หลวงพ่อกัสสปมุนี ผจญ โยคี แดน ภารตะ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Kamen rider, 9 มีนาคม 2005.

  1. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,763
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    หามานานแล้ว ครับ ประวัติท่าน สนุกตื่นเต้นน่าสนใจดี ท่าน เคยปะลองกสิน กับ โยคีมาแล้ว ดังมากเลย ในอินเดียช่วงนั้น ท่านมีทั้ง อิทธิฤทธิ์ และ บุญฤทธิ์พอตัว ใครชอบแนวอภิญญาพลาดไม่ได้ แถม ความรู้เรื่อง อินเดียแบบ เต็ม อิ่มไปเลย


    ท่านผู้สามารถบำเพ็ญภาวนา ในเมืองฤาษีโยคี ... หลวงพ่อกัสสปมุนี (๑)

    สวัสดีครับ ท่านที่เคารพ วันนี้มาเปลี่ยนบรรยากาศกันบ้างนะครับ เมื่อประมาณ ๒๐ ปีก่อน สมัยที่กระผมยังหนุ่มมากๆ อยู่นั้น เพื่อนที่สนิท และเป็นผู้ใฝ่ในธรรม ได้มาชักชวนให้กระผม ไปหาหลวงพ่อองค์หนึ่ง ซึ่งท่านจะเข้านิโรธสมาบัติเป็นเวลา ๗ วัน ทุกปี แต่จนแล้วจนรอด กระผมก็ยังไม่ได้ไปหาท่าน เขาก็เลยหาประวัติ และเรื่องราว ของพระคุณเจ้ารูปนั้นมาให้อ่าน ซึ่งก็น่าทึ่ง และน่าสนใจดีมาก จนกระทั่งวันหนึ่งได้มีโอกาสไปพบท่าน เนื่องจากท่านรับนิมนต์ลูกศิษย์ มาที่กรุงเทพฯ บ้านของลูกศิษย์ท่านนั้น อยู่แถวๆ หัวถนนสีลม พวกเราก็ชวนกันไปหลายคน หลวงพ่อองค์นั้นก็คือ หลวงพ่อกัสสปมุนี ที่เราจะได้อ่านเรื่องของท่าน นี่แหละครับ

    ขณะที่ไปถึงเป็นเวลาหัวค่ำ (คือเลิกงานแล้ว เราแวะทานข้าวแล้วก็ไปกันเลย) คนยังไม่มากนัก ไปคอยอยู่สักครู่หนึ่ง ก็ได้พบกับท่าน หลวงพ่อฯมีอายุมากแล้ว ประมาณสัก ๗๐ ปีเศษ รูปร่าง ผอม โปร่ง ท่าทางกระฉับกระเฉง และ ยังนั่งหลังตรง เป็นสง่า ท่านยิ้มอย่างมีเมตตามาก เพื่อนๆก็พากันคลาน และกระเถิบเข้าไปใกล้ๆท่าน ส่วนกระผมนั้นด้วยความเลว ก็เลี่ยงไปนั่งหลังสุด แต่ก็คอยเงี่ยหูฟังอยู่ (ตอนนั้น กระผมได้พบหลวงพ่อฤาษีฯแล้ว และก็มีความรู้สึกเหมือน ดร.ปริญญา ที่ว่า เรามีครูอาจารย์ที่เก่งมากๆอยู่แล้ว (พบท่านอื่นๆ เราก็เลยเฉยๆ ไม่ตื่นเต้น จนโดนพระองค์ที่สิบท่านสอนว่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มีนาคม 2005
  2. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,763
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    ก่อนอื่น ขอเรียนให้ทราบเกี่ยวกับประวัติคร่าวๆ ของท่านเสียก่อนนะครับ (จากนิตยสารโลกทิพย์ ปี พ.ศ. ๒๕๒๖ เขียนโดย ท่านสิทธา เชตวัน ปัจจุบันนี้ท่านบวชแล้วนะครับ) หลวงพ่อกัสสปฯ ท่านบวชเมื่ออายุ ๕๐ ปีเศษ สมัยที่ยังไม่บวชท่านทำงาน อยู่ฝ่ายสรรพสามิตและดื่มเหล้าเก่ง ตอนหลังท่านเห็นโทษของการดื่มเหล้า และเกิดเบื่อหน่ายในชีวิตฆราวาส จึงได้ลาออกจากราชการ ในปี พ.ศ. ๒๕๐๕ ท่านได้ไปฝากตัวอยู่กับสมเด็จ พระวันรัต (ต่อมาทรงได้รับสถาปนา เป็นสมเด็จพระสังฆราช วัดโพธิ์ ท่าเตียน) โดยเป็นอุบาสก นุ่งขาวห่มขาว ถือศีลอุโบสถอย่างเคร่งครัด ในที่สุดจึงได้อุปสมบท เป็นพระภิกษุ ในปี
    พ.ศ. ๒๕๐๕ แม้บวชได้เพียงพรรษาเดียว หลวงพ่อกัสสปมุนี ได้ออกธุดงค์ ไปบำเพ็ญเพียรภาวนา อยู่บนยอดเขาภูกระดึง อันแสนจะหนาวเหน็บ (เดือน พ.ย. ๒๕๐๖) หลังจากนั้นถัดมาอีกเพียง พรรษาเดียว ท่านก็ได้จาริกแสวงบุญ ไปบำเพ็ญภาวนาในแดนไกล คือเมือง ฤาษีเกษ ประเทศอินเดีย เมืองนี้เป็นที่ชุมนุม ของโยคี ฤาษี มุนีไพร ผู้ทรงตบะและฤทธาอันแก่กล้ามากมาย ต้องเก่งจริงๆ ถึงจะอยู่ได้อย่างสันติอิสระ...

    เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อออกพรรษา ปวารณาปีพ.ศ. ๒๕๐๗ แล้ว หลวงพ่อฯก็ได้เดินทางไปยังประเทศอินเดีย เมื่อวันที่ ๒๘ พ.ย. ๒๕๐๗ โดยสายการบิน ซี.พี.เอ. ร่วมกับคณะทัศนาจรแสวงบุญ ซึ่งมีทั้งพระ และฆราวาส อาทิเช่น ท่านเจ้าคุณราชปัญญาเมธี เจ้าคณะจังหวัดยะลา ท่านเจ้าคุณสิริสารโสภณ เจ้าคณะอำเภอยะลา หลวงพ่อทิม วัดช้างไห้ ผู้สร้างพระเครื่อง หลวงพ่อทวด อันลือลั่นไปทั่วประเทศ และท่านเจ้าคุณ ญาณวิริยาจารย์ วัดธรรมมงคล ซอยปุณณวิถี พระโขนง ซึ่งเป็นศิษย์เอก พระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ ฝ่ายฆราวาสก็มี นายเอื้อ บัวสรวง ธ.บ. และ เศรษฐศาสตร์มหาบัณฑิต นายน่วม
    นันทวิชัย นายกพุทธสมาคม สิงห์บุรี
    จุดมุ่งหมายของคณะจาริกแสวงบุญ คือจะพากันไปนมัสการ สังเวชนียสถาน ๔ แห่ง ด้วยความเคารพเลื่อมใสในพระพุทธคุณ และ เพื่อปลงธรรมสังเวช หลวงพ่อกัสสปนั้น ต้องการจะเดินทางต่อไป เพื่อไปจำศีลภาวนาที่เมือง
     
  3. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,763
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    การเดินทางไปนมัสการ ต้นศรีมหาโพธิ์ ที่พุทธคยา ไปชมเมืองราชคฤห์ หรือรัฐพิหารในปัจจุบัน ไปเมืองพาราณสี แล้วขึ้นรถไฟไปยังตำบล สารนาถ คือ ป่าอิสิปตน มฤคทายวัน อันเป็นสถานที่ พระบรมศาสดาทรงแสดงปฐมเทศนา เสร็จสิ้นไปตามลำดับ ต่อจากนั้นก็ไปยังตำบลกุสินาราน์ สถานที่เสด็จดับขันธ์ ปรินิพพาน ซึ่งหลวงพ่อกัสสปมุนี เล่าถึงตอนนี้ว่า
     
