ทุกข์หนอ ทุกข์เพราะหนี้หนอ มองไปทางไหนมันมืดเหมือนตกในนรก

ในห้อง 'บุญ-อานิสงส์การทำบุญ' ตั้งกระทู้โดย amornwan2000, 23 ตุลาคม 2011.

  1. amornwan2000

    amornwan2000 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +2
    อยากเล่าเพื่อเป็นประสบการณ์ เป็นอุทธาหรณ์

    ทำการค้าแรกๆก็ดีอยู่ มีพนักงานหลายสิบคน
    กู้ธนาคารมาใช้ลงทุน มีบัตรเครดิต5-6ใบ
    ไม่เคยคิดเลยว่าสักวันหนึ่งกาีรค้าไม่ดี หนี้สินจะทำอย่างไง
    2-3ปีมานี้งานไม่มี เขามาทวงหนี้ จะฟ้องยึดบ้าน ยึดเครื่องจักร
    ขอเขาผ่อนผันก็ไม่ได้ช่วยอะไร ขายของในบ้านหมดก็ไม่ได้ช่วยลดหนี้สิน
    ภรรยาก็อยากจะหย่าเพื่อไม่ให้พัวพันทางกฎหมาย จะเอาลูกไปอยู่ต่างจังหวัด
    เอาหนังสือธรรมะ บทสวดมนต์มาท่องอ่าน แต่มันช้าไปไม่ทันการแล้ว
    ใจสงบชั่วคราว พอเจอเขาทวงหนี้ เหมือนเจ้ากรรมนายเวรมาหา
    ทุกข์หนอ ทุกข์หนอ
    เหล้าก็ไม่ได้กิน การพนันก็ไม่ได้เล่น ทำไมเราไม่ประหยัดซื้อโน่นซื้อนี่
    ตอนนี้มาใช้กรรมที่ก่อ
    แม่ก็เสียไปแล้ว อยากกอดแม่แล้วร้องไห้ ลูกๆของแม่ไม่ได้เกื้อกูลกันเลย
    พี่น้องที่รวยๆก็มี แต่เขาไม่ช่วย เขาเหมือนไม่ใช่พี่น้องเลย ทั้งๆที่มีเงินสดๆนับร้อยล้าน เขาชวนเราให้เปลี่ยนศาสนา ไปฟังเทศน์ทุกวันอาทิตย์ แรกๆก็ไปเขาให้ค่ารถมา100บ พอหลังเลิกฟังเทศน์ก็ทุกข์ยังอยู่ปัญหาไม่ได้แก้ ขอเงินเขาจะผ่อนให้เขาๆก็ไม่ช่วย เขาชี้ไปบนฟ้าให้ขอพระเจ้าช่วย เรานะขอแล้วร้องไห้ให้พระเจ้ารับรู้ว่าเราผิดไปแล้ว ช่วยเราด้วยเรายังไม่อยากตายในสภาพนี้ก็ไม่มีคำตอบจากเบื้องบน จริงๆพี่เราก็สามารถสร้างปาฎิหาริยฺ์ให้เราก็ได้แต่เขาไม่ทำ
    เขาคิดว่าที่เขารวยเพราะพระเจ้าช่วย พระเจ้าคงช่วยเราเหมือนเขา พอเราไม่ไปโบสถ์ก็โดนด่าว่าไม่ศรัทธาแล้วพระเจ้าจะมาช่วยได้ยังไง พอไปก็เหมือนเดิม
    แต่ละวัน แต่ละชั่วโมงกลัวหมายศาล กลัวเสียงโทรศัพท์มาทวงหนี้
    ล่าสุดขอยืมเขา5หมื่นจะให้กราบเท้าก็ยอม แต่เขาก็ไม่ยอมให้
    อธิษฐานให้ผลบุญทุกภพทุกชาติที่เคยทำมาช่วยตัดวิบากกรรมนี้ด้วย
    แต่ไม่ปรากฎอะไรขึ้นมา สติคอยเผลอคิดถึงหนี้สินตลอดสลัดไม่ออกจากสมอง
    ขอให้เรื่องชีวิตของเราเป็นบทเรียนกับทุกท่าน
    มีเงินจงรักมัน หนี้สินอย่าไปก่อ จงเมตตาผู้ตกทุกข์ยากไร้
    นรกบนดินตอนมีชีวิตอันนี้เห็นได้เลย
    ทุกข์หนอ ทุกข์หนอ ทุกข์หนอ
     
