พบปะ พูดคุย ประสาเพื่อนพ้องน้องพี่ แบบกันเอง

โอ้ชุมพรขอพรที่แสนสุดดี สุราษฐ์ธานีเมืองคนดีจึงสุขสดใส นครศรีธรรมราชอยากประกาศพระธรรมเกริกไกร กระบี่สุดสดใสฝากหัวใจให้พี่หมายปอง โอ้พังงามัดอุราให้พี่งงงัน ภูเก็ตเกาะสวรรค์วิลาวัลย์หนึ่งไม่มีสอง ระนองน้องจ๋าเหมือนน้ำตาของพี่ตกนองเพราะต้องจากน้องจากระนองมาด้วยน้ำตา โอ้เมืองตรังเหมือนจะยังให้พี่ติดตรึง แต่คิดถึงพัทลุงและสงขลา สตูล ปัตตานี ยะลาโสภีตรึงตา โอ้บางนรามีวาสนาค่อยมาอีกที (เพลงนี้มอบให้พี่นวลครับผม) จากใต้จะไม่ขอเลือนสเน่ห์ติดเตือนชั่วเดือนและปี มนต์รักปักต์ใต้ใจมั่น ผูกพันธ์เสมอชีวี ตราบชั่วชีพนี้จะไม่ลืม

 

มีดเหล็กน้ำพี้ หลวงปู่ม่วง วัดยางงาม เมตตาปลุกเสกให้ครับ

 

แผ่นตะกรุดเนื้อเงิน หลวงพ่อผล วัดทุ่งนารี อ.ป่าบอน จ.พัทลุง ครับ

 

ฝากให้พี่รุ่งจ้า
มือใหม่ ใช้มือถือถ่าย ได้แค่นี้แหละจ้า

 

มีดสวยมากครับ.......

 

สวัสดีช่วงค่ำๆของวันศุกร์ที่ 9 เดือน 9 ครับบบบบ (^____^)

ค่ำคืนนี้ขออาราธนาพระเกจิผู้ปฎิบัติดีปฎิบัติชอบประจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์...
หลวงพ่อเปี่ยม วัดเกาะหลัก





ประวัติ หลวงพ่อเปี่ยม จันทโชโต วัดเกาะหลัก

วัดเกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นวัดเก่าแก่ สร้างมาราวปีพ.ศ.2300 มีฐานะแรกเป็นสำนักสงฆ์ตั้งแต่สมัยอยุธยา พัฒนาเป็นวัดเกาะหลักและยกฐานะเป็นพระอารามหลวง เมื่อปีพ.ศ.2515

จาก คำบอกเล่าต่อๆ กันมาว่า เจ้าอาวาสที่ชื่อ "หลวงพ่อโสธร" ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสองค์แรกมีวาจาสิทธิ์ ผู้ใกล้ชิดและผู้ที่ผ่านไปมาต่างเคารพนับถือ ด้วยบารมีของเจ้าอาวาสทุกรูปทำให้วัดเกาะหลักมีความเป็นปึกแผ่นมั่นคง แต่รายละเอียดเกี่ยวกับความเจริญของวัดค้นหาหลักฐานไม่ได้ จนถึงสมัยพระครูสุทธาจารคุณ หรือหลวงพ่ออ่ำ จึงพอมีหลักฐานอยู่บ้าง

วัดเกาะหลัก เป็นที่รู้จักของประชาชนทั่วไป ด้วยความเคารพนับถือหลวงพ่อเปี่ยม (เปี่ยม จันทโชโต) หรือนามสมณศักดิ์ว่า "พระครูสุเมธีวรคุณ นิบุณศิริเขตต์ ชลประเวส สังฆวาหะ" ตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งท่านมีความแม่นยำในการพยากรณ์ดวงชะตา และมีความเชี่ยวชาญในการบรรจุดวงชะตาทางโหราศาสตร์ลงในพระประจำวันของบุคคล เพื่อความเจริญรุ่งเรืองของเจ้าของดวงชะตา

ถึงขั้นเชื่อกันว่า การทำพิธีทางโหราศาสตร์ หากทำที่อื่นจะขลังน้อยกว่าทำที่โบสถ์วัดเกาะหลัก เพราะท่านได้สร้างเทวรูปประจำดาวนพเคราะห์ไว้ที่ลวดลายระหว่างเสาพระอุโบสถ โดยรอบและครบถ้วน การทำพิธีจึงเท่ากับอยู่ท่ามกลางทวยเทพประจำดาวเคราะห์ตามตำรับโดยแท้

