แบบว่า..เมืองไทยเย็น ขั้วโลกเช้า ต่างเวลา ต่างมิติ แต่ก็อยากรู้เพราะเมืองบาดาลเมืองนั้นอยู่ จังหวัดเราเอง หรือว่าคุณคุรุวาโร ไปเจอใครในกระทู้ที่นี่(เมืองบาดาล)เพราะไม่ฝันถึงเลยมัวแต่สนุกเล่นหิมะเพลิน...มาทันไหมหนอ....ขอร่วมโหวตด้วยคนค่ะ
สวัสดีจ๊ะ น้องติงติง โลกนี้มันกลมยิ่งนัก อีกไม่นานหลังออกพรรษา เราจะได้พบกันที่ภูสูงหรือบ้านน้องติงติงนั่นแหละ เพราะพี่ไปปีที่แล้วเกือบไปถึง แต่ไม่มีเวลาแวะจ๊ะ..ได้แต่ถามข่าวหา ปีหน้าเจอกันแน่นอนจ๊ะ...
ร่วมโหวต ตอนเกือบตี 2 หลังนั่งสมาธิ รู้สึกว่าวันนี้ ทำความเพียรได้ดี เข้ามาอ่านกระทู้ จะได้สดับฟังเรื่องที่น่าสนใจจากท่านเจ้าของบ้านอีก โหวตๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เจ้าค่ะ
มีครบจนได้ครับ ตามสัญญาแล้วกันครับ ผมภาวนาไปโดยอธิษฐานว่า "ขอให้ฤษีแห่งนาคา ช่วยพาไปยังเมืองบาดาลที่นี้ด้วยครับ" โดยเอาหินแก้วสีใสนั้นไว้ในมือขวาครับ ประมาณสี่ทุ่ม เห็นนิมิตเป็นฤษีที่มีสายรัดมงคล เป็นรูปงูสีขาว ท่านฤษี กล่าวว่า" ไปได้แล้ว" ผมพบว่า ตนเองอยู่ในสถานที่ ที่มีแสงสว่างเหมือนเดือนเพ็ญขึ้น 15 ค่ำครับ แต่แสงนั้นไม่คงที่ คล้ายๆเราอยู่ใต้น้ำแล้วมีระลอกคลื่นไหวไปไหวมาครับ ผมเห็นชาวเมืองนั้น...
พวกเขาใส่เสื้อผ้าสีทึบๆครับ คล้ายๆพวกเสื้อม่อฮ่ม แต่ใส่ผ้าถุงแทนครับ เหมือนชาวชนบทโดยทั่วไปครับ แต่พวกเขามีจุดสีแดงตรงหน้าผาก เมื่อไปถึงที่นั่น หินแก้วสีใสนั่นทอประกายแสงออกมาจากตัวเองได้ เหมือนเราเปิดไฟฉายครับ แต่แสงนั้นออกมาทุกทางครับ ชาวเมืองนั้นพากันนั่งลงไหว้หินแก้วสีใส เมื่อผมเดินผ่านไป พอเดินไปสักพัก ก็พบว่ามีชาวเมืองแต่งกายคล้ายทหารพากันมา 3 คน โดยพวกเขาบอกว่า"ท่าน เจ้าเมืองให้มารับครับ" ผมเดินตามทหาร 3 คนนั้นไป พบว่า วิมานของเจ้าเมืองนั้นไม่สวยงาม เหมือนครั้งที่ไปเมืองหลวง ผมเห็นผู้หญิงคนหนึ่งแต่งกายดีกว่าคนอื่น เธอใส่ชุดสไปสีเขียว และมีเครื่องประดับทำด้วยทองคำ และข้างๆตัวเธอนั้น มีหญิงสองคน คล้ายจะคอยรับใช้เธอครับ เจ้าเมืองนั้นใส่มงคลที่รัดศรีษะด้วยสีเขียว เจ้าเมืองถามผมว่า" ท่านได้เกล็ดแก้วพญานาค มาจากที่ใด" ผมตอบว่า"ได้มาจากเมืองหลวงของบาดาลครับ" ท่านเจ้าเมืองถามต่ออีกว่า" ท่านอยากได้ แก้ว แหวน เงินทอง สิ่งที่มีค่าต่างๆในเมืองนี้หรือไม่ เราจะให้เจ้าไป แต่เจ้าต้องให้เกล็ดแก้วแก่เรา เป็นการตอบแทน" ผมตอบว่า" เกล็ดแก้วเป็นของที่เขาประทานให้ผมมา จะมอบให้ท่านไม่ได้ครับ ส่วนแก้ว แหวนเงินทองนั้น คงไม่อยากได้ครับ" มีผู้ชายคนหนึ่งแต่งตัวคล้ายหัวหน้าทหารนั้น พูดว่า"เราเป็นคู่หมั้น ของพระธิดาเมืองนี้ ต่อไปเราจะปกครองเมืองนี้ เราต้องการสิ่งใด สิ่งนั้นต้องได้มา ท่านเป็นแค่มนุษย์ธรรมดา อย่าขัดใจเรา เพราะเราต้องการสิ่งของนั้นเป็นสินสอดในงานอภิเษกของเรา" ผมเห็นว่าสถานการณ์ไม่ค่อยดี เลยตัดสินใจ....
