มีกิจกรรมทางเพศก่อนนั่งสมาธิบาปหรือบุญ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย เลนิน, 28 กันยายน 2011.

  1. putthapumi

    putthapumi สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +23
    จากประสบการณ์ตรง ผมเอง มีภรรยาแล้วเช่นกัน และมีโอกาสร่วมหลับนอนเฉพาะศุกร์หรือเสาร์เท่านั้น เพราะทำงานหนักทั้งคู่ ใจก็คิดว่า ศุกร์กะเสารนี่เราน่าจะทำสามธิสวดมนต์มากกว่า แต่ ก้อไม่อยากเสียสิทธิในวันหยุด จากการทำสมาธิและเลิกการช่วยตัวเอง มา 6 ปี และเลิกเที่ยว มา 6 ปี มีผลดังนี้
    - สมรรถภาพทางเพศ ลดลงอย่างเห็นได้ชัด(อยู่เฉยๆไม่ลุก ดูหนังลุกยาก นกกระจอกไม่ทันกินน้ำ และหลังๆกำลังร่วมๆอยู่จะหมดอารมณ์กลางคันทุกครั้ง คือ ตัวเอราเองจะหมอารมรืและเหี่ยวไปเลยไม่ลุกอีก ความรู้สึกอยากมั้งหมดวูบหายไปทันที่ แบบนี้และจะไม่อยากทำอีกต่อไปและเลิก เนื่องจากไม่เคยบริหารกล้ามเนื้อส่วนนั้น ความแข็งแรงและแข็งตัวไม่เต็มที่เหมือนตอนสมัยที่ช่วยตัวเองบ่อยๆ คงมีเลือดไปเลี้ยงน้อยลงและการบริหารน้อยลง หลวงพ่อฤษี ลิงดำบอกว่า พระอรหันต์ มีสภาพเป็นมะเขือเผา ก็น่าคิด เพราะมันไม่อยากไม่มีอารมณ์เสียอย่าง)และก็จะหมดอยากไปเป็นอาทิตย์ สองอาทิตย์ บางที 3-4 เดือนก้อไม่อยาก จนกว่าเราจะไปดูอะไรมาให้เกิดกำหนัดอีกครั้ง

    กิเลส อยากรู้อยากเห็น ยังมีอยู่ แต่ข่มได้
    ตัดใจได้ กับเพศตรงข้ามที่ไม่ใช่คู่เรา แต่ ยังชอบดูชอบมองตามปกติผู้ชาย

    - แต่กิจกรรม มีประโยชน์อยู่ บ้างคือ ถ้าเรายังไม่ใช่อรหันต์ การเกิดกำหนัดมากๆ และได้ผ่อนคลาย อาทิตย์ละครั้ง จะลดความเครียดจากการได้ทำงานลงได้มากโข และจะทำสมาธิลงได้ เพราะเมื่อกิจกรรมจบลง จะมีความเบื่อหน่ายและความอยากลดลงปริดทิ้ง
    เหมือนภูเขาไฟที่ระเบิดและดับลงทันทีแบบนั้น

    แต่ต้องไปอาบน้ำชำระกายและพักผ่อนเสียสักชั่วโมง ให้ ความรู้สึกต่างๆได้หมดไปจากใจก่อนไปสวดมนต์ สมาธิ

    พอถึงตอนทำสมาธิ จิตเราวางได้ ไม่ฝักไฝ่ จิตแยกจากกายและหมดความรู้สึกจากคู่นอนและความกำหนัด จิตสงบได้ก็ถือว่าได้บุญ ไม่เกี่ยวกับการร่วมนอนที่ผ่านมา จิตอาจจะติดและคิดมากตรงนี้ จุดนี้ตากหาก ความกังวลตรงนี้เสียอีกที่จะทำห้ติดขัดกับการปฎิบัติได้

