ภาพถ่าย อรูปพรหม !!!

นื่แหละกระทู้รกบอร์ดจริงๆ

 

มันเป็นปริศนาธรรม อย่าไปว่าจขกท.เค้าเลย แล้วแต่คนจะตีความหมาย

 

ปริศนาธรรมอะไรกันครับ หลายๆท่านเข้ามาหัวเราะ ขบขันเห็นเป็นเรื่องตลกไปแล้ว
น่าจะตั้งกระทู้ที่มีเนื้อหาสาระเชิงสร้างสรรค เป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ สมาชิกหน่อยก็ดีนะครับ

 

จริงจังไปมั้ยครับ ดูท่าทางซีเรียสเกินไปนะเนี่ย ก็ จขกท เขาบอกว่า อรูปพรหม นี่ครับ ก็หมายถึงพรหมที่ไม่มีรูปร่างอะไรแบบนี้ ท่าบอกว่ารูปพรหม แบบนี้ก็ว่าไปอย่างนะผมว่า


ก็ในเมื่อถ้าแบบนี้เรียกว่ารูปพรหม ถ้าไม่มีอะไรก็อรูปพรหม

 

เห็นด้วยครับ

 

ส่วนอันนี้ภาพรูปพรม 55555555


อันนี้ภาพลูบพรม (||)(||)(||)(||)

ปล.ภาพจากอินเตอร์เนต

 

ผมเป็นพุทธ ผมไม่มองว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์นะครับ แต่มองว่าเป็นเพื่อนผู้ร่วมทุกข์ร่วมสุขในวัฏสงสารทั้ง31ภูมิด้วยกัน วันหนึ่งเขาหมดบุญเขาก็ไปเกิดเป็นสัตว์เดรัชฉาน ไปเป็นมนุษย์ ไปเป็นเปรต ไปเป็นอสุรกาย ฯลฯ หรือไปเป็นอริยบุคคลได้เหมือนๆกับเรา

 

เจอแล้ว โจรขโมยพระพรหมบ้านผม....................

 

คิดได้ไงครับเนี่ยย!!!~~

 

โดนแบนไปอีกอันแล้ว.....................

 

ของแท้ท่านจึงเสด็จมาblack hold ท่านเบื่อคนเก่งห้องวิทยาศาสตร์นะ สงสัย

 

ตามมาฮา

 

ที่เราบอกเป็นปริศนาธรรมเพราะเรามองแล้วได้ข้อคิดว่า ไม่ว่าเราจะเรียกว่าอะไร มันก็เป็นแค่นาม เป็นชื่อแรก อันที่จริงแล้วมันไม่มีอะไร ไม่มีรูป ไม่มีชื่อ

ความว่างคืออนัตตา อนัตตาคือความว่าง โลภะ ราคะ โทสะ โมหะ มันว่างในธรรมของมัน ธรรมทั้งปวงก็รูปกับนาม มันว่าง

เมื่อพิจรณาสังขาร เราจะไม่เห็นความเป็นตัวเป็นตน เห็นด้วยจิต จิตกับปัญญาก็เป็นไวพจน์ซึ่งกันและกัน เมื่อไฝ่ดี ใจว่างมันก็ไม่ยึดอธรรมใดๆ

ความไม่ยึดมั่นถือมั่นจึงหมายถึงมันว่างไปหมด แล้วเราจะเอาอะไร พอคิดได้อย่างนั้น จิตก็บังเกิดความสงบ เยือกเย็น ฉับพลันเหมือนจิตได้ขึ้นไปยังพรหมโลก

เห็นเป็นพรหมสี่หน้านั่งอยู่ในศาลพระพรหมนั้น ด้วยเหตุนี้่เราจึงกล่าวว่า เป็นปริศนาธรรม

 

สาธุ อณุโมทนา ^^

 

ดีแล้วจะได้หมดห่วง ผมว่าพรหมท่านก็คงสบายใจ ไม่ต้องมาเฝ้ารูปอะไรก็ไม่รู้ ทำตัวตามสบายแว้บไปแว้บมาดีกว่า