  4. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,763
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    แต่ก็ประหลาดอย่างยิ่งอีกเหมือนกัน เพราะขณะที่อาตมาภาพยืนอยู่นั้น รู้สึกเหมือนกับว่า ได้เข้ามาเฝ้าเฉพาะพระพักตร์พระพุทธองค์ ซึ่งผิดกับสถานที่อื่นๆ เช่น ที่ต้นพระศรีมหาโพธิ์ อันเป็นที่ตรัสรู้ และ ที่สารนาถที่แสดงปฐมเทศนา เอ๊ะ... นี่ยังไงกัน ? ที่นี่เหมือนมีแม่เหล็ก อาตมาจึงพิงไม้เท้าไว้ที่ประตู ปลดย่ามลงจากบ่า ทรุดตัวลงคุกเข่าพร้อมกับเพื่อน สพรหมจารี จุดธูปเทียนน้อมอภิวาทถวายนมัสการบูชา ด้วยหัวใจอันวังเวง ดูเหมือนว่ามีอะไรอบอุ่นวนเวียนอยู่ใกล้ๆ และมีอะไรเย็นๆ พรมไปตามตัว มิใยใครจะลุกไปแล้ว อาตมาภาพก็ยังคงคุกเข่า พนมมือหลับตา ใจจดใจจ่ออยู่อย่างนั้น ช่างอบอุ่นร่มเย็น และสงบแท้ นี่เป็นความรู้สึกขณะนั้น จนคณะพากันออกไปหมด อาตมาภาพจึงได้ลุกขึ้นเดินเวียนประทักษิณ แล้วจะเดินออกประตู เห็นหลวงพ่อทิมวัดช้างไห้ กำลังยืนพนมมืออยู่ข้างมุมประตู ตาลืมจ้องดูที่พระพุทธรูป อาตมาจึงเอื้อมมือจะไปหยิบไม้เท้าที่พิงอยู่ ข้างประตู

    ทันใดนั้น อัศจรรย์ยิ่ง อัศจรรย์จริงๆ มีเสียงหนึ่งกระซิบที่หูเบาๆ แต่ชัดเจนว่า
     
  5. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,763
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    วันเสาร์ที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๐๗ คณะของหลวงพ่อกัสสป ฉันอาหารเช้าแล้ว ได้เวลา ๙.00 น. จึงพาพวกอุบาสกและอุบาสิกาออกเดินทาง ไปยังสถานีเนาก้า เพื่อไปยังสวนป่าลุมพินีวันในแคว้นเนปาลอันเป็นสถานที่พระบรมศาสดาทรงประสูติ ถึงสถานีเนาก้าเวลา ๑๑.๐๐ น. แต่เจ้ากรรมแท้ๆ... ที่พนักงานรถไฟแขกอินเดียมันมักง่าย ตัดรถตู้คณะของหลวงพ่อกัสสปมุนีออกปล่อยทิ้งไว้ อยู่ห่างจากตัวสถานีเกือบสามร้อยเมตร ตรงที่รถตู้ถูกตัดออกนี้เป็นที่ลาดต่ำกว่าที่ตั้งสถานี และห่างจากที่รถบัสจอดเกือบครึ่งกิโลเมตร ในคณะแสวงบุญของหลวงพ่อ มีอุบาสิกาอยู่ในวัยชราหลายคนจะต้องเดินไกลทั้งตัวรถตู้ก็สูง บันไดก็ยิ่งลอยสูงขึ้นไปด้วย เพราะรถถูกตัดทิ้งไว้ในที่ลาดต่ำ แม้แต่ผู้ชายที่แข็งแรงอย่างนายเอื้อ บัวสรวง ก็ยังต้องเกร็งข้อโหนตัวลอยขึ้นไป ยิ่งเป็นพระเป็นผู้หญิงยิ่งทุลักทุเลใหญ่ ทำให้นายสุวรรณ เจามหาสุข ผู้อำนวยการเดินทางในครั้งนี้ และนายเอื้อ บัวสรวงโมโหมาก ปัญหาจึงมีอยู่ว่า จะทำอย่างไรจึงจะให้ตู้รถแล่นขึ้นไปจอดบนชานชาลาเหนือสถานีได้ ในที่สุดปรึกษาตกลงกันได้ว่า ให้คณะแสวงบุญที่ขึ้นไปก่อนลงมาจากรถเพื่อให้รถเบาขึ้น แล้วจ้างพวกแขกสองสามคน และเด็กแถวนั้นให้ช่วยกันดันรถ แต่เมื่อทำดูแล้วรถไม่ได้ขยับเขยื้อนเลย เพราะตู้รถไฟใหญ่กว่าตู้รถไฟในบ้านเมืองเรามาก มีน้ำหนักเป็นตันๆ และจะต้องดันให้เคลื่อนขึ้นที่สูงเสียด้วย มันต้องใช้ช้างสารฉุดถึงจะเขยื้อนขึ้นไปได้

