง ต่างคนต่างฟูทฟายร้องไห้ ไม่มีใครสามารถช่วยใครได้
    ในตอนค่ำลุงเห็นคนมารวมกันมีการก่อกองไฟ อากาศหนาว แต่ลมสงบนิ่ง ตอนนี้ลุงเห็นขอฟ้าแดงจ้า จนน่ากลัว แล้วสิ่งที่ลุงเรียกว่าวันฟ้าดับก็เกิดขึ้น ลุงเห็นมีแสงสีแดงพุ่งมาจากพระอาทิตย์ วาบหนึ่ง จากนั้นแสงทั้งหมดก็จะม้วนเข้าไปในรูปทรงกลม ลูงไม่รู้จะเรียกอะไร น่าจะเป็นพระจันทร์ดำ เพราะเป็นสีดำ ๆ เหมือนจันทรุปราคาที่มาบดบังพระอาทิตย์แต่เล็กกว่ามาก แต่ตอนนั้นพระจันทร์ก็ยังเห็นอยู่ แล้วบรรยากาศที่เหมือนเราดับเทียนในห้องมืดที่สุดก็เกิดขึ้น พรึบเดียวแสงทั้งหมดจะหายไป แม้แต่ดวงดาวและพระจันทร์ก็ไม่สามารถมองเห็นได้ ความมืดในขณะนั้นลุงเห็นคนพยายามยกมือ ของตนเองขึ้นมาดูก็ยังไม่สามารถเห็นได้ ความตื่นกลัวก็เกิดโกลาหลอีกครั้ง คนจะกอดคนที่อยู่ใกล้ที่สุดแล้วร้องไห้ระงม คนที่อยู่ห่างจากคนอื่น แม้แต่วาเดียวก็ไม่สามารถหากันเจอ จนกว่าจะคลำหากันเจอ ช่างเป็นภาพที่น่าเอน็จอนาจมาก คนส่วนใหญ่ ที่หูจะแตกดับ หรือคนที่อุดหูทันก็จะมีอาการหูอื่ออึงอยู่ แต่ก็พอยังมองเห็นกัน แต่ในยามมืดสนิทแล้ว เสียงคนพยายามตะโกนหากัน เสียงหวีดร้อง โหยหวนด้วยความกลัว แต่คนส่วนใหญ่จะไม่ได้ยิน ได้แต่สะเปสะปะไขว่คว้าหากัน อย่างนี้เองลุงถึงได้ย้ำกับหลานว่าให้แยกเป้ที่จัดเตรียมไว้ให้สำหรับแต่ละคน และเมื่อเข้าไปอยู่ในที่ห้องปลอดภัยที่ได้เตรียมสร้างไว้ ขอให้หลานสร้างตามแปลนที่ลุงได้เขียนไว้ให้ ตู้คอนเทนเนอร์ที่เตรียมทั้งตู้อาหาร ตู้ปลอดภัย และโรงพยาบาลเคลื่อนที่ ด้วย
    ตอนนี้ดึกมากแล้ว ลุงง่วงแล้วแต่ยังอยากบันทึกให้หลานไว้ให้เสร็จก่อนที่เดินทางไปหาพระอาจารย์ ภาพที่เกิดมาลุงรู้สึกเศร้า ใจกับญานทัศนะที่ลุงได้เคลื่อนไปในยามที่เด่นชัดกับเจอภาพภัยพิบัติที่หนักหนา สาหัญกว่าที่ลุงเตรียมการไว้ จนเกิดเวทนาในสัตว์โลก และเห้นการคร่ำควรญของคนที่ไม่เคยศึกษาทางธรรม และไม่ได้เตรียมตัวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นและเตรียมมรณะสติไว้เลย ในส่วนที่ลุงบันทึกนี้คนที่มีกรรมและไม่เคยฝึกสมถะกรรมฐานผ่านในขั้ขรูปญานและอรูปญาน 4 นั้น หลานอย่าไปอธิบายเขาเลย เพราะจิตเขาหยาบกว่าที่จะเข้าใจ ในวันฟ้าดับยังมีเรื่องเอน็จอนาจซ้ำเติมมนุษย์ที่ไม่ได้เตรียมการอีก หลังจากที่มืดมิดแล้วลุงยังเห็นภาพ คนคลานหนีหรือกอดกันร้องไห้เพราะยังมีอาการแผ่นดินไหวเป็นระยะ ๆ มากบ้างน้อยบ้างภาพเพดาน สิ่งของเท่าที่คนไปแอบซุกอยู่หล่นลงมา มีคนเจ็บคนตายร้องครวญคราง
    แต่วิกรมมีสิ่งที่น่ากลัวกว่านั้นก็คือ คนที่รอดตายขณะนั้นจะตายมากอีก ลุงเห็นภาพ น้ำแข็งก้อนเท่าทีวี เท่าบาตร หรือบางก้อนขนาดเท่าตู้เย็นเล็ก ทะยอยตกลงมาจากฟ้า ส่วนก้อนขนาดกำปั้น ตกกระจายไปทั่ว คนที่หลบหนีหลังคนที่หักโครมครามออกมาท่ามกลางความมืดนั้น มาอยู่ในที่โล่ง ต้องมาตายกับฝนลูกเห็บยัก ที่มีความเย็นจัดมาก เพราะลุงเห็นภาพคนแข็งตายอยู่กราดเกลื่อน เต็มไปหมด แต่ภาพที่เกิดหลังจากนี้ที่หลานคงคิดว่ามนุษย์ชาติจะอยู่อย่างไร เมื่อลุงอธิฐานไปยังหลังจากนี้แล้วกลับเน็จอนาจ ยิ่งกว่า ลุงจะได้พยายามทบทวนเรียบเรียงสิ่งที่ลุงเห็นมา บันทึกให้หลานๆได้นำไปเตรียมตัวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น ทั้งหมดในสิ่งที่ลุงเห็นมานั้นไม่เคยแจ่มชัดเท่านี้มาก่อน แต่สิ่งที่ลุงได้อธิฐานว่าถ้าลุงมีบารมี และมีบุญที่เกี่ยวเนื่อง กับพระอาจารย์โสณะ ขอโปรดเมตตา ให้ญานทัศนะของลุงชัดเจนแจ่มใส จนได้เห็นภาพเหล่านี้ขึ้นมา
    ขอพระบารมีขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระอริยสงฆ์ทุกพระองค์ได้โปรดเมตตาสรรพสัตว์ และหลานๆด้วย
    ………………………………………………………………………………………….
    2. เรื่องราวที่จะเกิดตามมาหลังวันฟ้าดับ 3 วัน
    วิกรมที่ลุงฝากบันทึกนี้ให้หลานเพราะ ลุงคาดว่าต้องใช้เวลาสองสามวัน ที่จะบันทึกให้เสร็จหมด เพราะพิมพ์ได้ช้ามาก และที่มอบให้หลานเพราะ หลานเป็นญาติเพียงคนเดียวที่สามารถแยกกายจิตรวมทั้งฝึกสมถะกรรมฐานได้ในระดับที่ จะสามารถสื่อสารทางจิตกับลุงได้ แม้ตอนนี้จะยังไม่สามารถจะไปหน้าหรือย้อนกลับในเรื่องราวของตนเองได้ดีแต่ ขอให้หลานตั้งใจฝึกฝน รายชื่อพระอาจารย์ที่หลานควรจะเดินทางไปฝึกฝนต่อไป บันทึกในส่วนนี้ลุงขอเล่าในเรื่องหลังจากผ่านคืนฟ้าดับมาแล้ว เพื่อให้หลานๆได้เตรียมตัว บันทึกเมื่อคืนก่อนแม้ลุง จะไม่ได้บันทึกละเอียดได้เท่าที่ลุงเห็นมา แต่ภาพรวมก็คงไม่ขาดไปมาก ที่ลุงต้องรีบบันทึกเพราะวันที่ 17 นี้ ลุงจะเดินทางตามพระอาจารย์ไปยังหลวงน้ำทา ประเทศลาวตอนบน
    วิกรม ในส่วนของพื้นที่ ๆ ได้มีการจัดเตรียมไว้นั้นที่ลุงประสิทธิ์เสนอย้ายให้ไกล้ลงมานั้นและรับคนในหมู่บ้านให้มากเพิ่มนั้นลุงขอเล่าเรื่องที่ลุงเห็นมา จะตัดสินใจอย่างไรแล้วแต่หลาน ๆ จะร่วมกันพิจารณา บันทึกในส่วนก่อนลุงเล่าถึงเรื่อง มีก้อนน้ำแข็งที่ตกมาจากท้องฟ้า ทำให้อากาศหนาวเย็นและลมแรงมาก ในส่วนของตู้คอนเทนเนอร์ที่นำมาสร้างห้องแข็งแรงนั้นขอให้ใช้ตู้เหล็กขนาดใหญ่ที่ลุงสั่งมา และให้เร่งเสริม เหล็กกันกระแทกด้านบนและด้านข้าง ให้เลือกที่เป็นตู้ที่ใช้เป็นห้องเย็น เพราะจะช่วยเรื่องอากาศหนาวเย็นหลัง จากมีก้อนน้ำแข็งตกลงมาจากฟ้าได้ดี ในส่วนของตู้สำหรับบรรจุอาหารนั้นถ้าสามารถรวบรวมเงินได้ ก็ให้เปลี่ยนเป็น ตู้แบบตู้ห้องเย็นให้หมด ก็จะปลอดภัยมากขึ้น
    เหตุผลที่ไม่ควรย้ายลงมาเพราะว่า ภาพที่ลุงเห็นถัดไปก็คือ หลังจากที่มีการหยุดของโลกกึ๊กหนึ่งนั้น ภาพน้ำข้ามภูเขามาจำนวนมากมาย ลุงเห็นภาพกรุงเทพจมหายไปกับสายน้ำ ภาพเขื่อนภูมิพล และหลาย ๆ เขื่อนลุงไม่แน่ใจว่าอะไรบ้าง บิดร้าว ตัวเขื่อนแม้ไม่แตกสลายแต่ ขอบ ๆ เขื่อนที่เป็นภูเขาเป็นดิน มีรอยร้าว และมีน้ำกัดเจาะเข้าไป จนน้ำทะลุภูเขาไปอีกด้านจน สุดท้ายภูเขาก็แบ่งออกเป็นสองซีก ลุงเห็นภาพน้ำกวาดบ้านไปเหมือนของเล่น
    ที่เชียงใหม่บ้านเราได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวมากไม่น้อยกว่าทีอื่น ๆ แต่เรื่องน้ำนั้น เขื่อนแม่งัดแม่กวง แตกพังทะลาย น้ำที่แตกมาจากเขื่อนจะกวาด บ้านเรือนที่อยู่ในส่วนตอนล่าง ลุงเห็นภาพเจดีย์ขาวที่อยู่หน้าเทศบาล ที่ติดแม่น้ำปิงเห็นแต่ตัวยอดนิดเดียว ฝากหลานไปบอกให้เจ้านิดหน่อยกับลูก ๆ และแฟนเขา ย้ายบ้านมารวมกับหลาน แบ่งพื้นที่หลังบ้านในส่วนของลุงยกให้นิดเลยก็ได้ หรือถ้าไม่อยากสร้างใหม่ก็มาอยู่ที่บ้านหลังเล็กของลุงเลย เพราะแถวแม่ริมนี้จะได้รับผลกระทบจากการพังของเขื่อนน้อยก็ เป็นเพียงแต่น้ำเอ่อล้นแผ่ออกมา แต่คาดว่าแผ่มาแต่ไม่ท่วมถึงหน้าวัดบ้านเราหรือว่าขึ้นมาก็คงไม่สูงมากเพราะปริมาณน้ำในเขื่อนแม่งัดน้อยกว่า เขื่อนแม่กวง
    ภาพที่ลุงเห็นในเมืองเชียงใหม่ ตึกรามบ้านช่องที่พังทลายจากก่อนหน้านั้นผู้คนออกมาในคืนฟ้าดับนั้น กลับโดนกวาดไปกับสายน้ำ ที่บ้านเราจะรุนแรงและต่อเนื่องกันเพราะเขื่อนบ้านเราอยู่ใกล้เขื่อนน้ำเดินทางเพียง สองสามชั่วโมงเท่านั้นเอง คนแถวสันทราย ดอยสะเก็ด ช่อแลคงเลี่ยงหนีไม่พ้น มวลน้ำทั้งหมดจะกวาด ไปผ่านลำพูน ไปทั้งหมด แต่ด้วยระยะทางของน้ำก็จะเสียหายน้อยกว่าแถว สันทราย เมือง สันกำแพง แถวอำเภอบ้านธิ ลำพูน ลุงจะเตือน ป้าแดงของหลาน และญาติของเราแล้วแต่เขาเคยฝึกจิต และเชื่อเรื่องการเปลี่ยนของโลกได้อย่างไร คงแล้วแต่บุญกรรมของเขา แต่การสูญเสียบ้านเราก็น้อยกว่า พื้นที่เขื่อนใหญ่ๆ ที่มีมวลน้ำจำนวนมาก อย่างเทียบไม่ได้ ลุงเห็นภาพ เจดีย์วัดอรุณ เห็นเพียงยอดฉัตรเท่านั้น หมายถึงกรุงเทพ คงไม่มีที่แห้งให้ยืน ลุงย้ำตอนนี้ขอให้เลือกพื้นที่ อย่างไรก็ให้อยู่ตอนเหนือของเขื่อนหรือหลานจะแนะนำใคร ที่จะย้ายออกมา เพราะเชียงใหม่เองก็ไม่ใช่ว่าจะปลอดภัยทั้งหมด ในยามที่โลกมืดมิดมองไม่เห็นอะไรนั้น พ้นจากแผ่นดินไหว แล้วสายน้ำก็กวาดลงมาอีก จะมีใครซักกี่คนหนอที่จะรอดผ่านไปได้ถ้าไม่มีการเตรียมการก่อนล่วงหน้า รวมทั้งการเลือกพื้นที่ ๆ ปลอดภัยก่อนเพราะในยามนั้นไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้แล้ว
    อดคิดถึงเชียงรายพะเยาไม่ได้ ถ้าน้ำจากเขื่อนที่จีนสร้างไม่รู้จะเสร็จเมื่อไหร่ แตกลงมา ที่ว่าเป็นเขื่อนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ก็หมายถึงมีการกักน้ำได้มากที่สุด จะทะลักมาตอนนั้นอีกมากเท่าไหร่ หลานอยากแปลกใจเลยที่จุดปลอดภัยของ เชียงรายอยู่ที่ดอยตุง มีเรื่องที่หลานต้องเตรียมไว้ด้วยนะว่า ในช่วงของการที่มีความมืดมิดของโลกนั้นใช่ว่าจะเป็นความมืดแบบไม่มีแสงใด ๆ คงไม่ใช้ แต่จะมีฟ้าแลบ ฟ้าผ่า ลงมาเสียงผ่าที่ดังกว่าเสียงระเบิด เปรี้ยง ๆ ๆ พอ ๆ กับเสียงระเบิดหิน เป็นเวลาก่อนที่ก้อน น้ำแข็งจะร่วงมาจากฟ้า เพราะฉนั้นเวลาที่มืดมิดแล้วเริ่มเห็นแสงขึ้นมาอย่าออกจากห้องเพราะ มันจะเป็นแสงฟ้าแลบ และจะตามด้วยก้อนน้ำแข็ง ขอให้หลาน ๆ อย่าได้พยายามที่จะเปิดอุปกรณ์ใดที่เป็นแสงเพราะจะเกิดการผ่าเข้ามาที่ บริเวณนั้น แต่ว่าในห้องสามารถที่จะใช้เส้นเรืองแสงที่ลุงให้เตรียมไว้ ในกรณีที่ต้องรักษาอาการบาดเจ็บของคน แต่ต้องปิดประตูให้มิดชิด ให้อยู่ในห้องแข็งแรง นั้นอีก 3 วันหรือจนกว่าอาหารในเป้ ที่เตรียมไว้สำหรับทุกคนหมดที่เตรียมไว้ 4 วัน จึงออกมาจากห้องแข็งแรงได้
    ในช่วงที่อยู่ในห้องแข็งแรง ขอให้หลาน นำน้อง ๆ และลูก สวดบทสวดมนต์ที่ลุงได้บังคับท่องให้ขึ้นใจ ไม่ต้องกลัวว่าใครจะได้ยินเพราะตอนนั้นคนส่วนใหญ่จะหูแตกหรือยังอื้ออึงอยู่ แต่จะช่วยป้องกันอมนุษย์ หรือสิ่งที่หลุดออกมาจากโลกที่ต่างมิติออกไปเข้ามา หลานเคี่ยวเข็ญให้ยายจุ๊กจิ๊ก กับหนูบ๊วย สวดด้วยอย่างน้อยต้องสวดบทชินบัญชรต้องได้ วิกรม อย่าลืมน้ำผึ้งที่ลุงสั่งไว้ที่ฟาร์มผึ้งสุภาพเอามาเก็บไว้ในห้องด้วย เพราะจะช่วยเด็กๆไม่ต้อง ทานอาหารแห้ง ๆ อย่างไร้รสชาติไปหลายๆวัน
    ย้ำเรื่องการออกจากห้องแข็งแรง อย่าออกจนกว่าจะเห็นแสงอาทิตย์จากข้างนอก หลังจากนั้น หลานอย่าได้รอที่จะย้ายขึ้นไปรวมกับลุงประสิทธิ์ แต่ต้องรอสังเกตุให้ฟ้าสว่างชัด ถ้าขอบฟ้ายังเป็นสีเหลืองอมฟ้า อย่าได้รีบเคลื่อนย้าย ระวังอย่าให้ทุกคนหรือเด็ก ๆ โดนฝนเป็นอันขาด เพราะในก้อนน้ำแข็งที่หล่นมาจากฟ้านั้นมี เชื้อโรค ที่ยาในรายการที่ลุงเตรียมไว้ให้หามาไว้ในห้องยาของเราไม่ครอบคลุม ลุงได้ตรวจสอบกับครูบาอาจารย์แล้ว ตรงกันก็คือวันฟ้าดับนั้นประมาณ 3 วัน ซึ่งหลานอย่าได้กังวลเกี่ยวกับวันเวลาเพราะ ในสิ่งที่ลุงไปเห็นมา มันมืดจนแยกเวลาไม่ออกอยู่แล้วว่าผ่านไปเทียบกับกี่วันในเวลาโลกปกติ
    ในส่วนที่อื่น ๆ หลานอย่ารู้มากกว่านี้เลย เพราะจำทำให้จิตใจเศร้าหมองกับการจากไปของญาติพี่น้องคนที่รู้จักมากมาย ขอให้หลานอย่าได้หยุดตั้งใจฝึกจิตของหลานให้มีร่างจิตสามารถสื่อสารได้ และสามารถแยกร่างจนชำนาญนั้นก็จะช่วยให้หลานเป็นที่พึ่งของคนอื่น ๆ ได้
