ศรีอริยร์เมตไตรตรัสรู้ สอนโพธิสัตว์

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย ouam, 3 มีนาคม 2012.

  1. ouam

    ouam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    115
    ค่าพลัง:
    +285
    หลักคำสอน

    1. ธรรมประยุกต์ “ใช้หลัก ศีล สมาธิ ปัญญา ตามความเป็นจริง ทุกประการ”

    2. ผู้ปฏิบัติต้องเข้าถึง “ปัญญา”

    3. ธรรมต้องมีไว้ เพื่อผู้ทรงธรรมเสมอไม่เว้นหรือหยุดแม้แต่วันเดียว

    4. เสมอหนึ่งการทำเพื่อการยั้งคิด และต่อข้อธรรมทั้งหลาย ที่เป็นเครื่องทำลายกิเลสและอุปทาน

    5. ทำลายความคิดที่ทำให้จิตฟุ้งซ่าน และเป็นอุปสรรคในขณะที่จิตเข้าถึงปัญญาต้องตั้งจิตให้มั่น ในขณะที่สมองถูกบีบครั้นจนถึงที่สุด


    ขยายคำสอน 1

    เรามิได้เบี่ยงเบนคำสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้าแม้แต่น้อย และขอนอบน้อมอยู่เหนือเศียรเกล้า พร้อมทั้งอยู่ใต้ฝ่าพระบาทของพระองค์ ขอเข้าถึงดวงจิตและพระปัญญาของพระองค์ เพื่อความดับทุกข์ของปุถุชนคนทั้งหลาย ให้ถึงพร้อมโดยน้อมเอาพระธรรมคำสอนของพระองค์มาคิดและปฏิบัติให้สอดคล้องกับธรรมและโลก ซึ่งสามารถนำมาใช้กับชาวโลกโดยทั่วหน้า เพื่อประโยชน์ เพื่อความสุขกับชนทั้งหลาย นานานัปการ ตามความเป็นจริงของผู้กระทำอย่างแท้จริง โดยเน้นหลักของกรรมเป็นพื้นฐานของผู้ปฏิบัติตลอดจนผู้คิดจะทำความดี จนถึงซึ่งการออกจากทุกข์โดยสิ้นเชิง


    ขยายคำสอน 2

    ทุกวันนี้ ผู้สอนหรือผู้เข้ามาศึกษาธรรมนั้นยังไม่เข้าถึงหลักของธรรมในชั้น “ปัญญา” จะเน้นแต่ความจำของผู้ที่คิดโดยใช้ตำราเป็นอาจารย์ตน และสอนโดยให้นั่งฟังเพียงเพื่อความสงบของจิต ซึ่งขาดความคิดที่ทำให้เกิดความรู้ที่อยู่ภายในความรู้สึกของผู้ร่วมฟัง ซึ่งมิใช่เหตุผลของผู้ที่จะต้องพัฒนาด้านปัญญาอย่างแท้จริง


    ขยายคำสอน 3

    ธรรมดาของโลก การกระทำกิจใด ๆ ล้วนจะต้องทำกันเป็นประจำและบ่อย ๆ จึงจะเกิดความชำนาญ จนถึงรอบรู้ และสร้างประโยชน์ให้กับตนเองและผู้อื่นอย่างมากมายมหาศาล

    ธรรมก็เช่นเดียวกัน ต้องมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวขับเคี่ยวจนถึงขั้นเอาเป็นเอาตาย จนถึงเกือบจะเอาชีวิตไม่รอดกับ “ปัญญาธรรม” ความรู้สึกเช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นกับผู้ที่ “สงสัยในธรรม” เลย

