บ้านลอยน้ำ

ห่วงเรือ่งเดียวเรื่องคลื่นที่มากระทบนี่แระค่ะ

 

บ้านที่ทะลสาบอินเล รัฐฉาน พม่า

 

ชุมชนบ้านที่อยู่กับน้ำแบบนี้ ที่เคยเห็นอีกที่ ก็คือ โตนเลสาบ เขมรครับ

 

ถ้าอนาตต ทำแบบนี้ได้ ก็น่าจะดี
แนวความคิดเมืองลอยน้ำ มีการนำโครงการเสนอในบ้านเรา ในรัฐบาลชุดก่อน
แต่จะทำเป็นบ่อนกาสิโน เอาไว้ลอย แถวอันดามัน ห่างจากเกาะภูเก็ต
ซึ่งสุดท้ายก็ต้องล้มเลิกไป

 

หมู่บ้านลอยน้ำที่เนเธอร์แลนด์ครับ ได้อ่านข่าวว่า ทางกทม.เคยส่งตัวแทนไปประชุมเรื่องนี้
แต่ยังไม่ได้เห็นการจัดการที่เป็นรูปธรรมเลยครับ

 

บ้านไข่

ไต้ ไห่เฟย สถาปนิกจบใหม่ป้ายแดง วัย 24 ปี ได้ออกแบบสร้างบ้านที่มีรูปลักษณ์เหมือนไข่ สนนราคาเพียง 6,427 หยวน หรือราว 35,000 บาท เลี่ยงปัญหาค่าเช่าอพาร์ทเม้นท์ที่แสนแพงในกรุงปักกิ่ง

ในตอนแรก ไต้ ไห่เฟย นักออกแบบประจำบริษัท Standard Architecture (SA)ได้ยืมเงินญาติประมาณ 6,400 หยวน เพื่อสร้างบ้านไข่ที่บ้านเกิดในมณฑลหูหนัน จากนั้นก็เคลื่อนย้ายขึ้นรถบรรทุก มาอยู่ใกล้ๆกับที่ทำงาน ในกรุงปักกิ่ง

สำหรับ บ้านรูปไข่สูง 2 เมตร ยาว 3 เมตร มีล้อติด 2 อัน ผนังด้านนอกทำด้วยผ้ากระสอบกับแผ่นไม้ไผ่ และด้านในนำไม้ไผ่ซีกสานกัน อีกทั้งใช้ไม้สับและเมล็ดหญ้าแทรกตามช่องต่างๆ เพื่อเพิ่มความอบอุ่น พร้อมบุผนังด้วยวัสดุกันน้ำเข้า ภายในบ้านมีเตียง ถังน้ำ ผ้าห่มไฟฟ้า อ่างล้างมือแบบปั๊ม และตะเกียง และที่สำคัญคือ บ้านหลังนี้ใช้พลังงานไฟฟ้าจากแผงโซลาเซลล์ที่ติดตั้งไว้บนหลังคา รวมทั้งแบตเตอรี่ ซึ่งเขาจะต้องมาชาร์จที่ห้องทำงานประมาณเดือนละครั้ง

ไต้ สถาปนิกหนุ่มได้รับแรงบันดาลใจจากโปรเจคสถาบัตยกรรมแปลกใหม่ที่มีชื่อว่า “เมืองแห่งไข่” ในงานนิทรรศการศิลปะเซี่ยงไฮ้เบียนนาเล่ 2010 (the 2010 Shanghai Biennale Exhibition) ซึ่งจัดขึ้นเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา

“ผมรู้สึกประทับใจกับไอเดียการสร้างบ้านแบบอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมนั้น โดยเฉพาะในเมืองอย่างกรุงปักกิ่ง ที่ซึ่งมีค่าเช่าสูง อันเป็นภาระอันหนักอึ้งที่นักศึกษาจบใหม่ต้องเผชิญ”

พร้อมกล่าวเสริมว่า “ทุกวันนี้ ราคาอพาร์ทเม้นท์ในกรุงปักกิ่งแพงมาก ผมจึงต้องคิดหาวิธีแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์”

"ทีแรก เจ้าหน้าที่เทศบาลมาเห็นเข้า ก็ประหลาดใจและพยายามไล่ผมไป แต่ผมก็ไม่มีที่จะไป ในที่สุดเขาก็เลิกมายุ่งกับผม"

ไต้ ไห่เฟย ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่า



“ผม รู้สึกดีที่ได้อยู่ในบ้านไข่หลังนี้ แม้มันจะดูธรรมดา และหนาวบ้างในบางครั้ง แต่สิ่งที่สำคัญก็คือ มันช่วยประหยัดเงินให้ผมได้ตั้งมากทีเดียว”

 

มุมด้านในสไตล์เรียบๆของบ้านไข่

 

ล้างมือเล็กน้อยในอ่างแบบปั๊ม

 

มุมด้านนอกยามค่ำคืน

 

บ้านไข่ เหมือนจะเล็ก ภายใน ใหญ่พอสมควรเลย

 

ต้องเป็นคล้ายๆบ้านไข่ แต่ลอยน้ำได้ และประกอบด้วยวัสดุที่ทนการกระแทกจากภายนอกได้

เพราะถ้าน้ำท่วมจริงๆผมว่า ภัยจากคลื่นยักษ์ที่ซัดถาโถมเข้ามาก็น่ากลัวไม่แพ้กัน

 