    วันนี้คงได้แค่นี้สายตาลุงชักจะไม่ใหวแล้ว ในส่วนของบัญชีเงินฝากของลุงที่มีในธนาคาร กรุงเทพ กรุงไทย และกสิกรไทย ลุงได้เซ็นใบถอนทิ้งไว้แล้ว หลานเบิกและย้ายมารวมกันในบัญชีธนาคารกรุงไทย ที่ลุงให้หลานใช้ในการซื้อของจัดเตรียมสร้างตู้คอนเทนเนอร์ให้หมด จะได้สะดวกในการทำงาน เพราะถ้าหลังจากนี้ลุงบวชเงินก้อนนี้ก็คงไม่จำเป็นสำหรับลุงแล้ว
    ………………………………………………………………………………………….
    3. เรื่องราวที่จะเกิดขึ้นหลัง จากวันฟ้าดับ
    วันนี้วันที่ 15 แล้ว ลุงมีเวลาอีกสองวันที่จะบันทึก ก่อนที่จะเดินทางไปตามกำหนดที่ได้นัดหมายกับพระอาจารย์ไว้ ลุงจะพยายามบันทึกสิ่งที่มีประโยชน์กับหลานและคณะที่เตรียมการกันมากที่สุด เท่าที่จะทำได้ และความสามารถและสายตาลุงสามารถทนได้กับจอคอมพิวเตอร์นี้
    วิกรม ที่ลุงต้องรีบให้หลานอพยพหลังจากที่ฟ้าสว่างแล้วนั้น เพราะหลังจากนั้นอีกไม่เกิน 10 วันศพคนตายที่มีจำนวนมากได้เริ่มเน่าเหม็น แม้ส่วนใหญ่สายน้ำได้จะได้พัดพาไปด้วยแล้ว แต่มีอีกเป็นจำนวนมาก ที่เสียชีวิตเนื่องจากหนาวตายจากอุณภูมิที่ก้อนน้ำแข็งได้ตกมาจากฟ้าและไม่ ได้เตรียมการเอาไว้ อย่าห่วงของที่เหลือเพราะในหมู่บ้านที่มีการเตรียมการไว้แล้วนั้นมีอาหาร เพียงพอสำหรับสมาชิกที่เคลื่อนขึ้นไปทานอย่างประหยัดสามารถอยู่ได้นานกว่า สองปี ซึ่งเมื่อถึงวันนั้น แกนโลกก็คงสมดุลย์และคนอื่นๆก็คงสามารถปรับตัวได้
    ในระหว่างเดินทางนั้น ให้สวมชุดที่ใช้สำหรับการควบคุมโรคไข้หวัดนก ที่ลุงได้ซื้อเตรียมไว้และเมื่อในระหว่างทางเจอฝนให้ใช้ผ้ายางปันโจ กาง อีกครั้งอย่าให้เด็กๆลุยฝน ในช่วงหลังจากนี้วิกรมพาน้อง ๆ หลาน ๆ ไปออกกำลังโดยการเดินทุกวัน เพื่อในยามที่ต้องเดินเท้าจะได้ไม่ลำบาก ลุงทดลองเดินสบายๆโดยไม่หยุดเลย ออกจากบ้านแม่ริมตอนเช้า ไปถึงหมู่บ้านเรายังไม่ค่ำนัก ถ้าจำเป็นก็แบกเจ้าตัวเล็ก ๆ แล้วใช้ตัวลาก บรรทุกของเป้ แบบล้อสูง ก็คงไม่ทุลักทุเลนัก แต่แน่นอนทางเสียหายหมด แต่เส้นทางที่เดินไปหลานเดินทางไปบ่อย ๆ ถึงจะเปลี่ยนแปลงอย่างไรก็คงไม่คลาดเคลื่อนมากนัก ในระหว่างทางถ้ามีการขออาหารหรือสิ่งของก็ให้ไปอย่าขัดขืน แต่ต้องรีบเดินทางให้ถึงก่อนค่ำ
    เพราะในยามค่ำคืนนั้น มีอมนุษย์ที่หลงหลุดมาจากต่างมิติ ที่คุ้นเคยกับความมืด จะมารบกวนเด็ก ๆ ได้ ลุงเล่าเรื่องที่ลุงเห็นผ่านญานให้หลานเตรียมตัวในช่วงนี้จะได้ประมาณสถานการณ์ได้
    ลุงเห็นผู้คนในเมืองที่เสียสติเที่ยวไปคุ้ยเขี่ยหาอาหาร มีการปล้นฆ่ากัน ซากศพก็มีกองระเกะระกะ มีทหารถือปืนเสื้อผ้าขาดกะรุ่งกะริ่งไม่มีสภาพทหารออกมาปล้น โรงพยาบาลที่ลุงเคยทำงาน ตึกใหญ่ล้มพังเกลื่อนลงมา ถนนหนทางที่เราเคยไปถนนคนเดินกันเทพไม่เหลือ สภาพให้จำได้ ลุงกำหนดจิตไปที่กรุงเทพ เป็นภาพที่เอน็จอนาถใจมากกว่า น้ำยังไม่ลดลงมากเท่าไร แต่สิ่งที่ลอยเกลื่อนคือซากศพคนตาย มีฝูงจรเข้ ที่ภูเขาทอง ลุงเห็นภาพคนที่แก่งแย่งกัน ค้นหา ปล้นอาหาร ที่เป็นซากห้างใหญ่
    ลุงเห็นภาพซากเขื่อนที่จังหวัดตาก แตกกวาดน้ำไปตามเส้นทาง แทบไม่เหลือสภาพว่านี้เคยเป็นเมืองที่เคยมีผู้คนอยู่มากมาย ลุงเห็นภาพผู้คนที่รอดมาแต่คงอดอาหารบางคนใส่สูทอยู่เลยแต่รวมตัวกันไปปล้นแย่งอาหารของคนที่รอดตายคนอื่น ๆ มีการฆ่ากัน ภาพคนเสียสติเดินไปเดินมาร้องไห้ หัวเราะ ตีอกชกตัวกันเต็มไปหมด
    ลุงเห็นภาพพระ 2 รูป องค์หนึ่งหน้าตามีเมตตา ขาว ๆ อายุประมาณ 4-50 ปี อีกองค์ อ้วน ๆ คล้ำ ๆนิดหนึ่ง อายุกะไม่ถูก พร้อมกับลูกศิษย์นับร้อย ๆ คน เดินทางลงจากเขาลูกเตี้ย ๆ มีวัดอยู่ข้างบน ลุงไม่แน่ใจว่าที่ใหนนะ ช่วยกันฝังศพ และสวดศพตามมีตามเกิด แต่ที่น่าสนใจคือเขาเป็นชาวบ้านธรรมดาแต่รอดชีวิตมาได้อย่างไร มีการเตรียมการกันอย่างไร โดยที่ไม่แสดงอาการหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลย สิ่งที่ลุงพบในร่างจิตนั้น ขนาดชาวบ้านก็ยังรู้ว่างลุงผ่านไป หลายคนยิ้มให้แสดงว่า มีระดับจิตที่สูงมาก คงเป็นจังหวัดที่ลุงเคยทำงาน ที่มีภูเขาเตี้ย ๆ และมีวัดบนภูเขา ก็น่าจะแถวนครสวรรค์ หรือลพบุรี อะไรแถวนั้น เพราะญาณทัศนะของลุงนั้นจะกำหนดจิตไปยังพื้นที่ ๆ กายเนื้อเคยผ่านมาแล้ว ภาพจะชัดเจนที่สุด ลุงเสนอให้หลานเดินทางไปกราบพระอาจารย์ทั้งสององค์ และหาหมู่บ้านที่มีการฝึกจิตระดับสัมผัสกับญานทัศนะของคนอื่นที่ผ่านมาได้
    หวังว่าหลานจะชวนน้องกิ๊บที่ทำงานกรุงเทพให้ลาออกกลับมาทำงานที่เชียงใหม่ได้ ที่เหลือก็คงเป็นภาพคล้ายๆ กันถึงความสูญเสีย ขอหลานได้เตรียมใจในส่วนของการสูญเสียคนที่หลานรักด้วยลุงไม่อาจบอกได้ว่าเป็นใคร แต่หลานต้องเตรียมพร้อมกับการเกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไปของสังขารทุกคนที่เกิดมาร่วมกัน
    ผู้โพสต์บันทึกพระคุณลุง ที่บันทึกไว้ให้หลาน ๆ ก่อนออกบวช
    วิกรม หลานพระคุณลุง
    ………………………………………………………………………………………….
    4. คนไทยจะเผชิญกับสิ่งใดบ้าง
    บันทึกหน้าสุดท้ายที่จะเขียนถึงหลานก่อนที่พรุ่งนี้ลุงจะออกเดินทางไปเพื่อ ติดตามพระอาจารย์โสณะซึ่งถ้าได้รับอนุญาตจากพระอาจารย์ ลุงคงบวช ตามที่ตัดสินใจไว้ล่วงหน้าก่อนนี้แล้ว ลุงคงไม่มีภาระในทางโลกมากอยู่แล้วเพราะคุณป้าของหลานได้ลาโลกนี้ไปนานหลาย ปีแล้ว วันเวลาที่ผ่านมาลุงก็พอมีความสุขทางโลกกับลูก ๆ หลาน ๆ และช่วยเหลือคนไข้ไปตามประสา จนสามารถที่จะมีเวลาในการศึกษาในทางธรรมจนชีวิตก้าวมาถึงจุดนี้
    บันทึกนี้ลุงบันทึกไว้เพื่อให้ลูกหลานได้ระลึกถึงลุง เพราะหลังจากลุงบวชแล้วต้องติดตามพระอาจารย์โสณะ เท่าที่ได้กราบพระอาจารย์พระอาจารย์จะธุดงค์เป็นส่วนใหญ่ และลุงเชื่อมั่นว่าพระอาจารย์จะมีอายุขัยมาหลายร้อยปีมาแล้ว เพราะลุงได้กราบถามพระอาจารย์ว่าพระอาจารย์ทำไมพูดได้หลายภาษา พระอาจารย์ยิ้ม ๆ แล้วบอกว่า เมื่อจิตฝึกมาดีแล้วและมีเวลาศึกษาอะไรนาน ๆ ก็ไม่ยากที่จะเข้าใจหลาย ๆ ภาษา และถ้าไม่อยากศึกษาก็สามารถสื่อสารกันด้วยจิต ลุงได้ถามว่าพระอาจารย์ชื่อพ้องกับพระในคณะพระที่เดินทางมาจากอินเดียในสมัย พระเจ้าอโศกเพื่อมายังสุวรรณภูมิ พระอาจารย์ยิ้มๆ บอกว่าทำไมคิดว่าพ้องละ ลุงเลยบอกว่าเพราะพระที่มาจากอินเดียรูปนั้น ถ้ายังอยู่อายุคงเป็นพันกว่าปีแล้ว พระอาจารย์ไม่ตอบ แต่เบี่ยงไปว่า ในดินแดนจาตุมหาราชิกา หรือรอยต่อนั้น พรรษาหนึ่งกับบ้านเรานานกว่านั้นแล้วนะ และที่ลุงมั่นใจเพราะว่าระดับจิตเจโตของลุงไม่สามารถเทียบเคียงกับจิตของพระ อาจารย์ได้ ที่สูงกว่าพระที่มีชื่อเสียงในบ้านเราที่ลุงไปกราบมาแล้วตั้งมากมาย จึงคาดว่าอาจจะได้พบกับหลาน หรือว่าไม่มีโอกาสอีกเลยก็ได้ แต่หวังว่าหลานจะฝึกจิตจนร่างจิตสามารถที่จะติดต่อกับลุงได้ในที่สุด
    วิกรม สิ่งที่ลุงได้บันทึกเล่านี้เป็นการบันทึกที่ผ่านญานทัศนะของลุงในระดับจิตที่ลุงมีอยู่ สามารถเดินหน้าถอยหลังชัดเจนในพื้นที่ ๆ กายเนื้อของลุงเคยไปสัมผัสในบริเวณนั้น ๆ แต่ที่ผ่านมาลุงมีโอกาสได้เดินทางไปเกือบทั่วทุกจังหวัด เพราะไปทั้งราชการและป้าของหลานเป็นคนชอบเที่ยว ทำใหการผูกจิตข้ากับจุดที่กายเนื้อผ่านไป มีความชัดเจนในภาพรวมที่พอจะช่วยหลานได้พอสมควร
    สุดท้ายที่ลุงจะบอกกับหลานก็คือ ต่อไปประเทศไทยหลังวันที่โลกมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ลุงไม่แน่ใจว่าในญานที่ลุงผ่านไปนั้น ลุงเห็นพระอาทิตย์ขึ้นทางดอยสุเทพ หรือขึ้นผิดทาง ที่เราเคยเห็นมาโลกคงเปลี่ยนไปมากทีเดียว
    ลุงใช้เวลาหลายคืนในระยะที่ผ่านมาเพื่อกำหนดยังที่ต่าง ๆ หลานจะได้เห็นประเทศไทยเปลี่ยนไป เหนือกับอีสานยังพอมีเหลือคนไทยอยู่มาก น่าสงสารคนภาคใต้ที่โชคร้าย ที่น้ำทะเล สูงเท่าตึก 5 ชั้น 7 ชั้น กวาดเข้ามาในแผ่นดินตอนที่โลกเหมือนจะชนกับอะไรซักอย่างที่ลุงเล่าให้ฟังแล้ว จนคนที่รอดตายเหลือน้อยอยู่แล้วก็จะมาตายกับลูกเห็บยักษ์อีก หลังจากนั้นลุงเห็นคนที่รอดตาย กำลังจะไปหาอะไรทานเพราะความหิว กลับถูกน้ำทะเลมากวาดคนลงไปให้ปลากินเป็นอาหารอีกมากมาย ภาคใต้คนจะเหลือน้อย จริง ๆ ในส่วนของเมืองกรุงเทพของเราก็คงจะจมลงในน้ำที่เกิดจากเขื่อนพัง มีคนตายมากมาย และกว่าน้ำจะลดลง จำนวนตายมากจนคนไม่กล้ามาอยู่ เพราะวิญญานที่ไม่รู้ว่าตัวเองตายแล้ว วนเวียนหาคำตอบให้ตัวเองมากมายไปหมด ใครที่เข้ามาโดยจิตที่อ่อนแอแล้ว จะถูกดวงวิญญาณเหล่านี้พยายามที่จะเข้ามาหาคำตอบ น่ากลัวจนคนไม่กล้ามาจนกลายเป็นเมืองร้าง
    คนที่มีมากที่สุดแต่กลับเดือดร้อนที่สุดกับคนภาคอีสาน เพราะขุดบ่อน้ำตรงไหนก็เจอแต่หิน บ่อที่เคยมีน้ำ กลับกินไม่ได้เลยกลายเป็นน้ำที่เค็มกว่าทะเล ลุงเห็นภาพคนเป็นหมื่นเป็นแสนเดินไปอยู่ริมน้ำโขงมากมาย และสุดท้ายคนอีสานข้ามไปอยู่ฝั่งน้ำโขงไปอยู่ประเทศลาว มีพระอาจารย์ที่หูเป็นปานพาชาวบ้านเดินข้ามน้ำไป
    ทางเหนือของเรา อาหารการกินถ้าไม่ได้มีการกักเก็บไว้ล่วงหน้าจะเจอกับปัญหา เพราะอากาศจะหนาวมาก ลุงกำหนดจิตไปที่ภูเขา เจอหิมะบนยอดเขา ตอนแรกคิดว่าอธิษฐานผิดที่ไปเมืองนอก แต่กลับไม่ใช่ ลุงเห็นภาพพระธาตุดอยตุง ตั้งอยู่กลางหิมะขาวโพลน กว่าจะปรับตัวกันได้ ก็คงจะลำบากหน้าดู แต่อย่างไรก็ตาม ลุงโซ๊ะที่ปลูกพืชเมืองหนาวมาตลอดชีวิตน่าจะช่วยให้คำแนะนำหลานได้ อีกอย่างโรงเขี่ยเชื้อเห็ด เพาะเห็ด ที่ให้พะดีดูแลอยู่ก็น่าจะช่วยเรื่องอาหารได้ นานพอสมควร ที่หลาน ๆ จะได้ปรับตัวกันได้
    หวังว่าสิ่งที่ลุงบันทึกนี้จะเป็นประโยชน์กับหลานไม่มากก็น้อย ในการเตรียมการ ส่วนอุปกรณ์ที่ลุงได้เตรียมให้พวกเราไว้ทั้งเป้ อุปกรณ์ยังชีพ วิทยุสื่อสาร ชุดป้องกันโรค และอื่น ๆ ขอให้หลานได้ตรวจสอบตามวงรอบที่ลุงได้ทำแผ่นบันทึกให้ตรวสอบและสับเปลี่ยนยา อาการหลอดในเป้ รวมทั้งชุดป้องกันเชื้อ ส่วนอาวุธปืน มีดสนาม ขอให้รักษาให้ดี ปืนนั้นทะเบียนเป็นชื่อลุง ก็คงไม่เป็นไร เอาไว้ป้องกันตัวจากสัตว์ร้าย
    ขอหลานได้ตั้งใจฝึกจิตและพาน้อง ๆ หลาน ๆ ฝึกด้วยกับหลาน ส่วนเจ้าตัวเล็ก ๆ ทั้งหลายให้ฝึกสวดมนต์ในบทที่ลุงเตรียมไว้ ให้ ลุงเขียน Username และ Pass ไว้ที่หน้าจอแล้วถ้าไม่ลำบากคิดจะทำบุญก็ให้หลานไปตามข้อมูลและติดตามข่าวจากในเวปพลังจิตก็จะได้ประโยชน์จากการหาของที่จำเป็นและวิธีการในการเตรียมความพร้อม ขอคุณพระศรีรัตนตรัยได้คุ้มครองหลาน ๆ ด้วย สิ่งใด ๆ ที่ลุงได้ล่วงเกินหลาน ๆ และทุกคน โปรดเมตตาอหสิกรรมลุงด้วยลุงหมอของหลาน ๆ ทุกคน
    วิกรมหลาน พระคุณลุงคนเชียงใหม่ โพสต์
    ข้อความในบันทึกใด ๆ ที่มาจากบันทึกนี้ก่อให้เกิดอกุศลกรรมกับผู้ไดโปรดเมตตาอโหสิกรรมให้กระผมด้วยครับ
    วิกรม
    ขอบคุณข้อมูลจากบอร์ดพลังจิต
     