    ขอผู้รู้ทั้งหลายจงเห็นธรรม เป็นอารมณ์ทุกลมหายใจ จนเข้าพระนิพพานเป็นที่สุด



    ขยายคำสอน 4

    คนทั้งหลายที่มีกรรมเป็นเครื่องประดับ อยู่กันอย่างคนมีทุกข์กันทั้งนั้น มากบ้างน้อยบ้างล้วนแต่สร้างกันมาแทบทั้งนั้น ถ้ามีบุญบ้างก็จะพบความสุขบ้าง แต่ถ้ามีบาปน้อยก็จะทุกข์น้อย จากการที่ผู้คนทั้งหลายหันมาศึกษาพระพุทธศาสนากันมาก จนทำให้คำสอนขององค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ถูกนำมาใช้เป็นข้ออ้างของกลุ่มชนบางกลุ่มหรือหมู่คณะที่ใดที่หนึ่ง หยิบยกมาใช้ในธุระหรือสร้างฐานะจนเหตุผลของศาสนาต้องถูกวิจารณ์ให้มัวหมอง ถ้าเปรียบศาสนาก็ไม่ต่างไปจากเครื่องยึดเหนี่ยวของคนจะทำคุณงามความดี แต่ขาดคนนำทางให้ถูกวิธี ก็ต้องเสียแต่ทรัพย์สินเงินทอง หรือเวลาไปโดยมิได้รับกุศลของตนที่พึงจะได้อย่างแท้จริง แล้วบางครั้งกับได้รับความทุกข์มากไปกว่าไม่ทำเสียอีก

    การเข้าถึง “พระศาสนา” นั้นเส้นทางไม่ยากและไม่เป็นบาป เพียงแต่ตั้งสติให้มั่นแล้วเห็นเหตุเกิดจากอะไร แล้วค่อย ๆ ใช้ปัญญาพิจารณาอย่างมีเหตุและผล ต้องมีหลักของ ศีล สมาธิ ถึงขั้นต้องใช้ปัญญาธรรม อย่าใช้ความเชื่อจากความโง่เขลาเป็นเครื่องดับทุกข์เป็นการแก้ปัญหา สิ่งที่ได้ก็คือ “การทำทุกให้เกิดทุกข์” มิใช่การ “ทำทุกข์ให้เหนือทุกข์” ทุกข์เกิดขึ้นนั้นมันมาจากความไม่รู้ แต่ผู้รู้ย่อมจะทำประโยชน์ให้ถึงพร้อมได้ โดยยอมรับความจริงก่อนสิ่งใด แล้วก็พิจารณาให้เหตุที่ทำให้เกิด จึงจะเห็นทางดับของกองทุกข์ทั้งหลายได้อย่างชัดแจ้ง โดยมิมีข้อสงสัยแม้แต่น้อย


    ขยายคำสอน 5

    ข้อมูลที่กล่าวไว้แล้วใน 4 หัวข้อ เป็นข้อที่ผู้รู้มักจะสงสัย แต่หาคำตอบให้แจ้งนั้นเหมือนงมเข็มในมหาสมุทร เพราะฐานของธรรมอยู่ที่ใดไม่มีคำเฉลย มีแต่ธรรมชาติเท่านั้นที่หยั่งรู้ ผู้ที่จะหาธรรมชาติก็ต้องอยู่กับธรรมชาติได้ดีที่สุด

    ชนทั้งหลายมองเห็นธรรมชาติได้จากรูป - นาม แต่ผู้รู้เห็นธรรมชาติอยู่ภายใน ธรรมจะเกิดขึ้นได้ผู้นั้นต้องใฝ่ธรรม ธรรมชาติจะอยู่ได้ต้องอาศัยธรรม

    โลกใบนี้ยังต้องการให้รักษา ธรรมก็ยังต้องให้การรักษา โดยการปฏิบัติธรรมอย่างดีงาม เพื่อความถึงพร้อมซึ่งความรู้แจ้งทางปัญญา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มีนาคม 2018
  2. แจ๊กซ์69

    แจ๊กซ์69 ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    3,142
    ค่าพลัง:
    +1,960
    อย่าเลยตอนนี้ยุคของพระพุทธเจ้าองค์ใดเล่า

