ถ้าคนในโลกนี้รักษาศีล5 รวยกันทั้งโลกสุขกันทั้งโลกเพราะอะไรผมจะมาบอก

ตะกี้ผมสงสัย เคยสวดพุทธคุณ ตอนบรรทัดที่ วิชาจรณะสัมปันโน

ผมสงสัย ว่าจรณะ คือไร เลยไป ค้นหา อ่าน ไปดูนะครับ

http://palungjit.org/threads/จรณะ-๑๕-สีลสัมปทา.131783/

กลับเข้าเรื่องกันเลย จากที่หลวงพ่อบอกมันก็จริงทุกอย่าง

ศีล ห้า ไม่ฆ่า ไม่ขโมย ไม่ดื่มสุรา ลองคิดดูนะครับ คนในโลกนี้ สมมุติมีประมาณ 6000ล้านคนนะครับ

ถ้า หกล้านคน ไม่ฆ่า ก็ไม่ต้องซื้อปืนซื้ออาวุธไม่ต้องผลิตไรต่างๆ แล้วถ้าถามว่า แล้วพวกที่ผลิตอาวุธหละ ถ้าเค้าไม่ทําเค้าก็ไม่เงินกิน ตอบง่ายๆ หางานทําใหม่ก็แค่นั้น (จริงไหม แล้วจะไม่ได้ทํา งานผิด ที่ตรงข้ามอาชีวะสุจริต ตรงข้ามนะผมไม่รู้ชื่อไรลืม)

ถ้ามีศีลข้อแรกก่อนนะ ไม่ฆ่า ก็ไม่ต้องผลิต ปืนอาวุธไรพวกนี้ ลองเฉลี่ยๆดู
ประเทศในโลกนี้มีสัก 150 ประเทศ (ผมไม่รู้ว่ามีเท่าไหร่เฉลี่ยละกัน)
ปีหนึ่งซื้อปืน ซื้ออาวุธ 1000 ล้าน บาท 150 ประเทศ 1000x150
150 000 ล้านบาท ถ้ารวมพวกนิวเคลียไปด้วยหุหุ



เยอะแยะนับไม่ได้ ถ้าเอาเงินพวกนี้ไปทําบุญ ไปทําทาน ไปช่วยเหลือคนไม่มีจะกินคนจนไรพวกนี้ ไปนิพพาน ไปสวรรค์ กันทั้งโลกแน่ๆ


ต่อเลย ศีลขโมย ลองคิดดู 6000ล้านคน ลองคิดซักว่า สัก 4000ล้าน มีบ้าน มีรถ กุนแจรถ กุนแจบ้าน เฉลี่ยไป ดอกละ 50 บาท( ต่างประเทศ หนึ่งร้อยบ้าน สามร้อยบาทเลยนะ)


4000x100 (รถและบ้าน) ถ้าครอบครัวหนึ่งมีรถสามคัน บ้านสองหลังไรพวกนี้ 4000x200 80000000 บาท เลยนะครับ แปดแสน ล้านบาท จริงๆอาจจะเยอะกว่านั้น ถ้าไปรวมพวกเงินต่างชาติ ล้านๆบาทก็ได้หุหุเอาเงินไปทําบุญทําทา ไปนิพพาน สวรรค์กันหมดแน่ นรกไม่มี


มาศีลข้อ 3 ห้ามไปผิดเมีย ห้ามไปร่วมเพศโดยพ่อแม่ไม่อนุญาติ



ลองคิดดูนะครับ เวลาจะไปไหนในสมัยนี้ใช้รถ เสียค่าน้ำมัน ลองบวกๆ กันดูจะได้คําตอบ


ข้อ โกหกเนี่ยใหญ่เลย ถ้าทุกคนในโลนกี้ไม่โกหกพูดความจริง ไม่พูดทําร้ายจิตใจ ลองคิดดู พวกนักเลงไรพวกนี้ ในวันข้างหน้าอาจจะกอดคอ กัน พูดจาหวาน กันก็ได้