  13. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#fac963 cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ปี 2563 เวียดนามจะมีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#fac963 cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#ffffcc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    เหตุระเบิดที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิมะ ไดอิจิ ที่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อปีที่ผ่านมา ไม่ได้ทำให้ความต้องการใช้พลังงานจากนิวเคลียร์ลดลงแต่อย่างใด ในทางตรงกันข้าม หลายประเทศในภูมิภาคอาเซียนก็ได้เตรียมการที่จะก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ภายในประเทศ โดยคาดกันว่า เวียดนามจะเป็นประเทศแรก ที่มีโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ ภายในปี 2563


    แม้ว่าเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิมะ ไดอิจิ ประเทศญี่ปุ่นเมื่อปีที่ผ่านมา จะทำให้หลายฝ่ายแสดงความกังวลกับการใช้พลังงานนิวเคลียร์มากยิ่งขึ้น เช่น ประเทศเบลเยี่ยม และเยอรมนี ที่เริ่มมีการพิจารณาว่า จะยุติการใช้พลังงานจากนิวเคลียร์ในอีก 10-15 ปีข้างหน้า แต่อีกหลายประเทศ กลับวางแผนที่จะก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งใหม่ เช่น ประเทศยักษ์ใหญ่อย่างจีนและอินเดีย เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการใช้พลังงานภายในประเทศ