ทั้งนี้ ผู้คนที่นับถือหลวงพ่อเปี่ยม มิใช่เพราะความเป็นโหราจารย์เท่านั้น ท่านยังให้ความอนุเคราะห์รักษาโรคด้วยสมุนไพร การอบรมคุณธรรม ความรู้ด้านช่างต่างๆ อีกด้วย รวมไปถึงความเชื่อมั่นในพุทธคุณความขลังของพระเครื่องทุกชนิด โดยเฉพาะเหรียญรุ่นแรกที่มีราคาค่านิยมในวงการนักสะสมถึง "หลักหมื่นปลายๆ" ที่สำคัญ ท่านเป็นสุดยอดเกจิอาจารย์ที่ได้รับการ นิมนต์เข้าพิธีพุทธาภิเษกพระเครื่องใหญ่ๆ เช่น ร่วมปลุกเสกเหรียญพระแก้วมรกต ในคราวฉลองกรุงเทพฯ ครบ 150 ปี พ.ศ. 2475 และเป็น 1 ใน 108 เกจิที่ร่วมปลุกเสก "พระพุทธชินราช รุ่นอินโดจีน ปี 2485" ซึ่งพระเครื่องทั้ง 2 รุ่นนี้เป็นที่นิยมอย่างกว้างขวาง และมีราคาค่านิยมสูงขึ้นทุกขณะ

หลวงพ่อเปี่ยม เป็นเจ้าอาวาสองค์แรกของวัดเกาะหลัก ที่ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะ

ท่านเกิดที่บ้านนาห้วย ต.เมืองเก่า อ.ปราณบุรี เมื่อวันพฤหัสบดี เดือน 7 ขึ้น 8 ค่ำ ปีมะเมีย ตรงกับวันที่ 25 พฤษภาคม 2426 เวลา 1 ทุ่ม 19 นาที เป็นบุตรคนสุดท้องของนายแก้ว นางหนูลัภธ์ นามสกุล ถาวรนันท์ มีพี่ชายร่วมบิดาคนหนึ่งชื่อนายถนอม และมีน้องสาวต่างมารดาอีกคนหนึ่งชื่อ ละมุน เป็นภรรยาขุนสอนสุขกิจ หรือนายแพทย์ ส.อันตริกานนท์

ครอบครัว ประกอบอาชีพทำไร่ เมื่ออายุ 3 ขวบ บิดาได้ออกจากบ้านไปค้าขายต่างจังหวัด แล้วไปตั้งภูมิลำเนาอยู่ที่อื่นไม่กลับบ้าน ท่านกับพี่ชายและมารดาได้ช่วยกันทำไร่ด้วยความเหนื่อยยาก อายุ 5 ขวบ มารดานำไปฝากเรียนหนังสือไทยและขอมกับเจ้าอาวาสวัดนาห้วย เรียนจนอ่านออกเขียนได้เล็กน้อย พออายุ 9 ขวบ ทางบ้านประสบอุบัติเหตุไฟไหม้บ้าน มารดาจึงกลับไปอยู่บ้านเดิม ที่บ้านสระแจง อ.หนองจอก จ.เพชรบุรี ท่านได้ไปอยู่กับมารดา ส่วนพี่ชายคงอยู่ที่วัดนาห้วย เรียนหนังสือต่อไปตามเดิม

อายุ 11 ขวบ ได้เรียนวิชาหมอน้ำมนต์กับหมอเขียว ซึ่งเป็นผู้มีชื่อเสียงในทางรดน้ำมนต์ และไล่ผี จนสามารถรดน้ำมนต์คนไข้แทนหมอเขียวได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังได้เรียนวิชาการต่างๆ หลายแขนงจากอาจารย์ต่างๆ ที่มีชื่อเสียง เช่น วิชาปลูกสร้างบ้าน ช่างเขียน ช่างปั้น ช่างหยวก และวิชาอ่านเขียนหนังสือ พยายามฝึกฝนอยู่เสมอจนมีความรู้ ความสามารถดีขึ้นเป็นลำดับ<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>
กระทั่ง อายุครบบวช "นายเปี่ยม ถาวรนันท์" จึงอุปสมบทที่วัดลาด อ.เมือง จ.เพชรบุรี พ.ศ.2446 โดยมี พระครูสุวรรณมุนี วัดพระทรง เป็นพระอุปัชฌาย์ พระปลัดบุญ วัดชีว์ประเสริฐ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ได้ฉายาว่า "จันทโชโต"