    ตอนนี้นายเอื้อ บัวสรวงเห็นหมดหนทางที่จะพึ่งแรงคน จึงคิดจะพึ่งแรงบารมีของพระเสียแล้วจึงได้หันมาอาราธนาขอร้อง อาจารย์วิริยัง (ท่านเจ้าคุณญาณวิริยาจารย์) ช่วยให้รถเคลื่อนด้วยอานุภาพที่ท่านมีอยู่ เพราะมองไม่เห็นใครที่จะช่วยได้ ก็ต้องพึ่งพระกันบ้าง ท่านพระอาจารย์วิริยัง ได้เข้าไปยืนข้างตู้รถไฟภาวนาอยู่สักครู่ก็ทำท่าดัน แล้วบอกให้ทุกๆ คนช่วยกันดันรถ แต่ดันเท่าไหร่ๆ รถก็ไม่มีทีท่าจะเขยื้อน นายเอื้อจึงได้หันมาอาราธนาท่านเจ้าคุณเจ้าคณะจังหวัดยะลา ท่านเจ้าคุณเจ้าคณะอำเภอยะลาและหลวงพ่อทิมวัดช่างไห้ ขอให้ช่วยแสดงอานุภาพทำให้ตู้รถไฟเคลื่อนที่ แต่ท่านทั้งสามองค์ก็ตอบตรงๆ ว่าไม่ได้ฝึกมาทางนี้ คือไม่ได้ฝึกทางอภิญญา สุดท้ายนายเอื้อ บัวสรวงหมดหนทางอับจนปัญญา จึงได้ขอร้องให้ หลวงพ่อกัสสปมุนี ช่วยด้วย
     
  6. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,763
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    นายเอื้อก็รับคำเตรียมอยู่ข้างตู้รถไฟ จากนั้นหลวงพ่อกัสสป ก็เดินขึ้นไปทางริมรั้วสถานี ครั้นพอถึงหน้ารถตู้ นายเอื้อก็ร้องบอกให้พวกนั้นดันรถ เสียงรถเคลื่อนดังครืด แล่นตามหลังหลวงพ่อกัสสปมาได้หน่อยหนึ่ง หลวงพ่อกัสสปจึงยื่นไม้เท้าให้นายเอื้อจับปลายไว้ นายเอื้อเอื้อมมือขวามาคว้าปลายไม้เท้าไว้ ส่วนมือซ้ายจับอยู่ที่ราวบันไดรถ หลวงพ่อจับหัวไม้เท้าไว้ข้างแล้วจูงนำหน้า เท่านั้นเอง ตู้รถไฟอันใหญ่โตหนักอึ้ง ก็แล่นปราดๆขึ้นไปตามรางสู่สถานีอย่างง่ายดาย น่ามหัศจรรย์ สร้างความตะลึงงันให้แก่ญาติโยม อุบาสกอุบาสิกาทั้งหลาย ที่ได้เห็นประจักษ์ทั่วหน้า นับว่าหลวงพ่อกัสสป ได้ฝังรากความมั่นใจให้แก่นายเอื้อ และญาติโยมในที่นั้นว่า อานุภาพของพุทธศาสนานั้น เป็นของมีจริง ที่พระสาวกของพระพุทธองค์ สามารถทำให้เกิดขึ้นได้ เมื่อถึงคราวจำเป็น หรือวาระอันสมควรจะพึงแสดง! คณะแสวงบุญทัศนาจร ได้ท่องเที่ยวไปชมสถานที่ สำคัญๆนอกเหนือจากสังเวชนียสถานทั้งสี่แห่ง แล้วอีกหลายแห่ง จนฉ่ำชื่นใจสมปรารถนาทั่วหน้ากัน จากนั้นก็ได้ถึงวันเวลาที่จะต้องแยกทางจากกัน โดยหลวงพ่อกัสสปได้แยกทาง ลงที่เมืองปัตนะ (เมืองปาตลีบุตร ครั้งพุทธกาล) เมื่อวันที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๐๗ เพื่อจะได้จาริกท่องเที่ยวไปตามลำพัง สององค์กับ พระวิเวกนันทะ


