ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

อภิญญาใหญ่กำลังจะมา คาดว่าสมาชิกบางท่านอาจมีวาสนาบารมีพร้อมที่จะรับภาระอันยิ่งใหญ่นี้

แต่เราต้องมาสัญญากันก่อนนะว่าได้แล้วมาสอนเพื่อนๆกันด้วย ได้คนเดียวเหนื่อยคนเดียวนะ ได้หลายคน ช่วยแบ่งๆกันเหนื่อย

 

อนัตโต พุทธะฉัพพรรณรังสี ธรรม เม อะ มะ อุ
นึกถึง กงล้อแสงแห่งศีลธรรม หมุนไป เพื่อปลดปล่อย ดวงจิต ดวงวิญญาณ ที่ยังตกค้าง เพราะบุญกุศล ยังไม่มากพอ หรือถูกกักขัง เพราะคำสาป หรือ มอบหมายหน้าที่ในอดีตของผู้มีบุญบารมี หากระลึกย้อนไปในอดีตได้ว่าตนเคยมอบหน้าที่เหล่านี้ไว้ให้เขา เมื่อเราได้สร้างบุญกุศล แล้ว ก็ช่วยกันส่งแสงแห่งบุญกุศลไปให้เขาเหล่านั้นเถิด
อุทิศบุญจากการภาวนา
ก่อนภาวนา ให้อธิษฐานจิตว่า ขอบุญกุศลที่เกิดจากการภาวนา จงสำเร็จแก่เจ้ากรรมนายเวร ที่อยู่ภายใน ภายนอกร่างกายและที่จะมาถึงตัวข้าพเจ้า เทวดาประจำตัว นาค ครุฑ อสูร ยักษ์ คนธรรพ์ ภูต ผี ปีศาจ ที่อยู่บริเวณนี้ ในขณะที่ข้าพเจ้าภาวนา หากเกิดบุญกุศลขึ้นเมื่อใด ขออำนาจพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์จงบันดาลให้บุญที่เกิดขึ้นในขณะที่ข้าภาวนาคราวนี้ แปรสภาพเป็นสิ่งต่างๆตามแต่ อมนุษย์แต่ละดวงใจที่มาเกี่ยวข้องกับข้าอยู่ในเวลานี้ต้องการ แล้วขอให้บุญที่แปรสภาพแล้วนั้นเป็นของ อมนุษย์แต่ละดวงใจเหล่านั้นตามที่เขาปราถนานั้น เทอญ และขออย่าได้ขัดขวางการปฏิบัติภาวนาของข้าพเจ้าเลย สาธุ ๆ ๆ

 

จากคุณต้อง abmin

การจะทำให้พระพุทธศาสนารุ่งเรืองอีกวาระหนึ่ง และมีพระอริยเจ้ามากคล้ายสมัยพระพุทธองค์อยู่นั้น ถ้าเป็นบุคคลธรรมดาไม่สามารถทำได้แน่ ผู้ที่จะทำได้ขนาดนี้ ต้องมีทั้งบุญญาบารมีและอิทธิฤทธิ์ รองจากองค์สมเด็จพระพุทธเจ้า นั้นก็คือ พระมหาโพธิสัตว์ นามว่า " ศรีอริยะเมตไตรย " ซึ่งถือว่าเป็นพระโพธิสัตว์ที่เป็นรุ่นพี่ ของพระโพธิสัตว์องค์อื่นๆ และเหตุการณ์ที่ผมบอกนี้ เกิดขึ้นช้าหรือเร็วก็ขึ้นอยู่กับท่านนี้เพียงคนเดียว

หลวงพ่อฤาษีฯ พูดว่า " อภิญญาจะขึ้นจนเป็นสาธารณะ ปี 2545 " แต่ก็ยังไม่เห็นใช่ไหมครับ เพราะอะไรก็เพราะบุคคลคนนี้คนเดียวละครับ ช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับคนผู้นี้คนเดียวครับ

พระพุทธเจ้าท่านบอกว่าท่านผู้นี้จะสอนทั้ง พุทธภูมิ และ สาวกภูมิครับ เป็นบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญอภิญญามากที่สุดครับ

-----------------------------------------------------------------------
WebSnow<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_9502", true); </SCRIPT>
เว็ปมาสเตอร์ (วีระชัย)
สมาชิกยอดฮิต

หลวงพ่อฤาษี พูดว่า " อภิญญาจะขึ้นจนเป็นสาธาณะ ปี 2545 "

กระแสนี้ได้เริ่มเกิดขึ้นแล้ว

ตั้งแต่กลุ่มเขากระลา โทรจิตติดต่อกับมนุษย์ต่างดาว ปี 2545 หรือ 2543 จำไม่ค่อยได้ ข่าวนี่สะเทือนเมืองไทยเลย อ.เทพนม ก็สานต่อได้ดี ถึง NASA อีก

ตอนนี้ก็กำลังเริ่มขึ้นเรื่อยๆ พวกเราก็อยู่ในกลุ่มอภิญญานี่แหละ
หลวงพ่อก็ปูพื้นฐานมโนมยิทธิไว้นานแล้ว มีจำนวณ 2 แสนกว่าคน
ในจำนวณนั้นฝึกกันมานานก็มี ถ้าเข้าญาณ ๔ ได้จนชำนาญก็น่าจะได้อภิญญาและกลุ่มอื่นๆ ก็มี

