พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .


    <table class="tborder" width="100%" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1"><tbody><tr><td class="thead">ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 18 คน ( เป็นสมาชิก 5 คน และ บุคคลทั่วไป 13 คน ) </td> <td class="thead" width="14%"> [ แนะนำเรื่องเด่น ] </td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%"> sithiphong, sittiporn.s+, kantamats, train@sss, :::เพชร:::+</td></tr></tbody></table>


    วันนี้ ผมส่งงานบุญวาระที่สองของปี 2555 ให้ทุกๆท่านทาง Email เรียบร้อยแล้วครับ

    ผมไปพักผ่อนก่อนครับ

    ราตรีสวัสดิ์ครับ


    .
     
  3. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ก๊ากกกก เรื่องอาวุโสนี่ ผมต้องยอมแพ้ลุงหนุ่มน้อย ตาลุงข้างบ้านของกูรู รู้สึกงงๆ ที่กลายเป็นลุงไปกับเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ หรือเขาไปเห็นคุณปู่คุณลุงอยู่ใกล้ๆผมกัน...หุ..หุ..
     
  4. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    เรื่องอจินไตยทุกเรื่องบอกเล่าไปก็ถูกว่าอวดตริฯ เก็บไว้เข้าใจคนเดียวดีกว่า ครูบาอาจารย์ที่ช่วยฝึกให้ท่านก็รับรองด้วยวิธีการของท่าน บ้างก็ว่าเข้าใจไปเอง แบบว่าทำอะไร คิดอะไร ที่มันขัดกับจริตของบางท่านไป ก็ผิดในสายตาไปหมดครับ ดังนั้นตามสบายดีกว่าครับ ทางใครทางมัน เพราะสุดท้ายคนทุกคนก็มุ่งหาทางหลุดพ้นตามวิถีที่ตนเอง คิดว่าใช่.. วันที่สงสัยก็สงสัยไปเถอะครับ เพราะปัญญามีเท่านั้น ต่อเมื่อของจริงปรากฎให้เห็นในจิตก่อนที่คำตอบจะตามมาติดๆ ก็จะทราบว่าเรื่องที่เห็นในจิตเป็นจริง เป็นอย่างนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า จิตก็จะชิน ไม่รู้สึกว่าแปลก บางสิ่งบางอย่างกระทำไปด้วยสันดานแห่งจิต คือละเว้นความชั่ว ทำความดี แต่ไม่ติดดี...
     
  5. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    หากเราไม่เข้าใจการทำงานของจิต ความสงสัยย่อมเกิดขึ้นตลอดความสงสัยนั้น ล้วนไม่ก่อเกิดประโยชน์กับกายหยาบ และกายทิพย์ ภพแล้วภพเล่าหากยังละความสงสัยไม่ได้ ก็ยังต้องเสวยภพชาติไปเรื่อย หากละทิ้งความอยาก โกรธ โลภ หลง ชั่วคราวระหว่างการทำงานนั้นไปก่อนจนกว่างานสำคัญนั้นบรรลุผล ผลบุญถูกสะสม พลังอำนาจแห่งจิตถูกเก็บสะสม อกุศลจิตใดๆไม่อาจเข้ากล้ำกลาย ความเป็นทิพย์ย่อมเกิดในทุกขณะของจิตนั้น การสมาทานกรรมฐานที่กระทำอยู่บ่อยๆช่วยได้มากจริงๆ สะสมวันละนิดๆ เมื่อวันใดถูกผนึกรวมกันหลายๆส่วน ก็จะเกิดประโยชน์จริงๆ จดจำอารมณ์นั้นๆให้ได้ ก็จะไม่เสียเวลา หรือตั้งท่าเริ่มจากศูนย์ใหม่ทุกๆครั้ง ผมเรียกว่า กุศโลบาย

    คืนนี้ผมอาจจะคุยไม่รู้เรื่อง ก็ขออภัยด้วยครับ..หุ..หุ...
     