หลังบวชแล้วจำพรรษาอยู่ที่วัดลาด 5 ปี ระหว่างจำพรรษาได้ศึกษาภาษาบาลี บำเพ็ญสมณกิจ ด้วยความเคร่งครัด และได้ออกไปจำพรรษาที่วัด นาห้วย ซึ่งขณะนั้นมีพระครูสุทธาจารคุณ (อ่ำ) เป็นเจ้าอาวาส ท่านเป็นกำลังสำคัญในการดูแลสร้างโบสถ์วัดนาห้วย จนสำเร็จ

ปี พ.ศ. 2458 พระครูสุทธาจารคุณ (อ่ำ) ย้ายไปเป็นเจ้าอาวาสวัดเกาะหลักและเจ้าคณะจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ท่านได้รับมอบหมายจากคณะสงฆ์ ให้ไปเป็นผู้รักษาการในตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดนาห้วย และได้แต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาส ในปีพ.ศ.2459 ระหว่างที่อยู่วัดนาห้วยได้ไปศึกษาวิชาโหราศาสตร์ จากพระสุวรรณมุนี (ชิต) เจ้าอาวาสวัดมหาธาตุ จ.เพชรบุรี และเริ่มมี ชื่อเสียงทางโหราศาสตร์ตั้งแต่นั้นมา

หลวงพ่อเปี่ยม ปกครองพระภิกษุสามเณรภายในวัดด้วยคุณธรรม บูรณะและปฏิสังขรณ์วัดปรับปรุงแก้ไขวางผังการสร้างเสนาสนะให้เป็นระเบียบ เรียบร้อยด้วยความสามารถ จนปีพ.ศ.2462 ได้รับตราตั้ง เป็นพระครูชั้นประทวน ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอปราณบุรี และอำเภอเมือง ประจวบคีรีขันธ์ ปีพ.ศ.2463 เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูชั้นสามัญที่ "พระครูธรรมโสภิต" ปีพ.ศ.2465 เป็นพระอุปัชฌาย์ ปีพ.ศ.2467 เลื่อนสมณศักดิ์เป็น พระครูสุเมธีวรคุณ เจ้าคณะรอง (รองเจ้าคณะจังหวัด) เมื่อพระครูสุทธาจารคุณ (อ่ำ) มรณภาพ คณะสงฆ์ได้ย้ายท่านไปเป็นเจ้าอาวาสวัดเกาะหลัก

ปีพ.ศ. 2473 และต่อมาปีพ.ศ. 2474 ได้รับตำแหน่งให้เป็นผู้รักษาการในตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ปีพ.ศ.2484 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูเมธีวรคุณ ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ปีพ.ศ.2484 เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะที่ "พระเมธีวรคุณ บุณคีรีเขตต์ ชลประเวศสังฆปาโมกข์" ในตำแหน่งเดิม

การเป็นเจ้าอาวาสวัดเกาะหลัก และเจ้าคณะจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ของหลวงพ่อ ทำให้หลวงพ่อมีโอกาสแสดงออก ซึ่งอัจฉริยภาพอย่างเต็มที่ ท่านได้นำความรู้ความสามารถมาใช้ประโยชน์ในงานต่างๆ มากมาย งานสำคัญที่ท่านได้ทำคือการสร้างพระอุโบสถอันวิจิตรงดงามตระการตา การเปิดโรงเรียน นักธรรมและบาลี การสร้างบ่อน้ำ และถังน้ำประปาสำหรับวัด และการปกครองคณะสงฆ์ด้วยคุณธรรม งานทะนุบำรุงและการ ก่อสร้างสังฆาราม หลวงพ่อเปี่ยมทำไว้มาก มิใช่ทำที่วัดเกาะหลักอย่างเดียว แต่ได้ทำในสถานที่อื่นอีกด้วย

กล่าว สำหรับวัตถุมงคลที่ท่านสร้างไว้มีหลายชนิด เช่น เหรียญรูปเหมือน, พระรอด ปี 2480, รูปเหมือนปั๊ม, ล็อกเกต เป็นต้น ที่ได้รับความนิยมได้แก่

เหรียญรุ่นแรก ปี 2480 ด้านหน้ารูปเหมือนหน้าตรงครึ่งองค์ ระบุสมณศักดิ์ จังหวัด และปี พ.ศ. ด้านหลังเป็นยันต์

เหรียญ รุ่น 2 ปี 2484 เป็นเหรียญกลม ด้านหน้ารูปเหมือนหน้าตรงครึ่งองค์ ด้านบนเป็นอักขระ ด้านล่างระบุสมณศักดิ์ มีเนื้อเงิน และทองแดง