ศิษย์ของธรรมกายก็เป็นแสนเหมือนกัน
ธรรมกายก็จะกลับมารุ่งเรืองอีกครั้งหนึ่ง ยิ่งกว่าเดิมอีก
การฝึกนึกถึงลูกแก้วนั่นก็เป็นกสินแบบหนึ่ง

พอดีพระพุทธเจ้าบอกว่าช่วงนี้ที่เรากำลังอยู่กัน กำลังใจคนจะรับอภิญญาได้

ตัวผมเองก็เพิ่งเริ่มจริงๆ เริ่มเขียนกระทู้แนวนี้ webboard พบปะคนไทย ก็ปี 2545 พอดี ผมดันมาถอดจิตได้มากๆ ก็ปีนั้นแหละ เหมือนกับที่หลวงพ่อบอกว่า พระพุทธเจ้าทำนายไว้ว่า กำลังใจคนจะรับได้อะไรทำนองนี้

ตอนนี้ก็มีงานวิทยาศาสตร์ทางจิตนานาชาติอีก เกิดการรวมตัวกัน

เว็ปต่างๆ ก็เปิดกันมากขึ้น คนคุยเรื่องพลังจิตกันในสาธารณะมากกว่าแต่ในอดีตที่ผ่านมา

อภิญญาน่าจะเกิดจริงๆ ตามคำทำนาย

ที่มา http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=1321

<!-- / message --><!-- sig -->

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>การทำห้วงอวกาศให้เป็นสนามรบ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย แจ็ค สมิธ</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>19 มีนาคม 2550 00:24 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>

​

โครงการสตาร์วอร์ของสหรัฐอเมริกาศึกษาการใช้ดาวเทียมเพื่อยิงขีปนาวุธของศัตรูให้ร่วงจากอากาศ สิ่งดังกล่าวสามารถทำได้ด้วยลำแสงเลเซอร์ที่มีกำลังสูงหรือ อาวุธลำแสงอนุภาค อาวุธลำแสงอนุภาคยิงกระแสของอะตอมด้วยอัตราความเร็วที่สูงลำแสงเหล่านี้อาจมาจากตัวดาวเทียมเองหรือสะท้อนจากโลก

ห้วงอวกาศคือบริเวณที่บรรยากาศของโลกสิ้นสุดลง คือสูงจากพื้นดินขึ้นไปราว 100 กิโลเมตร สหรัฐต้องทำให้ห้วงอวกาศเป็นสนามรบ เพื่อที่จะครองความเป็นเจ้าโลกเอาไว้ให้อยู่มือ ตอนนี้กระทรวงกลาโหมสหรัฐก็สอดส่องโลกมาจากอวกาศได้แล้ว และกำลังพยายามจะจัดส่งการทหารขึ้นไปบนนั้น เพื่อว่าตนจะได้เปิดฉากโจมตีได้ทั่วทุกมุมโลก ในเวลาเพียงไม่ถึงชั่วโมง

วัตถุประสงค์ในนโยบายประสานการโจมตีโลกของกระทรวงฯ คือ

 

อภิญญาของเดวิด คอปเปอร์ฟิลด์
​

​

​

<!-- / message --><!-- sig -->

เดวิด คอปเปอร์ฟิลด์ อภิญญาไม่ใช่มายากล อันนั้นอภิญญาจริง ๆ

ถาม : แล้วอย่างเดวิด คอปเปอร์ฟิลด์ เป็นอย่างไร ?​

ตอบ : อันนั้นอภิญญาไม่ใช่มายากล อันนั้นอภิญญาจริง ๆ เขาเองเขาก็บอกตามประวัติเขาไปฝึกกับพระแต่เป็นพระจีน ทางนิกายมหายาน คราวนี้พื้นฐานเก่าเขามีเยอะ พอฝึกสมาธิใจสงบ อภิญญามันคืนมา แรก ๆแกก็แปลกใจ แต่พอใช้ไปใช้มา ความเคยชินอดีตเคยใช้ได้ ปัจุบันนึกอย่างไงเป็นอย่างนั้น แป๊บเดียวมันก็คล่องแล้ว เปิดหลังทีวีหิ้วตัวละครออกมาดูเล่นข้างนอกได้ คนทั่ว ๆ ไปทำได้มั้ยเล่ามายากล ประเทศไหนมันทำได้ ? ประเภทตำรวจไล่ยิงผู้ร้ายอยู่ในจอ มันเปิดหลังทีวีหิ้วผู้ร้ายออกมา ตำรวจยืนงง ในจอมันหายไปแล้วนี่ (หัวเราะ) สนุกดี เครื่องบินโบอิ้งทั้งคัน เขาสามารถทำำให้หายได้ใช่ไหม เอาผ้าคลุมอยู่สองฝั่งของกำแพงเมืองจีน เดินมุดผ้าคลุมไปหายไปทะลุอีกฝั่งหนึ่ง นั่นจริง ๆ ก็คือ กำลังของกสิณ อธิษฐานให้มันมีช่องว่าง แล้วก็เดินผ่านไปแค่นั้น ​