  6. sittiporn.s

    sittiporn.s เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +748
    บางคนเข้าใจ บางคนไม่รู้เรื่อง พระอาจารย์ผม มักกล่าวคำว่า ตามบุญครับ
     
  7. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    มีเรื่องหนึ่งที่อยากเล่าสู่กันฟัง หากเป็นประโยชน์กับเพื่อนบางท่านก็ขออนุโมทนาด้วยครับ...

    เรื่องของจิตต่ออีกนิดครับ หากเราไม่เชื่อเรื่องของจิต หรือไม่ฝึกพลังจิต ก็จะเป็นอะไรที่แปลก เพราะท่านกลับเข้ามาใช้"เวปพลังจิต"ทำงาน หรือหาความรู้ มันค้านๆ แย้งๆกันนะครับ เพราะฉนั้นต้องสรุปว่า ท่านเชื่อเรื่องพลังจิต จึงเข้าเวปพลังจิต สุดแต่วิธีการที่ท่านจะทำจิตยังไงเพื่อให้ได้พลัง หรือใช้จิตทำงานได้ อันนี้วิธีใครวิธีมัน...

    ผู้แนะนำวิธีการนี้ให้ผมคือเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ผมจะไม่บอกว่าเธอแนะนำยังไง แต่จะบอกว่าผมทำยังไง เพราะเคยบอกเล่าไปแล้วใน post หนึ่งในกระทู้พระวังหน้า หากสนใจ ต้องค้นหาดูครับ ผมเชื่อว่า เธอบอกเล่าเอาไว้เพื่อเป็นธรรมทาน แต่ไม่ติดในทาน ..

    เมื่อวานนี้ ที่โรงละครแห่งชาติ บริเวณอนุสาวรีย์ของพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวนั้น เจ้าหน้าที่ผู้หญิงก็ทำตามหน้าที่แจ้งแก่คณะเราว่า ไม่อนุญาตให้เข้าไปจุดธูปเทียนที่อนุสาวรีย์ คณะเราทั้ง ๔ ท่านก็ไม่ได้รู้สึกตกใจ วิตก หรือเกรงกลัวผู้ใดบริเวณนั้น ก็เพราะไม่เคยคิดจะแหวกผู้คนมากมายบริเวณนั้นเข้าไปสักการะพระองค์ท่านแบบที่เจ้าหน้าที่ผู้หญิงท่านนั้นคิดแบบทั่วๆไป คนทั่วไปเขาคิดแบบนั้นจริงๆ อันนี้ช่วยไม่ได้ครับเขาคิดของเขา เราไม่ได้ไปบังคับให้เขาคิด อยากคิดเองคิดไป คิดดีก็ดีที่เขา คิดไม่ดีก็ตัวเขา เราไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับความดี หรือความไม่ดีของเขา เพราะเราตั้งใจไปกราบสักการะพระองค์ท่านด้วยจิตเจตนาที่บริสุทธิ์ จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว ผมก็ไม่ทราบว่า อีก ๓ ท่านทำยังไงนะครับ ส่วนของผมทำแบบนี้ ไม่สงวนลิขสิทธิ์ครับ แต่ผมรู้สึกว่าใช้ได้ผลทุกครั้ง

    "ข้าพระพุทธเจ้าขอน้อมใจกราบใต้เบื้องฝ่าละอองธุลีพระบาท ข้าพระพุทธเจ้าขอใช้นิ้วทั้ง ๑๐ ต่างธูป ดวงตาทั้ง ๒ ต่างเทียน และดวงใจจงรักภักดีต่างดอกบัว ขอน้อมสักการะพระองค์ท่าน" แล้วพุ่งดวงจิตเข้าไปกราบสักการะที่พระบรมรูปของพระองค์ท่าน จากนั้นภาพในจิตก็จะบังเกิดขึ้นเอง....เพียงเท่านี้พระองค์ท่านทรงรับรู้ รับทราบแล้วครับ เมื่อฟ้าเปิด ความคล่อง ความสะดวก ก็จะเป็นผลที่เราเห็นกัน หรือสัมผัสกันได้ครับ...
     