    ซึ่งนายยูกิยะ อามาโนะ ผู้อำนวยการของทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศเคยกล่าวเอาไว้ว่า ต่อให้แต่ละประเทศจะแสดงความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของการใช้พลังงาน นิวเคลียร์มากแค่ไหน แต่ความต้องการใช้พลังงานของคนในประเทศไม่ได้ลดลง อีกทั้ง ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงปัญหาความมั่นคงด้านพลังงาน ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้หลายประเทศ หันมาทบทวน และพิจารณาการใช้พลังงานนิวเคลียร์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ รวมถึงประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยเช่นกัน


    ปัจจุบัน มีประเทศในภูมิภาคอาเซียนหลายประเทศ ที่ให้ความสนใจนำพลังงานนิวเคลียร์มาใช้ ซึ่งในขณะนี้ ประเทศเหล่านั้น กำลังพิจารณาถึงผลดี-ผลเสีย รวมถึงความเป็นไปได้ ที่จะสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ภายในประเทศ เริ่มตั้งแต่ประเทศเวียดนาม ที่ภายในปี 2563 ประเทศนี้จะกลายเป็นประเทศแรกในภูมิภาค ที่มีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์


    การก่อสร้างโรงไฟฟ้าดังกล่าวจะเกิดขึ้นในจังหวัดนินห์ถ่วน ที่อยู่ห่างจากประเทศไทยเพียง 900 กิโลเมตรจากจังหวัดศีรษะเกษ โดยได้รับการสนับสนุนด้านเทคโนโลยีจากประเทศรัสเซีย ซึ่งรัฐบาลเวียดนามวางแผนว่า ในช่วงแรกจะก่อสร้างโรงไฟฟ้าทั้งหมด 8 แห่ง ก่อนที่จะมีการก่อสร้างเพิ่มเติม โดยอาศัยความร่วมมือจากประเทศญี่ปุ่น


    ส่วนประเทศสิงคโปร์นั้น แม้จะเป็นประเทศเล็กๆ แต่รัฐบาลก็ไม่ได้ปฏิเสธการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แต่อย่างใด ในทางตรงกันข้าม กลับมีการมอบหมายให้แต่ละส่วนที่เกี่ยวข้อง ไปทำการศึกษาวิจัยอย่างละเอียดถึงความเป็นไปได้ในการก่อสร้างโรงไฟฟ้า นิวเคลียร์ในประเทศ แม้ว่าจะมีผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากเตือนว่า หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของสิงคโปร์ ประเทศนี้ทั้งประเทศอาจไม่สามารถอยู่รอดได้


    สำหรับประเทศฟิลิปปินส์ เคยมีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ชื่อว่าบาตาน ที่ได้ก่อสร้างไว้เมื่อ 40 ปีก่อน แต่ไม่เคยเปิดใช้งานแต่อย่างใด ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศหรือไอเออีเอ เคยส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ และเปิดเผยข้อมูลว่า หากฟิลิปปินส์จะเปิดใช้โรงงานดังกล่าว ต้องใช้เงินในการบูรณะซ่อมแซมกว่า 800 - 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และโรงไฟฟ้านิวเคลียร์บาตาน ก็จะสามารถใช้ได้ต่อไปอีก 30 ปี ซึ่งในขณะนี้ รัฐบาลฟิลิปปินส์ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเปิดใช้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ดังกล่าว หรือไม่


    ส่วนอินโดนีเซีย มาเลเซีย และประเทศไทยนั้น ยังไม่มีความคืบหน้า หรือความชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องนี้ มากเท่ากับประเทศอื่นๆ ซึ่งคงต้องติดตามกันต่อไปว่า ประเทศเหล่านี้ จะมีนโยบายเกี่ยวกับการพัฒนาพลังงานจากนิวเคลียร์อย่างไรต่อไป



    ที่มา voicetv.co.th

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  14. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD> อุตุฯเตือนภาคเหนือ กลาง ระวังอันตรายจากพายุลมแรง - กทม.ฝนคะนองเป็นแห่ง ๆ20% ของพื้นที่ </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ลักษณะอากาศประจำวันที่ 27 มีนาคม 2555 เมื่อเวลา 04:00 น.

    บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนยังคงแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ในขณะที่หลายพื้นที่มีอากาศร้อน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง จึงขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือ และภาคกลาง ระมัดระวังอันตรายจากพายุลมแรงที่จะเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย

    อนึ่ง หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้จะเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศเวียดนาม และจะเคลื่อนตัวออกไปในวันที่ 30 มี.ค. นี้


    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.


    ภาคเหนือ อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 20-25 องศาเซลเซียส และมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดกำแพงเพชร ตาก แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน และลำปาง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีเมฆบางส่วน กับมีอากาศเย็นในตอนเช้า ณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
    ภาคกลาง อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดสุพรรณบุรี กาญจนบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
    ภาคตะวันออก มีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ และลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมีฝนหนักและลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช ปัตตานี และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 2-3 เมตร
    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับมีฝนหนักและลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD> หลายจังหวัดประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยแล้งทั้งจังหวัด </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>ภูมิภาค 27 มี.ค. -สถานการณ์ภัยแล้งที่จังหวัดน่านครอบคลุมทั้ง 15 อำเภอแล้ว

    ทำให้เดือดร้อนกันแล้วกว่า 53,000 ครอบครัว พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายกว่า 140,000 ไร่ ปศุสัตว์ได้รับผลกระทบถ้วนหน้า ความเสียหายเบื้องต้นที่สำรวจแล้วประมาณ 59 ล้าน 9 แสนบาท ขณะที่ยังคงมีการบุกรุกทำลายป่าเพื่อทำไร่ข้าวโพด ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ภัยแล้งรุนแรงขึ้น จังหวัดย้ำหากพบการกระทำดังกล่าวอีก จะบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด เฉียบขาด

    จังหวัดตากเป็นอีก 1 จังหวัด ที่ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยภัยแล้งแล้วทั้งจังหวัด โดยที่อำเภอแม่สอด ระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำหัวฝายแห้งลดลงอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับระดับน้ำในบ่อน้ำของชาวบ้านในหมู่บ้านต่าง ๆ

    ที่จังหวัดลำพูนก็กำลังแล้งหนัก น้ำในคลองที่เคยใช้ในการเกษตรแห้งจนแทบไม่มีน้ำ จนชาวบ้านในตำบลทาปลาดุก อำเภอแม่ทา ต้องช่วยกันขุดหลุมลึกลงไปกว่า 2 เมตร วางท่อลงไปกลางลำน้ำเพื่อสูบน้ำมาใช้ในการเกษตรอย่างประหยัด.- สำนักข่าวไทย


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:"ข่าวเข้ม ฉับไว เป็นกลาง"
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>ผวาตลิ่งเจ้าพระยาพัง ลุ้นบ้าน30หลังจมน้ำ </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE> ชาวบ้านหมู่ 1 ต.บ้านกุ่ม อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา พากันหวาดผวากับตลิ่งริมแม่นำเจ้าพระยาที่พังลงทุกวันอย่างต่อเนื่อง