คัดลอกมาจาก เว็ปกระโถนข้างธรรมาสน์ ​

ที่มา http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=11356&page=2​

 

วันนี้ได้ไปกราบพระอาจารย์ประจักษ์ ท่านได้เล่าให้ฟังว่า เหตุการณ์ภัยพิบัติกำลังร่นใกล้เข้ามา และ ท่านได้บอกว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุ้มครองรักษาช่วยดึงเอาไว้ ท่านได้ถอนกำลังออกไปแล้ว ซึ่งตรงกับที่พระท่านมาบอกอย่างน่าแปลกใจครับ

ภัยอีกสิ่งหนึ่งที่กำลังจ่อเข้ามา ใกล้เป็นภัยจากมนุษย์ครับ มีข่าววงใน บอกว่า "ไฮโซหลายคนเริ่มเตรียมถอนเงินสดติดบ้าน ไปซื้อข้าวสารอาหารแห้งมาเตรียมเอาไว้ บางคนหลบไปอยู่เมืองนอกก่อนดูว่าเหตุการสงบค่อยกลับมากัน"

เราทำแบบเขาไม่ได้ ก็เตรียมตัว เตรียมใจกันไว้ อย่าไปยุ่งกับกรรมของเขา อยากช่วยก็ปฏิบัติธรรม ทำความดีกันประสาพวกเรากันไปอย่างมั่นคง บอกแบบนี้คงพอจะทราบกันว่าเรื่องอะไร ให้วางกำลังใจไว้เป็นกลางๆครับ ไม่ รัก ไม่เกลียด ฝ่ายใดข้างใด เราเป็นฝ่ายธรรม ฝ่ายที่มองประโยชน์สุขของส่วนรวมประเทศชาติเป็นหลักกันดีกว่าครับ

ทุกข์ในโลกก็หนักหนาสาหัสกันอยู่แล้ว

 

เมื่อภัยกำลังจะเกิดขึ้น เรากำลังจะได้สร้างบารมี(บุญที่กลั่นตัวอย่างเข้มข้น) โดยการพยายาม เตรียมตัวให้พร้อม เตรียมใจให้มั่นคง พินิจ พิเคราะห์ พิจารณา อย่างแยบคาย และแยบยล ถึง หนทางแก้ไขปัญหาที่จะเกิดขึ้น ทั้งปัจจุบัน และอนาคตที่กำลังจะมาถึง กล่าวคือ ตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาท เหตุร้ายที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งเกิดจากเจ้ากรรมและนายเวรของพวกเรา และตัวเราเองก็เป็นเจ้ากรรมนายเวรของผู้อื่น(สัตว์เล็กสัตว์น้อย เช่นกัน) สิ่งที่เราควรจะทำเป็นอันดับแรกๆ ก็คือ อภัยทาน ต่อกรรมไม่ดีที่ผู้อื่นได้กระทำต่อเรา ไม่ว่าเขาจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม จะในอดีต ปัจจุบัน หรืออนาคตก็ตาม บุญกุศลที่เกิดขึ้นนั้นยิ่งใหญ่ มีพลังมาก ถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา เถิด นี่เป็นการปลดปล่อยพลังงานส่วนที่ไม่ดี ที่ปรากฎอยู่บนโลกของเราไปได้อย่างมากมาย หากเริ่มต้นจากตัวเรา ไม่ว่าใครที่ล่วงเกินเรามาแล้ว ทั้งทางกาย วาจา ใจ ก็ตามแต่เดิมเราเคยผูกใจ ให้โกรธ(ใจคิด) ให้อาฆาต(วาจาพูดฝากไว้ก่อน) ให้พยาบาท(ต้องแก้แค้น ลงมือกระทำ) ใจเราก็เศร้าหมองอยู่ หากเราจะอภัยให้เขาได้ต้องสามารถอุทิศบุญกุศลให้แก่เขาเหล่านั้น ไม่ยอมเป็นเจ้ากรรมนายเวรของเขาอีกแล้ว วิธีการอาจจะใช้วิธีการทำบุญกุศลร่วมกันกับเขาในวันสำคัญทางพุทธศาสนา หรือทำบุญตามโอกาส หรือสร้างสาธารณะสมบัติ เช่นสร้างถนน สะพาน แล้วประกาศให้อภัยทานแก่เขา เพราะเห็นในความดีของเขาที่ได้กระทำ นี่จะทำได้โดยง่ายไม่ต้องฝืน(ใจคิด พูด ทำ) เพราะว่าเราตั้งแต่อดีตชาติ จวบจนปัจจุบัน ได้สร้างกรรมต่อผู้อื่นมากมาย ไม่ว่าคนหรือสัตว์ก็ตาม ขั้นต่อมาไม่สร้างกรรมที่ไม่ดีต่อผู้อื่น โดยการสำรวม กาย วาจา ใจ ในปัจจุบัน จะกระทำได้ต้องมีสติ หรือ มหาสติ กับปัจจุบัน ทำให้ได้ เพิ่มขึ้นทุกๆวันเวลาที่ล่วงไป ขั้นต่อมา ทำความดีเมื่อไร อุทิศบุญให้แก่ผู้มีพระคุณ หรือผู้ที่ได้สร้างคุณงามความดี(อวยพร ให้พร) ทำให้ต่อเนื่องกัน(คิดพูดทำ) และขั้นสุดท้าย เมื่อทำทุกขั้นตอนแล้ว ต้องทำใจให้ใสบริสุทธิ์ สว่าง สงบ (อยู่เหนือโลก) อุเบกขา
จงอย่าได้เสียใจ ในสิ่งที่เราได้พยายามอย่างเต็มที่แล้ว สมกับที่เราได้เกิดมาเป็นมนุษย์
ซึ่งสามารถเป็นผู้ประเสริฐได้ด้วย ความตั้งใจ(แม้ว่าแรงใจของมนุษย์แต่ละท่านจะไม่เท่ากันก็ตาม) เราเหนื่อยได้ ล้าได้ แต่จงอย่าได้ย่อท้อ ต่ออุปสรรคทั้งมวล เดินต่อไป ก็จะถึงเส้นชัยในที่สุด หากเข็มทิศเราตรง
---------------------------------
บุญกุศลอันที่จะพึงมีแก่ข้าพเจ้าแล้วไซร้ ขออุทิศบุญนี้ให้แก่ญาติธรรมทั้งปวงเทอญ