    พระศรีอริยร์เมตไตร ยังไม่ได้ตรัสรู้ตอนนี้ แสดงว่ายังไม่มีตัวตนในโลก ยังไม่ได้เป็นพระพุทธเจ้า แสดงว่าไม่ใช่คำสอนของพระพุทธเจ้า



    แล้วคุณเอาธรรมมาจากไหน ธรรมมะของพระพุทธ์เจ้าองค์ปัจจุบันพัฒนาไปถึงแล้วครับ
     
  3. wayokasin

    wayokasin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    180
    ค่าพลัง:
    +277
    สัมมาทิฐิ สัมมาทิฐิ.... ก็ ปรุงเอง แต่งเอง ก็ เลย กลายสภาพ เป็นความไม่พอใจเป็นธรรมดา สุดท้าย ก็ สัพเพ ธรรมมา อนัตตาติ แม้ธรรมทั้งหลาย ก็ไม่ควรยึด ไม่ใช่ตัวตน
    ต้องละจดหมดเกลี้ยง จะไปยึด แบก ธรรม ไปเพื่อการใด
    สุญญะตา ก็ ไม่ได้เกิดจากตัวหนังสือไม่ใช่หรือ ให้ใช้จิตเป็นผู้เห็น มิใช่หรือ
     
  4. นาีคน้อย

    นาีคน้อย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2012
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +40
    จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว พึ่งระลึกถึงคำสั่งสอนขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นที่ตั้งไม่ว่าจะเป็นพระองค์ใดก็ตาม พระองค์สั่งสอนเพื่อให้ทุกคนได้กลับพระินิพพานเป็นที่สุดท้ายของชีวิต หยุดวัฎฎะสงสารโดยสิ้นเชิง ขอให้ทุกท่านมั่นรักษาศีล ทำความดีเท่านั้นก้เพียงพอแล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 4 มีนาคม 2012
  5. viriyathika

    viriyathika เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    66
    ค่าพลัง:
    +109
    ผมว่าบทความของคุณ ouam ครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อนๆนะครับครั้งนี้ใช้ได้เลยแหละยังไงก็เปิดใจฟังหน่อยเพราะเท่าที่อ่านมาผมก็ไม่เห็นว่าจะผิดเพี้ยนไปจากคำสอนของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน เลยเพียงแต่ว่าเอามาอธิบายเป็นภาษาที่เข้าใจง่ายก็เท่านั้น
     
  6. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    เก่งนะคนสมัยนี้ รู้แต่เรื่องอนาคต แต่ไม่ยักกะรู้เรื่องปัจจุบัน
     
  7. ouam

    ouam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    115
    ค่าพลัง:
    +285
    ตอบ คุณ นาคราชน้อย
    นมัสการผู้มีจิตเบิกบาน แค่แนวทางที่คุณบรรยายธรรมมา เราก็เห็นจิตในจิตของคุณว่าเป็นโพธิสัตว์ และบุคคลในเว็บพลังจิตก็ยังมีอยู่ไม่ถึง 3 คน แต่ก็มีเหล่าคนธรรมที่มีจิตศรีอริยะอีกมาก เพียงแต่ยังไม่ได้เปิดมิติที่อยู่เหนือโลกเท่านั้นเอง ถ้าได้เปิดมิติหรือเปิดกรรมฐานเปิดโลก-เปิดจักรวาลแล้ว ธรรมที่ยังไม่รู้ก็จะรู้ได้ และยังเข้าใจคำว่า มรรคผลนิพพานเป็นอย่างไร อำนาจใดๆที่มีอยู่ในโลกนี้ ที่เราท่านทั้งหลายสงสัย ก็จะปรากฏให้รู้เห็นเป็นไปตามกฎแห่งกรรมแบบ 3 มิติ เมื่อธรรมที่เราเรียกว่าพุทธศาสนาเข้ามาให้เห็นได้ชัดเจน เราจึงยอมรับว่า ไม่มีสิ่งใดเทียบเท่าธรรมที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านตรัสรู้ และเป็นที่สุดท้ายของเหล่าอารยชนทั้งหลายในจักรวาลเลยทีเดียว
     