  2. bomberman5

    bomberman5 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +1
    ขอบคุณครับ สำหรับประสบการณ์เป็นอุทาหรณ์ให้กับหลายๆคน
    ผมก็อยากช่วยนะ แต่ผมก็ไม่ได้เก่งหรือร่ำรวยอะไร
    คงได้แค่ให้คำแนะนำว่า ลอง หาอ่าน ประสบการณ์ ของผู้อื่นดูครับ เหมือนอย่างที่คุณได้ให้ประสบการณ์กับท่านอื่น จะได้มีกำลังใจมากขึ้น อาจจะมีที่คนที่แย่กว่าเรา แต่ก็ยังสามารถพลิกชีวิตขึ้นมาได้ เผื่อมันจะเป็นกำลังใจให้คุณได้ครับ

    หรือถ้าอยากไปทางธรรม คุณก็เห็นความเปลี่ยนแปลง ว่าไม่เที่ยงแล้วนี่ครับ ลองใช้ใจตัวเองพิจารณาดูครับสิ่งที่ยึดถือนั้นมันเปลี่ยนแปลงไหม เช่นมีเงินวันนี้อาจไม่มีวันหน้า ไม่มีเงินวันนี้อาจมีเงินวันหน้า คือยังไงมันก็ต้องเปลี่ยนอยู่แล้วเราจะมาทุกข์ทำไม นั่นคือการปล่อยวาง แล้วคุณจะรู้วิธีแก้ไขเองครับ
    ขอให้พบทางที่เหมาะสมเร็วๆนะครับ
     
  3. นารภัทร

    นารภัทร สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2011
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +6
    เมื่อยามที่พ่ายแพ้ จงอย่าสูญเสียบทเรียนไปด้วย ชีวิตไม่ได้ง่ายดายอย่างที่คิด ชีวิตยังต้องมีวันต่อไป อยู่ที่จะสู้หรือจะหนีมัน ชีวิตคนเราก็เท่านี้ ความเข็มแข้งไม่ได้อยู่ที่เราสามารถเหนี่ยวรั้งอะไรไว้ได้ แต่อยู่ที่เราสามารถปล่อยไปต่างหาก

    "เดินผ่านไปแล้วมีรอยเท้า ผิดมาแล้วเป็นทางยาวก้าวไม่ไหว
    อย่ากลัวเดินอีกก้าวบนทางไกล รอยเท้าเก่าสอนเราไว้เป็นบทเรียน"

    ขอเป็นกำลังใจ ขอให้ผ่านพ้นความทุกข์นี้โดยเร็ววัน สวัสดีค่ะ
     
  4. ผู้เลื่อมใสศรัทธา

    ผู้เลื่อมใสศรัทธา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    911
    ค่าพลัง:
    +2,082
    สาธุ สาธุ สาธุ เป็นอุทาหรณ์ดีครับ

    ตอนมีเงินไม่รู้จักประหยัด พอหมดเงินกลับวอนขอพระให้ช่วย
    แล้วใครจะมาช่วยละครับ ตัวเองยังทำไม่ได้แล้วพระจะมาช่วยอะไรได้

    ขอเป็นกำลังใจให้คุณสุ้ต่อไปนะครับ
    คุณคิดไว้เสมอนะครับ ยังมีคนที่โชคร้ายกว่าคุณอีกมากมาย
    บางคนไร้พ่อแม่ ไร้พี่น้อง ไร้ครอบครัว มีหนี้สิน ยังมีอีกเยอะ
    อย่าได้คิดน้อยใจที่ทำไมเขาถึงได้ดีกว่าเรา ทำไมเขาถึงไม่เห็นใจเราเลย
    เขายังมีบุญ ยังรับบุญเก่าอยู่ ไม่แน่วันใดวันหนึ่งเค้าอาจเป็นเหมือนเราก็ได้