 

คำขอขมาและอธิษฐานจิต
อธิษฐานหน้าพระพุทธรูป หรือสวดก่อนนอนก็ได้ หากไม่มีพระพุทธรูปก็ให้จินตนาการรูปท่านแทน พยายามให้รายละเอียดของพระองค์ท่านให้ชัดเจนที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ แล้วนึกถึงบุญกุศลที่เราได้กระทำมาแล้วให้มีความปลื้มใจ จากนั้น ให้แปรสภาพบุญนั้นเป็นเครื่องสักการะบูชา ให้นึกให้ชัดเจน เมื่อเริ่มต้นหากยังนึกไม่ออกให้ วาดร่างตำแหน่งก่อนก็ได้
(นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ 3 จบ)
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต อุกาสะ ทะวารัตตะเยนะ กะตัง
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเต
หากข้าพเจ้า จงใจหรือประมาทพลาดพลั้ง ล่วงเกิน บิดา-มารดา
ครูบาอาจารย์ พระพุทธ พระธรรม พระอรหันต์ทุกพระองค์ พระอริยสงฆ์เจ้า
ตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายรวมถึงผู้มีพระคุณ
และท่านเจ้ากรรมนายเวร จะด้วยกาย วาจา ใจ ก็ดี
ขอได้โปรดอโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้าด้วย
ข้าพเจ้าจะประพฤติตนในทางที่ถูกที่ชอบ ที่ควร
ขอบุญบารมี ในอดีตกาลที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน
จงส่งผลให้ข้าพเจ้าและครอบครัว ตลอดจนบริวารที่เกี่ยวข้อง
จงเจริญด้วย อายุ วรรณะ สุขะ พละ ลาภ ยศ สุข สรรเสริญ สติปัญญา
ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ อุปสรรคใดๆ โรคภัยใดๆ ขอให้มลายสิ้นไป
ขอให้ข้าพเจ้ามีความสว่างทั้งทางโลก
ทางธรรมตั้งแต่บัดนี้ตราบเข้าสู่พระนิพพานเทอญ
หากมีผู้ใดเคยสร้างเวรสร้างกรรมกับข้าพเจ้า
ไม่ว่าจะชาติใดภพใดก็ตาม ข้าพเจ้ายินดีอโหสิกรรมให้
ขอถอนความพยาบาท
ขอให้ข้าพเจ้าพ้นจากคำสาบแช่งของปวงชน ของเจ้ากรรมนายเวร
ขอให้พ้นนรกภูมิ พบแสงสว่างทั้งทางโลกทางธรรมเทอญ

 

คำแนะนำของคุณลูกหลานหลวงปู่ ดีแล้วถูกต้องแล้วครับ สาธุ....

 

ข้อมูลจากน้องVanco ครับ

สิ่งที่ควรปฎิบัติเมื่อเกิดแผ่นดินไหว/สึนามิ
<HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->เหตุจากแผ่นดินไหว ก่อนการเกิดแผ่นดินไหว
1. ควรมีไฟฉายพร้อมถ่านไฟฉาย และกระเป๋ายาเตรียมไว้ในบ้าน และให้ทุกคนทราบว่าอยู่ที่ไหน
2. ศึกษาการปฐมพยาบาลเบื้องต้น
3. ควรมีเครื่องมือดับเพลิงไว้ในบ้าน เช่น เครื่องดับเพลิง ถุงทราย เป็นต้น
4. ควรทราบตำแหน่งของวาล์วปิดน้ำ วาล์วปิดก๊าซ สะพานไฟฟ้า สำหรับตัดกระแสไฟฟ้า
5. อย่าวางสิ่งของหนักบนชั้น หรือหิ้งสูง ๆ เมื่อแผ่นดินไหวอาจตกลงมาเป็นอันตรายได้
6. ผูกเครื่องใช้หนัก ๆ ให้แน่นกับพื้นผนังบ้าน
7. ควรมีการวางแผนเรื่องจุดนัดหมาย ในกรณีที่ต้องพลัดพรากจากกัน เพื่อมารวมกันอีกครั้ง ในภายหลัง
8. สร้างอาคารบ้านเรือนให้เป็นไปตามกฎเกณฑ์ที่กำหนด สำหรับพื้นที่เสี่ยงภัยแผ่นดินไหว

