จะทราบได้อย่างไรว่าเป็นพระโพธิสัตว์

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย Tony Lin, 24 ธันวาคม 2011.

  1. Tony Lin

    Tony Lin สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +2
    เรียนถามครับ ว่าพระโพธิสัตว์ที่ท่านลงมาเกิดเป็นมนุษย์เพื่อโปรดสัตว์ ท่านจะทราบได้อย่างไรครับว่าท่านเป็น มีอะไรทำให้รู้ตัว แล้วผู้อื่นที่เห็นเด็กที่เป็นพระโพธิสัตว์จะรู้ไหมครับว่าเป็นพระโพธิสัตว์ ???

    การโปรดสัตว์นี้คืออะไรบ้างครับ จำเป็นต้องบวชหรือไม่???

    ถามเป็นความรู้ครับผม ขอบคุณครับ
     
  2. moshininja

    moshininja เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    211
    ค่าพลัง:
    +103
    คนธรรมดาก็ได้แต่เดาเอา พระโพธิสัตว์ท่านไม่ได้ต้องการเกิดมาให้ใครกราบไหว้ ท่านเกิดมาก็เพื่อช่วยสัตว์แล้วก็เก็บบารมีไปเรื่อยๆ รู้ตัวหรือไม่จริตที่ฝังในใจมันก็ชักนำไปเองอยู่อย่างนั้น การโปรดสัตว์ก็ตามแต่วาระโอกาสและจิตอธิฐานมา จำเป็นต้องบวชไหม ก็ไม่เสมอไป ฉะนั้นไม่ต้องไปหาให้เสียเวลาหรอกปล่อยท่านทำงานของท่านไปโดยสะดวกเถิด
     
  3. ballbeamboy2

    ballbeamboy2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,622
    ค่าพลัง:
    +1,618
    ดีไม่ดีคนเดินผ่านอาจจะเป็นพระโพธิสัตว์ก็ได้
     
  4. aditap01

    aditap01 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +0
    สวัสดีครับ Tony lin
    ทั้งหมดล้วนเป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ
    - ถ้าคุณเป็นนักวิ่งอยู่ในลู่วิ่ง ถ้าคุณเข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 1 คุณจะรู้ได้ด้วยตัวเองหรือต้องรอให้คนทั่วสนามบอกว่าคุณเข้าเส้นชั้ยเป็นอันดับที่ 1 ล่ะครับ
    - แต่สิ่งสำัคัญต่อไปผมคิดว่า อาจจะไม่ใช่ที่ 1 ที่ได้มา[หรือใครๆยกย่องให้เป็นพระโพธิสัตว์]แต่ น่าจะคือการหมั่นฝึกฝนต่อๆไป เพราะเมื่อไหร่ถ้าคุณคิดว่าคุณเป็นที่ 1 [ยึดติด]แล้วคุณก็จะหยุดพัฒนา
     
  5. jate2029

    jate2029 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2008
    โพสต์:
    391
    ค่าพลัง:
    +729
    แต่ โพธิสัตย์ ที่ผมเจอมาบ่อย ๆ คนพวกนี้ มักจะหาว่า เหล่า สาวกภูมิ นั้นเห็นแก่ตัว โดยการที่พาแต่ตัวเอง หรือคนใกล้เคียง เข้านิพพานอย่างเดียว โดยไม่ช่วย คนอื่น ๆ อีกเป็นล้าน ไปด้วย
    ผมก็เลยบอกว่า แล้วธรรมที่ผมแสดงไป ล้วนแล้วแต่เกิดจากการปฎิบัติทั้งสิ้น ผมบอกไป พวกเค้าเข้าใจมั้ย ที่พระอรหันต์ ท่านเทศ สอนไว้ คนพวกนั้นเข้าใจมั้ย ที่พระพุทธเจ้าท่าน แสดง เอาไว้คนเหล่านั้นเข้าใจมั้ย แล้วมันจะเอาอะไร ในเมื่อ พระพุทธเจ้าท่านยัง หอบเอาสัตย์โลก ไปได้ยังไม่หมด แล้วจะมาเอาอะไร กับผมมมมมม
    พระพุทธเจ้า พระองค์ทรงตรัสกับผมว่า ธนันดร ธรรมใดที่เธอแสดงไว้แล้ว แก่คนเหล่านั้น ผู้ที่มีปัญญาบังเกิดแล้ว จึงจะพิจารณาเห็นตามนั้นได้ ธนันดร ธรรมใดที่เธอแสดงไว้แล้ว แก่คนเหล่านั้น ผู้ที่ปัญญายังไม่พึงบังเกิด จึงไ่ม่พิจารณาเห็นตามนั้นได้
    เท่านี้แหละครับ ไม่งั้น ยาว เพราะเคยเถียงกับโพธิสัตย์ ทั้งคืนมาแล้ว ด้วยธรรมมะที่ผมรู้ จนพระฤาษี โคตบุตร ท่านนั่งข้าง ๆ ท่านพิจารณาเห็น จนได้บรรลุ เข้านิพพานได้เลย แต่ท่านบอกว่าจะเข้าในยุคพระศรีอารยเมตไตร (ทั้งนี้ที่ว่ามีพระฤาษีมาเกียวเพราะผมสนทนากับคนรู้จักที่เป็นโพธิสัตย์กัน ในงานไหว้ครูพ่อแก่ ที่พวกผมนับถือนะครับ เด๋วจะงง ว่าฤาษีมาไง)
     