  8. polich68

    polich68 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2012
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +42
    ขอคำอธิบาย จิตศรีอริยะ ด้วยครับ
    แล้วยังมีจิตอื่นอีกไหม
     
  9. tsukino2012

    tsukino2012 หยุดจึงพบ สงบจึงเกิด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,311
    ค่าพลัง:
    +3,090


    ในโลกนี้เราสั่งให้คนอื่นเป็นดังใจเรามิได้ จะสั่งให้คนนั้นคนนี้เข้าใจธรรมก็มิได้ มีคนอาศัยธรรมะหากินก็ห้ามไม่ได้ มีคนปฏิบัติผิดขาดปัญญากลายเป็นงมงายก็ห้ามไม่ได้ เตือนแล้วเขาไม่เชื่อไม่ฟังก็บังคับกะเกณฑ์ไม่ได้ คนที่อยากเป็นพระโพธิสัตว์แต่เป็นไม่ได้จะเสกให้เป็นก็ไม่ได้ คนที่เป็นบางทีก็ไม่ได้อยากเป็นแต่เมื่อเป็นแล้วเสกให้เลิกเป็นก็ไม่ได้ เรื่องของผู้อื่นเราสนใจมากไปก็ไม่ได้ความ เราควรหมั่นสร้างปัจจัยให้ตนเองถึงพร้อม เท่านั้นก็พอ ตัดพ้อน้อยใจหรือคิดจะตักเตือนไปก็คาดหวังอะไรมิได้ ทุกอย่างล้วนเป็นอนิจจัง
     
  10. ธัมมะสามี

    ธัมมะสามี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2013
    โพสต์:
    513
    ค่าพลัง:
    +2,781

    ..... อ่านแล้วเหมือนจะลึกซึ้งกินใจนะ แต่ไม่มีสาระอะไรเลย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 29 มีนาคม 2014
  11. ouam

    ouam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    115
    ค่าพลัง:
    +285
    :boo:
    มนัสการตามความเป็นจริง

    ในทางธรรมนั้น สอนให้เราพิจารณาให้ถี่ถ้วนเสียก่อนแล้วค่อยสอน ในหัวข้อธรรมที่ท่านถามนั้น มันเป็นการแสดงที่เข้มข้นและจริงใจเป็นอย่างมาก ณ เหตุการณ์ปัจจุบัน

    เรานั้นมาในกาลนี้ เหตุผลแรกคือ คัดเลือกบุคคลที่จะเป็นพระพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ พระอริยร์ พระอรหันต์ ผู้ที่จะเป็นจิตศรีอริยร์และผู้ที่จะเข้าสู่แดนพุทธภูมิ ฯลฯ ในทางเป็นจริงนั้น ทางออกของประเทศไทย ก็เหมือนเส้นทางที่ถูกกำหนดมาแล้วจากเบื้องบน เพียงแต่เหตุและผลของการสูญเสีย มีมากเกินกว่าที่ฟ้าดินกำหนดไว้ เพราะคนในประเทศนี้ มีกรรมกันมาในชาติอดีตที่ปล่อยวางกันไม่ได้เลย และมีกรรมร่วมรบและร่วมรักกันมามาก เกินขอบเขตที่ฟ้าและดินจะเข้าไปยุ่งได้ จึงต้องปล่อยไปตามเวรตามกรรม ขืนเราเข้าไปยุ่งเราก็ผิดกฎทางศาสนา เมื่อผู้ที่รู้ว่าสิ่งใดควรมิควร ชั่ว-เลว อย่างไรก็ควรพิจารณากันเองเถิด