  8. sittiporn.s

    sittiporn.s เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +748
    โมทนาสาธุ ขออนุญาต จดจำและนำไปใช้นะครับ ปกติผมจะกำหนดจิตขึ้น ฌาณสอง ระลึกถึงสถานที่หรือรูปลักษณ์ที่เราจะสักการะแล้วจึงอธิษฐานจิตตามวัตถุประสงค์
    โมทนาสาธุที่เผยแผ่วิธีนี้ ผมจะนำไปใช้ในกรณีที่ไม่มีดอกไม้ ธูปเทียนครับ
     
  9. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    อนุโมทนาด้วยครับ พี่สิทธิพร ครูบาอาจารย์ท่านกล่าวถูกต้องแล้ว:cool:

    คืนนี้พี่นอนดึกเหมือนกันนะครับ คืนนี้ผมนอนไม่หลับ เพราะ MP3 ที่อัดบทเรียนเวชกรรมถ่ายลงเครื่องคอมน แต่เครื่องกลับไม่สามารถฟังเสียงได้ ผมพิมพ์ข้อมูลที่กระทู้พระวังหน้าไป อีกจิตก็คิดเรื่องทางแก้ไขไป 555 สับสนดี เดี๋ยวก็ได้ทางแก้ไขครับ หนักสุดก็ยกไปเข้าศูนย์ซ่อมไป...

    อีกไม่กี่วันก็จะเป็นวันไหว้ครุแล้ว จึงนำเรื่องนี้มาคุยกัน...

    ในเรื่องของจิตที่ต่อสาย ต่อคลื่น ต่อกระแสกับครูบาอาจารย์ ผมคิดว่า เราทุกคนปรารถนาที่จะทำอย่างนั้นกัน แต่จะทำกันได้เท่าไหร่ ก็เรื่องคนนั้น ต่อไม่ติด ไม่มีสื่อ ก็เป็นอันต้องไปฝึกฝนกันใหม่ ไม่ต้องให้ใครบอกครับ จิตของเราจะบอกเองว่า ใช้ได้ หรือไม่ได้ หลอกใครๆได้ แต่หลอกตัวเองไม่ได้หรอกครับ คืนนี้ผมขอนำคำไหว้ครูมาให้ลองใช้กัน ผมต่อคลื่นของผมอย่างนี้ ก็ได้ผลดีครับ หากเพื่อนท่านใดอยากได้เอาไว้ใช้ก็ทดลองกันเองครับ อาจจะเหมาะกับบางท่าน ที่มีความเกี่ยวเนื่องกัน แม้ใช้บทไหว้ครูเหมือนกัน แต่หากเข้าไปไม่ถึงความละเอียดแห่งจิตก็รับรู้ต่างกันนะครับ จิตหยาบก็ได้ผลแบบหนึ่ง จิตละเอียดก็อีกแบบ แต่ค่อยๆฝึกกล่อมเกลาจิตให้มันเชื่อง วันหนึ่งก็จะละเอียดไปเอง ไม่ต้องไปตั้งใจให้ละเอียด มันก็ละเอียดตามกรรมที่เราใส่เข้าไปเองครับ...


    หากท่านต้องการต่อคลื่น ขอคำแนะนำทางจิตกับครูบาอาจารย์ของท่านองค์ใด รูปใด ก็เปลี่ยนคำบาลีช่วงท้ายเป็นอื่น หรือจะต่อคลื่นกับองค์บรมครูเทพโลกอุดร ก็เป็นคำบูชาหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทั้ง ๕ พระองค์...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มกราคม 2012
  10. sittiporn.s

    sittiporn.s เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +748
    ขออนุญาติไปสวดมนต์ ไหว้พระ นั่งสมาธิ และจะอธิษฐานแผ่ไปยังทุกท่าน ที่กำลังดูกระทู้นี้ และทุกๆท่านที่เข้ามาอ่านในกระทู้นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จขกท ครับ
    โมทนาสาธุครับ
     
  11. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    โมทนา สาธุ............
     