  6. ตามมาฮา 555

    ตามมาฮา 555 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    232
    ค่าพลัง:
    +6
    สัมผัสเอาจากความรู้สึกข้างใน จากทั้งคำพูด กิริยาท่าทาง สีหน้าแววตา และการแสดงออก และที่สำคัญสุด "ความจริงใจในการช่วยเหลือคนและในการแสดงออกที่เป็นธรรมชาติ ไม่เสแสร้ง กับคำพูดที่ฟังดูง่ายๆ ไม่สลับซับซ้อน ไม่ฟังดูดี ไม่ฟังดูหรูหรา เรียบๆง่ายๆ" สัมผัสเอากับบุคคลที่เราสงสัย และต้องใช้สติเป็นอย่างมาก ในการใช้สัมผัสจากข้างใน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ธันวาคม 2011
  7. ตามมาฮา 555

    ตามมาฮา 555 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    232
    ค่าพลัง:
    +6
    ระวังจะโดนมารหลอกเอานะ เพราะมาร ขึ้นชื่อในเรื่อง "ความเนียนและมารยา"
     
  8. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    พระโพธิสัตว์เป็นคำที่ใช้เรียกคนที่ปรารถนาที่จะช่วยขนสัตว์โลกโดยการ
    ปรารถนาที่จะเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง มันสำคัญที่จิตปรารถนาที่จะ
    ช่วยนำสรรพสัตว์ให้พ้นทุกข์ เขาเป็นกันตรงนี้ ไม่ใช่ตำแหน่งที่เหนือกว่า
    คนอื่น ถึงเราจะเคยบำเพ็ญบารมีมาแต่ถ้าใจของเราไม่เคยมี
    จิตปรารถนา
    ที่จะช่วยนำสรรพสัตว์ให้พ้นทุกข์ จะสนใจไปทำไมว่าเราเป็นพระโพธิสัตว์
    หรือไม่ เราเคยบำเพ็ญมาหรือไม่ กลับกันถ้าเรามีจิตปรารถนาแบบนั้นจริงๆ
    มันก็เป็นคำตอบอยู่ในตัวของมันเองอยู่แล้ว แม้ว่าเราจะไม่เคยบำเพ็ญ
    บารมีมาเลย อย่างพระโพธิสัตว์มหายานนะท่านไม่สนใจว่าบำเพ็ญบารมี
    นานแค่ไหน ถ้าปณิธานที่ตั้งไว้ไม่สำเร็จก็จะไม่ขอตรัสเป็นพระพุทธเจ้า
    ที่ควรสนใจคือจิตใจของเรามันคืออะไร
     
  9. ตามมาฮา 555

    ตามมาฮา 555 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    232
    ค่าพลัง:
    +6
    เฮ้อออ มันก็ใช่อ่ะนะ แต่ความเป็นจริงที่ยิ่งกว่า ไม่ใช่ความคิดที่จะช่วยคนอย่างเดียวหรอก เขาไม่คิดกันแค่ด้านดีด้านเดียวหรอก ถึงจะเป็นพระพุทธเจ้าได้น่ะ แต่อย่าให้พูดมากไปกว่านี้เลย เพราะมันไม่ดี และไม่จำเป็นต้องรู้ (ก็รู้เอาทีหลังเหมือนกันแหละ ว่าพุทธเจ้าก็ต้องคิดแบบนี้ และทำแบบนี้เหมือนกัน) แต่อย่าให้พูดเลย เดี๋ยวจะไปบั่นทอนกำลังใจกันเปล่าๆ คุณรู้แค่ไหนก็รู้แค่นั้นแหละ ดีแล้ว