    พระภิกษุวิเวกนันทะ มาจากวัดอุโมงค์ เชียงใหม่ ได้ศึกษาอยู่ในอินเดียถึงสิบปี ได้ปริญญา เอ็ม.เอ.ทางพุทธศาสตร์ ท่านวิเวกเป็นผู้กว้างขวางในประเทศอินเดีย และแว่นแคว้นใกล้เคียง เช่น เนปาล... สามารถพูดภาษาพื้นเมืองได้คล่อง เข้ากับขนบธรรมเนียมประเพณีท้องถิ่นต่างๆ ในอินเดียได้อย่างดี ท่านเป็นพระที่เปี่ยมเมตตา เป็นที่รักใคร่นับถือจากชาวอินเดียทุกหนทุกแห่งที่ท่านย่างก้าวไปถึง เพื่อเผยแพร่ธรรมะ ท่านวิเวกนันทะ ไม่เคยรู้จักกับ หลวงพ่อกัสสปมาก่อนเลย เพิ่งมารู้จักกันคราวมาแสวงบุญที่อินเดียนี้เอง โดยท่านวิเวกได้รับการติดต่อจาก คุณสุวรรณ เจามหาสุข ผู้อำนวยการนำเที่ยวแสวงบุญ ให้ท่านวิเวกช่วยอำนวยความสะดวก พระสงฆ์ และอุบาสกอุบาสิกา ในการแสวงบุญในครั้งนี้
     
  7. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,763
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    ความเป็นอัจฉริยภาพ และพระสุปฏิปันโน ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบของหลวงพ่อกัสสป ได้สร้างความประทับใจให้แก่มหาฤาษี และสวามีคุรุทั้งหลายเป็นอย่างยิ่ง ภาษาอังกฤษอันคล่องแคล่วแตกฉาน ของหลวงพ่อในธรรมะ ทั้งภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติ อย่างพระสงฆ์ที่รู้แจ้งเห็นจริงของหลวงพ่อนั่นเอง ทำให้บุคคลเหล่านั้นบังเกิดความเคารพศรัทธา ในหลวงพ่อกัสสป ทุกหนทุกแห่งที่ย่างเหยียบไปในแผ่นดินชมพูทวีป พูดได้ว่า หลวงพ่อเป็นพระไทยองค์เดียว ที่ไปสร้างความประทับใจอย่างพิเศษพิสดาร ทั้งทางธรรม และอภิญญาให้แขกอินเดียชื่นชม และอัศจรรย์อย่างถึงใจยิ่งนัก คนสำคัญของอินเดียท่านหนึ่ง ที่จะต้องกล่าวถึงคือ ดร.เมตตา เป็นนักปราชญ์ใหญ่ มีความรอบรู้แตกฉานในเรื่องศาสนาต่างๆ อย่างยอดเยี่ยมทางภาคทฤษฎี พักอยู่หอพักตึกห้าชั้นชื่อ เมย์แฟร์ในมหานครบอมเบย์ อันศิวิไลชั้นหนึ่งของอินเดีย ดร.เมตตา ประพฤติตนอย่างนักพรต นุ่งขาวห่มเฉียงบ่า รูปร่างบุคลิกลักษณะเป็นสง่า ไว้หนวดและเคราเป็นพุ่มงามสะอาด ภายในห้องรับรองบ้านพัก จัดเป็นห้องพระไปในตัว

    โต๊ะพระจัดดังนี้ คือ ตอนบนสุดมีเศียรพระพุทธรูปติดไว้กับผนัง เป็นเศียรผ่าครึ่งคล้ายหัวตุ๊กตาทำขาย ถัดลงมาเป็นรูปพระเยซู ยืนเต็มตัว ถัดลงมาอันดับที่สาม เป็นรูปปั้นพระศิวะ ท่านั่งสมาธิ มีกระถางธูป และที่เสียบดอกไม้ ทางด้านขวามือมีโต๊ะหมู่ตั้งพระพุทธปฏิมามหายาน แบบญี่ปุ่นอยู่ชิดกับผนัง ขณะที่หลวงพ่อกัสสปก้าวเข้าไปในห้องนี้นั้นมีแขกผู้มีเกียรติชั้นคหบดี อันเป็นเสมือนศิษย์ของ ดร.เมตตานั่งอยู่ ๒ คน และ หลานสาวสวยของ ดร.เมตตา ๑ คน และพระภิกษุไทยสามองค์ คือ ท่านวิเวกนันทะ พระมหาสุเทพ และพระมหาอุดม รวม ๘ คน หลวงพ่อกัสสปนุ่งห่มดองรัดประคตอกอย่างรัดกุม ผิดกับพระไทยทั้งสามองค์ที่นั่งอยุ่ในนั้น (ห่มดองคือครองผ้าเหมือนพระบวชใหม่ในโบสถ์) แถมหลวงพ่อกัสสปยังถือไม้เท้ายาว สะพายย่าม จึงเป็นเป้าสายตาของ ดร.เมตตา และพรรคพวกเป็นอย่างยิ่ง เพราะไม่เคยเห็นพระภิกษุไทยในอินเดียนุ่งห่มครองจีวรแบบนี้มาก่อน ดร.เมตตา เพ่งมองดูหลวงพ่อกัสสป ด้วยนัยน์ตาแหลมคมอย่างพินิจพิเคราะห์ พลางกล่าวเชิญให้นั่งแต่มิได้บอกว่าจะให้นั่งตรงไหน อาสนะที่จัดไว้ในห้องนั้นก็มีเรียงรายหลายที่ด้วยกัน หลวงพ่อกัสสปกล่าวขอบใจเบาๆ เดินช้าๆ ผ่านเข้าไปนั่งที่อาสนะตรงกลาง โดยนั่งขัดสมาธิ ตั้งตัวตรง
     