เลยตัดสินใจ....แงๆๆๆๆ อยากทราบตอนต่อไปค่ะ แต่ว่าขณะนี้สายมากแล้วติงต้องไปโรงเรียน เดี๋ยวพักกลางวันจะกลับมาอ่านค่ะ....
อรุณสวัสดิ์ค่ะทุกๆท่าน เมื่อคืนรออ่านนิทานจนดึก...ก็เลยไปพักผ่อน เช้านี้ได้อ่านสมใจแล้วค่ะ นิทานสนุกสุดมันส์...ชวนติดตามดีแท้...
เมื่อเดือนต.ค54ได้มีโอกาสไปทอดกระถินที่จ.ตากและเลยไปเที่ยวเชียงใหม่ ได้ไปถ้ำเชียงดาวและศาลพระนเรศวรค่ะพอตอนกลางคืนก็ฝันเห็นเด็กผู้หญิงสามคน หน้าตาน่ารักมากเหมือนปฏิบัติธรรมใส่ชุดขาวและมวยผมยิ้มให้และถามดิฉันว่าจำเขาได้มั้ย ก็เลยถามเขาว่าปฏิบัติธรรมอยู่ที่นี่หรือคะ เขาก็บอกค่ะและเขาก็บอกว่าขอกอดหน่อยได้มั้ยคะ ดิฉันก็เลยกอดทั้งสามคนเลยค่ะ ไม่ทราบว่าฝันแบบนี้แปลว่ายังไงค่ะ ช่วยบอกหน่อยค่ะ ขอบคุณค่ะ
ขอโมทนากับบุญคุณTatojang ด้วยครับ ไม่ได้เข้ามาสองสามวัน ผมอุตส่าห์เดินทางไปไกลกว่า 18 ชั่วโมง ไปงานฝึกมโนมยิทธิเต็มกำลังที่วัดท่าซุง อุทัยธานีมา เมื่อ 11-12 กพ ผลคือยังฝึกไม่ได้เหมือนเดิมครับ 55 แต่ก็ได้ทำบุญ ให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา ก็ขอให้ท่านทั้งหลายโมทนาร่วมกันนะครับ ผมก็ฝึกวิธีคุณคุรุวาโรต่อไปเผื่อจะออกได้บ้างสักครั้งในชีวิต ได้อ่านแต่ละเรื่องแล้วสนุกดีแท้น่าสนใจ กว่าจะตามทันถึงหน้าปัจจุบันเสียทีครับ
ผมว่าพระคาถา "พุทธังเหาะเหิน ธัมมังเคลื่อนตัว สังฆังก้าวเดิน" แล้วสูดลมหายใจเข้า เพื่อปรับธาตุลม แล้วลอยตัวขึ้นไปในอากาศ เรียกว่าหาทางกลับที่พักดีกว่าครับ พบว่ามีแสงสว่างคล้ายอุโมงค์ และมีผู้คนชาวเมืองบาดาลกำลังถือดอกบัวสีแดง คล้ายๆจะไปสักการะอะไรสักอย่างครับ ผลปรากฏว่าที่นั้นก็คือ วัด....ในเมืองอุบลครับ หัวหน้าทหารและพวกทหารติดตามได้ยกขบวนตามผมมา แล้วร้องบอก ให้ทหารที่เฝ้าปากทางเข้า-ออกนั้น ห้ามผมออกไปครับ ผมเลยต้องหนีไปหาทางออกที่อื่น พบว่า ทางออกนั้นอยู่ใต้แม่น้ำ มีสะพานอยู่ข้างบน ชื่อสะพาน 200 ปีครับ แต่พวกเขาก็ตามมาทันเลยออกไปไม่ได้ครับ