มาข้อสุดท้าย เหล้า สุรา ผมขอบวก บุหรี่ไปด้วย


ผมคิดว่าคนสรุปบุหรี่ในโลกนี้เยอะมาก ดิ่มเหล้าสุราเยอะมาก ปาไปสัก

5000 ล้านคน เหล้าสุราบุหรี่ ทั้งชีวิตของเค้า ผมขอเอาสัก 1 แสนบาท



5000ล้าน x กับน 1 แสนบาท ได้ประมาณสัก ล้านๆ บาท ผมไม่รู้แน่ชัดขี้ไม่อยากคิด





สรุป ถ้าคนในโลกนี้มีศีล 5 รวยกันทั้งโลก แบ่งกันกินแบ่งกันใช้ มีมิตรภาพ ยิ่งสอนธรรมเข้าไปอีกด้วย มมีพรหมวิหารสี่ ตายไปสวรรค์รออยู่ ยิ่งถ้ามีศาสนาพุทธเป็นศาสนาเดียวของโลก สอนให้ปลงขันธ์ห้า ไปนิพพาน คนในโลกนี้ ไปนิพพานหมดแน่ 555 โอยลองจินตนการดู เดินไปไหนยิ้มให้กัน พอเห็นคนทําตังตก ก็บอกเค้า เอาไปคืนให้ เวลาไปเจอคนหิว เพื่อนข้างบ้านเอาข้าวให้กินฟรีๆ โอยๆ โลกในอุดมคติของผมมีศีล5 นี่สุดยอด



แต่ยาก แต่ผมได้ยินมาว่าในยุคพระศรี คนเลว 10 เปอเซ็น คนดี 90 เปอเซ็นสุดยอด



แต่ยังมีเลวอยู่นะ ถ้าอยากให้ดี 100 เปอเซ็น นิพพาน ดีจริงๆขอบอก

 

ถามเพื่อความแน่ใจหน่อยนะครับ เกี่ยวกับความถูกต้องของศีล
ข้อที่4 มุสา
การโกหกบิดเบือนไปจากความจริงผิดเลยหรือเปล่าครับ
ถ้าหากมีกรณี ตำรวจไปจับโจรแล้ว ตำรวจบอกว่าตัวเองเป็นตำรวจไม่กล้าโกหก จึงถูกโจรฆ่า หากโกหกจึงสามารถจับโจรได้ ถ้าเป็นแบบนี้ตำรวจก็ผิดศีลหรือเปล่า

ข้อที่ 2
การดาวโหลด
-หนัง ต่างๆ หรือดูออนไลน์
-เพลง รวม mp3
-การอ่านการ์ตูนต่างประเทศที่เขาแปลมาเป็นไทย

และผมเข้าใจอีกว่า เจตนาเป็นตัวกรรม ถ้าเจตนาดีล่ะครับ ผิดศีลไหม

กรณีเหล่านี้ทำอย่างไรจะมั่นใจว่าไม่ผิดศีล ผู้รู้มาแนะนำให้กระผมมีความเข้าใจชัดแจ้งยิ่งขึ้นด้วยนะครับ ขอบคุณครับ

 

การดาวโหลดไม่ผิดครับถ้าไม่รู้ไม่เห็นไม่สงสัยว่าเขาเอามายังไง

แต่ถ้่าเราเป็นผู้ที่เอาจากต้นฉบับที่เขาเอาไว้ขาย นำมาแจกจ่ายให้ดาวโหลด

อันนั้นผิดแน่นอน หากไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของก่อน

 

คุณ ballbeamboy2 ลองพิจารณาดูนะครับ

ในสมัยพุทธกาลผู้คนทั่วทั้งโลกไม่ได้เป็นพระอรหันฉันใด ก็ฉันนั้น

แม้องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์พระประทีปแก้วพระบรมจอมตรัยบรมศาสดา

ผู้เป็นหนึ่งในโลก ผู้รู้ เป็นผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ผู้หมดสิ้นจากกิเลสทั้งปวง เป็นผู้มีพุทธปาฏิหารย์

ยังไม่สามารถทำให้คนทั้งโลกเป็นพระอรหันต์ได้ เหตุเพราะ

สัตว์โลกมีกรรมเป็นแดนเกิด มีกรรมเป็นตัวกำหนด เกิดเพราะกรรม บางพวกมีกิเลสในจักษุอยู่มาก

ความเป็นไปได้อย่างที่ึึคุณกล่าว คงมีโอกา่สน้อยมาก หรือไม่ก็ไม่มีื่ทางเลย

คุณอย่ามองกว้างนักเลย ทำใจให้สบายๆ อย่าให้ความรำคาญใจ ลวงเหมือนกับว่าเป็นผู้ใคร่ในการศึกษา.