    หลังเกิดน้ำท่วมใหญ่จนถึงปัจจุบันนานกว่า 6 เดือนแล้ว กินพื้นที่เป็นแนวลึกกว่า 5- 10 เมตรและยาวร่วม1 กม. โดยมีบ้านเรือนใกล้ถล่มลงแม่น้ำประมาณ 30 หลัง
    ขณะที่ชาวบ้านเชื่อว่าการพังของที่ดินริมตลิ่งมาจาก 2 สาเหตุ คือ การลดและเพิ่มของระดับน้ำแม่นำเจ้าพระยาแบบขึ้น ๆ ลง ๆ อย่างรวดเร็วสลับกันไปตลอดทั้งปี ส่วนอีกสาเหตุคือการเดินเรือขนส่งสินค้า จราจรเรือบรรทุกทรายขึ้นล่องหนาแน่นตลอด 24 ชั่วโมง

    ด้านนางบุญชอบ อ่อนสุวรรณ อายุ 85 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5 หมู่ 1 กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดมาไม่เคนพบเคยเห็นดินริมตลิ่งทรุดตัวพังถลายมากเท่านี้าก่อน

    และการพังทลายเกิดต่อเนื่องทุกวัน ยิ่งน้ำลดลงมาก การเดินเรือมาก ดินริมตลิ่งพังลงเพิ่มมากขึ้น เพราะหน้าบ้านติดแม่น้ำ เป็นที่ดินที่รับสืบทอดต่อกันมา ไม่รู้จะรื้อย้ายบ้านหนีไปไหนแล้ว ช่วงที่น้ำท่วมถูกน้ำท่วมอย่างหนักและท่วมทุกปี สูงถึง 3 เมตร เดือดร้อนมาก และพอน้ำแห้งตลิ่งก็มาพังต่อเนื่องอีก จึงอยากให้ภาครัฐเข้ามาช่วยแก้ไขเช่นทำแนวกั้นหรือทำเขื่อนป้องกันตลิ่งพัง


    ขณะที่นายบุญชู แจ้งมาก อายุ 62 ปี กล่าวว่า เดิมบ้านของครอบครัวเองอยู่ริมน้ำ แต่มีการรื้อย้ายไปแล้ว

    และปัจจุบันที่ดินเกือบ 2 งานที่เคยอยู่ติดริมแม่น้ำ ปัจจุบันไม่เหลือแม้แต่ตารางวาเดียว เพราะกลายเป็นแม่น้ำไปแล้ว ช่วงหลังน้ำลดเมื่อปลายปี 2554 ที่ผ่านมาการพังทลายของดินริมตลิ่งสร้างปัญหาเพิ่มขึ้น ขณะที่น้ำขึ้นลงอย่างรวดเร็วก็จะเป็นเหตุผลในการทำให้ตลิ่งพัง และการเดินเรือบรรทุกสินค้าสร้างความเดือนร้อนและเป็นการเร่งให้ตลิ่งพังเพิ่มขึ้น จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาเร่งแก้ไขโดยเร็ว

    <!-- /.content --><!-- START: Facebook Share -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD> หนุ่มทิเบตเผาตัวสยอง-ท้วงผู้นำจีนเยือนอินเดีย </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>เอเอฟพีรายงานเมื่อ 26 มี.ค. ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจอินเดียกล่าวว่า นายจันเพล เยชิวัย 27 ปีผู้ประท้วงชาวทิเบต

    ได้เผาตนเองที่เขตจันทาร์มันทาร์ ซึ่งเป็นสถานที่จัดการชุมนุมและเดินขบวนในกรุงนิวเดลี ของอินเดีย เพื่อประท้วงต่อต้านการเยือนอินเดียของประธานาธิบดีหู จิ่นเทาของจีน ที่กำลังจะมีขึ้นในสัปดาห์นี้

    เจ้าหน้าที่ตำรวจสุขเทพ ซิงห์ มานน์ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์แจ้งต่อผู้สื่อข่าวว่า

    ได้นำตัวนายเยชิส่งโรงพยาบาลเนื่องจากได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการโดยถูกไฟลวกเกือบทั้งร่างกาย นับตั้งแต่ปีที่แล้วเป็นต้นมามีชาวทิเบตทั้งหมด 29 คน คนเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นพระและแม่ชีที่จุดไฟเผาตนเองในเขตที่มีชาวทิเบตอาศัยอยู่ในจีนเพื่อประท้วงการปกครองทิเบตของจีน


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  15. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    หญ้าปล้องแดง

    [​IMG] ยาหมาบอก

    เผยเป็นสมุนไพร มีสรรพคุณ ยาขับปัสสาวะ ขับระดูขาว แก้นิ่ว บำรุงไต แก้ร้อนภายใน ได้
    รายงานข่าวแจ้งว่า ที่จ.อ่างทอง ได้เกิดเรื่องสุดเหลือเชื่อขึ้นเมื่อนายสมเกียรติ บุญยงค์ อายุ 50 ปี อาชีพพนักงานสถานที่ สำนักงานเกษตร จ.อ่างทอง ที่ป่วยเป็นโรคตับเเข็ง นอนรอวันตายอย่างเดียวกลับหายเป็นปกติ ภายหลังเขาได้นำ หญ้าปล้องแดง ข้างบ้านมาดื่มกินเพื่อรักษาโรค ตามคำแนะนำของสุนัขที่เขาเลี้ยงไว้
    โดยนายสมเกียรติ เล่าว่า ขณะที่ตนนอนรักษาอาการป่วยอยู่นั้น จู่ๆ สุนัขที่เลี้ยงไว้ได้สกิดให้กินหญ้าข้างบ้านหลายครั้ง ซึ่งดูจากลักษณะแล้วเป็นหญ้าปล้องแดง และด้วยความสงสัยจึงลองกินสดๆ ดู และรู้ว่าอาการดีขึ้นหลังผ่านไป 1วัน ตนจึงนำไปต้มดื่มหลังจากนั้นอาการก็ดีขึ้นตามลำดับ
    “ต้องขอบคุณเจ้าหลง สุนัขที่ช่วยชีวิตตนไว้ในครั้งนี้เป็นอย่างมาก แม้ว่ามันจะจากไปด้วยอุบัติเหตุรถชนก็ตาม สมัยโบราณมีแต่ยาผีบอก แต่นี่เป็นยาหมาบอก คนเชื่อรอดตาย คนไม่เชื่อตาย ” นายสมเกียรติกล่าว.
    สำหรับหญ้าปล้องแดงนั้น เป็นพืช หญ้าคล้ายผักบุ้งแต่มีลักษณะ เป็นปล้อง มีสรรพคุณเป็นสมุนไพรรักษาโรคได้ เช่น เป็นยาขับปัสสาวะ ขับระดูขาว แก้นิ่ว บำรุงไต แก้ร้อนภายใน อีกทั้งยังสามารถช่วยรักษาโรคเก๊าท์ได้ด้วย.
    Mthai News
     
  16. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]
    หลังตู้คอนเทรนเนอร์บรรทุกสินค้าออกจากตัวรถ และไม่มีไฟแจ้งเตือน แนะขับขี่ระวัง
    รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเวลาประมาณ 01.30 น. ที่ผ่านมา ได้เกิดอุบัติเหตุขึ้นที่บริเวณถนนมิตรภาพ ขาเข้า หน้าโรงปูน TPI แก่งคอย ถ.มิตรภาพ (เข้า กทม.) ต.ทับกวาง จ.สระบุรี หลังมีรถจำนวนประมาณ 19คัน ชนกันสนั่นบริเวณ ซึ่งจากเหตุดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตทันที 3รายและบาดเจ็บกว่า 20คน
    ซึ่งจากการตรวจสอบทราบว่า อุบัติเหตุที่เกิดมาจากส่วนที่เป็นรถพ่วงของรถบรรทุกตู้คอนเทรนเนอร์คันหนึ่ง ได้เกิดหลุดออกจากกัน แต่ไม่มีไฟแจ้งเตือน หรือไม่มีไฟด้านท้าย ทำให้รถบรรทุกตู้คอนเทรนเนอร์ ที่วิ่งตามมาอีกคันเบรกไม่อยู่ จึงวิ่งพุ่งชนเข้าอย่างจัง ประกอบกับขณะเกิดเหตุได้มีรถตู้และรถกระบะวิ่งไล่ตามกันมาด้วยความเร็ว ทำให้เกิดอุบัติเหตุชนกันอีกหลายคัน ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตดังกล่าว
    เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้เคลียร์เส้นทางเรียบร้อยแล้ว แต่ก็คควรขับขี่อย่างระมัดระวังด้วย เนื่องจากยังมีรถเทรนเลอร์ 1 คันจอดอยู่บริเวณดังกล่าวอีก 1คัน.



    [​IMG]
    นางสุจินดา เชิดชัย หรือเจ๊เกียว นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสาร กล่าวว่ามติที่ประชุมสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสาร จะยังไม่ปรับขึ้นราคาค่าโดยสาร จนกว่าคณะกรรมการควบคุมขนส่งทางบกกลางจะพิจารณาและสรุปอัตราค่าโดยสาร
    แต่ในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ ทางสมาคมจะไม่เพิ่มรถให้บริการแต่อย่างใด อีกทั้งจะวิ่งส่งผู้โดยสารเฉพาะเส้นทางที่ออกจาก กทม.เท่านั้น จะไม่มีการวิ่งกลับเที่ยวเปล่ามายัง กทม. เพื่อลดภาระผลกระทบกับผู้ประกอบการ เนื่องจากผู้ประกอบการประสบภาวะขาดทุนจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งตนคาดว่าจะไม่เป็นปัญหากับผู้โดยสาร เพราะยังมีรถเถื่อนให้บริการอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ราคาอาจจะสูงกว่ารถโดยสารปกติ
    อย่างไรก็ตาม หากภาครัฐต้องการให้ความช่วยเหลือ หรือบรรเทาปัญหาผู้ที่ต้องการเดินทางกลับภูมิลำเนา รัฐอาจช่วยจ่ายค่าน้ำมันให้พิเศษ หรือมีมาตรการในการช่วยเหลืออย่างอื่น
    Mthai News



    [​IMG] คิม จอง อึน

    เชื่อไม่พอใจหลังเหล่านายทหารมักทำตัวแปลกๆ ระหว่างร่วมพิธีศพของนายคิม จอง อิล บิดา
    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานโดยอ้างวิทยุเสรีเกาหลีเหนือ ซึ่งดำเนินโดยกลุ่มผู้แปรพักตร์รัฐบาลเกาหลีเหนือ ว่า นับตั้งแต่นายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือคนใหม่ ได้ขึ้นสู่อำนาจแทนนายคิม จอง อิล ผู้เป็นบิดา ได้มีทหารระดับนายพลหายตัวไปและถูกสังหารทุกวัน
    โดยเฉพาะนายทหารที่ทำตัวแปลกๆ ระหว่างร่วมพิธีศพของบิดา ไม่ว่าจะเป็น ผู้ช่วยรัฐมนตรีกองทัพประชาชนเกาหลีเหนือที่มีอาการมึนเมาในระหว่างพิธีศพ,รวมทั้งผู้บัญชาการหน่วยรบที่ 9 ที่ประจำในเมืองชองจิง ที่มีพฤติกรรมลวนลามทางเพศต่อผู้หญิงรายหนึ่งระหว่างพิธีศพดังกล่าวด้วย
    ทั้งนี้รายงานระบุว่า การสั่งประหารของท่านผู้นำคนใหม่ จะใช้วิธีการยิงปืนใหญ่ปลิดชีพ ในสถานที่เปิด โดยมีจุดประสงค์เพื่อไม่ให้ทิ้งชิ้นส่วนใด ๆ เหลือไว้แม้แต่เส้นผมเส้นเดียว
    อย่างไรก็ดีหากรายงานข่าวเป็นจริง พฤติกรรมของคิมน้อยผู้นำใหม่ น่าจะโหดเหี้ยมมากกว่าบิดาของเขา เพราะใช้ปืนใหญ่ในการสังหารนั่นเอง แม้ทั้งสองจะมีพฤติกรรมประหารบุคคลที่ความผิดเล็ก ๆ น้อยๆ เป็นประจำคล้ายๆ กันก็ตาม
    Mthai News
     
  17. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>อุณหภูมิโดยทั่วไปเริ่มสูงขึ้น เหนือ กลาง ใต้ มีฝนคะนอง ลมกระโชกแรง </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ลักษณะอากาศประจำวันที่ 28 มีนาคม 2555 เมื่อเวลา 04:00 น.

    บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยและทะเลจีนใต้ เริ่มมีกำลังอ่อนลง ทำให้มีอุณหภูมิสูงขึ้นโดยทั่วไป กับมีฝนฟ้าคะนองและมีลมกระโชกแรงบางแห่งเกิดขึ้นได้ในบริเวณ ภาคเหนือ และภาคกลาง สำหรับภาคใต้ลมตะวันออกกำลังปานกลางพัดปกคลุมทำให้มีฝนกระจาย อนึ่ง หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ไม่เคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทย แต่มีแนวโน้มที่จะเคลื่อนตัวห่างออกไปในวันที่ 30 มี.ค.นี้

    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.


    ภาคเหนือ อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้าทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส และมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตาก และกำแพงเพชร ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีเมฆบางส่วน และมีอากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 20-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
    ภาคกลาง อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองและมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
    ภาคตะวันออก อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวันทางตอนบนของภาค โดยมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากตามบริเวณชายฝั่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลาอุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนหนักกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองและมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.




    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    จะเกิดต่อเนื่องกันไปเป็นลูกโซ่ !!!
    ( ตั้งแต่ปี 2555-2560 )

    [​IMG]

    diya สมาชิก

    ขออนุญาตท่านเข้าของกระทู้ค่ะ รวบรวมไว้เผื่อท่านอื่นๆ มาอ่านทีหลัง ลองหาดูนะคะว่าพื้นที่ที่จะถามท่าน Aunyasit ตอบไว้แล้วหรือยัง หากผิดพลาดประการใดขออโหสิกรรมด้วยนะคะ ขอบุญรักษาพระคุ้มครองทุกท่าน diya ดูอยู่ที่กรุงเทพค่า

    กรุงเทพมหานคร
    - แถวพุทธมณฑลสายสี่ เมื่อถึงกาลของภัยพิบัติ จะจมอยู่ใต้น้ำครับ
    - ส่วนเขตจอมทอง กรุงเทพฯ ถึงเวลาจะจมน้ำมิดเลยครับ
    - ส่วน กทม. พื้นที่ชั้นในจะอันตรายสุด(จมหาย) ส่วนพื้นที่รองๆลงมาก็ค่อยๆจม ในกาลต่อมา สรุปว่า กทม.จะหายไปในที่สุดครับ

    นนทบุรี
    - ส่วน จ. นนทบุรี ถึงตอนนั้นพื้นที่ส่วนใหญ่จะจมมิดครับ

    ชุมพร
    - พื้นที่จังหวัดชุมพร 90กว่าเปอร์เซ็นต์ จะเป็นพื้นที่ไม่ปลอดภัยครับ ถ้าเลี่ยได้ให้เลี่ยงเลยครับ ศูนย์กลางพายุจะหอบน้ำผ่านมาทาง จ. ชุมพรครับ

    จันทบุรี
    - จังหวัดจันทบุรี ถ้าจะปลอดภัยหน่อย ก็คือที่สูงหลังภูเขาทางด้านทิศตะวันตก ครับ ทิศตะวันออกนี่จะรับลมรับฝนเต็มที่ ครับ

    ศรีษะเกศ
    - อ.เมือง จ.ศรีษะเกศ ปลอดภัยจากน้ำเฉพาะในเขตที่สูงครับ ส่วนที่ราบจะจมครับ อีสานใต้จะเจอพายุฝนแรงเพราะอยู่ใกล้ทิศทางของมหาพายุครับ

    นครศรีธรรมราช
    - อำเภอถ้ำพรรณรา จ.นครศรีธรรมราช ให้หาที่หลบภัยตามถ้ำในอยู่ในระดับสูงๆครับ พร้อมทั้งเตรียมปัจจัยยังชีพให้พอเพียงด้วยครับ
    - อำเภอทุ่งสง อำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช ถ้าสูงจากระดับน้ำทะเลขนาดนั้นก็จะปลอดภัยจากน้ำครับ แต่ภัยอื่นๆเช่นโรคระบาดก็ยังจะมาเยื่ยมอยู่ครับ

    สมุทรปราการ
    - สมุทรปราการและใกล้เคียงไม่น่าอยู่เลยครับ ไม่มีที่ไหนปลอดภัยเลยครับ ลองพิจารณาดูว่าคลื่นสูงประมาณ ร้อยเมตร น้ำจะท่วมและทำลายเป็นอาณาบริเวณกว้างครับ ความสูงจากระดับน้ำทะเลของ จ.สมุทรปราการ ใกล้เคียงกับ กทม. ต่อไปคงจะมีสภาพเป็นเมืองใต้น้ำครับ ทางที่ดีควรจะเล็งหาที่พักพิงไว้บ้างก็ดีครับ

    อุทัยธานี
    - เขต อ.บ้านไร่ อุทัยธานี ให้หาที่สูงตามเนินเขาที่มีความชันน้อย เป็นที่หลบภัยครับ พยายามหลีกเลี่ยงเชิงเขาลาดชันเพราะถ้าเกิดเหตุรุนแรงดินภูเขาและก้อนหินจะถล่มลงมาครับ
    - ส่วน อยู่อำเภอเมือง อุทัยธานีและ อำเภอหนองมะโมง จังหวัดชัยนาท สถานการณ์จะใกล้เคียงกันคือน้ำท่วมสูง ครับ ต่อไปน้ำจะท่วมเป็นจังหวัดๆเลยครับ จะไม่ท่วมตามแนวทางน้ำไหลเหมือนแต่ก่อน ที่ลุ่มท่วมมากที่ดอนท่วมน้อย แต่ก็ส่งผลกระทบเหมือนกัน

    เพชรบูรณ์
    - เขต อ. เมือง จ. เพชรบูรณ์ เสี่ยงกับแผ่นดินแยกและโรคระบาดครับ ดูแล้วไม่ค่อยปลอดภัยนัก แต่ ที่ห่างไกลจากชุมชนก็ไม่ค่อยกระทบมากครับ
    - หนองไผ่ จังหวัดเพรชบูรณ์ จะปลอดภัยกว่าอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ครับ
    - อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ พื้นที่โดยรวมค่อนข้างจะปลอดภัยครับ แต่ให้หลีกเลี่ยงที่ใกล้ๆทางน้ำไหลและไหล่เขา/เนินดิน ที่สูงชันครับ
    - พื้นที่ใกล้ๆ วัดพระพุทธบาทชนแดน จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยรวมค่อนข้างจะปลอดภัยครับ
    - เขาเต่า ภูทับเบิก จังหวัดเพชรบูรณ์ ปลอดภัยกว่าอ.ร่อนพิบูลย์ครับ เพราะแม้ความสูงจากระดับน้ำทะเล 50 เมตรนั้น ยังคงมีความเสี่ยงกับคลื่นสูงจากท้องทะเลครับ ภาคใต้ส่วนใหญ่จะจมน้ำครับ

    อุบลราชธานี
    - อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ใกล้วัดหนองป่าพง ปลอดภัยครับ
    - เขื่อนสิริกิต เมื่อถึงเวลาภัยพิบัติผมเข้าใจว่าไม่น่าจะเกิน 7 วันนับแต่วันฟ้ามืด เขื่อนนี้จะแตกครับ ที่จริงไม่รู้ว่าจะเรียกว่าแตกหรือเปล่า คือน้ำน่ะล้นเขื่อนไหลบ่าลงมาเรื่อยๆ จากนั้นโครงสร้างที่อยู่ใต้น้ำก็คงจะพังตามมา ด้วยไม่สามารถต้านทานกำลังน้ำและแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวได้
    - อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี บนเส้นทางด้านจะไป อ.เดชอุดม ค่อนข้างปลอดภัยครับ แต่สำหรับเส้นทางในการเดินทางนั้นผมไม่ชำนาญลองหาข้อมูลจากแหล่งอื่นครับ

    อุดรธานี
    - จ.อุดรธานีน้ำจะท่วมถีงคอบริเวณ อ. เมืองและใกล้เคียง ส่วนกิ่งอ.หนองหิน จ.เลย ค่อนข้างปลอดภัย แต่ต้องเตรียมเสบียง อาหารการกิน พร้อมทั้งน้ำดื่มกินให้บริบูรณ์ครับ
    - ส่วน อ. เมือง จ.อุดรธานี นั้น ช่วงภัยพิบัติน้ำจะท่วมประมาณถึงคอครับ แต่จะท่วมระยะเวลานึงเท่านั้น แต่ภัยอื่นๆก็มีเช่นกันครับ
    - จ. อุดรธานี คงจะท่วมนานหลายเดือนเช่นกันครับ เพราะถึงเวลานั้นทุกที่มีจะมีแต่น้ำ น้ำก็จะท่วมขังมากและเป็นเวลานานครับ
     
    บุรีรัมย์
    - อ.นางรอง จ บุรีร้มย์ จะเสี่ยงต่อผลจากการประทุของภูเขาไฟครับ ต้องเตรียมตัวพร้อมที่จะเคลื่อนที่ไปสู่จุดที่ปลอดภัยได้ตลอดเวลาครับ ที่ปลอดภัยในบริเวณนั้นนะมีครับ แต่ถึงเวลานั้นเราจะไปอยู่ถูกที่ ถูกเวลาหรือไม่เท่านั้นเองครับ
    - อ. นางรอง จังหวัดบุรีร้มย์ ผมเข้าใจว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ด้วยเทวานุภาพ แต่ภัยพิบัติใหญ่ในครั้งนี้จะต้องอาศัยพื้นที่ที่ศักดิ์สิทธิ์ด้วยพุทธานุภาพเท่านั้นครับจึงจะปลอดภัย ดังนั้น อ. นางรอง จังหวัดบุรีร้มย์ อย่างน้อยจะเป็นแหล่งรับน้ำในจังหวัดนี้ครับ ทางที่ดีหาที่สูงกว่านี้อยู่ดีกว่าครับ และมหาพายุก็จะพัดผ่านเช่นกันครับ

    เชียงใหม่
    - จ.เชียงใหม่ให้หาที่หลบภัยห่างจากชุมชนเมือง ที่ราบใกล้แม่น้ำ และไหล่เขาสูงชันครับ หลายพื้นที่ใน จ.เชียงใหม่ยังปลอดภัยแต่หลายพื้นที่ก็อันตรายมากจากแผ่นดินไหวครับ
    - ต.หนองผึ้ง อ.สารภี จ.เชียงใหม่ เมื่อถึงเวลาจะทนกับความรุนแรงของแผ่นดินไหว แผ่นดินแยก ได้มากน้อยเพียงใด
    - ต.ท่าเดื่อ อ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่ หากอยู่ใต้เขื่อนก็อันตรายแน่นอนครับ ปริมาณน้ำมหาศาลที่จะลงมานั้นไม่มีเขื่อนใดในประเทศนี้ที่จะรองรับได้ครับ ถ้าเขื่อนไม่พังน้ำก็จะล้นเขื่อน ผมเข้าใจว่าเมื่อเกิดแผ่นดินเคลื่อน แผ่นดินแยก จะทำให้เขื่อนเหล่านี้แตกหมดครับ