ระหว่างเกิดแผ่นดินไหว
1. อย่าตื่นตกใจ พยายามควบคุมสติอยู่อย่างสงบ ถ้าท่านอยู่ในบ้านก็ให้อยู่ในบ้าน ถ้าท่านอยู่นอกบ้านก็ให้อยู่นอกบ้าน เพราะส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บเพราะวิ่งเข้าออกจากบ้าน
2. ถ้าอยู่ในบ้านให้ยืนหรือมอบอยู่ในส่วนของบ้านที่มีโครงสร้างแข็งแรง ที่สามารถรับน้ำหนัก ได้มาก และให้อยู่ห่างจากประตู ระเบียง และหน้าต่าง
3. หากอยู่ในอาคารสูง ควรตั้งสติให้มั่น และรีบออกจากอาคารโดยเร็ว หนีให้ห่างจากสิ่งที่จะล้มทับได้
4. ถ้าอยู่ในที่โล่งแจ้ง ให้อยู่ห่างจากเสาไฟฟ้า และสิ่งห้อยแขวนต่าง ๆ ที่ปลอดภัยภายนอกคือที่โล่งแจ้ง
5. อย่าใช้ เทียน ไม้ขีดไฟ หรือสิ่งที่ทำให้เกิดเปลวหรือประกายไฟ เพราะอาจมีแก๊สรั่วอยู่บริเวณนั้น
6. ถ้าท่านกำลังขับรถให้หยุดรถและอยู่ภายในรถ จนกระทั่งการสั่นสะเทือนจะหยุด
7. ห้ามใช้ลิฟท์โดยเด็ดขาดขณะเกิดแผ่นดินไหว
8. หากอยู่ชายหาดให้อยู่ห่างจากชายฝั่ง เพราะอาจเกิดคลื่นขนาดใหญ่ซัดเข้าหาฝั่ง

หลังเกิดแผ่นดินไหว
1. ควรตรวจตัวเองและคนข้างเคียงว่าได้รับบาดเจ็บหรือไม่ ให้ทำการปฐมพยาบาลขั้นต้นก่อน
2. ควรรีบออกจากอาคารที่เสียหายทันที เพราะหากเกิดแผ่นดินไหวตามมาอาคารอาจพังทลายได้
3. ใส่รองเท้าหุ้มส้นเสมอ เพราะอาจมีเศษแก้ว หรือวัสดุแหลมคมอื่น ๆ และสิ่งหักพังแทง
4. ตรวจสายไฟ ท่อน้ำ ท่อแก๊ส ถ้าแก๊สรั่วให้ปิดวาล์วถังแก๊ส ยกสะพานไฟ อย่าจุดไม้ขีดไฟ
หรือก่อไฟจนกว่าจะแน่ใจว่าไม่มีแก๊สรั่ว
5. ตรวจสอบว่า แก๊สรั่ว ด้วยการดมกลิ่นเท่านั้น ถ้าได้กลิ่นให้เปิดประตูหน้าต่างทุกบาน
6. ให้ออกจากบริเวณที่สายไฟขาด และวัสดุสายไฟพาดถึง
7. เปิดวิทยุฟังคำแนะนำฉุกเฉิน อย่าใช้โทรศัพท์ นอกจากจำเป็นจริง ๆ
8. สำรวจดูความเสียหายของท่อส้วม และท่อน้ำทิ้งก่อนใช้
9. อย่าเป็นไทยมุงหรือเข้าไปในเขตที่มีความเสียหายสูง หรืออาคารพัง
10. อย่าแพร่ข่าวลือ

 

อันตรายจากแผ่นดินไหวในประเทศไทย​

​

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=fontbold>ภาพแสดงตำแหน่งและขนาดของแผ่นดินไหวที่ตรวจวัดได้ในประเทศไทยและในประเทศข้างเคียง ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๕๖-๒๕๔๒

อันตรายจากแผ่นดินไหวในประเทศไทย โดย นาวาอากาศเอก กมล วัชรเสถียร

นับตั้งแต่ประเทศไทยได้มีขีดความสามารถในการตรวจวัดแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในประเทศ ก็ได้มีการตรวจพบแผ่นดินไหวขนาดกลาง (ประมาณ ๕ ริกเตอร์) จำนวน ๘ ครั้ง ดังแสดงในตารางที่ ๕ และในการศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้านธรณีวิทยาของโครงการก่อสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น พ.ศ. ๒๕๓๙ ได้มีการศึกษารอยเลื่อนที่มีพลังในเขตจังหวัดแพร่ โดยกรมทรัพยากรธรณีและการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พบรอยเลื่อนที่มีพลังที่อาจทำให้เกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ถึง ๗ ตามมาตราริกเตอร์ อันตรายจากแผ่นดินไหวในประเทศไทยจึงเป็นเรื่องที่ไม่อาจมองข้ามไปได้​