  12. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ขณะที่อาราธนา"พระภายใน"ขึ้นคอ ก็อย่าลืมพัฒนา"พระภายใน"ไปควบคู่กันนะครับ แขวนพระองค์ใด ก็หมั่นระลึกถึงครูบาอาจารย์องค์นั้นด้วยจิตกตัญญูกตเวทิคุณนั่นคือทางกาย ทางธรรมท่านแนะนำเรื่องอะไรก็น้อมนำมาใส่เกล้า ให้ก้องในจิต จิตเป็นสมาธิเมื่อใด เสียงนั้นก็ก้องยังโสตประสาท อย่างน้อยก็เป็นกุศโลบายที่รู้สึกว่า ครูบาอาจารย์อยู่ใกล้เราทุกขณะจิต การจะคิดชั่ว พูดชั่ว ทำชั่วนั้นเป็นไปไม่ได้เด็ดขาด อารมณ์จิตสงบ ก็ทำศีล ๓ ชั้น คือ ละชั่วแล้วหนึ่ง ไม่ส่งเสริมให้ผู้อื่นคิดชั่ว พูดชั่ว ทำชั่วอีกหนึ่ง วางอุเบกขาไม่ยินดีเมื่อผู้อื่นคิดชั่ว พูดชั่ว ทำชั่วอีกหนึ่ง ความละเอียดขององค์ฌานจะละเอียดขึ้น เล่นลม(ทำอานาปานุสติ) กำหนดดวงกสิณไปด้วยในตัว พร้อมกราบอาราธนาพระพุทธเจ้าประทับเหนือเศียรเกล้า คุมกาย วาจา ใจ จากนั้นก็ตามสะดวกครับ ตามบารมี ตามครูบาอาจารย์จะนำไปครับ เท่าไหร่เท่านั้น...

    วันต่อมา ผมจะเข้าทางลัด คือ จดจำอารมณ์เมื่อวานให้ได้ว่าถึงไหนก็ทำต่อ ที่เมื่อวานหลุดเพราะเกิดความหยาบในขั้นของฌาน การจะต่อจึงต้องถอยลงมาในความละเอียดของขั้นที่ต่ำกว่า ความจริงมันขาดกำลังเลยไปต่อไม่ได้ หากจดจำอารมณ์ไม่ได้ก็เริ่มใหม่...
     