เหรียญ รุ่น 3 ปี 2489 เป็นเหรียญเสมา รูปเหมือนหน้าตรงครึ่งองค์ ด้านบนระบุสมณศักดิ์ ด้านล่าง ชื่อจังหวัด และพ.ศ.ด้านหลังอักขระ มีทั้งเนื้อเงิน และทองแดง

เหรียญรุ่น 4 ปี 2490 เป็นเหรียญรุ่นสุดท้ายที่ ทันท่าน เป็นเหรียญทรงพุ่มข้าวบิณฑ์

หลวงพ่อเปี่ยม มรณภาพเมื่อปีพ.ศ.2492 สิริรวมอายุได้ 66 ปี ด้วยโรคลำไส้พิการ หลังจากนั้นได้จัดงานพระราชทานเพลิงศพ ณ วัดเกาะหลัก เมื่อปี พ.ศ.2506 โดยทุกๆ ปี ในวันขึ้น 14 ค่ำ เดือน 4 จะมีงานปิดทองรูปหล่อของท่านและ อดีต เจ้าอาวาสทุกองค์ของวัด....

 

กราบบูรพาจารย์วัดเกาะหลักครับ สาธุ ภาพสวยมากเลยคุณนอ

 

กำลังอยากได้อยู่ค่ะ มีดหมอ.....

 

นั้นซิครับ กำลังอยากได้เลย อิอิอิ..คนละเล่มพอดี อิอิอิ

 

ขอบคุณครับพี่พี แต่ช่างของพี่พีตีสวยกว่าช่างผมครับ แหะๆๆ

พอดีตีมาเท่าจำนวนเพื่อนฝูงอ่ะครับ ไม่งั้นแบ่งให้แร้วว จริงจริ๊งงงงงง

 

มีดเหล็กน้ำพี้สวยมากครับบบบบ (^_^)

 

ขอบคุณครับ....^_^

มีดชุดนี้ต้องบอกว่า มีดสองเมืองครับ เพราะใบมีดและด้ามฝัก มาจากคนละที่คนละเมือง คนทำอย่างผมเหนื่อยครับ

-ใบมีดตีจากบ้านน้ำพี้ อุตรดิตถ์ จากครูมีดที่ไว้ใจได้ ครูมีดท่านนี้เคยตีดาบน้ำพี้ถวายเจ้านายมาแล้วครับ แกบอกว่าหากินกับของศักดิ์สิทธิ์แบบนี้ต้องซื้อสัตย์และมีสัจจะ เหล็กน้ำพี้นอกจากจะมีที่บ่อสองบ่อที่ปิดไปแล้ว อย่างที่เราๆทราบกันดี แต่ในบ้านน้ำพี้ก็ยังมีสายแร่อีกพอสมควร ตามหลุมเก่าๆ ตามนา บางทีขุดเสาเรือนก็ยังพบอยู่ นำมาถลุงแบบภูมิปัญญาชาวบ้าน ก็จะได้แร่เหล็กมาตีมีด เพราะฉนั้นใบมีดที่ได้ออกมาก็จะมีตำหนิเล็กน้อยให้พอมองออก และแกยังบอกอีกว่า ถ้าใครบอกว่า "เหล็กน้ำพี้ต้องสีปีกแมงทับ" อย่าไปเชื่อ เพราะเหล็กน้ำพี้ถ้าตะไบเอาผิวไฟออกก็สีขาวเหมือนเหล็กทั่วไปนี้ล่ะ ที่เป็นสีดำๆเขียวๆ ที่เรียกว่าปีกแมงทับ เพราะเหล็กโดนความร้อน และเกิดจากการชุบเหล็ก....

- ฝักและด้าม ได้ส่งใบมีดไปเข้าฝักและด้ามกับช่างที่ อ.พยุหะคีรี เพราะที่นี้เป็นแหล่งต้นกำเนิดมีดหมอและมีศิลปเฉพาะตัว หรือที่เด็กวัยรุ่นเรียกว่า มีคาเรกเตอร์ การเข้าแหนก็ละเอียดสวยงาม ถึงแม้ในปัจจุบันจะลดต้นทุน(จากผู้สั่งเอง)ให้ใช้วัสดุคล้ายเงิน(แปะตัง)และทองแดงทองเหลืองแทนทองนาคเงินแท้ๆเหมือนในอดีต เล่มส่วนตัวของผมเองลงทุนหน่อยใช้เงินทั้งหมดครับ สมัยที่ทำเงินยังถูก บาทละสองสามร้อย ยังพอมีปัญญา แต่มาสมัยนี้ ไม่ใหวแน่ๆครับ