    สระบุรี
    - จ.สระบุรี น้ำจะค่อยๆท่วมจนถึง อ. มวกเหล็ก อ. เมือง สระบุรี ถึงเวลานั้นคงจะจมน้ำครับ แน่นอนว่า จ. สระบุรีจะเจอกับโรคระบาดแน่นอนครับ ศูนย์กลางของโรคระบาดจะอยู่แถว จ.ลพบุรี ครับ
    - จ.สระบุรีก็จะมีสภาพใกล้เคียงกันกับ จ.ลพบุรี ส่วนแถวเขาพระพุทธบาทสระบุรีนั้นน่าจะปลอดภัยครับ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าพุทธานุภาพในเขตนั้นยังมีหลงเหลืออยู่มากน้อยขนาดไหนครับ ถ้ามีพุทธานุภาพอยู่เหมือนเช่นในอดีตก็จะเป็นพื้นที่ปลอดภัยครับ

    เชียงราย
    - แถว อำเภอแม่จัน และ อำเภอแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย จะกระทบกับแผ่นดินไหวเยอะครับ ที่ปลอดภัยก็พอจะมีอยู่แต่ขอให้ห่างแนวรอยเลื่อนของแผ่นดินไหวไว้ให้มากครับ

    นครราชสีมา
    - อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา นอกเหนือจากน้ำหลากและโรคระบาดแล้วก็ปลอดภัยจากสิ่งอื่นๆบ หากไม่อยู่ในชุมชนใหญ่ก็จะปลอดภัยมากขึ้นครับ
    - เขาใหญ่ ที่วัดมกุฏคีรีวัน ค่อนข้างปลอดภัยครับ แต่ในช่วงเวลาของภัยพิบัติ เข้าใจว่าจะถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ดังนั้นควรเตรียมเสบียงไว้ให้พร้อม
    - อำเภอเมือง จังหวัดนคราชสีมา โรคระบาดหนักแน่นอนครับ ฯก็มีท่วมบางส่วนแต่ไม่อันตรายเท่าโรคระบาด(คนจะตายแบบใบไม้ร่วงเลยครับ)โรคพวกนี้ผมเข้าใจว่าจะติดต่อทางลมหายใจครับ
    - อ.หนองบุนมาก จ.นครราชสีมา ช่วงแรกน้ำจะไหลบ่าแต่จะท่วมไม่นาน พออยู่ได้ จากนั้นให้ระวังเรื่องโรคระบาดครับ
    - ส่วนวังน้ำเขียวน้ำจะท่วมและจะมีแอ่งน้ำเกิดใหม่จำนวนมากตามที่ราบและซอกเขา และโรคระบาดจะรุนแรงพอๆกันกับในตัวเมืองโคราช เข้าใจว่าคนจะอพยพไปอยู่กันเยอะครับ
     
    กาญจนบุรี
    - ส่วนจังหวัดกาญจนบุรีพื้นที่ใต้เขื่อนวชิราลงกรณ์ ต.วังศาลา ไม่น่าจะมีอะไรเหลือหลังจากเขื่อนแตกครับควรหลีกเลี่ยงพื้นที่ใต้เขื่อนครับ
    - ทองผาภูมิ กาญจนบุรี ตามที่สูงสามารถหลบภัยได้ครับ แต่ให้หลีกเลี่ยงทางน้ำและตามช่องเขาครับ

    พัทลุง
    - อ.บางแก้ว จ.พัทลุง นั้นเข้าใจว่าคงจะไม่มีอะไรเหลือครับ ถึงเวลานั้นคงโผล่ให้เห็นเฉพาะยอดเขา

    สงขลา
    - แถมนิดนึง ที่ อ.หาดใหญ่ น้ำจะท่วมเห็นเฉพาะเขาคอหงส์ครับ
    - ต.เขารูปช้าง อ.เมือง จ.สงขลา ให้เล็งแถวใกล้ๆที่สูงแถวสวนสัตว์ก็น่าจะดีครับ แต่ให้หาทางไปอาศัยในทางทิศตะวันตกเพราะลม/ฝนจะกระหน่ำมาทางทิศตะวันออกครับ

    สระแก้ว
    - สระแก้ว อรัญประเทศ มหาพายุจะพัดผ่านถ้าผ่านพายุนี้ไปได้หลังจากนั้นจะก็ค่อนข้างปลอดภัยครับ ถ้าจะหลบภัยให้หาทางไปทางทิศตกของภูเขาแถบนั้นครับ

    เลย
    - บนภูทับเบิก ค่อนข้างปลอดภัย แต่ขึ้นอยู่กับดินภูเขาแถวนั้นว่าจะทนแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวได้มากน้อยขนาดไหนและให้ระวังน้ำป่าให้มากๆครับ

    พิษณุโลก
    - อ.วังทอง พิษณุโลกนั้น ที่ราบไม่ปลอดภัยแน่นอน เล็งหาที่ปลอดภัยแถบเนินเขาเตี้ยๆไว้ครับ
    - อ. เมือง พิษณุโลก น้ำจะท่วมไปครึ่งเมืองและมีโรคระบาดครับ
    - อ. เมือง จ.พิษณุโลก น้ำจะท่วมประมาณครึ่งเมือง แถมด้วยโรคระบาดครับ แต่บารมีพระพุทธชินราช จะช่วยเมืองนี้ได้เยอะครับ
    - จ.พิษณุโลกในหลายพื้นที่ น้ำจะท่วมอย่างน้อย 3 เดือนครับ ส่วนที่ปลอดภัยในเขต อ. เมืองนั้น มีพื้นที่ตามภูเขาใกล้เมืองค่อนข้างปลอดภัยครับ แต่ต้องสำรวจทางหนีที่ไล่ไว้ด้วยว่าจะเดินทางไปอยู่ตรงไหน และจะอยู่ยังไง

    ชลบุรี
    - พัทยาจะไม่มีอะไรเหลือครับจะจมลงใต้น้ำหมดครับ
    - อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จุดอันตรายเลยครับ จะรับมหาพายุเต็มๆ ทางที่ดีหาทางเลี่ยงออกมอเตอร์เวย์ ไปเชื่อมต่อเส้นทางที่จะไปภาคอีสานหรือหากไม่ไหวจริงๆก็เล็งแถบเขาเขียวไว้ก็ดีครับนะครับ บนเขาเขียวยังมีพื้นที่ปลอดภัยอยู่ครับ

    มหาสารคาม
    - ตัว อ. โพนพิสัย ให้ห่างจากม่น้ำโขงสัก 1 กม. เพราะน้ำปริมาณมหาศาลจะมาตามลำน้ำโขงครับและหลีกเลี่ยงที่ราบต่างๆที่น้ำเคยท่วมถึง ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่จะปลอดภัยจากน้ำ แต่เขตชุมชนในตัว อ.โพนพิสัยเอง เมื่อถึงเวลาจะมีโรคระบาด โรคระบาดนี่จะไปทั่วทุกหนทุกแห่ง โดยเฉพาะชุมชนใหญ่ๆ เข้าใจว่าโรคระบาดนี่จะมาจากอากาศครับ

    นครพนม
    - จ.นครพนม ส่วนใหญ่จะปลอดภัยครับ แต่ให้หลีกเลี่ยงริมน้ำโขงและพื้นที่ ที่น้ำเคยท่วมถึง ความปลอดภัยจะอยู่ในระดับเดียวกันกับที่ อ.โพนพิสัย ครับ
    - อ.เมือง จ.นครพนม ริมฝั่งน้ำโขงให้หลีกเลี่ยงเพราะน้ำจะไหลหลากแรงมากครับ และจะมีโรคระบาดด้วย ส่วนพายุจะกระทบไม่มากนักครับถ้าหากอยู่ใกล้ลำห้วยน้ำไหลหากไม่เตรียมอพยพก็ให้เตรียมที่อยู่ให้สูงๆไว้ครับ

    สุโขทัย
    - เขต อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย ผมเข้าใจว่าน่าจะเป็นแผ่นดินแยกจากแผ่นดินไหวมากกว่าครับ รวมทั้งน้ำมหาศาลจะมาท่วมขัง ถ้าห่างออกไปประมาณ 50 กม. ก็ค่อนข้างปลอดภัยจากน้ำ แต่แผ่นดินไหวนี่เลี่ยงไม่ได้ครับ ความปลอดภัยขึ้นอยู่กับภูมิประเทศที่ตั้งอยู่ด้วยครับ

    อุตรดิตถ์
    - ส่วนเขต อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ จะมีน้ำท่วม(แต่ไม่ใช่พื้นที่ทั้งหมด) และก็จะกระทบกับแผ่นดินไหวด้วย

    ร้อยเอ็ด
    - จ.ร้อยเอ็ด ส่วนใหญ่น้ำจะท่วมประมาณมิดหัวครับ แต่จะท่วมอยู่เป็นเวลานานเท่าไหร่ผมไม่ทราบครับ
    - ส่วน อ.เมืองสรวง , อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด แม้น้ำจะท่วมประมาณมิดหัวในช่วงแรกๆ แต่ก็ยังดีกว่าอ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ที่จะสาหัสกว่าครับ
    - วัดผาน้ำทิพย์ พระมหาเจดีย์ชัยมงคลซึ่งบรรจุพระบรมสารีรกิธาตุ อ.หนองพอก จ.ร้อยเอ็ด เป็นที่สูงสามารถหลบภัยได้ครับ แต่ผมเข้าใจว่าคนจะไปพึ่งที่นั่นกันเยอะมาก ถ้าจะไปก็ต้องเตรียมเสบียง เต็นท์ต่างๆให้พร้อมครับ ต่อไปแถบนั้นจะขาดแคลนเสบียง อาหารการกินครับ

    ตรัง
    - อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ถ้าไปอยู่แถบหลังภูเขาทางด้านทิศตะวันตก ก็พอจะมีหวังครับ แต่ถ้าอยู่ตามที่ราบทั่วไปคงจะรอดยากครับ
    - จ.ตรัง ไม่ค่อยปลอดภัยเลยครับ หาที่สูงตามภูเขาและถ้ำ ที่สามารถไปถึงได้โดยใช้เวลาไม่นานนักครับ

    ขอนแก่น
    - อ.เมือง ขอนแก่น ส่วนหนึ่งน้ำจะท่วม(น้ำจากฝนตกมากเกินไปไหลไม่ทัน) ส่วนที่เขื่อนนั้นให้หาทางหนีไว้ครับ เท่าที่ผมทราบนั้นเขื่อนทุกที่จะแตกหมดครับ
    - ตลาดดอนโมง ต.บ้านกง อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น จะเกิดปัญหาจากน้ำท่วมครับ นอกเหนือจากโรคระบาดแล้ว
    โดยรวมจะกระทบจากภัยพิบัติไม่รุนแรงมากนักครับ

    ชัยภูมิ
    - อ.หนองระเหว ชัยภูมิ บางพื้นที่น้ำจะท่วมเป็นระยะเวลาประมาณ 1 เดือน แต่เขตชุมชนหนาแน่นหนีไม่พ้นโรคระบาดครับ
    - อ.บ้านเขว้า ชัยภูมิ ก็เช่นเดียวกันกับ อ.หนองระเหว ชัยภูมิ ครับ

    กาฬสินธิ์
    - อ. ยางตลาด กาฬสินธิ์ แม้จะมีพื้นที่บางส่วนจะค่อนข้างสูงแต่ยังอยู่ในรัศมีของมหาพายุ ให้หลีกเลี่ยงทางที่น้ำจะไหลผ่านครับ เขตนี้มีความเสี่ยงพอสมควร ต้องวางแผนการอพยพให้ดีครับ ให้สำรวจพื้นที่สูงไว้ด้วยครับ บางทีเขตที่เป็นเขตสาธารณะเมื่อถึงเวลาภัยพิบัติก็อาจจะเป็นที่อาศัยได้ครับ

