ทำไม?? กระเทย-เกย์ ถึงได้มีมากขึ้นในปัจจุบัน

อาจเป็นเพราะคนสมัยก่อนนิยมมีภรรยาหลายๆคน ผิดศีลข้อสามกันมาเลยมาเป็นแบบนี้ไง

 

1.กรรมในอดีตชาติ
2.อาหารที่ประกอบไปฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโต(เนื้อหมู นมสัตว์เนื้อไก่ฟาร์มซึงใช้สารเร่งและฮอร์โมนเป็นส่วนผสม)
3.ดารา และพิธีกรรายการทีวี ส่งผลให้ผู้ที่แอบจิตอยู่แล้วตามข้อที่1 แต๋วแตก ออกมาอย่างชัดเจน
สรุป ครับ องค์ประกอบหลัก ทั้ง 3 ข้อ มาประมวลผลร่วมกัน กลาย เป็นตุ๊ด กระเทย ดี้ ทอม และเกย์ ครับ

 

ผมเชื่อเรื่องพุทธนะครับ ผมเคยอ่านหนังสือผ่านๆตา เค้าบอกว่าพวกที่เป็นเพศที่3ก็เพราะว่าเค้าสาบานว่าจะรักกันทุกชาติไป พอเกิดมาอีกชาติหนึ่งเกิดมาเป็นชายทั้งคู่เลยทำให้ต้องรักกันเพราะเหตุนี้เองครับ ความเชื่อส่วนบุคคลนะครับไม่เชื่อก็ได้

 

มันเป็นความอ่อนแอในจิตใจครับ เลยเกิดการวิปริตผิดเพศขึ้น มันอยู่กับใจและอารมย์ล้วนๆ ไม่ได้เกิดจากสภาพร่างกายหรอก บางทีมันก็เป็นแฟชั่นเฉยๆ เมื่อก่อนผมก็อยากเป็นกระเทย ครับ จะได้แตะอั๋งหญิงได้สะดวก แต่ทำได้ไม่เนียนเขาจับได้

 

ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย มีฮอร์โมนทั้งสองเพศอยู่ในตัว แต่ส่วนใหญ่ผู้ชายก็มีฮอร์โมนเพศชายสูง เพศหญิงก็มีฮอร์โมนเพศหญิงสูงซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ที่คนเราเรียกว่าปกติ
ในคนส่วนน้อยที่ไม่เหมือนคนอื่นเขาก็เลยเรียกว่าผิดปกติ ซึ่งถ้าไปอ่านประวัติศาสตร์ก็มีมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว แต่บางสังคมเขาไม่ยอมรับก็เลยไม่กล้าเปิดเผย
อย่าเรื่องจิตใจก็เช่นกัน จะเห็นว่ามีความเป็นหญิง(อ่อนโยน) ความเป็นชาย(แข็มแข็ง)
มากน้อยแตกต่างกันไป ไม่มีหญิงหรือชาย 100% หรอก
บางคนอาจจะรู้สึกเฉยๆ กับทั้งหญิงหรือชายก็มี เหมือนเป็นกลางๆไปเลย
คือไม่มีความรู้สึกชอบทั้งสองเพศ อะไรก็ได้ ทำนองนั้น
ถ้าดูให้ดีในโลกนี้มีมากกว่าสาม หรือสี่เพศเสียอีก

 

อร๊ายยยยยย >///<

 

ใหนใหนก็มีกระทู้นี้แล้ว


สงสัยมานานแล้ว ทุกวันนี้เห็น เขาบวชอยู่ตามวัด และมีเยอะขึ้นเหมือนมีแทบจะทุกวัดนะ

จริงๆแล้วมีข้อห้ามใหมครับ ว่าไม่ควรให้บวช ที่ท่านสงบและไม่ค่อยแสดงออกก็มี

แต่บางท่านก็เกินไปออกมาซะจ๋าเลย จีวรเป็นกรีบเลย แต่ผมเห็นข้อดีอยู่อย่างคือ ท่านหา

ปัจจัยมาสร้างวัดเก่ง พูดง่ายๆหาเงินเก่ง

แต่ที่สงสัยที่สุดก็คือ ถ้าเป็นสามัญชนคนทั่วไปในปัจจุบันท่านจะแสดงออกขนาดใหนสวยเริ่ดเฉิดฉายอลังการณ์

แค่ใหนคงไม่มีใครตำหนิ แต่ผมงงอยู่ทำไมเขาเลือกที่จะห่มผ้าเหลือง ทั้งๆที่มันขัดกับบุคลิคแบบสุดๆ

จะมานั่งแต่งหน้าทาเล็บก็กะไร ก็อภัยอาจจะกระทบจิตใจใครซักคน แต่นี่คือปัญหาใหญ่อีกปัญหาหนึ่งของพุทธ