    ไม่เคยได้ยินเหรอ พระพุทธเจ้าน่ะ "ต้องเคยทำมาหมดแล้ว ไม่ว่าดีหรือเลว" ถึงได้รู้ทันสรรพสัตว์ไง ถึงได้รู้หมดไง ว่าการกระทำแต่ละอย่างมันเป็นยังไง ถึงได้สอนสรรพสัตว์ทุักเหล่าได้ไง ว่าทำอะไร แล้วได้ผลยังไง พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ถึงได้สอนแต่เรื่องทุกข์ และแนะนำให้ไปนิพพาน ประมาณว่า "เจ้าอย่ามาเกิดอีกเลยไง" แล้วไอ้ที่ว่าตำแหน่งอะไรนั่นน่ะ ก็ไม่ได้สำคัญตัวเองหรอก ยังไม่รู้ตัวเลย ว่าเรามีตำแหน่งนั้น ตำแหน่งนี้ด้วยซ้ำ เค้าบอกมา แล้วเราก็ "อ้าว.........เหรอ เราเป็นอันนี้เหรอ เราเป็นแบบนี้เหรอ พึ่งมารู้เอาทีหลังนิ" แล้วคุณเข้าใจอะไรผิดรึเปล่า ผมมาตอบกระทู้ ก็แค่ตอบไปตามที่ จขกท. เค้าอยากรู้เท่านั้น ตอบคำถามให้ตรงกระทู้สิ ไม่ใช่ว่าจะมาตีกันอีก เบื่อออ
     
  10. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    ผมมาตีกับคุณเมื่อไหร่ ผมไม่ได้ตอบคุณ ผมตอบเจ้าของกระทู้ ข้อ
    ความของคุณผมไม่ได้อ่านด้วยซ้ำ คุณนั่นแหละที่เข้าใจอะไรผิด
     
  11. ตามมาฮา 555

    ตามมาฮา 555 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    232
    ค่าพลัง:
    +6
    อ่ะเข้าจายผิดดด งั้นโทษทีน้าาาา
     
  12. Tony Lin

    Tony Lin สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +2
    ขอบคุณทุกท่านครับผม อาจเข้าใจผิดเล็กๆน้อย ไม่เป็นไรนะครับๆ ขอบคุณครับ

    คือที่ถามเพราะสงสัยนะครับ ไม่ได้คิดเรื่องตำแหน่งอะไรเช่นกันครับผม (แต่ก็ขอบคุณที่แนะนำ) เพียงอยากทราบแนวปฏิบัติน่ะครับ ว่าท่านที่รู้ตัวแล้วท่านรู้ได้อย่างไร และต่อจากนั้นสิ่งที่ท่านต้องทำหลังจากรู้ตัวคืออะไรน่ะครับ

    มีกรณีของคนคนหนึ่งครับ คือตอนเด็กๆ (ประมาณประถมช่วงปลาย) เขามีความคิดขึ้นมาว่า "มนุษย์ทุกคนเป็นทุกข์ เพราะคิดอะไรผิดๆ เราอยากจะช่วยให้เขาเหล่่านี้คิดไปในทางที่ดีจะได้ไม่ทุกข์" ทีนี้พอเขาเริ่มโตขึ้นเป็นวัยรุ่น ก็ใช้ชีวิตทางโลกอย่างเด็กปกติ (เกือบจะปกติ) แต่เขามีความแตกต่างคือเขาคิดอะไรๆที่ละเอียดกว่าเด็กวัยเดียวกัน โดยเฉพาะในเรื่องอารมณ์ความรู้สึก เขาแยกแยะอารมณ์และความคิดต่างๆได้ เขาใช้ชีวิตทางโลก คลุกคลีกับความสุข สนุก และความทุกข์ มากมาย จนวันหนึ่งเขาบอกว่าเขาเบื่อ และเขานึกถึงความคิดเมื่อครั้งยังเด็ก เขาบอกว่า "เขาควรเกิดมาเพื่อจะไม่ทุกข์ และช่วยคนอื่นให้ไม่ทุกข์ด้วย" จากนั้นเริ่มสวดมนต์ ทำกรรมฐาน แต่ในขณะเดียวกันเขาเองก็มีความรักบ้าง โกรธบ้าง แต่เบากว่าคนทั่วไป

    ปัจจุบันเด็กคนนี้ก็อายุราว 20 ต้นๆ คือผมอยากทราบว่าลักษณะอาการของคนแบบนี้คืออะไรน่ะครับ ???
     