อาจเป็นเพราะจัดวางเครื่องใช้เท่าที่จำเป็น
ส่วนใหญ่บ้านพวกเรา มักจะเต็มไปด้วยหนังสือ เสื้อผ้า อุปกรณืไฟฟ้าต่างต่าง
ชื่นขมไอเดียของสถาปนิกชาวจีนท่านนี้ครับ

 

ลอยน้ำได้คงไม่ยาก คงเวียนหัว กลิ้งหลุหลุนกันไปเหมือนเครื่องปั่นผ้า
แต่การทนแรงกระแทก น่าจะลำบากครับ
เพราะแรงกระแทกจากเศษไม้เศษขยะมีแรงมหาศาล

 

เคยดูสารคดีเกี่ยวกับบ้านลอยน้ำ จำได้ว่าเอาโฟมขนาดใหญ่เป็นก้อน
แล้วเทคอนกรีตลงเป็นฐาน แล้วสร้างบ้านได้สองชั้น ดูแล้วก็โอเคเพราะเห็นเค้าลาก
ไปส่งเจ้าของคนที่จ้างสร้างบ้านเป็นไมล์ๆ ก็ไม่เป็นไร

แต่ว่าผมมีแนวคิดบ้านอยู่อย่าง แบบทนต่อคลื่นขนาดใหญ่ได้
แต่ยังติดเรื่องโครงสร้างบางอย่าง นึกออกแบบมากหลายปีแล้วตั้งแต่เด็ก เดี๋ยวจะลอง
หาข้อมูลจริงๆจังๆดูเผื่อจะได้ ออกแบบมาใช้ได้

 

วัสดุตัวนี้น่าสนใจดีครับ
ทีมนักวิจัยที่นำโดย Henry Sodano แห่ง Arizona State University ได้ประดิษฐิวัสดุแบบใหม่ที่ค้<WBR>นหารอยแตกและจัดการซ่อมปิ<WBR>ดรอยแตกนั้นได้ด้วยตัวเอง เหมือนกับกระดูกในร่<WBR>างกายคนเรายังไงยังงั้น
โครงสร้างวัสดุที่นักวิจัยประดิ<WBR>ษฐ์ขึ้นนี้มีชื่อเรียกว่า
"autonomous adaptive structures"
โดยหลักการวัสดุนี้ประกอบด้<WBR>วยโพลีเมอร์ที่คืนรูปตัวเองได้<WBR>เมื่อได้รับความร้อน (Shape-memory polymer)
และฝังโครงข่ายเส้นใยนำแสง (fiber-optic network) เอาไว้ข้างใน
เส้นใยนำแสงนี่เองที่เป็นเคล็<WBR>ดลับของการหารอยแตกและซ่อมตั<WBR>วเอง
กล่าวคือ แสงอินฟราเรดที่วิ่งอยู่ในเส้<WBR>นใยนำแสงจะทำหน้าที่เป็น sensor
ค้นหารอยแตก เมื่อแสงวิ่งไปพบรอยแตก ณ จุดใด
มันก็จะออกันไปเพิ่มความร้อนที่<WBR>จุดนั้น พออุณหภูมิสูงขึ้นไปถึงจุดหนึ่ง
โพลีเมอร์ที่จุดนั้นก็จะเพิ่<WBR>มความแข็งและเหนียวขึ้น
เพื่อป้<WBR>องกันการฉีกขาดเพิ่มเติมและให้<WBR>วัสดุยังคงรูปอยู่ได้
ในที่สุดรอยแตกนั้นก็ถูกปิ<WBR>ดไปโดยอัตโนมัติด้วยคุณสมบัติ<WBR>ของ
Shape-memory effect
โพลีเมอร์ใน autonomous adaptive structures สามารถเพิ่มความแข็งของตั<WBR>วเองได้ถึง 11 เท่า จากการทดสอบพบว่าวัสดุที่มี<WBR>รอยแตกสามารถคืนสภาพความแข็<WBR>งแกร่งได้ถึง 96% ของสภาพเดิม และเมื่อรอยแตกถูกปิดอย่างสมบู<WBR>รณ์ วัสดุมีความแข็งเพิ่มขึ้นถึง 5 เท่าเมื่อเทียบกับวัสดุก่อนแตก แต่มีความเครียด ณ รอยแตกเป็น 4 เท่าของความเครียดเดิม
นักวิจัยอ้างว่า autonomous adaptive structures นี้สามารถซ่อมแซมตัวเองได้ในทุ<WBR>กสภาวะ ไม่เว้นแม้แต่ว่าวัสดุจะอยู่<WBR>ในระหว่างการใช้งานก็ตาม
ที่มา - Science Daily

 

ตอนนี้ ท่าทางคนจะสนใจสร้างบ้านลอยน้ำเยอะ เอาไว้เป็นทางเลือกค่ะ

 

วิธีป้องกันคลื่นกระทบตัวบ้านคิดว่า รอบตัวบ้านต้องทำให้เป็นทุ่นลอยมุมแหลมติดอยู่รอบตัวบ้านเพื่อตัดคลื่นให้แยกออกจากกันก่อนกระทบตัวบ้าน และตัวบ้านควรจะใช้สมอทิ้งไว้เหมือนเรือ