ในปัจจุบันที่ยังแก้ไม่ตก

(จะบาปใหมนี่นินทาพระ^ ^)

 

อ่ะไรหรอครับ ช่วยอธิบายให้กระจ่างไอ้ที่" อร๊ายยยยยย >///<"

 

นี่แหละขอแท้ แอร๊ยยยยยยย

 

ที่พูดว่าทางจิตใจนั้นเป็นส่วนถูก
แต่ถ้าจะบอกว่าแฟฌั่นไม่ใช่แน่
แต่การที่บอกว่าคุณก็อยากเป็น
เพื่อที่จะได้แต๊ะอั๋งหญิงนั้นมันก็
คนละอย่างกันแล้ว ที่เห็นกันส่วน
ใหญ่นั่นเป็นเพราะว่าเป็นจริงๆไม่
ได้เพราะว่าอยากจะแต๊ะอั๋งอันนี้
เขาเรียกว่าของปลอมยิ่งกว่าที่เรียก
ว่าปลอมอีก

 

เดี๋ยวนี้ผู้ชาย
แท้ๆเองก็ไม่ได้น้อยหน้าไปหรอก
แต่เราไม่สามารถจัดพวกเขาให้อยู่
ในกลุ่มเกย์ได้เพราะว่าเขาจริงๆ
แล้วก็ยังเป็นชายแท้อยู่ เพียงแต่
รสนิยมในตอนนั้นชอบทั้งชายทั้งหญิง
ซึ่งเขาเหล่านั้นก็ไม่ได้ถูกเรียกว่าไบ
เซ็กชวลแต่อย่างใด อีกอย่างการจะ
เป็นเกย์เป็นกะเทยได้มันต้องมาจาก
จิตใจที่ยอมรับว่าเขาคนนั้นใช่ไม่ใช่
จากตัวของเขาเอง หลายคนก็มักจะพูด
ว่า "อ้าวไม่เป็นแล้วไมรักเพศเดียวกัน"
ก็อันนั้นมันคือรสนิยม แต่ไม่ได้หมาย
ความเลยว่าเขาจะต้องเป็นสิ่งที่สังคม
กำหนดชื่อให้นอกเสียจากว่าเขาจะ
ยอมรับด้วยใจเองว่าเขาน่ะใช่ ส่วนอัน
หลังนี้ก็จะเป็นของคนที่เขาเป็นจริงๆ
ซึ่งมาจากการเลี้ยงดูเป็นสำคัญ บาง
ครอบครัวพ่อไม่อยากให้ลูกเป็นเกย์เป็น
กะเทยก็ทำรุนแรงทำความเป็นชายให้
ลูกดูมากจนเหมือนยัดเยียดเขาเกินไป
มันก็จะเกิดผลตรงข้ามได้โดยไม่รู้ตัวเช่น
พ่อตบตีแม่ให้ลูกชายหรือหญิงเห็นเขาก็
จะเกิดความรู้สึกว่าเพศนี้ทำไมช่างร้ายมาก
เหลือเกินเราไม่ชอบเพศนี้เราต้องรักอีกเพศ
มากๆโดยการเป็นเพศนั้นน่าจะดีกว่าหรือีกอย่าง
ลูกหญิงก็จะมีความคิดว่าเป็นหญิงต้องถูกทำร้าย
ไม่อยากเป็น หรืออีกอย่างเราจะต้องเป็นเพศที่
ผู้หญิงรักและเทิดทูน เราจะไม่ทำร้ายเขา
เขาช่างน่าสงสารเหลือเกินที่โดนผู้ชายทำร้าย

เราว่าเราเข้าใจนะ ไม่รู้จะมีใครเข้าใจเหมือนเราไหม

 

เอาใจเราไปเลยดีกว่า

 

จริงเหรอ น่ารักนะ light working

 

เก็ทแล้วครับ

 

http://www.youtube.com/watch?v=hXbI4qcheg8&amp%3Bfeature=related สาเหตุที่แท้จริง ............. คืออันนี้

 

กระเทย ไม่น่ากลัว เท่าเกย์ นะครับ -*- กระเทยส่วนใหญ่ แทบจะทั้งหมดเลยแหละมั้ง มันจะชอบแหย่ผู้ชายอย่างเราๆ แต่ ขำๆ ไป แต่ เกย์ นี่ดิ น่ากลัว เข้ามาตีสนิท จากประสบการณ์จริง สอนให้รุ้ว่า เกย์นี่แหละ ตัวอันตราย -..-

 