  13. ohm_chiangmai

    ohm_chiangmai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    193
    ค่าพลัง:
    +2,920
    ขอแชร์ความเห็นด้วยความเคารพทุกท่านนะครับ...
    จากที่คุณ Tony_lin ถามมาล่าสุด ...ในความเข้าใจของผมแล้ว เด็กคนนั้น จะต้องมีของเก่าที่ทำมาพอสมควร...ด้วยอานิสงส์ผลบุญที่สั่งสมไว้ รวมถึงการอธิษฐานไว้ในอดีต ทำให้ระลึกถึงสิ่งที่เคยกระทำและสะสมไว้ในอดีตและมากระตุ้นให้สร้างบารมีต่อ...ส่วนจะเป็นโพธิสัตว์หรือไม่ เข้าใจว่าเป็นปัจจัตตัง คือรู้ได้เฉพาะตน...หรือผู้ที่อยู่ในระดับที่สูงพอที่จะแยกแยะได้น่ะครับ....จะเป็นพุทธภูมิ ปัจเจกภูมิ สาวกภูมิ ก็ช่วยเหลือสรรพสัตว์ได้หมดละครับ...เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ ผิดถูกประการใดขออภัยมา ณ.ที่นี้ครับ
    อีกอย่างนะครับ...อ้างถึงคำสอนของหลวงตาม้าเคยบอกว่า (คงจะไม่ได้ตรงทุกคำพูดนะครับ พอดีไปนั่งฟังอยู่ด้วยขณะที่มีคนถามเข้ามาครับ)"...พระโพธิสัตว์จะไม่คุย จะไม่พูดถึง หรือกังวลเรื่องของเวลา...การสร้างบารมีของพระโพธิสัตว์จะทำไปเรื่อยๆจนกว่าจะเต็มโดยไม่กังวลว่าจะช้าหรือเร็ว...แต่จะทำอย่างเต็มที่ เต็มใจ และทำให้ได้มากที่สุด"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ธันวาคม 2011
  14. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    อยากรู้ขนาดนี้คงต้องถามคนมีญาณเว็บนี้หลายท่านให้คำตอบคุณได้ ลองหาดูแล้ว
    กันครับ มันก็น่าปวดหัวจริงๆ ว่าเรามาทางไหน เคยทำมาอย่างไร
     
  15. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,189
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +70,436
    ถ้าหมายความถึงพระโพธิสัตว์ที่กำลังสร้างบารมีเป็นพระพุทธเจ้า ที่มีบารมีสูงๆ แล้วมาเกิดเป็นคนท่ามกลางสังคมปัจจุบัน ก็คงยากที่จะชี้ขาดด้วยจิตใจตนเอง

    นอกจากฟัง คิด อนุมาน ตามบัณฑิตที่ฝึกฝนตนดี จำนวนมากมาย ท่านแสดงความคิดเห็น
    ชี้แนะ ว่าเป็นท่านใด

    หรือว่าท่านใด ท่านบอกว่าท่านเป็น ระดับไหน แล้วสังคมบัณฑิตช่วยรับรอง แสดงความเห็น



    .............................
    แต่ถ้าเราเชื่อในหน่อเชื้อแห่งความดีที่มีในตัวคน สัตว์ ทุกชีวิต

    เราย่อมทราบดีว่า เค้าย่อมมีโอกาสเป็นพระโพธิสัตว์หรือพระพุทธเจ้าได้เหมือนกัน

    แม้ปัจจุบันนี้
    บางชีวิตอาจกำลังเสวยวิบากชั่ว หรือ กำลังหลงในการทำอกุศลกรรมก็ตาม






    .เมื่อเราไม่มีมานะสังโยชน์มากในจิตใจเราเอง

    เราก็จะเห็นว่า พระโพธิสัตว์ ก็คือสรรพชีวิต นั่นเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 26 ธันวาคม 2011
  16. Tony Lin