  8. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,763
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    ดร.เมตตาได้ยกมือขึ้นไหว้ แล้วถามเรียบๆ ว่า
     
  9. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,763
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    ดร.เมตตา มองหน้าหลวงพ่อกัสสปอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงพูดว่า
     
  10. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,763
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    วันรุ่งขึ้น หลวงพ่อออกจากห้องพัก ไปฉันเพลยังห้องรับรองส่วนตัว ของดร.เมตตา ซึ่งอยู่ภายในตึกเดียวกัน อาหารทุกอย่าง ดร.เมตตา ลงมือปรุงเองอย่างประณีต มีแกงดาลใส่มันฝรั่ง และมะเขือเทศ อย่างโอชา ข้าวผัดถั่ว ผัดมะเขือเทศ ปนมันฝรั่ง ผัดถั่วลันเตา ส่วนของหวานมีพวกขนมหวาน และชาร้อนใส่นมสด เมื่อเสร็จอาหารเพลแล้ว หลวงพ่อกัสสป ออกมาเก็บกลด และบาตร พอเวลา ๒๑.๐๐ น. หลวงพ่อได้กลับเข้าไปลา ดร.เมตตาอีกเป็นครั้งสุดท้าย ตอนนี้มีแขกผู้มีเกียรติ นั่งอยู่ด้วยสามคน หลวงพ่อได้กล่าวให้พร และอนุโมทนาในกุศลจิต และการกระทำในส่วนดีของ ดร.เมตตา ตลอดระยะเวลาหลายวันที่หลวงพ่อ ได้พำนักอยู่ ณ สำนักนี้ ขอส่วนกุศลคุณความดีนั้น จงบันดาลให้ ดร.เมตตา จงประสบแต่ความสุขสิริสวัสดิ์ ทุกประการ ดร.เมตตาพนมมือรับพร พอหลวงพ่อกัสสป ลุกขึ้นจากอาสนะ ดร.เมตตาก็ตรงเข้ามาสวมกอดไว้ ค่าที่แกเป็นแขกอินเดียร่างใหญ่ อ้วนสมบูรณ์กว่าหลวงพ่อกัสสปมาก ทำให้หลวงพ่อต้องยืนตั้งหลักใช้ไม้เท้ายันไว้กับพื้นข้างหน้า มิฉะนั้นเป็นต้องล้มคะมำแน่ ดร.วาสวาณีจ้องมองตาเขม็ง ต่อเป็นครู่ใหญ่ แกจึงได้ปล่อยมือจากหลวงพ่อ แล้วหลวงพ่อก็ก้าวออกจากห้องด้วยลีลาอันทิ้งไว้เพื่อให้เป็นที่ประทับใจ ซึ่งทุกผู้ในที่นั้นจะต้องจดจำไปอีกนาน

    ท่านวิเวกนันทะ บอกอย่างปลาบปลื้มว่า
     
  11. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,763
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
     