    แต่ก่อนอื่นเราต้องรู้จักรากเหง้า ต้นตอของ ตันหา ราคะ ที่พระพุทธเจ้าท่าน รู้รากเหง้าแห่งกำหนัดราคะ เมื่อวันที่ตรัสรู้ได้ต้นมหาโพธิ์ในวันนั้นว่า........เรารู้ เราเห็นรากเง้า ของตันหาต้นตอหรือจุดกำเนิดของมันแล้ว คือ การ ดำริถึงมัน การคิด หรือพูด ถึงมันด้วยนั่นเอง...ดังนั้นเมือกำหนัด ตันหาเกิด ให้รู้ว่า เราะเรา คิดถึงมัน จินตนาการถึงมัน ผสมกับกิเลส ภาพ ความทรงจำ ความอยากและนึงถึงสิ่งยั่วยุ ภาพผู้หญิง ภาพ อวัยวะผู้หญิงและจินตนาการถึงอารมณืผู้หญิง เมื่อเรารู้ ต้นตอของมันแล้ว หลีกเลี่ยง การ คิด การพูด การฟัง จากสิ่งเหล่านั้นเสีย ด้วยสมาธิปัญญา หรือ เอาเวลาไปดูหนังฟังเพลง หรือ ออกกำลังกายเพื่อลืมมันเสีย ย่อมไม่ตกเป็นทาสมันได้...........
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กันยายน 2011
  2. Drroyz

    Drroyz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    481
    ค่าพลัง:
    +331
    :cool:

    อนุโมทนาทุกท่านด้วยครับ
     
  3. ธัมมัง

    ธัมมัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2011
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +140
    ตั้งหิ้งพระในห้องนอน

    <hr style="color:#FFFFFF; background-color:#FFFFFF" size="1"> <ins style="display:inline-table;border:none;height:250px;margin:0;padding:0;position:relative;visibility:visible;width:300px"><ins id="aswift_0_anchor" style="display:block;border:none;height:250px;margin:0;padding:0;position:relative;visibility:visible;width:300px"></ins></ins>
    ผู้ถาม
    อยากเรียนถามหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง คือว่าลูกมีความจำเป็น จึงต้องทำหิ้งพระไว้ในห้องนอน แต่มี คนบอกว่า การที่ทำหิ้งพระไว้ในห้องนอนจะมีบาปมีกรรม เพราะเวลาผัดหน้าแต่งหน้าหรือนอน ทำให้พระพุทธรูปกำลังใจเสีย ทีนี้จะย้ายไปก็ไม่สะดวก จะทำจิตทำใจอย่างไร...เมื่อมีความจำเป็นอย่างนี้เจ้าค่ะ?


    หลวงพ่อ
    ปัดโธ....เอ๋ย! ท่านมีเนื้อท่านยังไม่เสียเลย ดี....เป็นมงคลให_่ ไม่เป็นไร ทำตามปกติ พระพุทธเจ้าท่านว่าใครล่ะ ดิ้นเป็นเรอะ พระพุทธเจ้าดิ้นเป็นสงฆ์ไม่เหลือแล้ว....ดี พะอยู่ในห้องนอนน่ะดี เห็นทุกวัน ตื่นขึ้นมาก็มองเห็น ไปทำงานก็มองเห็น จิตเป็น [b[พุทธานุสสติ[/b] อันนี้มันลงนรกไม่ได้อยู่แล้ว จะแต่งเนื้อแต่งตัว แก้ผ้าอย่างไรก็ตามเถอะ นิมนต์พระดูก็ได้...นานๆ ที


    จากหนังสือ หลวงพ่อตอบปั__าธรรม ฉบับพิเศษ เล่ม 8
    เมื่อก่อนก็คิดมากค่ะ หลังจากอ่านหลวงพ่อตอบปัญหาธรรมก็สว่างโล่งเลยคะ
     
  4. k.thongsuk

    k.thongsuk Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +50
    คุณบอกว่า...ในห้องนอนไม่มีพระพุทธรูปอยู่ แค่จิตนึกไหว้พระเฉยๆ