อย่าให้ความฟุ้งซ่าน ลวงเหมือนกับว่าเป็นการปรารภความเพียร


เจริญในธรรม คุณ ballbeamboy2

 

มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ดูสิอิสลาม บางคนนี่เค้าไม่ดื่มเหล้านะ
และไม่กินหมูก็เท่ากับว่าลดการฆ่าเบียดเบียนสัตว์ลงไปได้

แล้วดูสิเฉพาะไทยเราเป็นเมืองพุทธ ที่ว่านับถือศาสนาพุทธ
ยังดื่มเหล้าเตรียมฉลองเฮฮากันเร้วว ตั้งอยู่ในศีล5 หรือไม่ เป็นพุทธแบบไหน

ดูอย่างศาสนาเชน ตามประวัติสืบเนื่องมาจากลัทธิทั้ง6 ในสมัยพุทธกาลคือนิครถนาฏบุตร
เค้าก็มีหลักของการปฏิบัติของเค้านะ ซึ่งไม่ต่างจากศีล5 ของพุทธเรา

แต่ลัทธิศาสนาเหล่านี้ ก็ยังอยู่ในข่ายมิจฉาทิฏฐิ แต่ไม่ได้ห้ามสวรรค์
เพราะข้อปฏิบัติในทางสร้างกุศลเค้าก็มี นี่มองในแง่ดีเค้านะ คือให้เข้ามาเพ่งโทษตน

แต่หากจะให้หลุดพ้นในสังสารวัฏคือนิพพาน ซึ่งเป็นไปไม่ได้เพราะขาดสัมมามรรคทั้ง8 ต่างจากที่พุทธเรามี

ฉะนั้น จึงเป็นเรื่องยากที่จะให้ทุกคนมีศีล5 ดูพี่ไทยเราสิ ต้นฉบับยังทำไม่ได้เลย
บางอย่างก็น่าอายเค้าไหมล่ะ จึงว่าตราบใดที่คนเรา ยังมีแรงทะยานอยาก ไหลไปตามตัณหา
จึงต้องประพฤตินอกข่ายของศีลธรรม แทนที่จะเอาตัณหานั้น มาสร้างกุศล ทวนกระแสกิเลส ให้อยู่ในศีลธรรม

ขนโคจึงมากกว่าเขาโค เราสร้างกฏธรรมชาตินั้นขึ้นมากันเอง

เหล่านี้ จึงเป็นเพียงแค่ "ความ คาดหวัง"

 

ต้องออกกฎหมาย สร้างจิตสำนึก

เหมือนรณรงค์

เพ้อเจ้อเท่ากับเหวง

ให้เหล้า เท่ากับแช่ง

พกถุงยาง ก่อนซิ่ง

ไม่ทิ้งขยะบนทางเท้า จับได้ปรับ 2000 ^^

 

เจตนาเป็นกรรม แต่น่าจะผิดนิดเดียวละมั้ง แต่อย่าลืมผมบอกว่าทั้งโลกรักษาศีลห้า ไม่ขโมยก็ไม่มีโจร

ผมเพ้อฝันไปงั้นเอง คงยากที่คนทั้งโลกจะรักษาศีล อย่างแน่นอนไม่ใช่มีงานเลี้ยงขาดเหล้า

ส่วนคุณเจษฎรธรรม

มันก็จริงอยู่หรอกที่ยากจนแทบไเป็นไปไม่ได้ สักวันมันต้องมีบ้างแหละ

ผมก็ขาดหวังไปงั้น อยากรู้ว่าในสมัย พระศรี ที่อ่านมา คนชั่ว มีน้อยมาก คนดีเพียบเยอะแยะ มันจะจริงเปล่า

 

มารไม่มี บารมีไม่เกิด จบ

 

รู้อยู่ว่า ความคาดหวัง คือ เจตนาดี

แต่มันตั้งอยู่ในทฤษฎีความน่าจะเป็น

ผู้สร้างเหตุมาดี ผลต้องดีแน่นอน ไปตามนั้น

 

มารเคยมี แต่บารมียังอยู่ แบบนี้ได้ไหม

ผมเคยอ่านมาว่าถ้าทําบุญกับพระอรหันต์ที่ออกจากฌาณสมาบัติ แล้วขออธิฐาณผมจะเป็นดังนั้น แล้วถ้า ถวายสังฆทาน โดยให้พระพุทธเจ้าเป็นประมุข อานิสงฆ์ย่อมมาก

 

เคยอ่านเหมือนกันที่ว่าทำบุญกับพระที่เข้านิโรธสมาบัติในสมัยพุทธกาล
บนสวรรค์ชั้นฟ้าเค้าวัดกันที่แสง ใครมีแสงสว่างมากคนนั้นบุญบารมีเยอะ