  12. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,763
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    พวกร้านขายของริมท่าน้ำคงคากับพวกฤาษีมากหน้าหลายตา ต่างพากันยืนดูหลวงพ่อ และท่านวิเวกนันทะด้วยความแปลกใจ เพราะยังไม่เคยเห็นพระภิกษุสงฆ์ ในพุทธศาสนา เข้ามาในเมืองฤาษีชีไพรแห่งนี้มาก่อนเลย หลวงพ่อ และท่านวิเวกนันทะพากันเดินเรื่อยไป ยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปหาใคร จึงพากันเดินเรื่อยไป จนถึงเนินเขาหลังที่ทำการของสำนักอาศรมสวรรค์ ได้พบอาชีวกหนุ่มผู้หนึ่ง นุ่งผ้าเตี่ยวเปลือยตัว หน้าตาคมขำ ผมเป็นกระเซิงไม่มีหนวดเครา ลักษณะท่าทางทะมัดทะแมงเป็นสง่า ได้สอบถามว่า มาจากไหน ต้องการอะไร ท่านวิเวกนันทะจึงตอบแทนว่า หลวงพ่อชื่อ กัสสปมุนี ต้องการมาบำเพ็ญเพียรที่ฤาษีเกษชั่วระยะหนึ่ง หวังว่าคงจะได้รับการอนุเคราะห์ด้วยดี สำหรับท่านวิเวกนันทะเป็นแต่เพียงมัคคุเทศก์ นำทางมาเท่านั้น อาชีวกหนุ่มทราบเช่นนั้น จึงสั่งให้ชายสูงอายุผู้หนึ่งอยู่ ณ อาศรม ให้นำหลวงพ่อ และท่านวิเวกนันทะไปยังที่ทำการของสำนัก ชายสูงอายุผู้นี้ชื่อ นายเอช.แอล.เศรษฐี ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการสำนัก
     
  13. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,763
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    นายเศรษฐีผู้จัดการอาศรม ยิ้มอย่างกว้างขวาง อธิบายว่า
     
  14. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,763
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    มาดามบริจิต นุ่งห่มแบบนักพรตผ้าสีเหลืองอ่อน ทำให้ร่างงามของเธอระหงยิ่งขึ้น เธอยิ้มอย่างแช่มช้อยดีใจที่ได้พบหลวงพ่ออีกครั้ง เธอเล่าว่าได้บำเพ็ญภาวนาอยู่ที่เมืองฤาษีเกษได้ ๑๗ วันแล้ว อีกราว ๓-๔ วันก็จะเดินทางกลับอิตาลี ขณะเดินสนทนากันกลับกุฏิ มาดามบริจิตมองหลวงพ่อด้วยสายตาหวานเยิ้ม มีความหมายชอบกล หลวงพ่อรำพึงว่า มาตุคาม (สตรีเพศ) ก็เป็นอย่างนี้เอง ความมีเสน่ห์ยั่วยวนใจเพศตรงข้ามย่อมแสดงออกได้เสมอ ทั้งโดยเจตนาและไม่เจตนา แต่ใจเรานิ่งแน่ไม่หวั่นไหวเสียแล้ว หามีความรู้สึกใดไม่ ถึงกระนั้นสมณะก็อย่าพึงประมาท จงระวังมาตุคามให้จงหนัก มาตุคามย่อมเป็นภัยกับพรหมจรรย์ มาดามบริจิต เดินตามมาส่งถึงกุฏิแล้ว ก็ไหว้อภิวาทอย่างงามแช่มช้อย อำลาจากไป บ่ายโมงเศษท่านวิเวกนันทะพาเดินชมภูมิประเทศ เมืองฤาษีเกษ โดยย้อนขึ้นไปทางต้นแม่น้ำคงคา เพื่อเดินดูสถานที่ และภูมิประเทศ ตลอดจนชุมนุมเหล่านักพรต ลัทธินิกายแปลกๆ ภูมิประเทศที่เดินย้อนขึ้นไปทางต้นแม่น้ำนี้ เรียกว่า
     
  15. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,763
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    หลวงพ่อกัสสป และท่านวิเวกนันทะ เมื่อเข้ามาอยู่เมืองศักดิ์สิทธิ์ อันเป็นที่ชุมนุมของผู้วิเศษทั้งหลายเชิงเขาหิมาลัย ก็มิได้นิ่งดูดายวางตัวโอ่อ่าแต่อย่างใด คงสำรวมตนอยู่ในจริยาวัตรอันงาม มีการเที่ยวไปทำความรู้จักกับบรรดาโยคีชั้นสวามี และมหาฤาษีตามสำนักต่างๆ ในแดนฤาษีเกษ ตลอดจนพวกนักบวช
    พราหมิน (ภักดีต่อพระพรหมแน่วแน่) เป็นการผูกมิตรไมตรีสร้างบรรยากาศแห่งความอยู่ร่วมกันโดยสันติ นักพรต นักบวช โยคี ฤาษี ชีไพร เหล่านี้ บางรูปก็มีอัธยาศัยดี จิตใจใฝ่ธรรมอย่างแท้จริง มีเมตตา และถืออุเบกขา แต่ก็มีจำนวนไม่น้อยที่เป็นพวกมิจฉาทิฐิ อวดดี ยะโส โอหัง พูดจากระโชกโฮกฮากชอบข่มขู่หลวงพ่อ เพราะเห็นเป็นภิกษุในพุทธศาสนา และโดยเฉพาะเป็นคนไทยซึ่งเป็นคนต่างชาติต่างผิวพรรณไปจากพวกแขกอินเดีย แต่พอได้ทราบชื่อหลวงพ่อว่า
     