 

แล้วพี่ปื้ด ให้ครูบาอาจารย์ท่านไหนปลุกเสกครับ อยากรู้จัง....อิอิอิอิ ขจองผมก็มีแต่แบบเล็กๆ ใบมี 2 นิ้วเองครับ ให้หลวงตาเปรื่อง วัดบางจาก จารปลอกมีดให้

​

 

ขอขอบคุณในข้อมูลการสร้างมีดหมอ ในครั้งนี้ครับ ซึ่งทำมีดได้สวยงามดีครับ และคงจะเข้มขลัง เพราะได้เนื้อมีดอย่างดี ({)

 

มีดหมอ ตีจากตะปูสังฆวานร ขนาดพอๆกับมุดตอกรางรถไฟ ฝีมือช่างพยุหะทั้งหมด
ทั้งตีใบ(งานตีร้อน)งานตอกลาย เข้าฝักเข้าด้าม งานจึงออกมาเนียน ใบมีดบาง ลายตอกพริวไหว ชักเข้าชักออกไม่ติดขัด แต่ก็ไม่ลืมกลมีดที่ป้องกันการใหลออกจากฝักเอง
ใบขนาด๕นิ้วกว่าเกือบ๖นิ้ว ตีจากตะปูสังฆวานรทั้งตัว ได้เท่าไรเอาเท่านั้น เล่มนี้ใช้ติดตัวติดรถติดกระเป๋าครับ

การบรรจุพุทธคุณ ได้รับความเมตตาจากพระมหาสุรศักดิ์ วัดประดู่ สมุทรสงคราม ท่านเมตตาลงจารให้ทั้งใบทั้งฝักและทั้งด้าม และปลุกเสกให้อีกแรมเดือน จนรับกลับมาและแวะกราบหลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว ซึ่งท่านเป็นพระอาจารย์องค์หนึ่งของพระมหาสุรศักดิ์ ท่านก็เมตตาเสกสำทับให้อีกหนึ่งวาระ ท่านชักออกมาแล้วถามว่าใครจารให้ ก็กราบเรียนท่านว่า พระมหาฯท่านจารให้ ท่านก็พยักหน้างึกๆ แล้วบอกว่าสวยดี จนถึงพิธีปลุกเสกล็อกเก็ตเสาร์๕ ของหลวงปู่ดี ก็นำไปเข้าพิธีด้วย จนครั้งสุดท้าย วัดสิงห์มีพิธีปลุกเสกหนุมาน ก็ฝากเข้าร่วมพิธีอีก๑วาระ โดยมีหลวงพ่อสืบ หลวงพ่อเอื่อน และหลวงพ่อฟู ปลุกเสกในพิธีนี้ครับ

 

หลวงปู่ม่วง วัดยางงาม ท่านเมตตาปลุกเสกเดี่ยวให้หลายวาระและฝากท่านเสกในกุฏิอีกเป็นแรมเดือนครับ

ปล.ในด้ามบรรจุ เกศา จีวร และตะกรุด ของหลวงปู่ครับ

 

สวัสดียามสายค่ะ
พี่เสือ น้าหมู คุณรุ่ง คุณนอ น้องเอท พี่ปื้ด น้องละม่อม คุณ nott17 ฯลฯ

พี่ปื้ด มีดหมองดงามค่ะ... ขั้นตอนการทำก็ยากมากดูเข้มขลัง
พอดีที่มีอยู่ ด้ามเล็กค่ะ เคยนำมาโชว์แล้ว ได้รับจากอาจารย์มอบให้มา
เสียดายจังหาภาพไม่เจอ ถ่ายใหม่กล้องมาเสียอีก ด้ามเล็กแต่ เรื่องพุทธคุณ
เคยลองมาแล้วคะที่ทำงานใช้ได้เลยพกแล้วอุ่นใจ

(เสียดายหาภาพไม่เจอ...เดี่ยวเจอนำมาลงอีกรอบ)ดูแล้วห้ามอมยิ้มนะ

* ขออนุญาตเชพภาพนะคะ

เจอแล้ว....ค่ะ..

 

พิธีปลุกเสกล็อกเก็ตเสาร์๕ หลวงปู่ดี ธมมธีโร ที่วัดเทพากร

 

ด้ามเล็กด้ามจิ๋วผมก็มีครับ แต่เป็นคนมือใหญ่ ก็เลยไม่ค่อยเต็มไม้เต็มมือซักเท่าไรครับ แหะๆๆๆ

 

พิธีที่วัดสิงห์ อ.นครชัยศรี ครับ