    เรามาในฐานะผู้ตรวจงาน และจัดเก็บข้อมูลในโลกที่สาม ซึ่งต้องดำรงอยู่ต่อจนกว่าทรัพยากรในโลกจะสูญสิ้น และในที่สุดคนจะหมดสิ้นทางออกในการดำรงชีวิตอยู่ได้ เมื่อนั้นคนจะลุกขึ้นต่อสู้กันเอง แต่ครั้งนี้สงครามจะยังไม่เกิด เพราะมนุษย์ยังมีสติปัญญาและยังมีมหาโพธิสัตว์ลงมาเกิดในโลกที่สามนี้เป็นจำนวนมาก ทำให้เหตุการณ์ยังไม่บานปลายจนถึงกับขาดสติและก่อการร้ายสากลเลยทีเดียว ส่วนเรื่องภัยธรรมชาติ เรานั้นไม่อาจคาดการณ์ได้ในทุกพื้นที่ เหตุเพราะผู้คนจะขาดแคลนอาหารจำนวนมาก อาจต้องบุกลุกพื้นที่ที่เป็นทางน้ำหรือทำให้น้ำเสียหาย และหน้าดินที่เคยอุดมสมบูรณ์มาแต่ก่อน ต้องขาดอาหารทางธรรมชาติที่เคยได้รับจากแสงแดด เพราะต้องถูกปกปิดด้วยหมอกควันและลมร้อน เผลอๆมนุษย์ต้องจมอยู่ในความมืดเป็นเวลาหลายสัปดาห์ และเมื่อท้องฟ้าสว่างไสวขึ้นอีก มนุษย์อาจต้องอดอยากและขาดอากาศที่บริสุทธิ์เป็นเวลานานนับเดือน สุดท้ายเราท่านทั้งหลาย อาจจะต้องสูญเสียชีวิตและต้องพบความยากลำบากเป็นอย่างมาก เผื่อใจกันไว้บ้าง อย่าให้โอกาสที่เราท่านทั้งหลายจะร่วมกัน ให้ความรักความสามัคคีคิดดีแก่กันนั้นเสียไป ผู้ที่ทำหน้าที่และเป็นที่รักของมวลชนจำนวนมากจงเป็นผู้นำ ทำให้เขาทั้งหลายรอดพ้นเหตุการณ์ครั้งนี้ไปได้ พวกคุณถูกฝึกให้อดทนอดกลั้นมาแล้ว แถมยังมีความรักความเมตตา แบบไม่เลือกว่าเป็นคนรู้จักหรือไม่รู้จักกันมาก่อน แต่สามารถอยู่ร่วมกันได้ แบบไม่ขัดแย้งเป็นจำนวนมาก เราขอขอบคุณทุกท่านที่มีส่วนร่วมในกาลครั้งนี้เป็นอย่างสูง ที่ทำให้เราเลือกภูมิต่างๆในโลกที่สามได้อย่างงดงาม และยังนำมาเป็นองค์รวมได้ดีเยี่ยม แยกแยะ ดี-ชั่ว ได้เหตุผลตามความเป็นจริง และจัดชั้นพุทธภูมิได้ในโลกยุคนี้ และในเวลาที่โลกยังคงดำรงอยู่ได้ตามความเป็นจริง