ถึงขนาดพระอินทร์ ต้องแปลงกายมาเป็นมนุษย์ เพื่อขอดักใส่บาตรพระกัสสปะ
เพราะพระอินทร์แสงน้อยกว่า ผู้ที่จุติบนดาวดึงด์นั้น คือพระโสดาบันหรือไงนี่ล่ะ
ที่ว่าเป็นพระวัฏฏาภิรตโสดาบัน คือแสงของผู้มีปัญญา

ทีนี้พระอินทร์ผู้ปกครอง จึงทนอยู่ไม่ได้ต้องแสวงบุญ กับพระกัสสปะที่ออกจากนิโรธสมาบัติ
ตอนนั้นรู้สึกว่าพระอินทร์ ท่านยังไม่ได้บรรลุพระโสดาบัน หรือไงนี่ล่ะ

หรืออีกอย่างคือ ผู้ที่ทำบุญกับพระสารีบุตรที่ออกจากนิโรธสมาบัติ
จนรอยไถกลายเป็นทองคำ พระราชาจึงตั้งให้เป็นเศรษฐีในลำดับต่อมา จากที่เป็นคนยากจนมาก่อน

ฉะนั้น สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องยากที่จะเจอ หากไม่มีบุพวาสนาต่อกัน คือมีการสร้างเหตุมาดี

ลำดับแรก ก็สร้างเหตุจากพระอรหันต์ที่บ้านไปก่อน
หรือพระสงฆ์สาวก ที่เราพิจารณา เห็นแล้วว่าท่านปฏิบัติปฏิบัติชอบ
หรือตั้งเอาเจตนา เพื่อระลึกในคุณของพระพุทธเจ้า มาเป็นประธาน ก็ได้

หากยังไม่หลุดพ้น ก็ไม่แน่ว่าเราอาจจะได้เจอกับพระที่ออกจากนิโรธสมาบัติ พระปัจเจกพุทธเจ้า
หรือได้ไปเกิดในศาสนาของพระพุทธเจ้าพระองค์ใดพระองค์หนึ่ง ในอนาคตกาล
ได้ถวายสังฆทานโดยมีพระพุทธเจ้าเป็นประธานด้วยกายเนื้อ
แล้วตั้งความปรารถนา ตามที่ปรารถนาไว้ก็ได้

เหล่านี้ มันมาจากเหตุ ไม่ใช่จู่ๆ จะเจอกันได้ง่ายๆ

 

อนุโมทนาครับ..............

 

กระผมจะพยายามตอบเพิ่มเติมโดยสัมมาทิฏฐินะครับ

ศีลเป็นปัจจัยให้ถึงความสุข
ศีลเป็นปัจจัยให้ถึงโภคทรัพย์ ***อริยทรัพย์ทั้ง7***
ศีลเป็นปัจจัยให้ถึงพระนิพพาน

เพราะผู้รักษาศีลคือการไม่เบียดเบียนทำลายศีลธรรมในตัวเองแลไม่เบียดเบียนผู้อื่น แลไม่ทำให้ผู้อื่นเป็นทุกข์ มีแต่ความเมตตาธรรมให้เเก่กัน หากบุคลพากันรักษาศีลมากขึ้นมนุษย์จะมีความวุ่นวายมีความทุกข์น้อยลงมนุษย์จะมีความสงบสุขเพิ่มมากขึ้นเพราะด้วยเหตุที่มนุษย์ไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน

เป็นมนุษย์สัตว์ประเสริฐเพราะมีศีลความเป็นมนุษย์แลสติ มีมนุษยธรรมแลมีจิตใจที่เป็นมนุษย์

ขอบคุณท่านเจ้าของกระทู้ ขอองค์สมเด็จพระรัตนตรัยคุ้มครองคุณงามความดีทุกๆประการที่เหล่าพุทธบริษัท๔ สร้างคุณงามความดีไว้ในพระพุทธศาสนาโดยสัมมาทิฏฐิดลบันดาลให้ท่านเจ้าของกระทู้แลปวงญาติ สุขกาย สุขใจ เจริญใน อายุ วรรณะ สุขะ พละ ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน

 

ทุกคนพูดไม่ผิด ทุกคนพูดไม่ถูก ทุกคนไม่มีชีวิต ทุกคนยังไม่ตาย
พรมวิหาร 4
บัว 4 เหล่า
ปราชญ์เข้าใจ
ปฏิบัติเองรู้เอง