ไม่ต่างกันหรอก ชายก็น่ากลัวอีกแบบ
หญิงเจ้าเล่ห์ก็น่ากลัวอีกแบบ เกย์และ
กะเทยก็มีความน่ารักและความน่ากลัว
กันคนละแบบ แต่ละพวกที่กล่าวมานั้น
จุดมุ่งหมายเดียวกันทั้งนั้น เราไม่ได้
หมายความว่าเป็นเรื่องเซ็กนะเราหมาย
ถึงทุกๆเรื่องที่จะทำ แต่ถ้าจะหมายถึง
เรื่องเซ็กแล้วหล่ะก็วิธีอาจต่างกันแต่ว่า
จุดมุ่งหมายอันเดียวกันเสมอ แต่กับอีก
หลายๆคนก็ไม่ได้หวังที่จะมีเพื่อนชายจริง
หญิงแท้หรือว่าเพื่อนเกย์กะเทยเพียงแค่
หวังว่าจะได้ร่วมหลับนอนด้วย เขาอาจ
ต้องการมีเพื่อนแบบนั้นจริงๆก็ได้ แต่การ
ที่มีความคิดด้านลบมันเลยทำให้ยากที่
จะเข้าใจว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงของแต่ละ
คนนั้นเป็นยังไง

 

เป็นเพราะผู้นำ....ฮิๆๆๆ

 

ซักครั้งขอจูบกับบารัค
ชายในฝัน

 

ทำไม?? กระเทย-เกย์ ถึงได้มีมากขึ้นในปัจจุบัน

ตอบ...


ก็เพราะว่า ถ้าย้อนไปกลับไปเมื่อ 200 ปีก่อน ประชากรโลก มีเพียง 1 พันล้านคน
ถ้าย้อนไป 150 ปี ประชากรโลกก็มีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 3 พันล้านคน
แต่ถ้าหากย้อนกลับไปแค่ 50 ปี ประชากรโลก กลับเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมถึงเท่าตัว

และเมื่อ ต้นเดือน พฤศจิกายน 2554 ที่ผ่านมา ประชากรโลก เพิ่มมาเป็น 7000 ล้านคน เรียบร้อยแล้ว


ดังนั้น เมื่อดูสัดส่วนของประชากรโลกแล้ว เมื่อ 200 ปีก่อน จนถึงปัจจุบันนี้ มีประชากรเพิ่มขึ้น 6000 ล้านคน O.O

และเมื่อ 200 ปีก่อน ประชากรโลกมีแค่ 1000 ล้านคน แน่นอนว่า ประเทศไทย ก็คงจะมีแค่ 10 ล้านคน(เดาเอา)

แล้วในสมัยก่อน เขาไม่ยอมรับ เพศที่สาม พวกผู้ชายต้องอกสามศอก ต้องไปออกรบ เป็นทหาร บ้านไหนมีลูกชายผิดเพศ จะเป็นที่รังเกียจและไม่ยอมรับ

ดังนั้น.. เนื่องจากประชากรก็น้อยอยู่แล้ว แล้วคนที่เป็นเกย์เป็นตุ๊ด ก็ไม่เปิดเผย

จนเมื่อ 60 ปีก่อน เราจะเห็นได้ว่า รุ่นพ่อ รุ่นแม่ เราหลายคน ตอนนี้เริ่มแสดงออกมากขึ้น ว่าเป็นตุ๊ด เป็นเกย์ (ทั้งๆที่มีลูกแล้ว)

แล้วตอนนี้ ประชากรประเทศไทยเพิ่มเป็น 69 ล้านคน (หรือ 70 แล้วก็ไม่รู้นะ ><) แล้วในวัยรุ่น มีการ free sex มากขึ้น ทำให้เกิดการสับสนทางเพศมากขึ้น (จากเดิมที่มีเฉพาะพวกที่เป็นตามกรรมพันธุ์ ก็เริ่มมีพวกที่ มี sex บ่อยๆ แล้วเกิดสับสนอยากลองของแปลก)

บวกกับตอนนี้ ประเทศเรา (และทั่วโลก) ให้การยอมรับเพศที่ 3 มากขึ้น จึงทำให้มีการแสดงออกมากขึ้น เปิดเผยมากขึ้น มีความต้องการที่จะค้นหาตัวเองมากขึ้น(จากเดิมที่ ผู้ชายมักจะต้องเป็นทหาร และต้องเป็นชายอกสามศอก) เดี๋ยวนี้เพศชายก็มีอาชีพได้หลากหลาย ทำให้มีความต้องการค้นหาตัวเองมากขึ้น ว่าตัวเองเป็นชายหรือหญิง บวกกับสังคมโลกยอมรับมากขึ้น


สรุปแล้ว..

ที่มีเพศที่ 3 มากขึ้น เพราะ

1. ประชากรมันเพิ่มขึ้น
2. สังคมให้การยอมรับมากขึ้น

จึงทำให้ มีเกย์และตุ๊ดมากขึ้น และมีการแสดงออกอย่างเปิดเผยมากขึ้น

นั่งเอง @^_^@