  16. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,763
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    ขณะที่นักบวชนิมลานันทะ กล่าวนี้ อยู่ที่ท่าเรือศิวะนันทะ ทำให้บรรดาฤาษี โยคี อาชีวก และผู้คนจำนวนมากที่กำลังมารอลงเรือข้ามฝาก ต่างก็หันมามอง หลวงพ่อกัสสปมุนีเป็นตาเดียว แสดงความประหลาดใจเป็นล้นพ้น ที่นักบวชชาวไทยร่างเล็ก เป็นพระภิกษุสงฆ์ ในพุทธศาสนา ได้รับการนอบน้อมยอมรับ จากนักบวชฮินดูถึงเพียงนี้ หลังจากท่านวิเวกนันทะจากไปแล้ว พอตกเย็นวันนั้นในราว ๖ โมง
    ท้องฟ้าอากาศเมืองฤาษีชีไพร อันศักดิ์สิทธิ์เชิงป่าหิมพานต์ แดนหิมาลัยประเทศ ได้เกิดการเปลี่ยนแปลง ลมพัดดังกระหึ่ม ก้องสะท้อนหุบเขากลับไปกลับมา ท้องฟ้ามืดสนิท ลมพัดกระหน่ำ ผงฝุ่นและใบไม้ปลิวว่อน ต้นไม้ภายในบริเวณกุฏิหักโผงผาง หลวงพ่อกัสสปเห็นท่าไม่ได้การเลยรีบปิดกุฏิ เสียงฟ้าผ่าดังเปรี้ยงๆ กึกก้องไปหมด
     
  17. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,763
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
     
  18. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,763
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    พวกผู้หญิงเผ่ากาลิงคะนุ่งผ้าโจงกระเบน เห็นรูปก้นเป็นปั้นทีเดียว ผู้คนเหล่านี้อุตส่าห์พากันมาแต่ไกล เพื่อจาริกแสวงบุญ ขณะที่หลวงพ่อกัสสปนั่งขัดสมาธิ อยู่บนม้าหินหน้ากุฏิดูชมอยู่นี้ พวกประชาชน
    กลุ่มใหญ่ก็เปิดประตูรั้วเข้ามา ตรงเข้ามากราบหลวงพ่อกัสสป กราบแบบหน้าผากจรดพื้น พวกผู้ชายเอามือแตะแขนหลวงพ่อ แล้วเอาไปแตะที่หน้าผากของตนเช่นเดียวกัน เสร็จแล้วก็ทรุดตัวลงกราบอีก
    หลวงพ่อกัสสป ได้ให้พรเป็นภาษาฮินดีอย่างกระท่อนกระแท่นว่า
     
  19. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,763
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    ในราวบ่ายสามโมง มีสามีภรรยาครอบครัวหนึ่ง พร้อมทั้งพ่อตาแม่ยายและลูกชายอายุ ๑๒ ปี ชื่อราเชนทร์ ได้พากันเข้ามาหาหลวงพ่อกัสสปที่กุฏิ เสื้อผ้าการแต่งตัวแสดงถึงฐานะอันมั่นคง เมื่อได้เข้ามา และแสดงคารวะอย่างนอบน้อมแล้ว ก็บอกว่า เขาชื่อนายมหลตรา และภรรยา เด็กคนนี้เป็นบุตรชายคนโต และบุรุษและสตรีชราทั้งสอง เป็นพ่อตาแม่ยายของเขา สำหรับนางมหลตราใบหน้าสวยยิ้มเสมอ รูปร่างค่อนข้างอ้วน นั่งขัดสมาธิลงกับพื้นซีเมนต์ โดยไม่คำนึงถึงว่าเสื้อผ้าอันสะอาดงามของแกจะเปื้อน ส่วนเด็กชายราเชนทร์นั้น ยืนมือไขว้หลังดูหลวงพ่ออยู่อย่างสนใจ นายมหลตราถามว่า
     
  20. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,763
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    นางมหลตราถามว่า
     

แชร์หน้านี้

Loading...