    ชีวิตมีแต่ความไม่แน่ หลงความสุขเมื่อไหร่ พอเจอความทุกข์ก็รับไม่ได้
    เมื่อตอนมีความสุขไม่ขยันฝึกใจ ขอให้คิดเสมอ สิ่งนี้มันมา เดี๋ยวมันก็ไป มันไม่อยู่กับเราหรอก ตายไปก็เอาอะไรไมได้

    แล้วก็ขอให้คิดอีกข้อนะครับ ข้อนี้สำคัญมากๆๆ อย่างน้อยก็ขอให้หายทุกข์ได้บ้าง
    อดีตมันผ่านไปแล้ว หวนคิดถึงทำไม ต่อคิดให้ตาย มันก็แก้อะไรไม่ได้แล้ว
    อนาคตมันยังไม่มาที จะไปคิดให้ทุกข์ทำไม ถ้ามันจะเกิด ต่อให้คิดให้ตาย มันก็ต้องเกิด
    คิดถึงอดีตก็ทุกข์ คิดถึงอนาคตก็ทุกข์ แล้วจะไปคิดมันทำไม


    ผมก็เคยมีช่วงหนึงที่เป็นทุกข์ คิดแต่อดีตที่ผ่านมาแล้ว กังลกับอนาคตที่ยังไม่เกิด
    พอได้ศึกษาธรรมะ ก็ได้รู้ว่าให้อยู่กับปัจจุบัน
    แล้วอยู่กับปัจจุบันทำยังไง คำนี้อาจมีหลากความหมายมากมาย แล้วแต่ละคน
    ของผมช่วงแรกทำแต่งานให้หายทุกข์ แต่ก็ได้แป๊ปเดียว หายเหนื่อยก็กลับมาทุกข์
    แต่ก้คิดได้หันมาสวดมนต์ ตอนแรกครึ่งชั่วโมง หลัง ก็เกือบชั่วโมง
    พอสวดเสร็จก็แผ่เมตตา แล้วก็คิดคนเราเกิดมาก็ร่วมทุกข์ด้วยกัน ใครจะทำอะไรเราก็ช่างหัวเค้า
    หากเค้าไม่ทำเรา คนอื่นก็ต้องมาทำเราอีก แล้วก้คิดอีกไปเลยว่า เราได้เจริญพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ
    บูชาพระรัตนตรับ อีกทั้งยังได้รักษาศีลอย่างน้อยศีล 5 ต่อให้มีอันตรายอันใด เราจะตาย หรือเราจะเหลือตัวคนเดียว อดมื้อ กินมื้อ
    แต่ก็ขอมีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง หวังซึ่งพระนิพพาน จะได้หมดเวร หมดกรรม

    ผมก็ไม่มีพรใด ก็ขอบารมีคุณพระศรีรัตนตรัย ปกปักษ์รักษาคุ้มครองคุณ ให้พ่านพ้นไปด้วยดีด้วยเทอญ บุญใดที่คุณได้กระทำมาทุกบุญๆ ทุกๆชาติภพ และที่ได้กระทำในนะครั้งนี้คือได้ นำบทความเป็นอุทาหรณ์ให้แก่คนรุ่นหลัง ได้เตือนสติ ก็ขอให้คุณผ่านพ้นอุปสรรคอันตรายใดๆไปได้ด้วยดีด้วยเทอญ

    ป.ล. หากต้องการบทสวดมนต์จะถามคนในบอร์ดก็ได้ หรือส่งมาทาง PM ก็ได้ครับ จะส่งไปให้

    ก็ขอให้คุณสู้ต่อไปนะครับ
    ขอให้คุณสู้ต่อไปนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ตุลาคม 2011
  5. pop46