  13. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    เรื่องของดวงกสิณ ก็เป็นเรื่องที่แปลก ครั้งหนึ่งเคยได้ตั้งใจร่วมจัดสร้างสมเด็จองค์ปฐม แต่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธกัสสปพุทธเจ้าไว้ภายในสมเด็จองค์ปฐมบรมศาสดา และสร้างในศาสนาของสมเด็จพระพุทธสมณโคดมพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผมทำหน้าที่แจกพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธกัสสปพุทธเจ้า โดยตั้งใจว่า จะไม่เห็นแก่ความโลภ จะมอบพระบรมสารีริกธาตุองค์ที่สวยที่สุด ใหญ่ที่สุดให้ผู้คนที่ศรัทธาร่วมสร้างตลอด ๓ เดือน ของการจัดสร้าง ผมกลับได้รับสิ่งที่มีคุณค่าจากสีของพระบรมสารีริกธาตุพระพุทธกัสสปพุทธเจ้าซึ่งมีมากกว่า ๗๐ เฉดสี ประโยชน์สูงสุดคือ ทุกขณะที่ทำสมาธิ หมายถึง เดิน ยืน นั่ง นอน ดวงกสิณกลับเป็นสีของพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธกัสสปพุทธเจ้า สีต่างๆกลับเป็นองค์แทนของเตโชกสิณ วาโยกสิณ อาโปกสิณ ปถวีกสิณ สุดแล้วแต่กสิณดวงใดจะปรากฎในจิต ด้วยผลการทำงานที่ละเรื่องโกรธ โลภ หลงลงชั่วขณะในช่วงเวลานั้น บวกกับ เทคนิคการน้อมใจอาราธนาพระพุทธเจ้าที่พี่ท่านหนึ่งได้แนะนำทางอ้อม กลับกลายเป็นว่า เป็นสิ่งพิเศษสุดที่ได้รับติดตัวมาจริงๆ พี่ใหญ่ได้แนะนำไว้เรื่องหนึ่งที่น่าสนใจมาก เพราะเห็นผู้คนต่างพากันเคารพศรัทธาสมเด็จองค์ปฐมกันมาก หากเห็นว่า เป็นประโยชน์จากข้อคิดนี้ ก็ขอเพียงส่งความรู้สึกขอบคุณไปยังพี่ใหญ่ของเราในนามคณะศิษย์หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรบ้าง ไม่ต้องเห็นหน้า ไม่ต้องอยากพบ เพียงเห็นเป็นดวงจิตขนาดใหญ่ก็เพียงพอครับ ท่านกล่าวว่า "รักปู่(หมายถึงสมเด็จองค์ปฐม) แต่ไม่ค่อยศรัทธาพ่อ(หมายถึงสมเด็จพระพุทธสมณโคดม) ก็ไม่สมควร เพราะเราทั้งหลายล้วนแล้วแต่กำลังอยู่ในระหว่างศาสนาของพระองค์ท่าน" เทคนิคการน้อมใจของผมก็เลยต้อง เกรงปู่ เคารพลุง รักพ่อ ตามด้วยหลากความรู้สึกต่อครูบาอาจารย์ตามลำดับทุกๆองค์ ผนวกกับอารมณ์พระกรรมฐาน การเข้าถึงสภาวแห่งธรรมตามบุญตามบารมีของแต่ละท่านก็สามารถทำได้กันทุกคนครับ..

    ชมกระแสบารมีขององค์พระบรมสารีริกธาตุพระพุทธกัสสปพุทธเจ้ากันนะครับ ตอนนี้ต้องเพิ่มพระทันตธาตุของพระองค์ท่านเข้าไปด้วย....

    กระทู้พระบรมสารีริกธาตุพระพุทธกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้าที่เคยตั้งเอาไว้นานมาแล้วเมื่อ เกือบ ๔ ปีก่อนครับ...
    มอบพระบรมสารีริกธาตุในการร่วมสร้างสมเด็จองค์ปฐมเนื้อเรซิ่นบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ([​IMG] 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16)
    :::เพชร:::
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มกราคม 2012
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sittiporn.s [​IMG]
    ขออนุญาติไปสวดมนต์ ไหว้พระ นั่งสมาธิ และจะอธิษฐานแผ่ไปยังทุกท่าน ที่กำลังดูกระทู้นี้ และทุกๆท่านที่เข้ามาอ่านในกระทู้นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จขกท ครับ
    โมทนาสาธุครับ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    โมทนาสาธุครับ

    .
     
  15. rung847

    rung847 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    818
    ค่าพลัง:
    +3,418
    วันนี้ ผมได้รับพระปิดตา พิมพ์หลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ เรียบร้อยแล้วครับ ขอบคุณมากๆ ครับ ขออนุโมทนาบุญทุกประการครับ คุณสิทธิพงศ์<!-- google_ad_section_end -->
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  17. ake7440

    ake7440 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,528
    ค่าพลัง:
    +405
    อ่ะ จุ๊ จุ๊ จุ๊ :D
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    อ้างอิง:
    <table width="100%" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ake7440 [​IMG]
    อ่ะ จุ๊ จุ๊ จุ๊ :D
    </td> </tr> </tbody></table>

    เหอๆๆๆ มีพี่ท่านนึง บอกกับผมว่า ดีจริงๆ ต้องยอมรับ

    พี่จะแจกอีกรอบในวันอาทิตย์ที่ 15 มกราคม 2555

    หลังจากนั้น ต้องมีกติกากันเยอะครับ


    .
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .


    ต่อไปนี้ผมคงจะเลิกลอยโคมไปตลอดแล้วล่ะ...



    [​IMG]

    ประเพณียี่เป็ง

    [​IMG]

    ประเพณียี่เป็ง เชียงใหม่


    เกริ่นนำโดยกระปุกดอทคอม
    ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ เหมียวน้อย มู๊ด..มู๊ด

    ใน ช่วงนี้ ไม่ว่าเทศกาลไหน ๆ ดูจะฮิตกับการปล่อยโคมลอยเสียเหลือเกิน เพราะไม่เพียงแต่เปลวไฟเล็ก ๆ ของโคมลอยที่ถูกปล่อยขึ้นสู่ท้องฟ้าในค่ำคืนอันมืดมิด จะดูสวยงามประหนึ่งดาวเต็มท้องฟ้า และสร้างบรรยากาศโรแมนติกสุด ๆ แล้ว แต่การปล่อยโคมลอยยังถือเป็นการเสริมสร้างสิริมงคลให้แก่ตนเองอีกด้วย เนื่องจากเชื่อว่าเป็นการบูชาพระเกตุแก้วจุฬามณีบนสรวงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ และเป็นการลอยเคราะห์ ให้ประสบแต่สิ่งดีงาม ที่สำคัญยังเป็นการอนุรักษ์ประเพณีอันดีงามที่สืบทอดมาแต่ครั้งปู่ย่าตายาย อีกด้วย

    โดยในสมัยก่อน โคมลอยนิยมลอยกันในเทศกาลลอยกระทง ซึ่งทางภาคเหนือเรียกว่าประเพณี "ยี่เป็ง" หมายถึงวันเพ็ญเดือน 2 ตามจันทรคติ โดยคำว่า "ยี่" แปลว่า สอง และคำว่า "เป็ง" ตรงกับคำว่า "เพ็ง" หรือ "เพ็ญ" หมายถึงพระจันทร์เต็มดวง คือวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 2 ซึ่งก็ตรงกับเทศกาลวันลอยกระทง เดือนสิบสองของภาคกลาง นั่นเอง

    ดังนั้น นอกจากการลอยโคมจะสวยงาม และสื่อถึงความหมายที่ดีแล้ว จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่สถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ มากมายจึงได้นำโคมลอยเป็นจุดขายในการดึงนักท่องเที่ยว ทำให้ในขณะนี้ การปล่อยโคมลอยมีอยู่ในทุกจังหวัด และทุกเทศกาล จนกลายเป็นสิ่งที่สร้างความเดือดร้อนให้กับกับประชาชนจำนวนมาก เพราะแทบทุกครั้งก็มีจะมีข่าวไฟไหม้จากการลอยโคมทั้งสิ้น

    เช่นเดียวกับเรื่องราวของ คุณ เหมียวน้อย มู๊ด..มู๊ด ที่ ได้ถ่ายทอดประสบการณ์ไฟไหม้จากการปล่อยโคมลอยผ่านเว็บไซต์พันทิปดอทคอม เพื่อเป็นอุทาหรณ์สำหรับทุกคน ถึงความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นจากการปล่อยโคมลอย โดยมีข้อความว่า...

    "ต่อไปนี้ผมคงจะเลิกลอยโคมไปตลอดแล้วละครับ หลังจากเห็นไฟไหม้มากับตา มีรูปให้ดู"

    ช่วงวันสิ้นปีวันที่ 31 ธันวา 2554 ผมได้มีโอกาสไปเที่ยวที่เขาค้อ ก็ไปกางเต้นท์นอนที่เขาค้อทะเลหมอกรีสอร์ท บรรยากาศดีมากเห็นวิวชัดเจน ช่วงก่อนคืนสิ้นปีก็มีการจุดพลุกันเรื่อย ๆ แล้วก็มีคนลอยโคมกันเยอะแยะ ผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้นที่ลอยโคมกับเขาด้วย

