ภาวนาอันดับหนึ่ง ศีลอันดับสอง (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย nondanun, 11 ตุลาคม 2011.

  1. nondanun

    nondanun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    5,980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +32,611
    เราไปเทศน์ที่ไหนไม่พ้นที่จะพูดถึงเรื่องการภาวนา
    ถึงจะไม่รู้ไม่เห็นอะไรก็ตาม
    ผลแห่งการภาวนาของเรามีผลมาก เป็นอันดับหนึ่ง
    ทาน ศีลอะไรเป็นอันดับที่สอง

    อันดับที่หนึ่งก็คือการภาวนา
    ยิ่งรู้ยิ่งเห็นแล้วยิ่งปลูกศรัทธาความเชื่อมั่น
    ในผลของตนที่ทำขึ้นมาเรื่อยๆ

    ทีนี้ก็หนุนทาน หนุนศีล หนุนความดีทุกอย่าง
    แล้วหิริโอตตัปปะความสะดุ้งกลัวต่อบาปต่อกรรมทั้งหลาย
    มันจะรู้เข้ามา อันใดที่ควรกลัวมันจะปัดปุ๊บๆ เลยในหัวใจนั่นแหละ

    อย่างพระโสดาท่าน เพียงท่านสำเร็จโสดา
    นั่นคือเข้าสู่ความจริงแล้ว
    เชื่อบาปเชื่อบุญเชื่อกรรมแล้วนั่น
    ฝังแล้ว เมื่อฝังแล้วท่านจึงมีธรรมประจำใจ
    เป็นนิสัยขึ้นมาโดยอัตโนมัติ

    เพราะฉะนั้นพระโสดาจึงไม่มีการรับศีล
    เป็นสมุจเฉทวิรัติโดยอัตโนมัติไปเลย
    คือหิริโอตตัปปะสะดุ้งกลัวต่อบาปต่อกรรมไปในนั้นเสร็จเลย
    เช่นรับศีล ๕ ศีล ๘ ศีลอะไรนี้
    หากว่าอยู่กับหมู่กับเพื่อนท่านก็นำบรรดาประชาชนรับเท่านั้น


    ผู้ที่เป็นพระโสดานั้นท่านจะไม่มีเจตนาว่าตั้งใจจะรับศีล
    เพราะศีลเราด่างพร้อยหรือขาดทะลุ ไม่มี
    เป็นแต่เพียงเป็นผู้นำๆ นี่เรียกสมุจเฉทวิรัติของพระอริยบุคคล
    สมุจเฉทวิรัติของปุถุชนนี้ตั้งความงดเว้นไว้ตลอดวันตาย
    นี้เรียกว่าวิรัติตลอดวันตายเลย


    ส่วนพระอริยบุคคล เช่น ขั้นพระโสดาขึ้นไปนี้
    จะเป็นสมุจเฉทวิรัติโดยอัตโนมัติตลอดวันตายเหมือนกัน ไม่ได้ตั้งท่าตั้งทาง
    เรื่องหิริโอตตัปปะสะดุ้งกลัวต่อบาปต่อกรรมทั้งหลายนี้เป็นขึ้นมาเองๆ

    นี่ละออกจากภาวนา ออกจากการได้ยินได้ฟัง
    รู้เห็นธรรมเป็นความจริงแล้วปลูกขึ้นมาทุกอย่าง
    ขึ้นชื่อว่าความจริง ความจอมปลอมปัดออกๆ ท่านเป็นอย่างนั้น

    ไปที่ไหนเราก็ได้เทศน์เสมอเรื่องภาวนา
    เพราะเป็นหลักสำคัญมาก
    มันจะไม่เป็นก็ตาม การภาวนาของเราก็มีผลมากตลอดอยู่แล้วนี่อันหนึ่ง
    แล้วยิ่งจะได้รู้สิ่งนั้นเห็นนี้ยิ่งจะแตกกระจัดกระจายออกไป ฝังลึกลงโดยลำดับ
    เรื่องเชื่อบุญเชื่อกรรมไม่ต้องบอก เป็นขึ้นมาเอง


    แล้วกระจายออกไปความเชื่อ กระจายกว้างขวางลึกซึ้งไปเรื่อยๆ
    นี่เกิดขึ้นจากการภาวนา การที่เราได้ยินได้ฟังจากครูจากอาจารย์นี่ก็เป็นบทหนึ่ง
    แต่สู้บทภาวนาที่ประจักษ์ขึ้นในเจ้าของไม่ได้จากครูบาอาจารย์สอนแล้วทำอย่างนั้นๆ
    อันนี้จะเป็นที่แน่ใจตัวเองได้โดยลำดับ จึงอยากให้พี่น้องทั้งหลายได้ภาวนา

    ที่สรุปลงมานี้คือจากการภาวนานะ
    การภาวนาจึงพิสดารมากทีเดียว
    สิ่งไม่เคยรู้เคยเห็นไม่เคยคาดเคยคิด
    เป็นขึ้นมาได้ไม่สงสัย ก็กิเลสอันเดียวเท่านั้นปิดไว้
    พอเปิดนี้จ้า มันก็เห็น เปิดมากเปิดน้อยเห็น
    เปิดจ้าหมด เห็นกระจ่างเต็มหัวใจเลย
    เป็นอย่างนั้นนะ ต่างกัน จึงอยากให้ภาวนา

    ไปที่ไหนทุกวันนี้มักจะเทศน์ทางภาวนา
    เพราะความสงสาร อยากให้ตั้งหลักตั้งเกณฑ์ไว้ในจุดภาวนา
    ถึงจะไม่ได้ความแปลกประหลาดอัศจรรย์
    การภาวนานี้มีอานิสงส์มากยิ่งกว่าการสร้างบุญทั้งหลายนะ
    จะได้สั่งสมบุญกุศลตลอด

    จะรู้เห็นอะไรไม่เห็นอะไรก็ตาม
    ส่วนบุญกุศลเกิดขึ้นจากการภาวนา
    เป็นรากฐานสำคัญและมีอานิสงส์มากด้วย
    จึงขอให้พากันตั้งอกตั้งใจทำภาวนา
    บำรุงลำต้นให้ดี กิ่งก้านสาขาดอกใบจะแตกกระจายออกไป

    : หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
    Luangta.Com -
     
  2. lakeislove

    lakeislove สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +2
    ครับผมก็เชื่อมั่นในพลังแห่งการภาวนา ขอบคุณมากครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...