    สุรินทร์
    - อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ อยู่ในเขตอีสานใต้และเป็นแนวของพายุ น้ำจะท่วมครับ

    ราชบุรี
    - อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ส่วนใหญ่จะจมน้ำครับ
    - จ.ราชบุรี ส่วนใหญ่จมครับ ที่ปลอดภัยมีเฉพาะตามภูเขาอย่างเดียวครับ

    ปราจีนบุรี
    - อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ส่วนใหญ่จะปลอดภัยแถวเนินเขากับภูเขาสูงครับ ถึงเวลาคุณคอยดูเลยว่าจะมีมนุษย์ภูเขาเกิดขึ้นมากมายเป็นหลายชุมชน โดยเฉพาะรอบๆเขาใหญ่ สำหรับเส้นทางไปทางภาคอีสานนั้นแต่ละท่านต้องเลือกกันเอาเองครับว่าสะดวกเส้นทางใด โดยเฉพาะเรื่องของเวลาที่อพยพก็สำคัญ หากเราตัดสินใจเร็วก็จะไม่ต้องติดอยู่ตามถนนและจะตามมาด้วยปัญหาอื่นๆอีกมากมาย

    ฉะเชิงเทรา
    - จังหวัดฉะเชิงเทรา มีที่ที่พอจะพึ่งได้ก็เฉพาะตามเนินเขาและภูเขาเท่านั้น ส่วนที่อื่นๆมีแต่น้ำครับ

    นครปฐม
    - จ.นครปฐม เกือบทั้งหมดจะจมน้ำครับ

    พิจิตร
    - ส่วน จ.พิจิตร ก็มีที่ปลอดภัยแถวภูเขาในหลายพื้นที่ครับ

    บึงกาฬ
    - อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ กระทบไม่มากครับ ยกเว้นในเขตที่ราบที่น้ำจะท่วมครับ แต่ถ้าเทียบกับที่อื่นๆก็ถือว่าเป็นสถานที่ค่อนข้างปลอดภัยครับ

    ลำปาง
    - อ.เมือง จ.ลำปาง ต่อไปจะมีน้ำท่วมครับและตามมาด้วยโรคระบาด น้ำท่วมพอจะอยู่กันได้แต่โรคระบาดนี้คงแย่ครับ
    - อ. แม่พริก จ. ลำปาง จะประสบปัญหาหนักกับน้ำไหลหลาก เร็วและแรงครับ ส่วนผลกระทบจากแผ่นดินไหวนั้นก็มีเช่นกัน ให้หาทางไปอยู่ตามเนินเขาสูงที่มีความชันน้อยๆครับ

    พระนครศรีอยุธยา
    - จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะจมมิดและกลายเป็นเมืองใต้น้ำครับ

    ลพบุรี
    - ส่วนจังหวัดลพบุรีบางส่วนน้ำท่วม(ตามที่ราบต่างๆ) ในส่วนภูเขาจะพออยู่ได้แต่ลพบุรีจะมีโรคระบาดหนักมากครับ
     
    ภูเก็ต
    - ภูเก็ตก็จะยับเยินเช่นกันครับ จากแรงคลื่นกระแทกไปกระแทกมา แม้จะอยู่แถบฝั่งตะวันตกแต่ก็รับผลของภัยพิบัติมากเช่นเดียวกัน แต่ที่สูงๆก็พออาศัยอยู่ได้ครับ ถึงเวลานั้นต้องไปให้สูงและไกลจากชายฝั่งครับ

    ลำพูน
    - วัดป่าดาราภิรมย์จะเจอภัยจากน้ำและแผ่นดินไหวครับ ส่วนพระพุทธบาทสี่รอย ค่อนข้างปลอดภัยจะเสียหายไม่มากครับ
    - อ.ป่าซาง จ.ลำพูน น้ำจะท่วมครับ และอาจจมีผลกระทบจากเขื่อนข้างบน(น่าจะเป็นเขื่อนบ้านธิ)ที่จะแตกในช่วงที่จะมีแผ่นดินไหวใหญ่ แต่ที่เนินเขาและที่ดอนสูงๆก็สามารถอยู่ได้ครับ
    - ส่วนพื้นที่แถวดอยเต่า อำเภอลี้ค่อนข้างปลอดภัยครับ

    ระยอง
    - อ. ปลวกแดง จ. ระยอง ต่อไปจะมีแต่อันตราย ไม่น่าอยู่ครับ

    กำแพงเพชร
    - จ.กำแพงเพชร ให้หลีกเลี่ยงใกล้ทางน้ำไหลและที่ราบครับเพราะน้ำจะท่วมเยอะ แต่แถวอ.พรานกระต่าย ต่อไปถึงเขต อ.คีรีมาศ ส่วนใหญ่ค่อนข้างปลอดภัยครับ

    สมุทรสาคร
    - แถววัดเกตุม ต่อไปแถวนั้นจมมิดอยู่ใต้น้ำครับ สำหรับพระธาตุนั้นท่านเสด็จไปมาได้ครับ

    พังงา
    - จังหวัดพังงา มีพื้นที่ปลอดภัยตามภูเขาสูงโดยเฉพาะตามถ้ำต่างๆ ถ้าฟ้ามืดมาก็หนีเลยครับ

    น่าน
    - แถวสนามบินน่าน อ.เมือง จ.น่าน, บ้านทาทุ่งไผ่ ต.ทาปลาดุก อ.แม่ทา ลำพูนและ ตำบลเวียงยอง อ.เมือง จ.ลำพูน จะประสบปัญหาคล้ายๆกันคือน้ำจะท่วมและไหลบ่าตามทางน้ำและบริเวณใกล้เคียงเร็วและแรง ความรุนแรงมากกว่าที่เคยพบเห็น ครับ และตามชุมชนจะเกิดโรคระบาดตามมาครับ ให้หาที่สูงๆอยู่ครับ แต่ไม่แนะนำตามถ้ำเพราะพื้นที่เหล่านี้จะมีแผ่นดินไหวรุนแรงครับ

    สุพรรณบุรี
    - จ. สุพรรณบุรี จมหายครับ แต่จะมีภูเขาโผล่อยู่จำนวนนึงครับ


    สำหรับต่างประเทศที่ท่าน Aunyasit ได้กรุณาตอบไว้แล้ว

    ประเทศอังกฤษ
    - จะเหลือเป็นเกาะแก่งครับ ถ้าจะกลับเมืองไทยอย่างช้าที่สุดให้ถึงไทยก่อนกลางเดือน พ.ค. ครับ ส่วนที่ปลอดภัยในอังกฤษไม่สามารถบอกรายละเอียดได้เพราะไม่ทราบว่า location ของสถานที่ นั้นอยู่ตรงไหนในประเทศนั้น และไม่รู้ว่าชื่ออะไร มีพื้นที่ที่พอจะปลอดภัยคร่าวๆคือน่าจะเป็นที่ของรัฐบาลที่อยู่ตามภูเขาครับ แต่ไม่รู้ว่าชื่ออะไร

    ประเทศสวีเดน
    - ประเทศสวีเดนนั้นจะเกิดภัยพิบัติประมาณภายใน 30 ชั่วโมงเริ่มจากเหตุการณ์ฟ้ามืดตอนกลางวัน ถ้าคร่าวๆก็ภายใน 24 ชั่วโมงจะเสียหายทั่วโลก ถึงเวลานั้นการสื่อสารสมัยใหม่ทุกประเภทจบสิ้นครับเพราะฟ้าจะลงทำลายหมดทุกที่ ที่ไหนที่ประจุไฟฟ้าสามารถวิ่งผ่านไปได้จะถูกทำลายด้วยพลังประจุไฟฟ้ามหาศาลที่มาจากอากาศครับ
    - ส่วนประเทศสวีเดนนั้น ทางยุโรปก็จะเจอภัยพิบัติหนักเช่นกัน ไม่น่าอยู่เลยครับ


    ประเทศฝรั่งเศส
    - ประเทศฝรั่งเศส โดยรวมก็จะได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติหนักครับ
    - พื้นที่แถวปารีส ฝรั่งเศส ต่อไปภัยพิบัติเล่นงานราบคาบครับคงจะเสียหายยับเยินเช่นกัน

    ประเทศอเมริกา
    - ประเทศอเมริกาโดยรวม ต่อไปแทบล่มจมครับ เข้าใจว่าจะเจอภัยพิบัติหลายอย่าง ทำให้เหลือเป็นเกาะน้อยใหญ่ แต่ก็จะมีคนจำนวนหนึ่งรอดครับ เพราะคนดีมีศีลธรรมนั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นคนในพุทธศาสนาเท่านั้น หากใครเป็นผู้มีเมตตา มีไมตรีจิต เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ รู้จักการให้การแบ่งปัน ไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น ก็ถือว่าอยู่ในกฏเกณฑ์ของคนดีมีศีลธรรมทั้งนั้น อย่างไรก็ตามผมเข้าใจว่าในอนาคตอันใกล้บางส่วนของอเมริกา จะปกคลุมด้วยหมอกควันจากนิวเคลียร์ด้วยครับ ส่วนนิวยอร์กนั้นจะเหลือเป็นเกาะครับ ไม่รู้ว่าโดนภัยอะไร ตอนไหน อันนี้ผมไม่ทราบ

    ประเทศมาเลเซีย
    - กัวลาลัมเปอร์ มาเลเชีย จะเหลือเฉพาะที่เป็นภูเขาครับ ในส่วนที่ราบก็จะราบเลยครับ น้ำจากทะเลคงกวาดไปเยอะครับ

    ประเทศจีน
    - ประเทศจีนแถวกวางเจา จะเจอแผ่นดินไหวอย่างหนักครับ ขนาดความรุนแรงของแผ่นดินไหวที่จะเกิดขึ้น จะต้องหาค่าของมาตรวัดแผ่นดินไหวกันใหม่ครับ

    ประเทศสิงคโปร์
    - ประเทศสิงคโปร์จะอยู่ได้จนถึงวันที่มีภัยพิบัติครับ ผมเข้าใจว่าภายใน 3 วันหลังจากภัยพิบัติ ประเทศสิงคโปร์น่าจะหายไปจากแผนที่ครับ

    ฮ่องกง
    - ฮ่องกง นั้นไม่น่าจะมีอะไรเหลือครับ หากมีลูกอยู่ก็น่าจะหาทางให้กลับมาเมืองไทยครับ ในช่วงเวลาอันใกล้นี้ เมืองไทยจะดีที่สุดครับ

    ท่านที่สนใจ ขอเชิญอ่านรายละเอียดทั้งหมด ได้ที่กระทู้ข้างล่างนี้ครับ


    ที่มา http://palungjit.org/threads/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7-%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B9%83%E0%B8%88-%E0%B9%84%E0%B8%9B%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%84%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4.330377/page-16
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มีนาคม 2012
  19. warrrior

    warrrior Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +64
    สุรินทร์ บุรีรัม ศรีษะเกศ อุบล ร้อยเอ็ด สารคาม มุกดาหาร

    แล้วยโสธร ละไปไหน ไม่มีในข้อมูลช่ายป่ะครับ :boo:
     
  20. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    โอกาสทองของท่านมาถึงแล้ว...

    ขอเชิญเข้าไปสอบถามคุณอัญญาสิทธิ์ ได้โดยตรง ในกระทู้ตามที่ได้แจ้งเอาไว้แล้วครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...