    พอถึงตอนกลางคืนสิ้นปีก็ตามที่ท่องเที่ยวทั่วไป มีการยิงพลุกันมากมายทุกรีสอร์ท โคมก็ลอย กันเต็มท้องฟ้า สวยงามมากเห็นแล้วประทับใจ ขณะ ที่กำลัง ชื่นชมพลุอยู่นั้นก็ได้ยินคนตะโกนว่าไฟไหม้ เราก็หันไปดู ก็เห็นว่ามีควันและไฟกำลังไหม้อยู่ห่างจากที่กางเต้นท์ ประมาณ 50 เมตร


    [​IMG]


    ทีนี้ก็โกลาหลแล้วละสิ เพราะจากตอนแรกเห็นเป็นกลุ่มไฟเล็ก ๆ มันเริ่มใหญ่ขึ้น ๆ คนที่กางเต้นท์อยู่ตรงนั้นก็ตกใจกันแล้ว เริ่มมีการคุยกันว่าจะอพยพหนีออกจากที่กางเต้นท์ จะขับรถหนีออกแล้ว แต่การจะเอารถออกก็ยากมากเพราะ คนมาจอดรถปิดทางกันเต็มไปหมด

    รถผมก็เป็นคันแรกที่ปิดทางออกอยู่ พี่ที่อยู่เต้นท์ข้าง ๆ ก็เริ่มประกาศให้ขยับรถออกหนีกันได้แล้วเพราะไฟมันเริ่มลามใหญ่มาก ตอนนั้นก็เริ่มวุ่นวายกันแล้ว เด็ก ๆ ที่อยู่แถวนั้นก็ร้องไห้กลัวกันใหญ่ เพิ่งได้รู้อารมณ์หนีตายก็คราวนี้แหละครับ

    ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นก็ช่วยกันขยับรถแล้วก็ค่อย ๆ ออกมาทีละคัน ตอนที่ผมขับออกมา ก็เห็นคนจากรีสอร์ทข้าง ๆ เริ่มหนีเหมือนกัน แล้วก็เห็นพนักงานเดินต่อสายยางไปเพื่อจะไปดับไฟ ข้างบนก็ยังสนุกสนานยิงพลุกันต่อไป ไม่ตกใจกันเลย ได้ยินเขาพูดกันว่าไม่ต้องกลัวไหม้กันทุกปี เขาทำคันดินกั้นไว้แล้ว ถางหญ้ารอไว้ไม่ลามมาถึงหรอก แต่ตอนนั้นผมไม่สนแล้วละว่าจะเอาอยู่รึป่าวมันใกล้มาก


    [​IMG]


    พอออกมาได้ก็ขับหนีต่อไปสักกิโล ก็ไปพักตรงสถานีตำรวจตรงเขาค้อ เจอพี่ที่กางเต้นท์อยู่แถวนั้นก็เล่าให้เขาฟังว่าไฟไหม้ แล้วก็คุยกับเขาสักพัก เวรกรรม หันไปดูขวามือ ก็เห็นไฟไหม้อีกจุดเหมือนกัน พี่ที่กางเต้นท์อยู่แถวนั้นก็ตกใจดิ ตื่นมาเฝ้าระวังกันใหญ่ ยังดีที่ผ่านไปสักพักมันก็ดับไปเอง

    ผมก็รอจนถึงตีสองถึงได้กลับไปที่ที่พักดูสถานการณ์อีกที พอไปถึงถามพี่ตำรวจ ก็รู้ว่าเขาดับได้แล้ว พี่เขาก็บอกว่า ทางรีสอร์ทเตรียมรถน้ำไว้แล้วแต่ตอนนั้นไม่รู้คนขับรถไปไหน พอเห็นว่าดับได้แล้วผมก็ขับรถลงไปที่จุดกางเต้นท์ จากที่เคยมีเต้นท์เยอะแยะ เหลือกางกันอยู่ แค่ห้าหกหลัง ทุกคนที่อยู่ที่นั้นก็ยังดูตื่นเต้นกันอยู่ จับกลุ่มคุยกันเรื่องไฟไหม้ บางคนก็นอนไม่หลับทั้งคืนเพราะไม่รู้ว่ามันจะมีไฟไหม้อีกเมื่อไร