    Tony Lin สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +2
    ขอบคุณครับ

    อ้ออ.. นอกจากนี้ บางเวลาเขายังมีความรู้สึกว่า เขาเบื่อกับชีวิตที่เป็น เขาบอกว่าเกิดมาแล้วน่าเบื่อ บางทีรู้สึกว่าไม่น่าจะเกิดอีกแล้ว.. ทำนองนี้ครับ
     
  17. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,189
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +70,436
    .............มีคำพูดของผู้มีมหาเมตตา มหากรุณา ท่านหนึ่ง


    ท่านเคยกล่าวไว้ว่า " เวลาต้องเสวยทุกข์ทางกาย ก็เสวยบ้างจะเป็นไรไป จะได้ร่วมรับรู้ถึงทุกข์เฉกเช่นเดียวกันกับเพื่อนในวัฏฏะสงสาร".....






    ฟังแล้ว รู้สึกเช่นไร..........








    และ เข้าใจไหม? ว่า.........

    ทำไมมหาโพธิสัตว์หลายท่านจึงต้องเกิดมาในโลกอีก ทั้งที่บารมีเต็ม ล้น เพราะท่านอธิษฐานไว้ว่า



    ....." ขอรับรู้ถึงความทุกข์ของสรรพชีวิต และ ให้ความทุกข์นั้นคือแรงดลบันดาลใจอันบริสุทธิ์ ที่จุดมหากรุณาในจิตอย่างท้วมท้น เป็นพลังผลักดันที่ไม่มีวันหมด เพราะ ตราบใดที่วัฏฏะสงสารมีความทุกข์

    ตราบนั้น มหากรุณาจิตแห่งหน่อเนื้อโพธิญาณ ก็จะมากขึ้นตาม
    ความทุกข์แห่งสรรพชีวิตนั่นเอง......"



    [​IMG]


    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • x-gawnim13.jpg
      x-gawnim13.jpg
      ขนาดไฟล์:
      83.2 KB
      เปิดดู:
      1,328
    • prakasiti.jpg
      prakasiti.jpg
      ขนาดไฟล์:
      70.6 KB
      เปิดดู:
      1,377
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 26 ธันวาคม 2011
  18. Tony Lin

    Tony Lin สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +2
    ขอบคุณครับ ได้ความรู้ขึ้นเยอะเลยครับผม :d
     
  19. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    ที่มาจากหนังสือ รู้แจ้งโลก


    พระโพธิสัตว์แปลว่าที่พึ่งของสัตว์ ตามหลักศาสนาพุทธ ยุคนี้มีท่านผุ้รู้ตนเองว่าเป็นพระโพธิสัตว์นั้นมีจำนวน
    มาก ทั้งที่รุ้ได้ด้วยญาณที่เกิดจากจิตของตนเอง รู้ว่าตนเองเป็นพระโพธิสัตว์ เคยปรารถนาความเป็นพระสัมมา

    สัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคต เคยอธิษฐานตั้งจิตปรารถนาไว้ในอดีตชาติอันยาวนาน

    วิธีสังเกตว่าท่านผู้ใดเป็นพระโพธิสัตว์นั้นไม่ยาก ส่วนมากจะเป็นผู้ที่เปี่ยมล้นไปด้วยเมตตา มีจิตใจ
    ปรารถนาช่วยเหลือผุ้อื่นตลอดเวลา เห็นใครมีความทุกข์ก็ปรารถนาจะฉุดช่วยให้เขาเป็นสุข ถ้าช่วยเหลือผู้อื่น
    ได้ก็จะสุขใจยิ่ง ถ้าช่วยเหลือผู้อื่นที่กำลังมีความทุกขอยู่ไม่ได้ กำลังใจแห่งจิตก็หาความสุขไม่ได้ บางครั้งจิต
    ใจก็เป็นทุกข์ไปกับผู้อื่นด้วย จนกว่าจะหาทางช่วยให้ผู้อื่นพ้นจากความทุกข์ได้นั่นแหละถึงจะพอใจ นี่คือจิตของ

    ท่านที่มีชื่อว่าพระโพธิสัตว์ ถ้าบุคคลใดรู้จักจิตของตนด้วยตนเอง อย่างนี้ถือว่าบุคคลนั้นมีคุณความดีพิเศษใน
    ทางจิตที่ละเอียดยิ่งขึ้น