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=fontbold>ตารางที่ ๖ รอยเลื่อนบริเวณภาคเหนือของประเทศไทยที่สามารถก่อให้เกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่

​

</TD></TR></TBODY></TABLE>​

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=fontbold>ตารางที่ ๕ แผ่นดินไหวขนาดตั้งแต่ ๕ ริกเตอร์ขึ้นไปที่เคยตรวจวัดได้ในประเทศไทย</TD></TR></TBODY></TABLE>​

อันตรายจากแผ่นดินไหวขนาดกลาง

ในช่วง ๘๐ ปีที่ผ่านมา ได้มีการตรวจพบแผ่นดินไหวขนาดกลางถึง ๘ ครั้ง ดังแสดงในตารางที่ ๕ แผ่นดินไหวขนาดกลางนี้ สามารถทำลายอาคารบ้านเรือนในรัศมี ๑๐-๑๕ กิโลเมตรจากจุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหว จึงเป็นอันตราย อย่างยิ่ง หากเกิดขึ้นในบริเวณเมืองใหญ่ที่มีประชากร หนาแน่น ตัวอย่างเช่น แผ่นดินไหวในประเทศอียิปต์เมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๕ มีขนาด ๕.๒ ริกเตอร์ มีศูนย์กลางห่างจากกรุงไคโร ๒๐ กิโลเมตร ทำให้มีผู้เสียชีวิต ๕๙๓ คน บาดเจ็บมากกว่า ๖๐๐ คน อาคารเสียหายมากถึง ๑๔,๐๐๐ หลัง แต่แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในประเทศไทยมักเกิดห่างไกลจากแหล่งชุมชน จึงไม่เกิดภัยพิบัติแต่ประการใด อย่างไรก็ตาม การขยายตัวอย่างรวดเร็วของชุมชนเมืองอาจทำให้เกิดชุมชนขนาดใหญ่ ในบริเวณพื้นที่ที่อาจเป็นศูนย์กลางการเกิดแผ่นดินไหว จึงเป็นเรื่องที่ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ต้องให้ความสนใจกำกับดูแล

อันตรายจากแผ่นดินไหวขนาดใหญ่

แผ่นดินไหวขนาดใหญ่ หมายถึง แผ่นดินไหวขนาด ๖.๕ ริกเตอร์ขึ้นไป ตั้งแต่ได้มีการวัดขนาดแผ่นดินไหวในยุคใหม่ในประเทศไทย ก็ไม่เคยปรากฏเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาดใหญ่ แต่ทั้งนี้ก็ยังไม่อาจสรุปได้ว่า ประเทศไทยจะไม่มีอันตรายจากแผ่นดินไหวขนาดใหญ่

ใน พ.ศ. ๒๕๓๙ กรมทรัพยากรธรณีและการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ได้ศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้านธรณีวิทยาของโครงการก่อสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น และส่วนหนึ่งของการศึกษานี้ จึงได้มีการสำรวจรอยเลื่อนที่อยู่ในรัศมี ๑๕๐ กิโลเมตร จากตำแหน่งเขื่อน ผลการสำรวจแสดงว่า มีรอยเลื่อนที่มีพลังถึง ๗ รอย ที่อาจก่อให้เกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ถึง ๗ ริกเตอร์ รอยเลื่อนหลายรอยมีตำแหน่งอยู่ใกล้ตัวเมืองของจังหวัดลำปาง แพร่ น่าน และพะเยา อย่างไรก็ดี คาบของการเกิดซ้ำ (Return Period) ของรอยเลื่อนแต่ละรอยอาจยาวนานนับ ๑,๐๐๐ ปีหรือ ๑๐,๐๐๐ ปี (ดูตารางที่ ๖)


ที่มา http://search.sanook.com/knowledge/...%B9%E4%CB%C7%E3%B9%BB%C3%D0%E0%B7%C8%E4%B7%C2​

​

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ภาพนิมิตจากนักพลังจิต
(ท่านผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณ)​

(ภาพประกอบจากอินเตอร์เนต)​

ดร.กัญจีรา กาญจนเกศ​

“ดิฉันไม่ใช่หมอดู แต่มีญาณบางอย่างสามารถเห็นภาพเหตุการณ์ในอนาคตล่วงหน้า โดยจากการนั่งสมาธิสวดมนต์ภาวนาปฏิบัติธรรมครั้งนี้ ได้พบภาพนิมิตล่าสุดว่า แฟลตดินแดงกว่าครึ่งจะพังพาบเป็นหน้ากลอง เพราะทุกวันนี้ตอนนั่งสมาธิจะรับรู้ได้ถึงความสั่นสะเทือนระดับลึก จนเชื่อว่ากรุงเทพฯ จะเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงแน่นอน และมีอาฟเตอร์ช็อกด้วย คนที่อยู่ในตึกสูงเกิน 30 ชั้นให้ระวังตัวไว้เลย จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ภาพนิมิตที่ได้เห็นก็ปรากฏเป็นจริงทุกครั้ง แต่จะช่วงเวลาไหนเท่านั้น” ดร.กัญจีรา กล่าวและว่า การออกมาพูดวันนี้ ก็ไม่ได้มีเจตนาให้คนตกใจกลัว แต่เป็นการเตือนเพื่อป้องกันก่อนจะสายเกินแก้ ​