    ขอเข้าประเด็นที่คุณถามมาว่า จิตศรีอริยร์ นั้นมีความหมายเช่นไร เรานั้นพยายามผูกเรื่องตัั้งแต่ต้นบ้างแล้ว แต่ต้องขอโทษที่ต้องนำข่าวที่ไม่เป็นมงคลมากล่าวบอกทางไว้ เผื่อว่าผู้ใฝ่รู้และสนใจในงานที่เรานำมากล่าวอาจได้ประโยชน์บ้าง ในกาลครั้งนี้ เราขอยกยอดคุณงามความดีของผู้ที่มีจิตใจรักชาติมาเป็นอันดับหนึ่ง ที่สองคือผู้ที่อุทิศตนแลกกับการทำความดีที่ไม่หวังผลกับอำนาจและวาสนา ที่สามคือผู้ที่เสียชีวิตและพิการ นอกจากนั้นก็คือผู้ที่สูญเสียโอกาสในหน้าที่การงาน และการดำรงชีพที่ควรจะมีจะได้จะเป็น ทุกอย่างคือการเสียสละอย่างน่ายกย่องและสรรเสริญอย่างหาที่เปรียบมิได้ และเอาชีวิตเป็นเดิมพัน กฎหมายเป็นข้อควรจำ(ต้องศักดิ์สิทธิ์) อย่ายึดว่าเป็นกฎตายตัว ต้องบูรณาการให้เข้าถึงและเข้าใจอารมณ์ ของผู้ที่อยู่ร่วมเหตุการณ์ตามความเป็นจริง (เป็นผู้กระทำหรือถูกกระทำ) มาเทียบเคียงด้วย เราท่านที่เคยเข้าร่วมในเหตุการณ์ในหลาย ๆ ครั้งคงต้องพบกับความรู้สึกต่างกัน ระหว่างความถูกใจแต่ผิดกฎหมาย หรือไม่ชอบใจแต่ยึดความจริงมาก่อน ที่สุดความพร้อมเพรียงหรือความสามัคคีนั้น สามารถแสดงออกถึงพลังที่เป็น บวก-ลบ คือจุดที่ท่านบอกได้ว่า ดี-ชั่ว นี้ไงคือขั้นบันไดของภูมิแห่งจิตที่จะเป็น อริยะหรือศรีอริยร์ อริยะต่างจากศรีอริยร์ ก็คือการเสียสละมากกว่าน้อยกว่าเท่านั้นเอง ความภาคภูมิใจที่ทำทางให้ผู้อื่นเดินไป แล้วได้ประโยชน์โดยรอบโดยรวม ทุกท่านคือผู้ร่วมทำทาง และสามารถสอนผู้อี่น ให้เชื่อแบบมีเหตุมีผลตามความจริงทุกสิ่งทุกประการ โดยไม่กล่าวคำเท็จเลย ท่านเหล่านั้นคือโพธิสัตว์ และท่านใดที่กล่าวเท็จอยู่บ่อยครั้ง นั้นคือผู้มีมารแฝงอยู่ มารนั้นมีเหตุที่ต้องกล่าวเท็จบ่อยครั้งเกิดจาก อยากได้ อยากมี อยากเป็น และที่สุดต้องฆ่าผู้อื่นเสมอเพื่อให้ตนเองพ้นผิด เมื่อคุณถามมาเราตอบให้ แต่ต้องบอกเล่าเพียงบางส่วน เพราะมารไม่ชอบให้บอกทั้งหมด เผื่อมารจะกลับใจได้คุณและใคร ๆ อาจเมตตา และให้อภัยได้ในกาลต่อไป เรานั้นขอสรุปเรื่อง จิตศรีอริยร์ในกาลปัจจุบัน นอกเหนือจากนั้น ยังมีอีกหลายยุคหลายสมัย ขึ้นอยู่กับเราท่านทั้งหลาย มีโอกาสได้มาจุติในยุคใดสมัยใด นั่นคือเหตุผล ส่วนสัตว์นรกตนใด ได้รับอนุญาตจากขุมนรก ให้มามีส่วนร่วมในกาลครั้งนี้ ก็ถือว่าได้มารับส่วนบุญส่วนกุศลที่มีญาติพี่น้องแผ่บุญกุศลลงไปให้ บาป-บุญ มีจริงขอทุกท่านทุกคนร่วมโมทนาตามกำลังบุญตามภพภูมิกันเองเทอญ


    30.3.57
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มีนาคม 2014

แชร์หน้านี้

Loading...