    พระโพธิสัตว์บางท่านไม่ได้รู้และเข้าใจว่าตนเองนั้นเป็นพระโพธิสัตว์ รู้แต่ว่าตนเองเป็นผู้ที่ชอบช่วยเหลือผู้อื่น
    บางครั้งก็ไม่เข้าใจตนเองเหมือนกันว่า ทำมมีจิตเมตตามีความรักต่อคนอื่นที่มีความทุกข์ เห็นคนหรือสัตว์ที่
    ความทุกข์แล้วมีความเอ็นดูสงสารเป็นพิเศษ ทั้งๆ ที่ไม่ได้รู้จักหรือเกี่ยวข้องกันมาก่อน เห็นผู้อื่นมีความทุกข์
    ตัวเองก็ทุกข์ไปด้วยอย่างนี้เป็นต้น กว่าจะได้รู้และเข้าใจว่าตนเองเป็นพระโพธิสัตว์ก็ต่อเมื่อ มีผู้อื่นที่มีความรู้
    สูงกว่าตนมารับรอง มาแนะนำหรือบอกกล่าวว่า เธอเป็นพระโพธิสัตว์ พระโพธิสัตว์ประเภทนี้ยังถือว่าไม่ดีเท่าไหร่
    เพราะกำลังใจอ่อนอยู่ อาจจะหลงตนเองได้ง่ายๆ และก็ถูกหลอกใช้ จากผุ้ที่กำลังแสวงหาผลประโยชน์
    จากความดีของผู้ที่มีจิตเป็นพระโพธิสัตว์ เช่นจิตของพระโพธิสัตว์นั้นชอบสั่งสมบุญ ความดี สั่งสมบารมีกำลังใจ
    จึงมักถูกหลอกใช้จากเจ้าสำนักต่างๆ ให้หาเงินมาสร้างวัดสร้างสำนัก สร้างวิหาร สร้างเจดีย์ สร้างพระพุทะรูป
    โดยอ้างว่าได้บุญความดีบารมีเยอะ บ้างก็หลงเชื่อตามเขา หาเงินปัจจัยมาร่วมสนับสนุนสร้างแต่วัตตถุ
    แต่ละวัดแต่ละสำนักพากันสร้างสถานที่ใหญ่โตมโหฬารมากมาย เต็มบ้านเต็มเมืองไปหมด

    ทั้งที่รู้ว่าอีก
    ไม่นานโลกนี้ก็พังสลาย แต่กลับร๊บเร่งแข่งขันประชันกันสร้างความดี ด้วยการก่อสร้างเพียงอย่าง
    เดียว จนขาดการสร้างความดีภายในจิตด้านสติปัญญา ทั้งๆ ที่การสร้างความดีภายในนั้น ชื่อว่าเป็น
    เลิศกว่าการสร้างความดีภายนอกด้านวัตถุ

    ถ้ายุคแห่งความเสื่อมโทรมบ้ามเมืองล่มสลายเช่นสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช แผ่นดินถูกทำลายจากการสู้รบ
    พระภิกษุผู้ปฏิบัติดีมากแต่ขาดที่อยุ่อาศัย อย่างนี้ถือว่าควรส่งเสริม ไม่ใช่เหมือนยุคปัจจุบันนี้ วัดและสถานที่
    ปฏิบัติมีมากมายจนกลายเป็นวัดร้าง ก็ยังพากันเร่งสร้างอารามจนใหญ่โต ยิ่งสร้างความเจริญทางวัตถุ
    จิตใจก็ยิ่งเสื่อมลงซึ่งปัญญา เป็นเหตุปัจจัยให้ทรัพย์สิงเงินทอง จมอยุ่กับทรากอิฐหิน ปูน ทราย
    บ้านเมืองเดือดร้อนวุ่นวาย ผู้คนแตกความสามัคคีและยากจนลงทุกขณะ เพราะอะไรกันเล่าลองคิดดูเถอะมนุษย์เอ๋ย..