    pop46 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +1
    ดิฉันเองก็มีสภาพไม่แตกต่างจากคุณเท่าไรนัก แต่ดิฉันเลี้ยงลูกคนเดียวและกำลังใจทั้งหมดที่มีอยู่ก็คือลูกคะ ดิฉันทำทุกอย่างที่ได้เงินมาเลี้ยงลูกนั่นคือหน้าที่ ดิฉันขายทุกอย่งที่คิดว่าไม่จำเป็นกับชีวิตเอาเงินมาเป็นทุนค่ะ ดิฉันคิดอย่างเดียวว่าเราต้องสู้คะ สิ่งที่ขาดไม่ได้คือก่อนนอนต้องสวดมนต์อุทิศส่วนบุญให้กับเจ้ากรรมนายเวรที่มาถึงแล้วและห้ามลืมให้กับเทวดาที่รักษาตัวเรา ตื่นเช้าๆชวนลูกๆมาใส่บาตรคะกรวดน้ำ ทุกวันนี้ก็มีความสุขตามอัตภาพคะ ส่วนหนี้สินก็หลุดเป็นรายๆไปคะ สู้นะคะไม่เพื่อใครก็เพื่อตัวเราคะเป็นกำลังใจให้คะ
     
  6. วรรณนรี05

    วรรณนรี05 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    313
    ค่าพลัง:
    +903
    ลองถามใจ ตัวคุณเองชิว่าที่เป็นทุกข์ อยู่ขณะนี้ ทุกข์ เพราะอะไร **ทุกข์ เพราะ ไม่มีเงินใช้หนี้ ใช่ ส่วนหนึ่ง แต่แท้จริงแล้วคุณไม่ยอมรับความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ลอง คิดใหม่ หนี้ ควรคุยกับเจ้าหนี้ ตรงๆว่าเราไม่มีจ่าย ในระยะนี้ ถ้าไม่ยอมให้ฟ้อง ล้มละลาย อย่ากลัวคำว่าล้มละลาย เพราะกฎหมาย มีอยู่ว่าจะเป็นบุคคลล้มละลายไป กี่ปีแล้วจะกลับมา เป็นบุคคลทำธรรมดาได้ใหม่ถ้า ยังมีใจที่ฮึดสู้ คุณยังมีโอกาส อ้อการเป็นบุคคลล้มละลายนี้กฎหมายเขาจะให้เรามีค่าใช้จ่ายในชีวิตจริง เช่นค่า เช่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ และต่างๆ คงประมาณหมื่นกว่าต่อเดือน ตรงนี้ถ้ามีเงินเข้าบัญชีมาเขาจะไม่ยึดไป ดังนั้นคุณควรศึกษา ข้อกฏหมายก่อน *แล้วมาเริ่มนับจาก หนึ่งใจ หนึ่งสมอง สองมือ ถ้านี่แหละจะคลายทุกข์เรื่อง ธรรมะนั้น ขอเพียงคุณเข้าใจ ว่าที่ทุกข์อยู่ นี้ เพราะใจยังรับความจริงไม่ได้ ตรงกับคำว่าทุกข์เป็นสิ่งที่ทนได้ยาก แล้วจะทนทำไม มองมันแบบแขกมาเยี่ยมเราเดี่ยว แขกก็ลากลับเพราะแขกที่มาเยียมไม่เคยมีใครอยู่นาน ถ้าคิดแบบนี้ได้แสดงว่าคุณเข้าถึงข้อธรรมที่อยู่กับทุกข์ให้มีความสุข ได้โดยไม่ต้องไปนั่งหลับตาภาวนา ตรงนั้นรับรองได้ว่าไม่เกิดผล ในขณะนี้ เพราะใจยังว้าวุ่นอยู่ ขอเป็นกำลังใจ ครั้งหนึ่งเราเคยเดินผ่านถนนแห่งทุกข์แบบคุณมาแล้ว
     
  7. khomeraya

    khomeraya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +21,369
    ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน อัตตาหิอัตโนนาโถ

    ที่คุณเข้าใจว่าคุณต้องมาใช้กรรมที่ก่อ เป็นความเห็นที่ถูกต้อง

    แต่กลายเป็นคุณต้องทุกข์ใจจนโทษนั่นโทษนี่ จนหมดอาลัยตายอยาก อย่างนี้ไม่ถูกต้อง เพราะนั่นจะทำให้จิตของคุณเศร้าหมอง

    ขอให้ปล่อยวาง ปล่อยวางคือ ทำใจให้โปร่ง ทำใจให้เบา เบาเหมือนปุยนุ่น ซึ่งการทำใจให้เบานี้เป็นสิ่งที่ยาก เพราะเราเจอสิ่งกดดันอยู่ แต่การที่คุณมีจิตหมกมุ่น เคร่งเครียด มันเหมือนกับคุณปิดบ้านของคุณเอง ไม่มีใครเข้ามาช่วยคุณได้ เพราะคุณปิดประตูบ้านเสียแล้ว ปิดหน้าต่างทุกบานเสียแล้ว