    แน่นอนคุณสามารถทำการบ้านกับภรรยาคุณได้ตลอดเวลาเลย และจะไม่เป็นการปรามาส

    พระพุทธเจ้าด้วยเพราะว่าไม่มีรูปหรือพระพุทธรูปอยู่ในห้องนอน

    ดังนั้นจึงไม่มีบาปกรรมเกิดขึ้นกับตัวคุณและภรรยาของคุณอย่างแน่นอน
     
  5. rawats_99

    rawats_99 ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,020
    ค่าพลัง:
    +1,947
    ฮ่ะอ้า...ความเห็นที่ 68 เข้าท่าน่ะครับบอกได้รับรองได้ว่า...ถ้าเราฝึกตัวเองมาได้ระดับหนึ่งแล้วแม้แต่ดูภาพโป๊ะ...หรือมีคนมาแก้ผ้าต่อหน้าต่อตาแล้วยังไม่ยอมตื่น..เพราะตัวปัญญาบอกว่า..มันเป็นของเน่าเปื่อย...ไม่น่าลุ่มหลง...เมื่อไรก็ตามเกิดปัญญาแบบนี้เตรียมตัวพบกับสภาพมะเขือเผาได้เลย...แต่ขอเตือนท่านที่มีครอบครัวน่ะครับสภาพอย่างนี้อาจจะทำให้ปัญหาครอบครัวเกิดขึ้นได้...ต้องมีการทดสอบบ้างแต่อย่างให้ใจไปยึดติดลุ่มหลง..ต้องสั่งได้เมื่อไรเมื่อนั้น....เพราะถ้ายังไม่เป็นพระอรหันต์แล้ว..ยังคงใช่ได้แต่ต้องสั่งกันนานหน่อย..เรื่องอารมณ์ทั้งหลายที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นรักใคร่โลภหลงกำหนัดยินดี...เป็นเรื่องการปรุ่งแต่งล้วนๆ...ปรุ่งแต่งจากจิต...จิตที่มีอวิชชาบังตา...ตาใน..ปัญญา
     
  6. ตะหลิว

    ตะหลิว Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2007
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +96
    ขอชื่นชมนะคะ ในฐานะที่เรายังเป็นปุถุชนอยู่ คุณสามารถปฏิบัติหน้าที่ของสามีได้ดีแล้ว (สารสุขก็หลั่งแล้ว) ยังมีจิตที่จะภาวนา คิดว่าคุณได้บุญนะคะ ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน ตามปกติ หลายคนคงหลับไหลไปกับความสุขแบบโลกๆไปแล้ว คุณมีจิตที่เป็นกุศลยิ่ง (ไม่ได้อยู่วัด ไม่ได้ถือศีล8) บุญ ทำได้ทุกที่ ทุกเวลา ขึ้นอยู่กับเจตนา ... ถ้าคนที่บ้านเป็นอย่างนี้บ้างคงดี
     
  7. nipp

    nipp สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    95
    ค่าพลัง:
    +20
    นักปฎิบัติที่มีเมีย กับนักปฎิบัติที่ไม่มีเมีย .....ไม่เหมือนกันหรอก
    นักปฎิบัติที่มีเมีย กามจะน้อยกว่าเฉพราะผิวบนๆๆ แต่รากเหง้าส่วนลึกนั้นมากนักๆๆ แต่เพราะชินกับมัน แม้แต่อยู่กับเมียตัวเอง แต่มันชินไง .....เพราะจิตมันจำว่า ถึงอย่างไร ก็ได้เสพไม่ต้องหา มันเหมือนกับของๆนั้นมันอยู่ในมือเราแล้ว เราจะหยิบมันออกมาเมื่อไหร่ก็ได้ มันก็เลยดูเหมือนว่าจิตกามนั้นมันเบาบาง แต่จริงๆแล้วไม่เบาหรอก ถึงเบาก็เบาช้า...แต่ดูเหมือนเบาเพราะมันชิน .....ลองได้สูญเสียของที่อยู่ในมือไปซิ ทีนี้หล่ะจะรู้รสชาติว่ากามราคะเป็นไง