    มนุษย์ที่มีจิตเป็นพระโพธิสัตน์นั้น ไม่จำเป็นว่าจะต้องเกิดอยุ่ในประเทศไทย หรือประเทศที่มีพระพุทธศาสนา
    เท่านั้น อาจจะเป็นใครก็ได้ นับถือหรือไม่นับถือศาสนาใดศาสนาหนึ่งก็ได้
    อาจจะเป็นคนรวยคนจนหรือเป็นสัตว์เดรัจฉานที่อาศัยอยุ่ทั่วโลกก็ได้เช่นกัน
     
  20. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    จากหนังสือธรรมผ่าโลกครับ

    ผู้ที่อยากรู้ว่า การจุติเกิดของพระโพธิสัตว์เป็นอย่างไรลำบากยากเย็นแค่ไหน
    เขาเหล่านั้นแหละคือพระโพธิสัตว์ ที่จะต้องลงมาฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ เพราะ
    จะต้องเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงระหว่างบุญบารมีกับวิบากกรรม ต้องผ่านด่านทด
    สอบบุญบารมีอย่างเหลือล้น ว่าจะผ่านพ้นนางมารจินตวิถา 3 นางไปได้หรือ
    ไม่ ไหนจะต้องต่อสู้กับเสนามาร ขุนมาร อำมาตย์มาร ไปจนถึงพญามารธิราช
    แม้แต่มนต์มายาของฝ่ายมารก็ไม่ละเว้น จนแล้วจนเล่าถ้ามิใช่โพธิสัตว์จริงๆก็
    จะไม่มีพละกำลังใจที่กล้าแข็งประดุจเหล้กเพชรที่จะเอาชนะกิเลศมาร ตัณหา
    และความทะยานอยากภายในจิตใจของตนเองจนกว่าจิตนั้นๆ จะกลายเป็น
    "เกล็ดแก้ว" ที่ใสสะอาดหมดจดไร้ร่องรอยราคีที่มัวหมอง แล้วยังต้องสอดส่า
    ตามองมวลสัตว์ บางครั้งก็ต้องสะดุดเข้ากับผู้มีอำนาจมีวาสนา บางครั้งก็ต้องมา
    เจอกับพวกอวิชชาท่านจะลาหรือจะละทิ้งไปก็ไม่ได้ เพราะจิตใจของท่านั้นมีแต่
    เมตตาธรรมเหลือล้ำที่จะยกมาพรรณา เราจะรู้ด้วยตัวเอง ถ้าเรานั้นเป็นโพธิสัตว์
    จริงๆเพราะต้องใช้ปัญญาวิจารณญาณเข้าไปแยกแยะ ในสิ่งผิดสิ่งถูกในบางครั้ง
    ก็ต้องแข็งกระด้างบางครั้งก็ต้องละเอียดอ่อนดุจสำลี เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
    ในความทุกข์เวทนาของมวลมนุษย์ชาติ เราก็ต้องเข้าไปอยู่กับเขา เพื่อที่จะซึม
    ซาบรับเอาปัญหาและทุกขเวทนานั้นมาป็นของตัวเอง โดยที่ยังมองไม่เห็นว่า
    ท่านจะได้รับความสุขสมใจในสิ่งใดๆ เพราะความสุขของท่านนั้นเพียงเพื่อช่วย
    เหลือผู้ที่ทุกข์ยากลำบากทนลำบากด้วยความเต็มใจไม่เคยร้องขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์
    ใดๆ ไม่เหมือนกับพวกพญามารและอวิชชาทั้งหลายที่มีแต่ขอ ขอแล้วขอเล่า
    ไม่เคยหยุดไม่เคยหย่อน เพียรทำทุกอย่างเพื่อให้คนรุ่นหลังๆ ได้รู้และเข้าใจใน
    แนวทางของการสร้างสมบุญบารมี เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีสืบไปในภายภาคหน้า
    มิใช่พื่อตัวเอง ไม่เหมือนกับพวกฤาษี ชีไพรในอดีตที่กำลังหลงตัวเองคิดว่าตน
    นั้นเป็นพระโพธิสัตว์ลงมาจุติในยุคนี้ เพื่อแสวงหาแนวทางของความหลุดพ้นที่
    เป็นสายกลางของสัจธรรม ที่พระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ได้ผ่านพ้นไปแล้วแต่ยัง
    หาทางออกไม่ได้ เพราะเคยหลงเล่นฤทธิ์เล่นอำนาจมาเสียจนเคยตัว แล้วท่าน
    จะเป็นพระโพธิสัตว์ได้อย่างไร ก็ในเมื่อพระโพะสัตว์ตัวจริง ไม่เคยหลงติดอยุ่ใน
    ฤทธิ์อำนาจใดๆ เลย
     

แชร์หน้านี้

Loading...