เรื่องราวหลวงพ่อพิเชฐ วัดโคกหม้อ

ตะกรุดหนุนดวง ตามประจำวันเกิด

 

วัตถุมงคล ชุดงานไหว้ครู หลวงพ่อได้กำหนดค่าบูชาหรือยังครับพี่
อยู่ไกลเหลือเกิน ไม่ได้ไปร่วมงาน อยากจะร่วมทำบุญทางไปรษณีย์ด้วยครับ

 

ยังไม่ได้กำหนดค่าบูชาครับ ราคาคงย่อมเยาว์เหมือนเดิมครับ
ครุฑเนื้อชินเงิน ถ้าเลี่ยมอัดกรอบพราสติก ค่าบูชา 300 บาท และแบบไม่เลี่ยมค่าบูชา 100 บาท ครับ

 

ตระกรุดดอกละเท่าไหร่ครับ

 

ผ้ายันต์พระสังกัจจายน์มหาลาภ ออกงานไว้ครูปี 55 นี้ครับ สำหรับภาพที่มาให้ดูนี้เป็นแค่แบบกระดาษนะครับ ต่อนนี้กำลังสั่งทำอยู่ครับ (เป็นผ้ากำมะหยี่) ผืนใหญ่ขนาดประมาณ 14X17 นิ้ว ค่าบูชาสองร้อยบาทครับ (ใช้พระสังกัจจายน์ในกุฎิหลวงพ่อเป็นต้นแบบครับ)



ผ้ายันต์รุ่นนี้ไม่ธรรมดาแล้วครับ ทำการกดชัตเตอร์เพื่อจะเก็บภาพ ต่อหน้าหลวงพ่อ หลังจากกดเชตเตอร์เสร็จแล้ว กล้องของผมตรวจจับการกระพริบตาได้ครับ "ตรวจพบวัตถุกระพริบตา" หลังจากอ่านเสร็จขนแขนลุกขึ้นมาทันทีเลยครับแล้วผมก็รายงานให้หลวงพ่อทันที่เลย "เป็นไปได้อย่างไรครับกล้องตรวจพบภาพกระพริบตา" ผมคิดในใจ ภาพกระดาษแท้ ๆ ซึ่งจะทำเป็นแบบ จะกระพริบตาแบบถ่ายคนได้อย่างไรกัน หลวงพ่อพูดว่ากล้องคงไม่โกหกหลอก และหลวงพ่อได้แต่ยิ้มๆแล้วพูดเบาๆว่าปาฎิหารมีจริง ผมก็ได้แต่นั่งขนลุกอยู่ครับ
ใช้ดุลย์พินิจพิจารณาเอาเองนะครับ ผมแค่มาบอกเล่าเรื่องราวและขอยืนยันเท่าที่พบเห็นมานี้ครับ

 

ตะกรุดหนุนดวง ตามประจำวันเกิด ดอกละสองร้อยบาทครับ สำหรับคนที่เกิดวันพุธกลางคืน ตะกรุดราหูมีอยู่ไม่กี่ดอกครับ

 

หูยานเนื้อชินเงินพิมพ์เล็กค่าบูชาสองร้อยบาท



หูยานเนื้อชินเงินพิมพ์ใหญ่ค่าบูชาสามร้อยบาทครับ

 

ครุฑเนื้อชินเงินค่าบูชาหนึ่งร้อยบาทครับ(ไม่เลี่ยม)



สังกัจจายน์เนื้อชินเงินค่าบูชาหนึ่งร้อยบาทครับ

 

เหรียญรุ่นแรงครูที่แช่ไว้ในน้ำมนต์ครับ

 

ปลัดขิก กันภัย ให้ลาภ รุ่นสอง เนื้อตะกั่ว สำหรับงานไว้ครู ค่าบูชาหนึ่งร้อยบาทครับ

 

อธิบายด้วยภาพ เป็นรูปเก่าครับ

มาดูรูปใหม่เงินทุกบาทจากงานกฐินครับ



สำเร็จได้เพราะแรงศรัทธาครับ

 

เป็นคราบน้ำมนต์ที่สวยงามแปลกตามากเลยครับ สาธุๆๆ

 

ภาพบ่งบอกถึงการพัฒนาวัดหลังน้ำท่วมครับ ปรับปรุงทาสีใหม่ประมาณ35เปอร์เซ็นได้ครับ ยังเหลือการปรับปรุงอีกมากครับ

 

ตะกรุดหนุนดวง ตามประจำวันเกิด ขนาดความยาว 2นิ้วครึ่งครับ

 

สีผึ่งสามไฟ ก็เป็นวัตถุมงคลออกในงานไว้ครูด้วยครับ ค่าบูชาหนึ่งร้อยบาทขนาดตลับสีผึ่งทั่วไปครับ หลวงพ่อบอกว่าหุงยากมาก หลวงพ่อบอกว่าเคยหุงเมื่อประมาณปี 39 ครับ
การหุงแต่ละไฟครับ
ไฟแรกหุงไฟถ่าน หรือไฟธาตุ
ไฟสองไฟกสิณ คือใช้ไฟเทียนหุงครับ
ไฟสามไฟสุริยะ ไฟนี้หุงตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นประมาณหกโมงเช้าครับ

สีผึงก่อนจะนำไปหุงหลวงพ่อใส่ไว้ในบาตร หลวงพ่อทำการปลุกเสกเดียวอยู่ครับ

 

เหมือนกับสีผึ้งที่ให้บูชาในตู้ที่วัดรึเปล่าครับ หรือว่าคนละแบบกัน

 

เป็นคราบน้ำมนต์แท้ๆครับ ไม่ใช่เป็นขุยแบบบางๆ ทั่วๆไป เหมือนอย่างบางที่ เพราะว่าแช่กันจริงๆ แต่ที่ขุยบางๆนั้น ทำขึ้นเอง ให้เหมือนแช่น้ำมนต์ บางทีอาจไม่ได้แช่จริง หรือไม่ก็แช่แป๊บเดียวครับ

 

งานไหว้ครู ก็จะลดความร้อนลงนิดนึงครับ สำหรับแม่ครัวใจดีทุกๆท่าน จากที่เคยใช้เตนท์ ร้อนมากๆ

 

ถ้าเป็นสีผึ่งที่ให้บูชาอยู่ปัจจุบัน เป็นคนละแบบ วิธีการทำไม่เหมือนกันครับ แต่ของสองอย่าสุดยอดทั้งนั้น ผู้ที่นำไปใช้ผ่านประสบการณ์มาทั้งนั้นครับ เมตตามหานิยมดีนักแลจะบอกให้

 

ต้องเก็บเงินไว้บูชาวันไหว้ครูแล้วล่ะครับ