    เพราะฉะนั้น ผู้รู้ท่านสอนผมว่า ให้ทำใจให้เบา แล้วเผชิญหน้ากับมัน หันหน้าเข้าสู้กับมัน

    ไม่ต้องกลัวหมายศาล เดินหน้าอย่างอาจหาญไปขึ้นศาล บอกกับศาล บอกกับทนายว่า เราไม่มี แต่เราไม่ได้เจตนาจะเบี้ยว เพราะฉะนั้น อยากยึดอะไรก็ยึดไป อยากฟ้องล้มละลายก็ฟ้องไป เพราะเป็นสิ่งที่ถึงที่สุดแล้ว

    การฟ้องล้มละลายนั้น เปรียบเสมือน การพิพากษาให้ประหารชีวิตทางแพ่ง แต่คุณไม่ได้ตายจริงๆ คุณยังมีชีวิต คุณยังมีลมหายใจ เพราะฉะนั้น เมื่อยังมีชีวิต ยังมีลมหายใจ ก็ยังมีสิ่งดีๆรออยู่เบื้องหน้า เมื่อชดใช้วิบากกรรมหมดไปแล้ว เคยได้ยินคำว่า ชั่วเจ็ดที ดีเจ็ดหนมั้ย ชีวิตคนเราก็เหมือนกัน คุณไม่เคยเห็นในทีวีเหรอ ที่เค้ามาสัมภาษณ์คนที่รวยล้นฟ้า แล้วจู่ๆก็ล้มละลาย แต่เค้าก็ลุกขึ้นมามีชีวิตใหม่ได้ เพียงเพราะคำว่า "ไม่สิ้นหวัง" และ "มีสติ"

    ขอให้ทำใจให้เบานะครับ แล้วผจญกับความจริง อย่ากลัวการต้องไปขึ้นศาล

    สำหรับผู้ที่มีอาชีพปล่อยกู้นั้น ไม่ว่าจะในหรือนอกระบบ ก็มีบาปกรรมติดตัว เพราะเป็นการหากินบนความเดือดร้อนของผู้อื่น เมื่อวันเวลาหมุนเวียนไป สักวันเค้าก็ต้องได้รับวิบากกรรมนั้น (พูดอย่างนี้อาจมีคนเถียงว่าธนาคารทำอาชีพสุจริต ไม่ใช่หนี้นอกระบบ แล้วจะเป็นอาชีพบาปได้อย่างไร ก็แล้วแต่จะเข้าใจ ขี้เกียจอธิบายมากไปกว่านี้)

    สุดท้าย ขอเป็นกำลังใจให้คุณฟันฝ่าอุปสรรคนี้ไปให้ได้ จำไว้ว่า "จงมีสติ" และ "อย่าสิ้นหวัง"

    บุญใดที่ผมสั่งสมมานับเอนกอนันต์ชาติ ขอบุญนั้นจงสำเร็จแก่คุณและเทวดาประจำตัวของคุณ ขอให้คุณได้ผ่านพ้นขวากหนามนี้ไปได้ด้วยเทอญ
     
  8. ttt2010

    ttt2010 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,754
    ค่าพลัง:
    +905
    ขอบคุณสำหรับเรื่องเล่าเป็นอุทาหรณ์เตือนใจ
    แต่ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้ต่อสู้ต่อไป ตราบที่เรายังมีลมหายใจอยู่
    คนเราเมื่อทำดีแล้วมักจะได้สิ่งดีตอบแทน ผมเชื่อเช่นนั้น
     