    ตื่นเช้ามาก็ไปถามดูกับที่รีสอร์ทว่าเกิดอะไรขึ้น ก็ได้ยินมาว่าเมื่อคืนมันไหม้เพราะมีโคมลอยไปติดตรงหญ้า แล้วก็สะเก็ดพลุที่จุดกันแถวนั้น อันนี้เป็นรูปบริเวณที่ไฟไหม้เมื่อคืน


    [​IMG]


    พอเจออย่างนี้เข้าไปผมก็คิดแล้วสิว่าไอ้ที่เขาบอกว่าไฟไหม้เพราะโคมลอยเนี่ยเออ มันจริงแหะ ตอน เราลอยเราก็ไม่คิดอะไรเพราะว่ามันลอยขึ้นที่สูงคงไม่ตกมาไหม้ข้างล่างหรอก แต่มันก็จะมีบางอันที่โคมมันยังลอยไม่เต็มที่ก็ปล่อยกันไปแล้วมันก็จะไม่ลอย นะสิ มันก็จะตกลงมาเรื่อย ๆ แล้วก็มาติดกับต้นไม้แล้วก็เกิดไฟไหม้ขึ้น

    พอเจออย่างนี้ผมก็บอกกับแฟนผมเลยว่าต่อไปนี้ไม่ต้องลอยโคมกันอีกเลยนะ กลัวว่ามันจะเกิดเหตุการณ์อย่างนี้อีก อันนี้ยังดีที่เขาดับได้แล้วไฟก็ไม่ได้ลามมาจนติดที่พัก ถ้าดับไม่ได้จะทำยังไง คนที่อยู่ตรงบริเวณนั้นไม่มีทางออกมาได้เลย เพราะคืนสิ้นปี รถจอดกันเยอะมากแทบจะออกไม่ได้ ดีที่วันนั้นยังพอมีทางให้เราออกมาได้ ถ้าออกไม่ได้จะทำยังไง

    ผมก็รู้ว่าต่อให้ผมไม่ลอยยังไงก็ยังมีคนลอยต่ออยู่ดี และผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าการลอยโคมเนี่ยมันผิดมั้ย แต่จากเหตุการณ์ที่ผมเจอมาเนี่ย ผมคงจะเลิกลอยไปตลอดชีวิตแล้วละครับ เพราะเราไม่อาจจะรู้ได้เลยว่าโคมที่เราลอยเนี่ยมันจะไปทำให้ป่า หรือบ้านของใครไฟไหม้รึป่าว อันนี้ยังดีที่ไหม้ที่รีสอร์ทมีคนดับได้ แล้วถ้ามันไปไหม้ในป่าที่ไม่มีใครรู้ใครเห็น ใครจะไปดับมันละครับ ก็อยากฝากกระทู้นี้ให้ทุกคนได้เห็นถึงอันตรายแล้วก็ให้คิดให้ดีก่อนจะลอยโคม ด้วยละกันครับ

    ...เห็น เหตุการณ์แบบนี้แล้ว น่ากลัวไม่ใช่น้อยเลย ว่าไหมคะเพื่อน ๆ และคราวหน้าคราวหลังหากเพื่อน ๆ คิดจะลอยโคมกัน ก็ลองคิดดูอีกทีถึงความเหมาะสม ถูกเวลาและสถานที่หรือไม่ มิฉะนั้นอาจจะสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่นโดยที่เราไม่รู้ตัวก็เป็นได้ นะคะ...



    -http://hilight.kapook.com/view/66328-

    .
     

แชร์หน้านี้

Loading...