    ส่วนนักปฎิบัติที่ไม่มีเมีย นั้น ชั้นผิวบนของจิตนั้น กามจะแรงมากๆๆๆถ้าได้อดทนปฎิบัติต่อสู้ไปๆๆๆ ซัก10 ปี รากเหง้าส่วนลึกนั้นจะถูกทำราย จริงๆไม่โดนกามราคะหรอกเหมือนนักปฎิบัติที่มีเมีย

    นักปฎิบัติที่มีเมีย ถ้าอยากรู้จิตใจในการละกามนั้นจริงๆ ต้องมีบททดสอบ ลองมาฟอกลมหายใจที่วัดเขาสมโภชน์ดู....แล้วท่านจะรู้ว่า ไม่มีอะไรในโลกนี้ที่ปิดได้เลยแม้แต่กิเลส เล็กๆๆน้อยๆๆ
     
  8. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    .......................เจริญสติสัมปชัญญะ ตลอดเวลา ในวันวันหนึ่ง นอกจากกามแล้ว จิต เรายังมี อื่นอื่นที่เกิดขึ้นอีกมาก (โทสะ โลภะ) ก็ เห็นมันไป เกิดขึ้น แล้วดับไป..........ละได้แล้วก็รู้ว่าละได้แล้ว เกิดขึ้นก็รู้ว่าเกิดขึ้น...เห็นความไม่เที่ยง จางคลาย ดับไม่เหลือ สลัดคืน....(อันนี้คงเป็นเรื่อง อินทรีย์ภาวนาแต่ละบุคคลแล้วละครับ):cool:
     
  9. น้องจุ๊บ

    น้องจุ๊บ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    603
    ค่าพลัง:
    +1,303
    ขอถามคุณเลนิน คุณทำกิจกรรมกามกับภรรยา แล้วมาสวดมนต์ ไหว้พระ ทำสมาธิ บนเตียงอีก จิตจะสงบเหรอ เพราะประกอบกิจกามมา จิตนั้นยังคงจำอารมย์กามได้ (กามเป็นสิ่งที่คาว)
     
  10. wt

    wt เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2009
    โพสต์:
    110
    ค่าพลัง:
    +315
    อนุโมทนาครับ..........
     
  11. เลนิน

    เลนิน สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    54
    ค่าพลัง:
    +17
    สงบครับ เพราะเมื่อเสร็จกิจคุณเป็นเพศชายเหมือนกันคุณก็คงจะรู้ว่าจะหายอยากเป็นปลิดทิ้งไปเลยในช่วงนั้น จะไม่มีแวบเข้ามาอีกเลย เมื่อเสร็จกิจไปแล้วก็เสร็จไปเลยอารมณ์ไม่ได้ค้าง และก็มีช่วงคั่นอารมณ์ไปอีก เช่น คิดเรื่องงานที่จะทำล่วงหน้าซักนิด พูดคุยกันถึงเรื่องทั่วๆไป เช่น วันนี้มีไร เป็นอย่างไร แล้วค่อยไปอาบน้ำแล้วมาไหว้พระ ความรู้สึกในด้านกามมารมณ์นี้หายสนิทไปแล้ว

    อีกทั้งผมแค่ทำเจริญภาวนาในแบบปุถุชนธรรมดาสามัญทั่วไปคือตั้งใจสวดมนต์ นั่งสมาธิให้ใจสงบ ให้ใจมาอยู่กับตัวซัก 20 นาทีเเล้วก็นอน จุดประสงค์นอกจากแสวงบุญแล้วก็อยากให้สมองดีขึ้น ทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ได้นั่งแบบคนปฏิบัติเคร่งจริงแบบคนเข้าฌาณหรือเพ่งกสิณอะไรประมาณนั้นครับ