  9. prettymafia

    prettymafia สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +2
    ขอเป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้นะคะ ดิฉันมีพ่อแม่ของเพื่อนขายผ้า5คูหาอยู่บางลำพู มีลูกจ้างเป็น10ๆคน ยุคสมัยเปลี่ยนไปคนนิยมมาใส่ผ้าสำเร็จ ผ้าที่มีอยู่ก็ขายไม่ได้ ของที่กู้เขามาทำธุรกิจ เขาก็มายึดเอาไป บ้านโดนยึด โดนธนาคารฟ้องล้มละลายเป็นหนี้ธนาคารถึง30ล้าน ธนาคารโทรมาทวงทุกวัน จนแม่ของเพื่อนบอกว่าไม่มีเงินจะให้ มีแต่ชีวิตเท่านั้นอยากได้ให้เอาไปเลย
    เจ้าหน้าที่ธนาคารก็เมตตาปลอบใจ เขาคงรู้ว่าไม่มีเงินใช้หนี้ ก็ได้ให้สติว่าอย่างมากก็โดนฟ้องล้มละลาย ทำธุรกรรมทางการเงินไม่ได้เท่านั้นเอง แต่ก็ยังสามารถมีชีวิตอยู่ได้ แม่ของเพื่อนเคยคิดฆ่าตัวตายหลายครั้ง แต่ก็สงสารลูกอีก3คน หลังจากนั้นก็ไปอาศัยบ้านญาติอยู่แถวรังสิตก็เปิดขายก๋วยเตี๋ยวเล็กๆน้อยๆ
    ช่วงแรกขายไม่ได้เลย เททิ้งทุกวัน ก็อดทนขายไปทุกวัน ปรับปรุงฝีมือไปเรื่อย จนทุกวันนี้ขายมา10ปีแล้วมีลูกค้าติดแล้ว มีรายการทีวีมาถ่ายออกช่องอาหารอร่อย ช่วงแรกพ่อแม่เพื่อนก็อายเพราะเคยเป็นเถ้าแก่ ไปไหนมีคนนับหน้าถือตา มีลูกน้องมากมาย ขับรถหรูไปเที่ยวต่างประเทศทุกปี ทุกวันนี้ลวกก๋วยเตี๋ยวหน้ามัน แต่ก็เป็นอาชีพสุจริต เคยนับเงินวันเป็นแสนๆ ทุกวันนี้หักค่าใช้จ่ายและลูกจ้าง2คนแล้วได้กำไรไม่ต่ำกว่าวันละ3000 หากเทียบกับรายได้เมื่อก่อนแล้ว 1เดือนเท่ากับ1วันของเดี๋ยวนี้ แต่รายได้วันละ3000 ก็สามารถเลี้ยงครอบครัวได้สบายๆ และที่สำคัญเป็นอาชีพสุจริต

    ขอให้เจ้าของกระทู้ผ่านพ้นมันไปด้วยดี ฟ้าหลังฝนสดใสเสมอ ขอให้เข้มแข็งก้าวผ่านทุกปัญหาอย่างมีสติ คนเราเกิดมาต้องมีสุขและทุกข์ปะปนกัน มีพระจันทร์ทำให้มืดมิดแต่ก็มีพระอาทิตย์ทำให้แสงสว่างเช่นเดียวกัน ขออย่าท้อถอย ปัญหาทุกอย่างมีทางแก้ไข ลองอ่านหนังสือของบุคคลที่ท่านก่อนๆได้กล่าวไว้ก่อนก็ดีไม่น้อย จะได้ช่วยเป็นกำลังใจในการแก้ปัญหา ลองหาอ่านประวัติคุณศิริวัฒน์ วรเวทวุฒิคุณ บุคคลสู้ชีวิตดูนะคะ ท่านนี้เคยเป็นเจ้าของโครงการคอนโดมิเนียมพันล้าน ล้มละลายหลายร้อยล้าน และมายืนขายขนมปังตามถนน ลองอ่านดูนะคะ เชื่อว่าคุณจะมีกำลังใจและแรงบันดาลใจในการสู้ต่อ คนเราล้มได้ค่ะและลุกได้เช่นเดียวกัน เป็นกำลังให้นะคะ ขอให้คุณเข้ามาเว็บนี้ทุกวันที่นี่มีมิตรภาพดีดี แง่คิดดีดีจากคนจิตใจดีมากมายเลยค่ะ
     
  10. ปรกติ

    ปรกติ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +46
    เป็นกำลังใจให้ค่ะ เข้าใจถึงความรู้สึกดี
     

แชร์หน้านี้

Loading...