สัปเหร่อ<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_580495", true); </SCRIPT>สมาชิก

มีท่านหนึ่งปฏิบัติธรรมแล้วสื่อจิตกับมนุษย์ต่างดาว
เขาหลับตาเอาปากกาขีดเป็นเส้นอย่างรวดเร็ว ได้
ภาพมากมาย เช่น ภาพรูปมนุษย์ต่างดาวที่สื่อจิตด้วย
ภาพตึกเวิล์ดเทรดถล่ม (ก่อนถล่มจริง) ภาพตึกไบหยกถล่ม

ที่ยังไม่เกิดก็มี "ตึกไบหยกถล่ม" และ "อุกาบาตชนโลก"

ได้เห็นภาพและเรื่องราวผ่านกัลยาณมิตรบางท่าน เลยลองโพสดู

http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=80393

ภาพประกอบจากอินเตอร์เนต​

​

แฟลตดินแดง​

​

ตึกใบหยก​

​

อุกกาบาตชนโลก​

<!-- / message --><!-- sig -->

 

*** อภิญญาใหญ่ คือ !!!!!!! ****

อภิญญาใหญ่...หมายถึง....ผลที่ได้จากการปฏิบัติ "สัจจะ" ประจำ
เพราะ...เป็นการปฏิบัติตาม "หลักสัจจะธรรม"
เป็นหลักเดียวที่ปักไว้มั่นคง สูงสุด

ขอให้ใช้ชีวิต ปฏิบัติตนด้วย "สัจจะ" ทุกวัน

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** เตือนอีกครั้ง... ชะตากรรมของประเทศ ****

ไม่มีใครช่วยได้ !!!!!!!
มันเป็น...ชะตากรรมของประเทศ

เรื่อง

 

*** กรรม ของเขมร ****

ดินแดนเขมร....เคยเจริญรุ่งเรืองทางศาสนศาสตร์
ปรากฏใบหน้าของ "โลกุตตระ" ...บนยอดปราสาทใหญ่ในสมัยโบราณ
ศาสนาพุทธเคยเจริญรุ่งเรือง

แต่...จิตใจคนเขมรที่ผ่านมา เปลี่ยนไปมาก
ศาสนศาสตร์ถูกทำลาย....นำ "ความเห็น"... มาแทน "ความจริง"
สร้างสงครามเบียดเบียน ทำลาย ชีวิตคนจำนวนมาก

หาก...ผู้นำเขมรยังคบคิดสะสมอาวุธ ใช้ทำลายล้าง
เพื่อยึดผืนแผ่นดินประเทศไทยในอนาคต...อันใกล้

ชะตากรรม...ของคนเขมร คือ
ประเทศเขมรจะพบทรัพยากรธรรมชาติ จำนวนมาก
แต่...ก็ต้องเกิดพิบัติต่อมา
เกิด ฟองสีขาว จำนวนมากผุดขึ้นมาจากใต้ดิน
ก่อน....ที่ประเทศจะจมลง
ผู้ที่อยากเห็นเหตุการณ์...จะไม่รอด....เพราะ หนีไม่ทัน
ทุกอย่างจะเกิดขึ้นอย่าง...ฉับพลัน !!!!!!!

หนทางรอด...ของคนเขมร คือ...สัจจะ
" ไม่ยุ่งเกี่ยว ไม่สนับสนุนการทำสงครามทุกรูปแบบ "
และ "การปฏิบัติสัจจะ"....ของคนเขมร
หาก....คนเขมรไม่มี สัจจะ นำชีวิต...ก็ยากที่จะรอดพ้นจาก กรรมในอดีต ที่ร่วมกระทำกันมา

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** โอ้...ชะตาฟ้าลิขิต ****

 

*** ให้ข่าว ...เพื่อเปิดประเด็นใหม่ .... ป้อนข้อมูลให้กับชาวโลก ****

*** เสียดินแดน ****

"กรรม" ที่จะปรากฏ...
เมื่อไทย เสียดินแดนภาคใต้ไป ....
ทหาร จะอ่อนกำลัง เพราะสูญเสียไปมาก
ทางด้าน "เขมร" ...ต้องการดินแดนของไทยในปัจจุบัน
จะทวงคืน...โดยอ้างประวัติศาสตร์เก่า
จะบุกเข้ามาปักธง ในถึง...บางประกง