    และอย่างที่บอกห้องผมมันแคบ หากผมทำกิจกรรมบนเตียงเเล้วลงมาไห้วพระที่พื้นด้านล่างเตียงไม่ถือเป็นการลบหลู่ไปกว่าเดิมอีกหรือ หรือให้ผมไหวพระที่เตียงเเล้วลงมาทำกิจกรรมที่พื้นมันก็กระไรอยู่เหมือนกัน
     
  12. น้องจุ๊บ

    น้องจุ๊บ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    603
    ค่าพลัง:
    +1,303
    อีกทั้งผมแค่ทำเจริญภาวนาในแบบปุถุชนธรรมดาสามัญทั่วไปคือตั้งใจสวดมนต์ นั่งสมาธิให้ใจสงบ ให้ใจมาอยู่กับตัวซัก 20 นาทีเเล้วก็นอน จุดประสงค์นอกจากแสวงบุญแล้วก็อยากให้สมองดีขึ้น ทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ได้นั่งแบบคนปฏิบัติเคร่งจริงแบบคนเข้าฌาณหรือเพ่งกสิณอะไรประมาณนั้นครับ

    อนุโมทนาสาธุ
     
  13. คนเหาะ

    คนเหาะ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    113
    ค่าพลัง:
    +85
    ส่วนตัวผม ก็ไม่อยากเอาร่างกาย ไปเบียดเสียด ถูไถกับใคร

    อย่คนเดียว สบายใจที่มากๆ ไม่ไหวจริงๆ ก็อาศัยมือตัวเองจบ
     
  14. ภูดาว

    ภูดาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    380
    ค่าพลัง:
    +931
    รู้สึกว่าคำถามนี้มีประโยชน์ต่อผมและคนหมู่มาก ครับ โมทนากับเจ้าของกระทู้ด้วย
     
  15. thammakarn

    thammakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2011
    โพสต์:
    98
    ค่าพลัง:
    +376
  16. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    โมทนาสาธุครับ
    ขอขมาพระท่านบ่อยๆจนเป็นปกติจักดีมากๆเลยครับ
     
  17. ป่ารักษ์น้ำ

    ป่ารักษ์น้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +238
    การทำสมาธิ เป็นการให้เราเกิดสติตอนที่เรามีกิจทางเพศ ถ้าเรามีสมาธิไม่นึกถึงใคร ไม่ว่าภาพโป้ วิดิโอ ในมโนจิตมีแต่ภรรยา ไม่ว่าภรรยาเราจะมีรูปลักษณ์ใด เราก็สามารถบรรลุจุดสุดยอดได้พร้อมกัน ก็ถือว่าเราทำถูกต้องแล้วครับ...
    ***
    ทางธรรมก็ส่วนทางธรรม ทำดีก็เสริมส่งน้อมนำไปในทางที่ดียิ่งๆขึ้น...
     
  18. hs3ldy

    hs3ldy Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +47
    โมทนาสาธุกับทุกท่านครับ สิ่งที่อยากรู้ก็ได้รู้แล้วละ
     
  19. ปรมินทร์29

    ปรมินทร์29 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2011
    โพสต์:
    98
    ค่าพลัง:
    +156
    ยังไงซะ คุณก็ยังคิดที่จะปฏิบัติ เท่านี้ก็ได้บุญเยอะมากแล้วค่ะ และถ้าปฏิบัติ แล้วเราก็จะได้บุญได้กุศลยิ่งขึ้น ขออนุโมธนา สาธุ ด้วยคนค่ะ
     
  20. Piagk3

    Piagk3 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    606
    ค่าพลัง:
    +1,222
    ผิดหรือถูก อยู่ที่ตัวเรารู้เอง ยังดึที่คุณมีหิริอยู่ นี่แหล่ะรสของกามที่มันทำให้เราต้องวนเวียนอยู่ในสังสารวัฏ เมื่อภพชาติใดที่เราตัดมันได้ก็คงจะหลุดจากวัฏนี้เสียที
     

แชร์หน้านี้

Loading...