เรื่องนี้ต้องระวัง !!!
คนอยากมีอำนาจ...คนอยากมั่งคั่ง
คนไทยบางคน บางส่วน...จะทรยศ คบหาคนข้างบ้าน...
เพื่อให้เขามาปล้นบ้านตัวเอง
อย่า...ประมาท....อย่า คิดว่าเป็นไปไม่ได้
สถานการณ์วุ่นวายทุกวันนี้...ล้วนมีประเทศยักษ์ใหญ่หนุนอยู่เบื้องหลังทั้งสิ้น
สังเกต....คนดีมักรักสงบและนิ่ง....คนอยากได้ผลประโยชน์...ชอบออกมาโวยวายก่อนเสมอ
ระวัง...เสือ ที่หลุดเข้าป่า....แอบซุ้มที่พุ่มไม้ข้างบ้าน...กำลังรอจังหวะเสียหลัก เซ สะดุด ล้ม เผลอ....เสือ มันจะกระโจนด้วยกำลังที่สะสมมานาน...ถ้าคนถือปืน ถูกกัด...คนชรา และเด็ก....จะรอดยาก

สิ่งเหล่านี้ คือ "กรรม" ที่กำลังปรากฏชัดขึ้นเรื่อย
หนทางเดินให้พ้นกรรม คือ "พึ่งโลกุตตระ และ สัจจะธรรม"
ปฏิบัติตนด้วย "สัจจะ" วันละข้อ...เพื่อให้เกิดการกระทำใหม่...ที่ปราศจากนิสัยสันดานที่ไม่ดี

ยุคนี้...ต้องสู้กันด้วย

 

*** เป็นห่วงสงครามข้างหน้า คนไทยจะต้องไปเป็นคนเขมร ****

ตอนนี้...เริ่มมีสิ่งบอกเหตุเกี่ยวกับ "เขมรจะบุกไทยในอนาคต"...คือ ๑.จีนสนับสนุนการพัฒนากองทัพเขมร ...๒. เริ่มมีหนังสือต่างๆ ตีพิมพ์เกี่ยวกับ "เกาะสีชัง" บ่อยขึ้น... มีนักเขียนที่ได้รับการสนับสนุนจากจีน เริ่มรวบรวมและเขียนประวัติศาสตร์ของเกาะสีชัง แต่เขียนไม่หมดส่วนใหญ่จะเริ่มที่รัชกาลที่ ๕ (ถ้าจำไม่ผิด)... ประวัติศาสตร์จุดนี้ จะสำคัญมากต่อความอยู่รอดของดินแดนไทยภาคตะวันออกในอนาคต ...เพราะ เขมรจะอ้างประวัติศาสตร์ย้อนหลังในส่วนที่เขาเคยเกี่ยวข้องในอดีต ซึ่งแน่นอนว่าเขาต้องมีประวัติเกี่ยวกับเจ้านาย หรือคนของเขาเก่าแก่กว่า ประวัติของเรา....เขมรภายใต้การสนับสนุนลับๆ จากจีน จะฟ้องต่อศาลโลกได้...เหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับ "เขาพระวิหาร" จนไทยต้องสูญเสียดินแดนไป เพราะไม่มีหลักฐานไปอ้างกับเขา
หนทางป้องกัน คือ
การเตรียมการรวบรวมข้อมูลของ เกาะสีชัง...ไว้ล่วงหน้า
โดยคนไทยต้องร่วมกันค้นคว้าค้นหา ข้อมูล ซึ่งแต่ละคนอาจจะมีเก็บไว้อยู่
ดังนั้น...เจ้าของ Website พลังจิต จะช่วยได้มาก...โดยทำเป็นกระทู้รวบรวมประวัติศาสตร์ชาติไทย...โดยเน้นที่ "เกาะสีชัง" เป็นจุดสำคัญ ข้อมูลที่ได้จะมากขึ้นเรื่อยๆ...ภาพประวัติศาสตร์เก่าแก่ จะถูกรวบรวมมาจำนวนมาก...
เราต้องช่วยกันทำ เพราะการยึดดินแดนนี้...จะก่อให้เกิดสงครามฆ่ากันตายอีกมาก คนจะตายมาก...จึงต้องกันไว้ก่อน
เมื่อเรามีข้อมูลที่เก่าแก่ ประวัติของเราอาจจะย้อนไปหลายร้อย หลายพันปีก็ได้ ยิ่งมากยิ่งดี เพราะจะแสดงว่าดินแดนแห่งนี้เคยเป็นของคนไทยมาก่อน
เรื่อง เขมร จะบุกมาปักธงที่บางประกง...เป็นสิ่งที่ข้าพเจ้ารู้มาจากโลกุตตระ...ข้าพเจ้าเห็นว่าเรายังเตรียมการป้องกันได้จริง แต่ต้องอาศัยพวกท่านที่ทำงานใน Website พลังจิต
เมื่อภาคใต้ไทยเราเอาไม่อยู่...เขาจะเอา ๓ จังหวัดก่อน แล้วค่อยๆ ยึดขึ้นมาเรื่อยจนถึงแถวระนอง...คนจะตายอีกมาก
เรื่องนี้เป็น "กรรม" ที่กำลังประดังเข้ามา...
จึงขอฝากความหวังไว้กับพวกเราทุกคน ช่วยนำไปบอกเขาให้ช่วยกัน
ค่อยๆ ทำขึ้นมา ให้ประวัติปรากฏขึ้น...จนเขมรเขาหาข้ออ้างที่จะเข้ามายึดไม่ได้

- " หนุมาน ผู้นำสาร "